Author: nutthawat jaruwat

สวัสดีท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารทุกท่านอีกเช่นเคยครับ ในช่วงยามบ่ายอันร้อนระอุแห่งเมืองกรุงนี้ หากได้มาพักกายหย่อนใจด้วยสถานที่บรรยากาศดี ๆ ชวนให้ชื่นใจเสียคงจะดี ซึ่งวันนี้ ทาง Kinandleisure ก็มีสิ่งที่น่าสนใจมาเรียนเสนออีกเช่นเคย ในครานี้ เป็นเลาจน์ในบรรยากาศสุดสบายตา ด้วยทัศนียภาพของกรุงเทพฯ อันแสนงดงามทั้งสนามม้าสีเขียวสดใสกว้างขวามทอดยาวพื้นหลังด้วยตึกระฟ้ามากมาย อีกด้านเป็นสวนลุมพินีสีเขียวเข้มสบายตา ท่ามกลางกลิ่นอายแห่งหนังสือ พร้อมเพลิดเพลินกับกลิ่นชาในบรรยากาศสุดเอ็กคลูซีฟ ที่ Maa-Lai Library แห่งโรงแรม Kimpton Maa-Lai Bangkok โรงแรมหรูใจกลางเมืองกรุง Location เลาจน์ Maa-Lai Library ตั้งอยู่บนชั้น 30 ของโรงแรม พร้อมวิวทิวทัศน์สุดขอบฟ้าแห่งเมืองกรุงสุดตระการตา ซึ่งโรงแรม Kimpton Maa-Lai สามารถเดินทางมาโดยสะดวกด้วยรถยนต์ ที่จอดรถพร้อมบริการเหลือเฟือ โดยสำหรับเลาจน์ Maa-Lai Library มีการจัดโซนที่นั่งหลากหลายรูปแบบที่พร้อมตอบโจทย์การนั่งชิลล์ของทุกท่าน ทั่งบริเวณส่วนกลางที่จัดแต่งคล้ายกับห้องนั่งเล่น บรรยากาศสุดสบายตาเหมือนนั่งอยู่บ้าน หรือบริเวณเคาท์เตอร์ที่พร้อมให้บริการ ชา กาแฟ เครื่องดื่ม ตลอดจนขนมชนิดต่างๆ ครบครัน หรือลึกเข้าไปหน่อยจะเป็นโซนที่ค่อนข้างส่วนตัว พร้อมโต๊ะใหญ่สำหรับนั่งกันหลายท่าน หรือแม้กระทั่งบริเวณด้านนอกที่เป็นโซนเปิด ให้ท่านได้ซึมซับบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม พร้อมนั่งจิบชากินขนมอย่างสำราญใจ บริเวณเคาท์เตอร์ ยังมีชาสูตรเป็นพิเศษของทาง Maa-lai Library พร้อมให้ท่านได้จับจอง ซึ่งถือเป็นอีกจุดหนึ่งของที่นี่ ซึ่งทางโรงแรมได้นำชาชนิดต่างๆ ที่เสิร์ฟจริง นำมาขายสำหรับท่านที่อยากนำกลับบ้านไปลองลิ้มชิมรสเองด้วย ทั้งหมดนี้มาในแพคเกจที่มีสีสดใสสวยงาม พร้อมคุณภาพที่การันตีด้วยการเลือกเฟ้นอย่างพิถีพิถันจากทีมงานคุณภาพ นอกจากขนมที่จะปรากฏให้ยลโฉมในคอร์สชุดนำชายามบ่ายแล้ว ทางเลาจน์ก็พร้อมเสิร์ฟขนมชนิดต่าง ๆ ที่น่ารับประทานเช่นกัน ทั้ง ครัวซองชิ้นใหญ่ โดนัท มัฟฟิน ฯลฯ Afternoon Tea at the Library ทาง Kinandleisure ขอนำเสนอชุดเซ็ตน้ำชายามบ่ายสุดแฟนซี จากการออกแบบอย่างประณีตและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งรูปลักษณ์ กลิ่นหอม และรสชาติ ที่สร้างความประทับใจต่อทุกท่านที่ได้สัมผัส โดยมีนำเสนอ 2 เซ็ตให้เลือกสรรชุดเซ็ต Signature และชุดเซ็ต Vegetarian Signature สำหรับท่านที่ไม่ทานเนื้อ ซึ่งทั้งสองเซ็ตนี้ล้วนเป็นชุดน้ำชาคุณภาพสูง มีเอกลักษณ์ และเข้ากับการเป็น “ชุดน้ำชาประจำห้องสมุด” ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้จริง…

Read More

สวัสดียามบ่ายที่สดใส พร้อมกับสายลมแสงแดดที่เป็นใจในยามพักผ่อนครับ วันนี้ ทาง Kinandleisure พร้อมใจนำเสนอมนต์เสน่ห์สุดพิเศษ ที่จะช่วยในการชุบชีวิตยามบ่ายของท่านให้กลายเป็นประสบการณ์อันน่าประทับใจ ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งชุดน้ำชายามบ่าย Mariage Freres Tea cellar ที่มาในธีมแห่งท้องทะเล หาดทราย และแสงแดด ที่พร้อมจะสร้างสีสรรค์ให้กับยามบ่ายของท่าน ด้วยขนมเลิศรสหลากชนิด พร้อมบรรยากาศอันเรียบหรู และเครื่องดื่มคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี เพื่อความเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบของชุดน้ำชายามบ่ายอันน่าประทับใจนี้ Location & Decoration เล้าจ์ Peacock Alley ตั้งอยู่ภายในโรงแรม Waldorf Astoria โรงแรมสุดหรู วิวสวย บรรยากาศดีใจกลางกรุงเทพฯ สามารถเดินทางมาได้โดยสะดวก ทั้งจากรถยนต์ หรือผ่านระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพฯ เนื่องจากทางโรงแรม ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เดินไม่ไกลก็ถึงโรงแรม รวมถึงที่ตั้งก็อยู่ใกล้กับแลนมาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ ในหลายจุด ทำให้สามารถใช้เวลาเต็มวัน ในการท่องเที่ยว เพลิดเพลิน และการสร้างความประทับใจได้ โดยหากเหน็ดเหนื่อย ก็สามารถมาพักจิบชายามบ่าย ท่ามกลางบรรยากาศเรียบหรูสุดชิล พร้อมชมวิวสุดสบายตาได้ภายในโรงแรมเช่นกันครับ  อังเดร ฟู และดีไซน์สตูดิโอ AFSO ของเขา เป็นผู้ออกแบบตกแต่งภายในของโรงแรมฯ ตั้งแต่ชั้น Lower Lobby และที่ชั้น 6-16 โดยสอดแทรกการถ่ายทอดความหมายของความเป็น วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย สมัยใหม่เข้ากับตัวอาคารที่มีความร่วมสมัย สร้างความรู้สึกหรูหราและผ่อนคลายในขณะเดียวกัน จากชั้นล่างบริเวณทางเข้าโรงแรมซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม (Front Room) สู่ พีค็อก อัลเลย์ (Peacock Alley) และ เดอะ บราซเซอรี่ (The Brasserie) ที่ตั้งอยู่ล็อบบี้ชั้นบน ทุกสถานที่ได้ถูกออกแบบและตกแต่งสื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนของตำนานแห่งแบรนด์วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย ที่ถูกหลอมรวมกับวัฒนธรรมความหรูหราชั้นสูงที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดในทุกช่วงเวลาสำคัญ ชื่อ “พีค็อก อัลเลย์” ถือกำเนิดขึ้นเพื่อสะท้อนภาพของทางเดินเชื่อมระหว่างโรงแรมวอลดอร์ฟและโรงแรมแอสโทเรีย ในมหานครนิวยอร์คสมัยก่อน ที่โดดเด่นสวยงามด้วยต้นไม้ร่มรื่นสองข้างทาง พีค็อก อัลเลย์ คือสถานที่ที่คุณจะได้มาพบปะสังสรรค์กับผู้คน การตกแต่งภายในนั้นงดงาม หรูหรา แต่ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ดีไซน์การตกแต่งนั้นมีการใช้ทองแดง ไม้สีอ่อน และเฟอร์นิเจอร์สีสันสดใส การตกแต่งภายใน เป็นการผสนผสานของศาสตร์และศิลป์ที่สามารถดูได้เท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ มาเยือนเท่าใดก็ล้วนรู้สึกสบายตา ทั้งองค์ประกอบของสีที่ออกโทนขาว…

Read More

สวัสดีท่านผู้ชื่นชอบและมีรสนิยมในการรับประทานอาหารอร่อยอีกครั้งครับ วันนี้ทางทีมงาน Kineandleisure ก็มีร้านอาหารเด็ดดังมาแนะนำอีกเช่นเคย โดยสำหรับวันนี้จะเป็นห้องอาหารเทปันยากิชื่อดัง Chisana Nami ที่ตอนนี้ประจำอยู่ที่ Erawan Bangkok ซึ่งพร้อมสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับผู้ใช้บริการทุกท่าน ไม่ว่าจะมาท่านเดียว มากับเพื่อน กับคนรัก หรือกับครอบครัว ทางห้องอาหารก็พร้อมที่จะสร้างความประทับใจ ด้วยบริการที่เป็นเลิศ โชว์แสดงทำอาหารจากเชฟมากฝีมือ ด้วยลีลาสุดเร้าใจ รวมถึงมีเกมส์สนุก ๆ หลายอย่างให้ได้ทดลองเล่นกัน ที่มาของ Chisana Nami ห้องอาหาร จิซานะ นามิ โดยชื่อห้องอาหาร มีความหมายตามภาษาญี่ปุ่นคือคำว่า คลื่นลูกเล็ก แต่ทั้งนี้ต้องขอบอกว่า ประสบการณ์ที่ได้จากห้องอาหารแห่งนี้นั้นไม่เล็กเลย ด้วยทั้งเมนู และฝีมือลีลาของเชฟเทปันที่ผ่านการฝึกฝนจนชำนาญ ล้วนบันดาลให้ห้องอาหารแห่งนี้มีทั้งความสวยงามของอาหารและลีลาบนถาดเทปันดุจเกลียวคลื่น รวมถึงได้ทั้งความสงบและความสุขจากการมาเปิดประสบการณ์ทางอาหารอย่างน่าประทับใจนี้ โดยภายในห้องอาหารทำการตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ดูเรียบหรู จากแนวคิดแบบเซน ที่แสวงความความสงบ ซึ่งห้องอาหารนี้ได้ผ่านการตกแต่งจากใส่ใจ ด้วยการใช้สีน้ำตาลเข้มเพื่อตัดกันกับสีเหล็ก โต๊ะไม้ และเคาท์เตอร์ลายหินอ่อน แม้กระทั่งถ้วยจานชามช้อน ทั้งหมดทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นความหรูหราที่ลงตัว ที่พร้อมสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจไปกับมื้ออาหารแห่งค่ำคืนนี้ โดยห้องอาหาร มีทั้งบริเวณสเตชันที่เป็นพื้นที่เปิด แต่ก็ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้ด้วยการมีกำแพงกั้นการมองเห็นระหว่างสเตชันในบางส่วน ทำให้ได้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว และในขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกถึงความกว้างและเปิดจากตัวกระจกในห้องอาหาร หรือสำหรับท่านที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือมาทานอาหารร่วมกันเป็นจำนวนมาก ทางห้องอาหารก็มีห้องส่วนตัวพร้อมให้บริการเช่นกัน โดยหากมากัน 8 คนขึ้นไป สามารถเข้าใช้บริการห้องส่วนตัวได้โดยไม่คิดค่าห้องเพิ่ม Sushi Sashimi & Maki roll ทางห้องอาหารได้จัดเตรียมเมนูซูชิหน้าต่าง ๆ ชุดซาชิมิที่มีความสด รวมถึง ข้าวปั้นข้าวห่อแบบญี่ปุ่นหน้าต่าง ๆ เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่ โดยเมนูต่อไปนี้คือเมนูตัวอย่างที่ทางทีมงาน Kineandleisure ได้สัมผัสและขอแนะนำครับ Sashimi selection           เซ็ตซาชิมิที่แล่อย่างสวยงาม ประกอบด้วยปลาดิบชนิดต่าง ๆ เช่น แซลมอน ทูน่า หรือแม้กระทั่งหอยเชลล์ โดยมีให้เลือกระหว่างเซ็ต 5 ชิ้น และเซ็ต 10 ชิ้น ตามความชอบครับ โดยในชุดนี้เราเป็นแบบ 10 ชุด เมื่อซาซิมิรวมถูกเสิร์ฟมา สิ่งแรกที่สะดุดตาคือความสวยงามและความสดของวัตถุดิบต่างๆ ที่ถูกจัดวางอย่างพิถีพิถัน ปลาคัทสึโอะ ปลากระพงขาว ปลาแซลมอน…

Read More

ท่ามกลางตึกระฟ้ากลางเมืองกรุง ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุ และท่ามกลางมหานครอันวุ่นวาย เมื่ออยากหาห้องอาหารที่บรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัว พร้อมกินลมชมวิวทิวทัศน์ท่ามกลางบรรยากาศอันหรูหราและอาหารเลิศรส ทางทีมงาน Kinandleisure ขอพร้อมใจนำเสนอ ห้องอาหารนิมิต แห่งโรงแรม 137 พิลลาร์ สวีท แอนด์ เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพฯ ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของท่าน ด้วยบริการอันน่าประทับใจ บรรยากาศอันหรูหราเป็นเอกลักษณ์ พร้อมวิวทิวทัศน์ใจกลางมหานคร ประกอบด้วยอาหารไทยอันวิจิตร ที่ปรุงแต่งด้วยความตั้งใจ นำเสนอแบบร่วมสมัยจากวัตถุดิบคุณภาพดีที่ประกอบสร้างกันอย่างพิถีพิถัน ที่พร้อมจะผสมผสานทุกองค์ประกอบอย่างกลมเกลียว ที่จะสร้างความน่าประทับใจไม่รู้ลืมให้กับท่าน ไม่ว่าจะมากับเพื่อนพ้อง ครอบครัว หรือคนรู้ใจ Design & View ห้องอาหารนิมิต ตามชื่อ พร้อมที่จะนิมิตภาพวิวทิวทัศน์อันสวยงามที่สุดใจกลางเมืองกรุงให้ท่านได้ยลโฉม จากจุดตั้งของโรงแรมที่สามารถเห็นความคึกคักของเมืองกรุงได้อย่างชัดเจน และการออกแบบด้วยดีไซน์ที่ร่วมสมัยและใส่ใจ ทำให้ท่านสามารถเดินชมทิวทัศน์เมืองกรุงเทพได้ในทุกมุมมอง รวมถึงในชั้นยังมีสระว่ายน้ำ ที่พร้อมสร้างประสบการณ์สุดหรู ที่เป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมสำหรับสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจอีกด้วย ห้องอาหารมีการตกแต่งพื้นและกำแพงด้วยสีน้ำทะเลอันสดใส และสร้างเอกลักษณ์ด้วยการที่ตัวสีและกระจกที่เปิดรับมุมแสงมีการสะท้อนและเข้ากันได้เป็นอย่างดี ทำให้เมื่อท่านมาทานอาหารในยามกลางวัน ยามสนธยา หรือยามค่ำคืน ทางห้องอาหารนิมิตร ก็พร้อมนิรมิตความวิจิตรตระการตาจากองค์ประกอบอันเรียบง่ายแต่เรียบหรู ซึ่งก็คือศิลปะจากแสง ไม่ว่าจะจากแสงอาทิตย์ หรือจากแสงไฟที่ประดับในร้าน ซึ่งผมขอยืนยันว่า เรื่องวิวทิวทัศน์ และเรื่ององค์ประกอบการตกแต่ง ที่นี่สวยงามไม่เป็นสองรองใครจริง ๆ ทางห้องอาหารมีการจัดโซนที่นั่งไว้สองส่วน คือ ส่วนพื้นที่ภายในห้อง และส่วนพื้นที่ด้านนอก ซึ่งจะมีจุดเด่นที่ต่างกัน ในพื้นที่บริเวณเปิดกว้างด้านนอกจะทำให้ท่านสามารถรับชมวิวได้อย่างเต็มที่ และซึมซับกับบรรยากาศ โดยเฉพาะเมื่อยามอาทิตย์อัสดง ที่จะสร้างความโรแมนติกอันน่าประทับใจ หรือยามกลางคืน ด้วยการประดับแสงไฟ และความครึกครื้นยามค่ำคืนแห่งเมืองกรุง ท่านก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศท้องฟ้ายามราตรีอันมีเสน่ห์น่าหลงใหล ในขณะเดียวกัน หากท่านชอบการนั่งในห้องแอร์มากกว่ากลางแจ้ง ก็สามารถนั่งในพื้นที่ด้านในที่ห้องอาหารจัดสรรไว้ได้ ซึ่งก็จะได้บรรยากาศโรแมนติกและเป็นส่วนตัวเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ว่าท่านจะนั่งด้านในหรือด้านนอก ทั้งหมดล้วนเป็น Strategic location สำหรับการดินเนอร์ใต้แสงเทียนด้วยบรรยากาศอันน่าหลงไหล มื้ออาหารอันน่าตื่นใจ ห้องอาหารนิมิต นำเสนออาหารไทย ด้วยการนำเสนอในรูปแบบโมเดิร์น แต่เอกลักษณ์ทางด้านรสชาติ ยังสามารถคงไว้ซึ่งความเป็นไทยได้อย่างเต็มเปี่ยม และพร้อมสร้างความประทับใจให้กับผู้รับประทานด้วยการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากทั่วทุกมุมประเทศไทย การจัดเสิร์ฟอย่างสวยงาม และรสชาติที่พร้อมสร้างความหลงใหลให้กับผู้เข้ามารับประทาน ทั้งจากการทานเฉพาะกับ หรือการทานพร้อมกับข้าวสวย โดยลักษณะการเสิร์ฟจะเป็นแบบ Sharing ซึ่งสะท้อนวัฒนธรรมอันแสนอบอุ่นของไทยได้เป็นอย่างดี ข้าวเกรียบกุ้งผงสมุนไพร เริ่มต้นด้วยออเดิร์ฟรองท้อง คือข้าวเกรียบกุ้งที่อยู่คู่มื้ออาหารไทยมาอย่างช้านาน แต่ข้าวเกรียบกุ้งของห้องอาหารนิมิต ก็มีความพิเศษซุกซ่อนอยู่ คือการใช้ผงสมุนไพรและพริกเผาเป็นส่วนประกอบ ทำให้มีความหอมและความเผ็ดร้อนอย่างอ่อน ๆ…

Read More

สวัสดีทุกท่านอีกครั้งครับ แน่นอนว่าวันนี้ทาง Kinandleisure ก็มีห้องอาหารพร้อมโปรโมชั่นสุดประทับใจมานำเสนออีกเช่นเคย โดยห้องอาหารที่ทางเราพร้อมใจนำเสนอในวันนี้ คือ ห้องหลิว แห่งโรงแรมคอนราด กรุงเทพ การันตีคุณภาพด้วยการเป็นห้องอาหารที่เปิดมาอย่างยาวนาน และรสชาติอาหารกวางตุ้งที่ผ่านการประกอบอาหารอย่างพิถีพิถัน และนำเสนออย่างโมเดิร์นด้วยการจัดแต่งอาหารอย่างสร้างสรรค์ ที่พร้อมจะสร้างความประทับใจให้ทุกท่านที่เข้ามารับประทานอาหารที่ห้องอาหารแห่งนี้ได้อย่างแน่นอน Decoration ห้องอาหารหลิว แห่งโรงแรมคอนราด ทำให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นร้านอาหารจีนคุณภาพ ตั้งแต่วินาทีที่ยืนอยู่หน้าร้าน จนกระทั่งเดินเข้าไปในร้าน โดยท่านจะพบกับการตกแต่งที่บ่งบอกถึงความเป็นจีนแท้ๆ ด้วยบรรยากาศแบบเรียบหรูสไตล์จีน การตกแต่งโทนสีด้วยสีแดง โต๊ะไม้และเก้าอี้ลายจีน และไฟในโทนสีเหลือง ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนดังเดินทางเข้าในภัตตาคารสุดหรูแห่งแดนมังกร เป็นมนต์ขลังที่สะกดให้ผู้มาเยือนเกิดความประทับใจได้ไม่ยาก ในขณะที่แฝงไปด้วยความโมเดิร์นร่วมสมัยจากตัวสถาปัตยกรรมและการจัดเรียงแสงไฟ สำหรับท่านที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือต้องการคุยธุรกิจหรือการสังสรรค์ภายในครอบครัว ทางห้องอาหาร ก็ได้จัดเตรียมห้องส่วนตัวไว้พร้อมให้บริการเช่นกัน Food ห้องหลิว โรงแรมคอนราด มีจัดโปรโมชั่นน่าสนใจ คือ บุฟเฟ่ติ่มซำ All you Can eat ในช่วงกลางวัน ประกอบไปด้วยเมนูติ่มซำที่มีมากถึง 32 เมนู ซึ่งแต่ละเมนูล้วนมีเอกลักษณ์ในตัวเอง และแสดงออกถึงความพิถีพิถันของทีมเชฟที่จัดเตรียมอาหารอย่างใส่ใจได้เป็นอย่างดี ด้วยการตกแต่งอย่างร่วมสมัยและสร้างสรรค์ ในขณะที่รสชาติยังคงรสชาติยังเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ดั้งเดิมของอาหารกวางตุ้งที่ทุกท่านชื่นชอบอยู่ และเมนูต่อไปนี้ คือเมนูติ่มซำบางส่วน ที่ทาง Kinandleisure ขอนำเสนอเพื่อประกอบการพิจารณาครับ All-You-Can-Eat Dim Sum Lunch ซาลาเปาลาวาชาโค เนื้อแป้งซาลาเปาสีดำสวยงามจากตัวผงชาโคที่นำมาผสมแป้งสาลี และแต่งเติมด้วยทองคำฟู้ดเกรด มีจุดเด่นคือไส้ลาวา ที่เป็นไส้ลาวาไข่แดง มีรสชาติหวาน มัน เค็ม และที่สำคัญคือใส่มากเยอะมากแบบไม่มีกั๊ก ซาลาเปาเห็ดรวมมิตร ซาลาเปาสีขาวเนียน ทำออกมาในรูปทรงเม่นน้อย ตกแต่งด้วยการแต่งแต้มงาดำสองจุดอย่างน่ารัก กลายเป็นน้องที่น่าตาน่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง ส่วนข้างในของน้องเม่น สอดไส้เห็ดนานาชนิด อาทิเห็ดหอมชิทาเกะ เห็ดชิเมจิ มีกลิ่นหอมและไส้แน่นมาก  เข้ากับตัวแป้งที่นึ่งได้อย่างกำลังดี สีขาวเนียน น่าถ่ายรูปและมีรสชาติที่น่าประทับใจมาก (เป็นเมนูมังสวิรัติ ไม่มีเนื้อสัตว์) พายเป็ดเห็ดหอม ปกติถ้าติ่มซำรูปทรงนี้เรามักจะพบว่าเป็มเมนูเผือกทอดแต่อันนี้ไม่ใช่เผือกทอด เมนูนี้เป็นพายเป็ดที่ตกแต่งให้กลายเป็นรูปทรงหงส์น้อยสีดำแก้มแดงอย่างสวยงาม พร้อมทำตัวแป้งให้ดูกรอบฟูฟ่อง ข้างในสอดใส้เห็ดหอมแน่น ๆ เป็นติ่มซำที่มีทั้งเอกลักษณ์ในตัวเอง และมีรสชาติที่น่าประทับใจ (สามารถทานได้ทั้งชิ้น) ขนมจีบกุ้งหอยเชลล์ เสิร์ฟพร้อมวาซาบิมายองเนส เป็นขนมจีบกุ้งสีสันเลืองสวยงามจากแป้งและสีส้มจากไข่ปลาบิน ประกอบด้วยกุ้งขาวแชบ้วยเกรดเอ และหอยเชลล์ชิ้นใหญ่ และมีจุดเด่นที่ช่วยชูรสชาติ คือวาซาบิมายองเนสที่มีรสชาติฉุนขึ้นจมูกแต่นุ่มนวลด้วยความครีมจากมายองเนสอย่างเป็นเอกลักษณ์ เป็นขนมจีบกุ้งแบบดั้งเดิมที่ผสมผสานความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว…

Read More

เปิดประตูต้อนรับเหล่านักชิมและผู้ชื่นชอบอาหารสไตล์เทปปันยากิสู่รสชาติความอร่อยใหม่ที่รอให้คุณมาค้นพบ ณ ห้องอาหาร “ชิซานะ นามิ” โดยห้องอาหารได้รับการส่งมอบประสบการณ์ต่อจากห้องอาหารนามิ เทปปันยากิ สเต๊กเฮาส์ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ให้มาขยายความอร่อยพร้อมคุณภาพที่คัดสรรแล้วที่ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก ใกล้กับบริเวณศาลท้าวมหาพรหม ชื่อของห้องอาหาร “ชิซานะ นามิ” แปลว่า “คลื่นลูกเล็ก” ในภาษาญี่ปุ่น ได้รับแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อจากภาพที่นำเสนอท่วงทำนองอันสอดประสานกันระหว่างไฟและคลื่น โดยห้องอาหารใช้แนวคิดนี้มานำเสนอประสบการณ์เทปปันยากิผ่านการใช้เปลวไฟมาแต่งแต้มสีสันอันน่าลิ้มลองลงบนวัตถุดิบที่คัดสรรอย่างดี อาทิ อาหารทะเล เนื้อสัตว์ และผักนานาชนิด ห้องอาหารตกแต่งตามแบบศิลปะเซน เน้นความพริ้วไหวและการออกแบบร่วมสมัยผสานไปกับบรรยากาศอันเรียบง่ายน่าอภิรมย์ ส่วนการตกแต่งภายในใช้ชุดสีเข้มโทนเดียวกัน พร้อมจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม้เข้าคู่กับเก้าอี้หนัง รองรับไปกับเคาน์เตอร์หินอ่อนสีดำ ทำให้รู้สึกถึงความแข็งแกร่งมีพลัง ห้องอาหารชิซานะ นามิ เหมาะแก่การมาสังสรรค์ในหลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อค่ำสุดโรแมนติกหรือเฉลิมฉลองมื้อพิเศษกับกลุ่มเพื่อน ภายในห้องอาหารแบ่งสัดส่วนที่นั่งออกเป็นหลายส่วน ทั้งสาเกบาร์และบริเวณที่นั่งรวม 3 บริเวณ แต่ละบริเวณสามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุด 16 ท่าน นอกจากบริเวณที่นั่งรวม ยังมีห้องส่วนตัวอีก 2 ห้อง แต่ละห้องสามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุด 10 ท่าน เหมาะสำหรับการนัดเจรจาธุรกิจหรือมารับประทานอาหารกันแบบส่วนตัว สองเชฟมือฉมัง ผู้อยู่เบื้องหลังการมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารเทปปันยากิให้ทุกท่านได้ดื่มด่ำความอร่อยอย่างเต็มรูปแบบ คือ เชฟภาณุมาศ ไชยสาลี และ เชฟวัชระ วัฒนศิริ โดยเชฟภาณุมาศ ถือเป็นเชฟผู้เชี่ยวชาญในการประกอบอาหารสไตล์เทปปันยากิ เชฟเริ่มต้นเส้นทางในสายอาชีพนี้ที่ห้องอาหารนามิ เทปปันยากิ สเต๊กเฮาส์ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ และออกเดินทางไปฝึกฝีมือทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหารในเมืองลอนดอน ลิเวอร์พูล โฮจิมินห์ หรือเขาหลัก ความเชี่ยวชาญในอาหารเทปปันยากิของเชฟกลายเป็นที่ประจักษ์และรับรู้กันเป็นวงกว้าง ในฐานะผู้ชนะการแข่งขันในรายการเชฟกระทะเหล็ก ที่ประเทศเวียดนาม ประจำปี พ.ศ. 2555 ในขณะที่เชฟวัชระ เริ่มต้นอาชีพในฐานะเชฟเทปปันยากิที่ห้องอาหารเบนิฮานา กรุงเทพฯ ก่อนจะย้ายไปทำงานที่ร้านอาหารเทปปันยากิในเมืองลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ชวนทุกท่านมาลิ้มลองเมนูซิกเนเจอร์ อาทิ เนื้อโอกุมะสันนอก เกรด เอ3 เสิร์ฟพร้อมซอสสาเก และหอยเชลล์ฮอกไกโดผัดเนยมิโซะ หรือเมนูเบาสบายท้องอย่างปลาฮามาจิ เสิร์ฟพร้อมพริกจาลาปิโน่ ผักกาดแก้ว และน้ำสลัดยูซุ และเมนูชิซานะ นามิ มากิ สอดไส้กุ้งเทมปุระราดซอสสไปซี่มายองเนส ปิดท้ายด้วยของหวานที่ไม่เหมือนใครอย่างไอศกรีมมิโซะ และกล้วยผัดเนย เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวนิลา…

Read More

สวัสดีท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารอีกครั้งครับ วันนี้ ทางทีมงาน Kinandleisure มีร้านอาหารสุดน่าประทับมาแนะนำอีกเช่นเคย ก่อนอื่นต้องกล่าวก่อนว่า อาหารอิตาเลียนเป็นหนึ่งในประเภทอาหารแนวตะวันตกที่คนไทยชื่นชอบมาอย่างช้านาน รวมทั้งเมืองไทยก็เป็นจุดหมายสำคัญของเหล่าเชฟผู้มากฝีมือทั้งหลายในการมาสั่งสมประสบการณ์หรือร่วมเปิดร้านอาหารเพื่อมาแบ่งปันประสบการณ์ทางอาหารนานาชาติ ให้พวกเราได้ลองลิ้มชิมรสกัน โดยสำหรับห้องอาหารที่จะมานำเสนอในคราวนี้ คือ ห้องอาหาร Bella Sera แห่งโรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท โรงแรมดังใจกลางเมือง ที่พร้อมสำหรับการนำเสนอห้องอาหารและประสบการณ์ทางอาหารหลากหลายประเภทอย่างน่าประทับใจ โดยสำหรับห้องอาหาร Bella Sera เป็นห้องอาหารยามเย็นที่เปิดให้บริการอย่างอบอุ่น พร้อมต้อนรับด้วยอาหารอิตาเลียนสไตล์โฮมเมดจากฝีมือเชฟฟาบิโอและทีมงานคุณภาพ โดยมีคอนเซปอาหาร คือ “Cucina Di Mamma Mia” (ครัวของคุณแม่) ที่เป็นการบอกเล่าประสบการณ์ทางอาหารอย่างน่าประทับใจ ผ่านอาหารอิตาเลียนสไตล์โฮมเมดจากเมืองอูดิเน (Udine) ที่มีความเรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยรสชาติ ความใส่ใจ และความพิถีพิถันในอาหารแต่ละจานก่อนนำมาเสิร์ฟสู่โต๊ะอาหาร บรรยากาศภายในร้านจัดองค์ประกอบได้อย่างอบอุ่นและบ่งบอกถึงความเป็นร้านอิตาเลียน มีจุดเด่นคือ เตาอบพิซซ่าแบบดั้งเดิมที่เมื่อเห็นก็สามารถเดาได้เลยว่า พิซซ่าที่นี่จะเป็นพิซซ่าสไตล์อิตาเลียนแท้ ๆ ที่มีทั้งความกรอบและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์จากการใช้ไฟอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ทางห้องอาหารมีห้องไวน์สำหรับโชว์และสำหรับลูกค้าสำหรับการเลือกลิ้มลอง ซึ่งมีไวน์หลากหลายชนิดเตรียมบริการ นอกจากนี้ การจัดที่นั่งและแสงไฟ ให้ความรู้สึกสบาย ๆ เป็นกันเอง เพราะสำหรับมื้ออาหารเย็นง่าย ๆ แบบครอบครัว ในยามเย็นหรือค่ำคืนหลังเลิกงาน โดยห้องอาหาร Bella Sera แห่งนี้ก็พร้อมสำหรับการเป็นจุดพักใจสำหรับผู้ที่เข้ามารับประทานอยู่เสมอ ด้วยการบริการที่มีคุณภาพและเป็นกันเอง ตลอดจนอาหารที่มีความเป็นเอกลักษณ์ Appetizer เริ่มต้นมื้อเย็นอันน่าประทับใจจากเชฟฟาบิโอ ด้วยขนมปังหลายชนิดทั้งหนุมหนึบและกรุบกรอบ อาทิ ขนมปังขาไก่ Breadsticks เชียบัตตา Ciabatta Bread เสิร์ฟพร้อมน้ำมันมะกอก และวินิก้าคุณภาพสูง รวมถึงตัว canape ที่มีมะเขือเทศเป็นองค์ประกอบหลักทอปด้วยสวีทเบซิลในกระทง ซึ่งสื่อถึงการใช้วัตถุดิบหลักขึ้นชื่อของอิตาเลียน คือ มะเขือเทศ ได้อย่างมีเอกลักษณ์ Food La Mia Insalata Versione Cesare เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยจานสลัด ซึ่งจานนี้เป็นซีซาร์สลัดแบบฉบับของเชฟฟาบิโอ มีจุดเด่นคือการใช้ไก่อบ แองโชวี่ และมี Dressing เป็นการ์ลิคมาโย พร้อมโรยด้วยขนมปังกรอบกรูตอง เป็นการเริ่มต้นอันน่าสดชื่น ด้วยตัวซอสและแองโชวี่ที่ช่วยเรียกน้ำย่อยและสร้างความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ตัวไก่และขนมปังก็เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างสีสันให้จานสลัดนี้เป็นจานที่ทานสนุกได้อย่างน่าประทับใจ Melanzane al Forno…

Read More

Chef : Gerard Villaret Horcajo Date : 4 2024 Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีทุกท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารอีกครั้งครับ วันนี้ ทาง Kinandleisure ขอโอกาสมานำเสนอสัมผัสอันนุ่มนวลแห่งฤดูใบไม้ผลิ ที่ทางห้องอาหารระดับดาวมิชลิน Elements, inspired by Ciel Bleu ภูมิใจนำเสนองานศิลปะแห่งอาหารอันเลิศรสชุดนี้ กับ “Spring Guestronomic Journey” ที่เปิดให้ทุกท่านได้ยลโฉมและลิ้มลองงานศิลป์ในมื้ออาหารเพิ่มต้อนรับฤดูใบไม้ผลิอันสดชื่นและอุดมสมบูรณ์ ด้วยการรังสรรค์เมนูอาหารสุดพิถีพิถันด้วยฝีมือเชฟ Gerard Villaret Horcajo ที่ย้ายมาจากห้องอาหาร Ciel Bleu ซึ่งเป็นห้องอาหารระดับมิชลินสองดาวที่โรงแรม Okura Amsterdam โดยสำหรับช่วง Spring Guestronomic Journey นี้ ทุกเมนูได้ผ่านการสร้างสรรค์อย่างใส่ใจและพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ในเรื่องการรังสรรค์วัตถุดิบที่ใช้ แหล่งที่มาของวัตถุดิบ จนไปถึงการประกอบอาหารและการจัดเรียงคอร์สพร้อม Pairing Drink ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างประสบการณ์ทางอาหารอันน่าตื่นตาท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์แห่งฤดูใบไม้ผลิที่พร้อมเสิร์ฟถึงโต๊ะอาหารของคุณ เส้นทางสู่ห้องอาหาร Elements, inspired by Ciel Bleu ห้องอาหาร Elements, inspired by Ciel Bleu ตั้งอยู่ที่ชั้น 25 บนโรงแรม Okura Prestige Bangkok ที่ถนนวิทยุ ซึ่งสามารถเดินทางมาได้โดยสะดวกด้วยรถยนต์ มีให้บริการที่จอดรถอย่างเหลือเฟือ รวมถึงตัวโรงแรมมีการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สถานีเพลินจิต ทำให้สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าได้อย่างสะดวกเช่นกัน ร่วมสัมผัส  Spring Guestronomic Journey ภายใต้การเดินทางท่ามกลางฤดูในไม้ผลิ ทางห้องอาหาร พร้อมนำเสนอคอร์สอาหารที่พร้อมเติมเต็มทุกจินตนาการแห่งฤดูใบไม้ผลิของท่าน ด้วย 3 คอร์สใหญ่ 3 ราคา จำแนกตามจำนวนคอร์สให้เลือกสรร ได้แก่Ku-Ki Chikyu และ Mizu โดยวันนี้ทาง Kinandleisure…

Read More

Chef : Chi Ki Wong x Simon Kin Date : 3 2024 Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีผู้มีรสนิยมในการทานอาหารทุกท่านอีกครั้งครับ วันนี้ ทาง Kinandleisure จะขอมาบอกเล่าประสบการณ์ทางอาหารสุดน่าประทับใจอีกครั้ง โดยในคราวนี้ ห้องอาหารไบยุน (Bai Yun) แห่งโรงแรมบันยัน ทรี กรุงเทพ ได้จัดกิจกรรมสุด Exclusive โดยได้เชิญเชฟ ชิ คิ หว่อง (Chi Ki Wong) แห่งห้องอาหาร Above & Beyond โรงแรมไอคอน ฮ่องกง Icon hotel Hongkong มาโคจรพบกับเชฟไซม่อน จากห้องอาหารไบยุนแห่งบันยันทรี โดยเชฟทั้งสองได้ผ่านการฝึกปรือฝีมือจนชำนาญจากอาจารย์ท่านเดียวกัน ก่อนที่จะแยกย้ายเพื่อสร้างตำนานของตนเอง ซึ่งบัดตำนานดังกล่าวได้มาบรรจบพบกัน ณ ที่แห่งนี้อีกครั้ง โดยคอร์สอาหารที่จะมาบอก เล่าประสบการณ์ในวันนี้ เป็นคอร์ส 4-Hand Symphony of Cantonese Flavor ที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายอาหารกวางตุ้ง หนึ่งในตระกูลอาหารจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ทั้งการนำเสนอที่น่าตระการตา สีสันที่สวยสดงดงาม ศิลปะการใช้ไฟและไอกระทะที่ทำให้ได้กลิ่นหอมละมุนและดึงศักยภาพของวัตถุดิบมาได้อย่างคุ้มค่า และที่สำคัญที่สุด คือรสชาติที่มีเอกลักษณ์เป็นแบบฉบับของตนเอง ทำให้อาหารกวางตุ้งเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมที่ครองใจคนทั่วโลกมานับตั้งแต่อดีตกาล Interior & Decoration เมื่อเดินเข้ามาถึงท่านจะพบกับความรู้สึกที่สวยหรูและผ่อนคลายด้วยการตกแต่งในโทรสีเข้ม แท่งน้ำทรงกระบอกที่วางตัวเรียงรายมีฟองน้ำลอยขึ้นมาพร้อมกับแสงสีฟ้า โต๊ะที่ปูด้วยผ้าสีฟ้าอมน้ำเงินกับเก้าอี้ทรงโค้งสไตล์หมิงเรียงรายตามผืนกระจกขนาดใหญ่ที่เปิดให้เฆ้นทัศนียภาพของกรุงเทพฯอันงดงาม ตรงกลางห้องอาหารมีงานประติมากรรมเป็นทรงก้อนเมฆสีขาวเรียงรายเป็นกำแพงตามชื่อห้องอาหารที่แปลว่าเมฆสีขาวนั้นเอง ห้องอาหารไบยุน ได้สร้างบรรยากาศที่ทำให้มื้ออาหารที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นประสบการณ์อาหารที่น่าประทับใจ ไม่ว่าท่านจะมารับประทานอาหารในช่วงกลางวัน เย็น หรือยามค่ำคืน ห้องอาหารไบยุนก็ได้สร้างเสริมเอกลักษณ์ให้มีความน่าจดจำต่อท่านผู้ใช้บริการอยู่เสมอ ด้วยการตกแต่งแบบจีนที่ผสมผสานกับความโมเดิร์น ทำให้ได้ทั้งความเรียบหรูและความสง่างามที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะบรรยากาศในยามค่ำคืนที่มีแสงสีคอยปรุงแต่ง ทุกองค์ประกอบล้วนสร้างสรรค์ให้สามารถดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืนในตึกสูงระฟ้ากลางมหานครได้อย่างน่าจดจำ ทางห้องอาหารได้จัดการแสดงเปลี่ยนหน้ากาก ประกอบด้วยทริคต่างๆ จากนักแสดงมากความสามารถ โดยพร้อมเล่นให้ดูถึงหน้าโต๊ะอาหารเลยทีเดียว Appetizer อาหารเรียกน้ำย่อยของคอร์ส 4 Hands ในครั้งนี้…

Read More

Chef : Slawomir Kowalik Date : 2 2024 Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีผู้มีรสนิยมในการทานอาหารทุกท่าน วันนี้ Kinandleisure เรามีห้องอาหารน่าสนใจมานำเสนออีกเช่นเคย ในคราวนี้เรามาพร้อมกับห้องอาหาร Bistrot De La Mer แห่งโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ที่จะสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจ ด้วยวิวสุดสวย และอาหารเปี่ยมคุณภาพ ทั้งหมดนี้ในราคาที่เมื่อเห็นรอบแรกแล้วต้องขยี้ตา ว่าราคานี้จริงรึ ? เหมือนคืนกำไรให้ลูกค้า ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไร มาชมไปพร้อมๆ กัน Location & Decoration ห้องอาหาร Bistrot De La Mer ตั้งอยู่ ณ ชั้น 19 ของโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โดยสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกด้วยรถยนต์ มีที่จอดรถแบบเหลือเฟือพร้อมให้บริการ บรรยากาศสบายตาสบายใจเหมาะแก่การพักผ่อนจากคืนวันอันยุ่งเหยิงจากการทำงานได้ดียิ่ง ตามชื่อของห้องอาหาร ร้าน Bistrot De La Mer นำเสนอประสบการณ์ทางอาหารในสไตล์ฝรั่งเศสตอนใต้ สไตล์ French Mediterranean ที่พร้อมจะสร้างความน่าตระการตา ทั้งสีสันของอาหารที่สวยงามตามประสาอาหารแนวเมดิเตอร์เรเนียน คุณค่าทางโภชนาการที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ และการตกแต่งสถานที่ซึ่งออกมาเป็นแนวห้องอาหารครอบครัว ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง บรรยากาศสบายๆ โต๊ะจัดแบบไม่แน่นมาก มีงานศิลปะและการจัดองค์ประกอบอย่างเรียบง่ายแต่พิถีพิถันอยู่ล้อมรอบ พนักงานพร้อมให้บริการอย่างใส่ใจและเป็นมิตร บรรยากาศโดยรวมให้ความรู้สึกแจ่มใส สบาย ๆ ไม่เกร็ง เหมาะแก่การพาคนในครอบครัวมาร่วมทานอาหารในวันสบาย ๆ ที่อบอุ่นอย่างยิ่ง ในขณะที่การจัดแสงไฟ ในช่วงกลางวันถึงเย็นที่ตะวันยังไม่ลับขอบฟ้า แสงจากด้านนอกประกอบกับไฟด้านใน ผสมผสานกันให้เกิดความสบายตา รู้สึกสงบ อบอุ่น เรียบง่ายแต่สวยงาม ในขณะที่มื้อค่ำจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ด้วยแสงไฟที่มีบรรยากาศออกสลัว ๆ โรแมนติก ทำให้เป็นร้านอาหารที่เหมาะกับการทั้งการรับประทานอาหารสบายๆ หรือการทานข้าวร่วมกับคนรู้ใจในทุกโอกาสพิเศษ …

Read More