Author: Nopmanee

ท่านผู้อ่านหลายท่านในที่นี้อาจคุ้นเคยกับการจิบน้ำชายามบ่ายดีอยู่แล้ว ที่มีน้ำชา ของว่างและขนมมาให้ 1 ชุด  ทีนี้เรามาลองชุดที่แตกต่างออกไปบ้างดีกว่า  ด้วยชุดน้ำชาชุด “Afternoon Tea Reimagined”สุนทรียภาพแห่งการใช้ชีวิตที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์  จะแตกต่างอย่างไร มีเอกลักษณ์อย่างไร Kinlakestars.com จะไม่รอช้าพาทุกท่านไปสัมผัสเดี๋ยวนี้ค่ะ เมื่อก้าวผ่านประตูโรงแรมเข้ามายังโถงล็อบบี้แล้ว  โปรดย่างเท้ามาที่ หนุมานบาร์  อันเป็นจุดหมายของเราในวันนี้  ท่ามกลางเสียงฮาร์ปอันก้องกังวาลระรื่นหูช่วยขับกล่อมบ่ายนี้ของพวกเรา ด้วยบทเพลงที่เราคุ้นเคยกันดี ไม่ว่าจะเป็นบทเพลงจากวัยเยาว์เหล่า Disney song จนถึงเพลงร่วมสมัยที่ฮิตติดหูอยู่ในขณะนี้  พร้อมกับนั่งชมวิวสวนสวยด้านนอกไปด้วย ไม่นาน ชาที่เราได้เลือกไว้ก็มาเสิร์ฟ  ซึ่งสำหรับชุดนำ้ชาชุดนี้ ทางโรงแรมได้คัดเลือกชาที่เข้ากันไว้ให้ถึง 3 ตัวด้วยกันดังที่เราจะเขียนถึงต่อไป  หรือถ้าหากท่านผู้อ่านมีรสชาอยู่ในใจอยู่แล้วก็สามารถเลือกได้เช่นกันจากคอลเลกชั่นชา Ronnefeldt ที่มีมากที่สุดในประเทศไทย กว่า 60 ชนิด ชา White Yunnan (White Tea) – The leaf buds with their silvery shine unfold a full-bodied aroma with a soft, fruity note and rich florality. หรือที่เรียกได้ว่าหอมสดชื่นแบบดอกไม้นั่นเอง ชา Morgentau (Sencha Tea) – Flavored green tea with mango-lemon flavor  ที่ในภาษาเยอรมันแปลว่าน้ำค้างยามเช้า ชา Splendid Earl Grey (Black Tea) – เป็นชาเอิร์ลเกรย์ที่จะหอมกว่าปกติด้วยความเข้มข้นของใบ Bergamot ที่มากขึ้น หรือถ้าหากท่านเป็นคอกาแฟ  ก็สามารถเลือกเป็นกาแฟคั่วบดใหม่จาก Lavazza ได้เช่นกัน สิ่งหนึ่งที่แตกต่างอย่างเป็นเอกลักษณ์ออกไปจากชุดนำ้ชาชุดอื่น ด้วยการเพิ่มความงดงามหรูหราของศาสตร์และศิลป์ ตื่นตาตื่นใจไปกับการเสิร์ฟแบบเซตคอร์สถึง 5 คอร์สด้วยกัน โดยจะยกนำมาเสิร์ฟทีละคอร์สเหมือนนั่งรับประทานอาหารไฟน์ไดนิ่งอยู่อย่างไรอย่างนั้น สมกับความตั้งใจของเชฟ สเตฟาน เทรป ที่ต้องการให้ความสัมพันธ์กับทุกองค์ประกอบเพื่อร่วมสร้างความสมดุลให้ภายในเซตมีตัวเลือกของว่าง ขนมอบเบเกอรี่และของหวานที่มีความหลากหลาย ตลอดไปจนถึงความคุ้มค่าของราคา คุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารเพื่อร่วมสร้างความสุขที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้าผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาใช้บริการ…

Read More

วันนี้ทางทีมงาน KinlakeStars  ได้ ไปร่วมงานฉลอง 30 ปี Calypso Bangkok  ซึ่งจัดที่โกดัง 3 โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์  ซึ่งงานในครั้งนี้ทางคณะผู้บริหารจัดขึ้น เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 30  อย่างยิ่งใหญ่และมั่นคงของ Calypso  อีกทั้งยังเป็นการขอบคุณผู้ร่วมสนับสนุนและสื่อมวลชน  ที่เดินเคียงข้าง Calypso มาตลอด 30 ปี Calypso เป็น การแสดงคาบาเร่ต์ กึ่ง โรงละคร แห่งแรกของกรุงเทพมหานคร  ตั้งอยู่ที่โกดัง 3 ในโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์   โดยเปิดการแสดง 2 รอบ คือ เวลา 19.30 และ 21.00 น. อีกทั้งยังบริการร้านอาหารไทย ให้ทุกท่านได้ดื่มด่ำกับแสงสีเสียงอันตระการตา  พร้อมลิ้มรสอาหารไทยสุดประณีตอีกด้วย ซึ่งในวันนี้  แน่นอนว่าเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปี ของ Calypso ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เมื่อไปถึงงาน มีพรมแดงปูยาวเป็นทางเดิน ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน ที่มาเป็นเกียรติและสักขีพยานในงานฉลองครั้งนี้  มี welcome drink คอยต้อนรับ  พร้อมกับขนมและอาหารแบบไทยๆ เป็นออเดิร์ฟ   ไม่ว่าจะเป็น “ขนมครก”  ใน 1 เซต  มีหลากหลายไส้ ทั้งไส้ผัก  ไส้เผือก  ไส้ข้าวโพด ตัวกะทิร้อนและหวานกลมกล่อมละลายในปาก อร่อยลงตัวเลยทีเดียว  เมนูต่อมา  เรียกได้ว่า เป็นเมนูฮิตใน พ.ศ. นี้เลยทีเดียว  “หมูโสร่ง”  เป็นหมูบดหมักจนรสชาติกลมกล่อมแล้วนำมาพันด้วยเส้นหมี่ซั่วทอดจนเหลืองกรอบ  กลิ่นหอมชวนรับประทาน  ถูกใจออเจ้ายิ่งนัก  แค่ออเดิร์ฟ ยังไม่ธรรมดาขนาดนี้  เชื่อแล้วว่างานนี้ Calypso จัดหนักจัดเต็มอย่างแน่นอน บรรยากาศภายในงานนั้นดูอบอุ่นเป็นกันเอง  ตลอดงานมีบรรเลงขับร้องเพลงให้ เพลิดเพลินตลอดงานในวันนี้เน้นขอบคุณ partner ของ Calypso ที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด 30 ปี   มีการมอบรางวัลให้กับบริษัท partner   เป็นการแสดงถึงมิตรภาพและไมตรีจิตที่มีต่อกันอย่างแน่นแฟ้น อีกทั้งยังขอบคุณแก่ partner, สื่อมวลชน, และ blogger  ต่างๆ  ด้วยการจับรางวัลมอบทองเป็นของขวัญหนัก 3 บาท  รวมเป็นมูลค่ากว่า…

Read More

หากมาลองนั่งนึกดู โรงแรมนี้เป็นหนึ่งในโรงแรมที่มีร้านอาหารหลากหลายสไตล์ให้เลือกทานในโรงแรมหลายร้านมากๆ แถมแต่ละห้องนั้นมีวิวดี วิวเมืองหลักล้านที่เริ่มชมวิวกันได้ตั้งแต่ชั้น 52 เป็นต้นไปด้วย  วันนี้ Kinlakestars.com จึงจะขอพาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ทานอาหารหลากสไตล์หลายบรรยากาศในหนึ่งมื้อกันค่ะ อันดับแรกเรามาผ่อนคลายกันด้วยวิวสวนและวิวเมืองชมพระอาทิตย์ตกดินเหนือขอบฟ้าทางฝั่งถนนสาธร เคล้าค็อกเทลเย็นชื่นใจกันที่สวนลอยฟ้าที่สูงที่สุดในกรุงเทพมหานคร  Saffron Sky Garden ชั้น 52 จิบน้ำเย็นสดชื่นที่มีให้เลือกทั้งค็อกเทลและม็อกเทล  ที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำอัญชันให้เกิดสีม่วงสวยและหอมหวานด้วยน้ำใบเตยกันค่ะ ทาน Crispy Soft Shell Crab, Spicy Mango Salsa ที่น่าปลื้มด้วยตัวของปูนิ่มจับคู่กับซอสมะม่วงหวานอร่อยสีเหลืองนี้เอง Grilled Chicken Skewer, Soya sauce ที่ได้กลิ่นอายอาหารญี่ปุ่นมาด้วย อ่านเกี่ยวกับห้องอาหารนี้ เพิ่มเติมได้ที่นี่ ทานอาหารเรียกน้ำย่อยกันต่อที่ห้องอาหาร Saffron  ซึ่งก่อนจะเริ่มรับประทาน ทางห้องอาหารนี้จะมีการนำน้ำสมุนไพรมาให้เราได้ล้างมือกันก่อนทีละคน เป็นขั้นตอนที่ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของห้องอาหารนี้เลยทีเดียว ข้าวตังแผ่นไม่หนามากวางสลับกับแผ่นขนมทองม้วนผสมสมุนไพรชิ้นเล็กๆประปรายไปตลอดแผ่นพร้อมกับน้ำจิ้มให้เลือกทานถึง 3 แบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกหนุ่มที่อร่อยถูกใจชาวเหนือ น้ำจิ้มสีขาวรสเหมือนหลน และถ้วยสุดท้ายที่เป็นสีแดงๆ คือหมูสับกับน้ำพริกแกง เค็มนิดและมีเผ็ดลอยขึ้นมาจางๆให้ช่วยสร้างสีสันต์ปิดท้ายจานนี้ อีกจานหนึ่งที่ไม่ทิ้งลายของห้องอาหารนี้ ซึ่งมีวิธีการคือให้ทานจากซ้ายไปขวา เป็นการไล่รสตั้งแต่รสอ่อนไปหารสจัด เมี่ยงส้มโอที่มีกลิ่นอายของเครื่องเมี่ยงมาเต็มผสมความเผ็ดนิดหน่อยให้พอรับรู้ กับปูกรอบจัดวางมาในกลีบดอกบัวสีชมพูอ่อนสวยงาม  ช้อนถัดมาเป็นเนื้อหอยเชลล์ย่างมากำลังดี ทานกับซอสหวานอมเปรี้ยวชวนให้นึกถึงน้ำจิ้มของปอเปี๊ยะสดยิ่งนัก  ส่วนเมี่ยงส้มโอในช้อนสุดท้ายนั้นจะแอบเปรี้ยวมากขึ้น ลดเผ็ดลง ตบท้ายด้วยชิ้นมะม่วงสุกหวานๆ หั่นเป็นชิ้นลูกเต๋าน่ารักแปะทองคำเปลวอยู่ด้านบน  โดยรวมแล้วจานนี้ทำให้รู้สึกสดชื่นดียิ่งนักค่ะ ทานคู่กับ Gewürztraminer, “Alois Lageder”, Alto Adige, Italy อ่านเกี่ยวกับห้องอาหารนี้ เพิ่มเติมได้ที่นี่ ห้องอาหารจีน Bai Yun ชั้น 59 ทานแผ่นเกี๊ยวทอดกรอบกับซอส ซดน้ำซุปรสกลมกล่อมอูมามิ พร้อมทานกระเพาะปลาสด เยื่อไผ่เนื้อละเอียด และเห็ดมัตสึทาเกะที่มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ หาทานได้เพียงปีละหนึ่งหนเท่านั้น  ทั้งหมดนี้ทำให้ยากที่จะละมือไปจากถ้วยนี้จริงๆค่ะ ในจานทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าใบนี้  มีลวดลายดอกไม้ใบไม้ ผีเสื้อวาดอยู่อย่างสวยงามบนจานทางด้านซ้ายด้วย Squid ink ที่ทานได้  ช่วยเพิ่มอรรถรสให้กุ้งผัดซอสไข่เค็ม อันเค็มนิดหน่อยมันๆจากไข่แดงออกชัดเจน กับสัมผัสของแป้งบางกรอบที่ทำเป็นทรงถ้วยครึ่งวงกลม ทานคุ่กับ ชาจีน และ Pinot Grigio, Fantinel Borgo Tesis, Friuli, Italy อ่านเกี่ยวกับห้องอาหารนี้ …

Read More

หากจะจัดอันดับความอร่อยให้แก่ขนมไหว้พระจันทร์นั้น หนึ่งในตำนานทำขนมไหว้พระจันทร์ที่ขาดไม่ได้เลย คือ แชงพาเลซ ห้องอาหารจีนแห่งโรงแรมแชงกรี-ลานี่แหละค่ะ วันนี้ Kinlakestars.com จะพาไปเปิดตำนานการทำขนมไหว้พระจันทร์ที่ได้ทำสืบเนื่องกันมาอย่างยาวนานกันค่ะ ในวันนี้เชฟศักรินทร์ผู้ประจำการอยู่ห้องอาหารแชงพาเลซพร้อมแขกพิเศษได้ออกมาสาธิตการทำขนมไหว้พระจันทร์ให้ดูด้วยค่ะ เริ่มจากการนวดแป้ง คลึงแป้งให้เป็นก้อนกลมแบน แล้วนำไส้มาวางตรงกลาง จัดแป้งให้ห่อไส้ทั้งหมดเป็นทรงกลม นำใส่พิมพ์กดลงไปให้แน่น แล้วลงมือเคาะพิมพ์ทุกด้านลงกับโต๊ะทีละด้านด้วยแรงที่ต้องแรงพอเหมาะ เพราะไม่อย่างนั้นถ้าเคาะเบาไป ขนมไม่ออกมาค่ะ เสร็จแล้วก็จะได้ขนมไหว้พระจันทร์ที่สวยงามแบบนี้ แล้วนำไปอบต่อไปค่ะ ทีนี้เรามาลองชิมขนมไหว้พระจันทร์กันดีกว่าค่ะ ซึ่งทางห้องอาหารแชงพาเลซได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นดี บางอย่างนำเข้ามาจากฮ่องกงเพื่อในการนี้โดยเฉพาะ และในปีนี้จะมีทั้งหมด 5 ไส้ด้วยกัน ไส้อัลมอนด์งาดำ เป็นไส้ใหม่ล่าสุด (ชิ้นซ้ายสุด) จัดเต็มกันด้วยงาดำเนื้อเนียนหวาน และอัลมอนด์สไลด์กระจัดกระจายกันไปอยู่ทั่วชิ้นอย่างทั่วถึง ไส้โหงวยิ้ง กรุบกรอบไปกับเหล่าถั่วชนิดต่างๆ อาทิ อัลมอนด์ ผสมแฮมยูนนาน ใบมะกรูด หอมซ่าจางๆ ตัดด้วยรสชาติของไข่เค็ม ซึ่งตัวเนื้อนั้นที่นี่จะทำไม่แห้งเกินไป ไส้ทุเรียน ใช้ทุเรียนหมอนทองกวนจากทางจันทบุรี รสชาติทุเรียนเข้มข้น สีออกน้ำตาลเข้มหน่อยๆ ผสมกับเม็ดลูกบัวเพื่อไม่ให้ตัวเนื้อแข็งเกินไป รสชาติหวานอร่อย หนึบหนับกำลังดี ไส้ลูกบัว หวานหอมลูกบัวกวน สีน้ำตาลอ่อน มีเม็ดบัวกระจายอยู่อย่างประปราย ไส้คัสตาร์ด เนื้อสีเหลืองเนียนละเอียด รสหวานนวล ไม่มันมาก ให้หยิบทานกันได้เพลินๆค่ะ อีกทั้งปีนี้ขนมไหว้พระจันทร์ยังมาในรูปโฉมกล่องใหม่ กล่องลายหนังสือสีม่วงพิมพ์ลายนูนสีทองเป็นรูปกระต่ายอย่างสวยงาม ชุดสุขสันต์ยิ่งทวีคูณ – โหงวยิ้ง ทุเรียน ลูกบัว และอัลมอนด์งาดำ อย่างละ 1 ลูก ราคา 808 บาท (4 ชิ้น/กล่อง) ชุดสุขสำราญเปี่ยมวาสนา – โหงวยิ้ง ทุเรียน ลูกบัว และอัลมอนด์งาดำ อย่างละ 2 ลูก ราคา 1,558 บาท (8 ชิ้น/กล่อง) ชุดขนมไหว้พระจันทร์อบขนาดเล็ก ไส้ครีมล้วน ราคา 808 บาท (6 ชิ้น/กล่อง) ไส้โหงวยิ้ง – ไข่เดี่ยว ราคา 1,018 บาท (4…

Read More

สำหรับคอ Afternoon tea ทั้งหลาย หากจะพูดถึงความน่ารักฟรุ้งฟริ้ง ความอร่อย ชาชั้นเลิศ และความคุ้มค่าของชุดน้ำชายามบ่ายแล้ว  ที่นี่ต้องติดอันดับอยู่ในใจของหลายๆท่านอยู่เป็นแน่  ด้วยความที่มีลูกเล่นทั้งสีสันต์ ขนม น้ำชาที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลของญี่ปุ่นอยู่เสมอๆตลอดทั้งปี มาคราวนี้ได้ถึงฤดูกาลของชุดน้ำชาดอกลาเวนเดอร์ Lavender Garden อีกครา คราวนี้จะเป็นอย่างไรบ้างขอเชิญมาชมกันได้เลยค่ะ ภายใต้การรังสรรค์ของเชฟเซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Sebastiaan Hoogewerf ) หัวหน้าพ่อครัวเบเกอร์รี่ (Executive Pastry Chef) ชุดน้ำชาชุดนี้จึงได้นำสีม่วงของทุ่งดอกลาเวนเดอร์มาเป็นแรงบันดาลใจ ในการออกแบบชุดน้ำชายามบ่ายลาเวนเดอร์ เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสถึงบรรยากาศอันงดงามของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ในช่วงฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่น ชุดน้ำชายามบ่ายของที่นี่ 1 ชุดให้เราเลือกชา Mariage Frères ชาน้ำหอมจากฝรั่งเศสอันเลิศรส ได้ถึง 2 รส หรือ ชากลีบดอกบัวซาโรที (Saro Tea) หรือกาแฟอิลลี่ (Illy) ที่สามารถให้บริการทั้งแบบร้อนและเย็น ซึ่งในหนึ่งชุดเราสามารถเลือกเครื่องดื่มได้ถึง 2 อย่าง ส่วนวันนี้เราขอเลือกเป็นชากันค่ะ และชาพิเศษที่จะมีให้ดื่มกับชุดลาเวนเดอร์นี้เท่านั้น คือ ชา Mariage Frères – Vert Provence Vert Provence ระเบิดความหอมสดชื่น ด้วยกลิ่นหอมจากผลไม้และดอกไม้อันห่างไกลจากตัวเมืองใหญ่ เมืองโพรวองซ์ เมืองในภาคใต้ของฝรั่งเศส เพื่อที่จะสร้างสรรค์ความมหัศจรรย์ของดินแดนแห่งนี้  Mariage Frères ได้คิดค้น ชาเขียว ชั้นเลิศ กลิ่นหญ้าอ่อนๆและผสมกับผลไม้จากโปรวองซ์ ซึ่งเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สีแดงและสีดำ กับความสุกกำลังดี สร้างกลิ่นหอมที่แรง กลิ่นหอมที่แสนผ่อนคลายและอบอุ่น จากลาเวนเดอร์ อีกทั้งกลิ่นอันแสนกลมกล่อมและความหวานของกลีบกุหลาบ จากกุหลาบป่าสีแดงจากทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ให้กลิ่นหอมและรสแบบฟรุตตี้จากเหล่าเบอร์รี่ที่พบและปลูกในจังหวัดโพรวองซ์ ซึ่งเป็นเมืองทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เจือดอกลาเวนเดอร์และกลีบกุหลาบ เมื่อคุณดื่มด่ำ ลิ้มรส ดอมดม คุณจะได้ความรู้สึกเหมือนดั่ง ได้เดินผ่านป่าไปยืนอยู่กลางทุ่งดอกลาเวนเดอร์ช่วงฤดูร้อน ในเมืองโพรวองซ์อย่างไรอย่างงั้นเลยทีเดียวค่ะ คุณลักษณะของชา : #Fruity & flowery   #Rose   #Green Tea   #Scented Tea ส่วนชาอีกตัวนึง ถ้าใครชอบกุหลาบ  ขอแนะนำเป็น Blanc & Rose  ชอบแบบฟรุตตี้ซักหน่อย Thé à  l’ Opéra, Marco Polo หรือมีให้เลือกทั้งหมด 11 รสค่ะ…

Read More

ในตอนท้ายของมื้อเพื่อนได้ถามว่าชอบจานไหนมากที่สุด เมื่อนั้นถึงได้ตระหนักว่าต้องคิดหนักมาก ในความดีงามของมื้อนี้ เป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าชอบจานไหนมากที่สุด เพราะดีเยี่ยมทุกจานเลยค่ะ!! หากใครขับรถผ่านเข้าไปในซอยสุขุมวิท 49 อีกหนึ่งย่านแหล่งของกินอยู่บ่อยๆคงคุ้นกับโครงการ 49 terrace กันอยู่ไม่น้อย ที่ชั้น 2 ของโครงการมีสุดยอดร้านอาหารอิตาเลียนอยู่ร้านหนึ่ง La Bottega di Luca ที่ Kinlakestars.com มีความภูมิใจนำเสนอในวันนี้ค่ะ ก่อนเข้าร้านถ้าใครได้สังเกตดีๆที่ใต้ป้ายชื่อร้านจะเห็นแผ่นป้ายสีทองๆอยู่ป้ายหนึ่ง  นั่นเป็นป้ายการันตีถึงการใช้วัตถุดิบที่ดี คุณภาพยอดเยี่ยม เสมือนได้ไปรับประทานอาหารอิตาลีที่ประเทศอิตาลีเลยนั่นเอง  โดยได้รับการรับรองจาก Unioncamere และหอการค้าไทย – อิตาเลี่ยน มีส่วนระเบียงกึ่งเอ้าดอร์ให้เลือกนั่งท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนผ่อนคลายในวันสบายๆ หรือจะเลือกนั่งในห้องปรับอากาศในวันที่อากาศไม่เป็นใจ เพื่อนได้แนะนำให้ลองขนมปังของที่นี่ให้ได้เลย ซึ่งก็ดีเลิศอย่างที่เพื่อนประกาศไว้จริงๆ  อย่างชิ้นนี้เป็นขนมปังโฟกาเซียทานคู่กับน้ำมันมะกอกชั้นเลิศจากอิตาเลียน BIO และบัลซามิกรีเซิร์ฟ Amuse bouche ของมื้อนี้ Starters จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของมื้ออันยอดเยี่ยมนี้ Terrine Foie Gras, Maldon Salt, Pan Brioche, Sweet & Sour  Wild Berries Sauce (ราคา 590 บาท) หากเคยทานฟัวกราส์แบบเป็นชิ้นๆแล้ว ขอให้ลองเปลี่ยนเป็นแบบจานนี้บ้าง  บนขนมปังบริโอชอบกรุบกรอบเป็น Terrine Foie Gras ที่จะมีรสของฟัวกราส์ค่อยๆซึมออกมา ช่วยดึงรสออกมามากขึ้นด้วยความเค็มจาก Maldon Salt แอบเปรี้ยวและหวานขึ้นมาเจือจางจากซอสเบอรี่ป่าที่ให้ทานคู่กัน 2 Ways ‘Scarola’ Salad, Burrata Cheese, Cetara Anchovies, Toasted Pine Nuts (ราคา 420 บาท) เป็นจานที่มาวางแล้วทุกคนต้องร้องว้าวในความสวย สีสันต์สดใสเป็นอันดับแรก  ในจานนี้เราจะได้รสชาติขมและหวานสดชื่นจากผักตัดกันนิดๆหน่อยๆอย่างที่เชฟตั้งใจ  มี Burrata ชีสชั้นดี  ความเค็มสดชื่นจาก Cetara Anchovies มาเสริม จานต่อไปนี้ได้ความสุขุมนุ่มนวลของ…

Read More

Kinlakestars.com ขอนำเสนอความอร่อยอันเป็นตำนานมาร่วมทศวรรษกับ Sunday Jazzy Brunch หรือบุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์ ณ โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit โรงแรม 5 ดาวสุดหรูที่มีสุดยอด Sunday Brunch ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯไว้คอยบริการ โดยจะเป็นการนำ 3 ห้องอาหารหลักของทางโรงแรม ได้แก่ Rossini (ห้องอาหารอิตาเลียน), Basil (ห้องอาหารไทย), Orchid Cafe (ห้องอาหารนานาชาติ) มาทำเป็นไลน์อาหารสุดอลังการ มีอาหารให้เลือกสรรค์กว่าร้อยชนิด นอกจากอาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ปกติแล้ว ท่านยังสามารถลิ้มรสอาหารจานเด่นของห้องอาหารต่างๆได้ที่นี่อย่างครบครันเลยทีเดียว ซึ่งอาหารแต่ละอย่างนั้นได้ถูกคัดสรรมาแต่คุณภาพชั้นดีเยี่ยม ผ่านการปรุงจากทีมเชฟที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ สัมผัสแรกเมื่อได้เข้าไปในห้องอาหาร ท่านจะรู้สึกถึงความกว้างขวางโอ่โถง ตกแต่งด้วยสไตล์คลาสิกอันเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมเก่าแก่แห่งนี้ โดยระหว่างกิน จะมีน้องยิ้มๆเป็นมาสคอตช้างแสนน่ารัก มาคอยยืนเอาบัตรเข้าพักราคาพิเศษออกมาทำการประมูล โดยรายได้จะนำไปให้แก่ผู้ป่วยเพื่อผ่าตัดหัวใจ สามารถมองเป็นวิวถนนสุขุมวิทได้อย่างสวยงาม พร้อมกันนี้ยังมีวงดนตรี Jazz และนักร้องระดับคุณภาพมาขับกล่อมให้ท่านได้เพลิดเพลินขณะรับประทานอาหารอีกด้วย ไลน์อาหารของ Sunday Jazzy Brunch ประกอบไปด้วยอาหารนานาชนิดไม่ว่าจะเป็นอาหารอิตาเลียน, อาหารญี่ปุ่น, อาหารอินเดีย, อาหารทะเล, อาหารจีน, อาหารไทย, ของหวาน, ซุ้มเครื่องดื่ม มาเริ่มต้นกันที่มุมยอดนิยมกันเลยดีกว่าครับ นั้นก็คือ อาหารทะเล – Seafood on ice + ขาปูอลาสก้า สดๆ หวานแน่น ไม่เค็มจนเกินไป +ร็อคล็อบสเตอร์ +ปูม้าทะเล +กั้งหิน +หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ +หอยนางรมฟิน เดอ แคลร์ +กุ้งแม่น้ำ มุมคาร์เวียร์ มากมาย หลากหลาย พร้อมแป้งแพนเค้ก และเครื่องเคียง มาต่อกันที่มุมแนะนำที่ไม่ควรพลาดอีกมุม นั้นก็คือ อาหารอิตาเลียน ณ จุดๆนี้มีให้ท่านเลือกสรรแบบสั่งทำได้ ไม่ว่าจะเป็น พาสต้า ซุ้มฟัวกราส์ และแบบตักเองกับ appetizer นานาชนิด + ฟัวกราส์ชิ้นโตเสิร์ฟคู่กับซอสสับปะรด สำหรับฟัวกราส์ทุกท่านสามารถสั่งได้ตามที่ต้องการ เชฟจะทำให้สดๆใหม่ๆทีละจาน ทีละจาน…

Read More

กลับมาอีกครั้งกับงานยิ่งใหญ่ประจำปีถูกใจนักชิมอย่าง World Gourmet Festival ครั้งที่ 19 ที่จะจัดขึ้นที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ในวันที่ 3-9 กันยายนนี้  ตลอด 1 สัปดาห์ที่ท่านจะได้พบกับสุดยอด 13 เชฟมิชลินสตาร์ชื่อดังจากทั่วโลก อาหารชั้นเลิศ ไวน์ชั้นเยี่ยม มาสเตอร์คลาสที่น่าเข้าร่วม โดยวันนี้ Kinlakestars.com ได้ชมการสาธิตทำอาหารของเชฟฮัน ลี กวง (Han Li Guang) ที่บินตรงมาจากสิงคโปร์  ห้องอาหาร Labyrinth ที่เพิ่งได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ระดับ ★ ดาวสดๆร้อนๆเมื่อปีที่แล้ว  จึงได้เก็บภาพมาฝากกันเป็นน้ำจิ้มเล็กๆน้อยๆ กันก่อนค่ะ เชฟฮัน ลี กวง อดีตนายธนาคารที่ผันตัวเข้าสู่การเป็นเชฟ ด้วยการทำตามความฝันและมีใจรักในการทำอาหาร เขาเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกเพื่อเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์กับหลากหลายห้องอาหารและเชฟชื่อดัง อาทิ Mauro Colagreco, Tom Kerridge และ Roberto Galetti จนในปี 2014 เชฟได้เปิดห้องอาหาร Labyrinth นำเสนอการทำอาหารแบบสมัยใหม่ที่ประยุกต์เข้ากับอาหารดั้งเดิมของสิงคโปร์ ห้องอาหารนี้ได้รับรางวัลการันตีมากมายอาทิ “Best New Restaurant” จากนิตยสาร Wine & Dine และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล “New Restaurant of the Year” จากเวที World Gourmet Summit Awards of Excellence ประจำปี 2015 จนกระทั่งล่าสุดได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว เมนูที่เชฟได้ทำในวันนี้เป็นการประยุกต์จากเมนูชื่อดังที่คนไปสิงคโปร์แล้วไม่กินไม่ได้เลย นั่นก็คือ Hainanese Chicken rice นั่นเอง ข้าวมันไก่ที่แปลกที่สุดในสามโลก เพราะเป็นข้าวมันไก่ที่ไม่มีข้าวและไม่มีไก่ !!!  โดยเชฟได้เล่าให้ฟังว่าส่วนที่สำคัญที่สุดของเมนูนี้ คือ น้ำสต๊อกอันเข้มข้น (เข้มกว่าของบ้านเรา) ที่นำมาต้มกับไก่ เชฟจึงนำน้ำสต๊อกผสมกับผงวุ้น นำไปแช่เย็นประมาณชั่วโมงหนึ่ง  ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเค็มแซมหวานเปรี้ยว กับหอมร้อนขิงออกมาปิดท้าย ทำให้ได้รสกลมกล่อม หอมมัน…

Read More

Lady Butcher ร้านสเต็กใหม่คุณภาพพรีเมียมที่ใครหลายคนอาจไม่รู้จักเพราะไม่ได้ตั้งอยู่ในเมือง แต่ทว่าห่างออกไปทางด้านทิศตะวันตกของกรุงเทพฯย่านบางบัวทองนั้นเอง ครั้งนี้ Kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปเอาใจสาวกคนรักเนื้อ… สัมผัสความอร่อยระดับ Premium กับ บุฟเฟ่ต์เนื้อ Dry Aged จากสเปน วันนี้ ที่ “Lady Butcher” เปิดประสบการณ์สุดละมุนลิ้นกับบุฟเฟ่ต์ Galician Beef เนื้อ Dry Aged เกรด Premium นำเข้าจากสเปน ที่คัดสรรมาอย่างดี หั่นและย่างกันสดๆ โดยเชฟ Butcher ชาวฝรั่งเศส เชฟ Janácek เสิร์ฟแบบไม่อั้น เพื่อ Meat Lover ทุกท่านได้อร่อยแบบจุใจในคุณภาพเกินราคา หลังจากใช้พลังทำงานมาตลอดทั้งสัปดาห์ มื้ออาหารดีๆ สักมื้อน่าจะช่วยคลายความเหนื่อยล้าให้กับร่างกายของเราได้ไม่น้อย วันนี้ Kinlakestars จึงอาสาพาไปเติมพลัง ด้วยบุฟเฟ่ต์เนื้อ Dry Aged เกรด Premium นำเข้าจากสเปน ที่ร้าน “Lady Butcher” Steakhouse บรรยากาศดี ย่านบางบัวทอง นนทบุรี ที่ต้องบอกว่าคุ้มค่าการเดินทางแน่นอน ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่ช่วง ”กินแหลก” และ “แจกดาว” เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าว่า เนื้อ Dry Aged คืออะไร Dry Aged Beef (เนื้อดรายเอจ) คือเนื้อที่ผ่านกระบวนการบ่มในห้องแช่เย็นพิเศษ โดยควบคุมความชื้น ความสะอาด และรักษาอุณภูมิให้อยู่ที่ระหว่าง 1-3 องศาเซลเซียส เพื่อให้เอนไซม์ที่อยู่ในเนื้อสัตว์ค่อยๆ ย่อยโปรตีนในชิ้นเนื้อจนเนื้อนั้นมีความนุ่มละมุนและมีกลิ่นที่หอมมากยิ่งขึ้น ในโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ เราจะได้ลิ้มลองรสชาติเนื้อสเปนทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่ Tenderlion, Striploin, Ribeye พร้อมไอศกรีมและเครื่องดื่ม ในราคา 1,900 บาท จำกัดเวลา 90 นาที Tenderloin จะนุ่มที่สุด มันน้อย แต่รสชาติจะค่อนข้างจืดต้องปรุงรส/ซอสเยอะ หากเป็นคนชอบอาหารรสหนัก แต่คอเนื้อจะปรุงแค่เกลือ Striploin…

Read More

อยากทาน Afternoon Tea  อยากหาชุดน้ำชาที่มีสีสวยใสน่ารักน่าถ่ายรูป  อยากเปลี่ยนที่นั่ง เปลี่ยนบรรยากาศ  อยากเปลี่ยนชาดื่มบ้าง  สำหรับความอยากทั้งหมดทั้งมวลนี้ Kinlakestars.com มีคำตอบให้ค่ะ เห็นรูปแล้วบางท่านคงเดาออกแล้วว่าวันนี้เราจะพามาทาน Afternoon Tea กันที่ไหน? ใช่แล้วค่ะ  ที่ Hanuman Bar โรงแรม Siam Kempinski ที่ตั้งอยู่ใจกลางสยามนั่นเอง ที่นี่มีชา Ronnefeldt  ชาคุณภาพจากเยอรมัน ให้เลือกกว่า 60 ชนิด  และสำหรับชาที่ทางโรงแรมแนะนำในวันนี้เป็นตัวนี้ค่ะ  Morgentau – Flavored green tea with mango-lemon flavor อันมีกลิ่นอันหอมหวานน่าลิ้มลอง  และสีของน้ำชาก็มุ้งมิ้งเข้ากันกับชุดน้ำชาในวันนี้มากเช่นกันค่ะ หลังจากเลือกชากันแล้ว ได้เวลามายลโฉมชุดน้ำชาในวันนี้กันแล้วค่ะ โดยชุดน้ำชาชุดนี้ เชฟแฟรงส์  บราวน์ หัวหน้าพ่อครัวเบเกอรี่ได้รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษ  คัดเลือกวัตถุดิบที่มีสีชมพูตามธรรมชาติมาใส่ไว้ในขนมและของหวานเพิ่มความน่ารักน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น  และเพื่อให้เข้ากันกับฤดูร้อนที่เหล่าดอกไม้สีสันต์สวยงามพากันผลิบานกันด้วย Savoury Salmon rillette éclair, beetroot mayonnaise  Chicken & Mushroom vol- au- vent  ของว่างแสนอร่อยสไตล์ฝรั่งเศสไส้เนื้อไก่และเห็ดในชิ้นโวโลวองหนากรอบ Strawberry cheese ball  เป็นที่ชอบใจของคนรักชีสแน่ๆค่ะชิ้นนี้ ภายใต้ขนมปังเนียนนุ่มมี Roasted beef, rocket, caramelized onion ซ่อนอยู่ Sweet   Cinderella cup cake  ในถ้วยเป็นบัตเตอร์เค้กแอบสอดไส้ฉ่ำหวาน  ตกแต่งหน้าด้วยครีมและเมอแรงค์ ชิ้นนี้ทำให้จินตนาการถึงเจ้าหญิงซินเดอเรลล่าตามได้ไม่ยากเลยค่ะ Strawberry cream slice  ขนมเค้กเนื้อนุ่มฟูแซมครีมและชิ้นสตรอเบอรี่สดฝาน ฟินยิ่งนัก Red fruit pavlova pink éclair   Rosella infused honey pear  สีของขนมในถ้วยนี้ดูเผินๆจะนึกถึงบีทรูท  แต่แท้จริงแล้วเป็นสีจากดอกกระเจี๊ยบค่ะ  ตักชิ้นลูกแพร์ทานกันเพลินๆจนหมดถ้วยไม่รู้ตัวเลยค่ะ…

Read More