เดือนตุลาคมนี้ KIMPTON MAA-LAI BANGKOK เปิดตัวเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ (10 ตุลาคม 2024 – กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย) – ในเดือนตุลาคมนี้ Kimpton Maa-Lai Bangkok จะจัดงานสุดหลอนด้วยขนมอบและเครื่องดื่มพิเศษในธีมฮาโลวีนที่ CRAFT and Bar งานปาร์ตี้ฮาโลวีนประจำปีของ Yard ขนมหวานและของขบเคี้ยววันฮาโลวีนที่ CRAFTสัมผัสบรรยากาศสยองขวัญในวันฮาโลวีนนี้! ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มสุดหลอนและขนมหวานสุดหลอนของเรา จิบเครื่องดื่มฮาโลวีนรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นของเรา เช่น Spooky Latte, Goosebumps Chino และWitches’ Brew ซึ่งแต่ละแก้วรังสรรค์มาเพื่อให้คุณรู้สึกขนลุกและตื่นเต้น เครื่องดื่มทั้งหมดมีจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2024 ในราคาแก้วละ 180 บาท จับคู่เครื่องดื่มของคุณกับขนมอบสุดหลอนของเรารวมถึงคัพเค้กรูปผี พายมัมมี่คุกกี้แดร็กคูล่า และอื่นๆ อีกมากมาย ขนมแสนอร่อยเหล่านี้จะทำให้คุณอิ่มเอมใจและพร้อมรับบรรยากาศฮาโลวีนCRAFT เปิดทุกวันตั้งแต่ 7.00 น. ถึงเที่ยงคืน โดยสามารถจองโต๊ะได้ตั้งแต่ 18.30 น. BAR.YARD ขอนำเสนอ: สิ่งมีชีวิตที่หันกลับมาเคลื่อนไหวได้ในค่ำคืน!ในวันฮาโลวีนนี้ ปลดปล่อยด้านที่ดุร้ายของคุณที่งานปาร์ตี้สุดยิ่งใหญ่ 3 วันของ Bar. Yard เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเฉลิมฉลองสุดระทึกใจที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ความสนุกสนาน และความตื่นเต้นตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมถึง 2 พฤศจิกายน 2024 เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานปาร์ตี้สุดระทึกที่จะปลดปล่อยสิ่งมีชีวิตในยามค่ำคืนของคุณแต่งตัวด้วยลายสัตว์ที่ดุร้ายที่สุดของคุณและเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มต้อนรับฟรี! ต้องการความตื่นเต้นมากกว่านี้ไหม? สัมผัสประสบการณ์บ้านผีสิงของ Bar.Yard ที่ AKKIN บนชั้น 40 และ 12 เพื่อทดสอบความกล้าของคุณ หรือแปลงโฉมด้วยการเพ้นท์หน้าฟรี เพื่อให้คุณกลายเป็นสัตว์กลางคืนตัวโปรดของคุณ และเต้นรำตลอดทั้งคืนไปกับเพลงฮิตจากดีเจชั้นนำของกรุงเทพฯ เงากำลังเรียกร้องและถึงเวลาตอบสนองแล้ว! มาร่วมฉลองวันฮาโลวีนที่น่าประทับใจกับเราที่ Bar.Yard! สำหรับการจอง โปรดติดต่อ 02 056 9999 อีเมล[email protected] หรือ LINE @bar.yard Kin News…
Author: Kittin Assavavichai
ร่วมเปิดประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ท่องจักรวาลแห่งเจลาโตซึ่งเป็นมากกว่าไอศกรีม รังสรรค์โดยเชฟมาสซิมิเลียโน สก็อตติ (Massimiliano Scotti) เจ้าของรางวัลสุดยอดเชฟเจลาโตอันดับ 4 ของโลก จัดอันดับโดย Gelato Festival World Ranking 2024 บินลัดฟ้ามาจากประเทศอิตาลีเพื่อเสิร์ฟเมนูสุดพิเศษที่ผสมผสานศาสตร์การทำอาหารเข้ากับศิลปะอย่างลงตัว ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ขอเชิญชวนเหล่านักชิมและคนรักเจลาโตมาร่วมยกระดับประสบการณ์ที่จะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม ผ่านเมนูสุดสร้างสรรค์ที่ถูกคิดค้นอย่างพิถีพิถันโดยเชฟสก็อตติ รวมรสคาวและหวานไว้ในจานเดียวอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น เมนูสปาเกตตีพิงค์พังค์จานเด็ด (Pink Punk Spaghetti) ซึ่งคลุกเคล้าเส้นสปาเกตตีนุ่มหนึบเข้ากับน้ำมันมะกอก กระเทียม พริก บีทรูท และเนยสด โดยเชฟสก็อตติได้รังสรรค์แอนโชวี่เจลาโตสูตรพิเศษขึ้นเพื่อเพิ่มความกลมกล่อมให้กับจานนี้ นอกจากนั้นทุกท่านจะได้ท่องโลกใต้ทะเลไปกับ เมนูซีฟู้ด (Fisherman’s Bread Crumble) ซึ่งได้มีการนำกุ้งเนื้อแน่นและมอสซาเรลล่าชีสหอมกรุ่นจัดเสิร์ฟบนขนมปังกรอบ รับประทานคู่กับเจลาโตมะเขือเทศเพื่อเพิ่มอถรรรส ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของค่ำคืนสุดประทับใจที่จะแต่งแต้มจินตนาการของทุกท่าน พร้อมชิมเมนูทาปาสที่รังสรรค์เป็นพิเศษทั้ง 6 เมนู ที่เสิร์ฟพร้อมไวน์และเครื่องดื่มค็อกเทลสูตรเฉพาะ ในราคา 1,190 บาท ต่อท่าน ณ ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ชั้น 60 โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19.00 น. ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งได้ที่ 02 679 1200 Kin News Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน…
โซแคล (SoCal) ห้องอาหารสไตล์แคลิฟอร์เนีย ตั้งอยู่ที่โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ (InterContinental Bangkok) โดดเด่นและมีชื่อเสียงในการสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มแปลกใหม่ ชวนทุกท่านมาฉลองเทศกาลฮาโลวีน (Halloween) และร่วมสนุกในค่ำคืนวันปล่อยผีด้วยเครื่องดื่มค็อกเทล (Cocktail) และม็อกเทล (Mocktail) สุดสร้างสรรค์ แปลกใหม่หลายรายการในแบบฉบับของโซแคล ให้บริการเป็นพิเศษช่วงเทศกาลฮาโลวีนเท่านั้น เริ่มต้นค่ำคืนปล่อยผีด้วยเครื่องดื่มแบล็ค สไปเดอร์ (Black Spider) เครื่องดื่มค็อกเทลที่มีส่วนผสมของเตกีล่า (Tequila) แบล็คเบอร์รี่ (Blackberry) เหล้าส้ม (Orange Liqueur) และมะนาว ตามด้วย เครื่องดื่มค็อกเทลสุดน่ากลัวอย่าง บราวน์ สคัล (Brown Skull) ที่มีส่วนผสมของ จิน (Gin) เหล้าเฟอร์เน็ต บรังคา (Fernet Branca) บิทเทอร์ (Bitters) และ ไวน์ แม็กจิโอ เมอร์โล (Maggio Merlot) นอกจากนั้นยังมีเครื่องดื่มอีกมากมายหลายชนิดให้คุณได้ลิ้มลอง อย่าง บลัดดี้ เดย์ (Bloody Day) โกสต์ เกรย์ (Ghost Grey) และ ซีเรียล ดาร์กเกอร์ (Serial Darker) เป็นต้น นอกเหนือจากเครื่องดื่มค็อกเทลแล้ว ยังมีเครื่องดื่มม็อกเทลอีกหลายรายการที่น่าตื่นเต้น อาทิ ชาโดร์ เบอร์รี่ (Shadow Berry) ที่มีส่วนผสมของ ลิ้นจี่ น้ำมะนาว เชอร์เบต (Sherbet) โซดา และบลูเบอร์รี่ (Blueberries) ส่วนแฟลมบอย ฟรุ้ต (Flamboyant Fruit) เป็นเครื่องดื่มสุดพิเศษที่จะมาเพิ่มสีสันของวันฮาโลวีนในแบบโซแคล ที่ประกอบด้วย แครนเบอร์รี่ (cranberry) น้ำเชื่อม แก้วมังกร (Dragon Fruit Syrup) และดอกเอลเดอร์ (Elderflower) มาร่วมสนุกและเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มสุดพิเศษ พร้อมสัมผัสบรรยากาศสุดสนุกในค่ำคืนของเทศกาลฮาโลวีนไปด้วยกันที่โซแคล เครื่องดื่มค็อกเทลสำหรับเทศกาลฮาโลวีน…
ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2567 นี้ โกจิ คิทเช่น + บาร์ ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติชั้นนำแห่งโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ขอเชิญชวนเพื่อนฝูงและครอบครัวมาร่วมฉลองค่ำคืนฮาโลวีนอันน่าตื่นเต้นด้วยอาหารนานาชาติสุดพิเศษในบรรยากาศธีมฮาโลวีนที่จัดเต็มความสนุกและความหลอนอย่างมีสไตล์ ทุกท่านจะได้พบกับเมนูอาหารหลากหลายในธีมฮาโลวีน ไม่ว่าจะเป็น ไขกระดูกย่างเสิร์ฟพร้อมขนมปังปิ้งและซอสชิมิชูรี พายเนื้อรูปมือปีศาจ ทาโก้ลิ้นวัว หนอนรถด่วน ไส้กรอกเครื่องเทศ พิซซ่าหมึกดำหน้าปลาหมึก ปลาแซลมอนอบทั้งตัวราดซอสมิโสะดำ ราวีโอลีหมึกดำ ยำแมลงทอด ปลาหมึกตุ๋นหมึกดำ ไก่ทอดซอสหมึกดำ และซูชิรูปหน้าแมลง และปิดท้ายด้วยของหวานสุดตระการตาที่มาในธีมฮาโลวีน อย่าง คุกกี้ผีน้อย พุดดิ้ง “เลือด” พายฟักทอง และอื่นๆ อีกมากมาย เมนูฮาโลวีนสุดพิเศษเหล่านี้จะเสิร์ฟพร้อมกับอาหารเลิศรสจากทั่วโลก อาทิ อย่างโคลด์คัทชีสและเครื่องเคียงนานาชาติ หอยนางรมหลากหลายชนิด อาหารทะเลสดใหม่ ซูชิและซาซิมิ สเตชั่นพาสต้าเส้นสด หอยเชลล์ฮอกไกโดย่าง และเนื้อย่างระดับพรีเมียมอย่าง ไพรม์ริบเนื้อวัวดรายเอจ สเต็กเนื้อวากิว ซี่โครงแกะ หมูกรอบ นอกจากนี้ยังมีสเตชั่นอาหารสดหลากหลายสไตล์เอเชียให้เลือกอย่างหลากหลาย เช่น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว ข้าวซอยไก่และเนื้อตุ๋น ส้มตำและยำทะเล ซุปกระเพาะปลาตุ๋น เนื้อวัว หมู และปลาหมึกหมักย่าง และที่ขาดไม่ได้สำหรับมื้ออาหาร คือของหวานแสนอร่อย อย่าง เค้ก มูส และขนมอบ ไอศกรีมโฮมเมด ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมไทยต่างๆ และสเตชั่นขนมบ้าบิ่น มาท่องคืนฮาโลวีนไปกับเพื่อนฝูงและครอบครัว ได้ในพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 17.30 – 22.00 น. ในราคาเพียง 2,399++ บาท ต่อท่าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งโทร +66 (0) 2 059 5999 อีเมล [email protected] หรือจองผ่าน https://sevn.ly/xLuV3LEV สมาชิกแมริออท บอนวอยรับส่วนลด 10% สมัครสมาชิกฟรี คลิกเลย Kin News…
พบกับความสนุกและตื่นเต้นของค่ำคืนปล่อยผีที่ เบียร์ รีพับบลิค (Beer Republic)ในวันที่ 30 และ 31 ตุลาคม 2567 ด้วยเมนูอาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษเฉลิมฉลองวันฮาโลวีน (Halloween) สัมผัสบรรยากาศค่ำคืนปล่อยผีวันฮาโลวีนที่โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ (Holiday Inn Bangkok) กับบรรยากาศสุดสนุกที่เต็มไปด้วยเบียร์หลากหลายชนิดให้เลือกสรร อาหารจานพิเศษสำหรับวันฮาโลวีนเริ่มต้นจานละ 250++ บาท อาทิ มัมมี่ ซอสเซจ โรล (Mummies Sausage Rolls) หรือ แป้งพัฟม้วนไส้กรอกหมูกับซอสมัสตาร์ด เฟรดดี้ ฟิงเกอร์ เฮล สลัด (Freddy Finger Hell Salad) หรือ ยำเล็บมือนาง และ เจสัน เบอร์เกอร์ (Jason Burger) หรือ เบอร์เกอร์เนื้อ ไข่ เบคอน เสิร์ฟกับมันฝรั่งทอด นอกจากนั้น ยังมีเครื่องดื่มพิเศษสำหรับวันฮาโลวีน โดยค็อกเทล (Cocktail) ราคาเริ่มต้นเพียง 300++ บาท ต่อแก้ว เช่น เรด แบท (Red Bat) ที่มีส่วนผสมของเหล้า โฮเซ่ เคอร์โว่ (Jose Cuervo) ผสมกับราสเบอรี่และทับทิม หรือจะเป็นเครื่องดื่มสุดเก๋อย่าง ชาแม่มด (Witch Tea) ที่มีแอปโซลูท บลู วอดก้า (Absolute Blue Vodka) เป็นส่วนผสมหลัก หรือ ภูเขามรณะ (Death Mountain) เครื่องดื่มรสเข้มจากบีฟีเทอร์ จิน (Beefeater Gin) ส่วนท่านที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็สามารถสนุกสนานไปกับค่ำคืนปล่อยผีด้วยเครื่องดื่มม็อกเทล (Mocktail) ที่มีให้เลือกหลายรายการไม่ว่าจะเป็น บลัดดี้ แครนเบอร์รี่ (Bloody Cranberry) โกสท ฟิซ (Ghost…
เปิดตัวคอลเลกชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟ JIM THOMPSON x ZWIESEL GLAS Festive Collection by ITALASIA JIM THOMPSON จับมือ ITALASIA เปิดตัวคอลเลกชั่นพิเศษ ‘JIM THOMPSON x ZWIESEL GLAS Festive Collection’ ยกระดับประสบการณ์การดื่มไวน์ด้วยงานศิลป์จากแก้วไวน์ระดับโลกและผ้าไหมไทย จิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) แบรนด์ไอคอนิกด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลกที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความประณีตและศิลปะการทอผ้าไหมของเมืองไทย ได้เปิดตัวความร่วมมือครั้งสำคัญกับ อิตาเลเซีย (Italasia) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าพรีเมียมจากทั่วโลกที่มีชื่อเสียงในด้านผลิตภัณฑ์ไวน์และอุปกรณ์การดื่มไวน์ เพื่อเปิดตัวคอลเลกชั่นพิเศษ ‘JIM THOMPSON x ZWIESEL GLAS Festive Collection by ITALASIA’ ซึ่งเป็นการผสานงานฝีมือสุดประณีตจากผ้าไหมไทยกับแก้วไวน์คุณภาพเยี่ยมจาก ZWIESEL GLAS แบรนด์แก้วไวน์ชั้นนำจากเยอรมนี นับเป็นการคอลลาบอเรชั่นที่ลงตัวและมีความหมายอย่างลึกซึ้งในแง่ของการเชื่อมโยงวัฒนธรรมการดื่มไวน์ระดับโลกเข้ากับศิลปะการออกแบบที่มีรากฐานจากประเทศไทย คอลเลกชั่นนี้มีความพิเศษอย่างไร?‘JIM THOMPSON x ZWIESEL GLAS Festive Collection’ นำเสนอเซตแก้วไวน์ที่ผลิตขึ้นจากคริสตัลเกรดพรีเมียม ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษที่โดดเด่นด้านความใสสะอาด ความคงทน และการออกแบบที่สามารถเสริมรสชาติและกลิ่นของไวน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แก้วไวน์ทุกใบในคอลเลกชั่นนี้ถูกสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำจาก ZWIESEL GLAS ที่ผสานความชำนาญในด้านการผลิตแก้วไวน์แบบมืออาชีพและเทคนิคการผลิตแบบเยอรมันที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก นอกจากคุณภาพของแก้วไวน์แล้ว คอลเลกชั่นนี้ยังมาพร้อมกับกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ประดับด้วยผ้าไหมไทยจากจิม ทอมป์สัน ซึ่งออกแบบอย่างสวยงามและพิถีพิถัน เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสถึงความหรูหราที่เหนือระดับ ทุกกล่องถูกห่อหุ้มด้วยผ้าไหมดีไซน์ทันสมัยที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของจิม ทอมป์สัน และแสดงออกถึงวัฒนธรรมการใช้ผ้าไหมในชีวิตประจำวันของชาวไทย แต่ยังคงความคลาสสิกและความเป็นสากลไว้อย่างลงตัว จึงทำให้คอลเลกชั่นนี้เป็นมากกว่าอุปกรณ์การดื่มไวน์ แต่เป็นงานศิลป์ที่ควรค่าแก่การสะสม หรือมอบเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลแห่งความสุข การผสมผสานระหว่างสองแบรนด์ระดับโลกการจับมือกันระหว่าง Jim Thompson และ Italasia ครั้งนี้ นับเป็นการผสานจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์ได้อย่างลงตัว โดย Italasia ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องไวน์และการเลือกสรรอุปกรณ์ดื่มไวน์ชั้นนำ ได้คัดสรรแก้วไวน์จาก ZWIESEL GLAS แบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านการออกแบบและผลิตแก้วไวน์ที่ตอบโจทย์ทั้งความงามและการใช้งาน มาประกอบเข้ากับผ้าไหมไทยจาก Jim Thompson ที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพและความงดงามระดับโลก ส่งผลให้คอลเลกชั่นนี้ไม่เพียงแค่ตอบสนองความต้องการของนักดื่มไวน์และนักสะสมที่มีความพิถีพิถัน แต่ยังสร้างประสบการณ์การดื่มไวน์ที่หรูหราและพิเศษยิ่งขึ้น คอลเลกชั่น JIM THOMPSON x ZWIESEL GLAS Festive…
โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ร่วมฉลองครบรอบ 180 ปี มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ (Mr.Berthold Kempinski) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Kempinski มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1843 ในครอบครัวเคมปินสกี้ โดยเริ่มต้นจากการเป็นพ่อค้าไวน์จากเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในโปแลนด์ จากนั้นในปี 1872 ได้ย้ายไปที่กรุงเบอร์ลินและเปิดร้านไวน์เล็กๆ พร้อมให้บริการอาหารในราคาที่เป็นกันเอง มร.แบร์โธลด์เป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนออาหารในปริมาณที่พอเหมาะคู่กับไวน์ที่เสิร์ฟขายเป็นแก้ว โดยในมื้อนั้นลูกค้าสามารถเลือกเมนูอาหารหลายเมนูคู่กับไวน์ได้ (wine pairing) หรือหากมีงบน้อยกว่า ลูกค้าก็สามารถที่เลือกไวน์ครึ่งแก้วและไวน์หนึ่งแก้วในราคาที่สามารถจับต้องได้ คอนเซ็ปของครอบครัวแบร์โธลด์คือต้องการให้ผู้คนได้สัมผัสความหรูหราไม่ว่าจะอยู่ในชนชั้นทางสังคมระดับใด ด้วยแนวคิดดังกล่าวนี้ จึงทำให้ในปี 1889 ร้านอาหารของครอบครัวเคมปินสกี้ได้การขนานนามให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่ง ต้อนรับลูกค้ามาใช้บริการทุกวันจนถึงปี 1907 มากกว่า 10,000 คน จากนั้นมร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ ได้มอบกิจการให้กับทายาท และได้ขยายกิจการ เปิดร้านอาหารแห่งใหม่ คาเฟ่ รวมถึงโรงแรมสุดหรูในประเทศเยอรมันนี และทั่วทุกมุมโลก ในโอกาสครบรอบ 181 ปี มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ขอเชิญคุณร่วมเฉลิมฉลองด้วยเมนูเบเกอรี่สุดพิเศษ Caramel Kalamansi cake จากเชฟซีม่อน อีเบอร์ฮาร์ท (Chef Simon Eberhardt) พาสทรี้เชฟสัญชาติเยอรมันคนใหม่ของโรงแรมฯ (New Pastry Chef) ที่จะมารังสรรค์ความอร่อยให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง พบโปรโมชั่นพิเศษ Special Duo Set อิ่มเอมกับเค้ก Caramel Kalamansi คู่เครื่องดื่มพิเศษ Cold Brew Cherry ในราคาชุดละ 400++ บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2567 ที่ Berthold Delicatessen ชั้นล็อบบี้…
‘ลักซ์ชูรี กรุ๊ป ไดนิง ซีรีส์’ การรวมตัวของเชฟและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อนำเสนอประสบการณ์สุดพิเศษพร้อมกันทั่วเอเชีย แปซิฟิก ที่ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล เดอะ ลักซ์ชูรี กรุ๊ป บาย แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล (The Luxury Group by Marriott International) เปิดตัว ลักซ์ชูรี กรุ๊ป ไดนิง ซีรีส์ (Luxury Group Dining Series) การรวมตัวของเชฟและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและเครื่องดื่มเพื่อนำเสนอประสบการณ์สุดพิเศษพร้อมกันทั่วเอเชีย แปซิฟิก ที่จัดขึ้นในหลายเมือง หลายประเทศ ภายใต้โรงแรมเครือแมริออททั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ผ่านสุดยอดอาหารชั้นสูง เชฟระดับโลก และการร่วมมือด้านอาหารที่ไม่มีใครเหมือน โดย โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล จะเป็นโรงแรมเดียวในไทย ที่ได้รับคัดเลือกให้จัดงานนี้ ประสบการณ์สุดพิเศษนี้จะเกิดขึ้นใน 6 เมืองสำคัญ ตั้งแต่ โตเกียว บาหลี เมลเบิร์น กรุงเทพฯ มุมไบ และสิงคโปร์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2567 ในห้องอาหารและบาร์ 23 แห่ง เป็นการแสดงทักษะและฝีมือของเชฟและบุคลากรด้านอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 55 คน ซีรีส์สุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้จะนำเสนอเมนูพิเศษ การทำงานร่วมกันของเชฟแต่ละคน รวมถึงประสบการณ์กินดื่มระดับลักซ์ชูรีสำหรับเหล่าฟูดดี้ที่มีรสนิยมในการรับประทานอาหาร ไฮไลท์ในซีรีส์นี้ที่จะเกิดขึ้นตามจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ได้แก่ เชฟมิชลินรับเชิญที่จะมาปิดห้องอาหารเพื่อโชว์ฝีมือ หรือจะเป็นมาสเตอร์คลาสการรังสรรค์ค็อกเทล กิจกรรมทั้งหมดนี้เพื่อเฉลิมฉลองให้กับผู้ที่ต้องการยกระดับประสบการณ์ทางอาหารให้มากขึ้น และพิเศษกว่าเดิม สำหรับ ลักซ์ชูรี กรุ๊ป ไดนิง ซีรีส์ ในกรุงเทพฯ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน ที่…
เทศกาลเจปีนี้ ร้านอาหารไทยจิม ทอมป์สัน ชวนสัมผัสอีกระดับของความอร่อยแสนอิ่มใจ พร้อมได้สุขภาพกับหลากหลายเมนูเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะช่วงเทศกาลกินเจ ลิ้มรสอาหารไทยร่วมสมัยจานเด็ดของร้านที่เชฟได้รังสรรค์ขึ้นใหม่เป็นอาหารเจรสชาติเยี่ยม ชูการคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นระดับพรีเมียมเพื่อเปิดประสบการณ์สุดพิเศษทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ตั้งแต่วันนี้ – 15 ตุลาคม 2567 ร้านอาหารไทยจิม ทอมป์สัน พร้อมเสิร์ฟ 6 เมนูเจที่ครบทั้งรสชาติและความคิดสร้างสรรค์ เริ่มจากจานเรียกน้ำย่อยอย่าง ม้าฮ่อ (250 บาท++) ของว่างไทยดั้งเดิมช่วงรัตนโกสินทร์ อร่อยกับความกรุบกรอบของแมคคาเดเมียที่เคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าวจนได้ที่ รับประทานคู่กับสับปะรดภูเก็ตย่างให้รสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว ต่อด้วยเมี่ยงย่าง (250 บาท++) ที่ใช้ใบชะพลูกลิ่นหอมมาห่อไส้เจจากโปรตีนถั่วเหลืองแทนที่เนื้อวัว นำมาย่างไฟให้หอมและราดด้วยน้ำพริกเผามะขามรสชาติกลมกล่อม อีกหนึ่งเมนูเรียกน้ำย่อยรสจัดจ้าน พล่าเต้าหู้เห็ดหอม (250 บาท++) นำเต้าหู้เห็ดหอมชิตาเกะย่างมาคลุกเคล้ากับน้ำยำสมุนไพรรสชาติถึงใจ นอกจากนี้ร้านอาหารไทยจิม ทอมป์สัน ยังรังสรรค์ทั้งเมนูแกงและอาหารจานหลักในแบบเจ เริ่มที่เมนูที่ทุกคนชื่นชอบอย่าง ต้มยำหมี่กึงมันหวานญี่ปุ่น (350 บาท++) ที่นำเอาเอกลักษณ์ของต้มยำแบบไทยมาดัดแปลงใส่หมี่กึงมันหวานญี่ปุ่นและเห็ดหูหนู หอมกลิ่นเครื่องต้มยำครบรส เหมาะกับการรับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ส่วนอีกหนึ่งเมนูที่พิเศษไม่แพ้กันคือ แกงคั่วเป็ดย่างเจ (350 บาท++) ชูความเผ็ดร้อนสไตล์แกงคั่วภาคใต้ ใช้เป็ดย่างเจหมักเครื่องเทศ 7 ชนิด และจานสุดท้ายคือเมนูง่าย ๆ แต่อร่อยไม่ธรรมดาอย่าง ผัดกะเพราเจ (350 บาท++) ที่รับรองว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้เนื้อสัตว์ นอกจากเมนูอาหารเจแล้ว ในช่วงเทศกาลเจ ร้านอาหารไทย จิม ทอมป์สัน ยังคงให้บริการเมนูอะลาคาร์ทอาหารไทยร่วมสมัยแบบปกติ นำเสนอเมนูไทย ๆ อันโดดเด่นที่เบลนด์เข้ากับเทคนิคการปรุงสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว พร้อมเสิร์ฟให้อิ่มอร่อยทั้งช่วงมื้อกลางวันและมื้อค่ำเช่นกัน ร้านอาหารไทย จิม ทอมป์สัน ตั้งอยู่ในโซนอาหารของจิม ทอมป์สัน เฮอริเทจ ควอเตอร์ ที่พร้อมเติมเต็มประสบการณ์อาหารและบริการเหนือระดับ ท่ามกลางบรรยากาศสุดพิเศษ เพื่อสานต่อจิตวิญญาณแห่งความมีอัธยาศัยไมตรีของจิม ทอมป์สันในอดีต ที่ได้สร้างความประทับใจให้แก่แขกผู้มาเยือนด้วยการต้อนรับอย่างอบอุ่นและมื้ออาหารที่น่าจดจำ พบกับเมนูอะลาคาร์ทเจสุดพิเศษได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 15 ตุลาคม 2567 ที่ “ร้านอาหารไทย จิม ทอมป์สัน” ซอยเกษมสันต์ 2 (BTS สนามกีฬาแห่งชาติ ทางออก 1) เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวันเวลา 11.30 – 16.30 น. (ออเดอร์สุดท้าย 15.30 น.) และมื้อเย็นเวลา 18.00 – 23.00 น. (ออเดอร์สุดท้าย 22.00 น.)…
กินเจมาจากไหน? เทศกาลกินเจ (หรือ “เจี๊ยะฉ่าย” ในแต้จิ๋ว) มีรากฐานมาจากความเชื่อทางศาสนาของจีน โดยเฉพาะจากลัทธิเต๋าและพุทธมหายาน ในช่วงเดือน 9 ของปฏิทินจีน ชาวจีนเชื่อว่าการละเว้นเนื้อสัตว์และอาหารจากสัตว์ทำให้จิตใจและร่างกายบริสุทธิ์พร้อมรับบุญ เป็นช่วงที่เชื่อว่าสวรรค์เปิดรับความเมตตา โดยการกินเจซึ่งเป็นการละเว้นเนื้อสัตว์และผักบางชนิดมีมาช้านานในจีนเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระในนิกายมหายาน ในไทยการกินเจเริ่มเข้ามามีบทบาทในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยชาวจีนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยได้นำเอาข้อปฎิบัตินี้เข้ามาเผยแพร่ แต่ประเพณีกินเจนั้นที่มายังคงเป็นข้อถกเถียง บางกลุ่มเชื่อว่าประเพณีนี้เริ่มแพร่หลายมากขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ทางต้อนใต้ของไทย มาเลเซีย สิงค์โปร และมีชื่อเสียงที่สุดที่ภูเก็ต ที่มีพิธีกรรมและการละเว้นเนื้อสัตว์อันเข้มงวดจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ กินเจแล้วได้อะไร? การกินเจนอกจากจะได้บุญและเมตตาต่อสัตว์แล้ว ยังมีประโยชน์ด้านสุขภาพด้วย การทานผักและอาหารที่มีกากใยมากขึ้นทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ช่วยลดคอเลสเตอรอล และเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย หลายคนบอกว่าหลังจากกินเจแล้วร่างกายเบาสบาย พลังงานดีขึ้น แถมยังเป็นการฝึกจิตใจ ให้สงบและเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และหากเป็นคนที่เชื่อในเรื่องบุญกุศล ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะสะสมแต้มบุญได้เต็มที่! สภาวการณ์การกินเจในปัจจุบัน ในปัจจุบันการกินเจไม่ได้จำกัดเฉพาะในประเทศไทยหรือประเทศจีนอีกต่อไป คนทั่วโลกเริ่มหันมาสนใจเทศกาลนี้กันมากขึ้น ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ความเป็นมิตรต่อสัตว์ กระแสการกินมังสวิรัติ (Vegetarianism) และวีแกน (Veganism) เติบโตในหลายประเทศ ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย โดยเฉพาะในประเทศที่มีคนจีนอาศัยอยู่มาก เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง รวมถึงชุมชนชาวจีนในสหรัฐฯ นอกจากเทศกาลกินเจแล้ว หลายเมืองใหญ่ทั่วโลกก็มีร้านอาหารและสินค้าที่ปราศจากเนื้อสัตว์ให้บริการตลอดปี ในยุโรป ร้านอาหารเจและวีแกนเติบโตเร็วมาก เช่น ในกรุงลอนดอนและเบอร์ลิน มีร้านอาหารเจและวีแกนเพิ่มขึ้นหลายเท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แม้แต่ในประเทศไทยเอง การกินเจไม่ได้จำกัดเฉพาะเทศกาล 9 วันอีกต่อไป แต่กลายเป็นกระแสนิยมของการดูแลสุขภาพ คนที่ไม่เคยกินเจเลยก็เริ่มหันมาลอง เพราะมันเข้าถึงง่ายและมีตัวเลือกมากมาย สถานการณ์การกินเจทั่วโลก การกินเจได้รับการยอมรับในระดับโลกไม่ใช่แค่เพราะศาสนาเท่านั้น แต่เพราะเป็นวิธีหนึ่งในการลดการใช้ทรัพยากรและลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมด้วย มีรายงานว่าการเลี้ยงสัตว์เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และหลายคนมองว่าการลดเนื้อสัตว์ในช่วงเทศกาลกินเจเป็นทางเลือกที่ดีในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีการรณรงค์ในประเทศต่างๆ เพื่อสนับสนุนการกินเจ เช่น ในสหราชอาณาจักร กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผลักดันให้ประชาชนลดการบริโภคเนื้อสัตว์และเข้าร่วมเทศกาลกินเจเพื่อสุขภาพและโลกที่ยั่งยืน ในสิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งมีชาวจีนเป็นจำนวนมาก มีการจัดเทศกาลกินเจที่ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับในไทย และยังมีการนำเสนอเมนูเจแบบฟิวชันที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมอาหารตะวันตก เช่น พิซซ่าเจ เบอร์เกอร์เจ หรือแม้แต่ไอศกรีมเจที่เริ่มได้รับความนิยมในหลายประเทศ เมื่อกินเจกลายเป็นเทรนด์ระดับโลก การกินเจในปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องของศาสนาอีกต่อไป แต่มันได้กลายเป็นวิถีการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ทั้งสุขภาพ จิตใจ และสิ่งแวดล้อม การละเว้นเนื้อสัตว์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ใหญ่กว่านั้น ซึ่งเชื่อมโยงถึงความเมตตาและความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ Vegetarian Festival Kin Seasonal Kinandleisure.com Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว…