1. ฉลองช่วงเวลาพิเศษกับคุณแม่ในวันแม่แห่งชาติที่ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ Shangri-la Bangkok เน็กซ์ทู คาเฟ่ (วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2566):คุณแม่ทุกท่านจะได้รับส่วนลด 50% สำหรับบุฟเฟ่ต์บรันช์ และบุฟเฟ่ต์ล็อบสเตอร์มื้อค่ำฉลองวันแม่* ที่ เน็กซ์ทู คาเฟ่ พร้อมรับของขวัญวันแม่ ช็อกโกแลตมู้ดแคปซูลแสนอร่อย 1 กล่อง *ข้อเสนอนี้จำกัดสำหรับคุณแม่หนึ่งท่านต่อโต๊ะที่มีแขกอย่างน้อย 4 ท่าน บุฟเฟ่ต์บรันช์ รวมล็อบสเตอร์เทอร์มิดอร์ครึ่งตัว และเป็ดปักกิ่ง ราคาท่านละ 2,800 บาทถ้วนสำหรับผู้ใหญ่ บุฟเฟ่ต์ล็อบสเตอร์มื้อค่ำ รวมล็อบสเตอร์แบบรับประทานได้ไม่อั้น ราคาท่านละ 3,600 บาทถ้วนสำหรับผู้ใหญ่ ห้องอาหารจีน แชงพาเลซ (วันที่ 12-13 สิงหาคม พ.ศ. 2566): คุณแม่ทุกท่านจะได้รับ “ซิ่วท้อมงคล. ซึ่งมีความหมายในการอวยพรเพื่อให้อายุมั่นขวัญยืน และเมื่อใช้จ่าย 20,000 บาทขึ้นไปต่อหนึ่งใบเสร็จสำหรับมื้อกลางวันหรือมื้อค่ำ รับทันทีบัตรกำนัลรับประทานอาหารมูลค่า 2,000 บาทถ้วน สอบถามเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งที่ ฝ่ายสำรองที่นั่งห้องอาหารของโรงแรมฯ โทร. 0 2236 7777 อีเมล [email protected] หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ https://bit.ly/MothersDay2023atShangriLaBangkok-Media 2. ฉลองวันแม่ที่โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 The Sukhothai Bangkok อาหารมื้อสายวันเสาร์วันแม่ที่ Colonnade ทำให้วันแม่ปีนี้พิเศษสำหรับผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาในชีวิตของคุณ – แม่ของคุณ! อิ่มอร่อยกับอาหารระดับตำนาน ของหวานรเลิศ พร้อมยกแก้วให้กับความรักและความทุ่มเทของคุณแม่ในทุกหนทุกแห่ง มาทำวันนี้ให้เป็นวันที่น่าจดจำกันเถอะ!3900++ บาทต่อท่าน | 12.00 น. – 15.00 น ฉลองมื้อกลางวันและมื้อค่ำที่ศิลาดล *คุณแม่จะเป็นคนทำอาหารพิเศษให้ดื่มด่ำกับอาหารไทยในวันแม่ปีนี้! มาร่วมรับประทานอาหารกลางวันและมื้อค่ำกับเราที่ Celadon ซึ่งคุณแม่ทุกคนจะได้รักล่องปรุงอาหารพิเศษที่เต็มไปด้วยสูตรลับเฉพาะของเชฟโรซารินและวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี ดูแลเธอด้วยประสบการณการรับประทานอาหารที่น่ารื่นรมย์และสร้างความทรงจำอันน่าจดจำร่วมกันเมนู A La Carte สำหรับมื้อกลางวันA La Carte และ Tasting Menu สำหรับมื้อค่ำดื่มด่ำกับความสุขในวันแม่นี้กับบุฟเฟ่ต์ช็อกโกแลตพาคุณแม่มาอิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์ช็อกโกแลตที่ล็อบบี้ ซาลอน ซึ่งเต็มไปด้วยความสุขที่ไม่อาจต้านทานได้ เข้าร่วมกับเราใวันแม่เพื่อเฉลิมฉลองด้วยโกโก้ที่จะตอบสนองทุกความอยากหวาน 1800++ บาทต่อท่าน | 14.00 –…
Author: satid chu
เข้าสู่ช่วงเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์อีกครั้ง ในทุกๆช่วงกลางปี กลางฤดูใบไม้ร่วง จะเป็นเวลาแห่งการไหว้พระจันทร์ สิ่งที่ตามมาคือขนมไหว้พระจันทร์ อันเป็นขนมที่โปรดปรานของใครหลายคน แม้กาลเวลาจะผ่านไปนับพันปี แต่ทว่าความนิยมในขนมไหว้พระจันทร์กลับเพิ่มมากขึ้น และมีการพัฒนา สร้างสรรค์ ขนมไหว้พระจันทร์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการปรับเปลี่ยนขนาด รูปทรง รสชาติ ส่วนผสม ไส้ แป้ง และอีกสิ่งสำคัญที่ทำให้ใครหลายคนซื้อขนมไหว้พระจันทร์นั่นคือ กล่อง และบรรจุภัณฑ์ ที่ทุกๆแห่งต่างแข่งขันกันรังสรรค์กล่อง และบรรจุภัณฑ์ให้งดงามและหลากหลาย และปีนี้ขนมไหว้พระจันทร์ของ Swissotel Bangkok จะแตกต่างจากที่อื่นอย่างไร ไปดูกันครับ Kinlakestars.com ขอเชิญทุกท่านมาเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ ร่วมส่งความสุขและความโชคดีให้กับคนที่คุณรัก มาสัมผัสความนุ่มหอมของแป้งขนมไหว้พระจันทร์สีสันสดใส น่ารักน่าลิ้มลองและรสชาติหลากสไตล์จากห้องอาหารจีนหลงฟ่ง โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา ไม่ว่าจะเป็น รสทรัฟเฟิลไข่เค็มรสชาติระดับพรีเมี่ยม รสสวิสโฮเต็ลซิกเนเจอร์ ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจากสวิตเซอร์แลนด์ และผลไม้ต่างๆ ด้วยรสชาติหวานซ่อนเปรี้ยว ให้ความรู้สึกสดชื่นตั้งแต่คำแรกที่รับประทานราวกับอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ รสคัสตาร์ดไข่เค็มรสหอมมัน รสมะม่วงสไปซี่ เปรี้ยวหวานเผ็ดแบบมะม่วงน้ำปลาหวานของไทย รสฮันนี่ยูซุหอมสดชื่น รสซอลท์คาราเมลและมอคค่ารสเข้มข้น ทุเรียนไข่เค็มหวาน หอม มัน และ อีกหลากหลายรสชาติให้คุณลิ้มลอง ในราคาเริ่มต้นชิ้นละ 188 บาท หรือกล่องละ 888 บาทสุทธิ (4 ชิ้น) เนื่องจากมีมากมายหลากหลายรสชาติ ทาง kinlakestars.com จึงจะขอพาชิมพาแนะนำตัวที่เด็ดๆไม่เหมือนใครแล้วกันนะครับ มาเริ่มกันเลยดีกว่า Golden Truffle with Salted Egg Mooncake เมื่อนำขนมออกมาจะพบกับความหอมจากทรัฟเฟิลบางมาก แต่เมื่อได้ชิมจะพบกับรสชาติของไข่แดงเค็มที่ให้ความมัน เพิ่มความเนียนนุ่มของแป้งและไส้ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเพิ่มกลิ่นทรัฟเฟิลอีกนิดนึงจะลงตัวมากเลยทีเดียว Spicy Mango Mooncake กลิ่นมะม่วงกวนนำขึ้น แต่เมื่อได้ชิมก็จะรู้สึกถึงความหวาน รสสัมผัสจากไส้มะม่วงกวนที่ทำได้ละเอียดดี และตามด้วยความเผ็ดนิดๆ ให้ความรู้สึกเรียกน้ำลายได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่ทานเผ็ดนะครับ Salted Caramel & Mocha Mooncake เมื่อผ่าไส้ออกมาจะพบกับคาราเมลที่อยู่ในใจกลาง พร้อมกลิ่นของมอคค่า เมื่อชิมรวมกันก็จะได้ความรู้สึกเหมือนดื่มกาแฟตอนเช้า เพิ่มพลังให้เราได้เป็นอย่างดี Yuzu & Honey Mooncake กลิ่นจากน้ำผึ้งที่เข้มข้น เมื่อชิมแล้วจะพบกับความเปรี้ยวจากส้มยูซุ แต่ผสมกับความหวานจากน้ำผึ้งได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สดชื่นทุกครั้งที่ได้ชิม Salted Egg Custard Mooncake…
วันนี้ Kinlakestars.com ขอเสนอขนมไหว้พระจันทร์สูตรต้นตำรับจาก โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) บรรจุในกล่องดีไซน์พิเศษ เรียบหรู เหมาะสำหรับมอบเป็นของขวัญของฝากแด่คนพิเศษ หรือลูกค้าคนสำคัญ เพื่อใช้ไหว้พระจันทร์เสริมสิริมงคลในปีนี้ จำหน่ายที่ร้านขนม ลา พาทิสเซอร์รี (La Pâtisserie) ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 13 กันยายน 2562 ในความแตกต่างจากหลายที่เห็นทีว่าจะเป็นรูปแบบของกล่องที่ดู โดดเด่น มีความเป็นญี่ปุ่น หรูหราแบบเรียบๆ เหมือนสาวงามในกิโมโนสีน้ำตาลกับสายคาดสีทอง สำหรับท่านที่กำลังมองหาขนมไหว้พระจันทร์สำหรับฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ขอแนะนำขนมไหว้พระจันทร์สูตรต้นตำรับชิ้นใหญ่ รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ แป้งบางนุ่ม ไส้เนียน เนื้อแน่น มี 4 รสชาติ ได้แก่ ไส้ชาเขียว ไหนๆก็เป็นโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น ชาเขียวก็เป็นเอกลักษณ์และสะท้อนถึงความเป็นญี่ปุ่นค่ะ ขอบอกเลยว่าชิ้นนี้ข้าชอบมาก รสหวานกำลังพอดี หอมกลิ่นชาเขียวผสมกลิ่นมะลิอ่อนๆ ประดุจเอาแม่พลอยมาใส่กิโมโน ไส้ยอดนิยมที่มีความหอมของชาเขียว หวานกำลังพอดีละนะ ไส้คัสตาร์ด ไส้ขนมไหว้พระจันทร์ยอดนิยมเนื้อแน่นหอมไข่ ขอบอกเลยค่ะว่าเนื้อแน่น ริชมากๆ อารมณ์นิวยอร์กชีสเค้กเลย เอาไปแช่ตู้เย็นก่อนกินด้วยนะ เลิศ เหมาะสำหรับรับประทานคู่กับน้ำชาร้อน ๆ ไส้ทุเรียนไข่เดี่ยว หนึ่งในไส้ยอดนิยมชาวไทย ที่ใครหลายๆคนก็ล้วนเฝ้ารอ ด้วยทั้งรสและกลิ่นอันแสนจะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เนื้อเนียน หอมทุเรียนเข้ากันได้ดีกับไข่แดงเค็มฟองโต เนื้อเหนียวนุ่ม หนึบหนุบ ไส้พุทราไข่เดี่ยว รสนี้ข้าก็ชอบมาก ขอบอกเลยว่าเด็ดที่สุดในความหมายนี้ ด้วยสัมผัสที่นุ่มหนึบ ไม่แน่นไป ไม่ร่วนไป กับความหวานกำลังดี หอมกลิ่นพุทราเบาๆ รสชาติกลมกล่อมแบบต้นตำรับ ขนมไหว้พระจันทร์ จำหน่ายราคาชิ้นละ 228 บาท ส่วนขนมไหว้พระจันทร์ชิ้นใหญ่ 4 ชิ้น 4 รสชาติ บรรจุในกล่องดีไซน์พิเศษสีทองแดงและสีน้ำตาล ตกแต่งลวดลายหน้ากล่องด้วยใบกิงโกะ(Gingo) หรือใบแปะก๊วยสีทองแดงสัญลักษณ์ของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เรียบหรู เหมาะแก่การมอบเป็นของกำนัลสุดประทับใจ ราคากล่องละ 1,168 บาท วางจำหน่ายที่ร้านขนมลา พาทิสเซอร์รี…
Kinlakestars เชื่อว่าผู้อ่านทุกท่านคงเคยนอนหลับแล้วฝันถึงเรื่องต่างๆ เดิมๆ ซ้ำๆ อยู่ไม่กี่เรื่อง ซึ่งจิตแพทย์และนักจิตวิทยาได้ให้จำกัดความของความฝันนั้นๆว่าความฝันเหล่านั้นมักจะบ่งบอกถึงสภาวะจิตของแต่ละคนในขณะนั้น ความคิดลึกๆที่แม้แต่เจ้าตัวยังไม่ทราบตนเอง พร้อมบอกแนวทางการปฏิบัติและแก้ไขKinlakestars.com ฝันร้ายสามารถเกิดจากสาเหตุทางกายภาพ เช่น การนอนหลับในที่ตำแหน่งที่ไม่สบายหรือติดขัด มีไข้ หรือสาเหตุทางจิตวิทยา เช่น ความเครียด ความวิตกกังวลและการย่อยอนุพันธ์ฝิ่น (opioid drugs) ที่ใช้ในยาแก้ปวด เช่น ออกซิโคโดนและไฮโดรโคโดน ก็ได้ การรับประทานก่อนเข้านอน ซึ่งเพิ่มเมแทบอลิซึมของร่างกายและกิจกรรมของสมอง ก็สามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดฝันร้ายได้ ฝันร้ายกลับเป็นซ้ำที่สามารถรบกวนรูปแบบการนอนหลับและเป็นเหตุของการนอนไม่หลับอาจต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ เอียน วอลเลซ (1946-2007) นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านจิตใต้สำนึก ที่ได้ทำการศึกษาความฝันมานานกว่า 30 ปี จากกลุ่มตัวอย่าง 150,000 คน โดยเขาได้ให้เหตุผลเกี่ยวกับความฝันสั้นๆว่า ความฝันนั้นสามารถบ่งบอกถึงความรู้สึกลึกๆของมนุษย์ได้จริง แม้คนเราจะฝันแตกต่างกันร้อยแปด แต่ทุกๆความฝันจะมีแพทเทิร์นพื้นฐานที่คอยกำหนดลักษณะของความฝันนั้นๆอยู่ จึงทำให้ไม่อยากที่จะบอกได้ว่า ฝันแบบนี้เกิดจากสาเหตุอะไร เช่น 1.ฝันว่าต้องเข้าสอบโดยที่ไม่มีความพร้อมหากฝันว่าย้อนกลับไปในวัยเรียน แล้วต้องเข้าห้องสอบโดยที่ไม่พร้อม ไม่มีปากกา ดินสอ หรือไม่ได้อ่านหนังสือมาสอบเลย หรือแม้แต่ทำข้อสอบไม่ทัน มิได้หมายความว่าผู้ฝันฝังใจว่าทำข้อสอบไม่ได้หรือล้มเหลวเรื่องการเรียน แต่การฝันแบบนี้มักเป็นฝันที่เกิดกับคนที่ประสบความสำเร็จและกลัวความล้มเหลว หรือไม่ก็เป็นคนที่มาตรฐานสูง ชอบกดดันตัวเองมากเกินไปจนเครียดได้ ต้องมั่นลองสังเกตตัวเองดู ถ้าเริ่มฝันแบบนี้ถี่ๆ แนะนำว่าให้ผ่อนคลายบ้าง อย่าคิดว่าต้องแข่งขันกับตัวเองตลอดเวลา ลองหาวิธีที่สนุกขึ้นและเบาลงในการบรรลุเป้าหมายดู หลักๆน่าจะกีงวลอะไรบางอย่างหนักมากๆว่าจะล้มเหลวหรือไม่สำเร็จ นอกจากนี้ยังหมายความว่า คุณกำลังมีความเครียดเกี่ยวกับงานหรือโปรเจ็คท์ต่างๆ เรื่องสำคัญมากๆอาทิ ความรัก ชีวิตคู่ หรือแม้แต่กังวลกับคนในครอบครัวที่รักและห่วงมากๆ สิ่งที่คุณควรทำคือ หาวิธีผ่อนคลายมากขึ้น อย่าเคร่งเครียดกับงานจนเกินไป 2.ฝันว่าเปลือยกายในที่สาธารณะหากฝันว่าตัวเองเปลือยกายต่อหน้าผู้คนในที่สาธารณะ ในฝันคุณรู้สึกอับอายแต่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ หมายความว่า คุณกำลังขาดความมั่นใจในตัวเองจนไม่กล้าตัดสินใจในบางเรื่อง อาจเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว สิ่งที่คุณควรทำคือ เชื่อมั่นในตัวเองให้มากขึ้น สำหรับความฝันว่าแก้ผ้าเดินไปทั่ว ในทางจิตวิทยาแล้วบ่งบอกถึงสิ่งที่คุณกังวลเกี่ยวกับตัวเอง หรือความรู้สึกกลัวว่าจะถูกเปิดเผยข้อด้อยที่ตัวเองมี หรืออาจหมายถึงความละอายใจที่ซ่อนอยู่ใต้จิตสำนึก และคุณไม่สามารถบอกใครได้ เพราะเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเป็นสิ่งที่ช่วยปกปิดอำพรางรูปร่าง อำพรางเนื้อตัวและของสงวนของเรา ซึ่งหากสิ่งที่ใช้ปกปิดอำพรางหายไป เราก็จะเผยตัวตนแท้ ๆ ออกมาให้คนอื่นได้เห็นแทบทุกซอกทุกมุมนั่นเอง หรือหากในฝัน คุณเห็นคนรู้จักยืนโป๊เปลือย นั่นอาจหมายความว่า ลึก ๆ แล้วคุณกลัวเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ซึ่งเป็นด้านที่คุณไม่อยากจะรับรู้ออกมา สำรวจความคิดตัวเองกันนิดครับว่า สิ่งที่เราฝันนั้นใกล้เคียงกับความกังวลของตัวเองหรือเปล่า ถ้าหากใช่ ก็พยายามหาทางออกที่เหมาะสม โดยอาจเป็นการเปิดใจพูดคุยกับใครสักคนอย่างหมดเปลือก อย่างน้อยความกังวลในใจก็จะเบาบางลงไปได้ หรือถ้าเกินจะรับมือไหว ปรึกษาจิตแพทย์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ 3.ฝันว่าบินได้โดยไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวหากฝันว่าบินได้อย่างอิสระเสรี และไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวกับการอยู่บนที่สูงเลยแม้แต่น้อย หมายความว่า คุณกำลังหาวิธีแก้ไขปัญหา หรือหาทางออกให้กับความรู้สึกแย่ๆ ของตัวเองได้แล้ว สิ่งที่คุณควรทำคือ…
วันนี้ Kinlakestars กินแหลกแจกดาว พามาที่ ห้องอาหารพระยา คิทเช่น โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ บุฟเฟ่ต์แบบไทยแท้ สไตล์ Authentic Thai Restaurant โดยความโดดเด่นของมื้อนี้คือ “อาหารไทย 4 ภาค” หากใครอยากทานอาหารไทย แต่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกแบบไหนดี ที่นี่รวบรวมอาหารไทยทั้ง 4 ภาค ให้คุณได้ลิ้มลอง จะแซ่บนัวแบบอาหารอีสาน หรือจัดจ้านแบบแกงใต้ ช่วยให้คุณติดสินใจง่ายขึ้นโดยการรวบรวมอาหารไทย 4 ภาคให้คุณได้ลิ้มลองในที่เดียว ห้องอาหารของที่นี่ จะมีจุดเด่นคือ เน้นคุณภาพของวัตถุดิบเป็นหลัก ทางโรงแรมได้คัดสรร สุดยอดวัตถุดิบท้องถิ่นในแต่ละภาค มารังสรรค์ออกมาเป็นเมนูอาหารไทย ให้เราได้ลิ้มลองกัน อีกทั้งบรรยากาศภายในห้องอาหารยังทันสมัยผสมความเป็นไทย บรรยากาศอบอุ่นเหมือนกินอาหารอยู่ที่บ้าน ในแต่ละมุมจะจัดแบ่งออกเป็นหลายมุมได้แก่ มุมอาหารไทย 4 ภาค ซึ่งจะแยกออกเป็นแต่ละภาคอย่างชัดเจน มุมของสด มุมนี้จะประกอบไปด้วยเนื้อหลากหลายชนิดและของทะเล แขกสามารถเลือกและสั่งให้เชฟปรุงได้หลากหลายแบบตามต้องการ อีกทั้งสลัดผักสด มุมชีสและโคลด์คัทขนมปัง มุมทะเลสดและซาซิมิ มุมปรุงสุกสดๆ และมุมของหวานตะวันตกกับของหวานไทย ไฮไลท์เด็ดของห้องอาหารนี้คงเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก อาหารไทย 4 ภาค และ เมนูอาหารไทยความทรงจำ เมนูอาหารไทยในความทรงจำ นั้นก็คือ เมนูไก่ย่างภูเขาไฟนั้นเอง เป็นไก่ย่างที่ราดเหล้าและจุดไฟเผา โดยทางโรงแรมได้ใช้ไก่ตะนาวศรี มารังสรรค์เมนูนี้ รสชาติของไก่ย่างภูเขาไฟนั้น หนังจะกรอบ เนื้อข้างในจะนุ่ม ชุ่มฉ่ำสุดๆ ซึ่งมีโปรตีนสูง ไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำ เหมาะแก่คนรักสุขภาพอย่างยิ่ง “ไก่บ้านตะนาวศรี” นับเป็นไก่พื้นเมืองสายพันธุ์เดียวที่ถูกนำมาพัฒนาเชิงการค้าอย่างครบวงจรรายแรกในประเทศไทย “ไก่บ้านตะนาวศรี” มีลักษณะเด่นของพ่อและแม่พันธุ์รวมกันคือ ไก่มีเนื้อแน่น นุ่ม ชุ่มฉ่ำ มีโปรตีนสูง ไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำ เนื้อไก่มีรสอร่อย ไม่เหนียว ไม่ยุ่ย ไม่คาว ไม่มีกลิ่นสาบ ตัวไก่ต้องมีโครงร่างที่ดี ได้ปริมาณเนื้อมาก แม่พันธุ์สามารถผลิตไข่ได้ดี และใช้ระยะเวลาการเลี้ยงไม่นาน ไก่บ้านตะนาวศรียังคงรูปร่างหน้าตาของไก่บ้านไทยทั่วไป เนื้อไก่บ้านตะนาวศรีนำไปทำอาหารเมนูไหนก็อร่อย อาหารไทย 4 ภาค ไฮไลท์เด็ดของโปรฯนี้คืออาหารไทย 4 ภาค ซึ่งทางเชฟได้รังสรรค์เมนูออกมามากมายดังต่อไปนี้ เรามาเริ่มกันที่ภาคใต้…
Sakura Garden in Bangkok ภายใต้การจับมือกันระหว่าง Roku Gin และ Aqua แห่ง โรงแรมอนันตรา สยาม โดย Roku Gin หรือ จินโรกุ เพียง 1-10 มีนาฯ นี้เท่านั้น โรกุ แปลว่าเลขหกในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งมาจากวัตถุดิบที่นำมาทำนั้นมาจาก สี่ ฤดูกาล ได้แก่ ดอกซากุระ และ ใบซากุระ ตัวแทนจากฤดูใบไม้ผลิ Sencha (ชาเขียวต้นฤดู) และ Gyokuro tea ตัวแทนจากฤดูร้อน Sansho pepper (พริกไทยญี่ปุ่น) ตัวแทนจากฤดูใบไม้ร่วง และ Yusu peel (เปลือกของส้มยูซุ) ตัวแทนจากฤดูหนาว โดยทางเราจะพาทุกท่านไปเปิดประสบกาณ์รสชาติของ Roku Gin สูตรพิเศษตามฤดูกาล โดยคุณแบงค์ Bar Manager แห่ง Aqua Anantara Siam โดยภายในงานจะถูกเนรมิตรให้เหมือนอยู่ท่ามกลางสวนดอกซากุระ ท่านจะได้ดื่มด่ำท่ามกลางสวนซากุระ พร้อมพนักงานแต่งชุดยูกาตะและกิโมโน คอยให้บริการ เรามาเริ่มเข้าสู่ห้วงของการดื่มด่ำกันดีกว่า Hanami Gimlet (ตัวแทนแห่งฤดูใบไม้ผลิ) : Roku Gin , Sakura Jam, Orange-Lime Cordial 420++ มาเริ่มต้นที่พระเอกของงาน เป็นการผสมผสานกับดอกซากุระ ซึ่งทางร้านได้นำซากุระแช่เกลือ มาล้างเกลือออก และได้นำไปต้มจนออกมาเป็นซอสซากุระเข้มข้นในแบบฉบับของ Aqua หลังจากดื่มเข้าไป จะรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที ตัว Cocktail มีรสชาติกลมกล่อม หวาน เปรี้ยว และปิดท้ายด้วยรสเค็มปลาย เป็นแก้วที่สามารถดื่มต่อได้เรื่อยๆ Gyokuro Martini (ตัวแทนแห่งฤดูร้อน) : Roku Gin, Gyokuro tea infused…
วันนี้ พวกเรา kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปเพลิดเพลินกับบุฟเฟ่ต์นานาชาติสุดหรูที่รวมเอาวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมจากทั่วทุกมุมโลก นำมารังสรรค์โดยเชฟผู้มากความสามารถมาเป็นอาหารสุดพิเศษ ที่ Next2 Cafe ณ โรงแรม แชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เชฟใหญ่ของที่นี่คือ เชฟมาร์ค ซีโบรวิอุส เป็นเชฟผู้มากความสามารถผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารมากว่า 25 ปี โดยจบการศึกษาจากวิทยาลัยอาหารที่ประเทศเยอรมนี และได้ร่วมงานกับเชฟที่มีชื่อเสียงระดับโลกในร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายแห่ง และได้เป็นเชฟใหญ่ที่โรงแรมแชงกรี-ลามาแล้วในหลายประเทศ โดยเชฟจะใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนของการปรุงอาหาร และเข้าใจวัตถุดิบอย่างลึกซึ้ง โดยครั้งนี้ เชฟจะนำความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่ผ่านมา มาสร้างความพิเศษให้กับห้องอาหารทั้ง 9 แห่งของแชงกรี-ลากรุงเทพฯ ห้องอาหาร Next2 Cafe เป็นห้องอาหารที่ตกแต่งอย่างหรูหราและทันสมัยโดยใช้ เฉดสี Earth Tone ให้ความรู้สึกอบอุ่น โดยแขกที่มารับประทานสามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันสวยงามโดยให้บริการอาหารบุฟเฟ่นานาชาติจากทั่วโลก เริ่มต้นด้วย Welcome drink เป็นน้ำพันซ์สตอเบอรี่ปั่น รสหวานอมเปรี้ยว ช่วยให้อยากอาหาร ต่อด้วยเมนูสุดพิเศษนั่นคือ Lobster Thermidor and Omlette and lobster นั่นเอง Lobster Thermidor : เป็นเมนูสุดหรูจากประเทศฝรั่งเศส กุ้ง lobster ชิ้นโตเนื้อแน่นเด้งผัดกับซอสสีขาวซึ่งมีส่วนประกอบของ เนย, ชีส, มัสตาร์ด และไวน์ขาว เป็นต้น รสชาติเข้มข้น หอมๆเค็มๆมันๆ มีความครีมมี่ นำมาบรรจุในเปลือกกุ้ง lobster สีแดงส้มสดใส น่ารับประทาน Omlette and lobster : omlette สีเหลือง เนื้อนวลเนียน มีส่วนผสมของไข่ เบชาเมลซอส และเนื้อกุ้ง lobster ชิ้นโต ที่มีความสด และเนื้อแน่นเด้ง ใส่อย่างไม่อั้น เมื่อรับประทานสัมผัสได้ถึงความหอมและละมุนในปาก ราดด้วยซอสฮอลแลนเดสรสเข้มข้น ไข่กุ้งและต้นหอม น่ารับประทาน ไฮไลท์อีกอย่างของเรานั่นคือ Seafood on ice ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า อาหารทะเลที่นี่คัดสรรมาเฉพาะที่คุณภาพเกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น และสดมากๆ สามารถกินได้เลย หรือจะนำไป grill ด้านนอกก็ได้ครับ ก้ามกุ้ง…
วันนี้ทางทีมงาน Kinlakestars กินแหลกแจกดาวจะพาทุกท่านไปชมร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ชื่อดังย่านปิ่นเกล้าที่รังสรรค์อาหารได้ในระดับพรีเมี่ยม คุณภาพไม่แพ้โรงแรมหรู ให้ท่านได้กินไม่อั้นในราคาที่ย่อมเยาว์ นั่นก็คือ ร้าน Copper international buffet ทางร้านได้คัดสรรเมนูอาหารระดับโลกโดยเฉพาะมาให้ท่านได้ลองมารับประทานอาทิเช่น Wagyu beef, Oyster, Truffle soup และ Sushi ระดับ premium เป็นต้น โดยทุกจานที่เสิร์ฟนั้นได้ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน จากเชฟผู้มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 20ปี ทำให้ท่านได้ลิ้มรสอาหารชั้นเลิศและได้เปิดประสบการณ์ในการรับประทานอาหารที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน นอกจากนี้ท่านยังได้สัมผัสที่สุดของบรรยากาศในการทานอาหารบุฟเฟ่ต์ ในบรรยากาศการตกแต่งเรียบง่าย แต่อบอุ่นดูดีมีความเป็นกันเอง และ ได้รับการบริการที่ดี สำหรับอาหารในไลน์ buffet นั้นแบ่งออกเป็นทั้ง live cooking station ที่ทำตามสั่งของลูกค้า และ Station ต่างๆมากมายซึ่งประกอบไปด้วย seafood on ice, sushi bar, grill station, salad bar, pasta station, noodle station, มุมส้มตำ, ของทอด, ซุป, มุมอาหารร้อน(แกง/อาหารไทย), Cold cut & Cheese, มุมของหวาน และมุมเครื่องดื่ม เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า กับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะ 1-16 ตุลาคมนี้เท่านั้น กับ 4 เมนูพรีเมี่ยม 1. สำหรับเมนูแรกเป็น Canadian lobster tail ชิ้นโต (มูลค่า 990บาท/2ท่านต่อจาน) ปรุงสุกกำลังพอดี เนื้อนุ่มเด้ง และสด ทาด้วยbutter คุณภาพดี แล้วนำไปอบ ทำให้ได้กลิ่นหอมของเนยที่ซึมซับเข้าไปในเนื้อกุ้ง จัดวางบนเปลือกกุ้งล็อบสเตอร์สีส้มอมแดงสดใสดูน่ารับประทาน เมนูนี้เชฟได้จัดให้มาทานคู่กับ white wine cheese sauce ช่วยเพิ่มรสเค็มๆมันๆ ให้รสชาติกุ้งกลมกล่อมมากขึ้น และ pumpkin puree เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มรสหวานให้กับเนื้อกุ้ง สุดท้ายจัดวางพร้อมผักเครื่องเคียงได้แก่ red…
หัวหิน แหล่งพักผ่อนยอดฮิต ติดสถานที่นิยมสุดๆตลอดกาลของชาวไทยมานานกว่าร้อยปี แต่ทว่าใครจะรู้ถึงจุดกำเนิดของที่เที่ยวแห่งนี้ว่าจุดเริ่มต้นอยู่ตรงไหน และมาได้อย่างไร ในครั้งนี้เรามีคำตอบกันครับ วันนี้ทางทีมงาน Kinlakestars.com กินแหลกแจกดาว จะขอพาทุกท่านเปิดประสบการณ์สุดแสนพิเศษ ปลีกตัวจากเมืองที่แสนวุ่นวาย ไปสู่ที่พักหรูอันแสนสงบริมหาดทรายขาวๆตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเลในวันพักผ่อนสบายๆ ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทแอนด์วิลลา หัวหิน ต้นกำเนิดแห่งการพักผ่อนที่หัวหิน เพราะที่นี่คือ “โรงแรมแห่งแรกของหัวหิน” และมีประวัติยาวนาน ให้บริการมามากกว่าร้อยปี !!! โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทแอนด์วิลลา หัวหิน เป็นโรงแรมที่พักสุดหรูหรา ติดทะเล ตกแต่งสไตล์โคโลเนียล สูงโปร่ง เน้นโทนสีขาวดูสะอาดตา มีหลังคาทรงมลิลาสูงชัน และมีการตกแต่งลวดลายอย่างวิจิตรด้วยไม้สักทั้งหมด ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 หรือเกือบ 100 ปีก่อน (พศ. 2466) ภายใต้ชื่อโรงแรมรถไฟหัวหิน ถือเป็นโรงแรมตากอากาศแห่งแรกในสยามประเทศที่หรูหราที่สุดในภูมิภาคนี้ในสมัยนั้น ออกแบบโดย มร. ริการ์สโซ่ สถาปนิกชาวอิตาเลี่ยนประจำกรมรถไฟหลวง ต่อมาเมื่อปี 2529 กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทในเครื่อเซ็นทาราร่วมกับเครือแอคคอร์ ได้รับอนุญาตจากการรถไฟแห่งประเทศไทยให้ทำการปรับปรุง, บริหาร และยังได้ต่อเติมในส่วนของอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกเรื่อยมา และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทแอนด์วิลลา หัวหิน” ดังเช่นในปัจจุบัน โรงแรมนั้นประกอบไปด้วยส่วนรีสอร์ทและวิลล่า รีสอร์ท ประกอบไปด้วยอาคาร 3 อาคาร อาคารเรลเวย์วิง (Railway wing) เป็นอาคารดั้งเดิมตั้งแต่สมัยที่เป็นโรงแรมรถไฟ ตัวอาคารสูงโปร่ง ตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์โคโลเนียล เฟอร์นิเจอร์และพื้นห้องพักจะใช้ไม้สักทั้งหมด อาคารโคโลเนียลวิง (Colonial wing) เป็นอาคารที่สร้างขึ้นมาในภายหลัง เชื่อมต่อกับอาคารเรลเวย์วิง โดยรูปแบบสถาปัตยกรรมก็จะเป็นสไตล์โคโลเนียลเช่นกัน โดยสร้างเลียนแบบอาคารเรลเวย์วิงเพื่อให้กลมกลืนกันนั่นเอง อาคารการ์เด้นวิง (Garden wing) เป็นอาคารที่สร้างขึ้นภายหลังอาคารโคโลเนียล โดยห้องพักจะใหญ่และสว่างกว่าห้องพักรูปแบบอื่นๆ เหมาะสำหรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และเงียบสงบ สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพสวนสวยโดยรอบและสระว่ายน้ำที่แยกมาต่างหาก วิลล่า Deluxe spa villa ห้องนอนขนาดใหญ่ มีพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ มี rain shower พร้อมด้วยอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่อยู่ด้านหลัง Deluxe pool villa ที่โดดเด่นเพิ่มเติมคือ มีสระว่ายน้ำขนาด 3×5 เมตร อยู่ภายในบริเวณวิลล่าด้วย Premium deluxe pool…
วันนี้ทางทีมงานกินแหลกแจกดาวจะพาท่านมาเยือนโรงเรียนสอนทำขนมใจกลางเมือง นั่นคือ “Sweet Cottage Academy” ซึ่งที่นี่นั้นเปิดสอนมาแล้วกว่า 6 ปี โดยคณาจารย์มากประสบการณ์ คร่ำหวอดอยู่ในวงการขนมทั้งในและต่างประเทศ โดยจะเน้นสอนทำขนมสไตล์ฝรั่งเศสผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่นและปรับรสชาติให้พอเหมาะและเป็นที่ชื่นชอบของคนไทย ดังนั้นจึงการันตีได้ว่าผู้ที่จบการเรียนทำขนมจากที่นี่ไปจะสามารถทำขนมได้จริง โดยสามารถใช้เทคนิคการทำขนมต่างๆได้อย่างคล่องแคล่ว และที่สำคัญคือ รสชาติถูกปากคนไทยอีกด้วย เมื่อเข้ามาในโรงเรียนจะพบกับส่วนต้อนรับ โดยจะมีพนักงานมาคอยให้คำปรึกษาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม การตกแต่งนั้นเป็นแบบหรูหรา สไตล์ฝรั่งเศสแต่ได้กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งเข้ากับธีมของขนมนั่นเอง ส่วนของห้องเรียนนั้นจะอยู่ที่ชั้น 3 และชั้น 4 ของโรงเรียน โดยอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆนั้น ล้วนทันสมัยและมีอย่างครบครัน เรียกได้ว่ามีทุกอย่างที่คุณต้องการสำหรับการทำขนม สำหรับชั้น 4 นั้นจะจัดไว้พิเศษสำหรับคอร์สระยะยาว 8 สัปดาห์ ซึ่งจะมีอุปกรณ์ต่างๆที่เหมาะแก่การทำงานจริงมากกว่า การเรียนการสอนที่นี่แบ่งเป็น 4 รูปแบบด้วยกัน แต่จุดเด่นของที่นี่ก็คือ Private class และ Professional pastry course ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่ที่เท่านั้นในประเทศไทยที่เปิดสอนในรูปแบบนี้ และทั้ง 2 หลักสูตรนี้ยังได้รับใบประกาศนียบัตรเมื่อจบหลักสูตรติดไม้ติดมือกลับบ้านไปอีกด้วย จุดเด่นของที่นี่ก็คือ Private class และ Professional pastry course – Private class เป็นคอร์สส่วนตัวที่ให้อิสระในการเลือกทั้งวันเรียน, เวลาเรียน และเมนูที่ต้องการเรียน ด้วยราคาที่ไม่แพงอย่างที่คิด เริ่มต้นเพียง 2600 บาท/เมนู – Professional Pastry Course คอร์สระยะยาว 8สัปดาห์ เพื่อการเป็นเชฟขนมหวานมืออาชีพ เพียง 149,000 บาทเท่านั้น Private class เป็นคอร์สสอนทำขนมที่ให้อิสระในการเลือกทั้งวันที่เรียน, เวลาที่เรียน รวมไปถึงเมนูที่เรียนด้วย ซึ่งที่นี่มีเมนูให้เลือกเรียนกว่า 160 เมนู ซึ่งแต่ละเมนูนั้นทางโรงเรียนได้คัดมาแล้วอย่างดี โดยแต่ละเมนูจะมีความสวยงาม, รสชาติอร่อย, มีเทคนิคการทำที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถนำกลับไปทำเองได้จริง ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า ที่นี่นั้นถือเป็นสวรรค์ของคนชอบทำขนมเลยก็ว่าได้ และสามารถเรียนไปได้เรื่อยๆโดยไม่รู้สึกเบื่อเลยจริงๆ และข้อดีของการเรียนแบบส่วนตัวอีกอย่างนั่นคือ ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อน และสามารถซักถามรายละเอียดต่างๆกับครูผู้สอนได้อย่างไม่ต้องกังวล – ราคานั้นก็ไม่แพงอย่างที่คิด โดยคิดราคาเป็นเมนูโดยเริ่มต้นตั้งแต่ 2600 บาทจนถึง 4200 บาทต่อเมนูขึ้นกับระดับความยากง่าย ไม่จำกัดเวลาต่อคลาส(เมนู) (ปกติใช้เวลาเฉลี่ย…