Author: Nopmanee

 นักชิมอาหารญี่ปุ่นหลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อร้านอาหารญี่ปุ่น Takumi แห่งนี้กันดี ที่มีบุฟเฟต์อร่อยสมราคา คุ้มค่า ควรค่าแก่การมากิน อยู่ย่านรัชดา ที่โรงแรม Swissôtel Bangkok Ratchada  และได้ปิดปรับปรุงตกแต่งใหม่จนบัดนี้ได้เปิดให้บริการอีกครั้งหนึ่งแล้ว ภายในห้องอาหารมีที่นั่งหลากหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้ชุด  เก้าอี้หน้าเคาเตอร์  หรือถ้ามากันหลายๆคนอยากได้บรรยากาศเป็นส่วนตัวซักหน่อย ก็มีห้องส่วนตัวให้เลือกนั่งได้หลายห้อง ห้องอาหารตกแต่งด้วยไม้เป็นวัสดุหลัก ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ผนัง ฉาก ในโทนไม้อบอุ่น มีการจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจนด้วยแผ่นไม้หลากหลายแบบ เสาขนาดใหญ่  เล่นไฟที่ฝ้าเพดาน  พื้นเป็นสีเทาหลากหลายโทนช่วยขับเน้นให้เวลาปรากฏในรูปภาพเหมือนมีเงาช่วยขับเน้นในรูปภาพมากขึ้น ในห้องส่วนตัวมองออกไปนอกหน้าต่างเป็นใบต้นไผ่ ได้บรรยากาศญี่ปุ่นเป็นอย่างดี ส่วนในวันนี้ Kinlakestars.com ขอหยุดมื้อบุฟเฟต์ซักมื้อหนึ่ง  มาเปลี่ยนบรรยากาศลองทานเมนู a la carte ที่ห้องอาหารแห่งนี้กันบ้าง ซึ่งจะมีความพิเศษแตกต่างกับการทานบุฟเฟต์ยังไง มาดูกันค่ะ เริ่มด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยกันก่อน Kaki batayaki (xxx บาท)  หอยนางรมราดชีส ชีสเยิ้มเยอะแยะจุใจ ชิ้นนี้ก็ออกจะครีมมี่อยู่ซักหน่อย ส่วนซูชิ เราได้สั่งแต่ตัวเด็ดๆมา Wagyu (420 บาท) คนรักเนื้อจะชอบชิ้นนี้มาก ตัวเนื้อวากิวเนื้อดี หวานฉ่ำประกบกับข้าว อร่อยมากค่ะ ต้องมีสั่งซ้ำ Unagi (xxx บาท)  เนื้อปลาไหลชิ้นขนาดกำลังดี หวานๆไปกับซอสเทอริยากิ  คนชอบทานปลาไหลขอให้สั่งค่ะ Engawa (xxx บาท)  ครีมปลาตาเดียวชิ้นนี้ก็อร่อยไม่แพ้ใครเลย หากอยากทานฟัวกราส์ ที่นี่ก็มี Foie gras don (790 บาท)  ฟัวกราส์ชิ้นหนา นิ่มจนออกเหลวซักหน่อย ทอดมากำลังดี ไม่ไหม้ ทานคู่กับข้าวจะช่วยลดความมันลงได้ Ebi Tempura (290 บาท)  เป็นกุ้งเทมปุระที่ทอดออกมาได้ดี แป้งกับกุ้งก็ติดกันดี  รีบทานตอนกำลังร้อนๆ Philly Roll (250 บาท) เป็นการผสมผสานกันของเนื้อปลาแซลม่อน เติมหวานด้วยชิ้นอโวคาโดด้านบน สอดไส้ตรงกลางด้วยชีส ที่น่าจะเป็น Bocconcini จานนี้ก็ถือว่าแปลกใหม่น่าลองดีค่ะ Spicy maguro Roll (250 บาท)  ชิ้นปลาทูน่าสีชมพูเข้มรสหวาน ราดซอสเข้มข้น…

Read More

ถ้าเบื่ออะไรเดิมๆ มาเพิ่มเติมที่นี่ดีกว่าครับ ห้องอาหารเมดิชี่ คิทเช่น แอนด์บาร์ห้องอาหารสไตล์อิตาเลียน ที่คุณจะบอกว่า”แปลก” นี่ยังว่าแปลกเลย แต่มันคือความโดดเด่น และความ DIY ที่อยากให้ทุกคนได้มาลองกันจริงๆ วันนี้ผมก็จะพาทุกคนมาดูเมนูอาหารช่วงคริสต์มาส บอกไว้ก่อนเลยว่า ลืมธีมเขียวแดงไปได้เลย เพราะนี่คือธีมใหม่ only at Hotel Muse เท่านั้น ดูจากการจัดโต๊ะ เป็นตัวอย่าง เก๋ซะไม่มี เริ่มแรกก็ประเดิมด้วย welcome drink กันก่อนเลย ให้ดื่มพร้อมซึมซับบรรยกาศดีๆ ก่อนที่เราจะไปกินมื้อหลักของเรากัน ตามมาด้วยขนมปังครับ กินขำๆพอเดี๋ยวอิ่ม ฮ่าๆ มาแล้วววววว จานแรกของเรา เมนูนี้คือ ราวิโอลี สดรูปดาวสอดไส้เห็ดพอรช์นีผัดหอมกรุ่น กับเนยโรยด้วยอัลมอลด์สไลด์ เอาเข้าจริงๆจานนี้หอมเนยมากเลยนะ เพิ่มเติมคือโรยชีสลงไปครับคุณ อร่อยกว่าเดิมอีก สำหรับจานนี้ถือว่าดีงามครับ เปิดได้ดี ต่อมาก็จะเป็น นูสเต็กเนื้อซี่โครงแกะราดด้วยซอสมาร์จอรัมและ ถั่วเลนทิล ซึ่งถ้าไม่ทานก็มีสเต็กเนื้อสันในให้เลือกทานนะครับ เอาตรงๆนะ จานนี้รสชาติเบาไป พูดถึงเนื้อ คุณภาพคือดี โอเค แต่ตัวของซอสจะอ่อนๆ ทำให้รสชาติจานนี้เบาไปเลย มาที่จานที่สามนะครับ จะบอกว่าอร่อย และเป็นความลงตัวของรสชาติมาก ข้าวริซอตโตผัดหอมกรุ่น กับเห็ดทรัฟเฟิลขาว ไส้กรอก นมและหญ้าฝรั่น ทรัฟเฟิลที่รอคอย คือจานนี้จะบอกหอม อร่อย กลิ่นทรัฟเฟิลขาวทำให้ประทับใจสุดๆ แต่เห็นเค้าว่าปีนี้ราคาทรัฟเฟิลขาวจะสูงนะครับ จานนี้ขอ Recommend! มาที่เมนูปลาบ้าง มันคือสเต็กเนื้อปลาหิมะจากประเทศนิวซีแลนด์พันด้วยแพนเชตต้าอบพร้อมใบเสจ ราดด้วยซอสมะเขือเทศ รสชาติจานนี้คือดีเพราะว่าเชฟได้เคี่ยวซอสมะเขือเทศเอง โดยใช้วิธีเคี่ยวและผสมกับผัก หัวหอมทำให้ได้รสชาติที่ดีและแปลกใหม่ โดยจานนี้ถือว่าเนื้อปลานี่อร่อยแน่นอน เพราะเป็นปลาหิมะจากทะเลน้ำเย็น ตัดรสชาติด้วยแพนเซตต้า คือดีงาม และนี่ก็คือโฉมหน้าของเชฟจากอิตาลี สุดท้ายด้วยเมนูของหวาน ที่ประทับใจมากๆ คือไอศครีมทับทิมราดด้วยซอสส้มแกรนด์มาเนีย จะบอกว่าไฮครีมนี่ดีมาก รักมาก อร่อยมาก ไม่ได้เว่อ คือแปลก ไม่เคยกินมาก่อนอะ โดยจานนี้จะมีวุ้นใสๆรอบ กินด้วยนะ อร่อยเว่อร์ ในส่วนของ พุดดิ้งถั่วเฮเซลนัท ไม่ค่อยจะได้กลิ่นของเฮเซลนัทเท่าไหร่ แต่ถ้ากินรวมกันทุก layer ก็คืออร่อยเลยแหละ โดยสรุปก็คือดี เก๋ แปลก แตกต่าง มีความเป็นปีใหม่และคริสต์มาสที่ไม่เหมือนที่อื่นมากๆ ซึ่งวันที่…

Read More

เชื่อว่าแฟนสเต็กทุกคน คงจะเคยได้ยินชื่อของร้านสเต็กเฮาส์แห่งนี้มาบ้าง ด้วยความนำเข้า ความมีคุณภาพ และอีกหลายๆความ ที่ทำให้ New York Steakhouse เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เอาเป็นว่าที่นี่ของเค้าดีจริง ซึ่งวันนี้ผมก็มีโอกาสได้ลิ้มลอง เนื้อที่ทาง New York steakhouse อิมพอร์ตเข้ามาใหม่ มีสามส่วนด้วยกัน ได้แก่   ที-โบน ริปอายส์ และพอร์ตเตอร์เฮาส์ ส่วนนี้คือ ที-โบน นี่ก็คือ พอร์ตเตอร์เฮาส์ อันนี้จะเป็นส่วนของริปอายส์ ซึ่งส่วนแรกที่เราจะได้ชิมกัน นั่นก็คือ Rib Eye  โดยเนื้อส่วนนี้จะมาจาก Rib หรือเรียกว่า เนื้อส่วนซี่โครงนั่นเอง โดยเนื้อส่วน Rib eye จะเป็นเนื้อล้วนๆไม่มีซี่โครงติดมาด้วย โดยความสุกของจานนี้ก็จะอยู่ที่ Medium rare นะครับ ซอสเกรวี่ที่ราดด้านบน คือการเคี่ยวน้ำที่ออกมาจากเนื้อให้ข้น น้ำเกรวี่นี้เลยอร่อยและเข้มมาก ส่วนซอสสีขาวด้านล่างมันจะอารมณ์ ครีมซอส  ถ้าถามถึงรสชาติ คือมันจะนุ่มๆ ละมุนลิ้น หอมเนย แต่ไม่เลี่ยน และที่ดีงามมากๆคือ White truffle เชฟก็จะทำการสไลด์ truffle บนเนื้ออีกครั้งหนึ่ง คือจะต้องบอกเลยว่า white truffle เนี่ยราคาสูงกว่า black truffle ถึง 20 เท่า เห็นเค้าว่าปีนี้ White truffle จะเก็บยากกว่าปีที่แล้ว ราคาก็จะสูงขึ้นมาอีก แต่ก็หอมกว่าและรสชาติอลังกว่า 20 เท่าเช่นกัน ต่อไปจะเป็นในส่วนของ Porterhouse นะครับ ในส่วนนี้เชฟได้บอกว่าเนื้อที่ติดกระดูกจะอร่อยที่สุด เห็นเค้าว่าอย่างนั้นนะครับ ซึ่งจานนี้เนี่ยหลังจากที่นำไปย่างเสร็จแล้ว เราก็จะพักเนื้อไว้ห้านาที เพราะถ้าเราไม่พักเนื้อ ย่างเสร็จและหั่นเลย น้ำของเนื้อก็จะไหลออกมาหมด ทำให้เวลากินเราไม่ได้กินความฉ่ำและรสชาติที่เต็มรูปแบบของเนื้อ ซึ่งเนื้อที่ดีจะไม่ต้องใส่ซอสก็อร่อยได้ เราก็เลยลองทานเปล่าๆดู และแบบ เห้ย! อร่อยมาก คือไม่ต้องราดอะไรเลย คือเนื้อหอมมาก นุ่ม และได้กลิ่นของเนย เนื้อส่วนนี้จะมีความเหนียวไม่สู้…

Read More

สำหรับวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปลิ้มลองรสชาติความเป็นฮอกไกโด ที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นมาพร้อมทีมเสิร์ฟให้คุณที่ 22 kitchen and bar โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในช่วงเดือน November มันก็คือช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีหรือที่เราเรียกว่า Autumn ซึ่งญี่ปุ่นช่วงนี้ก็จะเป็นสีแดง เหลือง ส้ม เต็มไปหมด ฉะนั้นแล้ววันนี้ทาง 22 kitchen and bar ก็ได้ import เชฟจากฮอกไกโด มาสร้างสรรค์เมนูต่างๆให้คุณได้ลิ้มลองกัน โดยอาหารทั้งหมดจะมาเป็น set dinner ใน theme Hokkaido Autumn Fest เริ่มที่เมนูแรก Amuse เมนูนี้มีชื่อว่า Hokkaido cold hairy crab topped steamed egg custard มันคือไข่ตุ๋นอัดไปด้วยปูหิมะจากฮอกไกโด และก็มีเนื้อปูโปะมาให้อีกด้านบนพร้อม ก้อนวาซาบิเล็กๆให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัว  ในส่วนของของเนื้อปูนั้นแน่นอยู่พอตัว จานต่อมาจะเป็น Appetizer 5 อย่างด้วยกันนะครับ ก็จะมี cheese sandwich with Hokkaido Scallops ถ้าดูในภาพมันจะอยู่ในช้อนนะครับ มันก็คือหอยสแกลลอบและก็มีชีสอยู่ด้านในครับ กินไปคำแรกก็จะได้กลิ่นของหอม สักพักพอเคี้ยวถึงชีสก็จะได้กลิ่นอ่อนๆของชีส ไม่แรงมากครับกำลังดี ต่อมาจะเป็น Herring roe on kelp from Hokkaido with amber jelly มันคือปลาซาร์ดีนกับสาหร่ายทะเลอะนะครับอยู่ในเจลลี่สีเหลือง ในแก้วใสๆที่คุณเห็นนั่นเอง แก้วนี้ถือว่ารสชาติจะค่อนข้างเข้ม และออกเค็มจากปลาทะเลนะครับ ทานพร้อมกับเจลลี่ในถ้วยเพื่อให้รสชาติเข้ากัน ต่อมาคือ Boiled Hokkai shrimp มันก็คือกุ้งต้มที่ดูหน้าตาธรรมดา แต่มันอิมพอร์ตมานั่นเอง เนื้อกุ้งจะละเอียดจากการนึ่งที่นานครับ ถือว่าใช้ได้ ต่อมาก็คือ fried ginkgo nuts แปะก๊วยนั่นเอง มันก็จะมันๆเพลินๆคมๆ และสุดท้ายสำหรับ Appetizer Steamed duck tosa-style มันคือเนื้อเป็ด ที่อร่อยมาก ถือว่าชอบสุดในจานนี้เลยก็ว่าได้…

Read More

อมาญา ซันเดย์ บรันช์   โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ Amaya Food Gallery เป็นห้องอาหารที่นำเสนอการปรุงอาหารเอเชียและนานาชาติแบบสดๆ ท่ามกลางบรรยากาศแห่งการรับประทานอาหารแบบร่วมสมัย ด้วย Design ห้องอาหารที่หรูหรา ซึ่งสามารถเลือกนั่งได้หลายบริเวณ ไม่ว่าจะเป็น ริมกระจกชมวิว หรือโต๊ะรอบๆห้อง ซึ่งถูกจัดไว้ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ห้องอาหารแห่งนี้พร้อมพาเหล่านักชิมให้ร่วมออกเดินทางไปค้นพบมนต์เสน่ห์บนเส้นทางแห่งการรับประทานอาหาร โดยจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างกันจาก 8 สถานีอาหารที่รวมอยู่ในบริเวณเดียวกัน ท่ามกลางบรรยากาศตลาดจำลองอันมีชีวิตชีวา ภายในห้องอาหารให้บริการในรูปแบบครัวเปิด ซึ่งได้นำเสนอเมนูอาหารจานเด็ดจากหลากหลายประเทศ ได้แก่ ไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และอิตาลี เป็นต้น และที่พลาดไม่ได้เลย จุดเด่นของร้านอาหารนี้ คือ การนำกุ้ง Lobster สด มาปรุงในรูปแบบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ย่าง, อบ, และ อบเนย สถานที่: Amaya Food Gallery ชั้น 4 ของ โรงแรม อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ เวลาให้บริการ: เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00– 22.30 น. ให้บริการบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าเวลา 6.00 – 10.30 น. และอาหารจานเดียวตลอดวัน ตั้งแต่ 12.00 – 22.30 น. ประเภทของอาหาร: อมาญา ไทยและประเทศเพื่อนบ้าน สถานีอาหารส่วนนี้ให้บริการอาหารไทยท้องถิ่นรสจัดจ้าน ซึ่งเป็นเมนูอาหารไทยที่เป็นที่ชื่นชอบตลอดกาลจากผู้คนในทุกมุมโลก เช่นผัดไท ซึ่งที่นี่ ก็ผัดกันสดๆ เลย นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดจากประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นอาหารจีนและเวียดนาม เป็นต้น ให้เหล่านักชิมได้ลิ้มรสและสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบเอเชียสมัยใหม่อย่างครบครัน โดยมีอาหารเด็ดที่เหมาะสำหรับทานร่วมกัน ได้แก่ สะเต๊ะที่มีเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ หรือเนื้อวัว ปอเปี๊ยะเวียดนาม หมูหัน เป็ดย่าง และข้าวมันไก่ไหหลำ อมาญา กริลล์…

Read More

ถ้าพูดถึง Sunday Bruch เราก็จะนึกถึงโรงแรมต่างๆที่เป็น international buffet และแต่ละที่ก็มีกิมมิกที่ต่างกันออกไป ซึ่งในวันนี้ผมจะพาทุกคนมาเปิดกิมมิกแห่งใหม่ ที่ห้องอาหารฟีสท์ ณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โดยบุฟเฟ่นานาชาติของเราในวันนี้จะมีความหลากหลายมากมาก และพิเศษมากสำหรับที่ชอบทาน Lobster และอาหารทะเลอื่นๆ เพราะมันคือความสด ความช่ำ ความดีงามของซีฟู๊ดที่ควรมาลอง นอกเหนือจากเรื่องของอาหารทะเลก็จะมี อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารอิตาลี่ พาสต้า พิซซ่า ก็คือนานาชาติสมชื่อเลยอะครับ โดยห้องอาหารฟีสท์ อยู่ชั้นหนึ่งของโรงแรมเลยครับ หาง่ายมาก ถ้าหาไม่เจอก็ถามพนักงานง่ายสุด ฮ่าๆ โดยห้องอาหารจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11:30 ถึง 3:00 เอาแหละครับเรามาเริ่มจาก ประตูแรกกันก่อนเลยก็คือเมื่อเราเดินเข้ามา เราก็จะเห็นโต๊ะเล็กๆ ที่วางอยู่ข้างหน้า ซึ่งบนโต๊ะก็จะมีน้ำมะตูมใส่อยู่เหมือนแก้วค็อกเทล จะเรียกว่าเป็น welcome drink ก็คงจะไม่ผิด และแล้วก็ถึงเวลาสุ้รบกับอาหารสักที ซึ่งตรงหน้าของเราเมื่อเดินเข้าไปก็จะเป็นโซน อาหารทะเลทั้งหมด สดๆจากมหาสมุทร ฮ่าๆๆ มีทั้งกุ้ง ปู ล็อบสเตอร์ หอยเชล ทูน่า แซลม่อน และอื่นๆอีกมากมาย เพื่อให้ได้อรรถรสในความเป็นทะเลมากยิ่งขึ้น น้ำแข็งรูปกล้ามปูก็มา และถัดไปจากอาหารทะเลสด ต่อไปก็คงยังเป็นโซนของอาหารทะเล แต่อันนี้ก็จะมีการปรุงแต่งรสชาติ มีให้เลือกตามความสะดวกของคุณๆทั้งหลาย ก็จะมีข้าวผัดปูเอย ล็อบสเตอร์เอย ก้างัดพริกไทยเอย คือดีงาม และภาพที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้คือคุณค่าที่ควรจะสู้รบมากที่สุด มันคือ Main Lobster Thermidor ถ้าถามถึงรสชาติ มันก็จะฟินๆหน่อยๆ อร่อย เยอะๆ อยากรู้ว่าจะอร่อยยังไงต้องไปลอง พูดจริง! ซึ่งเค้าก็จะแนะนำให้ รับประทานคู่กับขนมปังอันนี้ ก็แล้วแต่เราเลยว่าสะดวกหรือไม่ ฮ่าๆ โดยส่วนตัวเน้นเนื้อไม่เน้นแป้งนะครับ ฮ่าๆ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือโซน ของ oyster สดไม้ช่สดให้ภาพเล่าเรื่องละกันนะฮะ และนี่ก็จะเป็นโซนอาหารทะเลที่มเอามาฝากนะครับ คือจริงๆ มันมีเยอะมากๆเลยอะ เอาแหละ let move on to live cooking one ในส่วนของ zone…

Read More

Devarana Spa เทวารัณย์สปา การนวดที่แตกต่างและโดนเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ โดยการผสมผสาน5วิธีของศาสตร์การนวด มารวมในหนึ่งเดียว ที่มีเฉพาะที่เทวารัณย์เท่านั้น ถ้าพูดถึงการนวดเราหลายคนอาจถึง การนวดไทยซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่โดดเด่นมากในบ้านเมืองของเรา หรืออาจจะเนการนวดออยหรืออะโรม่าก็แล้วแต่ ซึ่งการนวดแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันออกไปตามหลักสูตรและเคล็ดลับเฉพาะของที่นั้นๆ ซึ่งแน่นอนว่า วันนี้ผมจะพาทุกท่าน ไปเยี่ยมชมเคล็ดลับศาสตร์ของการนวดที่ พูดเลยได้เลยว่า เด็ด! มาก และแล้วเราก็มาถึง Devarana Spa หรือชื่อไทยอ่านว่า เทวารัณย์สปา นั่นเอง ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ การตกแต่งของที่นี่จะเป็นแนวไทยร่วมสมัย ซึ่งรูปแบบของที่นี่ก็จะเป็นอารมณ์ สวนสวรรค์ในวรรณคดีไทยในไตรภูมิพระร่วง แน่นอนว่าที่มาของการออกแบบที่นี่นั้นก็ริเริ่มมาจากชื่อ เทวารัณย์ซึ่งเป็นภาษาสันสกฤตที่แปลว่า สวนสวรรค์นั่นเอง ท่านสามารถสัมผัสความงดงามดั่งสรวงสวรรค์ได้ตั้งแต่ทางเข้า ด้วยลำดับการเข้าถึงที่ต้องค่อยๆเดินผ่านบันไดสีขาวเป็นแนวตรง ดั่งเดินขึ้นสวรรค์และหักเข้าสู่ตัวพื้นที่ต้อนรับที่ตกแต่งด้วยกระจกแทนผืนน้ำ การใช้แสงและรูปทรงชอบหน้าต่างอย่างไทย ซึ่งถ้าเทียบกับสปาหลายๆที่แล้ว ที่นี่ถือว่าเป็นสปาที่ค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ว่า บรรยกาศโดยรวมจะไม่ค่อยมืด หรือ ทึบ เพราะจะมีหน้าต่างค่อนข้างเยอะทำให้สภาพแวดล้อมของที่นี่ดูปลอดโปร่ง สบาย หายใจสะดวก แต่ไม่ต้องกังวลกับเรื่องแสงไปเพราะเวลาทรีดเมนต์พนักงานจะนำผ้ามาปิดตาให้ เอาแหละครับ หลังจากที่ชมบรรยกาศโดยรวมของที่นี่แล้ว เราก็จะมาเริ่มทำการผ่อนคลายกันแบบเต็มรูปแบบ และแน่นอนว่าการมาทำสปานั้น เราก็จะต้องเขียนข้อมูลที่จำเป็นต่างๆก่อน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสุขภาพ หรือ อาการแพ้ต่างๆเพื่อความปลอดภัยของคุณลูกค้านั่นเองนะครับ ระหว่างการกรอกข้อมูล ทางเทวารัญย์ก็มี Welcome drink ซึ่งก็ผมก็ได้ request น้ำกระเจี๊ยบไป ไม่ถึงสองนาที พี่พนักงานก็เดินมาพร้อมกับ ภาพที่คุณเห็นด้านบนเลยครับ น้ำกระเจี๊ยบพร้อมผ้าเช็ดมือ ซึ่งบอกตรงๆเลยว่า ประทับใจน้าเช็ดมือมาก หอมสุดๆ ก็เลยถามพี่เค้าว่าทำไมมันหอมดีจัง และก็ได้คำตอบมาว่า มันเป็นกลิ่น cherish นั่นเองซึ่งก็คือกลิ่นเดียวกับออยที่ไว้ใช้ทำทรีดเม้นต์ในครั้งนี้ พอเรากรอกข้อมูลเสร็จ ปุ๊บ พี่พนักงานก็ถามว่า “จะให้เน้นตรงไหนเป็นพิเศษไหมคะ?” เราก็บอกเขาไปเลยว่า ปวดตรงไหน เจ็บตรงไหน ซึ่งในวันนี้ ตัวที่เราจะมานวดกันนั่นก็คือ Davarana Signature Massage ระยะเวลาก็ มี 90 นาที ถึง 120นาที เอาที่เราสะดวกเลย ซึ่งผมสะดวกนวดนาน ฮ่าๆ เอาแหละครับการนวดเทวารัณย์ ซิคเนเจอร์ ตัวนี้ก็จะเป็นการนวดสมผสานแบบตะวันตก และ อโรม่า ยังไม่พอครับมันยังเป็นการบวกการนวดแบบตะวันออกอย่าง นวดแผนไทยโบราณ…

Read More

Element “ยกครัวไทยขึ้นโรงแรม” สวัสดีครับ  วันนี้ทางทีมงาน Kinlakestars  จะพาทุกท่านไปลิ้มลองอาหารไทย  ภายใต้ concept  Thai passion  ณ ห้องอาหาร Element Amara Hotel   โดยผู้จัดการ คุณเวอร์น  ได้รับแรงบันดาลใจ  จากรสมืออาหารไทยดั้งเดิมของคุณแม่ที่ได้ทานตอนเด็ก  จึงอยากยกครัวไทยที่มีรสชาติดั้งเดิมต้นตำรับมาไว้บนห้องอาหารโรงแรมใจกลางเมืองกรุง  เพื่อให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง สถานที่ตั้งและการเดินทาง ห้องอาหาร Element อยู่ที่ชั้น B1  ของโรงแรมอัมรา กรุงเทพฯ   สามารถมาลงที่รถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง หรือ ช่องนนทรี  แล้วเข้ามาทางถนนสุรวงศ์  ตัวโรงแรมตั้งอยู่ติดกับตึกสำนักงาน AIA   หากมีรถยนต์ส่วนตัวมาสามารถนำมาจอดที่โรงแรมได้ เวลาเปิดบริการ 18:00 – 22.30 น. ติดต่อร้าน 02-021-8888 เมนูแนะนำ ปลาแห้งแตงโม  (Cold watermelon served with dried fish flakes) –  เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย   เนื้อแตงโมเย็นฉ่ำตักเป็นก้อนกลม  เสิร์ฟพร้อมกับปลาป่น  ได้รับรสหวานของเนื้อแตงโม  ตัดกับ  รสเค็มหวานของปลาป่น  เข้ากันไปอีกแบบ  เป็นอาหารที่เรียกน้ำย่อยได้ดีก่อนเริ่มอาหารจานหลัก  แต่ระวังอย่าทานเยอะ  เดี๋ยวจะอิ่มซะก่อน ม้าห้อ  (Herbed minced pork with peanut on pineapple morsel) –  เป็นลักษณะตัวไส้ของสาคูไส้หมู  เสียบไม้ร่วมกับตัวเนื้อสับปะรด และพริก  ความหวานของไส้สาคูมาผสมกับรสเผ็ดของพริกและรสเปรี้ยวของสับปะรด  โดยรสหวานของตัวไส้สาคูจะชูโรงเด่น  ใครที่ชื่นชอบความหวานของไส้สาคูต้องไม่พลาด  เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เรียกน้ำย่อยได้ดี ยำสลิดปลาทอด (Spicy chunks of crispy leaf fish salad) –  เปิดประเดิมกับข้าวจานแรก  ด้วยปลาสลิดทอดกรอบอย่างไทยๆ ทำมาเป็นยำสลัดรสเผ็ดเปรี้ยว  ผสมกับรสของปลาสลิดทอดเหมือนกับเพิ่งขึ้นมาจากทะเลใหม่ๆ  ความเค็มของเนื้อปลาผสมผสานกับน้ำยำสลัดได้ลงตัว  ผู้ที่ชื่นชอบปลารสเค็มต้องไม่พลาด พล่าเนื้อ (Spicy beef salad…

Read More

# HASHME “คิดถึง WAFFLE, อย่าลืม HASHME” หากนึกถึง waffle หลายๆคนคงจะคุ้นเคยกับ ร้าน HASHME ร้านอาหารย่านทองหล่อ ซึ่ง Signature ของร้านนี้ ก็คือ การนำเอา waffle มาประกอบและตกแต่งอาหารในเมนูต่างๆ อย่างสวยงาม น่ารับประทาน และ น่าถ่ายรูปอวดเพื่อนลง instagram พร้อม Hashtag ตามชื่อร้าน การทำ waffle นั้น ทางร้านจะนำวัตถุดิบมาปรุงแต่งอย่างพิถีพิถันในสไตล์ Belgian ซึ่งประเทศ Belgium นั้น ได้ขึ้นชื่ออย่างมาก เรื่อง “ความอร่อยของวาฟเฟิล” ทำให้รสชาติ waffle ของ HASHME กรอบนอก นุ่มใน มีกลิ่นหอมอบอวล อย่างมีเอกลักษณ์ น่ารับประทาน ตอนนี้ HASHME ได้ย้ายมาเปิดร้านวาฟเฟิลอย่างเต็มตัว พร้อมเสนอเมนูใหม่ๆ มาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ที่ห้างเซนทรัลปิ่นเกล้า และที่สำคัญ ทางร้านมี “บริการ Take Away กันอย่างฟรีๆ” ที่อยู่ร้าน เซนทรัลปิ่นเกล้า ชั้น G (ร้านจะอยู่ติดกับบันไดเลื่อนขึ้นไปชั้น 2 สังเกตง่ายๆ คือ ตรงข้ามร้าน YAYOI) เวลาบริการ ตามเวลาเปิด-ปิด ของห้างเลย (ตั้งแต่ 10.00 น. – 21.00 น.) เมนูแนะนำ เมนูของร้านนั้น จะแบ่งเป็น “อาหารจานหลัก”, “ของหวาน”, และ “เครื่องดื่ม” อาหารจานหลัก สลัด Waffle (109 บาท) เมนูนี้สลัด ซึ่งเป็นการผสมผสานกัน ของผักหลากหลายชนิดเช่น ผักกาดคอส, ผักกาดแก้ว, ข้าวโพด, แครอท, มะเขือเทศ, กะหล่ำปลีม่วง และ เนื้อเบค่อน นุ่มๆ…

Read More

สำหรับปลายฝนต้นหนาว เสริมวิตามินซีกับสารพัดขนมที่รังสรรค์จากผลไม้ตระกูลซีตรัส ไม่ว่าจะเป็นมะนาวเขียว ส้มแมนดาริน ส้มยูซุ มะกรูด เลมอน ให้ร่างกายคุณแข็งแรงต้านทานหวัดในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงกัน มาเติมความสดชื่นกันด้วย “Twist of Citrus High Tea” ที่ “เซสท์ บาร์ แอนด์ เทอเรส โรงแรม เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท” ที่ได้นำเอาผลไม้ตระกูลซีตรัสหลากสีสัน ไม่ว่าจะเป็น ส้มแมนดาริน ส้มบลัดออเร้นจ์ มะนาว และส้มยูซุ ซึ่งไม่เพียงแต่จะมอบความรู้สึกสดชื่นเมื่อได้ทาน ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระอีกมากมาย ทั้งหมดนี้ ทางร้านได้นำมารังสรรค์เป็นเมนูของว่างและขนมหวานหลากหลายพร้อมจับคู่กับชาคุณภาพ มาไว้ในเทศกาล “จิบชายามบ่าย” ที่จะทำให้คุณได้พบความรื่นรมย์กับการจิบน้ำชาตามสไตล์ที่เป็นคุณ ภายใต้บรรยากาศสบายๆ เชิญทุกท่านมาลิ้มลองความสุขได้แล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึง พฤศจิกายน 2560 ผลไม้ตระกูล Citrus ที่ได้ชื่อว่าเป็นผลไม้ที่ไม่เพียงแต่ดูสวย แต่ยังมีรสชาติเยี่ยมและดีต่อสุขภาพ ได้ถูกนำมาเป็นส่วนผสมหลักของ ‘ชุดน้ำชายามบ่าย Twist of Citrus High Tea’ ที่ประกอบด้วยของว่างและขนมหวานหลากชนิด ใน Stand แต่ละชั้นนั้น จะประกอบไปด้วย ชั้นบน  คัสตาร์ดครีมส้มซีตรัสเสิร์ฟในโคนวาฟเฟิลกรุบกรอบ วาฟเฟิลสุดกรุบกรอบสอดไส้ด้วยคัสตาร์ดครีมรสชาติหวานมันนุ่มละมุนผสานกับเนื้อส้มที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆได้อย่างลงตัว  เลมอนชีสคัพเค้ก ชีสเค้กที่ไม่หนักจนเกินไปด้วยรสเปรี้ยวหวานของเลมอนเข้ากับชีสที่มีคุณภาพผสมผสานกับเลมอนและแต่งหน้าด้วยผลไม้เชื่อม ซึ่งให้รสชาติโดยรวมของเลมอนชีสเค้กตัวนี้นั้นออกมาเปรี้ยวและหวานและก็ยังมีความมันของชีสเค้กอยู่ ชั้นกลาง  เนื้อเป็ดตุ๋นม้วนเสิร์ฟพร้อมเนื้อส้มเชื่อม ใช้เนื้อส่วนอกเป็ดปรุงด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศผ่านการตุ๋นอย่างช้าๆราดด้วยซอสเนื้อส้มเชื่อมซึ่งมีรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดีแต่ตัวเนื้อเป็ดมีความแข็งและแห้งไปหน่อย  แซนวิชสไตล์อิตาเลียน สลับชั้นด้วยชีสบ็อคคอนชีนี่และส้มแมนดาริน พร้อมเลมอนเพสโต้ซอส แซนวิชรูปแบบอิตาเลียนซึ่งให้ความรู้สึกสดชื่นจากส่วนผสมไม่ว่าจะเป็นส้นแมนดารินซึ่งมีความเปรี้ยวและหวานซอสเลมอนเพสโต้ซึ่งมีความเปรี้ยวและหอมอีกครั้งชีสมอสซาเรล่าซึ่งเป็นชิ้นสดแบบอิตาเลียนที่ให้ความรู้สึกสดชื่นไม่หนักเหมือนชีสชนิดอื่นๆอีกทั้งเบคอน ให้รสเค็มแทรกเบาๆ  สลัดส้มสีเลือดและกีวีกับกุ้งพร้อมน้ำสลัดส้มยูซุ สลัดกุ้งตัวใหญ่กำลังดีพอดีปากเนื้อแน่นแต่รสชาติอาจจะออกจืดเล็กน้อยเสิร์ฟคู่กับส้มสีแดงและกีวีรสหวานอมเปรี้ยวราดด้วยน้ำซอสสลัดสูตรเฉพาะที่มีส้มยูซุเป็นส่วนประกอบจึงให้ความรู้สึกหอมแปลกแต่รสชาติโดยรวมอาจจะเบาไปเล็กน้อย ชั้นล่าง  สโคนมะกรูดเสิร์ฟพร้อมแยมผิวส้มและครีมสด Scone นั้นถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ใช้ในการตัดสินคุณภาพของขนมในชุดน้ำชายามบ่าย เนื่องจากว่าสโคนได้ชื่อว่าเป็นของหวานต้นตำรับจากอังกฤษดังนั้นจึงถูกนำไปผสมผสานกับมะกรูดไทยซึ่งมีกลิ่นหอมของมะกรูดที่ชัดเจนในส่วนของรสเปรี้ยวหรือรสชาติอื่นๆนั้นอาจจะออกมาไม่โดดเด่นมากนักเพื่อให้ตัวสโคนนั้นยังมีรสชาติหวานและมันเป็นหลักเพื่อใช้ทานคู่กับครีมสดหรือแยมผิวส้มแต่โดยส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้กินคู่กับแยมผิวส้มซึ่งจะทำให้รสหวานอมเปรี้ยวของแยมผิวส้มเข้ากันได้ดีกับกลิ่นที่หอมหวานของมะกรูด  มาการองสไตล์ฝรั่งเศสสอดไส้ด้วยเนื้อส้มยูซุและแยมส้มยูซุ สำหรับมาการองตัวนี้นั้นรสชาติทำออกมาได้ดีพอสมควรด้วยรสชาติหอมหวานและสีสวยงามของกลิ่น citrus fruits ต่างๆสอดไส้ด้วย seasonal food สารพัดชนิดรสหอมหวานตามสี อร่อยอย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมจากส้มยูสุ กลิ่นหอมจากมะนาวเขียว ราคา Twist…

Read More