Author: Nopmanee

Chef : เลสลี่ ดูว์ Story : Nopmanee P. Photo : Pol.Capt. Kittin A วันนี้ Kinandleisure.com จะพาไปทานอาหารจีนชิลๆที่ร้านเปิดใหม่แกะกล่อง แต่ฝีมือไม่ใหม่ ด้วยเชฟระดับเทพอันโด่งดังจากห้อง Man Ho, JW Marriott Bangkok ที่ต้องขอบอกว่าเดินทางมาได้ง่ายมาก อยู่ใจกลางย่านราชประสงค์เลย นั่นก็คือร้านอยู่ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อกที่เพิ่งรีโนเวทมาใหม่สดๆร้อนๆ เดินมาจากทางเชื่อม BTS คือชั้นนั้นเลย ไม่ต้องเดินขึ้น-ลงใดๆแล้ว จะเจอป้าย Man Ho Bistro อยู่ เมื่อเดินเข้าร้านมาจะพบกับบรรยากาศสบายๆด้วยบาร์เครื่องดื่มอันละลานตาทางด้านขวา ท่านสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี และแขกทุกท่านสามารถเลือกนั่งแบบชิลๆสไตล์บาร์ตรง ณ จุดๆนี้ได้เลยหากอยากชื่นชมความงดงามและท่วงท่าการชงเครื่องดื่ม ถัดมาทางด้านซ้ายเป็นโซนนั่งรับประทานอาหาร 2-4 คน ที่มีที่นั่งหลากหลายรูปแบบในสไตล์ร่วมสมัย แต่ก็แอบทำให้นึกถึงยุคโมเดิร์นไปด้วย ด้วยความเก๋ของการตัดกันของเส้นสายลายบนพื้น ผนังสีอ่อน ไปจนถึงโคมไฟบนฝ้าเพดาน และโต๊ะทานข้าวไม้ที่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นให้กับห้องนี้ แถมมีครัวแบบเปิดโล่งให้ดูเหล่าเชฟเตรียมอาหารได้ด้วย (ครัวร้อน) ส่วนครัวด้านหน้าร้านที่เห็นจะเป็นครัวเย็น หากมากันมากกว่า 4 คน ครอบครัวเพื่อนฝูงกลุ่มใหญ่ ก็ไม่ต้องเดือดร้อนใจไป ที่นี่ยังมีห้องส่วนตัวอยู่อีก 5 ห้อง บางห้องสามารถเปิดประตูกลาง เพื่อเชื่อม 2 ห้องให้กลายเป็นขนาด 20 คนได้ ซึ่งห้องเหล่านี้จัดเป็นโซนอยู่ลึกเข้าไปในสุดของห้องอาหาร รับประกันความเป็นส่วนตัวได้ดี ตกแต่งด้วยสไตล์ร่วมสมัยเช่นกันแต่ถูกขับด้วยผนังสีส้มแดงมากขึ้น เชฟผู้รังสรรค์อาหารจีนสไตล์โมเดิร์นในร้านนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเชฟเลสลี่ ดูว์ หัวหน้าเชฟอาหารจีนมือฉมังประจำห้องอาหารจีน Man Ho โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ แรงบันดาลใจความอร่อยครั้งนี้มาจากอาหารประจำมณฑลเสฉวนและซานตง ซึ่งเชฟเคยเดินทางไปท่องเที่ยวและได้ลิ้มลองรสชาติแบบท้องถิ่น จนนำมาสู่การรังสรรค์เป็นเมนูอาหารจีนสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ด เชิดชูการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและจัดเสิร์ฟในรูปแบบจานต่อจาน แล้วก็ถึงเวลาของเหล่าอาหารกันแล้ว ที่นี่มีตะเกียบให้คนละ 2 คู่ คู่ขวาสุดเอาไว้เป็นตะเกียบกลาง เราขอนำมาคีบที่จานเรียกน้ำย่อยกันด้วยเมนูเด่นแนะนำ ขาหมูตุ๋นซอสกระเทียม (360 บาท) ขอบอกก่อนว่าจานนี้เป็นเมนูเย็น คนไม่คุ้นเคยกับเมนูนี้อย่างดิฉันก็ได้ลองเป็นครั้งแรก เปิดโลกดีค่ะ ส่วนเพื่อนอีกคนนึงคือบอก นี่แหละรสชาติแบบที่เค้าคุ้นเคยตอนเด็ก เสิร์ฟจัดเรียงมาสวยงามเป็นชิ้น คีบง่ายทานง่าย ขาหมูเย็นตุ๋นซอสกระเทียมแบบจีน”…

Read More

Chef : Jimmy X Alanbeezhoung : 11 2023 Story ์: Nopmanee P. Photo : Pol.Capt. Kittin A ท่านผู้อ่านของ Kinandleisure.com คงสงสัยตั้งแต่หัวเรื่องแล้ว ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาค่อยๆไขคำตอบไปด้วยกันต่อไป ขณะนี้ขอกดลิฟต์ไปที่ชั้น 25 ของ Hotel Indigo Bangkok ริมถนนวิทยุ มีห้องอาหาร Char และวิวตึกสูงอันสวยงามของใจกลางกรุงเทพรออยู่ เป็นที่ๆเหมาะมากที่จะมาในช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกแบบนี้นะเจ้าคะ ปกติแล้วห้องอาหารนี้รังสรรค์โดยเชฟ Jimmy ซึ่งโดดเด่นในด้านการทำอาหารย่าง แต่คราวนี้เป็นโปรเจคพิเศษ 4 Hands Dinner ร่วมกับ เชฟอลัน บีฉวง เอ็กเซคคูทีฟจากห้องอาหารยู่ เหย เป่า ที่กำลังจะเปิดในอีกไม่กี่วันนี้หละค่ะ พบกับรสชาติอันแปลกใหม่ที่ไม่คาดคิดแต่ลงตัวจากวัตถุดิบที่คุ้นเคย ระหว่างการผสมผสานอาหารจีนสไตล์โมเดิร์น เข้าถึงง่ายของเชฟอลัน บีฉวง และอาหารละตินสุดครีเอทีฟในสไตล์ของเชฟจิมมี่ พร้อมกับการถ่ายทอดเรื่องราว และประสบการณ์เดินทางรอบโลกของเชฟทั้ง 2 ท่านที่จะแฝงอยู่ในอาหาร 5-คอร์สนี้ ภายใต้คอนเซป “Borderless Flavours” ว่าแล้วจะรอช้าอยู่ไย เรามาค่อยๆไขคำตอบของความลงตัวนี้กันดีกว่านะเจ้าคะ Salmon Tiradito อาหารสัญชาติเปรู จานนี้ของเชฟจิมมี่นั้นไม่มีวิธีกินที่แน่นอน จะเอาแป้ง Tortillas กรอบมาทานกับปลาแซลม่อนสดสไลด์บาง หรือทานปลาคู่กับเหล่าซอสแล้วมีรสเผ็ดของพริกเจลาปิโนแซมขึ้นมาเล็กน้อยก็อร่อยเช่นกัน จานนี้จับคู่กับแชมเปญ Ernest Rapeneau Brut เป็นจานเรียกน้ำย่อยที่ดีมากจานนึงเพคะ แล้วมา Cold Starter ต่อกันที่ Chino-Latino Duck Salad จานนี้ของเชฟจิมมี่ ใช้วัตถุดิบแห้ง 4 อย่าง ผัก 4 อย่าง ผลไม้ 4 อย่าง Top ด้วย Dark choc 70% sauce ซึ่งจะให้รสที่เข้ากันกับ hoisin sauce ของจีน…

Read More

ต้อนรับศักราชใหม่ด้วยความสุขและความอบอุ่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงกับชุดน้ำชายามบ่ายประจำฤดูกาล “Sense of Tsubaki Afternoon Tea” ที่โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ซึ่งเสนอประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและไม่ลืมได้ที่จะสัมผัสกลิ่นอายของฤดูหนาวผ่านชุดน้ำชายามบ่ายที่เต็มไปด้วยความอร่อยและความโรแมนติก เมื่อเวลาผ่านไปและเข้าสู่ฤดูกาลอันแสนพิเศษนี้ การชิมชายามบ่ายที่นี่จะเป็นการพิเศษที่ไม่เหมือนใคร เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการเฉลิมฉลองความรักและความอบอุ่นที่สุดของปี ขอเชิญคุณมาร่วมสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและความอบอุ่นกับ “Sense of Tsubaki Afternoon Tea” ที่มีราคาเซ็ตละ 1,950++ บาท สำหรับ 2 ท่าน บริการเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ณ ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ อย่าพลาดโอกาสที่จะเพลิดเพลินกับความหรูหราและความอบอุ่นในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก รับประสบการณ์ที่ท้าทายความคิดและเติมเต็มความสุขในสมาธิของคุณกับ “Sense of Tsubaki Afternoon Tea” ที่โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ตอนนี้! ในชุดน้ำชายามบ่ายฤดูกาลนี้ สัญลักษณ์ที่มีความสำคัญและเป็นเอกลักษณ์เด่นของมันคือดอกซึบากิหรือดอกคามิเลีย ที่มีเสน่ห์และเฉดสีแดงชมพูที่น่าหลงใหลอย่างไม่ธรรมดา เหมือนกับดอกกุหลาบ ดอกไม้ที่มีความงดงามและการบานออกมาสวยงาม ดอกซึบากิเป็นสัญลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความหมายของความรักและความผูกพันที่ลึกซึ้ง บรรยากาศที่เงียบสงบและโรแมนติกของชุดน้ำชายามบ่ายช่วยให้คู่รักได้มีเวลาส่วนตัวที่เต็มไปด้วยความสุข พร้อมหลีกหนีจากความวุ่นวายและเร่งรีบของชีวิตประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น คู่รักที่ร่วมรับประทานชุดน้ำชายามบ่ายนี้จะได้สัมผัสถึงความสุขและความอบอุ่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงกันไปตลอดเวลาที่ผ่านมา ‘Sense of Tsubaki Afternoon Tea’ ไม่เพียงแต่ดึงดูดต่อมรับรสเท่านั้น แต่ยังสร้างความประทับใจเมื่อแรกเห็นด้วยสีสันอันสดใส ไฮไลท์อาหารคาวได้แก่ ทาร์ตบรีชีสและแครนเบอร์รี่ ทาร์ตบรีชีสและแครนเบอร์รี่ ‘Sense of Tsubaki Afternoon Tea’ คือความลงตัวที่เต็มไปด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นและความอร่อยที่สร้างความประทับใจได้อย่างแท้จริง! ทาร์ตบรีชีสนี้มีรสชาติหวานนุ่มนวลจากชีสที่ละมุนและครีมบริสุทธิ์ และเสริมด้วยความหวานเบาของแครนเบอร์รี่ที่สดใหม่ การผสมพลิกผันระหว่างรสชาติเข้มข้นและความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละส่วนทำให้รสชาติของทาร์ตนี้มีความน่าติดใจ ไม่เพียงแค่รสชาติที่ดี ทาร์ตบรีชีสและแครนเบอร์รี่ยังมีลักษณะที่เอนไปด้วยความสวยงาม การเรียงรายละเอียดของแครนเบอร์รี่สดใหม่บนชีสเนื้อหน้าเตาทำให้เป็นผลงานศิลปะที่สวยงามและน่าอิ่มใจต่อจิตใจ นอกจากนี้ การเสิร์ฟทาร์ตในบรรยากาศที่เงียบสงบและเรียบง่ายของ ‘Sense of Tsubaki Afternoon Tea’ ยังเพิ่มความพิเศษให้กับประสบการณ์การรับประทานอาหารอย่างมหัศจรรย์ ทั้งหมดนี้ทำให้ทาร์ตบรีชีสและแครนเบอร์รี่ที่ ‘Sense of Tsubaki Afternoon Tea’ เป็นหนึ่งในเมนูที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความอร่อยและความงดงามในทุกๆ เมนูที่มีอยู่ในร้านนี้ แน่นอนว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้งในไม่ช้า! แซนวิชแซลมอนนอร์เวย์พร้อมคาเวียร์ แซนวิชแซลมอนนอร์เวย์พร้อมคาเวียร์…

Read More

พบกับการแสดง Sherlock Holmes ภาคสุดท้าย โดย Nigel Miles-Thomas ย้อนกลับไปในปี 1916 เชอร์ล็อกโฮมส์ เพิ่งกลับมาที่ห้องของเขาที Baker street หลังจากไปร่วมงานศพของด็อกเตอร์วัตสันต์ เขาได้ย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาที่เขาไม่ค่อยได้แบ่งปันกับวัตสันต์มากนัก และยังมีอะไรอีกมากมายที่เขาไม่ได้เปิดเผยออกไป สิ่งที่เขาเก็บซ่อนไว้ รวมไปถึงความรู้สึกลึกๆสำหรับเพื่อนของเขา จินตนาการว่าวัตสันต์ได้ปรากฏตัว โฮมส์ได้บอกเล่าถึงความล้มเหลวนี้และสัมผัสมุมมองจากคดีเก่าๆที่ผ่านมา และบทบาทที่หลากหลายที่เขาได้เผชิญระหว่างการสืบสวน รวมไปถึงผู้หญิงอย่าง Irene Adler และแน่นอน ศาสตราจารย์มอริอาตี้ โฮมส์ได้เจาะลึกลงไปสู่ด้านมืดของเรื่องราวในอดีตของเขาเอง เขาได้เปิดเผยความลับอันน่าสะพรึงระลึกได้ถึงว่าตอนนี้เขาเปล่าเลี่ยวและโดดเดี่ยว ปราศจากเพื่อนสนิทและไร้จุดหมายในยุค new modern and war-ravaged เขารู้สึกประหลาดใจ เช่น เรื่องวัตสันต์ ดูเหมือนว่าเขาได้มาถึงจุดสุดท้ายในช่วงเวลาของเขาแล้ว Nigel Miles-Thomas นั้นเป็นนักแสดงที่ได้รับการยกย่องสำหรับการแสดงบนเวทีและในจอด้วยเสน่ห์ของเขา กว่า 5 ทศวรรษ เคยร่วมงานกับ Steven Berkoff เคยรับบทนำในลอนดอน West End และอีกหลายโรงในอังกฤษ เคยแสดงในอเมริกา ทั่วยุโรปและเอเซีย รู้จักกันดีด้วยบทบาท Dr Who ด้วยความสามารถที่เป็นที่น่าจดจำจึงนำเขามาสู่บทบาทที่โดดเด่นนี้ เขาได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในการแสดงเป็นเชอร์ล็อก โฮมส์ภาคสุดท้ายนี้ One man performance show มีรอบเดียวเท่านั้น ในคืนวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2024 เวลา 18:30 น. Cocktail reception / 20:00 น. เริ่มการแสดงณ ห้องอาหาร Colonnade, The Sukhothai Bangkokบัตรที่นั่งราคา 800 บาท net/คนสำรองที่นั่งได้ที่ : 02 344 8888 หรือทาง LINE @Sukhothaibangkok (มี @ ด้านหน้า) K News Kinandleisure.com Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ…

Read More

Chef : Champ Panichkul : 1 2024 Story : Nathapol K. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Bijoux de Beurre Echire (บิฌูส์ เดอ เบอร์ เอชิเร่) ร้านขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสชื่อดังย่านเอกมัย ซึ่ง Kinandleisure ได้เคยพาทุกท่านไปเยี่ยมชมและชิมขนมอันแสนอร่อยกันมาแล้วนั้น ผ่านไปด้วยเวลาไม่นานเพียงประมาณ 1 ปี ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังสามารถบุกมาเปิดสาขาใหม่พร้อมกับห้าง Emsphere สุดชิค ใจกลางสุขุมวิทได้ แสดงให้เห็นศักยภาพและคุณภาพของร้านที่ยังคงเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี ร้าน Bijoux de Beurre Echire ที่สาขา Emsphere นั้น จะตั้งอยู่ที่ชั้น G ใกล้กับ Gourmet Market โดยลักษณะการตกแต่งร้านใกล้เคียงกับที่สาขาเอกมัย โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และใช้โทนสีขาวฟ้าเป็นหลัก ให้บรรยากาศอบอุ่น สบายๆ แต่มีความโมเดิร์น ที่หน้าร้านยังคงมีน้องวัวสีขาวลายฟ้าคอยยืนต้อนรับอยู่ เดินเข้าไปภายในร้านก็จะพบกับshelfวางขนมปังบางส่วนให้ลูกค้าสามารถเลือกหยิบใส่ถาดได้เอง แตกต่างจากที่สาขาเดิม และด้านข้างก็จะมีเคาน์เตอร์พนักงานคอยให้บริการพร้อมกับขนมอบหอมกรุ่นและบาร์เตรียมเครื่องดื่ม ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่อบขนมโดยมีกระจกใสกั้นไว้ทำให้สามารถมองดูเชฟทำขนมได้อย่างเพลิดเพลิน ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะมีโต๊ะและเก้าอี้สีน้ำตาลและสีขาวสลับฟ้าให้ลูกค้าสามารถเข้าไปนั่งทานในร้านได้ แต่เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างจำกัด จึงมีโต๊ะให้บริการเพียงประมาณ ๘ โต๊ะเท่านั้น หากจะนั่งทานที่ร้านบางเวลาอาจต้องใช้เวลารอโต๊ะหน่อย เนื่องจากมีลูกค้าค่อนข้างเยอะ สำหรับผู้รังสรรค์เมนูต่าง ๆ ของร้าน ก็คือ เชฟแชมป์ พานิชกุล ซึ่งเป็นทั้งเชฟหลักและ Co-owner ของร้าน โดยเชฟแชมป์จบการศึกษาจากโรงเรียนสอนทำอาหารระดับโลกอย่าง Le Cordon Bleu และสั่งสมประสบการณ์มากว่าสิบปี จนมีความเชี่ยวชาญด้านขนมสไตล์ฝรั่งเศสเป็นอย่างยิ่ง โดยยังคงคอปเซปในการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดีเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เนย” ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำขนมสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งแน่นอนว่าทางร้านได้ใช้เนย Echire ซึ่งเป็นเนยเกรดพรีเมี่ยมนำเข้าจากฝรั่งเศสที่มีสัญลักษณ์ AOP (Appellation d’Origine Protégée or Protected Designation of Origin) ซึ่งเป็นตรารับรองที่รัฐบาลฝรั่งเศสได้การันตีว่าสินค้านั้นผลิตในถิ่นกำเนิดและผลิตด้วยภูมิปัญญาดั้งเดิมของสินค้านั้น…

Read More

เรื่อง: กิจกรรมการกุศล – Bangkok Uncovered & Beyond Vol.4วันที่: วันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 16 และ 17 ธันวาคม 2023เวลา : 10.00 – 21.00 นที่ตั้ง: สวนสุโขทัย โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลระดมทุน “Bangkok Uncovered &Beyond” เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาสังคมของ 6 ชุมชนที่ใกล้สูญพันธุ์ในกรุงเทพฯ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ของการเฉลิมฉลองโครงการ โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ และพันธมิตรยอดนิยม รวมถึงกรุงเทพมหานครฝ่ายบริหาร (กทม.) – กองการท่องเที่ยว เตรียมขยายขนาดการจัดงาน จึงมีโครงการอยู่ในขณะนี้ที่เรียกว่า “Bangkok Uncovered & Beyond” และถือเป็นงานที่สี่ของเรานับตั้งแต่ปี 2562 โครงการนี้ได้พัฒนามาจากการสร้างแนวคิด APPEAR เพื่อรักษาชุมชนและวัฒนธรรมที่สูญหายไปทำให้พวกเขากลับมาอีกครั้งผ่านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เราได้ร่วมมือกับการพัฒนาแห่งสหประชาชาติโครงการ (UNDP) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) – กองการท่องเที่ยว ทางโรงแรมสุโขทัยกรุงเทพก็ได้ร่วมมือกันในโครงการนี้เพื่อส่งเสริมกิจกรรมที่ยั่งยืนภายในชุมชนที่สูญหาย 6 แห่งพร้อมทั้งปรับปรุงความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ชุมชนที่ใกล้สูญพันธุ์ 6 ชุมชน ได้แก่ เกาะสานเจ้า บางลำภู หัวตะเข้ บางกระดี่ บ้านบุ และนางเลิ้ง เวิร์คช็อปสร้างสรรค์ศิลปหัตถกรรมไทยโดยช่างฝีมือชุมชน เช่น ว่าวยั่งยืนที่ทำจากใบไม้ลงรักปิดทอง (ลายรถน้ำ) งานปักผ้ามอญ งานหัตถกรรมกระดาษมอญ และ(ไม่) เหมือนกันการวาดภาพเหมือนตนเอง การแสดงดนตรี การเต้นรำ และงานฝีมือที่หายาก เช่น กล้วยแกะสลัก ดอกผงหินวินเทจการทำพวงมาลัย(ปางพวง) ดนตรีมอญ รำชาตรี เรียนรู้สูตรลับจากคุณย่าในชุมชน เช่น ด้ายสีทองและขนมจักร ช้อปปิ้งของขวัญที่ไม่ซ้ำใครหรือเพียงแค่พักผ่อนและปรนเปรอต่อมรับรสของคุณอย่างไม่สิ้นสุดอาหารและขนมอร่อยๆ เช่น คาราเมลมอญและมาร์ซิปันถั่วเขียว ลองขนมเรรายโบราณ เยลลี่ก้อน เค้กก้านบัวแดงนึ่งแบบไทย รับข้อเสนอพิเศษด้วยบัตรกำนัลจากโรงแรมห้าดาวสุดหรูอย่างแท้จริง – The Sukhothai…

Read More

Chef :  เชฟสุจิรา พงษ์มอญ หรือเชฟอ้อม : 11 2023 Story : Nathapol K. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Khaan (ขาล) เป็นร้านอาหารไทยไฟน์ไดน์นิ่งแห่งใหม่ย่านชิดลมของเชฟสุจิรา พงษ์มอญ หรือเชฟอ้อม ผู้ซึ่งเคยได้รับรางวัล Michelin Guide Young Chef Award 2021 และสร้างชื่อเสียงให้กับห้องอาหารต่าง ๆ มามากมาย โดยเชฟได้นำเอาประสบการณ์ในวงการอาหารตลอดเกือบ ๒๐ ปี มาเปิดร้านอาหารของตัวเองแห่งแรกที่แสดงถึงตัวตนของเชฟได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ชื่อร้านก็มาจาก “ปีขาล” ซึ่งเป็นปีนักษัตรของเชฟอ้อม และยังพ้องเสียงกับคำว่า “เล่าขาน” หรือ “กล่าวขาน” ซึ่งเป็นคอนเซปของร้านในการนำเอาเมนูอาหารในท้องถิ่นต่าง ๆ ของประเทศไทย หรือที่เรียกว่าเป็นสตรีทฟู้ด นำเอามาเป็นแรงบันดาลใจ แล้วผ่านกระบวนการคิดและรังสรรค์ขึ้นมาใหม่ในรูปแบบของเชฟอ้อมให้มีความเป็น royal cuisine (from street to royal) และเชฟได้นำมาเล่าขานให้ทุกท่านได้ลิ้มลองโดยยังคงกลิ่นอายดั้งเดิม แต่จะได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนที่ใดอย่างแน่นอน ร้านอาหาร Khaan ตั้งอยู่ภายในซอยสมคิด ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลมและเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ โดยตัวร้านเป็นอาคารสีขาวตัดกับไม้สีน้ำตาลแดงเข้มแบบเรือนไทย โดยมีส่วนของครัวทำอาหารตั้งอยู่ด้านหน้าร้านสร้างความตื่นตาตื่นใจและน่าเพลิดเพลินกับการทำอาหารของเชฟและผู้ช่วยได้คล้ายกับร้านสตรีทฟู้ด แต่จะมีกระจกใสกั้นไว้เพื่อสุขอนามัยและความสะอาด ภายในร้านตกแต่งด้วยลวดลาย ผ้าไหม และงานศิลปหัตถกรรมแบบไทย โดยใช้โทนสีขาว น้ำตาล แดง เงิน และทอง ให้ความรู้สึกเรียบหรูเหมาะกับมาทานดินเนอร์ สำหรับอาหารนั้น เชฟอ้อมได้คัดสรรเอาเมนูที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในท้องถิ่นต่าง ๆ ภายในประเทศไทย นำมาร้อยเรียงเล่าขานให้ทุกท่านได้ลิ้มรสกัน โดยพยายามใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีทั้งคุณภาพและคุณประโยชน์นำมาปรุงอาหารอย่างคุ้มค่าทุกส่วน (zero waste) โดยใช้เทคนิคทั้งแบบไทยและตะวันตก จนได้ออกมาเป็นอาหารทั้งสิ้น ๑๑ คอร์ส โดยในวันนี้เราได้ลองชิมไปถึง ๗ คอร์ส ดังนี้ ๑. ขานรสเลิศตำรับขาล Amuse Bouche Amuse Bouche เป็นคำมาจากภาษาฝรั่งเศส อ่านว่า “อามูส บุช”…

Read More

โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ มีความภูมิใจเสนอการเปิดประสบการณ์รับประทานอาหารครั้งใหม่ โดยได้แต่งตั้ง โฮ คิง ยิป (หรือ เชฟวิคเตอร์) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ชาวจีนคนใหม่ ผู้รังสรรค์อาหารจีนกวางตุ้งเมนูใหม่พร้อมให้ลิ้มลอง ณ ห้องอาหารจีนเหม่ยเจียง ที่เลื่องชื่อด้านอาหารจีนตำรับกวางตุ้ง เชฟวิคเตอร์ได้สั่งสมประสบการณ์มากว่าสามทศวรรษ เขาได้นำความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมอันมากมาย จากประสบการณ์งานครัวที่มีชื่อเสียงมากมายทั่วเอเชีย เช่น “Lung King Heen Kitchen” ระดับมิชลิน 3 ดาว (ในขณะที่เชฟร่วมงาน) ประเทศฮ่องกง และ Shang Palace ที่ไทเป ประเทศไต้หวัน มาสู่การสร้างสรรค์อาหารจีนตำรับกวางตุ้งเมนูใหม่ ยกระดับศิลปะอาหารจีนและสร้างประสบการณ์การทานอาหารที่พิเศษ ที่ห้องอาหารเหม่ยเจียง (Mei Jiang) ในฐานะหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ชาวจีน ความทุ่มเทของเขาในการรักษามาตรฐานอันไร้ที่ติและแนวทางการสร้างสรรค์อาหารจีน ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับในวงการ อาหารจีนกวางตุ้งเมนูใหม่ ที่เหม่ยเจียง เป็นการนำวัตถุดิบเกรดพรีเมียมจากในท้องถิ่นและนำเข้าจากนานาชาติ มารังสรรค์อาหารจีนกวางตุ้ง เสิร์ฟในรูปแบบตะวันตก หรือสไตล์แบ่งปันกับครอบครัว อาทิ กุ้งลายเสือและหมั่นโถวทอดซอสเอ็กซ์โอ ปูจ๋าสไตล์จีน ซุปหอยสังข์ตุ๋นกระเพาะปลาน้ำใส กุ้งมังกรภูเก็ตนึ่งไข่ขาวเหล้าจีน ซี่โครงเนื้อผัดพริกสไตล์เสฉวน และ ข้าวผัดเป๋าฮื้อห่อใบบัว ฯลฯ “ผมรู้สึกตื่นเต้นและยินดีมากที่ได้ร่วมงานกับทีมพ่อครัวและที่มีความสามารถของห้องอาหารเหม่ยเจียง โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ แห่งนี้ ผมมีความมุ่งมั่นในการทำอาหารเพื่อความสมบูรณ์แบบมาโดยตลอด และจะได้นำความหลงใหลในอาหารจีนและอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ใหม่ๆ ของผมมาสู่ห้องอาหารแห่งนี้” เชฟวิคเตอร์กล่าว ความเชี่ยวชาญของเชฟวิคเตอร์ครอบคลุมทักษะการทำอาหารที่หลากหลาย ตั้งแต่การประดิษฐ์อาหารที่ประณีตไปจนถึงบริหารทีมพ่อครัวชั้นนำ ในการสร้างประสบการณ์ยกระดับการรับประทานอาหารด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่น่าจดจำให้กับแขกโรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ ห้องอาหารเหม่ยเจียง โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน มื้อกลางวัน (เสาร์-อาทิตย์) 11.30-14.30 น. และมื้อค่ำ (ทุกวัน) 18.00 – 22.30 น. สำรองที่นั่งและสอบถามข้อมูล กรุณาติดต่อ โทร. 0 2020 6969 หรือ อีเมล [email protected] Kin…

Read More

บ่ายนี้ ดิฉันและ Kinandleisure จะพาคุณๆท่านผู้อ่านที่เจริญทั้งหลายมาทาน Afternoon tea บนตึกที่สูงเทียมเมฆแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯกัน นั่นก็คือ ที่ห้องอาหาร Vertigo Too ชั้น 60 โรงแรมบันยัน ทรี (Banyan tree Bangkok) นั่นเองคราวนี้เค้าเปลี่ยนเชฟขนมหวานใหม่ ชุดขนมใหม่ คอนเซปลูกเล่นใหม่ๆ ที่ทำให้คุณต้องร้อง ว้าววววว ตามธรรมเนียมแล้ว เรามาเลือกชากันก่อนค่ะ มี 2 แบรนด์ให้เลือก ซึ่งเราขอแนะนำ TWG : Silver Moon ที่รสชาติจะออก Berry Fruity+Vanilla bouquet ผสมกันอย่างลงตัว (1 คน เลือกชาได้ 1 รสค่ะ) จากนั้นไม่นานเลย พนักงานเข็นรถชุดน้ำชาวันนี้มาแล้ว ยิ่งตอนที่มีควันแล้ว ชวนให้นึกถึงสวนสวยในจินตนาการขึ้นมาจริงๆ เราสามารถขอถ่ายรูปคู่กับรถเข็นก่อนได้ด้วยนะคะ แล้วค่อยนำมาจัดวางบนโต๊ะ กับ Background ที่เป็นวิวตึกสูง ไม่มีที่ไหนจะเก๋ไปกว่านี้แล้วล่ะค่ะก่อนอื่นเรามาหยิบแก้วค็อกเทลที่เห็นมีฟองอากาศอยู่ด้านบนนี้ เป่าฟองให้แตก แล้วจิบ Welcome drink กันก่อนเถอะค่ะ แก้วนี้จะประกอบไปด้วยไซรัปกุหลาบเป็นตัวหลัก นางเอกแห่งยุคตั้งแต่ดึกดำบรรพ์เป็นตัวนำนี้จะทำให้คุณผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งลูกเล่นการสร้างฟองขนาดใหญ่บนปากแก้ว ที่พอคุนเป่าหรือจิ้ม ฟองก็จะระเบิดตูมออกมาเป็นควันกลิ่นกุหลาบ แสนหอมหวาน เลิศมากค่ะ โดยเซ็ตอาฟเตอร์นูนทีสุดพิเศษนี้รังสรรโดยเชฟหนึ่ง จตุพร เชฟขนมหวานมากประสบการณ์ของโรงแรม เชฟหนึ่งสั่งสมประสบการณ์ด้านขนมหวานมากว่าหนึ่งทศวรรษ ทำงานในเครือโรงแรมชั้นนำและแบรนด์เบเกอรีชื่อดัง​มากมาย เชฟหนึ่งได้สรรสร้างขนมอย่างพิถีพิถัน จนมาเป็นขนมหวานสุดน่ารัก ดื่มด่ำกับช่วงเวลาพิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์ ณ เวอร์ทิโก้ทู ที่จะโอบล้อมคุณด้วยบรรยากาศสุดเอ็กคลูซีฟบนชั้น 60 พร้อมให้คุณจิบชาร้อนๆหรือเลือกเป็นม็อกเทลเย็นๆ ก็ดูลงตัวไม่แพ้กัน คลอเคล้าด้วยเสียงเพลงที่จะขับกล่อมให้คุณได้ผ่อนคลาย และด้วยความหิวนี้ ขอเริ่มกันที่  เบิร์ดออฟพาราไดซ์ล็อบสเตอร์แซนวิช Bird of Paradise เป็นของว่างที่มีเนื้อล็อบสเตอร์สดๆมาให้ฉ่ำๆ มาเต็มตลอดขนมปังทรงบาแก๊ตนิ่มๆนี้ ท๊อปด้วยคาเวียร์ได้อีก Melon Bouquet เป็นของว่างที่มองเผินๆอาจจะนึกว่าลูกองุ่นได้ เพราะด้วยสีเขียวสดใสของเค้า แต่หาใช่ไม่ เป็นเมล่อนคว้านเป็นลูกกลมหวานสดชื่น กับครีมชีสฉ่ำๆ ซึ่งควรทานพร้อมกันทั้งชิ้น รสชาติจะพอดี! Organic senses…

Read More

โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ชวนคุณมาจิบน้ำชายามบ่ายในธีม “Garden of Senses” ที่จะพาคุณไปสัมผัสความรื่นรมย์ของสวนสวยในจินตนาการ เพลิดเพลินไปกับขนมคาวหวานแสนอร่อยและเครื่องดื่มระดับพรีเมียม คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพมาเสิร์ฟให้คุณได้ลิ้มลอง โดยเซตอาฟเตอร์นูนทีสุดพิเศษนี้รังสรรโดยเชฟหนึ่ง จตุพร เชฟขนมหวานมากประสบการณ์ของโรงแรม เชฟหนึ่งสั่งสมประสบการณ์ด้านขนมหวานมากว่าหนึ่งทศวรรษ ทำงานในเครือโรงแรมชั้นนำและแบรนด์เบเกอรีชื่อดัง​มากมาย เชฟหนึ่งได้สรรสร้างขนมอย่างพิถีพิถัน จนมาเป็นขนมหวานสุดน่ารักอย่าง แรสเบอร์รีฟิโลทาร์ตไส้วานิลลารสหวานหอม (Flower Raspberry Filo) ชูซ์หงษ์ไส้คาราเมลอัลมอนด์ (White Swan Caramel Choux) และบัตเตอร์ฟลายคาเนเล่ช็อกโกแลต (Canelé Ganache Monte) อีกทั้งยังมีคานาเปรสเลิศ อาทิเช่น เบิร์ดออฟพาราไดซ์ล็อบสเตอร์แซนวิช (Bird of Paradise Sandwich) และลูกเมล่อนในวาฟเฟิลโคน (Melon Bouquet) เป็นต้น ดื่มด่ำกับช่วงเวลาพิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์ ณ เวอร์ทิโก้ทู ที่จะโอบล้อมคุณด้วยบรรยากาศสุดเอ็กคลูซีฟบนชั้น 60 พร้อมให้คุณจิบชาร้อนๆหรือเลือกเป็นม็อกเทลเย็นๆ ก็ดูลงตัวไม่แพ้กัน คลอเคล้าด้วยเสียงเพลงที่จะขับกล่อมให้คุณได้ผ่อนคลาย เตรียมเปิดประสบการณ์ใหม่กับ “Garden of Senses Afternoon Tea” ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 13.00 – 16.00น. ที่ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ทู ชั้น 60 ในราคา 2,200++ บาท ต่อเซต สำหรับ 2 ท่าน

Read More