ต้อนรับการเปลี่ยนแปลงของ Water library กับสถานที่ใหม่ และเชฟใหม่ สู่ความเป็น French Cuisine อย่างเต็มตัว แต่ยังคงกลิ่นอายทวิสเอเชียนไว้นิดๆ แต่แรกเริ่มเดิมที่ Water Library สาขาเรือธงที่ให้บริการ Fine dning นั้นจะอยู่ที่โครงการจามจุรีแสควร์มาอย่างช้านาน ณ ปัจจุบันทางร้านได้ย้าย Water Library เรือธงที่ให้บริการ Fine dining มายังห้าง Central Embassy อย่างเต็มตัว มีการตกแต่งและ set up ร้านใหม่ให้เหมาะสมกับการให้บริการ Fine dining โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นแสงเทียน ผ้าปูโต๊ะสีขาว แจกันดอกไม้ และทีมบริการ และเชฟใหม่ที่มาเป็นวาทยากรแห่งร้านนี้นั้นบินมาตรงจากยุโรปเลยทีเดียวนั้นคือ เชฟ Oliver Drug เชฟ Oliver Drug ถือกำเนิดและเติบโตในกรุงเวียนนา เมืองแห่งวัฒนธรรมและศิลปะของออสเตรีย ฝีมือการทำอาหารของเขาได้ถูกหล่อหลอมจากประสบการณ์ในครัวของร้านอาหารระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Vendôme ซึ่งเคยได้รับถึง 3 ดาวมิชลิน หรือ Das Loft ที่ครอง 1 ดาวมิชลินมาแล้ว แต่การเดินทางของเขาไม่หยุดแค่นั้น เชฟ Oliver ได้กลายเป็นผู้ช่วยสำคัญในการพาเชฟ Juan Amador สร้างชื่อเสียงให้กับร้าน Amador คว้ารางวัล 3 ดาวมิชลินสำเร็จ การย้ายมาสู่ The Water Library เปรียบเสมือนการผจญภัยครั้งใหม่ในชีวิตของเชฟ Oliver เมื่อเขาถูกทาบทามให้มาดำรงตำแหน่ง Head Chef อย่างเต็มตัว หลังจากที่เขาได้มาร่วมงานอีเวนต์กับเชฟ Juan Amador ที่นี่ การผสมผสานความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์ที่สะสมมาตลอดชีวิต ทำให้ทุกจานอาหารของเชฟ Oliver เปรียบเสมือนการเล่าเรื่องราวอันซับซ้อนที่ร้อยเรียงขึ้นอย่างปราณีต The Water Library นำเสนอ Tasting Menu สองแบบที่เป็นดั่งสองบทเพลงที่ต่างมีท่วงทำนองของตัวเอง Classic (4,500++)…
Author: athiwat tripipitsiriwat
At a Glance ร้านอาหาร Italian การันตีความอร่อยโดยเชฟ Alessandro Frau ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากภูเก็ตมาเสิร์ฟอาหารสุดพิเศษใจกลางกรุงเทพฯ ที่ซอยสมคิด ห้องอาหารบรรยากาศ หรูหรา สดชื่นเหมือนอยู่ใต้ทะเล แต่ออกแบบให้สามารถมารับประทานได้หลากหลายโอกาสแบบไม่เป็นทางการไม่วาจะเป็นกลุ่มเพื่อน หรือ แม้แต่การมารับประทานทั้งครอบครัว มีห้องส่วนตัวที่สามารถจองได้ง่าย อาหารเยี่ยม พร้อมโอกาสดีที่จะได้เปิดประสบการณ์อาหารกับ wine italian จากแคว้นต่าง ๆ ทั่วอิตาลี สวัสดีครับ ครั้งนี้ kinandleisure.com จะพาทุกท่านไปที่ร้านอาหาร Italian Stand Alone ที่มั่นใจว่าทุกท่านที่รักอาหารอิตาเลียนจะต้องชื่นชอบ นั่นคือร้าน Acqua Ristorante ร้านสุดพิเศษที่เชฟ Alessandro Frau เป็นผู้หมายมั่นตั้งใจ นำประสบการณ์และความสำเร็จจากร้านอาหารของเชฟภูเก็ต มาให้ชาวกรุงเทพได้ลิ้มรสอาหารอิตาเลียนสุดอร่อย ในบรรยากาศสุดพิเศษ ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ในทำเลสุดพรีเมียมเดินทางสะดวกนั่นคือ ซอยสมคิดข้างเซนทรัลชิดลมนั่นเอง ซึ่งตัวร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ เมื่อขับรถเข้ามาทางถนนเพลินจิต สำหรับร้าน Acqua Ristorante แห่งนี้ถึงแม้ว่าจะถือว่าเป็นร้านอาหาร upscale ที่เหมาะกับโอกาสพิเศษ และมีการตกแต่งที่สวยงาม แต่สิ่งหนึ่งที่เชฟ Alessandro ต้องการคือ ความผ่อนคลายและความสุขที่จะได้มารับประทานอาหารมื้อพิเศษ ทำให้เมื่อมองจากด้านนอกก็จะเหมือนบ้านในสวนที่สวยงาม และเมื่อเข้ามาในตัวร้านก็จะให้บรรยากาศเหมือนกำลังอยู่ในร้านอาหารใต้ทะเล ด้วยการตกแต่งที่สื่อถึงเกลียวคลื่นและสายน้ำ ปะการัง และ ฟองอากาศสีทอง ซึ่งให้ความหรูหราสนุกและผ่อนคลาย สำหรับโต๊ะอาหารก็มีให้เลือกนั่งหลากหลายอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะส่วนตัว วิวสวย โซฟา หรือ ห้องส่วนตัวสองห้องที่สามารถจับจองได้โดยไม่จำเป็นต้องมีขั้นต่ำ ซึ่งมีจุดเด่นคือร้านนี้จะมี space ที่ค่อนข้างกว้างขวางและจัดการกับเสียงก้องได้ดี ทำให้สามารถพูดคุยกันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเชฟตั้งใจให้กลุ่มเพื่อนสามารถมาฉลองกันได้หรือแม้แต่การมากินอาหารทั้งครอบครัว อีกหนึ่งจุดเด่นคือ ห้องเก็บไวน์ขนาดใหญ่ที่มีทั้ง wine italian, champagne และ premium wine ต่าง ๆ ที่จะรับประกันได้ว่าไวน์ที่จะได้ชิมในมื้อนี้นั้นจะเป็นไวน์สุดพิเศษที่คัดสรรมาอย่างดีแน่นอน ร้าน Acqua Bangkok มีการตกแต่งภายในที่เน้นความงามและความทันสมัย กำแพงสีขาวเป็นองค์ประกอบหลักของร้าน ทำให้บรรยากาศดูสะอาดและปลอดโปร่ง เส้นโค้งที่ปรากฏบนกำแพงและเพดานทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนคลื่นน้ำที่ไหลเบาๆ เพิ่มความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย เพดานบางส่วนทำจากโลหะเงาขรุขระที่เลียนแบบผิวน้ำ เพิ่มความระยิบระยับและสะท้อนแสงไฟอย่างสวยงาม ช่องประตูที่โค้งไปมาเหมือนฟองคลื่นช่วยสร้างบรรยากาศที่สดชื่นและน่าค้นหา จุดเด่นอีกหนึ่งจุด ของร้านคือการออกแบบให้มีต้นไม้เก่าแก่อยู่กลางร้าน โดยมีการอนุรักษ์ต้นไม้เก่าไว้อย่างดี ต้นไม้กลางร้านนี้เป็นองค์ประกอบที่แสนโดดเด่นและสร้างบรรยากาศธรรมชาติที่สดชื่นร่มรื่น…
Chef : YYY : 10 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Sunday Brunch Okura Prestigeสวัสดีผู้อ่าน kinandleisure.com ทุกท่านครับ วันนี้เราจะขอแนะนำหนึ่งห้องอาหารที่เสิร์ฟ Sunday Brunch ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพนั่นคือห้องอาหาร Up and Above โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ซึ่งยังคงความพิเศษและความนิยมได้เสมอมา ในปี 2023 นี้ Sunday brunch ของที่นี่เสิร์ฟอะไรบ้างเราจะพาทุกท่านไปดูกันวันนี้ครับUp and Above สำหรับห้องอาหาร Up and Above นั้นตั้งอยู่บนชั้นที่ 24 หรือ Upper Lobby ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ถึงจะเป็นห้องอาหาร indoor แต่ก็มีเพดานที่สูง และวิวถนนสุขุมวิทในสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพ ให้ความปลอดโปร่งโล่งสบาย ซึ่งเสิร์ฟ afternoon tea ในช่วงเวลาบ่าย และ เป็น bar ในช่วงเวลากลางคืนด้วย แต่ในเวลาของ Brunch ถึงแม้จะเป็นในช่วงเช้าก็ไม่ร้อนทำให้นั่งชิลได้อย่างสบายใจ ภายในห้องอาหารจะมีการตกแต่งเป็นตามเทศกาล ต่าง ๆ สอดคล้องกับฤดูกาลซึ่งเป็นหัวใจสำคัญหนึ่งของโรงแรมญี่ปุ่นครับ วันหยุดอันแสนสบายในวันอาทิตย์ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว เพื่อนฝูง และคนที่คุณรักด้วยการรับประทานในบรรยากาศแสนสบายกับ เมลโล่ ซันเดย์ บรั้นช์ (Mellow Sunday Brunch)อันเลื่องชื่อที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียม ณ ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เมลโล่ Sunday brunch ของ Up…
Chef : Jaime Rojas C : 09 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A ภัตตาคารหรู CHAR Restaurant ในเครือโรงแรม IHG ซึ่งในแถบภูมิภาคเอเชียนั้นมีเพียงที่ฮ่องกงและไทยเท่านั้น วัตถุดิบชั้นเลิศ ที่ถูกคัดสรรมาเพื่อเสิร์ฟให้กับ บรรดานักชิมที่ต้องการลิ้มรสความแปลกใหม่ สัมผัสได้ตั้งแต่สีสันของร้านที่เบสด้วยสีน้ำเงินเข้มตัดกับโลหะสีทองมันวาว แบบอินดัสเตียล ตกแต่งออกมาได้อย่างเรียบหรู แบบยุโรป มีความเป็นส่วนตัว ประกอบกับวิวของใจกลางเมืองกรุงเทพ ผ่านกระจกที่สะท้อนแสงจากโคมไฟที่ประดับประดาไว้ได้อย่างสวยงาม เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นและโรแมนติกเหมาะสำหรับคู่รักมากเลยทีเดียว โซนมีทั้งโต๊ะนั่งที่สามารถนั่งสังสรรค์ได้แบบเป็นกลุ่ม มีโต๊ะอาหารที่จัดไว้เป็นพิเศษสำหรับหมู่คณะที่ชมวิวได้แบบกว้างๆ มีมุมกระจกที่จัดเป็นที่นั่งสำหรับบรรยากาศ ชมวิวสวนของสถานทูตสหรัฐอเมริกา และตึกระฟ้าบริเวณกลางสุขุมวิท ที่จัดมาพอดีสำหรับนั่งกันสองคนเหมาะกับสร้างบรรยากาศความเป็นส่วนตัวของคู่รัก CHAR Restaurant เปิดบริการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 18:00 น. – 22:30 น. ร้านอาหารแบบเกริลร่วมสมัยที่มีที่นั่งได้ถึง 60 ที่นั่ง ด้วยโต๊ะสไตล์บูธยอดนิยมที่มอบวิวที่สวยงามของตัวเมือง ห้องรับประทานอาหารส่วนตัวที่รองรับได้สูงสุด 24 ที่นั่ง เชฟ Jaime “Jimmy” Rojas เชฟเดอคุซีนที่เป็นคนหลงเหลงในการเดินทางไปทั่วโลก เป็นหัวหน้าที่รับผิดชอบในครัวของร้าน CHAR และ CHAR Rooftop Bar รวมถึงการจัดการอาหารสำหรับการประชุมและกิจกรรมที่เกิดขึ้นที่ทั้งสองสถานที่นี้ Tuna Tartare Avocado: spicy soy sauce, black olives, avocado mousse and ikura – 680++ การนำเสนอเป็นผลงานศิลปะที่กินได้ โดยมีทูน่าสดสับละเอียดเป็นก้อนเล็กๆวางอยู่บนเตียงมูสอะโวคาโดครีม เฉิดฉายด้วยสีสันอันสดใสจากไข่มุกอิคุระที่แวววาว ความแตกต่างระหว่างปลาทูน่าสีแดงสดกับอะโวคาโดสีเขียวชอุ่มนั้นช่างน่ารับประทานและดึงดูดประสาทสัมผัสก่อนคำแรก อาหารเมนูจานนี้เผยให้เห็นถึงความสมดุลอันซับซ้อนของรสชาติ ปลาทูน่าที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำมีความสดใหม่ที่ละเอียดอ่อน ซึ่งเสริมด้วยรสเปรี้ยวเล็กน้อยและเค็มอุมามิจากซีอิ๊วรสเผ็ด กลิ่นอูมามิจากมะกอกดำช่วยเพิ่มความลึกอย่างโดดเด่นให้กับภาพรวม โดยให้ความแตกต่างที่ลงตัวกับทูน่าเนื้อนุ่ม ความเรียบเนียนของมูสอะโวคาโดทำหน้าที่เป็นผืนผ้าใบที่นุ่มนวล ประสานองค์ประกอบต่างๆ เข้าด้วยกันเป็นชิ้นเดียวกัน สิ่งที่ยกระดับอาหารจานนี้อีกองค์ประกอบคือการมีอิคุระอยู่ด้วย ไข่ปลาแซลมอนที่สวยดั่งลูกแก้วที่มีลักษณะคล้ายอัญมณีแต่ละลูกจะระเบิดออกมาพร้อมกับรสเฉพาะตัว ทำให้เกิดการระเบิดของแก่นแท้ของรสชาติแห่งมหาสมุทรที่ช่วยยกระดับองค์ประกอบทั้งหมด การผสมผสานระหว่างเนื้อสัมผัส ตั้งแต่ความนุ่มนวลของมูสอโวฯ ไปจนถึงความแน่นของทูน่า…
Chef : Blair Mathieson : 09 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีครับทุกท่าน สำหรับวันนี้เรา kinandleisure.com มีความยินดีมากที่จะได้ แนะนำพาทุกท่านไปยังโรงแรมริมแม่น้ำที่สวยงาม หรูหรา และเงียบสงบ มีเอกลักษณ์แตกต่างจากโรงแรมอื่น ๆ ในกรุงเทพ ฯ นั่นคือ The Siam Bangkok ครับ ซึ่งเป็นโรงแรมที่ไม่ใช่ Interchain แห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัล The World’s 50 Best Hotels โดยวันนี้เราจะขอแนะนำห้องอาหาร Western ประจำโรงแรม The Story House ที่ยินดีต้อนรับแขกที่ walk in จากภายนอกให้ได้เข้ามาได้ใช้บริการ และ สัมผัสบรรยากาศความงดงามของโรงแรมแห่งนี้ได้ทุกวันครับ The Story House ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมที่ปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มกระจกบริเวณหลังคาเพื่อ เพิ่มความหรูหราและป้องกันมวลอากาศร้อนที่จะรบกวน ทำให้การรับประทานอาหารใน The Story House สามารถมาได้เกือบตลอดทั้งวันครับ สำหรับการตกแต่งในร้านจะยังคงเอกลักษณ์ของโรงแรม The Siam ที่ใช้ของ Antique แท้ที่หาชมที่อื่นไม่ได้ และ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละครั้งที่มา รวมไปถึงเครื่องประดับบนโต๊ะที่มีเอกลักษณะแตกต่างโดดเด่นจากที่อื่น นอกจากนั้นแต่ละโต๊ะจะถูกจัดวางในหลากหลายอารมณ์ ตามแต่ละโซนของห้องอาหารให้ได้เลือกนั่ง มีบรรยากาศแตกต่างกันไป เช่น โซนที่เป็นเหมือนห้องยา ทำให้เกิดความแปลกใหม่ทุกครั้งที่มา เดอะ สยาม รีสอร์ทริมแม่น้ำชั้นนำของกรุงเทพฯประกาศเปิดตัว แหล่งรับประทานอาหารใหม่ล่าสุด The Story House ซึ่งนำเสนออาหารร่วมสมัยพร้อมรสชาติที่ทันสมัยเมนูสุดสร้างสรรค์ The Story House เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวันเวลา 12.00 น. – 15.00 น. และมื้อเย็นเวลา 18.00 น.…
Chef : Yoda : 09 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Thai Food at Front Roomสวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ วันนี้ kinandleisure.com จะขอพาทุกท่านไปยังห้องอาหารไทยอันแสนอบอุ่น หน้าบ้านของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok ซึ่งเสิร์ฟเมนูอาหารไทยแท้ ๆ เน้นรสชาติถึงเครื่องตามแบบฉบับที่คนไทยกินกันในชีวิตประจำวันจริง ๆ แต่ใช้วัตถุดิบชั้นเลิศ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการต้อนรับแขกผู้มาเยือนหรือกินทั่วไปประจำวันที่ต้องการความสบายๆไม่เป็นทางการครับ Front Room ห้องอาหาร Front Room ตั้งอยู่ที่ชั้นล้อบบี้ด้านล่าง Lower lobber ของโรมแรม Waldorf Astoria Bangkok ซึ่งตำแหน่งหน้าโรงแรมนี้วางเพื่อตั้งใจจะชูให้ห้องอาหารแห่งนี้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกผู้มาเยือนของโรงแรม Waldorf Astoria ตกแต่งด้วยสีโทนขาวเบจ ให้ความปลอดโปร่งสบาย แสงธรรมชาติสวยทั้งช่วงกลางวันและช่วงเย็น นอกจากนั้นตอนกลางคืน โคมไฟจะเล่นรายละเอียดกับเงาสะท้อนให้เห็นเป็นโคมยี่เป็งอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับหลาย ๆ โอกาสที่จะได้มาเยี่ยมเยียน โต๊ะและโซฟาจะให้กลิ่นอายแสกนดิเนเวียนนิดหน่อยให้ความอบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้าน เมื่อรวมกับบริการระดับห้าดาวของโรงแรมแล้วเรียกได้ว่าเป็นห้องอาหารที่ควรค่าแก่การแวะเวียนมาสักครั้ง The Menu สำหรับเมนูอาหารของ Front Room ปัจจุบันจะมีทั้งแบบ course menu อาหารไทย หรือ อาหารไทยแบบ a la carte ที่สามารถสั่งมา sharing กันได้ ซึ่งพอร์ชันหนึ่งก็จะเหมาะสำหรับ 2 – 3 ท่าน ถ้ามารับประทานคนเดียวอาจจะถือว่าค่อนข้างเยอะสำหรับแต่ละจาน จึงเหมาะสำหรับการมาสังสรรค์ร่วมกันเป็นมื้อพิเศษมากกว่าสำหรับการสั่งแบบ a la carte วันนี้เราจะนำ Signature Menu หลาย ๆ จานมาแนะนำกันครับ Starter: ข้าวเกรียบกุยช่าย แต่ก่อนอื่นสำหรับ complimentary starter ของร้านจะเสิร์ฟเป็นข้าวเกรียบกุยข่าย ที่รับประทานเท่าไหร่ก็พอ ข้าวเกรียบมีกลิ่นหอมของกุยข่ายและน้ำจิ้มซีอิ๊วหวานที่เข้ากันอย่างลงตัว…
Chef : Chef Woseley : 9 2023 Story : Dr,Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Café Woseleyสวัดดีครับ วันนี้ผู้อ่านสาย Café hopper จะต้องสนใจแน่นอนเพราะวันนี้ kinandleisure.com จะพาทุกท่านไปยัง Café Wosely popup สุดคลาสสิคที่โรงแรมอนันตราสยามกรุงเทพ ฯ ได้จัดลิขสิทธิ์ส่งตรงจาก UK มาเปิดเป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยนำทั้งบรรยากาศ tableware และทีมเชฟมาให้บริการกันอย่างเต็มรูปแบบเลยทีเดียว ซึ่งฮอตฮิตอย่างมากจนต้องต่อเวลาดำเนินการไปจนถึงสิ้นปีนี้ครับ เมนูจะเป็นอย่างไรบ้างวันนี้เราจะมาพรีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันครับ Café Woseley ฉายแสงดำขาว Café Woseley นั้นเป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมจากความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม ที่ในยุคเริ่มแรกตั้งใจจะสร้างเป็นโชว์รูมสำหรับรถยนต์ Woseley motor ซึ่งตกแต่งอย่างโอ่อ่าด้วยเสาหินอ่อนและโค้ง arch อันสวยงาม ซึ่งหลังจากผ่านกาลเวลามานานก็ได้มีการซื้อเพื่อทำเป็นร้านอาหาร และเปิดทำการในชื่อ Woseley และประสบความสำเร็จแตกร้านออกมาหลายแบรนด์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Café Woseley โดย The Woseley restaurant เป็นหนึ่งใน destination ของผู้ชื่นชอบในอาหาร และ ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมการกินของอังกฤษจะต้องรู้จักครับ ส่วน Café Woseley ใน Bicester หลาย ๆ คนก็อาจจะเคยไปสัมผัสแล้ว ในส่วนของ popup ในประเทศไทย ทางโรงแรม Anantara Siam ได้ปรับปรุงจากห้องบริเวณของห้องอาหาร Madison ให้ได้โทนคลาสิคสีหินอ่อนขาวและดำของ café woseley และได้บรรยากาศที่สวยงาม ซึ่งบอกได้แวลาถ่ายรูปออกมาจะสวยงามมากโดยเฉพาะในเวลากลางวัน สำหรับกลางคืนก็จะได้บรรยากาศสลัว ๆ โรแมนติก เหมาะกับคู่รักและการสังสรรค์The Menu สำหรับอาหารของ Café Wosely จะเสิร์ฟแบบทั้ง A la carte และ…
Chef : HuaMulan : 08 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A 137 Pillars Have a blessed path Afternoon teaวันนี้ kinandleisure.com จะขอพาทุกท่านไปจิบน้ำชายามบ่ายอีกครั้ง ณ โรงแรมที่เสิร์ฟ afternoon tea ที่เราชอบมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ฯ นั่นคือ ที่โรงแรม 137 Pillars Bangkok นั่นเอง ซึ่งในครั้งนี้ โรงแรมได้จัดชุด afternoon tea ชุดใหม่ร่วมกับแบรนด์เครื่องประดับของไทยที่กำลังมาแรงนั่นคือ RAVIPA เป็นชุดน้ำชาแห่งความโชคดี เหมาะสำหรับเฉลิมฉลองหลายโอกาส เราไปชมกันเลยครับ 137 Pillars Have a Blessed Path Afternoon Teaก่อนจะไปชม Item ในชุดน้ำชายามบ่ายชุดใหม่นี้ เราจะต้องขอแนะนำสถานที่ในการเลือกจิบน้ำชาก่อนครับ เพราะว่า 137 Pillars จะให้ท่านสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งที่ห้องอาหาร Bangkok Trading Post หรือ Baan Borneo Club ซึ่งมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกัน สำหรับ Bangkok Trading Post จะตั้งอยู่ที่ชั้นล็อบบี้ให้บรรยากาศแบบ Bistro มีวิวสวน outdoor (Pet Friendly) และ ตกแต่งได้บรรยากาศเหมือนกำลังอยู่ในโรงน้ำชาของท่าเรือสุดหรู แต่สำหรับ Baan Borneo Club จะเป็นห้องอาหารชั้นสูงที่จะเห็นวิวมุมสูง มีความหรูหรา โมเดิร์น และ โรแมนติกกว่าในยามค่ำคืน ซึ่งน่าจะเหมาะกับคู่รักและคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นครับ The Menu สำหรับไอเทมในชุดน้ำชา Have a Blessed Path นี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก…
Chef : Tom J. Kawa : 09 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A maison mizukiบาร์ลับร่ำรวยกิมมิกของมาดาม Mizuki ปลาดิบดีสดอร่อย เครื่องดื่มสวยสร้างสรรค์ ร้านบรรยากาศดีไปกับ“เมซง มิซูกิ” บาร์แห่งใหม่มี่พร้อมจะเปิดโลกของวิสกี้ ค็อกเทล และซูชิ ให้ทุกคนได้เข้ามาดื่มด่ำไปกับรสชาติ เรื่องราว และวัฒนธรรมที่ผสมผสานความเป็นเอเชียและฝรั่งเศสไว้อย่างลงตัว โดย “เมซง มิซูกิ” ตั้งอยู่ที่ชั้นล็อบบี้ ของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท ซึ่งตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในบาร์แห่งนี้คุณจะได้สัมผัสถึงตัวตนและการเดินทางของมิซูกิที่ถือเป็นแรงบันดาลใจของ “เมซง มิซูกิ” เพราะการตกแต่งนั้นเต็มไปด้วยลวดลายดั้งเดิมของญี่ปุ่น บาร์สำหรับเสิร์ฟซูชิ กระจกและผนังที่ใส่ความเป็นฝรั่งเศสเข้าไป และยิ่งไปกว่านั้นคือโซนของบาร์ที่ตกแต่งไว้ด้วยขวดของวิสกี้นานาชนิด ซึ่งถือเป็นสิ่งที่บอกตัวตนของมิซูกิไว้ได้อย่างครบถ้วน ประตูดำบานใหญ่ที่จะรอการเข้ามาของผู้มาเยือน กดออดแล้วบอกรหัสลับ เพื่อให้มาดามมิซูกิออกมาต้อนรับ ร้านตกแต่งแนว luxury retro เน้นสีดำ ทอง ผสมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นด้วย texture มีส่วนที่เป็น omakase bar และนั่งดื่ม Welcome drink Sake Hakutsuru สาเกกระเรียนขาวจาก โรงบ่มชื่อดังใน จังหวัดโกเบประเทศญี่ปุ่น สร้างตำนานตั้งแต่ปี คศ 1743 ปัจจุบันมีขายทั่วโลก เสิร์ฟแบบพิเศษ ในกล่องไม้ masu ซึ้งจะเทสาเกจนล้นแก้ว ออกมาในกล่องไม้ เรียกว่า Sosogi-Koboshi ซึ่งมาจากคำญี่ปุ่นสองคำคือ Sosogu (แปลว่า ริน) และ Kobosu (แปลว่า ล้น) วิธีการเสิร์ฟแบบนี้นิยมแพร่หลายในญี่ปุ่นช่วงสมัยสงครามโลก จะเป็นตัวแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของเจ้าของร้านสำหรับแขกคนพิเศษเมนูของร้านจะเน้นเป็น ปลาดิบ และ โรลซึ่งดีเหลือเชื่อ นอกจากการตกแต่ง ชื่อของ “เมซง มิซูกิ” ก็เป็นการผสมผสานสองวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน โดยคำว่า “เมซง” แปลว่า “บ้าน”…
Chef : Roberto Gonzalez Alonso : 08 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ kinandleisure.com จะขอพาทุกท่านกลับไปยังร้านอาหารสเปนร้านโปรดของเรา นั่นคือ Uno Mas ร้านอาหารสเปนชื่อดังประจำโรงแรม Centara grand Bangkok ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้ทุกท่านประทับใจยิ่งขึ้นกับอาหารของ Uno mas เพราะว่าเชฟประจำคนใหม่ โรแบร์โต กอนซาเลซ อลอนโซ่ (Roberto Gonzalez Alonso) ซึ่งมีประสบการณ์ในการรังสรรค์อาหารสเปนอย่างโชกโชน ได้เข้ามายกระดับเมนูอาหารใน Uno mas ทั้งทางด้านรสชาติและการนำเสนอที่สวยงาม New Chef New Menu กับเชฟชาวสเปนคนใหม่ เชฟโรแบร์โตได้สั่งสมประสบการณ์ที่ช่ำชองและได้ฝึกฝนทักษะทางด้านการปรุงอาหารในร้านอาหารบิสโตรและทาปาสสไตล์สเปนที่ดีที่สุดและมีชื่อเสียงโด่งดังมากมายในเมือง Madrid, Bristol และ Salamanca โดยร้านอาหารที่เชฟเคยร่วมงานประกอบไปด้วย Sinsombrero, Casa Gades,Sexto, Txirimiri และ DiverXO ซึ่งเป็นร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว เชฟโรแบร์โตถือเป็นเชฟรุ่นใหม่ที่จะมายกระดับให้ห้องอาหารอูโนมาสดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิมDr. Athiwat T. เชฟโรแบร์โต ได้เคยทำงานในร้านอาหารที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง รวมไปถึงร้านมิชลินสามดาวใน Madrid อย่าง Diverxo ทำให้เราตื่นเต้นมากที่จะได้นำเสนออาหาร Uno mas เมนูใหม่นี้ครับ [อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเชฟ https://www.kinandleisure.com/news-roberto-gonzalez-alonso-uno-mas-centara-grand-at-central-world/] The Vibes Uno mas ตั้งอยู่บนชั้น 54 ของโรงแรม Centara Grand Bangkok ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีวิวเส้นขอบฟ้าที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ตัวร้านจะตกแต่งสไตล์ร้านอาหารแถมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งจะรู้สึกได้ทันทีที่ขึ้นมาบนชั้น 54 ตัวร้านมีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย หลายบรรยากาศไม่ว่าจะเป็นโซนบาร์ด้านหน้าที่เราจะพบ…