Author: Nopmanee

Omakase เปิดใหม่ ย่านสุขุมวิท ที่ไม่ธรรมดาตั้งแต่เชฟ วัตถุดิบ และคอนเส็ป หากคุณเป็นแฟนตัวยงของ Omakase Sushi คงคุ้นเคยกับชื่อร้าน Sugita ที่ได้รับดาวมิชลินในปีเดียวที่เปิด เเละ Gold Medal จากเว็บรีวิวอาหาร TABELOG ณ ประเทศญี่ปุ่น ร้านซูชิที่ดี ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ใน “โตเกียว”หรือที่”กินซ่า” อีกต่อไป วันนี้เชฟ “Riku Toda” เชฟมือขวาของร้าน Sugita อันโด่งดัง ได้มาประจำอยู่ที่นี่ ณ ร้าน Sushi Ichuzu เพื่อเปิดประสบการณ์การรับประทาน Omakase ในรูปแบบที่สดใหม่ ณ ถนนเพชรบุรี สุขุมวิท 39 เชฟ Riku Toda (戸田陸)ผู้ได้รับการบ่มเพาะฝีมือมาอย่างหนักจากปรมาจารย์ซูชิ Hachiro Mizutani เจ้าของร้านซูชิ มิชลิน 3 ดาว Sushi Mizutani ลูกศิษย์อันดับ 1 ของเทพเจ้าซูชิ Jiro Ono ต้นตำหรับเอโดะมาเอะซูชิ เมื่อเข้ามาในร้านจะเห็นสัญลักษณ์เป็นต้นบอนไซตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางให้รู้ว่ามาถูกที่แล้วครับ จากนั้นเลี้ยวเข้ามาด้านในจะพบเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งสามารถเห็นบริเวณที่เชฟทำอาหารได้อย่างชัดเจน พื้นที่เพียงพอต่อการจุ ผู้คนต่อรอบได้ 10 คนตามที่ทางร้านกำหนด โดยมีการเปิดสองรอบเวลา 17.30 และ เวลา 20.30 ครับ ส่วนทางขวาจะมีโต๊ะใหญ่และที่นั่งรับรองให้เตรียมตัวรอก่อนจะเริ่มต้นคอร์สครับ ที่นั่งสำหรับสิบท่านรอบเคาท์เตอร์บาร์ เพื่อให้สามารถชมเชฟขณะเตรียมซูชิได้อย่างชัดเจน และนี่คือเมนูประจำวันนี้ครับ กล่าวคือ omakase จะเป็นเมนูที่ทางเชฟเป็นคนคิด ตามวัตถุดิบที่มีในแต่ละวัน เพราะฉะนั้นหากมาในวันอื่นก็จะได้พบกับเมนูใหม่ๆ ซึ่งอาจจะไม่ซํ้ากับวันนี้ครับ โดยที่ร้าน Sushi Ichizu นี้จะเน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบเป็นหลักโดยเฉพาะ ซึ่งวัตถุดิบส่วนใหญ่ส่งตรงจากตลาดปลา Tsukiji โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น Maguro Shirako Ankimo Uni จวบจนวัตถุดิบในส่วนของหวานก็นำเข้าจากญี่ปุ่นเช่นกัน รับรองได้เลยว่าวัตถุดิบที่ใช้เกรดเทียบเท่ารับประทาน Omakase ที่ญี่ปุ่นแน่นอน ก่อนเริ่มเสิร์ฟเมนูแรก จะมีการเสิร์ฟขิงดองและ…

Read More

หลายคนหากจะนึกถึงอาหารจีนสิ่งแรกๆที่เรามักจะนึกถึงกันเลยคือ ติ่มซำ อาหารคำเล็กๆที่อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศกับความบรรจงสรรสร้างของเชฟ ซึ่งเชฟที่จะทำติ่มซำก็จะทำเพียงติ่มซำเท่านั้นและใช้เวลาฝึกฝนมาไม่น้อยกว่า 3 ปี ขวา : เชฟเจฟฟรีย์ กวาน จากห้องอาหาร Red, Pullman กัวลาลัมเปอร์ ในวันนี้ Kinlakestars.com จะขอพาไปลิ้มลองติ่มซำจากมาสเตอร์ติ่มซำรับเชิญพิเศษ ที่มีประสบการณ์การทำติ่มซำมาเกือบ 20 ปี เชฟเจฟฟรีย์ กวาน ที่ได้บินตรงมาจากห้องอาหารจีน Red ที่มีชื่อเสียง ของโรงแรม พูลแมน กัวลาลัมเปอร์ ซิตี้เซ็นเตอร์ ประเทศมาเลเซีย มาโชว์เมนูขึ้นชื่อระดับเหรียญทอง ในการนี้โดยเฉพาะ ที่ห้องอาหาร Loong Foong โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา (ชื่อเดิมโรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ) ติ่มซำดีๆจับคู่กับชาชั้นเลิศ ที่ในวันนี้ได้มีนักชงชามาชงชาที่จะจับคู่กับติ่มซำให้เราได้ดูด้วยตามขั้นตอนแบบจีนโบราณที่เริ่มตั้งแต่ น้ำแรกสำหรับปลุกป้านดินเผาให้มีชีวิต แล้วจึงเริ่มใส่ใบชาลงไป การล้างถ้วยชาที่ใช้วิธีหมุนไปรอบๆแบบฮกเกี้ยน แล้วน้ำต่อๆมาถึงได้ชาชั้นเลิศมาลิ้มลอง อาจารย์ต้น จากบ้านชาจีน ได้มาสาธิตการชงชาแบบจีนโบราณ เหล่าของนึ่งที่จะจับคู่กับ ชาทิกวนอิม ชาที่เป็นที่โปรดปรานขององค์พระจักรพรรดิ์มาก่อน ถูกปลูกใกล้ๆกับมณฑลกวางตุ้งแหล่งกำเนิดของติ่มซำ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และชานี้ยังช่วยชะล้างไขมัน ความมันจากติ่มซำได้ด้วย จึงนิยมนำมาทานคู่กัน ทีนี้เราก็มีทั้งติ่มซำดีๆและชาชั้นเลิศพร้อมแล้ว มาเริ่มมื้อนี้กันเลยดีกว่าค่ะ ด้วยเหล่าของนึ่ง ฮะเก๋ากุ้งหน่อไม้ฝรั่ง ฮะเก๋ากุ้งเนื้อเด้งในแป้งห่อจีบบางใสสีขาว ที่เวอร์ชั่นนี้ของเชฟได้แอบใส่หน่อไม้ฝรั่งลงไปด้วย และหยอดกุ้งขาวลงไปเยอะ ขนมจีบกุ้งเห็ดหอม การผสมกันที่ลงตัวของหมูและกุ้งในห่อแป้งเกี๊ยวสีเหลืองทอง ท๊อปด้วยไข่กุ้งจำนวนไม่น้อย ชวนให้ดูน่ากินยิ่งขึ้น ฮะเก๋าหมึกดำหอยเชลล์ ชิ้นนี้ขอให้ลืมฮะเก๋าแบบเดิมๆไปแล้วมาลองชิ้นนี้กันค่ะ ห่อสีดำโดดเด่นด้วยแผ่นแป้งที่ผสมหมึกดำกับไส้ข้างในที่เป็นเนื้อกุ้งล้วนๆ ท๊อปด้วยเนื้อหอยเชลล์ด้านบน แล้วคุณจะลืมฮะเก๋าแบบเดิมๆไปทีเดียวเลยล่ะ ซาลาเปาชาโคลไส้ลาวาไข่เค็ม ไส้ไข่เค็มสีเหลืองทอง ซาลาเปาชาโคลสีดำลูกกระทัดรัดแต้มทอง สอดไส้ลาวาไข่เค็มมันๆที่รสกำลังดี ไม่หวานไปและที่เชฟแอบกระซิบมาว่าเอาไปอบมาก่อนลาวาจึงไม่เหลวไป และเหล่าของทอดก็ทยอยกันมา ฟองเต้าหู้ทอดไส้กุ้ง กุ้งเป็นตัวๆผสมกับใบกุ้ยช่ายเล็กน้อยสอดไส้อยู่ในฟองเต้าหู้แผ่นบางทอดกรอบกำลังดี เพิ่มรสชาติอีกนิดด้วยบ๊วยเจี่ย กุ้งทอดซอสเซี่ยงไฮ้ เกี๊ยวหมูผสมกุ้งเนื้อแน่นเต็มคำทอดมากำลังดี และยังมีแผ่นแป้งกรอบชิ้นโก้เก๋ช่วยเพิ่มเทกเจอร์อีกด้วย ด้วยหน้าตาและรสชาติทานแล้วอาจจะสับสนว่านี่เหมือนเกี๊ยวญี่ปุ่นเลย ซึ่งสองชาตินี้เค้าก็ได้รับอิทธิพลกันไปมา แต่ของจีนนี้เชฟได้เฉลยว่าข้างในจะใส่ซอสน้อยกว่า ได้รสที่พอดีกว่านั่นเอง เกี๊ยวกุ้งทอดซอสวาซาบิ แผ่นเกี๊ยวทอดกรอบ (กรอบมาก) ห่อไส้กุ้ง ทานคู่กับมายองเนซผสมวาซาบิเจือจาง ที่คนไม่ชอบวาซาบิก็น่าจะลองได้ค่ะ เผือกทอดไส้หมูพริกไทดำ เผือกทอดและไส้หมูพริกไทดำที่หนักพริกไทดำสมชื่อ แต่ไม่ฉุน กับผิวแป้งกรอบๆที่ผิว …

Read More

หากท่านเคยได้รับชมรายการ IronChef ครั้งล่าสุด แน่นอนว่าต้องคุ้นเคยกับชื่อของเชฟคนนี้ “เชฟมุ้ย ปรเมธ ประสานศักดิ์” เชฟมุ้ย ปรเมธ ประสานศักดิ์ ผู้ชนะการแข่งขัน Iron chief Thailand เชฟมุ้ย ปรเมธ ประสานศักดิ์  ฉายา King Of The Modern Japanese Cuisine ผู้ชนะการแข่งขัน Iron chief Thailand จากการประกวดในโจทย์ของ Modern Japanese โดยจะมีวัตถุดิบกำหนดให้ในแต่ละเมนู ซึ่ง Theme ของการแข่งครั้งนี้คือ “เครื่องใน” นั่นเอง โดยเชฟนั้นเนรมิตวัตถุดิบเครื่องในชนิดต่างๆจัดเป็น course เสิร์ฟให้กรรมการได้ลิ้มลอง จนสามารถคว้าชัยมาได้ ตอนนี้อาหารเหล่านั้นพร้อมเสิร์ฟถึงคุณแล้วในราคาสบายกระเป๋า ณ  The Lobby Lounge Bangkok Marriott Hotel The Surawongse แห่งนี้ จานเดี่ยว 250 บาท Full Course 450 บาท เท่านั้น โดยสามารถสั่งอาหารได้จาก Lobby Lounge ของโรงแรมได้โดยตรงเลย พนักงานของโรงแรมที่นี่ทุกคนต้อนรับด้วยรอยยิ้ม และมารยาทที่ฝึกอบรมมาดีมากครับ ตรงนี้ให้ดาวเลย ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวาง นั่งสบาย บรรยากาศเปิดโล่ง และประดับด้วยไฟตกแต่งสวยงาม ภายในสงบเรียบร้อย ไม่ถึงกับเงียบสนิท แต่ไม่ถึงกับจอแจเกินไป ถือว่านั่งรับประทานอาหารได้อย่างเพลิดเพลินครับ ซึ่งการประกอบด้วยแสงธรรมชาติ และแสงภายในอาคาร อาจจะถูกใจนักถ่ายรูปอาหารหลายๆท่านอีกด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าเชฟได้รังสรรค์เมนูอะไรบ้างเพื่อเอาชนะการแข่งขัน และนำมาดัดแปลงเป็นอาหารเมนูใดให้ท่านลิ้มลองกัน First Kiss เมนูแรก ซึ่งในรายการได้ให้วัตถุดิบคือ “ผ้าขี้ริ้ววัว” โดยเชฟได้นำมาดัดแปลงให้เป็น scallops แทนเพื่อให้ง่ายต่อการรับประทานมากขึ้น หอยเชลล์ที่มีการ burn มาเล็กน้อยให้มีความหอมของกลิ่นย่างแต่ยังมีความ นุ่มฉ่ำอยู่ มาพร้อมกับไข่ปลากรุบๆ sour cream และ ponzu jelly ช่วยเพิ่มรสชาติให้ได้อย่างลงตัวมาก ในส่วนของแตงกวา และ radish…

Read More

ติ่มอาหารเหลารสเข้มข้น ค็อกเทลไม่มีจาง บน Rooftop สุดหรูชมวิวกรุงเทพยามค่ำคืนกับแกล้ม Midnight Dim-Sum กับราคาแสนเบาๆ ณ Yào Restaurant & Rooftop Bar, Marriott Surawong Bangkok หากพูดถึงอาหารจีน คนส่วนใหญ่อาจจะติดภาพความโบราณ รสชาติจำเจ ที่กินกันอยู่ทุกปีโดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ อาจทำให้คิดไม่ออกว่าจะนำอาหารแบบนี้มากินหรูๆบน Roof top ให้เข้ากันได้อย่างไร จึงอยากเชิญท่านมาลองพบกับ  “เย่า เรสเตอรองท์ แอนด์ รูฟท็อป บาร์” (Yào Restaurant & Rooftop Bar) ร้านอาหารจีนและเอาท์ดอร์บาร์ บนชั้นสูงสุดของโรงแรม Bangkok Marriott Surawong  เป็นแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่หยิบยกเอาความคลาสสิคแบบจีนมานำเสนอในมุมมองใหม่ ให้ทันสมัยและเปี่ยมด้วยสไตล์ ภายในตัวร้านแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ร้านอาหารจีนบนชั้น 3 เสิร์ฟอาหารกวางตุ้ง และเซี่ยงไฮ้และรูฟท็อปบาร์บนชั้นดาดฟ้าของตัวตึก โดยวันนี้เราจะพาไปชมในส่วนของรูฟท็อปบาร์ด้านบนซึ่งเป็นบาร์เปิดโล่งตกแต่งสไตล์จีนโมเดิร์น ซึ่งลักษณะของภัตตาคารจะตกแต่งด้วยกระเบื้องและ เฟอร์นิเจอร์สไตล์จีนแทบจะทั้งหมด โดยมีการใช้สีที่อยู่ในโทนเข้มไม่สดจนเกินไป ทำให้รู้สึกถึงความเรียบหรูในที โดยที่นี่สถานที่มีความกว้างขวางและมุมมองรอบด้านที่สวยงาม โดยเห็นทั้งวิวเมืองและวิวแม่นํ้า โดยมีลมพัดคลอ ดนตรีเบาๆ ทำให้นั่งชิวได้เรื่อยๆ ยิ่งเมื่อถึงช่วงกลางคืนจะเห็นทิวทัศน์ของไฟหลากสีในกรุงเทพสวยงามเป็นอย่างมาก บรรยากาศจัดมาเต็มขนาดนี้ อาหารต้องไม่น้อยหน้าเช่นกัน และนี่คือหน้าตาของอาหารที่เราสั่งมารับประทานในวันนี้ครับ SHRIMP WANTON WITH SZECHUAN PEPPER SAUCE 298.- เริ่มต้นด้วยเกี๊ยวกุ้งขนาดพอดีคำ 6 ชิ้น ซึ่งถือว่ากำลังพอดี เมื่อกัดลงไปจะรู้สึกถึงความกรุบกรอบของกุ้งสดๆเป็นอย่างแรก ตามมาด้วยความหอมและเผ็ดร้อนเบาๆของซอสเสฉวน และพริกไทย เหมือนเป็นการเปิดต่อมรับรสของลิ้นก่อนรับประทานอาหารเมนูต่อๆไป ซึ่งโดยรวมเป็นเมนูที่กินได้โดยไม่เลี่ยนแน่นอน และไม่ได้มีความเผ็ดแบบพริกทั่วไป คนไม่รับประทานเผ็ดน่าจะสามารถรับประทานได้ครับ CRISPY FRIED CRAB ROLL 278.- ตามมาด้วย หอยจ๊อปูซอสบ๊วย เป็นออเดิร์ฟที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารจีน เมนูพื้นที่เห็นได้ทั่วไป แต่กลับเป็นการเตรียมพร้อมที่คู่ควรกับ การสั่ง ด้วยความกรอบของเนื้อสัมผัสฟองเต้าหู้ตั้งแต่คำแรกที่กัด และเนื้อปูแน่นๆที่อัดอยู่ภายใน ทานพร้อมนํ้าจิ้มบ๊วยเพิ่มความกลมกล่อมได้อย่างลงตัว DAIKON CAKE…

Read More

ด้วยสิทธิพิเศษของคนอ่านและ Kinlakestars.com เราจะไปแอบดูเชฟสาธิตการทำอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นมื้อนี้ให้ดูคนละจานกันก่อนวันจริงค่ะ ซึ่งการสาธิตนี้ได้จัดขึ้นที่ Issaya Siamese Club ห้องอาหารไทยย่านสาธรที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของห้องอาหารแห่งนี้ก็มักจะมีของทานเล่นมาให้เราได้ทานกันไปพูดคุยกันไปก่อนจะเริ่มมื้อจริงกันค่ะ ดอกบัวอันเป็นสัญลักษณ์ของห้องอาหาร Sra Bua by Kiin Kiin ก็ได้ถูกนำมาด้วย ใจกลางของดอกบัวเป็นปูผัดผงกะหรี่ เนื้อปูเต็มๆกับรสผงกะหรี่กำลังดีจำนวน 1 คำถ้วน ท่ามกลางก้ามปูสีแดงอมส้มอันน้อยใหญ่ มีชิ้นปอเปี๊ยะล็อบสเตอร์ แป้งกรอบบางเฉียบม้วนมาเป็นท่อนเล็กๆจนคิดถึงขนมทองม้วน และด้านในสอดไส้เนื้อล็อบสเตอร์มา ดูเผินๆจะนึกว่าชิ้นนี้เป็นเบอเกอร์จิ๋ว แต่แท้จริงแล้วเป็นไก่สะเต๊ะ มีไก่ทอดกรอบ มีชิ้นหอม รวมๆแล้วเปรี้ยวหวานสดชื่นดีค่ะ และยังมีแผ่นกรอบๆด้านล่างเปลี่ยนเทกเจอร์ปิดท้ายให้ด้วย ชิ้นนี้เสิร์ฟมาแบบควันหอมฉุยในครอบแก้วมาเลยค่ะ ไส้อั่วไก่ ไส้กรอกรมควันชิ้นโต โดดเด่นด้วยรสสมุนไพรซาบซ่านขึ้นมา งานนี้เชฟทั้งสามท่านร่วมกันเฉพาะกิจเพื่อรังสรรค์และโชว์ทักษะฝีมือการปรุงอาหารไทยแนวใหม่ ที่ใช้เทคนิคในการทำแตกต่างออกไปตามสไตล์ของแต่ละคน โดยนำเสนออาหารทั้งหมด 6 เมนู ซึ่งได้ผ่านการรังสรรค์ขึ้นมาอย่างปราณีตและปรุงรสมาอย่างพิถีพิถัน พร้อมใส่ไอเดียและนวัตกรรมใหม่ๆเพิ่มเข้าไป เป็นการเปลี่ยนหน้าตาของอาหารจานนั้นๆให้แตกต่างไปจากอาหารไทยจานเดิมที่เราคุ้นเคย ช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยไปกับอาหารจานพิเศษที่ไม่สามารถหารับประทานที่ไหนได้ ส่วนสาธิตการทำอาหารวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันด้วยเชฟเบิ้มค่ะ กับอาหารเรียกน้ำย่อยแบบชาววัง “แสร้งว่าปลา” ที่เชฟได้แรงบันดาลใจมากจาก “แสร้งว่ากุ้ง” อาหารไทยโบราณตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยส่วนแรกเชฟจะเริ่มจากการนำไข่ปลาค็อดลงไปคลุกเคล้าในหม้อตั้งเตา ใส่กระชาย ตะไคร้ เมล็ดพริกไทย น้ำกะทิ ใบกะเพรา และเครื่องปรุงอื่นๆ แล้วตักออกมาใส่หนังปลาค็อด อีกส่วนหนึ่ง น้ำยำ จะนำสมุนไพรต่างๆ รากผักชี พริกสด น้ำมะกรูด น้ำมะนาว น้ำตาลมะพร้าว ลงไปตำให้เข้ากันในครก เติมเกลือ น้ำตาล อีกเล็กน้อย นำเนื้อปลาค็อดที่นำไปแช่แข็งไว้หนึ่งคืน จนวันรุ่งขึ้นเอาออกมาหั่นเป็นชิ้นๆ ฝานแตงกวาเป็นชิ้นบางๆมารอง จานนี้ถึงแม้ว่าเชฟจะเปลี่ยนส่วนผสมหลักให้เป็นเนื้อปลาค็อดแทน ก็ไม่ได้ทิ้งลายของแสร้งว่าเลยแม้แต่น้อย รสชาติยังคงโดดเด่นด้วยความเปรี้ยวของน้ำมะนาว ความกลมกล่อมหอมของสมุนไพรต่างๆ ยังคงความเป็นยำอยู่โดยครบถ้วน จานที่ 2 อาหารจานหลัก จากเชฟเอียน กับแกงขี้เหล็ก ที่นำเนื้อโคขุนโพนยางคำ เนื้อไทยโกเบเกรดพรีเมี่ยม ระดับ A5 มาทำ ตอนนี้เชฟจะขอมาจัดการกับพระรอง อย่างแกงขี้เหล็กกันก่อน ด้วยใบขี้เหล็กสดนั้นต้องการการลวกน้ำ 3-4 รอบ…

Read More

Sra Bua by Kiin Kiin นำเสนออาหารไทยไฟน์ไดน์นิ่ง สไตล์โมเดิร์นที่น่าสนใจ ทั้งรูปลักษณ์ รูปแบบการนำเสนอ วัตถุดิบชั้นเลิศ และแน่นอนที่สุดว่ายังคงความเป็นรสชาติของอาหารไทยอย่างที่เราคุ้นเคยกันอยู่  ภายใต้การรังสรรค์มาอย่างพิถีพิถันโดยเชฟเฮนริคและเชฟชยวีร์ สุจริตจันทร์  ซึ่งทำให้ห้องอาหารแห่งนี้ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาวมาแล้วเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมานี้เอง อีกทั้งยังได้เป็นร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย  (Asia’s 50 Best Restaurant) ติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปีในปี 2557 และ 2558 ในวันนี้ Kinlakestars.com จะพาไปผจญภัยตื่นตาตื่นใจไปกับเมนูสุดสร้างสรรค์ชุดใหม่ สำหรับฤดูหนาวที่จะถึงนี้  โดยเชฟได้แรงบันดาลใจมาจากทั้งในประเทศไทย อาหารไทยจานที่เชฟชอบ และจากที่เดนมาร์กบ้านเกิดของเชฟเอง ภายใต้บรรยากาศของห้องอาหารอันน่ารื่นรมย์ที่เน้นการตกแต่งส่วนใหญ่ด้วยไม้สีน้ำตาลเข้ม ไม้ต่อเป็นลายฝาปะกนที่เพดาน หลังคาทรงหน้าจั่วประดับลายไทยสีทองที่ทำให้ดูโมเดิร์นมากขึ้น และที่ขาดไม่ได้คือสระบัวลอยดอกบัวสีขาวสวยงามอยู่กลางร้าน ก่อนที่เราจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ เชฟได้เตรียมเมนูให้ทานรองท้องกันเบาๆก่อน ที่เล้าจ์ของห้องอาหารเอง ทางขวามือ ซึ่งขอบอกเลยค่ะว่ามีหลายตัวเลยที่น่าสนใจ และคุณจะแอบคิดอยู่ในใจว่าเชฟนำมาจับคู่ให้เข้ากันได้อย่างน่าประทับใจได้ยังไงกันเนี่ย? . ท่านผู้อ่านลองทายดูกันนะคะ ว่าชิ้นไหนเป็นก้อนถ่านจริงๆ กับชิ้นไหนที่ทานได้? ที่ทานได้จะเป็นเมอแรงก์ผสมคาร์บอนสีดำสนิทเนื้อพองฟูที่ไม่หวาน  ให้ทานคู่กับวาซาบิครีมที่จะได้รสวาซาบินิดเดียวให้พอเผ็ดๆตามแบบเค้าขึ้นมา หลายคนคงสงสัยเหมือนกับดิฉันตอนแรก นี่ขนมครกคาร์เวียร์นี่มาได้ยังไงกันนะ  แต่มาได้ค่ะ เข้ากันได้ดีเลยทีเดียวด้วยเนื้อขนมครกที่มีกะทิเยอะแยะแอบมีเกลือ Sea salt ซ่อนอยุ่ทำให้ชิ้นนี้มีรสเค็ม แล้วไปป๊ะกับคาร์เวียร์ออนท๊อปค่ะ เป็นการจับคู่กันด้วยของไทยๆพื้นบ้านกับของฝรั่งที่หรูหรา นับว่าสร้างสรรค์ดีค่ะ อันนี้มาในถ้วยกะละที่เค้านำมาวาดลวดลายใส่สีสันต์สวยงาม คล้ายกับที่เราเห็นเขานำมาขายนักท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ใส่เปลือกหอยนางรมที่มีน้ำซุปสีส้มน้ำต้มยำ  กับผักชุบแป้งทอดกรอบๆ ให้ทานคู่กันได้รสเปรี้ยวๆดีค่ะ ในวันนี้ห้องอาหาร Sra Bua by Kiin Kiin จัดโต๊ะได้สุดดีจริงๆค่ะ  ได้ใจสาวๆอย่างเรายิ่งนัก เพราะทั้งโต๊ะถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็นไฮเดรนเยียร์ ทิวลิป และช่อดอกไม้พร้อมการ์ดลายเซ็นต์ของเชฟเฮนริคให้เราได้ถือกลับบ้านไปด้วย หรือแม้แต่กระถางใบน้อยตรงหน้าที่เต็มไปด้วยดอกเดซี่และเบญจมาศสีขาว มีหลอดสีน้ำตาลเข้มปักอยู่ ยังเป็นน้ำตะไคร้ที่ออกหวานหอมนุ่มนวลให้เราได้ดื่มกันด้วย ในถ้วยใบใสมีดอกบัวสีขาวลอยน้ำอยู่ดอกหนึ่ง ตรงกลางซ่อนยำปลาแซลม่อนรสเปรี้ยวกลมกล่อม ซาบซ่านด้วยขิงเป็นพระรอง  ท๊อปด้วยข้าวเกรียบกรอบแผ่นบางมีรูเหมือนฝักบัว จานนี้เป็นความรู้สึกเกี่ยวกับการมาถึงเมืองไทยครั้งแรกของเชฟ ต้มโคล้ง อาหารไทยโบราณในรูปแบบใหม่ในวันนี้ เสิร์ฟมาก่อนด้วยถ้วยเปล่าๆอุ่นๆ เทน้ำซุปลงไปทำให้ถ้วยนี้มีรสเค็มๆของปลาแห้งและร้อนซาบซ่านอยู่ในตัว ทานกับหัวล็อบสเตอร์ย่างให้ได้ตักได้ขูดมันสีส้มๆออกมา ที่ต้องบอกว่า มันดีมากเลยค่ะ  บนฝาไม้ไผ่สานมีส่วนเนื้อล็อบสเตอร์วางแผ่มาแบบดิบๆที่มีการเติมมะนาวมาแล้ว…

Read More

ปีนี้ฤดูใบไม้ร่วงได้มาถึงอีกครา ฤดูที่มีอาหารหลากหลายชนิดที่มีรสชาติถูกปากคนญี่ปุ่น จนมีคำกล่าวว่า “ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เจริญอาหารมากขึ้น” เนื่องด้วยวัตถุดิบที่หาง่าย มีรสชาติอร่อย ซึ่งปีนี้ห้องอาหาร Takumi มีเมนูพิเศษที่เชฟยามาชิตะ จากโรงแรมสวิสโฮเต็ล นันไก โอซาก้า ได้บินมาเตรียมให้สำหรับ ชุดไคเซกิ A la carte และบุฟเฟ่ต์ ค่ะ Kinlakestars.com พาทุกท่านมาที่ห้องอาหาร Takumi ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ตั้งอยู่ ณ โรงแรม Swissotel Bangkok Ratchada กับเทศกาลอาหารญี่ปุ่นต้อนรับฤดูใบไม้ร่วง ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 7 ตุลาคมนี้เท่านั้น ก่อนอื่นเรามาเรียกน้ำย่อยกันก่อนเลยด้วย KIKKA NO OHITASHI เห็ดชิเมจิและดอกเบญจมาศ ผักปวยเล้งทั้งใบและก้านให้ความกรุบกรอบ  กับเห็ดชิเมจิ ในน้ำซุปปลาแห้งหอมๆ กับดอกเบญจมาศกลีบสีเหลืองที่ทานได้ เสิร์ฟมาพร้อมควันคลุ้งแบบเย็น จานนี้ถูกเสิร์ฟเป็นจานแรกเพื่อแสดงถึงความสดชื่นเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ช่วยต้อนรับเราเข้าสู่มื้อได้ดีจริงๆค่ะ Sashimi SHAKE KOMBU JIME แซลมอนในซอสโทสะ จานนี้เนื้อปลาแซลแล่เป็นชิ้นบาง มีเยลลี่ใสๆสีเขียวอ่อนทำจากน้ำส้มสายชูผสมสาหร่ายคอมบุ พริกหยวกสีๆหวานๆชิ้นเล็กชิ้นน้อย ที่จะช่วยรักษาความชุ่มฉ่ำ ความหวานสดของปลา รสชาติให้ออกมามากขึ้น อยู่ได้นานและนุ่มขึ้น A la carte : 160 บาท Broiled Dish Highlight! KAMASU MATSUTAKE YAKI เห็ดมัตสึตาเกะย่างและปลาคามาซึ ปลาคามาซึ กับเห็ดมัตสิตาเกะ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาของฤดูใบไม้ร่วง ที่มีให้ทานกันแค่ฤดูนี้เท่านั้น และยังเป็นยาอายุวัฒนะอีกด้วย จานนี้เชฟได้นำเนื้อปลาคามาซึย่างมากำลังดีมาก เนื้อละเอียดมัน รสปลาสดโดยมีเห็ดมัตสึตาเกะสอดไส้อยู่ตรงกลาง ให้ทานกับเม็ดเกลือและบีบมะนาวลงไปซักเล็กน้อย ดีมากมายค่ะ GAMO ROSUNI NEGI SOSU อกเป็ดในซอสต้นหอม อกเป็ดถูกเคี่ยวมากำลังอร่อย มีความชุ่มฉ่ำอยู่ในตัวและหอมมากค่ะ หอมแม้กระทั่งตอนอยู่ในปากทานคู่กับซอสต้นหอมที่ช่วยเน้นรสเป็ดมากขึ้น ช่างเข้ากันได้ดีเหมือนที่เชฟคิดไว้เปี๊ยบ และยังเป็น signature dish จาก Swissotel Nankai, Osaka ด้วย A la carte : 120 บาท KURI…

Read More

แต่ไหนแต่ไรมา “ช็อกโกแลต” เป็นของโปรดของคนทุกเพศทุกวัย เริ่มมาตั้งแต่วัยเด็ก การได้รับช็อกโกแลตซักแท่งนึงจะทำให้มีความสุขมาก เพราะมันทั้งอร่อยหอม หวานๆขมๆปะปนกันไป บางแท่งผสมถั่ว ผลไม้แห้ง จนไปถึงเหล้ารัม บางคนชอบแบบ White, Milk, Dark นี่ยังไม่นับรวมไปถึงว่าช็อกโกแลตนั้นมาจากส่วนไหนของโลกอีกด้วยที่ทำให้มีรสชาติแตกต่างกันออกไป และวิธีการทำซึ่งก็สำคัญมาก เพราะเค้าเป็นตัวที่ sensitive มาก จะโดนความร้อนมากไปก็ไม่ได้ ต้องทำในห้องที่อากาศเย็นๆ และยังมีปัจจัยสำคัญอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย วันนี้ Kinlakestars.com จะพาไปดู Chocolatier ชื่อดังแห่งยุค Paul A Young เจ้าของหนังสือ ‘Adventures with Chocolate’ ที่ชนะรางวัล The World’s Best Chocolate Book  ที่จัดขึ้นโดย Gourmand Cookbook Awards ในปารีส และยังได้รับรางวัลเหรียญทองด้านช็อกโกแลตและรางวัลพิเศษสำหรับช็อกโกแลตเทียร์ที่โดดเด่นที่สุด จาก International Chocolate Awards และรางวัลอื่นๆอีกมากมาย  เป็นเจ้าของร้านช็อกโกแลตในกรุงลอนดอน เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน Academy of Chocolate Awards อีกด้วย บัดนี้เขาได้มาสาธิตการทำช็อกโกแลตให้ดูและให้ชิมอยู่ตรงหน้านี่แล้วค่ะ  Milk, Malt and Salt คือชื่อของเมนูที่เราจะได้ดูกัน  เริ่มจากการทำตัวบราวนี่ นำเนย น้ำตาล ไซรัป ใส่หม้อคนตั้งไฟจนเริ่มมีฟองเกือบเดือด ยกหม้อมาวางพักบนผ้า ใส่ช็อกโกแลตลงไป คนๆให้เข้ากัน ตอกไข่ใส่ลงไปทีละฟอง คนให้เข้ากัน แล้วใส่แป้ง เค้าบอกแป้งอะไรก็ได้จริงๆเพราะใส่ให้เนื้อมันเกาะกันได้เหนียวขึ้นเท่านั้น  เทใส่พิมพ์ เคาะไล่ลมออก เข้าเตาอบ 25 นาที นำหม้ออีกใบมาตั้งไฟใส่ไซรัป น้ำผึ้ง ช็อกโกแลต Valrhona คนจนเนื้อหนืดมากขึ้น ให้เป็นสี Toffee light ตั้งกระทะอุ่นไซรัป จนฟองขึ้นเต็ม แล้วพอ ตั้งกระทะใส่ Cocoa nips ลงไปอุ่นในกระทะแค่พอไหม้นิดหนึ่ง แล้วเปลี่ยนใส่อีกภาชนะหนึ่งเพื่อไม่ให้โดนความร้อนมากเกินไป ใส่ ไซรัปเมื่อกี้ลงไปหน่อยนึงก่อน รีบคนให้ทั่ว ใส่ cocoa…

Read More

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักการกิน รักการทำอาหาร คอยติดตามข่าวคราวเกี่ยวกับเชฟมิชลินเสมอๆ ซึ่งเชฟแต่ละคนนั้นมีเทคนิควิธีการทำอาหารเฉพาะตัว ใช้วัตถุดิบที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะภูมิภาคภูมิประเทศที่เชฟอาศัยอยู่  อาหารที่ทำออกมาได้เทกเจอร์ให้รสชาติมีความหอมเฉพาะตัวแบบนี้แบบนั้นในตอนที่ได้ทาน อีกทั้งมีการนำเสนอที่สวยงาม น่ารับประทาน หากคุณเคยสงสัยมั้ย? ว่าเชฟทำได้ยังไง? ถ้าเคย การมางาน Masterclass จะเหมาะกับคุณมากค่ะ วันนี้ Kinlakestars.com ได้มางาน Masterclass ของเชฟจอง โฮ คิม (Jeong Ho Kim) เชฟมิชลิน ★★ (2 ดาว)และ เชฟฮัน ลี กวง (Han Li Guang) เชฟมิชลิน ★ (1 ดาว) ชมสาธิตการทำอาหารและชิมอาหารจากเชฟคนละ 2 เมนู จากงานยิ่งใหญ่ประจำปีถูกใจนักชิมอย่างงานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลก World Gourmet Festival ครั้งที่ 19 ที่จัดขึ้นที่โรงแรมอนันตรา สยาม เป็นประจำทุกปี เชฟจอง โฮ คิม ★★  จบการศึกษาจาก Korea Culinary Art & Science High School  ออกเดินทางท่องเที่ยวและมุ่งหน้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อสั่งสมประสบการณ์  โดยเริ่มต้นทำงานที่โรงแรมไฮแอท รัฐเนวาดา และฝึกงานที่ห้องอาหาร MOTO ในชิคาโก ที่ซึ่งทำให้เขาหลงใหลในศิลปะการทำอาหารขั้นสูง หรือ Fine Dining และในปี 2009 เชฟคิมได้เดินทางกลับสู่บ้านเกิดที่ประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับทีมเปิดห้องอาหาร Jungsik ที่กรุงโซล และที่นิวยอร์ก ในฐานะ Executive Chef ผุ้รับผิดชอบในการพัฒนาเมนูของร้านและการบริหารในครัว  โดยเน้นการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพและควบคุมมาตรฐานรสชาติอาหารให้สม่ำเสมอ วันนี้มี Yukhoe เป็นเมนูแรกที่เราจะได้ชมและชิมกัน โดยเชฟได้ปรับเอาอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิมผสมกับอาหารฝรั่งเศส  เป็นการตีความใหม่ให้มีความโมเดิร์นมากขึ้น  แต่เดิมนั้นยูเคะเป็นอาหารสตรีทฟุ้ด เป็นการนำเนื้อดิบมาทำอาหารเหมือนกับ Tartare นั่นเอง และเชฟจะนำการทำคิมบับมาผสมผสานกับเมนูนี้ด้วย เริ่มจากการนำแป้งข้าว น้ำตาล น้ำและเกลือ มาใส่รวมกันในหม้อตั้งไฟ คนไปพร้อมกับตอกไข่ใส่ไปทีละฟอง คนไปเรื่อยๆไม่งั้นจะเหนียวเกินไป  เมื่อได้ที่แล้วนำลงมาพักไว้ นำสาหร่ายแผ่นที่ปราศจากการปรุงรส ไปเข้าเครื่อง Hydrate…

Read More

วันนี้ Kinlakestars.com ขอพาทุกท่านเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ ดื่มด่ำไปกับมนต์เสน่ห์แห่งอาหารเหนือ อาหารอีสาน อาหารใต้และอาหารแบบภาคกลาง ด้วยวัตถุดิบชั้นดีและหายากกับการพลิกแพลง มีลูกเล่น มีชั้นเชิง จากเชฟริน-รสริน ศรีประทุม แห่งห้องอาหารศิลาดลกันค่ะ ภายในมีบรรยากาศแบบห้องอาหารกลางสระบัว ขนาบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาเป็นแสงหลัก ทำให้ห้องอาหารแลดูสบายตาสว่างตา                  เชฟริน-รสริน ศรีประทุม จานแรกขอพาทุกท่านบินขึ้นเหนือไปกันก่อนเลยค่ะ ที่จังหวัดเชียงใหม่ จุดหมายยอดนิยมของหลายๆคน ซึ่งอาหารขึ้นชื่อมากๆอย่างหนึ่งในวันนี้เป็น นำ้พริกหนุ่ม แคปหมู ดอกดาหลา บนจานแก้ว  มาเป็นชิ้นพอดีคำด้วยนำ้พริกหนุ่มที่มีความหอมของเครื่องอยู่ในตัวรสเปรี้ยวมะนาวนำบนแคปหมูชิ้นบาง กรอบฟูที่ได้ทั้งเทกเจอร์และเสียงกรุบกรับอยุ่ในปาก ท๊อปด้วยดอกดาหลาสีชมพูสวยซอยเป็นเส้นเล็กๆ คออาหารอีสานคงรู้จักจานนี้กันดี ก้อยเนื้อ ถูกวางมาบนใบตองสีเขียวเข้มใส่กระด้งใบเล็กมาเสิร์ฟให้ตรงหน้า เป็นเนื้อวากิวดิบคลุกเคล้ากับเหล่าใบสะระแหน่ โหระพา หอมแดงที่ปลูกจากในสวนของที่นี่เอง เราจึงได้ทั้งความสดใหม่และรสของสมุนไพรออกมาอย่างเต็มที่ เปรี้ยวและเผ็ดนิดหน่อย มีการนำชิ้นวุ้นว่านหางจระเข้มาช่วยทำให้จานนี้มีรสที่กำลังดีมากขึ้นด้วยค่ะ หากเราจะเคยชินกับการกินกุ้งแม่น้ำย่างกับน้ำจิ้มซีฟุ้ดกันแบบเดิมๆ คราวนี้มาลอง กุ้งแม่นำ้ย่าง หลนเคยสด กันบ้าง  เราขอรับรองว่าอร่อยไม่แพ้กันเลยล่ะค่ะ กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ย่างมากำลังดีราดหลนมาเสร็จสรรพ พร้อมให้เราตักทานกันได้เลย ยิ่งส่วนหัวนะคะ ตักทานขึ้นมาเป็นหลนกับความมันของมันกุ้งก็ฟินไปอีกแบบ จะทานเนื้อกุ้งกับหลนก็พอเหมาะพอควรกันดี  มีมะม่วงสับเปรี้ยวๆกับดอกกระเจียวให้ทานคู่กันด้วยค่ะ ต้มสายบัวหัวกะทิ ทันทีที่ได้ยินชื่อก็ชวนให้นึกถึงคุณยายกับคุณแม่ที่บ้านที่ชอบทานกันมาก เป็นอาหารภาคกลางโบราณจานหนึ่งที่นับว่าหาทานกันได้ยากแล้ว  แต่จานนี้มีความแตกต่างอยู่ค่ะ แรกเริ่มเลยที่นำมาเสิร์ฟตรงหน้าเป็นจานที่จัดเรียงมาแบบชวนให้นึกถึงชายทะเลเพราะมีทั้งหอยแครงสีขาว หอยตัวจริงสีส้มกับเหล่าสายบัวสีเขียวที่ถูกหั่นมาเป็นชิ้นน่ารัก  แล้วเทน้ำซุปในกาลงไปจนพอท่วม ให้คนก่อนเพื่อให้เครื่องแกงเข้ากันดี จึงจะได้จานนี้ที่มีรสนวลละมุน น้ำซุปหอมเครื่องแกงที่มีทั้งพริกไทยโขลกกับกะปิ ให้ตักชิ้นสายบัวไปพลาง และหอยตัวจริงคือ Japanese cockles ที่เป็นชิ้นใหญ่  เนื้อเหนียวหนึบกำลังดีไปพลาง ชิ้นหัวหอมที่มีความจงใจไม่ให้สุกมากที่เราสามารถสัมผัสได้ ส่วนหอยแครงสีขาวเมื่อกี้นั้นได้ละลายไปอยู่ในน้ำซุปแล้วนั่นเองค่ะ แอ๊บปลาหิมะ ที่เริ่มด้วยการที่เชฟยกหม้อดินเผาออกมาอุ่นกันให้ดู เปิดห่อใบตองออกมาแล้วราดน้ำปู๋ลงไปเพราะรสชาติของชิ้นนี้อยู่ที่น้ำนี่นั่นเอง ปลาหิมะชิ้นใหญ่เนื้อละเอียดและสมุนไพรต่างๆที่ชวนให้นึกถึงความเป็นป่าอยุ่ครามครัน หลามเห็ดป่า และดอกไม้พื้นบ้าน  เห็ดป่าในที่นี้นั้นคือเห็ดเผาะที่หากินได้ยากนั่นเอง เพราะออกปีละหนเท่านั้น ผิวกรอบแตกต่างจากเห็ดอย่างอื่นนัก มิน่าคนข้างๆถึงได้ติดใจนัก กับดอกไม้พื้นบ้านคือดอกชมจันทร์  ที่มีสรรพคุณแฝงเป็นยาระบายด้วย ในถ้วยไม้ไผ่ใบนี้มีรสนวลๆด้วยส่วนผสมหลักเป็นกะทินั่นเอง แกงใต้เมืองนคร โดดเด่นด้วยหมูติดซี่โครงชิ้นกำลังดีในน้ำแกงสีเหลืองขมิ้นที่เผ็ดแบบชาวใต้แท้ๆ เสริมทัพด้วยเม็ดขนุนชิ้นโตที่คงเปรียบเสมือนมันฝรั่งแบบสตูว์ของฝรั่งนั่นเอง  ชิ้นกล้วยเล็บมือนางของดีทางใต้ที่จะมีความเหนียวหนึบเฉพาะตัวซ่อนอยุ่และยังช่วยกลบความเผ็ดได้ดีด้วยค่ะ ข้าวหมาก ข้าวเม่า ที่มาเป็นไอศกรีมในถ้วยไม้ไผ่ลำเล็กน่ารัก  ที่เชฟเผยว่านำข้าวหมากไปหมักไว้ 1 คืนเท่านั้น แล้วก็แอบใส่ชีสลงไปด้วย…

Read More