Author: Nopmanee

ความเป็นมาของเปรโก้เปรโก้ คือตัวตนซึ่งเป็นที่รู้จักมายาวนานของชายผู้อยู่เบื้องหลัง เชฟมาร์โค บอสกาอินี (Chef Marco Boscaini) วิสัยทัศน์ของเขากลายเป็นความจริงเมื่อเขาเปิดห้องอาหารเปรโก้สาขาแรกบนเกาะสมุย ณ โรงแรมอมารี เกาะสมุย เมื่อ 19 ปีก่อน นับแต่นั้นเป็นต้นมา เปรโก้กลายเป็นแบรนด์ซึ่งเป็นที่รู้จัก ด้วยมาตรฐานระดับโรงแรมอมารี ภายหลังความสำเร็จที่สวยงามของห้องอาหารเปรโก้ เกาะสมุย ห้องอาหารเปรโก้ แบงคอก ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อเดือนเมษายนปี 2022เปรโก้ แบงคอก นำเสนออาหารอิตาเลียนร่วมสมัย โดยมีที่นั่งทั้งโซนนอกอาคาร และโซนห้องปรับอากาศ มีบาร์และเลานจ์เครื่องดื่มครบครัน และยังมีพิซซ่าเตาถ่านแบบต้นตำรับ ด้วยเมนูสุดพิเศษที่รังสรรค์โดยเชฟมาร์โค เปรโก้เสิร์ฟทั้งอาหารอิตาเลียนเมนูโปรด พร้อมเมนูปราศจากกลูเตน และเมนูพิเศษสำหรับเด็ก เมนูที่เปรโก้หลากหลายเมนูที่มีให้เลือกสรร สะท้อนประสบการณ์ที่เชฟมาร์โคสั่งสมมาตลอดระยะเวลาหลายปี โดยมีทั้งเมนูที่เชฟโปรดปราน ตั้งแต่พาสต้าเส้นสดใหม่ ไปจนถึงพิซซ่า และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ที่ห้ามพลาด คือ “ริซอตโต อัลลา มอนทานารา” (Risotto Alla Montanara) ริซอตโตรสชาติเข้มข้นด้วยครีมและส่วนผสมที่ลงตัว ปิดท้ายด้วยไข่ดิบยกระดับความอร่อยอีกขั้น ความพิเศษของเมนูนนี้การันตีด้วยรางวัล ‘100 ริซอตโตที่ดีที่สุด’ (100 Best Risottos) จากหนังสือ ‘i Risotti’ โดย Gribaudo Riso Gallo ที่รวบรวมริซอตโตรสเลิศจากทั่วทุกมุมโลก อีเวนท์ที่เปรโก้พบกับชิกเคติหลากหลายเมนูทุกค่ำคืนวันพฤหัสบดีและศุกร์กับ Cicchetti Night แขกที่มาจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารทานเล่นสไตล์อิตาเลียน พร้อมจิบเครื่องดื่มเมนูโปรดเพื่อผ่อนคลายช่วงท้ายวัน นอกจากนี้ เปรโก้ แบงคอกยังจัด Social Hour ช่วงพิเศษสำหรับการสังสรรค์ทุกวันอาทิตย์ – วันพุธ เวลา 17:00 – 19:00 พร้อมโปรโมชั่น 1 แถม 1 เหมาะเป็นสถานที่พักสมองหลังจากวันอันยุ่งเหยิง การฉลองที่เปรโก้เปรโก้คือห้องอาหารที่เหมาะกับการฉลองในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อค่ำสบายๆ หรืองานอีเวนท์ ด้วยสถานที่ตั้งสะดวกสบายใจกลางเมืองและที่นั่งกว้างขวางทั้งโซนภายในและภายนอกอาคาร สามารถรองรับงานเลี้ยงส่วนตัวและการฉลองได้หลากหลายรูปแบบ เปรโก้มุ่งสร้างประสบการณ์ให้แขกของทางร้านนึกถึงเมื่อต้องการอาหารอิตาเลียนชั้นเลิศ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย พรสวรรค์และความรักในอาหารของเชฟมาร์โค คือสิ่งที่ทำให้เปรโก้ แบงคอกไม่เหมือนใคร เพลิดเพลินกับอาหารมื้อต่อไปกับเรา เพราะไม่มีอะไรสานสัมพันธ์ได้ดีเท่าอาหารอีกแล้วห้องอาหารเปิดให้บริการทุกวันเวลา…

Read More

ต้อนรับวันอาทิตย์อันสดใส ด้วยการพาครอบครัวไปรับประทานบรันช์คุณภาพสุดประทับใจ ดื่มด่ำกับวิวริมแม่น้ำสุดสบายตา กับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมอาหารสุดพรีเมียมอันหลากหลาย ที่พร้อมให้บริการอย่างมีคุณภาพ สดใหม่และคุ้มราคา โดยเชฟฝีมือคุณภาพ นำทีมโดยเชฟฟิลลิป เทย์เลอร์ Executive Chef แห่งโรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพ การเดินทาง และบรรยากาศ Next 2 Café ตั้งอยู่ที่โรงแรม แชงกรี-ลา กรุงเทพ โดยสามารถเดินทางอย่างสะดวกได้โดยรถยนต์ มีที่จอดรถโรงแรมให้บริการ หรือเดินทางโดยเรือด่วนธงเหลือง (Yellow Flag) หรือโดยสารรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสะพานตากสินก็สะดวกเช่นกัน โดยห้องอาหารตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างริมน้ำ มองออกจากห้องอาหารจะเห็นท่าเรือของโรงแรม และแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศสดชื่นสบายตา โดยสามารถเลือกนั่งได้ทั้งภายในห้องอาหาร หรือนั่งข้างนอกฝั่งริมแม่น้ำก็บรรยากาศดีเช่นกัน บรรยากาศโดยรวมของร้าน ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย แสงแดดยามกลางวันส่องถึง การจัดที่นั่งของทานร้านจัดได้อย่างเป็นระเบียบโดยที่ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด การจัดสเตชันอาหารมีการแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจนตามประเภทหรือเชื้อชาติอาหาร สามารถเข้าถึงได้ง่าย และเดินกลับมายังโต๊ะอาหารได้ง่าย ไม่ว่าจะนั่งอยู่ส่วนใดของห้องอาหาร ภายในมีการตกแต่งอย่างสวยงาม การจัดสถานที่เป็นโซน ๆ ทำให้ง่ายต่อการเดินไปตักอาหาร ต้อนรับมื้ออาหารสุดประทับใจ ด้วยบรรยากาศอันสวยงาม และอาหารสุดพรีเมียมให้เลือกสรร แพคเกจนี้พร้อมให้บริการและต้อนรับท่านด้วย Lobster Thermidor ล็อบสเตอร์เทอร์มิดอร์ เสิร์ฟร้อนๆ กลิ่นชีสหอมๆ มีรสชาติกลมกล่อมกำลังดี ด้วยชีสและล็อบเตอร์คุณภาพ สมควรลองรับประทานด้วยประการทั้งปวง รวมทั้งในแพจเกจจะเสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่ม คือ Prosecco (โปรเซคโก้) หรือเครื่องดื่มม็อคเทล 1 แก้ว เพื่อเรียกความสดชื่นและกระตุ้นความสดใสให้กับร่างกาย นอกจากนี้ ยังมีน้ำดื่ม และเครื่องดื่มร้อน อย่างชาหรือกาแฟพร้อมให้บริการ Cold cuts สำหรับท่านที่ต้องการเปิดมื้ออาหารด้วยการเรียกน้ำย่อย ทาง Next 2 Café ก็ได้เตรียมสเตชัน Cold cuts อาทิ ชีส แฮมและขนมปังเพื่อเป็นการเตรียมท้อง โดยมีทั้งขนมปังประเภทต่าง ๆ แครกเกอร์พร้อมเครื่องเคียงต่าง ๆ รวมถึงแฮม โปรสชุตโต้ และซาลามิ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่เมนูอาหารมื้อหลักของวันนี้ ต้อนรับวันอาทิตย์อันสดใส ด้วยอาหารทะเลสดใหม่ที่กินได้ไม่อั้น ทั้งขาปูยักษ์ชิลี กุ้ง และหอยนางรมตัวใหญ่ ทั้ง ฟิน…

Read More

สิ้นสุดการรอคอยกับห้องอาหาร Maison Dunand และ Alpea ห้องอาหารใหม่โดยเชฟ Arnaud ซึ่งตั้งอยู่ ณ อาคารบ้านโครงไม้ 2 ชั้น ซ่อนตัวอยู่ในสาทรซอย 10 เป็นสถานที่ที่เชฟ Arnaud Dunand ตัดสินใจแกะสัมภาระของเขาและสร้างกระท่อมหลังเล็ก ๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชาเล่ต์อัลไพน์ที่พบในภูมิภาค Savoie ของฝรั่งเศสอย่างน่าอัศจรรย์ซึ่งเขาใช้เวลาของเขา ช่วงเยาวัยเด็กที่น่าจดจำ ร้านอาหารซิกเนเจอร์ของเชฟ Arnaud, Maison Dunand นำเสนออาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางของเขาทั่วโลกโดยยึดมั่นในรากเหง้าของเขาใ นเขตเทือกเขาแอลป์ที่สวยงามของซาวัวและ แคว้นบริตตานีทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส โดยที่เขาใช้เวลาช่วงวันหยุดที่ยอดเยี่ยมกับพ่อของเขา Maison Dunand หมายถึงบ้านของ Dunand ดังนั้นแขกทุกๆคนจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นสู่ “บ้าน” ของเขาและ สัมผัสประสบการณ์มื้ออาหารที่สร้างแรงบันดาลใจโดยเชฟ Arnaud Maison Dunand ผสมผสานผลผลิตจากทั้งสองอย่างภูเขาและมหาสมุทร มันคือการเดินทางของการทำอาหารระหว่างภูมิภาคอัลไพน์ที่สวยที่สุดคือซาวัวและบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกของบริตตานี ที่กว้างขวาง ปลาเทราท์หลากหลายชนิดจากทะเลสาบอัลไพน์แบบดั้งเดิมโบฟอร์ตชีสและซาวอยอันโด่งดังอื่น ๆ ผลิตผลได้รับการคัดเลือกและเน้นย้ำผ่านอาหารของ Maison Dunand รวมทั้งเต็มรูปแบบอาหารทะเลสดๆจากชายฝั่งบริตตานี ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันคืออัลพีอาที่เป็นมิตรและต้อนรับจุดหมายปลายทางของนักชิมที่มีสูตรและรสชาติในวัยเด็กของเชฟ Arnaud ในซาวอย Alpea นำเสนออาหารที่ซื่อสัตย์และเป็นของแท้เกี่ยวกับต้นกำเนิดการทำอาหารของ Piedmont ทางประวัติศาสตร์และอาณาจักรซาวอย พื้นที่กว้างใหญ่ตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงตอนกลางของสวิตเซอร์แลนด์ เมนูได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูอาหารที่ชวนให้นึกถึงเชฟ Arnaud หวงแหนในขณะที่เขาอยู่ในความอบอุ่นของเขาและกระท่อมถ้ำในซาวอยในชาเล่ต์หลังเล็กๆ ของเรา มุมหนึ่งได้กลายมาเป็นร้านขายของชำที่จำหน่ายผลผลิตคุณภาพสูงนำเข้าจาก Savoie เช่น Cold cuts, dry พาสต้าทำมือ น้ำส้มสายชู และไวน์ ร้านขายของชำคือ ปลายทางที่ไม่มีใครเทียบสำหรับคนรักชีสตั้งแต่มีห้องเก็บชีสที่น่าประทับใจจัดเก็บกว้างที่คัดสรรจากฟาร์มเฮาส์และชีสช่างฝีมือจาก ซาวอย ขนมอบ ขนมปังทำเองคุกกี้ และเบเกอรี่อื่นๆ ก็มีที่นี่. Maison Dunand และ Alpea ยังเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่ผู้คนสามารถใช้เวลาในสวน ซื้อของ เพลิดเพลินกับอาหารแสนสบายที่ Alpea ดื่มเครื่องดื่มบนระเบียงหลังอาหารค่ำ หรือเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษกับครอบครัวและเพื่อนฝูงที่ เมซง ดูนันด์. นี่เป็นอาหารซาวอยชิ้นเล็กๆ ใจกลางกรุงเทพฯ ที่เชฟ Arnaud อยากจะแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนๆ เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนร่วมงานในกรุงเทพฯ ข้อมูลสำคัญ ที่ตั้ง…

Read More

โพสต์เมื่อบ่ายวันนี้ นี่เป็นโพสต์ที่ร้อนแรงเป็นอันดับสองของ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาบนโซเชียลเน็ตเวิร์กไมโครบล็อกของจีน Sina Weibo… This doggy can balance everything.@郭茎明: คอร์กี้ที่มีความสามารถได้กลายเป็นความรู้สึกทางอินเทอร์เน็ตหลังจากที่ภาพของมันสร้างสมดุลของสิ่งของในครัวเรือนบนหัวของมันได้แพร่ระบาดไปแล้ว สัตว์เลี้ยงชื่อ Hazel ยังมีบล็อก Tumblr ของเธอเองซึ่งผู้ติดตามจากทั่วโลกถามคำถามของเธอและยังสามารถขอรายการเฉพาะเพื่อใช้ในการทรงตัวของเธอ Bill Zildjian เจ้าของ Hazel และ Debra ภรรยาของเขาจาก Maine ค้นพบของขวัญที่ไม่ธรรมดาของ Corgi เมื่อสองปีก่อน พวกเขาเริ่มต้นด้วยการวางสิ่งของเล็กๆ ไว้บนจมูกของเธอและให้รางวัลแก่เธอด้วยขนม ก่อนที่จะตระหนักว่าแทบไม่มีอะไรที่เฮเซลไม่สามารถทรงตัวบนศีรษะของเธอได้ เมื่อตัดสินใจว่าจะวางอะไรไว้บนหัวของเฮเซล ทั้งคู่จะเลือกของใช้ในครัวเรือนแบบสุ่ม ซึ่งรวมถึงอะไรก็ได้ตั้งแต่ไดโนเสาร์ของเล่นไปจนถึงหมวกรับปริญญา เรามีเฮเซลตั้งแต่เธอยังเป็นลูกสุนัข และรูปภาพเหล่านี้เป็นผลมาจากเคล็ดลับการรักษาจมูกแบบดั้งเดิม ‘เฮเซลจะได้รับรางวัลสำหรับความพยายามของเธอเสมอ โดยปกติแล้วจะเป็นชีส แม้ว่าบางครั้งอาจใช้ขนมสุนัขตัวอื่นๆ แทนได้ก็ตาม ‘ปฏิกิริยาของผู้คนมีตั้งแต่ “ว้าว น่ารักจริงๆ” ไปจนถึงเสียงหัวเราะและแม้แต่ความประหลาดใจ

Read More

ภาพจากซ้าย: มาลัยวุ้นมะพร้าวกะทิ ของหวานเฉพาะเทศกาลฯจากห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม; ความสุขของแม่และลูกสาว ณ พีค็อก อัลเลย์; เฟิร์ส เลิฟ ของหวานสุดพิเศษสำหรับแม่ พร้อมเสิร์ฟที่ห้องอาหาร บูล แอนด์ แบร์ กรุงเทพฯ – 5 สิงหาคม 2565 – สำหรับวันแม่ วันพิเศษกับผู้หญิงที่เป็นที่รักของครอบครัว ร่วมฉลองวันแม่ ณ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ที่ห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม ห้องอาหาร บูล แอนด์ แบร์ และพีค็อก อัลเลย์ โดยทีมห้องอาหารได้เตรียมขนมหวานหรือเครื่องดื่มพิเศษสำหรับทุกโต๊ะที่มารับประทานอาหารพร้อม “แม่” ระหว่างวันที่ 12-14 สิงหาคม 2565 ห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม ห้องอาหารไทยนำแรงบันดาลใจของอาหารจาก “รสมือแม่” มารังสรรค์เป็นเมนูอาหารไทยจานเด่น สำหรับวันแม่นี้ เชฟบัว สโรชา รัชตะนาวิน หัวหน้าเชฟและทีมเชฟ ได้เตรียม มาลัยวุ้นมะพร้าวกะทิ ของหวานเฉพาะเทศกาลฯมอบให้กับ แม่ ทุกท่านเมื่อมารับประทานอาหารที่ห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม เปิดให้บริการทุกวันในมื้อกลางวัน (เวลา 11.30 น. – 14.30 น.) และมื้อค่ำ (เวลา 17.30 น. – 21.30 น.) เซตเมนูอาหารไทย 3 คอร์ส ราคา 1,200++ บาท / ท่าน และอาหารจานเดี่ยวราคาจานละ 280++   ถึง…

Read More

เชียงใหม่ ประเทศไทย (2 สิงหาคม 2565)  – โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ออกโปรโมชั่นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองสุดสัปดาห์วันแม่ให้คุณแม่ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกับอาหารชุดในราคาพิเศษ ที่ห้องอาหารไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ (Mai Restaurant & Bar) และผ่อนคลายด้วยการนวดศรีษะด้วยน้ำมันอุ่น ๆ เป็นเวลา 30 นาที ฟรีเมื่อจองนวดไทย นวดแบบอโรม่า หรือ นวดแบบไทยล้านนา ในราคาปกติ ที่ ยี่ สปา (YHI Spa)  ระหว่างวันที่ 12 – 14 สิงหาคม 2565 ห้องอาหารไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ ให้บริการอาหารชุดพิเศษสำหรับวันแม่ ที่ให้คุณและคุณแม่ได้รับประทานอาหารไทยภาคเหนือที่มีกลิ่นอายของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่รังสรรค์โดยผ่านกระบวนการคิดและการบริหารครัวเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด ตามแนวคิดโปรแกรมครัว 360 องศา พร้อมชมวิวเมืองเชียงใหม่ยามค่ำคืนจาก ชั้น 21 ของโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ อาหารชุดพิเศษสำหรับวันแม่ ประกอบด้วยอาหารไทยภาคเหนือที่มีกลิ่นอายของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนแสนอร่อย 4 รายการ ที่เชฟพิถีพิถันเลือกใช้ผลผลิตจากฟาร์มออร์แกนิคของโรงแรม มาปรุงอาหารแสนอร่อย เริ่มต้นด้วย อาหารแนะนำจานแรกเป็นออเดิร์ฟไหม หรือ Mai’s Samplers ที่ประกอบไปด้วยอาหารขนาดพอดีคำ 5 ชนิดแสนอร่อย ได้แก่ ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่มหนังปลาแซลมอน สลัดโรลดอกไม้กินได้ น้ำพริกอ่องตอติลญ่า และยำส้มโอกับปลาดุกฟู ตามด้วยแกงผักหวานที่เชฟใส่ใจในทุกขั้นตอนได้เป็นซุปใสใส่ผักหวานผักพื้นบ้านของทางภาคเหนือและเห็ดตามฤดูกาลหอมกลิ่นปลาย่าง ส่วนอาหารจานหลักสามารถเลือกได้ระหว่าง ปลาแซลมอนอบเสิร์ฟกับน้ำพริกอ่องพริกระฆัง ผัดผักเชียดา และข้าวกลิ่นใบเตย หรือ ข้าวซอยเส้นพัพพาร์เดลล์เล่กับเนื้อสันนอกลนไฟ เสิร์ฟกับผักดองเป็นเครื่องเคียง ปิดท้าย อาหารชุดพิเศษสำหรับวันแม่ ด้วยขนมไทย Mother’s Day Treasure Box ที่มีขนมไทยหน้าตาน่ารักหลายชนิด อาหารชุดพิเศษสำหรับวันแม่ ให้บริการเป็นพิเศษที่ ห้องอาหารไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ ระหว่างวันที่ 12 ถึง 14…

Read More

Chef :  Nori : 05 2022 Story : Nopmanee P . / Photo : Nathapol K. วันนี้ Kinlakestars.com ขอพาทุกท่านมานั่งละเลียดชุดน้ำชาหลากสีสันต์สดใสเหมือนดั่งสีสันต์ที่สวยงามของชีวิตกันที่ Peacock Alley โรงแรม Waldorf Astoria อันตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองแยกราชประสงค์นั่นเอง ต้องขอยอมรับซักนิดว่าผู้เขียนเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกค่ะ! ขับรถมาเองเข้าโรงแรมนี้มาก็ออกจะงงงวยกับเส้นทาง การวางผังอาคารจอดรถซักนิด แต่ด้วยความใส่ใจระดับวิ่งนำรถไปจนถึงที่จอดรถเลยก็ประทับใจมาก ขอชื่นชมมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ แต่ทางที่ดีนะคะ ขอแนะนำให้ใช้ parking valet ตั้งแต่ที่เค้าสอบถามครั้งแรกค่ะ ในความเดินมาตามเส้นทางอันเดินออกประตูนั้นเข้าประตูนี้ ก็มีวิวแบบนี้รออยู่ มาถึงล็อบบี้ก็ให้กดไปที่ชั้น Upper lobby เดินไปทางหน้าอาคาร ที่เห็นวิวสนามเขียวขจีสวยๆของ Sports club อยู่ทางซ้ายนั่นล่ะค่ะ คือวิวที่เราจะได้มองกันตลอดบ่ายนี้ ขอย้อนกลับไปที่ก่อนหน้านี้ในวันหนึ่งขณะที่กำลังทำงานหัวฟูอยู่อย่างยุ่งๆ เพื่อนของดิฉันก็ได้ส่งข่าวของชุดน้ำชาชุดนี้มาให้อ่านแล้วบอกว่าให้มาทำรีวิวที่นี่นะ มีข้อความหนึ่งที่สะดุดใจดิฉันมาก คือ คำกล่าวถึงแรงบันดาลใจสำหรับชุดน้ำชาชุดนี้ของเชฟที่บอกว่า “ทำใจให้นิ่ง และใช้ชีวิตให้มีสีสัน”  เอาล่ะสิ ชุดน้ำชาชุดนี้จะเป็นยังไงนะ อยากรู้จนเฝ้ารอชุดนี้เป็นพิเศษเลยทีเดียวค่ะ เอาล่ะ ก่อนจะได้ยลโฉมของชุดน้ำชาชุดนี้ เรามาเลือกชากันก่อนเถอะค่ะ ที่นี่มีชา Mariage Frères ให้เลือกหลากหลายถึง 12 รส หรือสามารถเลือกเป็นเครื่องดื่มเย็นแทนก็ได้ ซึ่งในชุดนี้สามารถเลือกชาได้ 2 รสเลยค่ะ เราจึงเลือก Pleine Lune และหากว่าเจอ Marco Polo บ่อยแล้วก็ขอแนะนำ Marco Polo Rouge ค่ะ Pleine Lune นั้นมีรสชาติโดดเด่นด้วยตัว secret rare spices ที่แอบทำให้นึกถึงช่วง Festive อยู่ลึกๆMarco Polo Rouge นั้นจะหวานหอมฟรุตตี้มากกว่าตัวปกติ ออกรสวนิลามาชัดด้วย เราจึงเทใจให้ชากานี้เข้ากันกับชุดน้ำชาชุดนี้มากกว่าอื่นใด Savory Nibbles เรามาเปิดกันด้วยกลิ่น Truffle…

Read More

Chef :  — : 04 2022 Story : Nuttawut / Photo : Pol.Capt. Kittin A ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด – 19 การหยุดพักผ่อนและการท่องเที่ยวในภายในเมืองโดยที่ไม่ต้องออกไปต่างจังหวัด ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับท่านที่ไม่ได้เดินทางในช่วงวันหยุดยาวหรือในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ โดยสำหรับท่านที่ต้องการใช้เวลาวันหยุดจากการทำงานอันเหน็ดเหนื่อย มาให้รางวัลกับตัวเองด้วยบุฟเฟ่ต์สุดพิเศษในราคาที่สุดคุ้มจนน่าประทับใจ ทาง Goji kitchen & bar พร้อมให้บริการท่านด้วยบุฟเฟ่ต์อาหารที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ จากการลงมือประกอบอาหารสดๆ ด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี จากฝีมือเชฟผู้เชี่ยวชาญในการปรุงอาหารนานาชาติ โดยมีอาหารหลายประเภทหลากสไตล์ให้ท่านได้ลิ้มลอง Goji kitchen & bar อยู่ชั้น G ของโรงแรม Marriott Marquis Queen’s Park ซอยสุขุมวิท 22โดยสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS หรือหากขับรถยนต์ส่วนตัวมา ทางโรงแรมก็พร้อมมีที่จอดรถให้บริการ ทางร้านมีการจัดบรรยากาศที่ลงตัว เหมาะสำหรับการนั่งทานอาหารทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็นบางโต๊ะตั้งติดกับกระจกทำให้ไม่ทึบ สามารถมองเห็นกิจกรรมและบรรยากาศด้านนอกได้ สำหรับท่านที่ต้องการบรรยากาศส่วนตัว ก็สามารถสำรองโต๊ะในห้องส่วนตัวที่ทางร้านมีการจัดแยกไว้ได้ ในขณะที่สเตชันอาหาร มีการจัดแบ่งเป็นโซนตามสไตล์อาหารไว้อย่างชัดเจน สามารถเดินดูได้ไม่อยาก โดยเราจะได้เห็นเชฟลงมือทำอาหารให้ดูและเสิร์ฟอาหารขณะยังร้อนๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้บุฟเฟ่ต์ของ Goji kitchen & bar มีชื่อเสียงและน่าดึงดูดใจ           สำหรับเมนูอาหาร ทาง Goji kitchen & bar มีโปรโมชั่นสุดพิเศษและเมนูใน Theme พิเศษ ที่พร้อมจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเสมอ โดยกิจกรรม โปรโมชั่น และ Theme อาหารตามช่วงเวลา  ทำให้การเข้าไปรับประทานอาหารที่ Goji kitchen & bar ให้ความรู้สึกแปลกใหม่และพร้อมสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอยู่เสมอ ด้วยระดับคุณภาพที่มีมาตรฐาน บริการที่น่าประทับใจ และอาหารเลิศรสที่รอให้คุณไปลิ้มลอง สำหรับเมนูพิเศษที่ทาง Goji kitchen & bar และ Kinlakestar.com ภูมิใจนำเสนอในการรีวิวครั้งนี้ คือ…

Read More

โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ แนะนำชุดน้ำชายามบ่ายชุดใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตที่มีสีสัน “เชฟท็อดดี้กับผมใช้เวลาในการออกแบบชุดน้ำชายามบ่ายชุดนี้ร่วมกัน แนวคิดของพวกเราคือต้องการนำความสดใส และสีสันที่สวยงามของชีวิตมามอบให้ในช่วงเวลาการดื่มชา เชฟมีความเป็นศิลปินด้วยเช่นกัน ต่างกันที่พวกเราไม่ได้วาดภาพ หรือลงสีในผืนผ้าใบ หากแต่นำสีสันมาแสดงผ่านจานอาหาร และเสิร์ฟงานศิลปะที่สามารถรับประทานได้” เชฟ แอนเดรอา โนลิ หัวหน้าเชฟขนมหวานสัญชาติอิตาเลียนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ชุดน้ำชายามบ่ายชุดใหม่นี้พร้อมเสิร์ฟ ณ ห้องอาหาร พีค็อก อัลเลย์ ระหว่างเวลา 13.00 น. – 17.00 น. โดยเริ่มให้บริการในวันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นไป ชุดของคาวและขนมหวานที่มีสีสันและรสชาติเข้ากันได้อย่างลงตัวถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างปราณีตโดยเชฟ แอนเดรอา โนลิ และเชฟ ท็อดดี้ ชลิต กอบัวแก้ว รองหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ โดยแต่ละคำล้วนแสดงถึงความสามารถด้านอาหารที่เป็นเลิศของเชฟผ่านรสชาติ เทคนิคร่วมสมัย และความคิดสร้างสรรค์ที่หมายสร้างกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับประทานผ่านอาหารที่พวกเขาได้รังสรรค์ขึ้น ขนมหวานคำเด่นจากชุดขนมหวานสีสันสดใส อาทิ มูสมะม่วงพิน่า โคลาดา (Mango Pina Colada Mousse) มูสชาเขียวและยูซุ (Matcha Mousse with Yuzu) สตรอว์เบอร์รีสปันจ์เค้กและครีมวานิลลา (Strawberry Sponge Cake with Mascarpone Vanilla Chantilly) ไอศกรีมราสป์เบอร์รี ชีสเค้ก (Cheese Cake and Raspberry Ice Cream) เป็นต้น …/ “สีของขนมแต่ละชิ้นที่เห็น “สีของขนมแต่ละชิ้นที่เห็นจะทำให้ผู้รับประทานสามารถคาดเดาถึงส่วนผสมหลักและรสชาติได้ มันค่อนข้างตรงไปตรงมา อาทิเช่น ขนมหวานชิ้นสีเขียว รังสรรค์ขึ้นจากชาเขียว แต่เพื่อเป็นการลดความขมของชาเขียวลง เราจึงเพิ่มรสเปรี้ยวด้วยส้มยูสุ เป็นต้น” เชฟโนลิ กล่าวเพิ่มเติม เมนูชุดของคาว ประกอบด้วย ล็อบสเตอร์สลัดและคลอโรฟิลล์เพิร์ล เสิร์ฟในถ้วยเจลลี่ใบมิ้นท์ (Lobster Salad, Mint Jelly Cup and Chlorophyll Pearls) ทูน่ารมควันพร้อมซอสเห็ดทรัฟเฟิลเมนไทโกะรสเผ็ดและแผ่นอัลมอนด์กรอบ (Smoked…

Read More

ชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างช่วงเวลาแห่งความสุขกับชุดน้ำชาสุดพรีเมี่ยม พร้อมของว่าง และขนมหวานฝรั่งเศสแสนอร่อย ด้วยฝีมือการรังสรรค์ของเอ็กเซ็คคิวทีฟ เพสทรี เชฟ “ซิลแวง คองสตองส์” – ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิด้วยชุดน้ำชายามบ่ายในธีม “ดอกไม้และพรรณพืช” ณ ที เลานจ์ สถานที่พักผ่อนสุดชิลล์วิวแม่น้ำเจ้าพระยา โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ดื่มด่ำประสบการณ์จิบชาในบรรยากาศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอาย มนต์เสน่ห์ และความสง่างามเหนือกาลเวลาของสายน้ำแห่งวัฒนธรรม ตลอดจนประเพณีการดื่มชาของชาวเอเชีย พร้อมบริการของว่างและขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสแสนอร่อยของเอ็กเซ็คคิวทีฟ เพสทรี เชฟ “ซิลแวง คองสตองส์” …สัมผัสไออุ่นของแสงแดดยามบ่าย กลิ่นหอมของดอกไม้และผลไม้ประจำฤดูกาล เพลิดเพลินกับบทสนทนา ระหว่างเพื่อนสนิท สมาชิกในครอบครัว และคนที่คุณรักได้ตลอดทั้งวัน… เริ่มต้นประสบการณ์ “ซิกเนเจอร์ ไฮที” ด้วยการเสิร์ฟชาพรีเมี่ยมหลากชนิด อาทิ ชาดำ ชาขาว ชาเขียว ชาอู่หลง และชาสมุนไพรที่มีส่วนผสมของดอกไม้สด โดย “ที คอนนะเซอร์” (Tea Connoisseur) จะนำรถเข็นชาพร้อมต้นสมุนไพรสด (Tea & Herb Trolley) มานำเสนอให้ท่านเลือกสายพันธุ์ชาและรสชาติของชาที่ชื่นชอบ จากนั้นจึงบริการของว่าง 3 ชนิด คือ (1) ปลาเทราต์รมควัน เสิร์ฟกับเยลลี่มะเขือเทศและครีมเลมอน, (2) เนื้อปูทาราบะและซอสสลัดมายองเนสสไตล์ฝรั่งเศสที่มีส่วนผสมของแตงกวา น้ำมะนาวและเมล็ดลินิน และ (3) พรอสชุตโต้แฮมอิตาเลียนกับทูน่าทาร์ทาร์ กุยช่ายและไข่แดงบ่ม หลังจากนั้น “ที คอนนะเซอร์” จะนำขนมปังสโคนเนยสดและชนิดที่ผสมสตรอว์เบอร์รี่อบแห้งมาเสิร์ฟพร้อมโฮมเมด“คล็อตเต็ดครีม” แยมไทม์-สตรอว์เบอร์รี่ และมาร์มาเลดแอปเปิ้ลผสมดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ ก่อนเข้าสู่ช่วงไฮไลท์ด้วยรถเข็นขนมหวานและเค้ก 6 ชนิด ซึ่งแต่ละท่านสามารถเลือกได้ 3 ชนิด ได้แก่ เสาวรสและดอกมะลิซ้อน – เค้กสปันจ์เฮเซลนัทกับครีมดอกมะลิและวิปครีมรสเสาวรส ซากุระ ดีไลท์ – เค้กสปันจ์มาเดอแลนกลิ่นเลมอน สอดไส้เยลลี่และมูสเชอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่และโหระพา – เค้กสปันจ์ม้วน ใบโหระพา และมาร์มาเลดสตรอว์เบอร์รี่เลมอน ราสป์เบอร์รี่ และทาร์รากอน – ขนมปังเจนัวรสราสป์เบอร์รี่และทาร์รากอนแช่อิ่มพิสตาชิโอและดอกส้ม – เค้กฟีน็องซีเย พิสตาชิโอ และครีมดอกส้มทาร์ตช็อกโกแลตเอิร์ลเกรย์ –…

Read More