Kinandleisure
    Facebook Twitter Instagram
    Trending
    • [News] Mooncake 2025 รวมโปรโมชั่นขนมไหว้พระจันทร์จากโรงแรมหรูและร้านดังกรุงเทพฯ ที่ต้องไม่พลาด
    • [News] Anantara Siam Bangkok ร่วมกับศิลปินไทยรังสรรค์กล่องขนมไหว้พระจันทร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ประจำปี 2025 ในคอลเลคชั่น “Serpenti Mooncake”
    • [News] Kimpton MaaLai Bangkok เปิดตัวกล่องขนมไหว้พระจันทร์ “โดมิโน” ที่บอกเล่าความเปลี่ยนแปลงผ่านศิลปะ ของขวัญขนมไหว้พระจันทร์ที่มีความหมายลึกซึ้ง — เพราะทุกกล่องคือการให้กลับคืนสู่สังคม
    • [Review] The Bamboo Bar ตำนาน Jazz Bar ริมน้ำเจ้าพระยา ที่ยังคงความหรูหราและความมีคลาสอย่างน่าประทับใจ @Mandarin Oriental Bangkok
    • [News] เปิดประสบการณ์มื้อค่ำสุดพิเศษ Four-Hand Dinner by Kempinski Japanese Mastersที่ห้องอาหาร คิ อิซากายะ (Ki Izakaya) โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ Sindhorn Kempinski Bangkok
    • [Review] “All You Can Eat Yum Cha” ณ เอเชียทีค แอนเชี่ยนท์ ที เฮ้าส์ ชวนอิ่มอร่อยไม่อั้นกับ Asiatique Ancient Tea House
    • [News] โรงแรมสุโขทัยกรุงเทพ เปิดตัวเมนูใหม่ ณ ห้องอาหารไทย “ศิลาดล”เชฟจิ๊บ ถ่ายทอดอาหารไทยคลาสสิกในมิติใหม่ ผสานรสชาติร่วมสมัย New Tasting Menu 2025 Celadon, The Sukhothai Bangkok
    • [News] “Moonique” ขนมไหว้พระจันทร์รังสรรค์พิเศษเจือด้วยเสน่ห์ญี่ปุ่นและหอมละมุนแห่งความวิจิตรณ ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ The Okura Prestige Bangkok Mooncake 2025
    Facebook Twitter Instagram
    Kinandleisure
    • Kin Reviews
      • Top Restaurant
      • French Cuisine
      • European Cuisine
      • German Cuisine
      • Italian Cuisine
      • Japanese Cuisine
      • Thai Cuisine
      • International Cuisine
      • Spanish Cuisine
      • tea lounge/Café & bakery
      • Chinese Cuisine
      • American Cuisine
      • Bar Drinks
      • Steak House
      • Vietnamese Cuisine
      • Korean Cuisine
      • Indian Cuisine
      • latin American
      • Steak House
    • K healthy
      • Kin Healthy
      • Healthy Living
    • Kin Articles
      • Kin General
      • Kin Cooking
      • Kin Seasonal
    • Kin Channel
    • Promo & Event
      • Kin Promo
      • Kin News
      • LifeStyle Promo & Event
    • K Travel&LifeStyle
      • Trip Review
      • Hotel Review
      • Spa & beauty
      • K Fashion
      • K Fit
      • Our Team เบื้องหลัง โฉมหน้าผู้สร้างเนื้อหา กิน ดื่ม เที่ยว โดยทีมงานคุณภาพ
    • K Living & Design
    Kinandleisure
    Home»Dining Type»Fine Dining»[Review] เสน่ห์อาหารไทยสไตล์ล้านนา ที่รสชาติที่ตราตรึงมิลืมเลือน New Tasting Menu @ North Restaurant
    Fine Dining

    [Review] เสน่ห์อาหารไทยสไตล์ล้านนา ที่รสชาติที่ตราตรึงมิลืมเลือน New Tasting Menu @ North Restaurant

    nutthawat jaruwatBy nutthawat jaruwatMarch 14, 2025Updated:March 17, 2025No Comments3 Mins Read

    Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A

    สวัสดีครับท่านผู้ชื่นชอบในการรับประทานอาหารเลิศรสทุกท่าน วันที่พวกเราทีมงาน Kinandleisure ขอนำเสนอประสบการณ์ทางอาหารที่น่าประทับใจ จากร้านอาหารชื่อดังใจกลางกรุง ที่จะทำให้วันนี้ทั้งวันของคุณเปี่ยมไปด้วยความสุข โดยในวันนี้ขอนำเสนอ ห้องอาหาร North ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่ง ที่ได้รับการยกย่องจากมิชลินไกด์ และสร้างชื่อเสียงให้กับอาหารไทยด้วยการเป็นร้านอาหารเหนือแท้ๆ ที่ได้รับการยกย่องจากสื่ออาหารชั้นนำระดับโลก

    นำเสนอความมหัศจรรย์ทางอาหารด้วยบรรยากาศสวยงามหรูหรา ผสานไปด้วยกลิ่นอายของศิลปวัฒนธรรมสไตล์ล้านนาเข้าไว้กับการปรุงอาหารอย่างประณีต โดยในวันนี้ทาง Kinandleisure จะขออนุญาตนำพาทุกท่านไปสัมผัสกับอาหารภาคเหนือ ด้วยเมนูชวนลิ้นลองที่ผสมผสานทั้งความเป็นดั้งเดิมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่แต่งเติมลงบนจานอาหารได้อย่างลงตัว

    Vibes & Decorations

    ร้าน North Restaurant ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 33 สามารถเข้ามาได้ง่ายและทางร้านมีพื้นที่จอดรถภายในบริเวณ ทำให้สะดวกสบายสำหรับผู้ที่ขับรถมาเอง หรือสามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีพร้อมพงษ์ เดินผ่านสวนเบญจสิริรับอากาศบริสุทธิ์สักครู่ จากนั้นข้ามมายังฝั่งซอยสุขุมวิท 33 แล้วเดินต่ออีกไม่ไกลก็จะพบร้าน North ซึ่งเป็นลักษณะบ้านหลังสวย โดยเป็นบ้านไม้สักเก่าของครอบครัวพานิชพัฒน์ ซึ่งแต่เดิมเป็นบ้านที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมล้านนา การปรับเปลี่ยนนี้ไม่ใช่เพียงแค่รีโนเวตโครงสร้างอย่างเดียว แต่ยังคงใส่ใจและเคารพในรายละเอียดดั้งเดิมของบ้าน เช่น การโชว์ โครงสร้างไม้สัก ที่คงความงดงามแบบไม้เก่าไว้อย่างชัดเจน

    บางมุมยังมีการนำ ภาพเขียนหรือภาพวาด แนวศิลปะเหนือมาประดับเพิ่มเสน่ห์ ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงเรื่องราวและกลิ่นอายล้านนาแบบแท้จริง โดยโทนสีหลักที่ถูกเลือกใช้ในการตกแต่งคือ สีเขียว ซึ่งโดดเด่นตั้งแต่ภายนอกร้านจวบจนภายใน ชวนให้นึกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าภาคเหนือ ประกอบกับรายละเอียดการเลือกวัสดุที่มีผิวสัมผัสของไม้หรือโครงสร้างไม้ ทำให้เกิดความรู้สึก อบอุ่น อนุรักษ์ และหรูหรา ไปพร้อมกัน ยิ่งเมื่อผนวกกับแสงไฟสลัวแบบซ่อนตามกำแพงหรือแสงโคมไฟสีอ่อน ๆ ก็สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและโรแมนติกอย่างน่าประทับใจ

    ทันทีที่ก้าวผ่านประตูร้าน คุณจะได้สัมผัสถึงความพิถีพิถันในการตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาณาจักรล้านนาในอดีต อุดมไปด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างโคมไฟไม้สลัก เส้นสายลวดลายผ้าทอมือ และกลิ่นหอมของเครื่องเทศอ่อน ๆ ที่อบอวล ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายแต่ทรงคุณค่า ให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินทางข้ามกาลเวลาไปสู่ดินแดนทางภาคเหนืออันที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมอันมีมนต์ขลังและเปี่ยมเสน่ห์ ซึ่งสร้างบรรยากาศที่แตกต่างทั้งในช่วงการรับประทานอาหารในช่วงเย็น หรือช่วงค่ำ ล้วนให้บรรยากาศอันสุขสบาย

    อีกหนึ่งไฮไลต์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของร้าน คือ พื้นที่เรือนกระจก ที่ต่อเติมขึ้นมาใหม่ โดยมีโครงสร้างไม้เชื่อมกับตัวบ้านหลังเก่าได้อย่างกลมกลืน ด้านบนประดับ โคมไฟยี่เป็ง ให้แสงนวลตา ชวนให้นึกถึงเทศกาลโคมลอยอันเป็นประเพณีที่โด่งดังของภาคเหนือ แสงไฟที่ตกกระทบผ่านกระจกใสมอบบรรยากาศนุ่มละมุน เหมือนได้ร่วมเฉลิมฉลองในงานลอยโคมยี่เป็งตลอดทั้งปี

    และนอกจากความใส่ใจเรื่องรสชาติแล้ว เชฟและทีมงานยังให้ความสำคัญกับการบริการระดับพรีเมียม พนักงานทุกคนคอยแนะนำเมนู ตอบคำถามเกี่ยวกับวัตถุดิบหรือวิธีการปรุงอย่างยิ้มแย้ม โดยไม่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเกร็งแม้อยู่ในบรรยากาศ
    ไฟน์ไดนิ่ง

    เสน่ห์ของอาหารเหนือที่คัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งต้นกำเนิด

    หัวใจสำคัญของร้าน North คือความมุ่งมั่นในการรังสรรค์เมนูอาหารเหนือแท้ ๆ ด้วยการเฟ้นหาวัตถุดิบสดใหม่จากแหล่งต้นกำเนิดจากภาคต่างๆ ของไทย ซึ่งเชฟของร้านไม่เพียงแต่ทำอาหารให้มีรสชาติอันโอชะเท่านั้น แต่การทำอาหารของเชฟก็เป็นทั้งการรักษามรดกทางอาหารที่อาจใกล้เลือนหายไปจากความทรงจำ รวมถึงการนำวัฒนธรรมเหล่านั้นมาแปลงโฉมใหม่ให้เหมาะสมกับยุคสมัย โดยที่ยังรักษาจิตวิญญาณของอาหารเหนือไว้อย่างครบถ้วน และพร้อมตั้งใจสื่อสารเรื่องราวของเมืองเหนือผ่านงานดีไซน์ในแต่ละจาน ทุกเมนูจึงถูกจัดวางอย่างสวยงามสไตล์โมเดิร์น ใช้ภาชนะที่ผสมผสานงานคราฟต์จากศิลปะท้องถิ่น ทำให้จานอาหารดูมีเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร แถมยังช่วยสะท้อนกลิ่นอายวัฒนธรรมล้านนาได้อย่างมีชีวิตชีวา

    Menu “เมนูข้าวแลงล้านนา”

    โดยในฤดูนี้ จะนำเสนอในธีม “เฮือนเลขที่ 8” ที่ผสมผสานรสชาติอันงดงามจากวัฒนธรรม วัตถุดิบ และกรรมวิธีการประกอบอาหารอันทรงคุณค่าจาก 8 จังหวัดล้านนา จากซีซั่นคอร์สต่างๆ นำมารังสรรค์เป็นเมนูที่แสดงออกถึงตัวตนของจังหวัดต่างๆ ดังนี้

    ก่อนเริ่มเสิร์ฟคอร์สอาหาร ทางร้านจะนำเสนอ ขนมปังซาวร์โดว์ (Sourdough) โฮมเมด ที่ผ่านกระบวนการหมักจนได้เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มและเปลือกกรอบบาง ส่งกลิ่นหอมอบอวลของยีสต์ธรรมชาติและข้าวสาลีที่ผ่านการบ่มอย่างพิถีพิถัน

    เสิร์ฟเคียงคู่กับ เนยรสละมุนที่ผสานความหอมของผักแพ้ว (Coriander) ซึ่งให้กลิ่นสดชื่นบางเบา แฝงด้วยความเผ็ดร้อนนิดๆ ตามเอกลักษณ์ของสมุนไพรไทย ช่วยเติมมิติให้กับรสชาติของขนมปัง และกระตุ้นต่อมรับรสให้พร้อมสำหรับคอร์สอาหารที่กำลังจะตามมา

    เมื่อทาเนยลงบนขนมปังอุ่นๆ เนยจะค่อยๆ ละลายซึมเข้าสู่เนื้อขนมปัง เพิ่มความฉ่ำและกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ทำให้ทุกคำสัมผัสทั้งนุ่ม หอม และกลมกล่อม เป็นการเริ่มต้นมื้ออาหารที่แสนละเมียดละไมและสร้างความประทับใจตั้งแต่คำแรก

    Amuse Bouche “เลขที่ 8”

    Amuse Bouche ของมื้อนี้เป็นการผสมผสานวัตถุดิบพื้นถิ่นเข้ากับเทคนิคการปรุงที่ประณีต จนเกิดเป็นคำเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยรสชาติอันลุ่มลึกและสร้างความตื่นเต้นให้ต่อมรับรส

    เริ่มต้นด้วย สลัดกรอบไต้เหมี่ยวอ่องมันปูนา ผักไต้เหมี่ยวอ่อนกรอบถูกคลุกเคล้ากับ อ่องมันปูนา ที่ให้รสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวจากมันปู ซึ่งเคี่ยวจนได้เนื้อสัมผัสเนียนละมุน ก่อนเคลือบลงบนผักให้ซึมซาบความหอมมันอย่างทั่วถึง เมื่อกัดลงไปจะสัมผัสได้ถึงความกรุบกรอบของผักที่ตัดกับความครีมมี่ของอ่องมันปู สร้างความเพลิดเพลินตั้งแต่คำแรก

    ถัดมาคือ คั่วหัวปลี ที่นำหัวปลีมาเข้ากระบวนการคั่วจนได้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ เนื้อสัมผัสนุ่มแต่ยังคงความฉ่ำ รสชาติออกเข้มข้นและมีความหวานกลมกล่อมจากธรรมชาติของหัวปลี เคล้าด้วยเครื่องเทศที่ช่วยชูรสชาติให้ลึกซึ้งขึ้น

    ปิดท้ายด้วย ข้าวแต่นลำปางเมี่ยงลาว ซึ่งเป็นการจับคู่ที่ลงตัวระหว่าง เมี่ยงลาว รสเปรี้ยวหวาน ที่ให้ความสดชื่น ตัดกับ ข้าวแต่นลำปาง ที่กรุบกรอบและหอมกลิ่นข้าวคั่ว ช่วยสร้างมิติของรสสัมผัสและความสมดุลในคำเดียว

    Amuse Bouche ทั้งสามคำนี้ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นต่อมรับรส แต่ยังเป็นการเปิดประสบการณ์ให้สัมผัสถึงเสน่ห์ของวัตถุดิบพื้นถิ่นผ่านรสชาติที่กลมกล่อมและลงตัว พร้อมปูทางสู่คอร์สอาหารสุดพิเศษที่รออยู่เบื้องหน้า

    ต่ำกุ้งแดง (แม่ฮ่องสอน)

    ตัวกุ้งจะใช้กุ้งแดงสเปนที่นำไปบ่มดอกเกลือน่าน ด้านล่างจะเป็นสลัดผักกวางตุ้งดอกเหลืองในน้ำมันมะแข่วน ซึ่งเป็นสมุนไพรเครื่องเทศชนิดหนึ่งของทางภาคเหนือ คล้ายๆ พริกไทยดำ ด้านบนจะเติมด้วยหลายอย่าง อาทิ กระเจี๊ยบเขียว เติมเจลไข่แดงออร์แกนิก กุ้งแห้ง และมะนาวที่ทำเป็นเม็ดคล้ายๆ คาเวียร์ และจบที่การราดโฟมที่ทำจากมะนาวผักแพ้ว โดยการทานแนะนำให้บีบมะนาวแล้วผสมทุกอย่างเพื่อทานพร้อมกันเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมครบทุกถ้วนทุกรสชาติ พร้อมให้ความสดชื่นได้อย่างดี

    คอนซูเม่ต์แกงผักกูดใส่ปลากะพง (เชียงราย)

    เป็นคอนซูเมต์ซุปจากแกงผักกูดสูตรจังหวัดเชียงราย โดยมีปลากะพงทะเลสาบจากทะเลสาบจังหวัดสงขลาวางอยู่กลางถ้วยที่มีเนื้อเด้งแน่นและกลิ่นหอม พร้อมมูสขมิ้นชันจากจังหวัดสุราษฏร์ธานี โปะด้วยไข่ปลาเทราต์ดอง พริกบางช้างสมุทรสงคราม และเจลลี่มะกรูดซีตรัสแช่เย็น วิธีการทานมีสามขั้นตอน

    เริ่มจากเปิดต่อมรับรสด้วยมะกรูดเจลลี่ จากนั้นชิมตัวซุป แนะนำให้ทานเพียงคำหรือสองคำ และขั้นตอนสุดท้ายคือผสมตัวปลาและมูสเข้ากับตัวซุปและทานได้เลย  มีรสจัดเค็มโดดและเผ็ดอ่อนๆ  แต่เมื่อทานตามลำดับแล้วจะทำให้ได้รับรสชาติที่กลมกล่อมทั้งความเข้มข้นจากตัวซุป เนื้อสัมผัสอ่อนๆ ของปลาและมูส ไข่ปลาเทราต์ที่รสเค็มมันทะลักเมื่อยามกัด และความหอมอมเปรี้ยวจากเจลลี่มะกรูด เป็นจานที่มี Gimmick และเสน่ห์อาหารไทยที่น่าค้นหา

    แอ่วพระนคร (แพร่)

    เป็นเมนูที่ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากลาบเมือง โดยจะใช้ปีกไก่ทอดที่ยัดไส้ลาบเมืองเข้าไป ซึ่งลาบเมืองจะแตกต่างกับเมนูลาบของทางอีสานตรงที่ลาบเมืองจะใส่เครื่องในไก่เข้าไปด้วย โดยเสิร์ฟพร้อมพริกไทยปะเหลี่ยนจากจังหวัดตรัง และเสิร์ฟพร้อมซอสที่เป็นโฟมต้มข่าไก่กะทิเข้มข้น

    และข้าวเหนียวที่เป็นข้าวมันสาคูกะทิ และมีเครื่องเคียงเป็นโมฮิโต้เจลสีเขียว
    มะเขือเทศเชอรี่กัมมี่สีแดงสด และผักดองชาเลือดมังกร โดยวิธีการทานแนะนำให้ทานตัวไก่ ซอส ข้าวเหนียวเข้าด้วยกัน และทานคู่กับเครื่องเคียงทั้งสาม โดยใบโอบะที่ให้กลิ่นหอมด้านล่างสามารถรับประทานได้

    ซึ่งจานนี้เป็นจานที่ทำให้รับรู้ถึงเสน่ห์อาหารจานลาบของเมืองเหนือจริงๆ ด้วยความกล่มกล่อมของรสชาติที่เชฟทำมาได้อย่างพอดี เทคนิควิธีที่ทำเครื่องเคียงต่าง ๆ ที่ทำให้มีความสวยงาม ตบท้ายด้วยลูกเล่นที่เมื่อทานพร้อมกันหมดตามวิธีจะทำให้ได้รสสัมผัสพิเศษที่น่าตราตรึงใจ

    ซอร์เบทมะไฟจีนภูเพียง (น่าน)

    ประกอบด้วยมะไฟจีนอบแห้ง จากอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นผลไม้รสออกเปรี้ยวนิด ๆ มีความหวานบาง ๆ และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ เมื่อนำมาแปรรูปเป็นอบแห้ง ช่วยเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติและกลิ่นให้โดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อมดอกเกลือภูเขาบ่อเกลือน่าน เกลือสินเธาว์จากพื้นที่ภูเขาในอำเภอบ่อเกลือ อันเป็นแหล่งผลิตเกลือโบราณที่มีชื่อเสียงในจังหวัดน่าน เกลือชนิดนี้ให้ความเค็มที่นุ่มนวล ไม่บาดคอ และมักใช้เพื่อชูรสในเมนูระดับพรีเมียม และเหล้าหมาใจดำ

    เหล้าสำหรับปรุงแต่งรสชาติที่ได้จากช่อดอกมะพร้าวของจังหวัดน่าน ให้กลิ่นหอมหวานและมิติรสที่ลุ่มลึกเล็กน้อย โดยมักผสมผสานในเครื่องดื่มและของหวานแบบพื้นเมืองในพื้นที่ภาคเหนือ เมื่อปรุงทั้งหมดเข้าด้วยกันจนเป็นซอร์เบท จะได้เนื้อสัมผัสที่ละเอียดเนียน รสชาติหวานอมเปรี้ยว พร้อมความหอมของมะไฟจีนที่ถูกเร่งให้เด่นชัดขึ้นด้วยการอบแห้ง ผสมกับความเค็มนุ่ม ๆ ของดอกเกลือภูเขาบ่อเกลือน่าน ซึ่งช่วยตัดรสและทำให้รสหวานของผลไม้ลุ่มลึกขึ้น ส่วนเหล้าหมาใจดำก็เข้ามาเพิ่มชั้นกลิ่นที่แปลกใหม่ ปิดท้ายด้วยความรู้สึกอุ่นละมุนในลำคอ เป็นขนมคั่นกลางที่เป็น Cleansing palette ที่น่าประทับใจ

    กุ้งแม่น้ำอบดอกเกลือซอสเอสพูม่าแอ็บ (พะเยา)

    เป็นแอ็บกุ้งแม่น้ำ ซึ่งแอ็บในภาษาเหนือ ก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กับห่อหมดของภาคกลาง โดยเป็นการน้ำเนื้อสัตว์ หมกกับตัวเครื่องแกง โดยในเครื่องแกง เชฟจะเสิร์ฟเป็นเอสพูม่าซอส โดยในเมนูนี้ เชฟได้พลิกแพลงให้ออกมาเป็นรูปแบบซอส เอสพูม่า หรือโฟมนุ่ม ๆ ทำให้รสชาติของเครื่องแกงติดอยู่ในฟองโฟมละมุน เมื่อรับประทานคู่กับกุ้งเนื้อแน่นจึงรู้สึกได้ถึงความเข้มข้นและกลิ่นอายของเครื่องแกงแอ็บเต็มคำ

    โดยใส่พร้อมกับครองแครงมันม่วงและใบยี่หร่าทอดกรอบ ในขณะที่ตัวตูเล่จะทำมาจากจั๊กค่านป่า ที่เป็นพืชสมุนไพรภาคเหนือ มีลักษณะเป็นเถาวัลย์ โดยขูดเนื้อไม้เอาในพินเพื่อนำมาทำเป็นตูเล่ ในขณะที่เม็ดเล็กๆ สีเขียวคล้ายคาเวียร์ ทำมาจากเบอกาม็อตและพาสลีย์ โดยเลือกใช้กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่เนื้อแน่นอบกับดอกเกลือของจังหวัดน่าน ช่วยยกระดับรสชาติของเนื้อกุ้งให้กลมกล่อมขึ้นและรมควันเพื่อให้กุ้งมีกลิ่นหอมควันบาง ๆ ชวนลิ้มลอง สร้างเสน่ห์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ตัวกุ้งเนื้อแน่น ในขณะที่เครื่องแกงมีความนุ่มลึกเข้มข้นสะท้อนความเป็นอาหารเหนือ มี Gimmick ตอนเสิร์ฟเล็กๆ ด้วยการเล่นกับควันวาโยมาศเพื่อเพิ่มกลิ่นรมควันและความสวยงามของจานอาหาร

    ขันโตกนอร์ธ (เชียงใหม่)

    Main Course ชุดขันโตก – เสน่ห์แห่งอาหารเหนือที่เต็มเปี่ยมด้วยเรื่องราวและรสชาติ

    คอร์สหลักของมื้อนี้มาในรูปแบบ “ขันโตก” ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของชาวล้านนา แต่เดิมนิยมเสิร์ฟในช่วงเย็น เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวหรือแขกเหรือล้อมวงรับประทานร่วมกัน ในครั้งนี้ขันโตกถูกออกแบบให้เหมาะกับการเสิร์ฟแบบ Fine Dining โดยจัดเป็นเซ็ตสำหรับ 1 ท่านต่อ 1 ชุด ครบครันทั้งรสชาติและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของแต่ละจาน

    เครื่องจิ้มและเครื่องเคียง

    🔸 น้ำพริกมะหมาดน่าน ได้รับแรงบันดาลใจจากน้ำพริกที่ เจ้านางเชียงใหม่ เคยนำขึ้นถวาย รัชกาลที่ 5 มีรสเผ็ดร้อน หอมเครื่องสมุนไพร และมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นกว่าน้ำพริกทั่วไป เสริมรสชาติด้วย แคบหมูเชียงราย กรอบมันกำลังดี และ ไส้อั่วนอร์ท ที่ทางร้านทำขึ้นเองโดยคัดสรรเนื้อหมูและเครื่องเทศตำรับดั้งเดิม

    🔸 ผักและผลไม้ตามฤดูกาล เสริมมิติของรสชาติให้สมดุล พร้อมด้วย “มะตูมแขก” ซึ่งเป็นไฮไลต์ของชุดนี้ มะตูมแขกมีรสหวานฝาดอ่อนๆ และกลิ่นหอมเฉพาะตัว เป็นผลไม้หายากที่นิยมใช้ในอาหารพื้นเมือง

    ซุปและแกงพื้นเมือง

    🔹 แกงหน่อไม้เมืองแพร่ หน่อไม้ที่นำมาใช้ผ่านกระบวนการเตรียมพิเศษจนมีค่า ไซยาไนด์เท่ากับศูนย์ ทำให้หมดความขมฝาด คงเหลือเพียงความหอมหวานและสัมผัสนุ่มจากหน่อไม้สดที่เคี่ยวในน้ำแกงที่กลมกล่อม

    🔹 แกงฮังเล สูตรต้นตำรับล้านนา ใช้ เนื้อแก้มวัวโพนยางคำจากสกลนคร ซึ่งเป็นส่วนที่มีไขมันแทรกกำลังดี เมื่อนำมาเคี่ยวกับเครื่องแกงที่เข้มข้น จะได้รสชาติหวาน เค็ม และเปรี้ยวเล็กน้อยจากสับปะรดและขิงดอง เนื้อเปื่อยนุ่มแต่ยังคงให้สัมผัสที่เต็มคำ

    ข้าวพื้นเมือง – หอม นุ่ม และเต็มไปด้วยเรื่องราว

    เสิร์ฟมาคู่กันกับข้าวสองชนิดที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือ ได้แก่

    🌾 ข้าวเหนียวดำล้านนา (ข้าวก่ำล้านนา / ข้าวหมายนา) ซึ่งได้ชื่อนี้เพราะเมล็ดข้าวมีสีม่วงเข้มตั้งแต่ยังอยู่ในรวง เมื่อผ่านการนึ่งแล้วจะมีความเหนียวนุ่มและกลิ่นหอมเฉพาะตัว

    🌾 ข้าวหอมมะลิพะเยาอบชาเปลือกกาแฟดอยช้าง คัดสรร ข้าวข้ามปี เพื่อให้ได้เมล็ดที่หุงขึ้นหม้อ ออกมาเป็นเม็ดร่วนสวยงาม พร้อมเพิ่มมิติความหอมด้วยการอบกับชาเปลือกกาแฟจากดอยช้าง ซึ่งช่วยให้กลิ่นหอมละมุนและมีรสสัมผัสที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

    ✨ เซ็ตขันโตกนี้เป็นมากกว่าอาหารมื้อหนึ่ง แต่เป็นการนำเสนอเรื่องราว วัฒนธรรม และวัตถุดิบพื้นถิ่น ผ่านรสชาติที่ลงตัวและการจัดวางที่ประณีต สมเป็นคอร์สหลักของมื้ออาหารอันวิจิตรนี้ ✨

    ม่อนน้ำผึ้งหอม (ลำพูน)

    เมนูของหวานสุดครีเอทีฟที่ผสมผสานวัตถุดิบจากภาคเหนืออย่าง ส้มสายน้ำผึ้งเชียงใหม่ ที่มีจุดเด่นคือความหวานฉ่ำอันเป็นเอกลักษณ์ กลิ่นหอมละมุน และความเปรี้ยวบาง ๆ ที่ช่วยปรับสมดุลในขนมได้อย่างดี และ น้ำผึ้งป่าฮันนี่โคมบ์ ที่มีกลิ่นหอมเข้มข้นกว่าน้ำผึ้งเลี้ยงทั่วไป เข้ากับเทคนิคการทำขนมแบบโมเดิร์นได้อย่างงดงาม ทั้งรูปลักษณ์ การนำเสนอ และรสชาติที่น่าประทับใจในทุกมิติ มาพร้อมกับเปลือกไวท์ช็อกโกแลต ที่ภายนอกเห็นเป็นโดม ภายในบรรจุมูสหรือไส้ครีมชีสผสมน้ำผึ้ง มีรสชาติหวานละมุนผสานความเปรี้ยวนิด ๆ จากครีมชีส

    ก่อนรับประทานต้องเคาะเปลือกให้แตกเบา ๆ เพื่อเปิดเผยความอร่อยด้านใน และมีเจลลาโต้ซาวครีมและน้ำผึ้งบ่ม ทำให้ได้ความหวานกำลังดีและรสเปรี้ยวแบบนุ่ม ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความสดชื่นและตัดความหวานจากส่วนอื่นได้เป็นอย่างดี และมีช็อกโกแลตและสติ๊กกี้ฮันนี่โคมป์วาฟเฟิล เป็นเครื่องเคียงที่จัดวางเพื่อเสริมเท็กซ์เจอร์และเพิ่มความหอมของน้ำผึ้ง โดยจานนี้เป็นของหวานที่น่าสนใจมาก มี Gimmick ที่ชวนให้ผู้ทานได้ร่วมสนุก จังหวะที่เปลือกแตกออกจะเผยให้เห็นไส้ครีมชีสผสมน้ำผึ้งและส้มสายน้ำผึ้งด้านใน เป็นประสบการณ์ทางสายตาและประสาทสัมผัสที่น่าตื่นเต้น และเมื่อช้อนตักทั้งครีมชีสผสมน้ำผึ้งและเจลลาโต้ซาวครีมเข้าด้วยกัน จะรู้สึกได้ถึงความละมุน หวานหอม และความเปรี้ยวอ่อน ๆ ที่ตัดความเลี่ยนได้ดี

    Petit Four – รถม้าบรรณาการ (ลำปาง)

    เป็นเมนูสุดท้ายอันน่าประทับใจ ประกอบด้วย ชูครีมชีเขียวแมคคาเดเมีย ข้าวงาปิ้งคาราเมลกานาซ เจลลี่มะม่วงน้ำดอกไม้ และชอคโกแลตมอคค่าเชียงใหม่ เสิร์ฟคู่กับชาเฟลอร์ดูนอร์ธ ที่ส่วนผสมของทั้งชาหอมหมื่นลี้ ดอกกุหลาบ และกลิ่นของลาเวนเดอร์ เพิ่มความชุ่มชื่นและตัดหวานได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ขนมทุกอย่างทำออกมาได้อย่างงดงามและนำเสนออย่างน่าประทับใจ ทั้งสี่ชิ้นมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน และล้วนให้ After taste ที่ยากลืมเลือน

    จบกันไปแล้วสำหรับมื้ออาหารอันน่าประทับใจในค่ำคืนนี้ โดยร้าน North คือสวรรค์ของคนรักอาหารเหนือและอาหารไทยที่หาทานได้ยากอย่างแท้จริง ด้วยอาหารทุกจานที่มีเอกลักษณ์ในตัวเอง แฝงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ในขณะที่การนำเสนอก็มี Gimmick ที่น่าสนใจในทุกจาน มีการปรุงแต่งมาอย่างพิถีพิถันโดยคำนึงถึงรากวัฒนธรรมดั้งเดิม โดยผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ของเชฟ และการนำเสนอที่ประณีต ภายใต้บรรยากาศร้านหรูหราแต่เป็นกันเอง ให้คุณรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน ในขณะเดียวกันก็ได้ดื่มด่ำกับมนตร์เสน่ห์ของเมืองเหนืออย่างเต็มอิ่ม ทำให้ร้าน North เป็นหนึ่งในที่หมายที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

    โดยสามารถติดต่อจองโต๊ะได้ที่ Line ID : @northbkk8 หรือโทรศัพท์ : 061-426-2642 โดยมื้ออาหารจะเปิดในสองช่วงเวลา คือ A la carte lunch 11:30 – 14:30 น. และช่วง Dinner 18:00-23:00 น. ร้านตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 33 สามารถเดินทางมาอย่างสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถไฟฟ้า หรือแท็กซี่

    Share this:

    • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
    • Click to share on X (Opens in new window) X
    • Click to share on Threads (Opens in new window) Threads
    bangkok fine dining Thai Cuisine
    Previous Article[Review] Hashiri Bangkok: สัมผัสโอมากาเสะฟิวชั่นอร่อยสร้างสรรค์ ใจกลางกรุง ที่ The Athenee Hotel, A Luxury Collection Bangkok Hotel
    Next Article [Review] ข้าวแช่ตำรับ มาริ กีมาร์ 2568: มรดกแห่งสยาม อาหารแห่งฤดูร้อน โดย เชฟปิ๊ก คณิน สินพันธ์

    Related Posts

    [Review] The Bamboo Bar ตำนาน Jazz Bar ริมน้ำเจ้าพระยา ที่ยังคงความหรูหราและความมีคลาสอย่างน่าประทับใจ @Mandarin Oriental Bangkok

    August 18, 2025

    [Review] สัมผัสเสน่ห์อาหารดินแดนฟ้าจรดทรายน่าตราตรึง กับรสชาติและสีสันแดนโมร็อกโก กับ “Taste of Morocco” @ Vertigo Banyan Tree Bangkok

    July 25, 2025

    [Review] แซบแบบอีสานจานท้องถิ่นสู่โต๊ะอาหาร ! ประสบการณ์อาหารอีสานระดับมิชลินไกด์ @ แก่นกรุง Kaenkrung

    July 22, 2025

    Comments are closed.

    • Recent Posts
    • POPULAR

    [News] Mooncake 2025 รวมโปรโมชั่นขนมไหว้พระจันทร์จากโรงแรมหรูและร้านดังกรุงเทพฯ ที่ต้องไม่พลาด

    August 23, 2025

    [News] Anantara Siam Bangkok ร่วมกับศิลปินไทยรังสรรค์กล่องขนมไหว้พระจันทร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ประจำปี 2025 ในคอลเลคชั่น “Serpenti Mooncake”

    August 23, 2025

    [News] Kimpton MaaLai Bangkok เปิดตัวกล่องขนมไหว้พระจันทร์ “โดมิโน” ที่บอกเล่าความเปลี่ยนแปลงผ่านศิลปะ ของขวัญขนมไหว้พระจันทร์ที่มีความหมายลึกซึ้ง — เพราะทุกกล่องคือการให้กลับคืนสู่สังคม

    August 19, 2025

    [Review] The Bamboo Bar ตำนาน Jazz Bar ริมน้ำเจ้าพระยา ที่ยังคงความหรูหราและความมีคลาสอย่างน่าประทับใจ @Mandarin Oriental Bangkok

    August 18, 2025

    [News] เปิดประสบการณ์มื้อค่ำสุดพิเศษ Four-Hand Dinner by Kempinski Japanese Mastersที่ห้องอาหาร คิ อิซากายะ (Ki Izakaya) โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ Sindhorn Kempinski Bangkok

    August 16, 2025

    [News] Mooncake 2025 รวมโปรโมชั่นขนมไหว้พระจันทร์จากโรงแรมหรูและร้านดังกรุงเทพฯ ที่ต้องไม่พลาด

    August 23, 2025

    [News] Anantara Siam Bangkok ร่วมกับศิลปินไทยรังสรรค์กล่องขนมไหว้พระจันทร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ประจำปี 2025 ในคอลเลคชั่น “Serpenti Mooncake”

    August 23, 2025

    [News] Kimpton MaaLai Bangkok เปิดตัวกล่องขนมไหว้พระจันทร์ “โดมิโน” ที่บอกเล่าความเปลี่ยนแปลงผ่านศิลปะ ของขวัญขนมไหว้พระจันทร์ที่มีความหมายลึกซึ้ง — เพราะทุกกล่องคือการให้กลับคืนสู่สังคม

    August 19, 2025

    [Review] The Bamboo Bar ตำนาน Jazz Bar ริมน้ำเจ้าพระยา ที่ยังคงความหรูหราและความมีคลาสอย่างน่าประทับใจ @Mandarin Oriental Bangkok

    August 18, 2025

    [News] เปิดประสบการณ์มื้อค่ำสุดพิเศษ Four-Hand Dinner by Kempinski Japanese Mastersที่ห้องอาหาร คิ อิซากายะ (Ki Izakaya) โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ Sindhorn Kempinski Bangkok

    August 16, 2025
    POPULAR

    “ฟัวกราส์” ถูกแบนแล้วในแดนแซมบ้า ห้ามซื้อห้ามขายห้ามกิน

    June 29, 2015

    เมล็ดมันแกวแก่ กินไม่ดีถึงตายไปหลายรายแล้ว!!!!

    June 30, 2015

    ภาชนะที่ทำจากโฟมใส่ของกินของต้องห้ามในนิวยอร์กตั้งแต่วันนี้!

    July 2, 2015
    @KinlakeStars
    KINLAKESTARS.COM

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

     

    Loading Comments...