Author: satid chu

วันนี้ทางทีมงาน กินแหลกแจกดาว kinlakestars.com ขอนำเสนอ เชฟ ม๊ก กิ๊ด คว่อง เชฟมิชลินสตาร์สองดาวจากสิงคโปร์ ซึ่งจะมาปรุงอาหารจีนชั้นเลิศสไตล์โมเดิร์นให้ทุกท่านได้ลิ้มรส ที่ห้องอาหารจีนแชงพาเลซ ตั้งแต่วันที่ 6-12 มิถุนายน 2561 นี้เท่านั้น ด้วยเอกลักษณ์การปรุงอาหารอันโดดเด่นบวกด้วยประสบการณ์มากกว่า 35 ปี ทำให้เชฟ ม๊ก ได้มีโอกาสแสดงฝีมือการปรุงอาหารถวายแด่กษัตริย์แห่งโมร็อกโก ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย นายกรัฐมนตรีแห่งสิงคโปร์ รวมถึงบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงทั่วโลก เชฟม๊กเชี่ยวชาญด้านการผสมผสานศิลปะและกลิ่นอายความทันสมัยเข้าไปในขั้นตอนการตกแต่งอาหาร นำมาซึ่งอาหารจีนจานพิเศษที่ไม่เหมือนใคร เชฟม๊กยังได้รังสรรค์เมนูแปลกใหม่ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมกว่า 20 เมนู จานแรกนี้เชฟได้ทำมาเป็น ขนาดเล็ก (ไม่ใช่ขนาดสำหรับขายจริง) สำหรับทีมงานกินแหลกแจกดาวซึ่งประกอบด้วย 3 เมนู ได้แก่ เห็ดหอมทอด (ซ้าย), หมูสันในพันธุ์เอบิริโกบาบีคิวย่างซอสน้ำผึ้ง (กลาง) และ ขานกกระทาทอดกระเทียมกรอบ (ขวา) เห็ดหอมทอด 380 บาท 烧汁冬菇Fried Black Mushrooms with Gravy 380 เห็ดหอมชิ้นโตทอด ปรุงรสด้วยซอสเกรวี่สูตรพิเศษ เนื้อสัมผัสของเห็ดนุ่มละมุนลิ้น ตัวซอสซึบซับเข้าไปในตัวเห็ดทำให้เมื่อรับประทานเข้าไปตัวซอสจะชุ่มฉ่ำในปาก หมูสันในพันธุ์เอบิริโกบาบีคิวย่างซอสน้ำผึ้ง 极品蜜汁叉烧皇Barbecued Pork Loin Glazed with Honey Sauce 880 บาท เป็นเนื้อหมูชั้นดีนำเข้าจากสเปนเนื้อนุ่มละมุนลิ้น มีชั้นไขมันบางๆแทรกด้านบนละลายในปาก ซอสที่เคลือบรสชาติหอมหวานช่วยชูรสหมูเป็นอย่างดี ขานกกระทาทอดกระเทียมกรอบ 风沙法国鹌鹑脾 Crispy-fried French Quail Leg with Golden Minced Garlic   2,180 บาท ขานกกระทาทอดจนเหลืองทองน่ารับประทาน รสสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน วางบนกระเทียมเจียวที่หอมกรอบไม่อมน้ำมัน ส่วนนี้เป็นขนาดขายจริง จานต่อมาเป็น ซุปไก่ตุ๋นกับเห็ดมัตสึทาเกะและหอยสังข์ 椰皇松茸清炖燕窝 Double-boiled Chicken Broth with Matsutake Mushroom and Sea Conch 1900 บาท ซุปไก่ใส่เห็ดมัตสึทาเกะและหอยสังข์หั่นเป็นแผ่น นำมาตุ๋นนานถึง 4 ชั่วโมง และที่พิเศษคือ เชฟได้นำน้ำมะพร้าวใส่ลงไปในน้ำซุปเล็กน้อยและไปตุ๋นต่ออีก 1 ชั่วโมงจนได้ที่ จากนั้นนำมาเสิร์ฟในมะพร้าวเผาทั้งลูก…

Read More

ครั้งนี้ kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปพบกับ wine dinner ที่ไม่ซ้ำซาก หลายท่านอาจคุ้นเคยกับ wine dinner และอาหารตะวันตก แต่ครั้งนี้เป็น wine dinner กับอาหารจีน !!! ลิ้มรสสัมผัสของชุดอาหารจีนกวางตุ้ง 6 คอร์ส เสิร์ฟเคียงคู่กับไวน์เลิศรสอย่างแฮนด์พิคที่ถูกบรรจงคัดสรรโดย ปีเตอร์ ดิลเลิน ผู้อำนวยการฝ่ายไวน์เมคเกอร์ของแฮนด์พิคไวน์ เพื่อมื้อค่ำสุดแสนวิเศษในวันอังคารที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ ห้องอาหารจีน เดอะเมย์ฟลาวเวอร์ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ เริ่มจากการเรียกน้ำย่อยด้วยคานาเป้สไตล์จีนเสิร์ฟกับอิตาเลี่ยนโพรเซ็คโก้ แล้วเริ่มต้นเดินทางของมื้อค่ำ  สุดแสนวิเศษด้วย สลัดอะโวคาโดกับซีฟู้ดรวมและหอยเชลล์ย่าง Delicate Avocado Salad Served with Tomato Confit, Assorted Seafood and Roasted Scalop สำหรับจานนี้ งดงามตั้งแต่มาถึงโต๊ะ  โฉมหน้าฉีกแนวออกไปจากอาหารจีนดั้งเดิมเลยทีเดียว การขับเคลื่อนเทคเจอร์ของจานนี้ด้วยบรรดาสัตว์จากท้องทะเลทั้งหลาย กุ้งขาว ปลาหมึก หอยเชลล์อบ รสชาติสบายปากด้วยน้ำสลัดและมะม่วงสุก ถั่วลันเตา นับเป็นการเริ่มต้นมื้อที่ดีทีเดียว เสิร์ฟคู่กับไวน์ขาวชาโดเน่จากออสเตรเลีย Handpicked Regional Selections, Yarra Valley, Victoria, Australia, Chardonnay 2015  สภาวะอากาศที่ดี อากาศเสมือนฤดูใบไม้ผลิของแหล่งปลูก ทำให้ผลผลิตขององุ่นที่ใช้ทำไวน์นี้ดี สภาพที่เย็นและอ่อนโยนต่อเนื่องช่วยให้การพัฒนารสชาติดีขึ้นด้วย ระดับกรดของไวน์สมดุลดีมาก ไวน์นี้มีความสมดุลของความซับซ้อนในรสและกลิ่นที่ลงตัว รสครีมมี่ ซึ่งเข้ากันดีกับเจ้าน้ำสลัด และรสชาติผลไม้สุกที่มีความหวานหอมอีกทั้งกลิ่นไม้โอ๊คอ่อนๆ แล้วตามด้วยซุปไข่ขาวกับเห็ดชิเมจิ Egg White Soup with Shimeji Mushroom มาต่อจานซุป เรียกได้ว่ากลมกล่อมแต่ไม่น่าเบื่อ ซุปไข่ขาวร้อนๆ นุ่มๆ รสกลมกล่อม อูมามิ และหอมกรุ่นจากเห็ดชิเมจิ มีเทคเจอร์จากอิกุระ หรือ ไข่ปลาแซลมอน  มีความกรุบและรสเค็มๆตัดกับตัวซุปที่เบาๆ อาหารจานหลักที่มีทั้ง ชิลลี่ แครบ Chili Crab สำหรับชิลลี่แครบจานนี้ หากใครเคยได้ลิ้มลองเมนูนี้ที่สิงคโปร์มา ก็จะรู้สึกว่าเจ้าจานนี้รสชาติจะหนักกว่ารสต้นตำหรับ แต่เนื้อปูของก้ามปูนี้สด…

Read More

บรรยากาศเรียบหรูสไตล์ล้านนาประยุกต์ ให้ความรู้สึก สงบ และผ่อนคลายอย่างแท้จริง ก็ต้องที่นี่เลยครับ Anantara spa, Anantara Chiangmai Resort เริ่มต้นนั้น พนักงานเอาเมนูสปามาให้เลือก โดยในวันนี้ได้เรา Kinlakestars.com จะมาทำคอร์ส Lanna ritual กัน โดยใช้น้ำมันไพรนวดคลายปวดเมื่อย จำนวน 1.30 ชั่วโมง เป็นคอร์สที่มีเฉพาะที่โรงแรมอนันตราเชียงใหม่ โดยใช้เทคนิคการนวดของล้านนา,จีนตอนใต้และพม่า – จากนั้นพนักงานจะเสิร์ฟน้ำว่านหางจระเข้ผสมองุ่น,มะนาวและน้ำผึ้ง และผ้าเย็น – ก่อนเริ่มต้นการนวด และการทรีดเมนต์ไม่ว่าโปรแกรมไหนๆ พนักงานจะให้เราทำการกรอกข้อมูล เพื่อให้พนักงานนวดสามารถนวดได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ทางเดินไปยังห้องทรีดเมนต์นั้นสวยงาม เรียบหรู สงบ นุ่มนวล ชวนเคลิบเคลิ้ม เห็นวิวสระว่ายน้ำและแม่น้ำปิง – ภายในห้องตกแต่งสวยงามสไตล์ล้านนา แสงไฟสลัว ได้กลิ่นหอมจางๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย – เตียงเป็นเตียงhydraulicปรับไฟฟ้า นอนแล้วนุ่มสบาย ด้านใต้มี heat blanket (ผ้าห่มไฟฟ้า) ช่วยปรับระดับความอบอุ่นของร่างกายขณะนวดได้ – อ่างล้างมือสำหรับ2ท่าน ห้องอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์แยกกัน ส่วนห้องอาบน้ำมีทั้งrain shower และฝักบัวแยกกัน มีสบู่เหลว, ยาสระผมและครีมนวดผม คุณภาพดีของทางโรงแรมอนันตราไว้ครบครัน ที่พิเศษคือสามารถทำเป็นห้องสตรีมได้อีกด้วย – ภายในห้อง จะมีชุดให้ทำการเปลี่ยน ก่อนทำการทรีดเมนต์ โดยจะมีทั้งเสื้อคลุม กางเกงใน หรือกางเกงขาสั้นแบบบ็อกเซอร์ซึ่งทางสปาเตรียมไว้ให้ – เริ่มต้นด้วยการล้างเท้า พนักงานจะมานำเท้าเราแช่ในอ่างน้ำอุ่นโรยด้วยกลีบกุหลาบ จากนั้นนำน้ำนมเทลงในอ่าง และใช้มือล้างเท้าเราด้วยความอ่อนโยน จากนั้นขัดเท้าด้วยเกลือลาเวนเดอร์ ตามด้วยประคบด้วยลูกประคบเกลือและสมุนไพร สุดท้ายฉีดสเปรย์ peppermint เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและให้ผิวสดชื่น – คอร์ส Lanna ritual นี้ พนักงานจะใช้น้ำมันไพรกลิ่นหอมอ่อนๆนวดไปเรื่อยทั่วร่างกายเพื่อคลายปวดเมื่อย สามารถเน้นเฉพาะจุดและสามารถบอกพนักงานให้ปรับน้ำหนักมือได้ เริ่มต้นนวดด้านหลัง นวดคอ ก่อนด้วยท่านอนคว่ำ จากนั้นจึงค่อยๆไล่ลงไปทางด้านล้างของลำตัว หลังช่วงล่าง จยถึงปลายเท้า และตามด้วยนวดด้านด้วยท่านอนหงาย นวดหัว นวนคอ บ่า ไหล นวดอก จากนั้นจึงค่อยๆไล่ลงไปทางด้านล้างของลำตัว จนถึงปลายเท้า ตลอดระยะเวลาการนวดพนักงานจะคอยถามถึงระดับความอุ่นของเตียง…

Read More

ทำไมเราจึงควรมาลิ้มลอง ห้องอาหารข้าว โรงแรม Four seasons เชียงใหม่ ??? แน่นอนว่าร้านนี้มิได้ให้เพียงแค่อาหารรสเลิศ แต่คุณจะได้เข้าใจถึงความเป็นล้านนามากขึ้น จากทัศนียภาพ วัตถุดิบ การปรุง การตกแต่ง ที่หลอมรวมกันเป็น ห้องอาหารข้าว บรรยากาศตั้งแต่เริ่มต้นเข้ามาถึงนั้น ต้องบอกทุกท่านไว้เลยว่า เตรียมกล้องถ่ายรูปมาด้วย ท้องทุ่งนาสีเขียว อาทิตย์ทอแสงสีทองอันแสนอบอุ่นที่ค่อยๆลาลับ ความโรแมนติกและความผ่อนคลาย กับวัสดุพื้น ผนัง และหลังคา ที่จะพาท่านทั้งหลายหลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่ง ข้าว เป็นห้องอาหารสุดหรูที่เพิ่งเปิดใหม่ของโรงแรม Four seasons เชียงใหม่ ห้องอาหารอยู่ชั้นถัดลงมาจากล๊อบบี้ เมื่อเดินมาจนสุดฝั่งซ้ายของล๊อบบี้ถ้าหันหลังให้ท้องทุ่งนา ก็จะพบป้ายห้องอาหารและบันไดทางลง ห้องอาหารจะมีทั้งในส่วนปรับอากาศ และส่วนด้านนอกห้องปรับอากาศ ลูกค้าจึงสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งกินดื่ม พร้อมชมทัศนียภาพท้องทุ่งนาแบบเปิดโล่ง ไม่มีอะไรขวางกั้น สัมผัสอากาศแสนสดชื่นบริสุทธิ์ พร้อมเสียงนกน้อยลอยลม หรืออยู่ในห้องปรับอากาศเย็นสบาย พร้อมชมทัศนียภาพท้องทุ่งนาแสนสวยผ่านผนังกระจกผืนใหญ่ที่เป็นกระจกใสสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ซึ่งด้านในมีการตกแต่งที่ผสานความเป็นไทยกับความร่วมสมัยได้อย่างงดงาม ลงตัว แม้จะดูหรูหราสง่างามไปด้วยโคมไฟระย้าจากคริสตัล แต่ก็ดูผ่อนคลายและสงบด้วยโทนสี อีกทั้งความเป็นไทยจากการไช้ไม้และการดึงเอาลวดลายฝาขัด เรือนไทยมาใช้นั้นเอง นอกจากทัศนียภาพยามเย็นจะงดงามอย่างน่าตื่นตะลึงพร้อมแสงแดดอันแสนจะดูอบอุ่น ทัศนียภาพในยามค่ำคืนก็งดงามไม่แพ้กันเลยครับ ด้านหน้าห้องอาหารเมื่อตะวันลับฟ้า ก็มีการใช้แสงประดิษฐ์สร้างความงามให้แก่ผนัง รวมไปถึงส่วนตกแต่ง สวยงามน่าประทับใจ ในส่วนของตัวอาหารนั้นเป็นการผสมผสานระหว่างอาหารไทยตอนเหนือ พม่า และอาหารจีนตอนใต้ ยูนาน โดยใช้ local ingredients ซึ่งเชฟได้รับแรงบันดาลใจจากการที่เชฟเป็นคนชอบปั่นจักรยาน ซึ่งเมื่อปั่นจักรยานไปรอบๆจังหวัดเชียงใหม่ก็ทำให้เชฟได้พบกับวัตถุดิบท้องถิ่น และก็นำมาปรุงเป็นอาหาร คุณๆทั้งหลายสามารถดูได้จากภาพด้านบน ซึ่งภาพนี้จะปรากฎอยู่บนหน้าแรกของรายการอาหารทุกเล่มในห้องอาหาร เป็นภาพที่บอกเล่าถึงของดีรอบๆเมืองล้านนาที่เชฟพบเจอและนำมาใช้นั้นเอง ห้องอาหารสูงโปร่ง การตกแต่งมีกลิ่นอายของล้านนา เน้นวัสดุไม้ รูปข้าว และสีเหลืองทองของรวงข้าว เป็นการผสมผสานของความหรูหราและกลิ่นอายท้องถิ่นได้อย่างลงตัว มีด้านที่เป็นกระจกสามารถมองเห็นวิวท้องนาจำลองโดยเฉพาะเมื่อมีแสงยามเย็นมากระทบเห็นเป็นนาข้าวสีเหลืองทอง และยังมีสวนอันสวยงามของโรงแรมอีกด้วย ส่วนของเมนูนั้น จะแบ่งหัวข้อตามวิธีการปรุงอาหารของทางเหนือ หน้าเมนูด้านซ้ายจะมีรูปที่บ่งบอกถึงเมนู signature ก่อนจะเข้าสู่อาหาร เราก็มีอีกเรื่องที่ต้องมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาหารที่เรากิน นั้นก็คือบรรดาเหล่าภาชนะที่นำมาใช้นั้นเอง ถ้วย ชามทั้งหลายนั้น เชฟได้พิถีพิถัน บรรจงเลือกมาจากช่างปั้นเชียงใหม่จากหมู่บ้านถวาย แม้หลายคนอาจได้ยินชื่อเสียงของหมู้บ้านถวายในเรื่องงานไม้ แต่งานปั้นดินเผาก็ทำออกมาได้ดีมากทีเดียว ก่อนจะเริ่มกินกันก็เช็ดมือด้วยผ้าเช็ดมือเย็นๆ หอมๆสดชื่นด้วยกลิ่นตะไคร้ ทำให้คลายเหนื่อยคลายร้อนได้ดีทีเดียว เริ่มต้นด้วย amuse bouche เป็นข้าวแต๋น กับน้ำพริกอ่องไม่ใส่หมูสับ และไม่เผ็ด รสชาติกลมกล่อม แตกต่างจากน้ำพริกอ่องตามตลาดที่อาจมีรสโดดเค็ม …

Read More

เชฟของหวานชื่อดังจากแดนอาทิตย์อุทัยเหินฟ้า มาสร้างขนมดีๆสู่ริ่มฝีปากให้ท่านแล้ว อย่ารอช้า มาาๆๆ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ เตรียมพร้อมแล้วกับการมาเยือนของเชฟ ทาเคชิ ชิบาตะ เชฟผู้มีฝีมืออย่างมากทางด้านขนมหวาน โดยเฉพาะในแบบฉบับฝรั่งเศสดั้งเดิมที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน เดือนพฤษภาคมนี้ เราได้เชิญเชฟทาเคชิมาโชว์ความสามารถและรังสรรค์ฝีมือให้แฟนๆของหวานได้เพลิดเพลินกันตลอด 3 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 25-27 พฤษภาคมนี้ โดยท่านสามารถเลือกสำรองที่นั่งเพื่อลิ้มลองความหวานนี้ได้ตามช่วงวัน, เวลา และห้องอาหารดังนี้ ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ช่วงน้ำชายามบ่ายวันเสาร์-วันอาทิตย์ที่ 26-27 พ.ค. ห้องอาหารร่มไทร มื้อค่ำ วันที่ 25 พ.ค. และ มื้อบรั๊นซ์วันเสาร์- วันอาทิตย์ที่ 26-27 พ.ค. ห้องอาหารไทเฮ วันที่ 25 – 27 พ.ค. ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. +66 (0) 2679-1200 banyan tree, pastry, promotion, event, chef, ญี่ปุ่น, japanese Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม…

Read More

ครั้งนี้ ทางทีมงาน kinlakestars จะขออาสาพาทุกท่านไปชมอาหารอิตาเลียนจาก 2 เชฟอิตาเลียนฝีมือเทพและไวน์ชั้นเยี่ยม ซึ่งจะจัดขายในวันที่ 23 นี้ โดยเราได้ลิ้มลองมาก่อน ในวันที่ 23 พฤษภาคม ศกนี้ เชฟ Andrea Ortu จาก La Bottega จะร่วมสร้างสรรค์มื้ออันน่าจดจำกับ Chef Nino Scognamillo จาก La Casa Nostra เพื่อนำเสนออาหารมื้อค่ำ 6 มื้อที่มีไวน์ Nals Margreid South Tyrolean อันรังสรรค์มาหลายชั่วอายุคน และทำด้วยความรัก ใส่ใจ และชำนาญด้วยผู้เชี่ยวชาญไวน์ระดับมืออาชีพ ของครอบครัวที่ปลูกองุ่นมาอย่างยาวนาน ได้ผสานเข้ากับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมไวน์ของ Nals Margreid Winery ดื่มด่ำไวน์ชั้นเลิศ Gottfried Pollinger เคียงคู่ไปกับอาหารชั้นเยี่ยมจาก Chef Andrea Ortu เชฟประจำ ณ ร้านแห่งนี้และ เชฟ Nino Scognamillo เชฟรับเชิญมากฝีมือที่จะมาร่วมสร้างมื้อสุดแสนพิเศษ เมื่อคุณจ่ายเงินจำนวน 2,700 Baht คุณก็จะได้พบกับอาหารเลิศรสจับคู่กับไวน์ชั้นเยี่ยม ได้แก่ เริ่มต้นกันด้วย Canapé on arrival เสิร์ฟคู่กับ Champagne สำหรับ Canapé on arrival นั้นจะเป็น ผักโขมกับมาสคาโปเน่ชีสผสมรวมกัน รสชาติออกมันๆเค็มๆ ห่อด้วยแป้งบางๆคล้ายเกี๊ยว แล้วนำไปทอด คล้ายๆกับเมนูขลุ่ยปูของอาหารจีนและเวียดนาม ให้เทคเจอร์กรอบกรุบ กินคู่กับแยมพีชที่ให้รสหวานอมเปรี้ยวกับเทคเจอร์หยุ่นๆคล้ายกับเยลลี่ STARTERS สำหรับไวน์ขาว Nals Margreid Pinot Grigio 2016  จะกินคู่กับ ในส่วนของ Nals Margreid Pinot Grigio 2016  นั้นจะให้กลิ่นอันอ่อนโยนประดุจดอกไม้ป่าฤดูใบไม้ผลิ ผลไม้สุก สวนผลไม้ สมุนไพรและ หินที่บดขยี้ นำจมูกขึ้นมา…

Read More

ในครั้งนี่ Kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปร่วมเปิดประสบการณ์กับบาร์แห่งใหม่อันน่าตื่นเต้น ณ ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ เมื่อคุณขึ้นลิฟท์และเดินไปยัง ชั้น 37 ของโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค (Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park) เหนือสีสันแห่งท้องถนนของกรุงเทพฯ เอบาร์ (ABar) จะนำพาแขกผู้มาเยือนย้อนเวลาสู่อดีต ภายใต้บรรยากาศการตกแต่งด้วยไม้สีเข้มสุดคลาสสิค รับกับเก้าอี้หนังแบบวินเทจพร้อมที่เท้าแขน และตกแต่งด้วยบรรดาหนังสือที่หุ้มปกด้วยหนัง ค็อกเทลบาร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟแห่งนี้ยังผสมผสานระหว่างความลึกลับและความมหัศจรรย์ของ วิกตอเรียน ลอนดอน (Victorian London) ซึ่งเข้ากับความอาจหาญสไตล์อเมริกันยุค 1930s และนี่เองที่ทำให้ เอบาร์ กลายเป็นสถานที่อันสมบูรณ์แบบ เพื่อผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับค็อกเทลสุดสร้างสรรค์ ที่ล้วนรังสรรค์ขึ้นด้วย mixologist ในบรรยากาศอันแสนสบายและอบอุ่น ที่เมื่อทอดสายตามองออกไปจะเห็นวิวขอบฟ้าอันสวยงามของมหานครกรุงเทพฯ เอบาร์ ยังมีความโดดเด่นในด้านแอลกอฮอล์ที่เกิดจากการกลั่น หรือที่เรียกว่า ดาร์ค สปิริต (Dark Spirit) ซึ่งรวมไปถึงวิสกี้ชื่อดังจากทั่วโลก รัมและคอนยัค นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกของเครื่องดื่มอันหลากหลาย ซึ่งรวมไปถึงค็อกเทลจากยุคต้องห้ามและค็อกเทลวินเทจ คราฟต์สปิริต และมิกซ์ต้นตำรับ แขกผู้มาเยือนยังสามารถเลือกเครื่องดื่มที่พวกเขาชื่นชอบ หรือเลือกสไตล์คลาสสิคที่ถูกปรับแต่งใหม่ ภายในมุมสบายๆคลอเคล้าไปกับเสียงดนตรี โดยเลือกนั่งได้ทั้งพื้นที่ภายในอันแสนสบายและอบอุ่น หรือบริเวณระเบียงกึ่งกลางแจ้ง ซึ่งมองเห็นวิวของสวนเบญจสิริ โดย เอบาร์ สามารถรองรับแขกได้จำนวนทั้งหมด 108 ที่นั่ง แบ่งเป็นด้านใน 76 ที่นั่ง และบริเวณระเบียงอีก 32 ที่นั่ง ส่วน เอบาร์ A bar concept เป็น dark spirit ซึ่งจะค่อนข้างเข้ม มีปริมาณ alcoholสูง หากเปรียบเทียบก็เหมือนกับเป็นผู้ชายเข้มๆสุภาพบุรุษนั่นเอง หากใครคออ่อน ยังมี A bar rooftop เป็นอีกทางเลือกหนึ่งครับ การตกแต่งการตกแต่งร้านมีเหล็ก กรง กระจกทึบ สไตล์ยุควิคตอเรียนและเชอล็อคโฮม เน้นโทนสีทองและน้ำตาล แสงไฟสลัว โอ่โถง บรรยากาศหรูหรา Mixologist ที่นี่จะเชี่ยวชาญก้านการทำ dark spirit โดยเฉพาะ…

Read More

ครั้งนี้ KINLAKESTARS.COM ขอเชิญทุกท่านสัมผัสกับสุนทรียรสแห่งการจิบน้ำชายามบ่าย ภายใต้บรรยากาศกลิ่นหอมและความรื่นรมย์จากมวลบุปผชาติ เพลิดเพลินกับขนมและของหวานที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะช่วงซัมเมอร์นี้ ณ เดอะ ล็อบบี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ซึ่งจะใจเย็นรอไปกินเมื่อไหร่คงเห็นทีจะไม่ได้ เพราะของดีๆไม่ได้มีไปตลอด ทางโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ให้บริการชุดน้ำชาดอกไม้นี้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2561 เท่านั้น เชฟลอเรนท์ ดัฟโฟต์ (Laurent Duffaut) หัวหน้าพ่อครัวเพสทรี ได้รังสรรค์เมนูขนมหวาน รสชาติละมุนลิ้น ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับบรรยากาศของซัมเมอร์นี้ บรรจงรังสรรค์ด้วยแรงบันดาลใจจากหมู่มวลดอกไม้นานาพรรณ ที่นอกจากจะมีความงดงามตามธรรมชาติแล้ว ยังมีสรรพคุณสมุนไพรและมีประโยชน์ต่อสุขภาพนานับประการ จิบคู่กับชาสัญชาติฝรั่งเศส มาคิยาจ แฟรส์ (MARIAGE FRÈRES) ซึ่งเป็นชาที่ได้ชื่อว่าเป็นชาอันดับ 1 ของโลก โดยมีชาที่ปรุงพิเศษแสดงถึงเอกลักษณ์ของไทย 3 รส คือ Eléphant Blanc เอลเลฟอง บลองค์ (ช้างเผือก) Lune Rouge ลูนรูจ (พระจันทร์สีแดง) และ Temple De L’aube ตอปล์ เดอ โลบ (วัดอรุณ) ซึ่งมีเสิร์ฟเฉพาะที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ เท่านั้น สำหรับ Floral Afternoon Tea นั้นมีสองราคา 2  รูปแบบ          นอกจากนี้ยังมีขนมและของว่างยามบ่าย ที่รังสรรค์ด้วยแรงบันดาลใจจากหมู่มวลดอกไม้นานาพรรณ ให้คุณได้ลิ้มรสชาติอีกมากมาย Floral High Tea at The Lobby Anantara Siam Bangkok Hotel Now until 30 June 2018 Refreshment: เริ่มต้นกันด้วย Rosella Sorbet                                                       …

Read More

ร้านอาหารริมน้ำ The Restaurant ณ Anantara Chiangmai Resort  บรรยากาศเรียบหรู สุดแสนผ่อนคลาย โรแมนติก ชมวิวแม่น้ำปิง และ แสงสีจากสะพานเหล็กอันสวยงาม ณ เดอะเรสเตอรองท์ สำหรับอาหารกลางวันและเย็น แขกสามารถเลือกระหว่างจานเด็ดของภูมิภาคและอาหารเหนือ อาหารคลาสสิกแบบตะวันตกแสนอร่อยและอาหารอินเดียรสเลิศ และล่าสุดนี้เพื่อเป็นการสร้างสรรค์อย่างไม่เหมือนใคร ผนวกกับการที่ทางโรงแรมพึ่งได้เชฟใหม่เป็นชาวญี่ปุ่นที่เติบโตใน เปรู ประเทศแถบทวีปอเมริกาใต้ จึงได้มีการรังสรรค์สร้างอาหารสไตล์อเมริกาใต้ เปรูเวียน แต่แฝงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นไป ควบคู่ไปกับไวน์หรือแชมเปญรสเยี่ยมที่กูรูด้านไวน์แนะนำ ผ่อนคลายในห้องอาหารปรับอากาศ หรือดื่มด่ำอยู่กับบรรยากาศที่ค่อยเปลี่ยนไปของแม่ปิงบนระเบียงกลางแจ้งริมน้ำ สำหรับแขกที่จะมากินเป็น dinner เราแนะนำให้มาตั้งแต่เย็น มาชมแสงสุดท้าย บรรยากาศจะสวยและโรแมนติกมาก อาหารเปรูเวียนผสมสไตล์ญี่ปุ่น โดยเชฟเปรู จานแรกเป็น mash potato ผสมกับchilli paste เนื้อละมุนได้รสเผ็ดเล็กน้อย ราดด้วย มะเขือเทศ, หอมหัวใหญ่, หอย mussels และ ซอสเลม่อน ได้รสเปรี้ยวและสดชื่น ซอสเป็น chilli มายองเนส และไข่กุ้ง จานที่สอง ปลาหิมะ เป็น ปลาหิมะเอามาหมักกับซอสมิโสะ1คืน แล้วเอามาอบจนหอมสีสันสวยงาม กินคู่กับซอสเป็น mash potato, chilli paste และมิโสะ และมีหน่อไม้ฝรั่ง อาหารตะวันตก โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญอาหารฝรั่งเศส อกเป็ด อกเป็ดปรุงด้วยเกลือพริกไทนำไปเซียร์จนข้างนอกมีสีสันสวยงาม ด้านในเนื้อนุ่ม ทานกับถั่วลันเตา,แครอท, ไข่แดงกงฟี และซอส 2 ชนิดเป็น ซอสบีทรูทและคาราเมล ส้ม และซินนามอน Sea food กุ้งและหอยเชลล์ตัวโตปรุงด้วยเกลือพริกไทนำไปเซียร์จนข้างนอกมีสีสันสวยงาม ด้านในชุ่มฉ่ำ ทานคู่กับ tropical fruit salsa ประกอบด้วย มะม่วง, แก้วมังกร และส้ม ได้ความรู้สึกสดชื่น และซอสพริกหยวก ของหวานโดยเชฟขนมหวาน ช็อกโกแลตฟองดู ใช้ช็อกโกแลตเบลเยี่ยมแท้เข้มข้น 64% แป้งด้านนอกบางเนื้อเนียนนุ่ม…

Read More

วันนี้ทางทีมงาน กินแหลกแจกดาว จะพาทุกท่านไปชมสปาที่ เลอ สปา วิท ล็อกซิทาน (Le SPA with L’Occitane) หรูหราระดับ 5 ดาว ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ “Best luxury hotel spa” จาก The world luxury spa awards 2017 and 2016, “Best luxury hotel spa” Country finalist 2015 และ รางวัลชนะเลิศ “World luxury spa award” บนชั้น 9 ของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท เมื่อเดินเข้าไปที่เคาเตอร์ต้อนรับก็จะเจอบรรยากาศหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ที่คัดสรรมามาอย่างมีระดับ รวมถึงการต้อนรับที่ทำให้ทุกท่านที่มาเยือนประทับใจ Kinlakestars ขอเชิญทุกท่านมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การปรนนิบัติผิวเพื่อผ่อนคลายและคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว เลอ สปา วิท ล็อกซิทาน (Le SPA with L’Occitane) สปาหรูที่การันตีด้วยหลากหลายรางวัลชนะเลิศ คืนความอ่อนเยาว์ ให้กับผิวหน้าและผิวกาย พนักงานก็จะพาเราไปนั่งที่โซฟา พร้อมนำเมนูของสปามาเสิร์ฟให้ ซึ่งที่พิเศษคือ เมนูสปาของที่นี่จะทำคล้ายๆกับเมนูอาหารซึ่งจะแบ่งเป็นส่วน A La Carte, Starters, Mains, Desserts, Specials และ Menu suggestions ซึ่งในวันนี้ทางทีมงาน กินแหลกแจกดาว ได้มาผ่อนคลายไปกับคอร์สต้อนรับ Summer นี้ นั่นคือ Summer breeze (90นาที) ซึ่งในคอร์สประกอบด้วย Body scrub 30 นาที และตามด้วยนวดผ่อนคลาย 60 นาที และคอร์สที่เป็นที่นิยมของที่นี่คือ Four tea ceremony (120 นาที) ซึ่งคอร์สนี้จะมีแช่ bath เพิ่มมาอีก…

Read More