Author: Kittin Assavavichai

เชฟทอมมี่ เฉิง และทีมเชฟรังสรรค์ขนมไหว้พระจันทร์แฮนด์เมดสุดประณีต พร้อมเปิดตัวรสใหม่ “กุหลาบ” เป็นครั้งแรก ที่สั่งจองล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ เมื่อดวงจันทร์เต็มดวงและเปล่งประกายที่สุดในรอบปี เทศกาลไหว้พระจันทร์จึงกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการกลับมาอยู่พร้อมหน้า พร้อมตา และเฉลิมฉลองร่วมกันอย่างอบอุ่น ที่ห้องอาหารหยู้ ทิง หย้วน (Yu Ting Yuan) ห้องอาหารกวางตุ้งที่ได้รับการแนะนำในมิชลินไกด์ประจำโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขอนำเสนอมิติใหม่ของประเพณีผ่านคอลเลกชันขนมไหว้พระจันทร์แฮนด์เมดอันวิจิตร ซึ่งแต่ละชิ้นถ่ายทอดทั้งศิลปะ อัตลักษณ์ และความผูกพันจากรุ่นสู่รุ่น สำหรับปี 2025 เชฟทอมมี่ เฉิง (Tommy Cheung) เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟอาหารจีนแห่งหยู้ ทิง หย้วน ได้บรรจงรังสรรค์ขนมไหว้พระจันทร์ชุดพิเศษ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากทั้งเทคนิคดั้งเดิมและความทรงจำในวัยเยาว์ ถ่ายทอดออกมาเป็นรสชาติที่ร่วมสมัยและอบอวลด้วยความรู้สึก โดยเฉพาะรสชาติใหม่ “กุหลาบ” ที่เชฟตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจในกลิ่นดอกไม้โปรดของคุณแม่ “สำหรับผม เทศกาลไหว้พระจันทร์คือช่วงเวลาที่พิเศษเสมอ” เชฟทอมมี่เล่า “ตอนเด็กๆ ขนมไหว้พระจันทร์ไม่ได้เป็นเพียงขนม แต่คือสัญลักษณ์ของความผูกพันในครอบครัว ปีนี้ ผมจึงอยากถ่ายทอดความทรงจำเหล่านั้นผ่านรสชาติที่มีความประณีตและลึกซึ้ง โดยเฉพาะขนมไหว้พระจันทร์รสกุหลาบ ที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ อ่อนโยน อบอุ่น และเต็มไปด้วยความทรงจำ” คอลเลกชันขนมไหว้พระจันทร์ประจำปี 2025 ของเชฟทอมมี่ คือศิลปะแห่งความสมดุลที่หลอมรวมระหว่างรากฐานดั้งเดิมกับความสร้างสรรค์ใหม่ ทุกองค์ประกอบล้วนได้รับการออกแบบอย่างใส่ใจ ทั้งเนื้อสัมผัสที่ละมุนละไม และรสชาติที่ซับซ้อน กลมกล่อม และตราตรึงไม่รู้ลืม ขนมแต่ละชิ้นบรรจุในกล่องของขวัญสีแดงสดประดับลวดลายพระจันทร์สีทอง พร้อมภาพเงาของเทพีฉางเอ๋อ แรงบันดาลใจจากตำนานไหว้พระจันทร์อันงดงาม ประกอบกับลายเส้นอันวิจิตรที่สะท้อนเอกลักษณ์ของห้องอาหารหยู้ทิง หย้วน ทำให้ทุกกล่องของขวัญเปี่ยมด้วยเรื่องราว ความหมาย และความน่าจดจำ เหมาะสำหรับมอบเป็นของขวัญแทนใจในโอกาสพิเศษ ชุดขนมไหว้พระจันทร์ปีนี้มีทั้งหมด 5 รสชาติ ซึ่งล้วนสะท้อนรสนิยมอันประณีตของเชฟทอมมี่: ไส้เม็ดบัวไข่เค็ม: คลาสสิกเหนือกาลเวลา ด้วยเม็ดบัวเนื้อละเอียดหอมมัน ผสานกับไข่เค็มทองคำ สื่อถึงความสมดุลและความมั่งคั่ง ไส้ทุเรียนไข่เค็ม: กลิ่นรสเข้มข้น หอมมัน และกลมกล่อม สำหรับผู้ที่หลงใหลในทุเรียน ไส้คัสตาร์ดไข่เค็ม: เนื้อคัสตาร์ดเนียนนุ่มละลายในปาก ตัดกับไข่เค็มรสเค็มมันได้อย่างลงตัว ไส้มะม่วงและเมล็ดสน: กลิ่นอายทรอปิคอลที่สดใส หอมหวานจากมะม่วงสุก ผสานความกรุบของเมล็ดสน ไส้กุหลาบ: กลิ่นหอมละมุนจากกลีบกุหลาบ มอบสัมผัสนุ่มนวล อ่อนโยน ดุจความทรงจำที่งดงามไม่จางหาย ชุดขนมไหว้พระจันทร์แบบลิมิเต็ด เอดิชัน มีให้เลือก 2 แบบ: Premium Mooncake Box บรรจุ 4 ชิ้น (ขนาดชิ้นละ 140 กรัม) เลือกได้ระหว่างไส้เม็ดบัวไข่เค็ม หรือทุเรียนไข่เค็ม ในราคากล่องละ 2,588 บาทสุทธิ Fan Favourite Mooncake Box บรรจุ 8 ชิ้น (ขนาดชิ้นละ 70 กรัม) รวมทุก 5 รสชาติ: เม็ดบัว, ทุเรียน, คัสตาร์ด, มะม่วงเมล็ดสน และกุหลาบ ในราคากล่องละ 1,588 บาทสุทธิ…

Read More

ชุดน้ำชายามบ่ายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรสชาติอาหาร เรื่องราว และพืชพันธุ์อันอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ Baan Borneo Club 137 พิลลาร์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ร่วมกับแบรนด์เครื่องประดับ SARRAN และ คุณศัณญ อยู่คกดี ผู้ให้คำแนะนำในการถ่ายทอดความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมและความอุดมสมบูรณ์ทางเกษตรกรรมของจังหวัดเชียงใหม่ — สะท้อนแก่นและเรื่องราวของแบรนด์โรงแรม 137 พิลลาร์ — ผ่านชุดน้ำชายามบ่าย “ความทรงจำแห่งล้านนา” (Memoirs of Lanna) ความร่วมมือครั้งนี้ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่สู่ใจกลางกรุงเทพฯ นำเสนอรสชาติอาหารเหนือ วัตถุดิบ ผลผลิตทางการเกษตรจากท้องถิ่นในรูปลักษณ์สวยงามและสร้างสรรค์ ขณะเดียวกันแบรนด์เครื่องประดับ SARRAN สร้างสรรค์คอลเลกชั่นเครื่องประดับที่สะท้อนความงดงามของดอกไม้แห่งเมืองเชียงใหม่ เพลิดเพลินกับช่วงเวลายามบ่ายอันแสนผ่อนคลาย พร้อมหวนนึกถึงเสน่ห์ของเมืองเชียงใหม่ กับรสชาติหลากหลายของอาหารคาวและขนมหวานที่รังสรรค์อย่างประณีต เสิร์ฟคู่กับสโคนอบสด แยม และชามอนซูน การเดินทางของรสชาติที่ลงตัวนี้ ได้รับการรังสรรค์จากทีมเชฟมากฝีมือ นำโดย เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟกรวิชญ์ รุ่งฉัตร พร้อมมอบความอิ่มเอมใจในทุกรสสัมผัสให้บริการที่บ้านบอร์เนียวคลับ ชั้น 26 ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ถึง 15 มิถุนายน 2569 เวลา 12:00 น. ถึง 17:00 น.โดยจะมีการปรับเปลี่ยนเมนู 2 รายการในแต่ละฤดูกาล — เริ่มจากฤดูฝน ตามด้วยฤดูหนาว และฤดูร้อน — เพื่อถ่ายทอดความหลากหลายของวัตถุดิบจากจังหวัดเชียงใหม่ตลอดทั้งปีราคาชุดละ 2,400++ บาท สำหรับ 2 ท่าน หรือ 2,800++ บาท สำหรับ 2 ท่าน รวมสปาร์กลิงไวน์ 2 แก้ว*ราคายังไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม แก๋งกระด้างปลา“เจลลี่ปลาเทราต์ปรุงรสด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศ เสิร์ฟในแตงกวาสด ท็อปด้วยคาเวียร์” น้ำพริกอ่องไก่“น้ำพริกขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่รสเผ็ดกำลังดีในรูปทรงมะเขือเทศ ประกอบด้วยมะเขือเทศสด ไก่สับละเอียด สมุนไพร เครื่องเทศ และไข่ต้ม” ข้าวซอยกุ้ง“น้ำแกงจากภาคเหนือรางวัลการันตี กุ้งสด น้ำกะทิ เครื่องแกง ผสมอย่างลงตัวในรูปทรงมะเขือเทศสีส้มเสิร์ฟบนเส้นข้าวซอยกรอบ” ลาบเมือง“อาหารเหนือรสเข้มข้น นำเสนอเนื้อย่างคุณภาพดีคลุกเคล้ารสเครื่องเทศของลาบเมือง” ทาร์ตกุหลาบเวียงพิงค์“ทาร์ตพราลีนอัลมอนด์ ซอสมัลเบอร์รี่ นำเสนออย่างประณีตด้วยครีมชีสที่ตกแต่งเป็นรูปทรงดอกกุหลาบจากเชียงใหม่” มูสลูกพลับ“มูสมาสคาโปนสอดไส้คอมโพตลูกพลับสีทอง วางบนฐานซาเบลรสช็อกโกแลต ท็อปด้วยคาเวียร์ผลไม้”…

Read More

แอบซ่อนตัวอยู่ ณ ซอยสุขุมวิท 11 ร้าน “บุรพา อีสเทิร์น ไทย ควีซีน แอนด์ บาร์ บาย ศรีตราด” เชื้อเชิญท่านเข้าสู่โลกแห่งความหลัง — ดั่งย่างก้าวเข้าสู่ตู้โดยสารรถไฟหรูในยุคเก่าก่อน ที่บรรทุกกลิ่นอาย รสชาติ และเรื่องเล่าจากถิ่นตะวันออกของสยามสู่ใจกลางเมือง กำเนิดขึ้นจากครอบครัวเดียวกับ “ศรีตราด” อันลือชื่อ ร้านบุรพาคือบทต่อยอดแห่งมรดกสูตรอาหารตำรับมารดา “คุณแม่ศรี” (ศรีรัตน์ ศรีปิ่นโย) ที่ได้รับการสรรสร้างใหม่ด้วยสายตาแห่งศิลปินรุ่นใหม่ “คุณแอ็กค์ วงศ์วิช ศรีปิ่นโย” หัวหน้าครัวและผู้ร่วมก่อตั้ง ผู้ปลุกชีพจิตวิญญาณอาหารภาคตะวันออกให้งดงามร่วมสมัย “อาหารของบุรพาตั้งอยู่บนรากฐานจากการเรียนรู้ของผมในครัวคุณแม่และเมนูต้นตำรับของศรีตราด แต่ในครั้งนี้ เราได้แปรเปลี่ยนอดีตให้สดใส มีชีวิตชีวาอย่างร่วมสมัย โดยยังคงไว้ซึ่งรสเข้มถึงใจอย่างแท้จริง” จุดเด่นทางรสชาติ ปีนี้ บุรพายังเดินหน้า “การเดินทางสู่มหัศจรรย์แห่งตะวันออก” (Journey to the WonderEast) ด้วยองค์ประกอบใหม่ที่น่าสนใจ อาทิ: – เมนูใหม่ประจำฤดูกาลในรายการอาหาร à la carte– ปรับปรุงเมนูเทสติ้งรูปแบบการเดินทาง ให้สดใหม่– จับคู่ค็อกเทลและไวน์ที่คัดสรรอย่างสร้างสรรค์– ร่วมมือกับเกษตรกรและช่างฝีมือท้องถิ่น วัตถุดิบจำนวนมากนำตรงจากตราด ระยอง จนถึงอีสาน ไม่ว่าจะเป็น:– หอยนางรมป่า แมงกะพรุนทะเล– น้ำมะพร้าวออร์แกนิกที่มีกลิ่นรสเฉพาะถิ่น– ผลไม้ สมุนไพร ถั่วป่า และรากไม้จากป่าชายเลน– อ้อยพันธุ์หายากและดอกไม้ท้องถิ่นที่ใช้ทั้งในอาหารและเครื่องดื่ม อาหารตะวันออกนั้นล้ำลึกด้วยรสชาติ และที่บุรพา เราถ่ายทอดดีเอ็นเอนั้นไว้ในทุกจาน—แต่ก็แอบซ่อนความแปลกใหม่ชวนค้นหาเอาไว้ด้วย บรรยากาศ: งานเลี้ยงเคลื่อนที่แห่งกาลเวลา ทุกซอกมุมของร้านบุรพาเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายการเดินทาง—ทั้งทางร่างกายและหัวใจ ได้แรงบันดาลใจจากยุครุ่งเรืองของ “โอเรียนต์ เอ็กซ์เพรส” ร้านแบ่งออกเป็น 3 ชั้น: – ชั้นล่างคือบาร์ย้อนยุค: ขวดแก้วบรรจุน้ำเชื่อมหมักเอง เคาน์เตอร์ไม้สักโค้งมน บูธเบาะกำมะหยี่– ชั้นสองเป็นห้องอาหาร: หน้าต่างรถไฟ หนังสือเก่าข้างโต๊ะ เทียนให้แสงนวล และโทนทองแดงอบอุ่น– ชั้นสามเป็นห้องรับรองแบบซาลอน: ได้แรงบันดาลใจจากโรแมนติซิสม์แบบฝรั่งเศส พร้อมเก้าอี้หนัง โต๊ะหินอ่อน และแสงสลัวชวนเคลิบเคลิ้ม ทุกห้องคือคำเชื้อเชิญให้แขกละทิ้งโลกภายนอก แล้วดำดิ่งสู่การเดินทาง… โดยไม่ต้องมีตั๋วรถไฟ ตอนนี้ที่บุรพามีอะไรบ้าง –…

Read More

กล่องลิมิเต็ดดีไซน์ระดับโลก + ไส้คัสตาร์ดไข่แดงระดับตำนาน + รสชาติใหม่หอมละมุน🎁 ผลิตเพียง 150 ชุดทั่วโลก! พร้อมชุดน้ำชาพอร์ซเลนสุดหรู เหมาะสำหรับนักสะสมและของขวัญสุดพิเศษ ขนมไหว้พระจันทร์ Peninsula Bangkok 2025 – เมื่อความละเมียดของศิลปะ มาผสานกับรสชาติในตำนาน เทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้ โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ สร้างปรากฏการณ์อีกครั้งกับกล่องขนมไหว้พระจันทร์ลิมิเต็ดเอดิชัน “Moonlit Masquerade” ที่ทั้งสวย ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยวัฒนธรรม ผ่านลายเส้นจากศิลปินระดับโลก ปอม ชาน (Pomme Chan) เมื่อเอ่ยถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในหมู่ผู้รักอาหารจีนระดับกูร์เมต์ หนึ่งในชื่อที่ไม่อาจมองข้ามได้คือ ขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ดไข่แดงจากโรงแรมเพนนินซูลา ซึ่งในปี 2025 นี้ ขนมไหว้พระจันทร์สูตรดั้งเดิมอันเป็นตำนาน กลับมาอีกครั้งพร้อม 3 รสชาติใหม่อันน่าตื่นเต้น และบรรจุในกล่อง “Moonlit Masquerade” ผลงานศิลป์ลิมิเต็ดเอดิชันที่ควรค่าแก่การสะสม ตำนานคัสตาร์ดไข่แดงจากห้องอาหาร Spring Moon สู่ Mei Jiang ขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ดไข่แดงของเพนนินซูลา มีต้นกำเนิดที่ห้องอาหารมิชลินสตาร์ Spring Moon ณ โรงแรมเพนนินซูลา ฮ่องกง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 โดยเชฟของโรงแรมได้นำแรงบันดาลใจจากขนมดั้งเดิมของจีน มาผสมผสานกับเทคนิคการทำขนมแบบตะวันตกอย่างประณีต ผลลัพธ์คือขนมแป้งบางกรอบสีน้ำตาลทองสวย ไส้ด้านในเป็นคัสตาร์ดเนื้อนุ่ม ละเมียดละไม หอมเนยคุณภาพสูง และไข่แดงเค็มที่ละลายในปากได้อย่างน่าทึ่ง ที่สำคัญ สูตรนี้ถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี ส่งต่อจากเชฟรุ่นสู่รุ่น ทั้งในฮ่องกงและโรงแรมในเครือทั่วโลก รวมถึงห้องอาหาร “เหม่ยเจียง” ของเพนนินซูลา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาขาที่ได้รับสิทธิ์ผลิตขนมสูตรนี้ด้วยมาตรฐานเดียวกัน ในปีนี้ทางเราก็เข้าครัวมาทำขนมไหว้พระจันทร์ไส้ดั้งเดิมกันตั้งแต่ปั้นไส้ นวดแป้งกดแป้งเป็นแผ่น ห่อแป้งกับไส้ ใส่ไม้พิมพ์แล้วเคาะออก สามรสชาติใหม่ รังสรรค์อย่างวิจิตรในครัวเหม่ยเจียง ในปีนี้ ขนมไหว้พระจันทร์จากครัวเหม่ยเจียง นอกจากสูตรต้นตำรับคัสตาร์ดไข่แดง ยังเปิดตัว สามรสชาติใหม่ ที่รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศ ได้แก่ ไส้ชาอู่หลงหอมหมื่นลี้ – กลิ่นหอมละมุนจากชาอู่หลงชั้นดี ผสานกับกลิ่นดอกไม้จีน ให้สัมผัสที่สงบละมุนแบบตะวันออก ไส้เมล็ดบัวเนื้อนุ่ม – รสชาติคลาสสิกที่ผ่านการตีความใหม่ เนื้อแน่นแต่นุ่มละมุน หวานน้อยแต่กลมกล่อม…

Read More

🥗 ส้มตำ: เส้นทางอาหารจากผลไม้ต่างถิ่น สู่จานเด็ดประจำชาติ กับปริศนาต้นกำเนิดที่หลายภาคแย่งกัน 🍴 บทนำ ส้มตำ เป็นหนึ่งในอาหารที่สะท้อนตัวตนของประเทศไทยในสายตาชาวโลก — เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ครบเครื่องในครกเดียว แต่เบื้องหลังจานนี้กลับเต็มไปด้วยปริศนา: มะละกอมาจากไหน? พริกไม่ใช่พืชพื้นเมือง แล้วทำไมจึงกลายเป็นหัวใจของส้มตำ? ทำไมคนอีสานเรียก “ตำบักหุ่ง” ส่วนบางคนบอกว่าส้มตำมีต้นกำเนิดในราชสำนักล้านนา? คำตอบของคำถามเหล่านี้อยู่ในประวัติศาสตร์ของการเปลี่ยนผ่านของวัฒนธรรม การค้าระหว่างทวีป และการอพยพของผู้คนในภูมิภาคอุษาคเนย์ 🌍 ส้มตำ: พืชต่างถิ่นในครกไทย 1. มะละกอ มะละกอมีถิ่นกำเนิดใน อเมริกากลางและอเมริกาใต้ นำเข้ามาสู่เอเชียในช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 16–17 โดยพ่อค้าชาวสเปนและโปรตุเกสผ่านเส้นทางการค้าอาณานิคม เข้ามาไทยช่วง ปลายอยุธยา – ต้นรัตนโกสินทร์ และปลูกแพร่หลายทางตอนกลางและอีสาน 2. พริก มีแหล่งกำเนิดเดียวกับมะละกอ และเข้ามาในภูมิภาคเอเชียช่วงเวลาเดียวกัน ก่อนหน้าพริก คนไทยใช้ “ดีปลี” และ “พริกไทย” เป็นเครื่องปรุงเผ็ด เมื่อพริกแพร่หลาย ก็เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาหารพื้นบ้านต่างๆ รวมถึง “ตำ” 🧭 เส้นทางประวัติศาสตร์ของ “ส้มตำ” 🥢 สายอีสาน-ลาว (ตำบักหุ่ง) ถือเป็นสายหลักที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ชาวอีสานมีวัฒนธรรมการใช้ครกสาก และนิยมอาหารหมัก เช่น ปลาร้า กะปิ มาช้านาน เดิมทีตำมะกอก ตำแตง ตำมะม่วง มีมาก่อน เมื่อมีมะละกอดิบและพริกเข้ามาในพื้นที่ในช่วง ราวปลายรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2440–2460) จึงเริ่มมีการ “ตำบักหุ่ง” หรือส้มตำเวอร์ชันที่เราคุ้นเคยในวันนี้ 👑 สายล้านนา (ตำส้ม / ตำมะละกอในราชสำนัก) มีข้อถกเถียงว่าส้มตำปรากฏอยู่ในอาหารของชนชั้นสูงล้านนาในสมัยก่อน โดยเรียกว่า “ตำส้ม” อ้างอิงจากบางตำราในเชียงใหม่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ว่ามีเมนูที่ใช้มะละกอ พริก น้ำปลา ข้าวคั่ว และมะนาว เป็นส่วนประกอบ แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเมนูนั้นใช้ “มะละกอดิบ” และ “ครกตำ”…

Read More

ขนมไหว้พระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของความรักและการอยู่ร่วมกันของครอบครัว อีกทั้งยังเหมาะสำหรับเป็นของขวัญสุดพิเศษที่น่ารับประทาน โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ด้วยขนมไหว้พระจันทร์สูตรพิเศษพร้อมให้คุณได้ลิ้มลองที่ร้านแบร์โธลด์ เดลิคาธิเซน ชั้นล็อบบี้ ในทุกปีเทศกาลไหว้พระจันทร์จะจัดขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของฤดูกาลแห่งความสามัคคี ความปรองดอง และการอยู่ร่วมกัน ในช่วงปลายราชวงศ์หยวน (ในราวปีค.ศ. 1271-1368) ได้มีการปฏิบัติการลับครั้งสำคัญเกิดขึ้น โดยมีขนมไหว้พระจันทร์เป็นวิธีการสื่อสารระหว่างกลุ่มกบฏที่วางแผนต่อต้านการปกครองของมองโกล ข้อความถูกซ่อนอยู่ในขนมอบอันน่ารื่นรมย์เหล่านี้ ทำให้ข้อมูลสำคัญไม่ถูกตรวจพบ นอกจากนี้ขนมไหว้พระจันทร์มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับนิทานพื้นบ้านเอเชียโบราณเรื่องพระจันทร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองนี้ ขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ในปีนี้บรรจุในกล่องสีเขียวมงคล ตกแต่งเพิ่มความหรูหราด้วยลวดลายสีทอง ออกแบบอย่างพิถีพิถัน เหมาะเป็นของขวัญหรือของฝากสำหรับเพื่อน ครอบครัว หรือผู้ร่วมธุรกิจ ขนมไหว้พระจันทร์สูตรพิเศษของโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ มีให้เลือกสรร 4 รสชาติ ได้แก่ ไส้ทุเรียนไข่เดี่ยว (Durian with Single Egg Yolk) ไส้พุทราจีนไข่เดี่ยว (Chinese Dates with Single Egg Yolk) ไส้เม็ดบัวไข่เดี่ยว (Lotus Seed with Single Egg Yolk) ไส้ชาเขียวผสมถั่วพิสตาชีโอ (Green Tea with Pistachio) สัมผัสความอร่อยของขนมไหว้พระจันทร์ ได้ที่ร้านแบร์โธลด์ เดลิคาธิเซน ชั้นล็อบบี้ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรงุเทพฯ ชุดขนมไหว้พระจันทร์กล่องใหญ่ ราคาสุทธิกล่องละ 1,688 บาท (บรรจุกล่องละ 4 ชิ้น คละรสชาติได้ 4 ไส้) ขนมไหว้พระจันทร์กล่องเดี่ยว ราคาสุทธิกล่องละ 388 บาท พบโปรโมชั่นพิเศษ special pre-sale เมื่อสั่งซื้อขนมไหว้พระจันทร์กล่องใหญ่ล่วงหน้าตั้งแต่ วันนี้ ถึง 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ในราคาสุทธิพิเศษเพียง 1,435 บาท สามารถกดสั่งซื้อขนมไหว้พระจันทร์ได้ที่นี่  https://bit.ly/SindhornKempinski-Mooncake-Megatix สามารถรับขนมไหว้พระจันทร์และซื้อที่หน้าร้านได้ตั้งแต่ วันที่ 1…

Read More

โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เชิญคุณพบกับชุดน้ำชายามบ่ายสุดพิเศษ ‘Atelier Tea Reverie’ สัมผัสประสบการณ์จิบชายามบ่ายสุดหรูครั้งใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคอลเลคชั่นเครื่องประดับ ‘Atelier’ ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI เปิดประสบการณ์เข้าสู่โลกแห่งจินตนาการที่หลอมรวมงานออกแบบแฟชั่น เข้ากับรสชาติความละมุนแห่ง Afternoon Tea อันเลื่องชื่อของโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ กับเมนูใหม่ล่าสุด ‘Atelier Tea Reverie’ ชุดน้ำชายามบ่ายอันหรูหราซึ่งได้แรงบันดาลใจจากผลงานเครื่องประดับล้ำค่า ‘Atelier’ Fine Jewellery Collection แห่ง SIRIVANNAVARI แบรนด์แฟชั่นระดับลักซ์ชัวรีที่ชวนคุณมาสัมผัสกับสตูดิโอของกูตูริเยร์หรือห้องเสื้อชั้นสูง ดื่มด่ำกับความหอมละมุนของเมนูชาเกรดพรีเมี่ยม และลิ้มลองความอร่อยของเมนูอาหารคาวและของหวานที่ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน สะท้อนถึงความสง่างามและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานเครื่องประดับอันทรงคุณค่า ซึ่งเครื่องประดับคอลเลคชั่นนี้เป็นการหยิบยกวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการออกแบบอย่างสายวัด นำมาเป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์แบบเครื่องประดับ พร้อมเพิ่มเติมด้วยชุดพาสทรี้สุดพิเศษ ซึ่งถูกจัดวางมาในกล่องเครื่องประดับอย่างสวยงาม ชุดน้ำชายามบ่ายสุดพิเศษ ‘Atelier Tea Reverie’ นี้เปรียบเสมือนห้วงแห่งจินตนาการสอดประสานงานฝีมือและความประณีตชวนเชิญให้คุณได้มาสัมผัสช่วงเวลายามบ่ายอันแสนวิเศษ พร้อมเสิร์ฟให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ถึง 18.00 น. ณ ล็อบบี้ เลานจ์ ในราคาชุดละ 3,200++ บาท สำหรับ 2 ท่าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร 02 095 9999 หรือ อีเมล์ [email protected] Kin News Kinandleisure.com Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ…

Read More

เชิญคุณร่วมเปิดประสบการณ์อาหารจีนกวางตุ้งที่เปี่ยมด้วยศิลปะแห่งการปรุงอย่างประณีต ณ ห้องอาหาร “เหม่ยเจียง” ที่โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ ท่ามกลางบรรยากาศสงบร่มรื่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา เหมาะทั้งสำหรับการพักผ่อนยามเที่ยงในวันธรรมดา หรือพบปะสังสรรค์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ดื่มด่ำกับรสชาติแบบดั้งเดิมของติ่มซำที่ปรุงสดใหม่ทุกจาน อาทิ ขนมจีบเป๋าฮื้อ หมู และกุ้ง, เกี๊ยวนึ่งไส้หอยเชลล์และผักโขม, ขนมผักกาดทอดพร้อมกุ้งซากุระ และปิดท้ายอย่างสดชื่นด้วยพุดดิ้งมะม่วงแช่เย็นสูตรเฉพาะ ห้องอาหารเหม่ยเจียงเปิดให้บริการสองรูปแบบ เพื่อเติมเต็มมื้อกลางวันของคุณให้พิเศษยิ่งกว่าเดิม: ชุดมื้อกลางวันติ่มซำ (Weekday Dim Sum Set Lunch) วันจันทร์–ศุกร์ เวลา 11:30 – 14:30 น. สัมผัสความอร่อยในสไตล์กวางตุ้งผ่านชุดมื้อกลางวันแสนประณีตที่คัดสรรเมนูยอดนิยม เช่น ขนมจีบเป๋าฮื้อ เกี๊ยวไส้หอยเชลล์ และขนมผักกาดกุ้งซากุระ ราคา: 888++ บาท ต่อท่าน บุฟเฟ่ต์ติ่มซำแบบไม่อั้น (Weekend All You Can Eat Dim Sum) วันเสาร์–อาทิตย์ เวลา 11:30 – 14:30 น. อิ่มไม่อั้นกับติ่มซำปรุงสดใหม่แบบ à la minute ทั้งเมนูนึ่ง ทอด และอบ พร้อมรายการเพิ่มเติมจากเมนู à la carte ให้คุณเลือกสรรอย่างจุใจ ท่ามกลางบรรยากาศริมแม่น้ำที่หรูหรา ราคา: 1,288++ บาท ต่อท่าน สถานที่โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ333 ถนนเจริญนคร แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพฯ 10600 โทรศัพท์: +66 2 020 2888อีเมล: [email protected] Kin News Kinandleisure.com Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม…

Read More

“ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ” (Chatrium Grand Bangkok) โรงแรมระดับลักซัวรี่ใจกลางย่านสยาม พร้อมต้อนรับเข้าสู่บรรยากาศแห่งความสุข กับบุฟเฟ่ต์อาหารจีนสุดพรีเมียม “ไดนัสตี้ ไนท์ส” (Dynasty Nights) ที่จะนำพาคุณลิ้มรสผ่านรสชาติอันประณีต ระหว่างวัฒนธรรมจีนและมองโกเลีย และอีกหลายหลายเมนู บุฟเฟต์อาหารค่ำสุดหรูที่ผสมผสานความอร่อยสูตรต้นตำรับอย่างลงตัว รังสรรค์อย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างความประทับใจ พร้อมให้บริการทุกคืนวันศุกร์ ณ ห้องอาหารซาวิโอ โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ ต้อนรับคอนเซ็ปต์บุฟเฟต์ ค่ำคืนวันศุกร์รูปแบบใหม่ ที่พร้อมเชิญชวนทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ร่วมดื่มด่ำในวันสุดพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรสชาติอาหารจีนดั้งเดิม กับเมนูที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันให้ทุกท่านพบกับประสบการณ์รับประทานอาหารที่คุณจะประทับใจ เริ่มต้นค่ำคืนด้วยเมนูที่มีหลากหลาย อาทิ สลัดหอยเป๋าฮือ เนื้อวัวมองโกเลียย่าง ไก่แช่เหล้า และ แมงกระพรุนน้ำมันงาที่กลมกล่อม รวมไปถึงหูหมูแก้วนุ่มละมุน เป็ดย่างและหมูแดงรสชาติเข้มข้น และติ่มซำ กว่า 15 รายการ อาทิ ขนมจีบลาวา ฮะเก๋า ขนมจีบกุ้ง-หมู-ไส้ผักรวม ซาลาเปา หมั่นโถ่ ฯลฯ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่คุณไม่ควรพลาดบนไลฟ์สเตชั่น เปิดโอกาสให้คุณได้สร้างสรรค์มิกซ์แอนด์แมท กับเมนู มองโกเลียนกริลล์ในแบบของตัวเอง หรือจะเป็นเส้นหมี่ผัดสดใหม่จากเชฟผู้มากฝีมือ สามารถเลือกเนื้อสัตว์ หรืออาหารทะเล คุณภาพพรีเมียม พร้อมจับคู่ซอสและผักต่างๆ ได้ตามใจคุณ พร้อมเลือกอิ่มอร่อยไปกับเมนูคาวหวานที่มีให้เลือกอีกมากมาย อิ่มได้ไม่อั้นมากกว่า 50 เมนู อาทิ ฮะเก๋าล็อบสเตอร์ ผัดเป๋าฮื้อ ปลากระพงนิ่งมะนาว ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีสเตชั่นอาหารให้คุณเลือกตามได้เพิ่มเติมตามความชอบอีกด้วยอาทิ ซีฟู้ดออนไอซ์ เป็ดปักกิ่ง หมูกรอบ เนื้อวัวสไลซ์ผัดบร็อคโคลี่กรอบสไตล์จีนแท้ หมูกรอบเต้าหู้มาโป เนื้อมองโกเลียผัด ซุปพระกระโดดกำแพง ทุกเมนูล้วนรังสรรค์เพื่อความสมบูรณ์แบบในค่ำคืนพิเศษของทุกท่าน ปิดท้ายมื้ออาหารสุดหรูด้วยของหวานแบบจีน ที่จะขนขบวนความอร่อยมาให้คุณลิ้มลอง อาทิ ขนมงาทอดไส้ถั่วแดง พุดดิ้งนม พุทราทอด พบกับ ไดนัสตี้ ไนท์ส ที่จะมอบค่ำคืนสุดพิเศษที่ผสานความสง่างามและความอบอุ่นไว้ด้วยกัน ทุกคำที่ลิ้มลองคือเรื่องราวที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน ให้คุณสัมผัสถึงการผสมผสานของวัฒนธรรม รสชาติ และการต้อนรับอย่างอบอุ่น ราคาเพียง 1,499 บาทต่อท่าน รวมเครื่องดื่มฟรีโฟลว์ ทุกคืนวันศุกร์ เวลา 18.00-22.00 น. ที่ ห้องอาหารซาวิโอ โรงแรม…

Read More

พบกับสี่รสชาติพิเศษ ที่ผสานวัฒนธรรมล้ำค่ากับความคิดสร้างสรรค์ในเทศกาลไหว้พระจันทร์ได้อย่างกลมกล่อมร – กรกฎาคม 2568) – Mott 32 กรุงเทพฯ ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นกวางตุ้งในโรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon ขอแนะนำคอลเลกชันขนมไหว้พระจันทร์สุดพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตโดยใช้วัตถุดิบชั้นเลิศ ผสมผสานความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Mott 32 ได้อย่างลงตัว โดยขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้ประกอบด้วยสามรสชาติสูตรต้นตำรับและอีกหนึ่งรสชาตืใหม่ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ เริ่มต้นด้วย ขนมไหว้พระจันทร์รสมะม่วงมะพร้าวอัลมอนด์ (Mango & Coconut Almond) ที่ได้แรงบันดาลใจจากเมนูของหวานยอดนิยมอย่าง “มะม่วงมะพร้าวม้วน” ของทางร้าน ให้รสชาติสดชื่นตัดกับความหวานได้อย่างกลมกล่อม ด้วยวัตุดิบจากมะม่วงฉ่ำ มะพร้าวเนียน และอัลมอนด์หอมมัน ให้ความหอมหวานในสไตล์โมเดิร์นที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mott 32 ขนมไหว้พระจันทร์รสหอมหมื่นลี้เก๋ากี้ (Osmanthus & Goji Berry) ที่มีกลิ่นหอมละมุน ให้ความรู้สึกละเมียดละไม โดยมีวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นที่นิยมในอาหารและสมุนไพรจีนมาผสมผสานกันอย่างลงตัว ตามมาด้วยขนมไหว้พระจันทร์รสพุทราจีนไข่เค็ม (Jujube) ที่ใช้พุทราแดงซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล ความอุดมสมบูรณ์ และความมั่งคั่ง เป็นวัตถุดิบหลักที่ให้รสชาติหวานละมุนจากธรรมชาติ เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามแก่ทั้งผู้ให้และผู้รับ สำหรับไฮไลท์สำคัญในปีนี้ พบกับขนมไหว้พระจันทร์รสชาติใหม่ล่าสุดอย่างรสทุเรียนและไข่แดงเค็ม (Durian with Salted Egg Yolk) เป็นการผสมผสานของวัตถุดิบชั้นเลิศอย่างทุเรียนหมอนทองรสชาติเยี่ยมจากจันทบุรี และไข่เค็ม รสชาติเข้มข้น หอมละมุน ให้ความสมดุลทั้งรสเค็มและหวาน สมกับเป็นราชาแห่งผลไม้แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี สามารถสั่งซื้อขนมไหว้พระจันทร์ได้ตั้งแต่วันนี้ และเริ่มรับของได้ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม ถึง 6 ตุลาคม 2568 ที่ร้าน Mott 32 กรุงเทพฯ ชั้น 2 ของโรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon ในราคาชิ้นละ 350 บาทสุทธิ และเซตกล่องของขวัญ 4 ชิ้น ราคา 1,588 บาทสุทธิ (ราคาพิเศษ Early Bird เพียง 1,288 บาทสุทธิ…

Read More