Author: Kittin Assavavichai

เพลิดรสเพลินโสตไปกับเซ็ตอาหารทรงโปรด 4 คอร์สพร้อม Wine Pairing ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่มีแก่ครอบครัวอังศวานนท์ ร้านอาหารจิรธรและบริษัท EStellaWine ร่วมกันจัดแสดงแซกโซโฟน โซปราโน Selmer Mark VI 1954 และ แซกโซโฟน Tenor Selmer Super Action 80 series II ที่ได้รับพระราชทานให้กับสมาชิกวง อ.ส. วันศุกร์ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน 2560 เป็นต้นไป Course แรก: Appetizer มี 4 อย่างจัดเป็นคำเล็กๆ 1. เส้นขนมจีนโรยหน้าด้วยหลนปูเค็ม_อาหารจานโปรดของในหลวงรัชกาลที่ 9 2. ยำไข่ปลาดุก 3. เมี่ยงคำ 4. ลาบเห็ด Course ที่สอง ซุบอาสาเรน (ชุปไข่)_อาหารจานโปรดของในหลวงรัชกาลที่ 9 Course ที่สาม อาหารจานหลัก มีให้เลือก 3 อย่าง 1)ปลาหรือกุ้งแม่น้ำย่าง ราดซอสฉู่ฉี่ 2)แกงเขียวหวานเนื้อ/ไก่ โรตี 3)สเต็กเต้าหู้_มังสวิรัติ Course สุดท้าย Sorbet มะยงชิด ราคา 2,500++ รวม wine pairing (White wine, Red wine, Champagne, และไวน์หวาน จาก EstellaWine) เพลินโสตไปกับดนตรีทรีโอ บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ โดยอาจารย์ Yuri Kishimoto จากภาควิชาดุริยางคศิลป์ มหิดล ในงานยังจะได้ชมแซกโซโฟน โซปราโน Selmer Mark VI 1954 และ แซกโซโฟน Tenor Selmer Super Action 80 series…

Read More

สวย อร่อย แปลกใหม่ ต้องลอง ร้านที่พลิกภาพอาหารเยอรมันเดิมๆ จากความหนักหน่วง น่าเบื่อ เป็นความตื่นเต้น สดใส สวยงาม และรสชาติที่หลากหลาย ความสมบูรณ์แบบแห่งสุนทรียภาพการดื่มกิน ร้าน Sühring เป็นหนึ่งในร้านอาหาร Fine dining ใหม่ที่กำลังมาแรง และได้รับการกล่าวขานถึงกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งเพิ่งเริ่มเปิดบริการมาได้ใหม่ๆหมาดๆในช่วงปีที่ผ่านมา ก่อตั้งโดยสองพี่น้องฝาแฝดชาวเยอรมันผู้รักในการทำอาหารเป็นอย่างยิ่ง แม้ร้านจะตั้งอยู่ในซอยเล็กๆอย่างซอยเย็นอากาศ แต่มีการจัดสรรและแบ่งพื้นที่ได้อย่างดีเยี่ยม ที่จอดรถถูกแบ่งให้จอดเข้าซองทุกที่ไม่มีการจอดซ้อนคัน มีพนักงานคอยบริการทั้งโบกและเปิดประตูอย่างดีเยี่ยม เมื่อเข้ามาถึงในร้านจะพบกับบรรยากาศที่ชวนให้ผ่อนคลายและน่าตื่นตา เพราะเหมือนเปลี่ยนเข้ามาอยู่ในอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว และดูสงบ ร่มเย็น อาคารที่ใช้สีและวัสดุโทนสีเข้ม กลมกลืนไปกับบรรดาแพรกพรรณไม้เล็กใหญ่ ด้วยสไตล์การออกแบบที่เรียบ ขรึม ดูสบายแต่รายละเอียดเก็บได้อย่างเนี๊ยบ คมกริบ สมตามแบบสไตล์เยอรมัน ภายในร้านถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็นสามชั้น โดยแต่ละชั้นไม่ได้อยู่ในระดับที่ต่างกันมากนัก ซึ่งหากใครชื่นชอบในการทำอาหาร หรือ สนใจอยากชมขั้นตอนการทำอาหาร เราแนะนำให้นั่งเป็นชั้นล่างสุด ซึ่งจะเป็นส่วนของครัว เชฟมุ่งมั่นที่จะแนะนำนักทานอาหารในมุมมองที่แตกต่างกันไปของอาหารเยอรมันที่ไม่เพียงเป็นแค่อาหารจานใหญ่ๆ ขาหมู ไส้กรอก และกะหล่ำปลีดอง แต่ว่าเมนูคลาสสิกเหล่านี้จะถูกทำให้เป็นรูปลักษณ์ขี้เล่น  ชิ้นพอดีคำ น่ากิน และเพิ่มเติมด้วยสารพัดเมนูจากทั่วทุกภูมิภาคในเยอรมัน บริเวณหน้าครัวถูกออกแบบให้เป็นเคาเตอร์บาร์ ซึ่งจะหันหน้าเข้าครัว ครัวที่นี่เป็นรูปแบบ Open Kitchen ทุกท่านที่นั่งตรงนี้จึงสามารถเห็นถึงทุกขั้นตอนการปรุงไม่ว่าจะเป็น ต้ม ปิ้ง ย่าง บีบซอส ลวก จัดจาน จากเชฟ อย่างเช่นเตาย่างนี้ ก็เป็นเตาย่างที่เป็นรูปแบบเตาย่างที่ใช้สำหรับการย่างอาหารเมนูต่างๆในรูปแบบเยอรมัน ซึ่งหลายท่านอาจไม่คุ้นตานัก  สำหรับในส่วนของเชฟนั้น ตามที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่าร้านนี้ก่อตั้งโดยสองพี่น้องฝาแฝดชาวเยอรมัน นั่นคือ เชฟโทมัส และเชฟมาเทียส ซึ่งเชฟโทมัสคือเชฟผู้พี่ใส่เสื้อเชิทสีเทา และเชฟมาเทียสคือเชฟผู้น้องซึ่งใส่เสื้อสีขาว Thomas และ Mathias Suhring เคยเป็นเชฟอยู่ที่ Mezzaluna โรงแรม LeBua และเป็นที่นิยมและโด่งดังงในหมู่คนรักอาหารในกรุงเทพฯ ไม่น้อยเพราะพวกเขาได้ร่วมมือกับ Gaggan Anand ในการทำร้านนี้ขึ้นมา สองพี่น้อง เชฟฝาแฝดนี้นั้นเดินทางมายังประเทศไทย จากเบอร์ลิน เยอรมันตั้งแต่ปี 2008 โดยเริ่มต้นจากการเป็นเชฟของห้องอาหารนามที่สื่อถึงพระจันทร์ของโรงแรมทรงสูงย่านบางรัก ก่อนที่จะมาเปิดร้านแห่งนี้ สำหรับสไตล์อาหารนั้นเชฟได้เล่าว่า อยากจะทำอาหารเยอรมันรสดั้งเดิม รวมถึงให้วิธีการปรุงแบบเยอรมันดั้งเดิมทั้งหมด และดึงอาหารเยอรมันจากทุกภูมิภาคมานำเสนอโดย มีการลดขนาดให้ไม่มากเกินไปในแต่ละเมนู รวมถึงปรับเปลี่ยนการจัดวางเพิ่มความสวยงามยิ่งขึ้น ให้ดูน่ากิน และตื่นตา แต่รสและขั้นตอนการปรุงยังคงเป็นแบบอาหารเยอรมันแท้ๆ ดังนั้นคุณจึงจะได้สัมผัสของอาหารเยอรมันแท้ๆในรูปแบบที่สวยงาม…

Read More

ชิวๆริมทะเล ยกตลาและหลากหลายรถเข็นร้านอาหารมาไว้บนหาดนายยาง กินได้ไม่อั้น อร่อย บรรยากาศดี ในราคาเดียว ณ ” Phuket Marriott  ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช ” ชายหาดสีขาวที่ทอดยาวจรดอุทยานแห่งชาตินายยาง น้ำสีครามสดใส แสงอ่อนๆยามเย็น ลมพัดโชยสบายๆ บรรยากาศดีๆ แค่เดินเล่นก็มีความสุขแล้ว เพิ่มความพิเศษสุดๆ เมื่อทาง ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยางบีช เนรมิตบรรยากาศตลาด มาไว้บนหาด กับอาหารที่มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัดไทยรีเมียม ทำสดๆๆ ใหม่ ไก่ย่าง ส้มตำ สารพัดขนมหวานไทย ฯลฯ กินได้ไม่อั้น ในราคาเดียว เพียง 650++ อาหารก็ปรุงกันทำกันสดๆตามสั่งเลย แต่ละซุ้มเองมีมากมาย มาดูกันว่ามีซุ้มอะไรกันบ้างมาดูกันเลยครับ ซุ้มไก่ย่าง ซุ้มขนมหวาน เชฟกำลังทำขนมเบื้ออยู่เลย ทำสดๆร้อนๆทันทีหลังจากที่ลูกค้าออเดอร์ ซุ้มส้มตำ ซุ้มผัดไทย ซุ้มลูกชิ้น และทะเลปิ้ง ทีนี้เรามาดูอาหารกันบ้างครับ สำหรับอาหารนั้น แม้จะเป็นอาหารสไตล์ street food แต่ก็มีความพรีเมียมและพิเศษ ผัดไทยทะเลรวม สำหรับผัดไทยจานนี้ นอกจากจะดูน่ากินแล้ว ยังรสชาติดี ลงตัวไม่หวานหรือมันเกินไป ใช้เครื่องที่เยอะและคุณภาพสูง ทั้งกุ้ง และปลาหมึก จัดเต็ม ไก่ย่าง ไก่ย่าง ย่างได้ดี ทั้งระดับความเกรียมของหนัง ความฉ่ำของเนื้อ และรสที่ซอสทาบนไก่ กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยเด็ดทีเดียว จานปิ้งรวม มีทั้งลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลา หมูสะเต๊ะ หมูปิ้ง ส้มตำ สามารถสั่งได้ว่าจะเอาความเผ็ดระดับไหน เส้นมะละกอดิบสดกรอบ รสชาติครบเครื่อง ขนมหวานไทยรวม เป็นอันปิดท้าย มีทั้งขนมโตเกียวไส้หวาน ซึ่งอร่อยใช้ได้ สามารถกินได้ในไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า ขนมเบื้องที่ทำใหม่ๆแป้งกรอบ ไส้อร่อย ขนมชั้น วุ้นมะพร้าว ขนมหวานอื่นๆมากมายทั้ง เครื่องดื่ม และในโปรโมชั่นี้ ยังรวมทั้ง ม๊อกเทล ซอฟดริงค์ ได้คนละแก้ว…

Read More

อาหารท้องถิ้น เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่หากเป็นนักชิม ความลิ้มลองเมื่อไปยังสถานที่นั้นๆ และเมื่อพูดถึงภูเก็ต อาหารท้องถิ่นของภูเก็ตนั้นก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจ และควรต้องลิ้มลองเมื่อมาภูเก็ต ซึ่งมีอยู่ที่ โอชา ภูเก็ต ร้านอาหารที่นำเสนออาหารสไตล์ เปอรานากัน แท้ๆ แล้วอาหาร เปอรานากัน คืออะไร? เปอรานากัน ( Peranakan) หรือ บาบ๋า-ย่าหยา คือกลุ่มลูกครึ่งมลายู-จีนที่มีวัฒนธรรมผสมผสาน และสร้างวัฒนธรรมแบบใหม่ขึ้นมาโดยเป็นการนำเอาส่วนดีระหว่างจีนกับมลายูมารวมกัน โดยชื่อ “เปอรานากัน” มีความหมายว่า “เกิดที่นี่” และจีนที่ว่านั้นคือ ชาวจีนกลุ่มฮกเกี้ยน จึงไม่แปลกที่อาหารส่วนใหญ่จะมีกลิ่นอายและการปรุงรูปแบบคล้ายของอาหารฮงเกี้ยนด้วย สำหรับร้านโอชาภูเก็ต ตั้งอยู่ในโรงแรมแห่งแรกของภูเก็ต ตั้งอยู่ในตัวเมือง ตกแต่งอย่างสวยงามทั้งภายนอกและภายใน เครื่องดื่ม โอชายานะ สำหรับเครื่องดื่มตัวนี้เป็นค๊อกเทลตัวเด็ดของ โอชา ภูเก็ตเลยทีเดียว โดยเสิร์ฟมาใน สับปะรดทั้งลูก ซึ่งสอดคล้องกับชื่อ เพราะคำว่า “ยานะ” เป็นคำเรียกสับปะรด ในภาษาของชาวภูเก็ต โดยเครื่องดื่มตัวนี้เหมาะกับอากาศที่ร้อนชื้นของภูเก็ต เพราะเมื่อดื่มแล้วจะทำให้รู้สึกสดชื่น ประกอบไปด้วย แม่โขง คอนโทร น้ำสับปะรด และ เสาวรส อาหาร เริ่มต่นมื้ออาหารกันด้วย Amuse-bouche  ซึ่งจะมีการเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ซึ่งในนี้เป็นยำกุ้ง ซึ่งประกอบไปด้วยกุ้งลวก หอม มะเขือเทศ ผักชีใบเลื่อย ถั่ว ให้รสเค็มและรสสดชื่น ของกินเล่นและเรียกน้ำย่อย ปอเปี้ยภูเก็ต (180) ผักกาดหอมกับ มันแกวผัด หมูแดง กุ้ง ปู หอมเจียว แคปหมู และหมี่กรอบ ห่อด้วยแป้งปอเปี้ย รสเบา หากตั้งใจกินอาจรู้สึกถึงแคปหมูที่ทำให้แตกต่างเล็กน้อย แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างจากปอเปี้ยสดทั่วๆไปนั้นคือน้ำจิ้ม ซึ่งมีรสเผ็ดรสน้อยจากตี่เจียว เกี้ยน กับ เต้ากั้วทอด (180) สำหรับเกี๋ยนนั้นทำจาก หมูสับ กุ้ง ปู เผือก และมันแกว นำมาบดจนละเอียด ปรุงด้วย กระเทียม พริกไท หอมซอย และไข่ จากนั้นห่อด้วยฟองเต้าหู้ แล้วชุบแป้งทอด ซึ่งหากดป็นสูตรดั้งเดิม จะใช้มันหมูห่อ ส่วนเต้ากั้วทอดนั้นเป็นการออกเสียงแบบท้องถิ่น ซึ่งอันที่จริงก็คือเต้าหู้ทอด ซึ่งใช้เต้าหู้แข็ง สำหรับน้ำจิ้มขิงจานนี้ไม่ใช้น้ำจิ้มหวานธรรมดา แต่เป็นซอสจากน้ำมะขาม ผสมกับตี่เจียว ซึ่งคล้ายๆกับฮอยซินซอส น้ำตาล เกลือ ซีอิ้วขาว พริกแห้ง…

Read More

• เซ็ตอาหารค่ำ 7 คอร์ส พิเศษ 2,889 บาทสุทธิ (ปกติ 4,500++) • เซ็ตอาหารค่ำ 9 คอร์ส พิเศษ 3,274 บาทสุทธิ (ปกติ 5,100++) สัมผัสความอร่อย ในวันศุกร์ ที่ 31 มี.ค. – วันอังคารที่ 4 เม.ย. 60 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือทำการจองที่ 02-624-0000 หรือทางอีเมล [email protected]  ดูโปรโมชั่นห้องอาหารโรงแรมราคาพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC อื่นๆ คลิก โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์โรงแรม หมายเหตุ : โปรโมชั่นห้องอาหารโรงแรมโซ โซฟิเทล แบงคอก (SO Sofitel Bangkok) ส่วนลดดังกล่าวสำหรับบัตรเครดิต KTC Visa Infinite, KTC Visa Signature และ KTC VISA PLATINUM ทุกประเภท (Offer is applicable for KTC Visa Infinite, KTC Visa Signature และ KTC VISA PLATINUM) ส่วนลดดังกล่าวเฉพาะค่าอาหารเท่านั้นไม่รวมเครื่องดื่มทุกชนิด (Offer is valid on food only.) ส่วนลดจำกัดไม่เกิน 4 ท่าน/ บัตร/ ครั้ง/ โต๊ะ (Maximum 4 persons/card/time/table.) ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า (KTC reserves the rights to restrict, suspend,…

Read More

เฉลิมฉลอง 48 ปี ด้วยปรากฏการณ์การกลับมาอีกครั้งของ “บับเบิ้ล” ตำนานไนท์คลับแห่งยุค 70 โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ พาทุกท่านย้อนรำลึกเข้าไปในยุคของผับและดิสโก้เธค ในนาม “บับเบิ้ล” ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1977 สถานที่รวบรวมความสนุกของยุคดิสโก้ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Saturday Night Fever ที่สร้างกระแสความนิยมแนวดนตรีและการเต้นรำตามแบบตะวันตกยุคนั้น “บับเบิ้ล” กลับมาอีกครั้งภายใต้ชื่องาน “Return to Bubbles” พร้อมให้ทุกท่านได้ย้อนเวลาสู่ยุคดิสโก้ใน ค่ำคืนวันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 20:00 น. เป็นต้นไป ณ มาย บาร์ และพบกับการปรากฏตัวอีกครั้งของดีเจชื่อดังในยุค 80 “พอล แจ็คสัน” ที่จะมาสร้างความบันเทิงในการมอบเพลงคลาสสิกยุค 70 และ 80 ให้ทุกท่านแดนซ์ไปกับจังหวะมันส์ๆ กันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ แฟนคลับบับเบิ้ลท่านใดนำภาพถ่ายของท่านและเพื่อนๆ ที่ถ่ายภาพร่วมกันในบับเบิ้ลสมัยนั้นมาในงาน มีสิทธิ์ลุ้นรับแชมเปญ 1 ขวดฟรี อีกทั้งบรรดาภาพเหล่านั้นจะนำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวที่แกลอรี่ ณ ประตูทางเข้ามาย บาร์ อีกด้วย “Return to Bubbles” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของการเฉลิมฉลอง 48 ปี โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ที่รวมโปรโมชั่นสุดพิเศษทั้งห้องพัก ห้องอาหารไว้ให้ลูกค้าทุกท่านได้เพลิดเพลินกันตลอดทั้งปี 2560 โดยสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ www.dusit.com/48anniversary โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อสำรองโต๊ะได้ที่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โทร. 02 200 9000 ต่อ 2345 อีเมลล์: [email protected] เว็บไซต์: www.dusit.com/dtbk, www.facebook.com/dusitthani ย้อนวันวานในค่ำคืนของ “บับเบิ้ล” สนุกสนานกับจังหวะดิสโก้  ณ โรงแรมดุสิตธานี KinlakeStars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก…

Read More

“ในวันที่ 9 – 12 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา มีงานการกุศลที่แสนกิ๊บเก๋ ที่โดดเด่นทั้งเรื่อง กิน ดื่ม แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ธีมการแต่งตัวในงานไปจนถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากการแข่งโปโลช้างที่น่าตื่นเต้น ด้วยการนำร้านอาหารชั้นนำ เครื่องดื่ม มาให้เลือกรับบริการ อีกทั้งสปาระดับโลกอย่าง Elemis หรือจะเป็นการเดินแฟชั่นจาก มลดากา” กลุ่มโรงแรมอนันตรา ได้จัดงาน การแข่งขันโปโลช้างชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 15 ในวันที่ 9 – 12 มีนาคม 2560 ณ สนามโปโลชั่วคราวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับโรงแรม อนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ โดยมีเกมการแข่งขันโปโลเพื่อการกุศล พร้อมกิจกรรมความรู้เกี่ยวกับช้างไทยที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยตลอด 4 วันของการจัดงาน โดยในงานจะมีหลายซุ้มมากมาย ซึ่งเป็นบริการชั้นนำให้เลือกใช้ทั้ง King Power lounge แม่โขง Elemis JN Blue label Benihana Chang การแข่งขันโปโลช้างชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 15 ของการจัดงาน และกลายเป็นหนึ่งในกิจกรรมกีฬาเพื่อการกุศลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ระดมทุนได้แล้วกว่า 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 46 ล้านบาท โดยได้นำไปใช้สนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของช้างป่าและช้างบ้านในประเทศไทย อาทิ สนับสนุนโครงการวิจัยคลีนิคบำบัดเด็กออทิสติกด้วยช้างไทยแห่งแรกของโลก สนับสนุนการอบรมการฝึกช้างในเชิงสร้างสรรค์ การพัฒนาชุมชนควาญช้าง และการอนุรักษ์ช้างป่า ในปีนี้ มีช้างที่เคยเร่ร่อนตามท้องถนนกว่า 30 เชือก มาเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งช้างที่เข้าร่วมงานจะได้รับการจัดสรรเวลาพักผ่อนและได้รับการดูแลที่เหมาะสม ได้รับอาหาร วิตามิน และการตรวจสุขภาพโดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตลอดระยะเวลาการแข่งขัน สวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของช้างที่เข้าร่วมการแข่งขันโปโลช้างชิงถ้วยพระราชทานฯ เป็นเรื่องสำคัญ จึงมีการกำหนดเกณฑ์การอย่างเคร่งครัดเพื่อให้มั่นใจว่าช้างทุกตัวที่เข้าร่วมงานจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และช้างที่เข้าร่วมงานต้องเป็นช้างบ้านที่ได้รับการลงทะเบียนและมีไมโครชิพถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ไม่ใช่ช้างป่าหรือช้างที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ในปี 2559 ที่ผ่านมา การแข่งขันโปโลช้างชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังได้รับรางวัลเหรียญเงิน งานกีฬาเพื่อสังคมยอดเยี่ยม ในการประกาศรางวัลสุดยอดแห่งวงการกีฬาแห่งเอเชีย (SPIA Asia – Asian Sports Industry…

Read More

วาเลครี กูร์ตาร์ หรืออีกชื่อที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในนามของ วาล (Val) วาล เกิดในปี     ค.ศ. 1967 ในประเทศฝรั่งเศส เธอได้ใช้ชีวิตและเติบโตในหลายประเทศทั้งในทวีปอเมริกาใต้ ทวีปแอฟริกา และทวีปยุโรป เธอได้เริ่มต้นสร้างสรรค์งานประติมากรรมขึ้นเป็นชิ้นแรกในปี ค.ศ. 2001 จนกระทั่งเธอได้จากโลกนี้ไปในปี ค.ศ. 2016 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วาลได้รังสรรค์ผลงานศิลปะขึ้นจากประสบการณ์การเดินทาง อีกทั้งการศึกษาธรรมชาติโดยการสังเกตและการฟังสัญชาติญาณของตัวเธอเอง ในปี ค.ศ. 2004 วาลได้สร้างสตูดิโอขึ้นในกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นสถานที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะกับทีมงานมืออาชีพของเธอ ที่คอยให้ความช่วยเหลือในการรังสรรค์ประติมากรรมชิ้นใหม่ๆ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ผลงานประติมากรรมหลากหลายชิ้นของเธอได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเป็นประติมากรรมขนาดอนุเสาวรีย์ ผลงานของเธอได้จัดแสดงอย่างถาวรในประเทศไทย และยังจัดแสดงอย่างแพร่หลายทั่วทวีปเอเชีย เริ่มจากประเทศฮ่องกง ไปยังประเทศสิงคโปร์ จากนครเซี่ยงไฮ้         ไปจนถึงเมืองไต้หวัน ผลงานของเธอนั้นยังได้เป็นส่วนหนึ่งในงานแสดงนิทรรศการศิลปะ เซี่ยงไฮ้ อาร์ต แฟร์ (Shanghai Art Fair) ในปี ค.ศ. 2010 พร้อมการเปิดตัวผลงานประติมากรรมขนาดใหญ่         ที่มีชื่อว่า เออร์เบิน ไลฟ์ (Urban Life) โดยผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานนิทรรศการศิลปะในโครงการ จิงอัน อินเตอร์เนลชั่นแนล สคัลป์เจอร์ โปรเจค (The Jing’An International Sculpture Project) ผลงานในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับ วาล ให้เป็นที่รู้จักในฐานะ           นักประติมากรที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก วาล มักได้รับมอบหมายให้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะขนาดใหญ่ สำหรับตกแต่งทั้งในส่วนพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่ส่วนบุคคล อาทิเช่น งานประติมากรรม อินเล บาลานซ์ III (Inle Balance III) และ เออร์เบิน แกเธอริ่ง (Urban Gathering) ที่ตกแต่งอยู่ ณ โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท           และงานประติมากรรม เว็ตติ้ง (Waiting III) ที่ตั้งอยู่ ณ ไทเป ไทม์ สแควร์ (Taipei New Times Square)…

Read More

 “Bruno Menard” ดีกรีมิชลิน (Michelin) 3 ดาว และเป็นเชฟคนแรกในประวัติศาสตร์ของ Michelin Guide ที่สามารถทำให้ร้านอาหาร L’Osier Tokyo ขึ้นจากไม่มีดาวเป็น 3 ดาวทันทีภายใน 1 ปี และยังคงคุณภาพระดับ 3 ดาวอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาที่เขาประจำอยู่  หลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้กลายเป็น 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวในฝัน เป็นสวรรค์ของบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติระดับไฮเอนด์ด้านการกิน เที่ยว และพักผ่อน ด้วยประสบการณ์และบริการเหนือระดับในราคาที่ไม่แพง โดยภาครัฐมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ ซึ่ง “เอเลแกนท์ เจอร์นีย์ส” (Elegant Journeys) เชื่อในจุดนี้และพร้อมร่วมส่งเสริมให้ประเทศไทยกลายมาเป็นศูนย์กลางของงานอีเว้นท์แนวลักชัวรีไลฟ์สไตล์ (Luxury Lifestyle) ในระดับภูมิภาคอาเซียน ด้วยการเนรมิตรงานอีเว้นท์ที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครในแต่ละพื้นที่ ทั้งในด้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นเลิศ (Fine Dining), กิจกรรมกลางแจ้งสุดหรู, งานจัดแสดงแฟชั่นและศิลปะสุดอลังการ พร้อมกับการเชิญคนดังในวงการต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกมาจัดงานในไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติให้มาใช้จ่ายกันมากขึ้น “เอเลแกนท์ เจอร์นีย์ส” (Elegant Journeys) หรือ E.J. เป็นการรวมตัวกันของ 4 นักธุรกิจรุ่นใหม่จากวงการต่างๆ อย่าง แนน-รัชชต เศรษฐ์วรเดช, สิธ-สิธธัตถะ เซกาล, ซัง-อนัญญา โตแสงชัย และ ฝน-สุมนา ปาจริยานนท์ ซึ่งจะนำเอาประสบการณ์หรูหราสุดพิเศษหลายๆ แบบมาเสิร์ฟให้กับคนไทยและต่างชาติได้สัมผัสเป็นครั้งแรก เปิดตัวด้วยโปรเจกต์แรก กับการนำเอาเชฟระดับโลกที่จะมาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งแรกอย่าง “Bruno Menard” ดีกรีมิชลิน (Michelin) 3 ดาว และเป็นเชฟคนแรกในประวัติศาสตร์ของ Michelin Guide ที่สามารถทำให้ร้านอาหาร L’Osier Tokyo ขึ้นจากไม่มีดาวเป็น 3 ดาวทันทีภายใน 1 ปี และยังคงคุณภาพระดับ 3 ดาวอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาที่เขาประจำอยู่ และยังเคยกวาดรางวัลมามากมาย อาทิ 3 Red Chefs Hats by Gault & Millau…

Read More

โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) เริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2555 ซึ่งจะเปิดให้บริการครบ 5 ปี ในปี พ.ศ. 2560 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ จึงได้จัดทำโครงการ “5 ปีแห่งความสำเร็จ 5 เดือนของการแบ่งปัน” เพื่อแบ่งปันความสำเร็จสู่สังคมในมิติต่าง ๆ เป็นเวลา 5 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน มกราคม 2560 เป็นต้นไป มกราคม แบ่งปันให้เด็กในวันเด็กแห่งชาติ ในเดือนมกราคม โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ขอแบ่งปันความสุขให้แก่เด็ก ๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ แก่เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดซับเสือแมบ จังหวัดลพบุรี โดยในวันที่ 23 มกราคม 2560 ทางโรงแรมฯ ได้ส่งมอบสนามเด็กเล่นตามหลักการพัฒนาสมอง (Brain Based Learning Playground) และสื่อการเรียนการสอนให้แก่โรงเรียน เพื่อนำไปใช้พัฒนาการศึกษาและคุณภาพชีวิตของเด็ก ๆ ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวนั้นได้รับคัดเลือกโดย “พนักงานดีเด่นประจำปี 2559” ของโรงแรม ดิ โอกุระ   เพรสทีจ กรุงเทพฯ กุมภาพันธ์ แบ่งปันความรักในเดือนแห่งความรัก โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ได้ออกแบบชุดน้ำชายามบ่าย และเครื่องดื่มค็อกเทลในธีม “ฮาร์ทส แอนด์ โรสเซส” (Hearts and Roses Afternoon Tea and Cocktails) ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อนำเงินรายได้จากการจำหน่าย ชุดน้ำชายามบ่าย และเครื่องดื่มค็อกเทลในธีม “ฮาร์ทส แอนด์ โรสเซส” ระหว่างวันที่ 2…

Read More