Author: Kittin Assavavichai

ข้าวแช่แต่แรกเริ่มเดิมเป็นอาหารของชาวมอญ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จประพาสเมืองเพชรก็ได้พบเห็นการขาย การบริโภค รับประทานข้าวแช่กัน จึงทรงโปรดให้มีการปรุงขึ้นมาในวัง แต่ข้าวแช่นั้น นับว่าเป็นอาหารวังอย่างเต็มตัวในช่วงยุคพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเดิมเครื่องข้าวแช่ของชาวมอญนั้นมีไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นของตากแห้งและนำมาผัดหวานให้เก็บได้นาน  แต่เมื่อเข้าวังมา แน่นอนว่าอาหารวังต้องวิจิตรและมากมาย จัดเต็ม และใช้วัตถุดิบที่ทรงคุณค่าน่าทานยิ่งขึ้น และในยุคถัดๆมาก็มีการเพิ่มเครื่องเคียงต่างๆเข้าไปเรื่อยๆ สำหรับข้าวแช่ของ Smooth Curry เป็นข้าวแช่ชาววังที่ประยุกต์ ที่เพิ่มเติมเอาเครื่องเคียงใหม่ๆ และมีการดัดแปลงบางส่วน ตามสูตรและสไตล์ของเชฟจารีฟ สำหรับเครื่องเคียงที่นี้นั้นมีมากมายนั้นก็ได้แก่ ลูกกะปิทอด หมูเส้น/เนื้อเส้น หัวไช้โป๊วผัดหวาน ที่แล้วแต่ลูกค้าจะเลือก ปลายี่สนผัดหวาน และ พริกหยวกสอดใส้ ในส่วนของเครื่องที่มีการเพิ่มเติมหรือดัดแปลงจากสูตรชาววังดั้งเดิมก็ได้แก่ หอมแดงยัดไส้ซึ่งเปลี่ยนจากไส้ปลาดุกเป็นแซลมอนแทน หมูสับปลาเค็ม และไข่เค็มชุบแป้งทอด สำหรับข้าวอบควันเทียนที่นี่ก็จะหุงให้ข้าวแข็งเล็กน้อย เติมนำ้ที่อบจากควันเทียน มะลิ และกุหลาบที่ปลูกเองบนสวนชั้นที่ 4 ของโรงแรม ปลอดสารพิษและยาฆ่าแมลง อบจนกลิ่นออก หอมสดชื่นเมื่อได้กลิ่น และไม่ใช้น้ำแข็งแต่เป็นน้ำเย็น เพราะดั้งเดิมตามสูตรชาววังจะใช้น้ำฝน รองไว้ ใส่ตุ่มดินเผา ทำให้น้ำเย็น โรยด้วยกลีบกุหลาบทำให้ยิ่งสวยงามดูน่ากินยิ่งขึ้น ปลาแห้งแตงโม เป็นอีกของว่างยามอากาศอบอ้าว เมื่อเข้าฤดูร้อนของชาววังแต่โบราณ นี่จึงเป็นหนึ่งในของว่างซึ่งหาทานไม่ได้ง่ายๆ ความหวานสดชื่น จากแตงโมทำให้สดชื่น หวาน เย็น ตัดกันได้ดีกับปลาแห้งรสมัน เค็ม หอม สำหรับพริกหยวกสอดไส้ เชฟนำเม็ดพริกออกทั้งหมด เพื่อเผือแขกท่ีไม่ทานเผ็ด และยัดด้วยหมูและกุ้งสับรวมกัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล สอดยัดไส้ในพริกหยวก ห่อด้วยไข่ทอดที่ทำแบบนิ่มนุ่มเป็นแพ และตกแต่งด้วยดอกเข็มสวยงาม ในส่วนของไช้โป๊วที่นี้ เป็นไช้โป๊วอย่างดีที่นำมาผัดกับไข่เค็มทำให้ได้รสชาติที่หวานเค็มมัน และหอม ส่วนลูกกะปิ ผัดกับ กระชาย ตะไคร้ มะกรูด กระเทียม หอมแดง และนำไปชุบแป้งทอด รสหวานมันเค็มกำลังดี เนื้อเนียนละเอียด หมูเส้นและเนื้อเส้น สำหรับที่นี้เชฟกล่าวว่าใช้เนื้อเค็ม หมูเค็ม มายีและนำไปผัดกับหอมแดง น้ำตาลและเครื่องปรุงต่างๆ รสชาติลงตัวดีไม่เหนียวไป อีกเมนูเครื่องเคียงที่แปลกปากออกไป หอมแดงยัดไส้ปลาแซลมอน เชฟจารีฟได้ดัดแปลงจากเดิมที่ใช้ปลาดุกมาเป็นปลาแซลมอนก็เพราะลูกค้าที่เป็นชาวต่างประเทศบางคนไม่กล้ากินปลาดุก หรือปลาช่อน อาจเป็นเพราะเป็นปลาน้ำจืด หรือหน้าตาก็ตามแต่ เชฟจึงได้ดัดแปลงใช้เนื้อปลาแซลมอนแทน ซึ่งรสชาตินั้นก็จึงแปลกออกไป รสชาติเคล้ายกับแซลมอนผัดซาลาลี เครื่องเคียงอีกตัวที่เพิ่มเติมจากตำหรับเดิมคือ หมูเค็ม โดยนำหมูมาผัดกับปลาเค็มและกระเทียม ซึ่งรสจะออกเค็มกว่าหมูสับทั่วไป เพื่อให้รสออกมาพอดีเมื่อเวลากินกับข้าวอบควันเทียน ไข่แดงเค็มผสมไข่ขาวนำมาปั้นเป็นลูกเล็กๆ ยอดเป็นเม็ดทรงหยดน้ำ ชุบแป้งและนำไปทอด…

Read More

อากาศอันร้อนอบอ้าวในฤดูร้อน หากจะหาอะไรดับร้อนเสียหน่อยก็คงต้องหาสถานที่เย็นๆ และอะไรเย็นๆกินไปด้วย “ข้าวเเช่ ” อาหารประจำฤดูร้อน ที่สวยงาม หอมหวน และกินแล้วเย็นสดชื่น  ส่วนที่ ” ริมน้ำ ” ก็เป็นสถานที่ที่นั่งแล้วเย็นกาย สบายใจ และจะดีแค่ไหนถ้าได้นั่งกินข้าวแช่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ! ทิพย์ธารา ห้องอาหารไทยริมน้ำเจ้าพระยา ที่จะมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจไม่รู้ลืมด้วยวิวที่สวยงาม และข้าวแช่ชาววังรสดั้งเดิมโดยเชฟชำนาญ เชฟใหญ่แห่งห้องอาหารทิพย์ธาราผู้มากประสบการณ์ในการปรุงอาหารไทย หากจะกล่าวถึงวัฒนธรรมในการรับประทานอาหารของคนไทยในอดีต เมนูที่จะขาดไม่ได้เลยในช่วงฤดูร้อนคงหนีไม่พ้น “ข้าวแช่”  วันนี้ กินแหลกแจกดาว KinlakeStars.com จะพาไปพบกับข้าวแช่ชาววังที่โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ อร่อยตำรับชาววัง เพื่อต้อนรับฤดูร้อน และเทศกาลปีใหม่ไทย ด้วยเมนูโบราณอย่างข้าวแช่ อิ่มอร่อย เย็นกายสบายใจ ในช่วงฤดูร้อน ด้วยการผสมผสานความฉ่ำเย็นของข้าวหอมลอยน้ำดอกมะลิและกุหลาบ เข้ากับเครื่องเคียงแบบไทยโบราณ อันประกอบด้วย กะปิทอด ปลายี่สกผัดน้ำตาล ไช้โป๊วผัด เนื้อหรือหมูหวานฝอยที่ให้ท่านเลือกรับประทานได้ในแบบที่ท่านโปรดปราน ปลาช่อนแห้งยัดไส้ในหอมทอดและพริกหยวกสอดไส้หมูและกุ้งสับ เสิร์ฟพร้อมกับมะม่วงเขียวเสวย ต้นหอมและกระชาย ที่แกะสลักอย่างวิจิตรมาในรูปใบไม้และดอกไม้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย เชฟชำนาญกล่าวถึงข้าวและน้ำอบควันเทียนว่า “ข้าวกับน้ำอบควันเทียนนั้นที่นี่ก็ทำอย่างปราณีตและบรรจง ใช้ดอกไม้สดที่เก็บมาเอง ปลอดสารพิษและยาฆ่าแมลงแน่นอน โดยนำกุหลาบและมะลิ มาอบกับควันเทียนอย่างดี ทำให้ได้กลิ่นที่หอมและสดชื่น รูปถึงน้ำก็ใช้เป็นน้ำเย็นที่เก็บในหม้อดิน มิได้ใช้น้ำแข็ง ” ในส่วนของพริกหยวกสอดไส้หมูและกุ้งสับ เชฟกล่าวว่า ” เราทำใหม่สดๆตลอด พริกก็จะทำใหม่ๆทำให้นุ่มนิ่มเวลาเสิร์ฟ ไข่เองก็เป็นไข่แบบกรอบจะทอดและรวนใหม่ตลอด ” เครื่องเคียงต่างๆของข้าวแช่นั้นสามารถเก็บไว้ได้นานมากโดยไม่ต้องแช่เย็นเพราะเดิมที ข้าวแช่เองเป็นอาหารที่ใช้ถวายพระ เดิมนั้นกษัตริย์ชาวมอญต้องการลูกชายมากจึงไปบนบาน ต่อมาสำเร็จขึ้นมา จึงได้นำอาหารเครื่องเส้นเหล่านี้มาถวาย ของเหล่านี้ได้ทำออกมาให้ เก็บไว้ในไหดินได้นาน เนื้อหรือหมูหวานฝอยที่ให้ท่านเลือกรับประทานได้ในแบบที่ท่านโปรดปราน ซึ่งทำมาจาการนำเนื้อหมูหรือเนื้อมาทุบ ตากแห้ง ฉีก และนำไปผัดเคี่ยวกับน้ำตาลและเครื่องเทศอื่นๆ สำหรับหมูหวานเส้นที่นี่หวานกำลังดีและไม่เหนียว กรอบ ล่วน อร่อย ปลายี่สกผัดน้ำตาล สำหรับเมนูนี้เองก็มีกรรมวิธีคล้ายๆกับหมูหวานเส้น คือนำเนื้อปลายี่สกไปทุบ นำไปตากแดด ฉีกเป็นเส้น และผัดกับน้ำตาล และสำหรับสูตรพิเศษของเชฟชำนาญนั้น เชฟกล่าวว่าเพื่อความเป็นต้นตำหรับซึ่งเดิมมาจากชาวมอญย่านเพชรบุรี จึงต้องใช้น้ำตาลจากตาลโตนด ซึ่งจะให้ความหอม หวาน และต่างไปจากน้ำตาลแดง หรือน้ำตาลทราย ส่วนสัมผัสน้ำก็นุ่ม หนึบ อร่อย กะปิทอด สำหรับที่ทิพย์ธารา กะปิทอดนั้นนำเนื้อปลาช่อน กะปิอย่างดี หอมดี กระชาย…

Read More

เมื่อจะเอ่ยถึงข้าวแช่ แน่นอนว่าทุกท่านจะนึกถึงความหอมสดชื่นจากกลิ่นควันเทียน มะลิ กุหลาบ ชมนาด รสชาติหวานเค็มจากเครื่องเคียงที่แสนเลิศรส และความสดชื่นจากสมุนไพรที่นำมาแกะสลักให้สวยงามวิจิตรอลังการ ถาดไม้ขนาดใหญ่ที่เรียงรายด้วยเครื่องเคียง ชุด “ข้าวแช่” ถูกยกมาที่โต๊ะ ความประทับใจเกิดตั้งแต่แรกพบ ในวันนี้กินแหลกแจกดาว KinlakeStars.com ขอแนะนำสุดยอดข้าวแช่ที่แสนวิจิตร เป็นทั้งอาหารตา อาหารจมูก อาหารปาก อาหารใจ ข้าวแช่ชาววังนั้นเริ่มเข้ามาเป็นเป็นที่รู้จักแก่ชาววังในช่วงรัชกาลที่ 4 แต่เป็นอาหารของชาวมอญมาตั้งแต่รัชกาลที่ 2 ซึ่งในชุดนี้ท่านจะได้พบกับข้าวแช่สูตรโบราณผสมผสานสไตล์ชาววัง ซึ่งหากินได้ยาก ทั้งขนมหวานในชุดได้แก่ มะกรูดลอยแก้ว อันหาทานไม่ได้ง่ายๆเป็นต้น ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ใน “ถาดไม้ขนาดใหญ่” ประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆมากมายอันแสนวิจิตร และยิ่งกว่าความงามทางตา นั้นคือรสชาติและกลิ่นจากข้าวแช่อบควันเทียน ที่ใส่ในภาชนะที่แกะสลักจากฟักทอง วิจิตร ตระการตา สวยงาม ซึ่งเป็นงานศิลปะขั้นสูงที่หาดูได้ยาก และหาทานที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ ภายในถ้วยข้าวที่ทำจากฟังทองแกะสลักนั้นมีดอกมะลิ และกุหลาบโรยหน้าสวยงาม ซึ่งน้ำและข้าวจะถูกแยกออกจากกันเป็นสองส่วน ข้างๆมีโถแก้วขนาดเล็กบรรจุน้ำเย็นอบพร้อมลอยด้วยดอกมะลิและกุหลาบ ซึ่งน้ำอบนั้น อบด้วยขั้นตอนและสูตรเฉพาะ ต้นตำหรับชาววังจากน้ำอบควันเทียน ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ และดอกชมนาดที่ปลูกภายในสวนของโรงแรมสุโขทัยเอง ดังนั้นจึงสบายใจได้ว่าปลอดสารพิษ อบจนกลิ่นดอกไม้และควันเทียนนั้นได้ความหอมระดับกำลังดี เพื่อเป็นส่วนสำคัญของการรับประทานข้าวแช่ รสชาติคำแรกข้าวแช่ก็ให้สัมผัสถึงความหอมและความพอเหมาะของเมล็ดข้าวที่ต้องมีความแข็งเล็กน้อย ซึ่งข้าวแช่น้ำอบนี้นั้นจะให้ความรู้สึกที่สดชื่นทั้งหอม เย็น ดับความร้อนได้เป็นอย่างดี สำหรับพานแรกจะประกอบไปด้วย เม็ดกะปิทอดพร้อมกับหมูเส้นในพานเดียวกัน  สำหรับลูกกะปินั้นให้ความหอมและสัมผัสของของกระชาย และกลิ่นหอมของกะปิที่ลงตัว อีกทั้งความหวานจากหอมและบรรดาเครื่องเคียงต่างๆ ทั้งใบมะกรูดเป็นต้นชุบทอดด้วยไข่ ให้ความมันอร่อย หมูเส้นที่แห้งพอเหมาะมีรสชาติหวามเค็มที่เข้ากันได้พอดีและแห้งกรอบนิดๆ ไม่เหนียวเคี้ยวทานง่าย ในพานถัดมา ประกอบไปด้วยปลายี่สกที่ผ่านขั้นตอนด้วยวิธีที่พิถีพิถันและเครื่องปรุงแบบโบราณ…

Read More

เชิญลิ้มรสอาหารและเครื่องดื่มจากโปรโมชั่นพิเศษที่เตรียมไว้รอรับการมาเยือนของทุกท่านในเดือนเมษายนที่ห้องอาหารต่างๆ ของโรงแรมแชงกรีล่า ดังนี้ คลายร้อนยามบ่ายกับข้าวแช่ ที่ ล็อบบี้ เลาน์จ 11-15 เมษายน 2559 โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เชิญชวนคลายร้อนกับข้าวแช่ ที่ ล็อบบี้ เลาน์จ ระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2559 ในราคาชุดละ 788++ บาท เสิร์ฟพร้อมชาไทยเย็นชื่นใจ ลิ้มรสข้าวแช่ อาหารจานพิเศษของไทยที่นิยมรับประทานในช่วงหน้าร้อน อาทิ ข้าวหอมมะลิเสิร์ฟเย็นหอมกรุ่นรับประทานคู่กับเครื่องเคียงต่างๆ อาทิ กะปิทอด พริกหยวกสอดไส้หมูสับและกุ้งสับ หอมแดงชุปไข่ ปลายี่สนผัดหวาน หมูฝอย ปิดท้ายด้วยของหวานยอดนิยมอย่าง ไอศกรีมเสิร์ฟในลูกมะพร้าวอ่อนและผลไม้หวานฉ่ำ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะได้ที่ฝ่ายสำรองที่นั่งห้องอาหารของโรงแรมฯ โทร.0 2236 9952 หรือ 0 2236 7777 หรือ อีเมล [email protected] ฉลองสงกรานต์กับอาหารไทยสูตรมรดกตกทอด ณ ศาลาทิพย์ 10-17 เมษายน 2559 ฉลองเทศกาลสงกรานต์กับเมนูชุดสยามเฮอริเทจ ที่มีอาหารไทยสูตรมรดกตกทอดที่ยังคงรสชาติตำรับไทยโบราณถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ระหว่างวันที่ 10-17 เมษายนศกนี้ ที่ห้องอาหารไทย ศาลาทิพย์ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ให้บริการในราคาชุดละ 1,250++ บาท ทีมพ่อครัวศาลาทิพย์ได้สร้างสรรค์อาหารรสเลิศเริ่มจาก อาหารเรียกน้ำย่อย สลัด ซุป อาหารจานหลักและของหวาน เช่น หมี่กรอบโบราณ กุ้งชุปแป้งใส่พริกแกงทอด หมูโสร่ง แสร้างว่ากุ้งเผา แกงรัญจวนกระดูกหมูใบชะมวง อาหารจานหลักได้แก่ แกงก้ามปูใบชะครามเส้นหมี่ แจงลอนย่าง และผัดดอกขจรกับสายบัว ตบท้ายด้วยขนมครกกับผลไม้ตามฤดูกาลหวานชื่นใจ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะได้ที่ฝ่ายสำรองที่นั่งห้องอาหารของโรงแรมฯ โทร. 0 2236 9952 หรือ 0 2236 7777 หรือ อีเมล [email protected] เมนูแสนอร่อยจากไวท์แอสพารากัส ณ โวลติ ริสโตรานเต แอนด์ บาร์ 16 เมษายน – 30 มิถุนายน 2559 โวลติ ริสโตรานเต แอนด์ บาร์ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ นำเสนอเมนูแสนอร่อยสำหรับผู้มีรสนิยมปรุงจากไวท์แอสพารากัส ระหว่างวันที่ 16 เมษายน – 30 มิถุนายน 2559 เชฟลูก้า คาสินี นำประสบการณ์ที่สะสมจากการทำอาหารอิตาเลียน มาสร้างสรรค์อย่างสุดฝีมือด้วยสูตรเฉพาะโดยมีไวท์แอสพารากัสเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลัก ลิ้มรสเลิศได้ทุกมื้อค่ำในราคาเริ่มต้นที่จานละ 560++…

Read More

ห้องอาหารธาราทอง โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน เชิญท่านลิ้มลองอาหารเรียกน้ำย่อยจานเด็ดที่คัดสรรมาให้ทุกท่านเพลิดเพลินกับ “ทาปาสตำรับไทย” เมนูฟิวชั่นที่มีให้ท่านเลือกอร่อยถึง 3 ชุด ได้แก่ “ชุดเรือนเพชร” ประกอบด้วย ส้มตำกุ้งสดม้วนด้วยแป้งปอเปี๊ยะสด สะเต๊ะไก่ ถุงทองทอด และช่อม่วง “ชุดเรือนทอง” ประกอบด้วย ข้าวโพดทอด กระทงทองเมี่ยงคำ ลาบปลาแซลมอน และหมี่กรอบกุ้งทอด และ”ชุดเรือนแพร” ประกอบด้วย หมูมะนาว ปอเปี๊ยะผัก ข้าวตังหน้าหมูผัด และกุ้งตะไคร้ ในราคาชุดละ 550++ บาท (ราคานี้ยังไม่รวมค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่ม) อิ่มอร่อยได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 18.00 – 22.30 น. ในบรรยากาศเรือนไทยไม้สักทอง พร้อมรับชมการแสดงนาฏศิลป์ไทย และการบรรเลงขิมสด(ยกเว้นวันอาทิตย์) ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2559 พิเศษ! บัตรสมาชิกสตาร์วู้ด พรีเฟอร์ เกสต์ (Starwood Preferred Guest®) รับสิทธิพิเศษ! ส่วนลด15% เฉพาะค่าอาหาร บริการเรือรับส่งจากสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสินถึงโรงแรมฟรีทุกครึ่งชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร 02 266 9214 KIn Promo&Event KinlakeStars.com —————————————————————————————————————————————— A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B…

Read More

ห้องอาหารฟีสท์ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ขอเชิญท่านมาอื่มอร่อยหลากหลายเมนูอาหารนานาชาติในมื้อค่ำ และซันเดย์บรั๊นช์ ที่เราคัดสรรอาหารสุดพิเศษมากมายไว้บริการ เลือกอิ่มอร่อยอาหารรสเลิศในแบบคุณด้วย 3 ธีมอาหาร ได้แก่ บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ ระหว่างเวลา 18.00 – 22.00 น. ในราคา 1,090++ บาท/ท่าน บุฟเฟ่ต์ซันเดย์บรันช์ ระหว่างเวลา 11.30 – 15.00 น. ในราคา 2,000 บาท(เนท) /ท่าน – วันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี (ยกเว้นวันพุธ) จัดเต็มกับบุฟเฟต์อาหารนานาชาติ – วันพุธ พบกับบุฟเฟ่ต์อาหารจีนที่ไม่ควรพลาด – วันอาทิตย์ ตื่นตาบุฟเฟต์อาหารนานาชาติ และสเตชั่นอาหารซีฟู้ดบนน้ำแข็งแกะสลักที่ใหญ่ที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา อิ่มคุ้มกันยกทีมในราคามา 4 ท่านจ่ายเพียง 3 ท่านได้ตั้งแต่เมษายน – 31 ตุลาคม 2559 สำหรับบัตรสมาชิกสตาร์วู้ด พรีเฟอร์ เกสต์ (Starwood Preferred Guest®) รับสิทธิพิเศษ ส่วนลด 15% (เฉพาะค่าอาหาร) พร้อมรับคะแนนสะสมเป็นสองเท่ากับแคมเปญ SPG Twice as Nice ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 15 มิถุนายน 2559 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร 0 2266 9214 KIn Promo&Event KinlakeStars.com —————————————————————————————————————————————— A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A…

Read More

เชิญทุกท่านอิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อสายวันอาทิตย์มื้อหรู พร้อมทั้งเพลิดเพลินกับสุดยอดแชมเปญและเมนูอาหารรสเลิศหลากเมนู ทั้งอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ไทย ญี่ปุ่น เมนูเพื่อสุขภาพ อาหารทะเลสดใหม่นำเข้าจากแหล่งที่ดีที่สุดทั่วโลก และอาหารนานาชาติรสเลิศ อีกทั้ง เมนูซิกเนเจอร์ที่ปรุงโดยเชฟมืออาชีพ พร้อมเสิร์ฟให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกันที่โต๊ะ ในราคาสุทธิเพียง 4,750 บาทถ้วนต่อท่าน* สำหรับบุฟเฟ่ต์รวมแชมเปญโมเอ็ทชองดอง ไวน์ ค็อกเทล และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์แบบเติมได้ไม่อั้น และราคาสุทธิ 2,200 บาทถ้วนต่อท่าน* สำหรับบุฟเฟ่ต์รวมเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์แบบเติมได้ไม่อั้น อิ่มอร่อยกับ “โมเอ็ท ชองดอง แชมเปญ ซันเดย์บรั้นช์” ทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 15.00 น. สำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 02 126 9999 ต่อ 3304 หรือ อีเมลล์[email protected] *สำหรับเด็กอายุ 6 – 12 ปี ลดราคา 50% และเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 6 ปีรับประทานฟรี   เพลิดเพลินและอิ่มหนำกับแชมเปญซันเดย์บรั้นช์ ที่มีอาหารแสนอร่อยหลากหลายให้เลือกสรรทั้งอาหารสไตล์ฝรั่งเศส เอเชียและอาหารนานาชาติรสเลิศ ภายในบรรยากาศอันมีชีวิตชีวาของประเทศฝรั่งเศสที่จะตราตรึงใจทุกคน เริ่มต้นด้วยเมนูซิกเนเจอร์อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทางห้องอาหารอย่าง เมนูกุ้งล็อบสเตอร์จากแคนาดาในน้ำซุปรสเข้มข้น เสิร์ฟกับแป้งพัฟ และบรั่นดีนโปเลียน 1 ช็อต กุ้งล็อบสเตอร์ครึ่งตัวต่อหนึ่งท่าน ปลาเทราท์รมควันโครงการหลวง ก้ามปูอลาสก้า อีกทั้งหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ที่พร้อมเสิร์ฟให้ลิ้มลอง เพื่อให้อาหารมื้อสายวันอาทิตย์มื้อนี้สมบูรณ์แบบที่สุด เอ็กเซ็คคิวทีฟเชฟเจเรอมี่ เคยอง นำทีมเชฟแห่งห้องอาหารวัวล่า! รังสรรค์เมนูพิเศษที่ปรุงอย่างพิถีพิถันไว้ให้บริการ อาทิ ฟัวกราส์สไตล์ฝรั่งเศสแท้ ปลากระพงขาวจากนิวซีแลนด์ราดซอสถั่วดำ และเนื้อวากิว  ออสเตรเลียตุ๋น   ผ่อนคลายไปกับจังหวะและเสียงเพลงจากดีเจ ในบรรยากาศสบายๆ ขณะรับประทานอาหารมื้ออร่อยหลากเมนู อย่างอาหารทะเลสดใหม่คุณภาพที่จัดเรียงรายบนน้ำแข็ง เช่น หอยนางรมฟินเดอร์แคลร์ ปูอลาสก้า หอยกาบ กุ้งทะเลนานาชนิด กั้งหิน หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ พร้อมน้ำจิ้มเลิศรสเพิ่มรสชาติความอร่อย นอกจากนี้ทางห้องอาหารยังมีเมนูปลาสำหรับคนรักสุขภาพไว้ให้บริการ อาทิ ปลาแซลมอนดองแล่บาง ปลาแซลมอนรมควัน ปลาเทราต์จากโครงการหลวงรมควัน ทาร์ทาร์ปลาทูน่า เป็นต้น รวมถึงอาหารไทยรสชาติเผ็ดร้อน อาทิ…

Read More

Summer seafood ณ Metro Café วัตถุดิบชั้นยอดจากท้องทะเลกับการปรุงที่หลากหลาย, Hotel Indigo, Bangkok Wireless Road ท้องฟ้าสีคราม แสงแดด สายลม หาดทรายและเสียงคลื้นกระทบฝั่ง บรรยากาศริมทะเลที่เป็นเสมือนตัวแทนแห่งฤดูร้อน เมื่อพูดถึงฤดูร้อนหลายคนคงนึกถึงทะเล และในวันนี้ กินแหลกแจกดาวจะพาไปพบกับเมนูต้อนรับซํมเมอร์ ณ Metro Café ซึ่งนำวัตถุดิบชั้นเลิศจากท้องทะเลมาปรุงในรูปแบบต่างๆที่หลากหลายทั้งสไตล์ไทยๆไปจนถึงสไตล์ตะวันตก  บรรยากาศสบายๆชิวๆ ณ ห้อง Metro Café ก็ช่างเข้ากันกับเมนูซัมเมอร์ซีฟู้ด ซึ่งเราจะมาเริ่มเรียกน้ำย่อยกันด้วยเมนูแรกกันกับยำหัวปลีหมูและหอยเชลล์ย่าง ยำหัวปลีหมูและหอยเชลล์ย่าง (Banana Blossom with Pork and Seared Scallop, Crispy Shallot Salad) หอยเชลล์ย่างที่ใช้ มีเนื้อแน่น สดหวาน เคี้ยวแล้วนุ่มหนึบ ทานร่วมกับยำหัวปลีหมูรสเปรี้ยวหวานมันเค็มครบรส หัวปลีอ่อนๆและหมูสับซอยแซมมันๆ เป็นการผสมผสานที่ให้รสชาติลงตัวดีครับ (350)   ซุปข้นกุ้ง (Lobster Bisque) ซุปข้นกุ้ง ให้สีสันน่ารับประทาน ตัวซุปมีความหอมมันและกลมกล่ม เคล้ากับกลิ่นหอมที่ชวนกระตุ้นต่อมน้ำลาย ทานร่วมกับขนมปังกรอบที่มีรสเค็มกำลังดีเข้ากันได้ดี (370) ลอปส์เตอร์ย่างราดซอสแตร์มีดอร์ (Lobster Thermidor) ลอปส์เตอร์ย่างราดซอสปรุงพิเศษ ใช้ลอปส์เตอร์ตัวใหญ่ เนื้อแน่น จุดเด่นของเมนูนี้คือน้ำซอสแตร์มีดอร์ที่ราดบนลอปส์เตอร์มีกลิ่นหอมที่ผสมผสานกับความกลมกล่อมด้วยรสของบรั่นดีอ่อนๆในซอส และด้วยความหอม กลมกล่ม บวกกับความเกรียมพอดีๆของเนื้อลอปส์เตอร์ ทำให้รสชาติออกมาดีเยี่ยม ส่วนตัวผมคิดว่าเมนูนี้เป็นตัวชูโรงของเมนูเทศกาลซีฟู้ดส์โรงแรมนี้เลยก็ว่าได้ (1600)     กุ้งแม่น้ำทอดซอสมะขาม (Deep-Fried River Prawns with Tamarind Sauce) กุ้งแม่น้ำทอดซอสมะขามเป็นอีกเมนูที่ผมประทับใจ กุ้งที่ใช้เป็นกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ เนื้อแน่น ทอดจนได้ความสุกกำลังดี คลุกเคล้าไปกับรสชาติหอมหวานผสมความเปรี้ยวอ่อนๆจากซอสมะขามที่มีสเกลกำลังดี ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ (Wok-Fried Crispy Soft Shell Crab with Black Peppercorn Sauce) ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ ปูนิ่มกรอบนอก เนื้อนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน ผัดคลุกเคล้ากับรสชาดเข้มของพริกไทยดำ พริกหยวก และ เนื่องด้วยความที่มีรสชาดเข้มข้น หากเมนูนี้ทานร่วมกับข้าวหรือซุปข้นกุ้ง น่าจะลงตัวพอดีๆ เหมาะกับคนที่ชอบรสชาติจัดจ้านตามสไตล์คนไทย  …

Read More

หนึ่งในเชฟที่มีชื่อเสียงโด่งดังในรายการทีวีที่สุดคนหนึ่งในอังกฤษ ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการปรุงอาหาร นำเสนอเมนูได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมแห่งลัตเวียสู่ห้องอาหารวูว์ ในวันที่  11-15 พฤษภาคม 2559   กรุงเทพฯ (เมษายน 2559)  เชฟมาร์ติน บลูโนส เขาคือหนึ่งในเชฟที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดคนหนึ่งในอังกฤษ ซึ่งเป็นที่นิยมและรู้จักกันอย่างมากในวงการทีวีรายการอาหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการปรุงอาหาร นำเสนอเมนูได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมแห่งลัตเวีย โดยจะมารังสรรค์ 5 คอร์ส และ 7 คอร์สเมนูสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ณ ห้องอาหารวูว์ ในวันที่  12-16 พฤษภาคม 2559 เชฟมาร์ติน ได้แสดงฝีมือการทำอาหารให้เป็นที่ประจักษ์ในร้านอาหารดังทั่วโลก ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในเส้นทางอาชีพเชฟผู้สร้างชื่อเสียงโด่งดังอันยาวนานผ่านรายการทีวี เชฟมาร์ติน เกิดและอาศัยอยู่ใกล้กับเมืองบาธ (Bath) พ่อแม่ของเชฟมาร์ตินได้ย้ายถิ่นฐานจากประเทศลัตเวีย (Latvia) มาพำนักในประเทศอังกฤษ และเขาได้รับอิทธิพลอย่างมากในเรื่องศิลปะการปรุงอาหารทั้งหมดจากแม่ของเขาซึ่งได้ถ่ายทอดเคล็ดลับและการสูตรอาหารของชาวอังกฤษถิ่นบ้านเกิดของแม่และญาติผู้เชื้อสายรัสเซีย ก่อนหน้านี้เขาได้เปิดร้านอาหารของตัวเองที่ชื่อว่า Lettonie และ Blinis ณ เมืองบาธ (Bath) ในอังกฤษ ร้านอาหารทั้งสองแห่งนี้ได้รับขนานนามว่าเป็นสุดยอดร้านอาหารมิชลินระดับสองดาวที่ไม่มีใครเทียบได้ นอกจากนี้เขาได้รับเกียรติอันสูงสุดให้ปรุงอาหารสำหรับสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธ  การเฉลิมฉลองเพื่อแสดงการครบรอบ 60 ปี บรรดานักเขียนอาหาร นักวิจารณ์และลูกค้าประจำต่างแวะเวียนมากันมาที่ร้านอาหาร Lettonie และ  Blinis อย่างไม่ขาดสาย ด้วยมาร์ตินผู้คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดมาปรุงอาหาร จึงสร้างเสน่ห์ดึงดูดให้กับนักข่าวของสำนักพิมพ์อาหารชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก เขาได้ครองตำแหน่งมิชลินเชฟระดับสองดาวยาวนานกว่าเชฟอื่นๆอีกหลายคนในอังกฤษ ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาต้องการเพียงแสดงฝีมือและสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ถือว่าเขาได้รับผลตอบรับเกินคาด นอกจากชื่อเสียงโด่งดังอันยาวนานผ่านรายการทีวีในฐานะเซเลบริตี้เชฟมาร์ตินแล้ว เขายังเป็นที่กล่าวขานว่าเป็นสุดยอดเชฟผู้มีอารมณ์ขัน เป็นคนขี่เล่นและสนุกสนาน และสร้างสีสันอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยคาแรคเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์โดยสังเกตได้จากหนวดของเชฟอันโดดเด่นที่มีลักษณะคลายกันกับวอลรัส  มีความน่ารัก จึงทำให้ผู้คนจดจำมาร์ตินได้อย่างแม่นย้ำ ปัจจุบันนี้ มาร์ตินเป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์และวิทยุเป็นประจำและได้เดินทางไปทั่วโลกในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านแวะเยี่ยมเยียนชมงานนิทรรศการและการแสดงอาหารต่างๆ โดยเขาได้รับเกียรติให้เป็นเชฟรับเชิญในรายการ BBC1’s Saturday Kitchen กับเจมส์มาร์ติน James Martin ช่อง ITV’s Daily Cooks  และ BBC Great Food Live 4,200 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 5 คอร์ทเมนู 6,000 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 5…

Read More

เมื่อเข้าฤดูร้อนอากาศร้อนแล้วนั้น เราก็ต้องย่อมอยากกินอะไรเย็นๆหรือทำให้เย็น วันนี้กินแหลกแจกดาว KinlakeStars.com จะพาทุกท่านไปพบกับข้าวตำรับไทยคลายร้อน ณ ห้องอาหาร GreenHouse, The Landmark Bangkok ด้วยเมนูยอดนิยมของคนไทย “ข้าวแช่ตำรับชาววัง”วันนี้นอกจากจะได้พบกับรีวิวในรายละเอียดและรสชาติของข้าวแช่ เรายังมีโอกาสได้พูดคุยกับเชฟอร ซึ่งเป็นเชฟใหญ่อาหารไทย ผู้รังสรรค์ข้าวแช่ชาววังนี้อีกด้วย “เหตุผลที่เราควรกินข้าวแช่ในช่วงร้อนๆเพราะว่า Herb ในข้าวแช่นั้นทำให้เรารู้สึกเย็นและสดชื่นขึ้นได้ แม้ว่าจะไม่ได้เย็นทันทีทันใดเหมือนอาบน้ำ แต่ก็จะค่อยๆเย็นจากภายในสู่ภายนอก อย่าง กระชาย มะม่วงดิบ หรือ ข้าวอบควันเทียนที่ลอยในน้ำอบซึ่งอบด้วยควันเทียนและกุหลาบให้พอได้กลิ่น เมื่อกินเข้าไปพร้อมๆกับเครื่องเคียงจะช่วยให้เย็นขึ้น” เชฟบังอรกล่าว เมื่อทุกท่านสั่งชุดข้าวแช่ชาววังนี้ทุกท่านจะได้อิ่มอร่อยกับข้าวสวยเม็ดงามที่นำมาใส่น้ำอบควันเทียนเย็นๆกลิ่นหอมควันเทียน มะลิ กุหลาบเบาๆ  รับประทานคู่กับเครื่องเคียงที่บรรจงปรุงแต่งขึ้นมาอย่างสวยงาม อาทิ ลูกกะปิทอด ปลากระเบนหวาน พริกหยวกสอดไส้ หมูหรือเนื้อฝอยผัดหวาน และ ไชโป๊วผัดหวาน ลูกกะปิทอด เป็นเมนูเครื่องเคียงที่ชูโรงในชุดข้าวแช่เลยทีเดียว ดูแบบนี้นั้นมีส่วนประกอบมากมาย ลูกกะปิทอดประกอบไปด้วย กระเทียม ข่า ตะไคร้ รากผักชี ผิวมะกรูด กะปิเกรดคัดพิเศษอย่างดี ปลาฉลาด หอมแดง โดยวิธีทำนั้นก็แสนจะยุ่งยากพอสมควร เชฟอรกล่าวว่า “เราต้องโขลกกระชาย ตะไคร้ ข่า ผิวมะกรูด รากผักชี หอมแดง กระเทียมให้ละเอียด ใส่กะปิ เนื้อปลาโขลกให้เข้ากัน จากนั้น ผัดให้หอม ปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำตาล ผัดจนแห้ง ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลมๆ เล็กๆ ให้เท่ากัน ต่อยไข่แล้วตีให้แตก ใส่แป้ง คนให้เข้ากัน นำกะปิที่ปั้นไว้ลงชุบแล้วทอดให้เหลือง” ปลากระเบนผัดหวาน เป็นอีกเครื่องเคียงที่อาจจะต่างไปจากที่อื่น สำหรับข้าวแช่ในหลายๆที่เราจะเจอปลาหวานที่ทำจาก ปลายี่สน ปลาฉลาด หรือ ปลาช่อน แต่สำหรับที่นี่ใช้ปลากระเบน โดยเชฟอรกล่าวว่า “เราต้องกินกระชายคู่กับปลากระเบนหวาน เพราะนอกจากรสชาติที่เข้ากันยังให้สรรพคุณทำให้รู้สึกเย็นสบายจากภายในสู่ภายนอกการทำนั้นก็นำเนื้อปลากระเบนมา ทุบ ฉีกให้เป็นฝอย และผัดกับน้ำตาลให้ได้ที่” รสชาติก็ออกหวานตามปกติ เนื้อล้วนดีทานง่ายไม่เหนี่ยวไป หัวไชโป๊วผัดหวาน ไชโป่วผัดหวานที่นี่มีดีที่กลิ่นไม่แรงรสชาติกำลังดีไม่แรงไม่เบาไป รสออกหวานตามสูตร สำหรับเมนูนี้เองเชฟอรเสริมว่า ” ไชโป่วหวานที่นี้ซื้อมาจากตลาด แต่ล้างและนำมาผัดใหม่ เพื่อทำให้สะอาดและลดกลิ่น ซึ่งการกินไชโป่วผัดหวานในช่วงร้อนนี้ก็ช่วยแก้พวกร้อนในได้ด้วย เพราะสรรพคุณของไชโป่วทำให้เย็น”…

Read More