โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ มีความภูมิใจเสนอการเปิดประสบการณ์รับประทานอาหารครั้งใหม่ โดยได้แต่งตั้ง โฮ คิง ยิป (หรือ เชฟวิคเตอร์) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ชาวจีนคนใหม่ ผู้รังสรรค์อาหารจีนกวางตุ้งเมนูใหม่พร้อมให้ลิ้มลอง ณ ห้องอาหารจีนเหม่ยเจียง ที่เลื่องชื่อด้านอาหารจีนตำรับกวางตุ้ง เชฟวิคเตอร์ได้สั่งสมประสบการณ์มากว่าสามทศวรรษ เขาได้นำความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมอันมากมาย จากประสบการณ์งานครัวที่มีชื่อเสียงมากมายทั่วเอเชีย เช่น “Lung King Heen Kitchen” ระดับมิชลิน 3 ดาว (ในขณะที่เชฟร่วมงาน) ประเทศฮ่องกง และ Shang Palace ที่ไทเป ประเทศไต้หวัน มาสู่การสร้างสรรค์อาหารจีนตำรับกวางตุ้งเมนูใหม่ ยกระดับศิลปะอาหารจีนและสร้างประสบการณ์การทานอาหารที่พิเศษ ที่ห้องอาหารเหม่ยเจียง (Mei Jiang) ในฐานะหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ชาวจีน ความทุ่มเทของเขาในการรักษามาตรฐานอันไร้ที่ติและแนวทางการสร้างสรรค์อาหารจีน ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับในวงการ อาหารจีนกวางตุ้งเมนูใหม่ ที่เหม่ยเจียง เป็นการนำวัตถุดิบเกรดพรีเมียมจากในท้องถิ่นและนำเข้าจากนานาชาติ มารังสรรค์อาหารจีนกวางตุ้ง เสิร์ฟในรูปแบบตะวันตก หรือสไตล์แบ่งปันกับครอบครัว อาทิ กุ้งลายเสือและหมั่นโถวทอดซอสเอ็กซ์โอ ปูจ๋าสไตล์จีน ซุปหอยสังข์ตุ๋นกระเพาะปลาน้ำใส กุ้งมังกรภูเก็ตนึ่งไข่ขาวเหล้าจีน ซี่โครงเนื้อผัดพริกสไตล์เสฉวน และ ข้าวผัดเป๋าฮื้อห่อใบบัว ฯลฯ “ผมรู้สึกตื่นเต้นและยินดีมากที่ได้ร่วมงานกับทีมพ่อครัวและที่มีความสามารถของห้องอาหารเหม่ยเจียง โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ แห่งนี้ ผมมีความมุ่งมั่นในการทำอาหารเพื่อความสมบูรณ์แบบมาโดยตลอด และจะได้นำความหลงใหลในอาหารจีนและอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ใหม่ๆ ของผมมาสู่ห้องอาหารแห่งนี้” เชฟวิคเตอร์กล่าว ความเชี่ยวชาญของเชฟวิคเตอร์ครอบคลุมทักษะการทำอาหารที่หลากหลาย ตั้งแต่การประดิษฐ์อาหารที่ประณีตไปจนถึงบริหารทีมพ่อครัวชั้นนำ ในการสร้างประสบการณ์ยกระดับการรับประทานอาหารด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่น่าจดจำให้กับแขกโรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ ห้องอาหารเหม่ยเจียง โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน มื้อกลางวัน (เสาร์-อาทิตย์) 11.30-14.30 น. และมื้อค่ำ (ทุกวัน) 18.00 – 22.30 น. สำรองที่นั่งและสอบถามข้อมูล กรุณาติดต่อ โทร. 0 2020 6969 หรือ อีเมล diningpbk@peninsula.com Kin…
Author: Nopmanee
บ่ายนี้ ดิฉันและ Kinandleisure จะพาคุณๆท่านผู้อ่านที่เจริญทั้งหลายมาทาน Afternoon tea บนตึกที่สูงเทียมเมฆแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯกัน นั่นก็คือ ที่ห้องอาหาร Vertigo Too ชั้น 60 โรงแรมบันยัน ทรี (Banyan tree Bangkok) นั่นเองคราวนี้เค้าเปลี่ยนเชฟขนมหวานใหม่ ชุดขนมใหม่ คอนเซปลูกเล่นใหม่ๆ ที่ทำให้คุณต้องร้อง ว้าววววว ตามธรรมเนียมแล้ว เรามาเลือกชากันก่อนค่ะ มี 2 แบรนด์ให้เลือก ซึ่งเราขอแนะนำ TWG : Silver Moon ที่รสชาติจะออก Berry Fruity+Vanilla bouquet ผสมกันอย่างลงตัว (1 คน เลือกชาได้ 1 รสค่ะ) จากนั้นไม่นานเลย พนักงานเข็นรถชุดน้ำชาวันนี้มาแล้ว ยิ่งตอนที่มีควันแล้ว ชวนให้นึกถึงสวนสวยในจินตนาการขึ้นมาจริงๆ เราสามารถขอถ่ายรูปคู่กับรถเข็นก่อนได้ด้วยนะคะ แล้วค่อยนำมาจัดวางบนโต๊ะ กับ Background ที่เป็นวิวตึกสูง ไม่มีที่ไหนจะเก๋ไปกว่านี้แล้วล่ะค่ะก่อนอื่นเรามาหยิบแก้วค็อกเทลที่เห็นมีฟองอากาศอยู่ด้านบนนี้ เป่าฟองให้แตก แล้วจิบ Welcome drink กันก่อนเถอะค่ะ แก้วนี้จะประกอบไปด้วยไซรัปกุหลาบเป็นตัวหลัก นางเอกแห่งยุคตั้งแต่ดึกดำบรรพ์เป็นตัวนำนี้จะทำให้คุณผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งลูกเล่นการสร้างฟองขนาดใหญ่บนปากแก้ว ที่พอคุนเป่าหรือจิ้ม ฟองก็จะระเบิดตูมออกมาเป็นควันกลิ่นกุหลาบ แสนหอมหวาน เลิศมากค่ะ โดยเซ็ตอาฟเตอร์นูนทีสุดพิเศษนี้รังสรรโดยเชฟหนึ่ง จตุพร เชฟขนมหวานมากประสบการณ์ของโรงแรม เชฟหนึ่งสั่งสมประสบการณ์ด้านขนมหวานมากว่าหนึ่งทศวรรษ ทำงานในเครือโรงแรมชั้นนำและแบรนด์เบเกอรีชื่อดังมากมาย เชฟหนึ่งได้สรรสร้างขนมอย่างพิถีพิถัน จนมาเป็นขนมหวานสุดน่ารัก ดื่มด่ำกับช่วงเวลาพิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์ ณ เวอร์ทิโก้ทู ที่จะโอบล้อมคุณด้วยบรรยากาศสุดเอ็กคลูซีฟบนชั้น 60 พร้อมให้คุณจิบชาร้อนๆหรือเลือกเป็นม็อกเทลเย็นๆ ก็ดูลงตัวไม่แพ้กัน คลอเคล้าด้วยเสียงเพลงที่จะขับกล่อมให้คุณได้ผ่อนคลาย และด้วยความหิวนี้ ขอเริ่มกันที่ เบิร์ดออฟพาราไดซ์ล็อบสเตอร์แซนวิช Bird of Paradise เป็นของว่างที่มีเนื้อล็อบสเตอร์สดๆมาให้ฉ่ำๆ มาเต็มตลอดขนมปังทรงบาแก๊ตนิ่มๆนี้ ท๊อปด้วยคาเวียร์ได้อีก Melon Bouquet เป็นของว่างที่มองเผินๆอาจจะนึกว่าลูกองุ่นได้ เพราะด้วยสีเขียวสดใสของเค้า แต่หาใช่ไม่ เป็นเมล่อนคว้านเป็นลูกกลมหวานสดชื่น กับครีมชีสฉ่ำๆ ซึ่งควรทานพร้อมกันทั้งชิ้น รสชาติจะพอดี! Organic senses…
โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ชวนคุณมาจิบน้ำชายามบ่ายในธีม “Garden of Senses” ที่จะพาคุณไปสัมผัสความรื่นรมย์ของสวนสวยในจินตนาการ เพลิดเพลินไปกับขนมคาวหวานแสนอร่อยและเครื่องดื่มระดับพรีเมียม คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพมาเสิร์ฟให้คุณได้ลิ้มลอง โดยเซตอาฟเตอร์นูนทีสุดพิเศษนี้รังสรรโดยเชฟหนึ่ง จตุพร เชฟขนมหวานมากประสบการณ์ของโรงแรม เชฟหนึ่งสั่งสมประสบการณ์ด้านขนมหวานมากว่าหนึ่งทศวรรษ ทำงานในเครือโรงแรมชั้นนำและแบรนด์เบเกอรีชื่อดังมากมาย เชฟหนึ่งได้สรรสร้างขนมอย่างพิถีพิถัน จนมาเป็นขนมหวานสุดน่ารักอย่าง แรสเบอร์รีฟิโลทาร์ตไส้วานิลลารสหวานหอม (Flower Raspberry Filo) ชูซ์หงษ์ไส้คาราเมลอัลมอนด์ (White Swan Caramel Choux) และบัตเตอร์ฟลายคาเนเล่ช็อกโกแลต (Canelé Ganache Monte) อีกทั้งยังมีคานาเปรสเลิศ อาทิเช่น เบิร์ดออฟพาราไดซ์ล็อบสเตอร์แซนวิช (Bird of Paradise Sandwich) และลูกเมล่อนในวาฟเฟิลโคน (Melon Bouquet) เป็นต้น ดื่มด่ำกับช่วงเวลาพิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์ ณ เวอร์ทิโก้ทู ที่จะโอบล้อมคุณด้วยบรรยากาศสุดเอ็กคลูซีฟบนชั้น 60 พร้อมให้คุณจิบชาร้อนๆหรือเลือกเป็นม็อกเทลเย็นๆ ก็ดูลงตัวไม่แพ้กัน คลอเคล้าด้วยเสียงเพลงที่จะขับกล่อมให้คุณได้ผ่อนคลาย เตรียมเปิดประสบการณ์ใหม่กับ “Garden of Senses Afternoon Tea” ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 13.00 – 16.00น. ที่ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ทู ชั้น 60 ในราคา 2,200++ บาท ต่อเซต สำหรับ 2 ท่าน
ถ้าคุณเป็นคนชอบกินขนมไหว้พระจันทร์ทั้งไส้ทุเรียนและไส้คัสตาร์ดแล้วละก็ ขอบอกเลยว่าขนมของที่นี่ตอบโจทย์สุดๆ ด้วยความที่เชฟได้นำสูตรการทำขนมไหว้พระจันทร์คัสตาร์ดไข่แดงแบบโรงแรมริมน้ำเก่ากึกแห่งหนึ่งมาผสมผสานกับทุเรียนคุณภาพสูงจนได้เป็นรสซิกเนเจอร์ใหม่ ที่จะต้องถูกใจคนที่ชอบทั้งคัสตาร์ดและทุเรียนอย่างแน่นอนSomphong S.- โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ (InterContinental Bangkok) เตรียมต้อนรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่กำลังจะมาถึงในปีนี้ ด้วยขนมไหว้พระจันทร์รสเลิศระดับพรีเมียมบรรจุอยู่ในกล่องที่มีเอกลักษณ์บ่งบอกถึงความคิดสร้างสรรค์และความพิถีพิถันในการทำขนมไหว้พระจันทร์ เทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นเทศกาลตามวัฒนธรรมของจีนที่มีขึ้นช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง เพื่อแสดงถึงการสิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยว อีกทั้งยังเป็นเวลาที่ครอบครัวรวมตัวกันเพื่อขอบคุณและไหว้พระจันทร์ จึงถือเป็นโอกาสพิเศษสำหรับการเฉลิมฉลองเพื่อมอบขนมไหว้พระจันทร์ให้กับเพื่อนและครอบครัว ขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ประจำปี 2566 นี้ ถูกรังสรรค์โดยการผสมผสานความเป็นไทยได้เป็นขนมไหว้พระจันทร์รสชาติใหม่ที่อร่อยอย่างลงตัว บรรจุในกล่องที่ถูกออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงและความงดงามของพวงมาลัย สัญลักษณ์ของความโชคดี ความนอบน้อม และการให้เกียรติ รูปทรงกลมของกล่องขนมไหว้พระจันทร์ยังสื่อถึงความสมบูรณ์และการได้พบกันอีกครั้ง เรียบหรูในโทนสีฟ้าที่มีลวดลายสีทองสวยงามดุจดั่งเส้นขอบฟ้าระยิบระยับของกรุงเทพฯ ประดับด้วยอุบะดอกรักและดอกจำปีที่ปั้นจากดินอย่างประณีต ขนมไหว้พระจันทร์บรรจุในกล่องรูปทรงพวงมาลัยของโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ นี้ถือเป็นของขวัญที่สมบูรณ์แบบ สำหรับครอบครัว คนพิเศษ หรือเพื่อนร่วมงานสำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ อุบะดอกรักและดอกจำปีที่นำมาใช้ประดับกล่องขนมไหว้พระจันทร์นั้นสร้างเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการต้อนรับอันงดงามของไทย ในขณะเดียวกันยังแสดงถึงความหรูหรา ทันสมัยเข้ากับยุคสมัย นอกจากนี้ สูตรขนมไหว้พระจันทร์ยังถูกรังสรรค์โดยพ่อครัวประจำห้องอาหารจีน ซัมเมอร์ พาเลซ (Summer Palace) เลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพเยี่ยมที่หาได้ภายในประเทศเท่านั้น ถือเป็นสิ่งที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของโรงแรมฯ ในการร่วมสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพสูงของไทยเพื่อลดการนำเข้าและก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดมินิค มาร์ติเนซ (Dominique Martinez) ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ กล่าวว่า “เทศกาลไหว้พระจันทร์ถือเป็นช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่และสะท้อนถึงวัฒนธรรมที่หลากหลายของประเทศไทย ซึ่งปีนี้ โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ นำเสนอขนมไหว้พระจันทร์สูตรโฮมเมดที่ทีมเชฟมากความสามารถของห้องอาหาร ซัมเมอร์ พาเลซ ช่วยกันปั้นขนมไหว้พระจันทร์แต่ละชิ้นด้วยมืออย่างประณีต พิถีพิถัน อบสดใหม่จากเตาทุกวัน ได้เป็นขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อยบรรจุในกล่องรูปทรงพวงมาลัย เหมาะสำหรับมอบเป็นของขวัญให้คนสำคัญในเทศกาลนี้ หรือเพียงรับประทานเพื่อความสิริมงคล” ขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ มี 4 รสชาติ ซึ่งจะมีถึง 2 รสที่ใช้เบสเป็นคัสตาร์ด ด้วยความที่เชฟใหญ่เคยกำกับห้องอาหารเหม่ยเจียงแห่งริมน้ำฝั่งธนบุรีมาก่อน จึงได้สร้างสรรค์ขนมไหว้พระจันทร์สูตรใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากขนมคัสตาร์ดไข่แดงเดิมมาผสมผสานเป็นรสใหม่อีก 2 รสอย่าง คัสตาร์ดทุเรียน และ คัสตาร์ดกาแฟ ได้แก่ คัสตาร์ดทุเรียน คัสตาร์ดกาแฟ ถั่วแดงไข่เค็ม และ เม็ดบัวไข่เค็ม บรรจุในกล่องที่มีให้เลือก 3 แบบ…
การทำขนมไหว้พระจันทร์นั้นถือเป็นสิ่งที่ปฎิบัติกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนานมากกว่าพันปี ทำขึ้นเพื่อเป็นของเส้นไหว้พระจันทร์และเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วงของจีน ซึ่งเทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ชาวจีนเฉลิมฉลองกันมากที่สุด ขนมไหว้พระจันทร์นั้นจะใช้มอบเป็นของขวัญเพื่ออวยพรให้ผู้รับมีความสุข ความเจริญรุ่งเรืองและความอุดมสมบูรณ์ เนื่องในโอกาสพิเศษนี้โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ได้เตรียมขนมไหว้พระจันทร์สูตรพิเศษคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ นำเสนอหลากหลายรสชาติยอดนิยมอย่าง ทุเรียน เม็ดบัว โหง่วยิ้ง พุทราผสมวอลนัท คัสตาร์ด และ มอคค่าคาราเมล เป็นต้น โดยปีนี้เชฟยังได้รังสรรค์ไส้ใหม่ไม่เหมือนที่ไหนคือ ช็อกโกแลตพีนัทบัตเตอร์ อีกด้วย ขนมไหว้พระจันทร์บรรจุในกล่องรูปกระต่ายสวยงาม เหมาะสำหรับเป็นของขวัญให้ กับครอบครัวและคนพิเศษ รีวิวขนมไหว้พรจันทร์ 7 รสชาติ จากโรงแรม Banyan Tree Bangkok ที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ: ไส้ทุเรียน: ไส้ทุเรียนนี้เป็นทุเรียนที่สุกสีสวยงามและหอมหวานมาก ขนมนี้มีลักษณะที่อ่านว่านุ่มและเข้มข้น รสชาติทุเรียนที่หวานและครีมมากจับต้องได้ทันที คุณจะได้รับความสุขจากความหอมหวานและความอร่อยของทุเรียนนี้ รสชาติ 4.5/5 ไส้เม็ดบัวโหง่: ขนมไหว้พรจันทร์ที่มีไส้เม็ดบัวโหง่มีรสชาติหวานอ่อนจากเม็ดบัว และความนุ่มนวลจากไข่เดี่ยว ผิวขนมบางและกรอบ รสชาติเข้มข้นของเม็ดบัวนี่ให้ความพิเศษให้กับขนม รสชาติ 4/5 พุทราผสมวอลนัท: ขนมนี้มีรสชาติหวานจากพุทราและความหอมของวอลนัท รสชาติของไข่เดี่ยวที่นุ่มนวลเพิ่มความครีมให้กับขนม ขนมไหว้พรจันทร์แบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบรสชาติหวานและโรแมนติก รสชาติ 4.5/5 คัสตาร์ด: ขนมคัสตาร์ดนี้มีรสชาติหวานอ่อนจากคัสตาร์ดและไข่เดี่ยวที่นุ่มนวล ผิวขนมบางและกรอบ รสชาติที่ไม่เป็นที่น้อยของคัสตาร์ดนี่จะเป็นทางเลือกที่เยี่ยมในการจบมื้ออาหารแบบหวาน รสชาติ 4/5 มอคค่าคาราเมล: ขนมมอคค่าคาราเมลมีรสชาติหวานจากคาราเมลและความหอมของกาแฟ รสชาติของไข่เดี่ยวที่นุ่มนวลทำให้ขนมนี้เป็นอร่อยมาก รสชาติ 4.5/5 ช็อกโกแลตพีนัทบัตเตอร์: ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ช็อกโกแลตพีนัทบัตเตอร์นี้มีรสชาติหวานจากช็อกโกแลตเข้้าคู่กันเป็นอย่างดี ประดุจเบลและเจ้าชายอสูร หรืออาลดินและจัสมินประมาณนั้นเลยทีเดียว และความนุ่มนวลจากไข่เดี่ยว ผิวขนมบางและนุ่ม รสชาติเข้มข้นของช็อกโกแลตให้ความเยิ้มที่อร่อยมาก รสชาติ 5/5 ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างของความหลากหลายและความอร่อยของขนมไหว้พรจันทร์ในรูปแบบแฟนซี ขนมไหว้พรจันทร์จาก Banyan Tree Bangkok นี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบรสชาติหวานและอร่อยมาก แน่นอนว่าคุณจะต้องชอบ วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม – 29 กันยายน 2566 ที่ห้องอาหารไบยุน และห้องอาหารร่มไทร กล่องเดี่ยว ราคาชิ้นละ 248 บาท แบบกล่อง 2 ชิ้น ราคากล่องละ 788 บาท แบบกล่อง 4 ชิ้น ราคากล่องละ 1,188 บาท แบบกล่อง 8…
หนึ่งในเชฟที่มีชื่อเสียงจากประเทศเกาหลีใต้ ผู้ผ่านประสบการณ์การทำงานจากห้องอาหารและโรงแรมชั้นนำระดับโลกมากมาย เชฟเอ็ดเวิร์ด ควอน (Edward Kwon) พร้อมแล้วที่จะนำเสนอ ‘เอ็ดเวิร์ด ควอน อิน แบงค็อก’ (Edward Kwon in Bangkok) ห้องอาหารเกาหลีสไตล์โมเดิร์น ส่งตรงจากเมืองปูซานสู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 7 กรกฎาคม ถึง 7 ตุลาคม 2566 นี้เท่านั้น เชฟเอ็ดเวิร์ดและทีมเชฟมืออาชีพจากห้องอาหาร ‘LAB XXIV by KUmuda’ ห้องอาหารเกาหลีร่วมสมัย ที่สืบสานวัฒนธรรมการทำอาหารแบบตะวันตกควบคู่กัน พร้อมสร้างความตื่นเต้นผ่านเซ็ตเมนูอาหารเกาหลีแบบ 12 คอร์ส รังสรรค์ผ่านกรรมวิธีการทำอาหารแบบตะวันตกชั้นสูง หากรสชาติแบบเกาหลีคลาสสิกยังคงถูกรักษาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ห้องอาหาร LAB XXIV by KUmuda ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก จากการจัดอันดับของ ‘La Liste 2023’ จากประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในความตั้งใจของเชฟเอ็ดเวิร์ดคือการยกระดับชื่อเสียงของอาหารประจำชาติให้กว้างขวางในระดับนานาชาติ รวมถึงประเทศไทย ผ่านความรักและความเชี่ยวชาญในการทำอาหารตะวันตก โดยให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดในการปรุงและการตกแต่ง เพื่อให้จานอาหารทุกจานออกมาสง่างามน่ารับประทาน และให้ความรู้สึกน่าสนใจเมื่อได้รสสัมผัสของรสชาติแบบเกาหลีคลาสสิกผ่านวัตถุดิบชั้นนำคุณภาพนำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้และทั่วโลก สร้างความประทับใจให้กับแขกทุกท่านราวกับการได้ชื่นชมงานศิลปะชั้นสูงผ่านจานอาหาร เริ่มต้นความน่าประทับใจนี้กับเมนูเรียกน้ำย่อย 5 รายการ เริ่มจาก ‘แซวู จัง’ (Sae Woo Jang) เมนูทาร์ตเล็ทกุ้งหมักโชยุเกาหลีกับยูซุ ตกแต่งด้วยสาหร่ายคมบุขาวกรอบ ‘พุลโกกิ’ (Bulgogi) เมนูยอดนิยมในหมู่ชาวเกาหลีใต้ ส่วนผสมหลักได้แก่ ข้าว ชีสโปรโวโลเน (Provolone) เนื้อหมักซอสถั่วเหลืองเกรดพรีเมียมอายุ 10 ปี รังสรรค์ขึ้นในรูปแบบฟริทเทอร์บอล ประดับด้วยเห็ดทรัฟเฟิลดำ และเมนูยอดนิยมอย่าง ‘ทัคคาลบี้’ (Dakgalbi) ผัดกับซอสโคชูจังเข้มข้น นำเสนออย่างแปลกตาในแป้งครุสตาดสไตล์ฝรั่งเศส เมนู ‘ยู-คเว’ (Yukhoe) เมนูทาร์ทาร์เนื้อวากิวปรุงแบบเกาหลี ที่มีความหมายตรงตัวว่า ‘เนื้อดิบ’ เสิร์ฟบนบริยอชและยกระดับรสชาติด้วยไข่ปลาคาเวียร์และสาลี่จากแหล่งปลูกสาลี่ชั้นยอด และปิดท้ายเมนูเรียกน้ำย่อยด้วย ‘คิมมารี’ (Gimmari) หรือปอเปี๊ยะเกาหลี ประดับด้วยเนื้อปลาโอโทโร่ กิมจิ พันด้วยสาหร่ายทะเลกรอบ และเพิ่มความประณีตของรสสัมผัสด้วยหอยเม่นทะเลนำเข้าคุณภาพดี…
แค่เนยดีทำอะไรก็อร่อย หนึ่งเดียวในไทยที่ใช้เนยที่ดีที่สุดในโลกอย่าง Echire อัญมณีแห่งโลกอาหาร Bijoux de Beurre Echire Chef : Hola : 05 2023 Story : Nopmanee P. , Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Kinandleisure อยากให้ทุกท่านได้มาสัมผัสกับขนมฝรั่งเศสสุดพรีเมี่ยมของร้าน Bijoux de Beurre Echire ร้านขนมฝรั่งเศสย่านใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ที่มีเอกลักษณ์สุดพิเศษคือการใช้เนย Echire ที่ผลิตด้วยการปั่นแบบดั้งเดิมในถังไม้และส่งตรงจากประเทศฝรั่งเศส การันตีการเป็นเนยคุณภาพสูงที่ได้รับมาตรฐานระดับ AOP มีความหอมและละมุนลิ้นที่สามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนจากยี่ห้ออื่น ซึ่งทางร้านได้ใช้เนยนี้เป็นวัตถุดิบสำคัญอย่างไม่มีกั๊ก ร่วมกับฝีมือการรังสรรค์ขนมระดับคุณภาพจากฝีมือของเชฟแชมป์ (Patisserie Rosie) ที่ได้ทุ่มเทสร้างสรรค์ขนมทุกชนิด ทุกเมนู ให้เป็นเมนูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง จากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ร่วมกับความใส่ใจจากทางร้านที่ต้องการมอบประสบการณ์ทางอาหารที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า ทำให้ Bijoux de Beurre Echire เป็นร้านขนมที่น่าตราตรึงใจและพร้อมดึงดูดทุกท่านด้วยมนต์เสน่ห์แห่งเนยและขนมหวานแห่งดินแดนน้ำหอมอันเลื่องชื่อ Bijoux de Beurre Echire เป็นร้านตั้งอยู่ในโครงการ Earth Ekkamai ในซอยสุขุมวิท 63 โดยสามารถขับรถมาได้ตาม Google Map ป้ายร้านสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากป้ายหน้าโครงการ มีที่จอดรถแบบมีค่าบริการพร้อมให้บริการอย่างเหลือเฟือ หรือสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีเอกมัย ซึ่งถ้ามองจากบันไดรถไฟฟ้า เป็นระยะที่มองเห็น เดินถึงได้ไม่ไกล เมื่อเปิดประตูร้านเข้าไป สัมผัสแรกที่ท่านจะได้รับ คือกลิ่นหอมอบอวลจากเนย Echire ความละลานตาของขนมเค้กหลากหลายรูปแบบในตู้ทางด้านซ้าย และด้านหลังยังเป็นครัวเปิดที่เราสามารถมองเห็นเชฟกำลังตั้งอกตั้งใจทำขนมกันอยู่ได้เช่นกัน มีขนมอบหลากหลายรูปแบบในตู้ทางด้านขวา ขณะที่การตกแต่งภายในร้านเรียบง่ายแต่มีความพิถึพิถัน หากแฝงไว้ด้วยความ cozy สบายๆ ในโซนที่นั่งทานขนมภายในร้าน คำอุทานแรกที่ออกมาจากปากคือคำว่า “สวยมาก” มีการจัดโซนที่นั่งได้อย่างสบายตา เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง แบบที่เราสามารถนั่งเม้ากับเพื่อนได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็นได้อย่างไม่มีเบื่อ จากบรรยากาศสบายๆ ของร้าน และขนมหวานคุณภาพสูงที่น่าลิ้มลองทุกเมนู จึงทำให้เป็นร้านขนมในฝัน ทั้งสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน แม่บ้าน(ญี่ปุ่น) กลุ่มเพื่อน(จะได้มาช่วยกันทาน แต่ละชิ้นใหญ่ใช่เล่น…
Chef : penny nodana : 05 2023 Story : Nopmanee P. / Photo : Pol.Capt. Kittin A วันนี้โปรดแต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศแล้วตาม Kinandleisure มาร่วมเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ชาร์ลส์แห่งอังกฤษกันกับชุดน้ำชา British Tea Party ที่จัดขึ้น ณ โรงแรม 137 Pillars Suites & Residences Bangkok อันอยู่ใจกลางซอยพร้อมพงษ์นั่นเอง มาถึงแล้วให้เดินเข้ามาที่ Bangkok Trading Post Bistro & Bar ที่มีธงยูเนียนแจ็ก กับธงสีสันต์ต่างๆประดับอยู่กลางร้านบ่งบอกถึงบรรยากาศเฉลิมฉลองนี้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งร้านนี้มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่โดยรอบทั้ง 3 ด้าน ทำให้ได้รับบรรยากาศของต้นไม้ภายนอกและแสงสว่าง แสงธรรมชาติตลอดวัน ที่โต๊ะของทุกท่าน ในแต่ละที่จะมีชุดจานผูกโบว์แดงน้ำเงินวางบนกระดาษรองจานลายธงยูเนียนแจ็ค เรียกได้ว่าก็ทานกันบนธงยูเนียนแจ็คกันไปเลยสิคะ กับการ์ดเมนูของชุดน้ำชานี้วางอยู่ เราพลิกมาเลือกชากันก่อน ชาแนะนำของที่นี่จะเป็น Mangosteen Anchan Oolong สีเขียวมิ้นท์อ่อนๆ และ Longan Mornga Green ที่เป็นรสผลไม้อ่อนๆ ไม่ตีกับขนม ชานี้ผลิตโดย Monsoon Tea ที่ขึ้นชื่อในด้านการปลูกชาอย่างยั่งยืนจากทางเหนือของประเทศไทย (เลือกชาได้ 1 รส/ท่าน) ในชุดมี Welcome drink เป็น Bramble Thyme Cordial อันซาบซ่านชื่นใจจาก ไซรัปไทม์ โซดา ลูกแครนเบอร์รี่และเจ้าหมีแพดดิงตันที่แปลงกายมาในรูป Jelly bear เกาะอยู่ที่ขอบแก้ว ก่อนดื่มขอแนะนำให้คนให้เข้ากันให้ดีก่อนค่ะ Savoury & Sweet นั้นถูกเสิร์ฟมาในจาน 3 ชั้นแบบดั้งเดิมขนานแท้ เริ่มทานจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน แต่ขณะนี้สโคน Signature ของเชฟเพนนีนั้นกำลังอุ่นๆอยู่ เราจึงขอย้ายไปชิมสโคนกันก่อน สโคน Original นั้นเนื้อแน่น ความชุ่มชื้นของแป้งกำลังดี…
หลีกหนีความวุ่นวายและเปิดประสบการณ์การดื่มไวน์ของคุณไปกับ เดอะริดเลอร์ ไวน์บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ ที่รวบรวมไวน์คุณภาพหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 150 ฉลาก มากถึง 500 ขวด ผ่านการคัดสรรของซอมเมอร์ลิเยร์ (Sommelier) ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ประจำร้านชาวอิตาเลียน ที่ผ่านหลักสูตรไวน์และสั่งสมประสบการณ์ด้านไวน์กว่า 7 ปี อย่าง มร.แอนเดรีย บิสคาโร (Mr. Andrea Biscaro) และอีกหนึ่งความพิเศษเอาใจคอไวน์ ด้วยการเป็นไวน์บาร์ที่เสิร์ฟไวน์ด้วยแก้วและอุปกรณ์จาก “Riedel” ทั้งหมด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ผลิตภัณฑ์แก้วและอุปกรณ์ไวน์ที่มีการออกแบบเหมาะสมกับลักษณะทางขีวภาพขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ ช่วยให้ขับรสชาติและอโรมาได้ขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ได้อย่างดีเยี่ยม ยกระดับอรรถรสในการดื่มไวน์ของคุณให้ดียิ่งขึ้นไปอีกระดับ ในด้านอาหารก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ผ่านฝีมือของเชฟหลักของร้าน ดีกรีผู้ท้าชิงเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย เชฟอิซาโอะ ชินมูระ (Chef Isao Shinmura) ที่สั่งสมประสบการณ์ด้านอาหารจากเมืองนาโกย่ามากว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารยุโรป และความเชี่ยวชาญทางด้านเนื้อ (Butchery) โดยเชฟอิซาโอะได้นำประสบการณ์ที่สั่งสมรังสรรค์ออกมาเป็นอาหารฟิวชั่นญี่ปุ่น – อิตาเลียน หรือที่เรียกว่า “โยโชกุ” (Yoshoku) หรืออาหารตะวันตกที่ผสมผสานสไตล์ญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน โดยยึดหลักการปรุงตามแบบวิถีคนญี่ปุ่น คือปรุงแต่งรสน้อย เน้นรสชาติความอร่อยของวัตถุดิบจากธรรมชาติ สำหรับเมนูไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด อาทิ ตับไก่บดทานคู่กับขนมปังกรอบ คร็อกเก้เนื้อปูและตับปลาอังกิ สปาเก็ตตี้เมนไทโกะ ปลากินดาระย่างฟางเสิร์ฟกับยูซุซอส ข้าวอบหม้อดินเนื้อสไตล์ญี่ปุ่น ลิ้นวัวดรายเอจย่างฟาง รวมไปถึงเนื้อสเต็กหลากหลายส่วนที่เชฟอิซาโอะดรายเอจด้วยตัวเอง และอีกหลากหลายเมนูที่เชฟอิซาโอะคัดสรรมาแล้วว่าเข้ากับไวน์หลากชนิดได้อย่างลงตัว สำหรับภายในร้านได้แบ่งออกเป็น 3 โซน ด้านหน้าของร้านจะเป็น Wine Cellar ซึ่งจัดวางแสดงไวน์คุณภาพจากทั่วทุกมุมโลกมากมายกว่า 500 ขวด พร้อมกับตู้วางขาย โคลด์คัทส์และเนื้อสเต็กดรายเอจที่ทำโดยเชฟอิซาโอะ เชฟหลักของร้าน ให้ลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกซื้อกลับไปทานที่บ้าน โซนที่สองจะเป็นโซนของร้านอาหารที่จำลองเอาบรรยากาศของ ‘Wine Cave’ เหมือนว่าคุณกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในโรงบ่มไวน์ใต้ดิน หากต้องการโซนส่วนตัว ที่ร้านมีส่วนของโซนส่วนตัวในลักษณะของ semi-private room เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ยังคงบรรยากาศความเป็นกันเองอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีบาร์เครื่องดื่ม สำหรับลูกค้าที่ต้องการนั่งดื่มทั้งไวน์และค็อกเทล ร้านเดอะริดเลอร์ ไวน์บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้ โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 23.00…
นางสาวปริม ปัญญาเสรีพร ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกเคทีซี เมื่อชำระค่าบัตรสมาชิกรายปีโรงแรม ดิ แอทธินี คลับ “The Athenee Club” ด้วยบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่าทุกประเภท สมาชิกจะได้รับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 – 31 ธันวาคม 2566 ดังนี้ 1 ) ส่วนลดค่าสมาชิกฯ ทันที 700 บาท (บัตรสมาชิกฯ ราคา 8,000 บาท และ 12,000 บาท) 2 ) Hotel Credit มูลค่า 1,000 บาท 3 ) ส่วนลดเพิ่มอีก 5% จากสิทธิ์ส่วนลดสมาชิกฯที่ 8 ห้องอาหารของโรงแรม ส่วนลดสูงสุดรวม 55% เมื่อชำระค่าอาหารและเครื่องดื่มด้วยบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า (แสดงบัตรสมาชิก ดิ แอทธินี คลับ คู่กับบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า เพื่อรับสิทธิ์ทุกครั้ง) สำหรับ 8 ห้องอาหารที่เข้าร่วมรายการ ประกอบด้วย เรนทรี คาเฟ่ (Rain Tree Café) / ดิ อัลเลียม แบงค็อก (The Allium Bangkok) / เดอะ ซิลค์โร้ด (The Silk Road) / คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์ (Kintsugi Bangkok…