Author: warn

วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านมาชิมเมนูติ่มซำในตำนาน ที่ ห้องอาหารจีน  เดอะเมย์ฟลาวเวอร์ (The Mayflower) โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จะตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ชั้นล่างของโรงแรมฯ สำหรับเมย์ฟลาเวอร์นั้น เป็นห้องอาหารจีนกวางตุ้งที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเมืองไทย เปิดมาแล้วกว่า 40 ปี ที่มีสไตล์การตกแต่งห้องแบบจีนร่วมสมัย ประดับประดาด้วยงานไม้แกะสลัก แจกันลายสวย และตุ๊กตาปั้นแบบจีนที่จัดโชว์ตามจุดต่างๆอย่างสวยงามลงตัว และด้วยโทนสีอบอุ่นของผนังที่แต่งแต้มด้วยสีคุณภาพสูงจากไอซีไอ ผนวกกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มแบบจีน ก็ล้วนส่งกลิ่นอายโอเรียลทัลคละคลุ้งที่แอบเจือความเป็นสไตล์จีนไว้ในทุกรายละเอียด อีกทั้งเมนูอาหารที่หลากหลายที่รับรองได้ไม่ว่าจะชาวไทย หรือชาวต่างประเทศเป็นต้องอร่อยถูกลิ้น เพราะที่นี่เอาใจใส่ในทุกรายละเอียดเพื่อให้ได้รสชาติแท้และดั้งเดิม ขนาดของห้องอาหาร 120 ที่นั่ง, ห้องส่วนตัว 6 ห้อง (3 ห้อง สามารถเปิดที่กั้นได้ 30 ที่นั่ง และอีก 2 ห้อง 12 ที่นั่งต่อห้อง) มาเริ่มเมนูติ่มซำตัวแรกกันเลยครับ ห่ำซุ่ยโก๋ 90++ บาท (Glutinous rice ball with assorted meat) แป้งข้าวเหนียวทอด กรอบนอก ด้านใน หนึบ นุ่ม อัดแน่นด้วยไส้รวมมิตร มีหมูสับ แครอท เห็ดหอม ผัก แห้ว รสชาติจะออกหวานนิดๆ ไม่หวานมาก เกี๋ยวกุ้งทอดซอสสลัด 140++ บาท (Shrimp wonton with salad sauce) แผ่นเกี๊ยวบางทอดสีเหลืองทอง ไม่อมน้ำมัน กรุบกรอบ ด้านในสอดไส้กุ้งสับ นุ่ม ทานคู่กับซอสสลัด ไม่เลี่ยน เข้ากันดีครับ พายหมูแดง 100++ บาท (Barbecued pork in baked puff pastry) พายหมูแดงที่นี่จะไม่เหมือนกับที่อื่น แป้งด้านนอกจะค่อนข้างหนา แต่ไม่แข็ง อบได้กรอบนอก นุ่มใน สอดไส้หมูแดง รสชาติออกเค็ม หวานนิดๆ เผือกทอด…

Read More

Thailand authentic food to eat, easy to understand traditional flavors with a presentation in the price. As for restaurants, department With stylish decor as tasty cafe. Osha Thailand cuisine restaurant that is well known. It has been operating for over 18 years in San Francisco. United States In Thailand, began operation as the first Road with a delicious and unusual, it became popular and well known in the country. Continue with a pleasant taste, advancing by launching Osha cafe. Thailand makes dishes in a typical tasty. The special, ready to sample carefully. Experience a relaxing stay in a stylish…

Read More

อาหารไทยต้นตำหรับ กินง่าย เข้าใจง่าย รสดั้งเดิม กับการนำเสนอที่แปลกไปในราคาสบายกระเป๋า ราคาเหมือนร้านอาหารตามห้าง กับการตกแต่งร้านที่มีสไตล์ ณ โอชาคาเฟ่ โอชาร้านอาหารไทยต้นตำรับที่เป็นที่รู้จักกันดี  ได้เปิดดำเนินงานมากว่า 18 ปีในซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับในประเทศไทยได้เริ่มดำเนินการเป็นที่แรก ณ ถนนวิทยุ ด้วยความอร่อย และแปลกตา จึงเริ่มเป็นที่นิยมและรู้จักกันในประเทศไทย ร้านโอชาจึงพร้อมสานต่อความอร่อยล้ำหน้าด้วยการเปิดตัวโอชาคาเฟ่ ทำให้ได้ลิ้มลองอาหารไทยในแบบฉบับของโอชา จากการคัดสรรเป็นพิเศษพร้อมความลงตัวอย่างพิถีพิถัน สัมผัสบรรยากาศสบายๆเป็นกันเองในสไตล์คาเฟ่ซึ่งมาพร้อมกับ Cooking chronicle studio สอนทำอาหารสูตรไทยดั้งเดิม ณ ศูนย์การค้าแนวราบริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใหญ่ที่สุดในไทย และมีทัศนียภาพที่สวยงาม ร้านโอชาคาเฟ่ ตกแต่งในสไตล์รูปแบบอินดัสเตรียลลอฟท์ที่ทันสมัย แต่งแต้มสีสันต์ภายในให้มีชีวิตชีวาด้วยเฟอร์นิเจอร์สีพาสเทล และองค์ประกอบของท่อเหล็กสีทองที่มีรูปแบบสานกันเหมือนเครื่องจักรสานไทย ถ่ายทอดความเป็นไทยแบบร่วมสมัยในภาพวาดชฎาอันเป็นสัญลักษณ์ของโอชาดั้งเดิมบนผนังใหญ่ หรูหราด้วยประกายสีทองสะท้อนเด่นจากบาร์เครื่องดื่มพร้อมด้วยกลาสเฮ้าส์สไตล์มินิมัลซึ่งเป็นที่ตั้งของสตูดิโอสอนทำอาหารภายใต้ชื่อ Cooking Chronicle Studio เมนูที่เป็นเมนูแนะนำจากเชฟที่พลาดไม่ได้ ได้แก่ ขนมเบื้องกรอบ เมี่ยงปูนิ่ม การเวกสอดสี ยำตะไคร้หอยเชลล์ พล่าหมูมะเขืออ่อน น้ำพริกไข่เค็ม กุ้งสับเครื่องเคียง ไข่เจียวทรงเครื่องเนื้อปู แกงแดงปู ใบชะพลูหมูสามชั้น พะโล้ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย สเต็กหมูย่างจิ้มแจ่ว ขนมจีนซาวน้ำ เส้นจันท์ผัดปูนิ่ม แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากาย และกุ้งทอดซอสมะขาม ขอเริ่มจากการแนะนำเครื่องดื่มประจำร้านได้แก่ ตุ๊กๆโอชา เครื่องดื่มที่เสิร์ฟมาบนแผ่นหินกาบสีดำ พร้อมโมเดลรถตุ๊กๆสีทอง กุ๊กกิ๊กน่ารัก ด้วยการใช้น้ำมะตูมเป็นเบส รสหวาน หอมมะตูมให้ความสดชื่นและผ่อนคลาย เริ่มต้นกันด้วย Amuse Bouche ที่นี่จะมีอมูชบูชหมุนเวียนไปเรื่อยๆ -FIRST BITES อุ่นเครื่องกันด้วย Soft Shell Crab Bite ปูนิ่มทอดกรอบกินง่ายรสชาติดี ใส่ในเมี่ยงคำ ซอสหวานและกาบมะพร้าว ถั่วลิสงมันอร่อย และใบชะพลู OSHA Crab Toffy ปูนิ่มห่อแป้ง ทอด หน้าตาน่ารักเหมือนท๊อฟฟี่ รสชาติดีและไม่อมน้ำมัน กรอบแห้งอร่อย Crispy Egg Thai Crepe ขนมเบื้องไทยชิ้นเล็กพอดีคำรสเค็มกับเต้าหู้ เวลากินให้กินเข้าไปทั้งคำ เพราะซีกนึงจะเค็มและซีกนึงจะจืด Pairing with OSHA…

Read More

คืนนี้ไปชิวไหนกันดี… หากใครยังหาที่ไปนั่งชิว แฮงค์เอาท์กับเพื่อนไม่ได้ กินแหลกแจกดาวขอเเนะนำ สถานที่กลางมหานคร ที่โดดเด่นด้านความล้ำหน้าของแฟชั่น นั่นก็คือ Vogue Lounge อยู่ที่ตึกมหานครคิวบ์ แค่ชื่อร้าน ก็การันตีได้ว่าต้องเต็มไปด้วยแฟชั่น เนื่องจาก เป็นเจ้าของเดียวกับนิตยสาร แฟชั่นชื่อดังอย่าง Vogue เล้าจ์ แห่งนี้ มีทั้ง โซนด้านนอก นั่งกินลมชมวิว และด้านใน ที่เป็นบาร์ยาว ดูบาร์เทนเดอร์ผสมเครื่องดื่ม และ โซนเล็กๆที่เอาไว้สำหรับ ไพรเวทปาร์ตี้ ที่นี่คนไม่พลุกพล่านมากนัก มีความเป็นส่วนตัวสูง ที่สำคัญคือ มีดีเจจากต่างประเทศหมุนเวียนกันมามิกซ์ สแครชแผ่นให้ เดือนละ 1 ครั้ง อย่างในครั้งนี้คือคุณ Freddie Glitch [Sinnmusik*, Amsterdam] [support by DJ TOM & DJ Maarten] Friday 10th of June 2016 ส่วนเมนูอาหารที่นี่เน้นแบบ คำเล็กๆ แชร์กัน หยิบทานได้ง่ายและสามารถทานได้หลากหลาย เมนูอาหารที่นี่จะเปลี่ยนทุกๆ 3 เดือนโดยรังสรรค์ออกแบบ โดย เชฟมิชลินสตาร์ มีช่วง Fashion Hour ก็คือช่วงนาทีทอง เครื่องดื่ม ซื้อ 1 แถม 1 (ทุกวัน เวลา 5.00PM – 9.00PM) อย่างที่ทุกคนชอบนั่นเอง วันนี้เราเก็บภาพบรรยากาศจากวันที่ดีเจ จากต่างประเทศมามิกซ์แผ่นให้เราเเดนซ์กัน รวมถึงอาหารเล็กน้อยๆ ที่ทานรองท้อง พร้อมค็อกเทล บนโต๊ะจะมีของว่างทานเล่นคือ มะกอกและถั่ว พร้อมขนมปัง เมนูที่ขาดไม่ได้สำหรับแกล้มเครื่องดื่มคือ House Selection of Cold cuts มีมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น Salame, Parma ham, Mortadella ฯลฯ รสชาติแตกต่างกันเล็กน้อย ตัดความเค็มด้วย แยมซอสมะเขือเทศที่เสิร์ฟมาคู่กัน ทานแกล้มไวน์ได้ดี สำหรับใครที่อยากทานเบาๆ เราขอแนะนำ…

Read More

รีวิว ร้านอาหารอิตาเลียนวิวงาม ร้านสวย ตกแต่งและอาหารสไตล์ ทัสคานี ย่านอโศก ณ Attico, Radisson Blu Bangkok สำหรับคนที่กำลังมองหาร้านอาหารอิตาเลียน แบบ Traditional ทาง Kinlakestars ขอแนะนำร้านอาหาร ATTICO (แอตติโก้) ซึ่งได้รับรางวัลมากมายจากสื่อต่างๆ เช่นรางวัล top tabu 2015 และ 2016 จากนิตยสาร BKKK, รางวัล Thailand Tatler Best Restaurants จากนิยสาร Thailand Tatler สองปีซ้อน และรางวัลร้าน      อาหารอิตาเลี่ยนยอดเยี่ยมจากหอการค้าไทย-อิตาเลี่ยน รางวัลเหล่านี้เป็นสิ่งยืนยันถึงคุณภาพ และมาตรฐานในการบริการที่ดีของ         แอตติโก้การตกแต่งเป็นสไตล์ทัสคานี  ร้านจะสูง โปร่ง หน้าต่างบานใหญ่ สูง แบบ Floor to ceiling ทางเข้าประดับด้วยถังไม้โอ๊ค การตกแต่งโดยใช้โทนสีเอิร์ทโทน ไม้ ถังไวน์ และ ขวดไวน์ รวมทั้งภาพวาดธรรมชาติที่แขวนบนกำแพง พร้อมไฟสีเหลืองนวล ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนอยู่บ้านชนบทในแคว้นทัสคานี ภายในร้านจะมีมุมครัวเปิด รอบห้องเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่มองเห็นวิวเมืองของกรุงเทพฯยามค่ำคืน และ มีห้อง Private ด้านในสุดของห้องอาหาร สามารถจัดงานเลี้ยง งานปาร์ตี้ส่วนตัวได้ นอกจากนี้ยังสามารถพักผ่อนแบบมีสไตล์ได้ที่นอกระเบียงทั้งสองด้านของห้องอาหารแอตติโก้ อาหารที่นี่เป็นอาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิม รังสรรค์เมนูโดยเชฟโรเบอร์โต้ ปาเรนเตล่า เป็นเชฟอิตาเลี่ยน เชฟจะเน้นเรื่องวัตถุดิบ ที่พิถีพิถันในการคัดสรร เช่น เนื้อนำเข้าจากออสเตรเลียและอิตาลี อาหารทะเลนำเข้าจากฝรั่งเศส ชีสนำเข้านานาชนิด แล้วยังมีพาสต้า น๊อคกี้แบบโฮมเมด ผักสลัดคุณภาพเยี่ยม ขนมปังอบโฮมเมด และโคลด์ คัท ที่มีให้เลือกมากกว่า 10 ชนิด อาหารที่นี่ Portion ไม่เล็ก สามารถแชร์กินกันได้ ตามสไตล์คนเอเชียครับ ร้านอาหารแอตติโก้ยังมีเมนูพิเศษที่ผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล…

Read More

รีวิว Char Bangkok ความงามกรุงเทพฯ จากมุมสูงย่านวิทยุ และการตกแต่งที่เก๋ไก๋ กับอาหารที่หลากหลาย เครื่องดื่มที่มีสไตล์ ณ Hotel Indigo Bangkok วันนี้ทาง Kinlakestars จะแนะนำร้านอาหารน้องใหม่ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บนถนนวิทยุ เดินทางมาสะดวก ชื่อว่า “CHAR RESTAURANT & ROOFTOP BAR” อยู่บนชั้นที่ 25 และ 26 ของโรงแรม HOTEL INDIGO BANGKOK โดยชั้นที่ 25 จะเป็นห้องอาหาร Char และ ชั้นที่ 26 จะเป็น Rooftop Bar สามารถขึ้นมารับลม ชมวิวดาดฟ้าสวยๆ บรรยากาศใจกลางเมือง มองเห็นพระอาทิตย์ตกยามเย็นได้ เหมาะสำหรับ แฮงค์เอาท์ ชิล หลังเลิกงาน นั่งดื่มเหล้ากับแก๊งค์เพื่อนๆ หรือจะชวนคนรู้ใจไปสวีตก็เหมาะ จริงๆแล้วสาขาแรกชื่อ CHAR bar and grill เป็นร้านอาหารและรูฟท็อปบาร์ชื่อดังจากเซี่ยงไฮ้ ร้านค่อนข้างจะ Formal กว่าที่สาขากรุงเทพ เรามาชมบรรยากาศ Rooftop บนชั้น 26 ของโรงแรมกันก่อนเลยครับ บนชั้น 26 จะเป็น Char Rooftop Bar มีเครื่องดื่มเด่นๆ หลายตัวมาแนะนำกันด้วย เริ่มจาก Wings of My Mind (320++ บาท) – Beefeater infused vanilla, Elderflower syrup, Lime, Pomegranate, Thyme, Violet liqueur เครื่องดื่มค็อกเทลสีชมพู หวานแหวว เปรี้ยวนิดๆ ในแก้วมาร์ตินี่ สามารถเพิ่มส่วนผสมจากขวดเล็กๆสีม่วงที่เสิร์ฟมาด้วยกันให้เข้มข้นขึ้นได้ Kanagawa (300++ บาท)…

Read More

มื้อเที่ยงๆบ่ายๆจะมีอะไรดีไปกว่าการได้จิบชา เก๊กฮวย และลิ้มรสติ่มซัมเลิศรส จากวัตถุดิบคุณภาพสูง กับชื่อเชฟผู้โด่งดัง เชฟแมน วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านไปชิมติ่มซำที่โด่งดังขึ้นชื่อในเมืองไทย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นต้นตำหรับ ‘ซาลาเปาไส้ไหล’ ของเมืองไทยก็ว่าได้ ชื่อว่าร้าน “Chef Man” สาขาที่พาไปชิมจะเป็นสาขาแรกเลยคือ สาขาสาทร ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของโรงแรม  Eastin Grand Sathorn ตอนนี้ร้าน Chef Man มีทั้งหมด 3 สาขา คือ สาทร ราชดำริ และ ธนาซิตี้ หลายท่านคงอยากจะรู้แล้วใช่ไหมว่าจะอร่อยขนาดไหน ราคาเท่าไหร่ ตามมาชมรีวิวกันเลยครับ การตกแต่งร้านเป็นสไตล์จีนทันสมัย ใช้โทนสีแดง เหลือง ดูสะอาดตา เพดานสูง โปร่ง ไม่อึดอัด บรรยากาศในห้องอาหารมีจำนวนโต๊ะไม่มากนักตามสไตล์ร้าน Fine dining แต่ก็มีห้องส่วนตัวด้วยครับ ซึ่งห้องส่วนตัวไม่อึดอัดเพราะด้วยสัดส่วนความสูงของเพดานที่ระดับเพดันค่อนข้างสูง การการตกแต่งนั้น เน้นเรียบๆ แต่เพดานยังคงานไม้แกะสลักลายจีน เรามาเริ่มติ่มซำอย่างแรกกันเลยครับ เป็น ขนมจีบไข่กุ้ง (Steamed “Siu-Mai” with Shrimp Roe Dumplings) 130++ บาท ขนมจีบชิ้นโต ห่อด้วยแผ่นเกี๊ยวเหนียว นุ่ม ด้านมีเนื้อกุ้งเยอะมาก กินเข้าไปก็ทราบได้ถึงคุณภาพของกุ้ง กุบ หวานมัน อร่อย ผสมกับเนื้อหมู ด้านบนเป็นกุ้งทั้งตัว แล้วท๊อปด้วยไข่กุ้ง ต่อด้วย ฮะเก๋ากุ้ง (Steamed “Ha-Kao” Shrimp Dumplings) 130++ บาท ฮะเก๋าแป้งบาง ใส เหนียว นุ่ม ไม่ขาดง่าย จีบมาเป็นทรงอย่างสวยงาม เห็นเนื้อกุ้งด้านใน เนื้อกุ้งไซด์ใหญ่ กรุบ เด้ง เต็มปาก เต็มคำรสชาติลงตัวเข้าเนื้อกำลังดี  มีแครอทเป็นเบสอยู่ด้านล้างฝานบางๆเป็นแผ่น ขนมจีบเป๋าฮื้อ (Steamed “Siu-Mai” with…

Read More

วันนี้ทาง Kinlakestars จะขอนำเสนอ ร้านอาหารไทย Nahm @The Metropolitan Bangkok ร้านอาหารไทยในเมืองไทยร้านเดียวที่ได้รับการโหวตให้เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดของโลกปี 2015 อันดับที่ 22 (The Worlds 50 Best Restaurant 2014) http://www.theworlds50best.com/list/1-50-winners#t21-30 และเป็นร้านอาหารไทยสาขาแรกในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเชฟชาวออสเตรเลีย  David Thompson ที่ได้รับหนึ่งดาวจากมิชลิน บรรยากาศภายในร้านใช้ ไฟโทนสีส้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่น มีโต๊ะทั้ง Indoor และ Outdoor ด้านนอกจะอยู่ติดริมสระน้ำของโรงแรม บรรยากาศดีทีเดียว การจัดโต๊ะเหมือนกับอาหารฝรั่ง มีอุปกรณ์จัดวางเรียบร้อยอยู่บนโต๊ะ ทั้งช้อน ส้อม แก้วน้ำ แก้วไวน์ และผ้ากันเปื้อน หลังจากได้สัมภาษณ์ และพูดคุยกับเชฟปริญญ์ ผลสุข Head Chef ของร้าน Nahm จะรู้ว่าอาหารไทยนั้น มีความละเอียด พิถีพิถันมาก ที่ร้าน Nahm จะเป็นอาหารไทยแบบแท้จริง (Authentic Thai) รสชาติดั้งเดิม ทำให้คนที่มาทานรู้สึกเหมือนว่ามาเที่ยว มารับประสบการณ์ใหม่ๆ และที่สำคัญคนทานต้องมีความสุข เชฟปริญญ์ได้กล่าวว่า อาหารเป็นประวัติศาสตร์ วิถีการกินเป็นวิถีแรกของมนุษย์ สมัยก่อนเราใช้อาหารกับศาสนามาทำให้คนรวมกลุ่มทำกิจกรรมกัน เช่น กินข้าวร่วมกัน ทำกับข้าวถวายพระที่วัด เราต้องเข้าใจในวิถีของการดำรงชีวิต คือ คนไทยเราจะกินข้าวพร้อมหน้ากัน หลักๆอาหารไทยจริงๆคือ ‘ข้าว’ จะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “เมืองไทยในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” อย่างแกงก็ต้องกินกับข้าว ไม่ใช่กินแกงอย่างเดียว เพราะรสชาติแกงที่แท้จริง รสชาติจะจัดจ้าน เข้มข้น เผ็ด เค็ม อาหารไทยสามารถทานพร้อมๆกันได้ ไม่เหมือนอาหารฝรั่งที่มีลำดับก่อน หลัง อย่างที่ต้องทานซุปก่อน มีคนกล่าวว่า “Balance หรือว่ากลม” ซึ่งหมายความว่าต้องมีความสมดุล ควรกินทุกอย่างด้วยกัน ไม่ใช่กินอย่างเดียว  เช่น กินแกง ยำ น้ำพริก ผักลวก ผักต้ม อย่างการกินยำ…

Read More

ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาศิลาดลได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นสวรรค์ของความสงบและการรับประทานอาหาร ที่ดีที่ได้ทำหน้าที่บริการอาหารไทยต้นตำรับมายาวนานเกือบยี่สิบห้าปี เมนูที่ภูมิใจนำเสนอหกเมนูเป็นพิเศษ อาหารจานพิเศษที่ขอแนะนำโดยเชฟรินและทีมงาน อาหารแต่ละจานที่น่ารื่นรมย์ ได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย ด้วยการนำเสนอที่สวยงาม ก่อนรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของสูตรและส่วนผสมแย่างไทยแท้ ที่ปรุงด้วยส่วนผสมที่เลือกและเตรียมความพร้อม ที่มีความสนใจ ใกล้เคียงกับเทคนิคแบบดั้งเดิมในอดีตมากที่สุด Celadon Chef’s Recommended ได้แก่: –  หอยเชลล์ฮอกไกโดกุ้งเนื้อปูทอดห่อในแผ่นเกี้ยว –  เงาะสด พริกสดและซอสกะปิ –  สลัดผักสด อกไก่ และกุ้ง –  เนื้อปลาหิมะสด อบหมักหอมสมุนไพรไทยในไม้ไผ่สีเขียว –  หมูหมัก, ผักบุ้ง ในซอสถั่วลิสงพริกราดบนข้าวหอมมะลิ –  ข้าวสีเขียว มะพร้าวอ่อน กล้วยนึ่ง ในกะทิอุ่นๆน้ำเชื่อม “Kapraw”  เมนูพิเศษประจำเดือน เมนูรวมทั้งอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และของหวาน พร้อมกับ   ไวน์กุหลาบให้ความอร่อยยิ่งขึ้น มื่อทำการจับคู่กับอาหารที่สมบูรณ์แบบ หนึ่งในความทรงจำที่น่าจดจำพิเศษ แขกที่อาจจะมาจากต่างประเทศกับ เพื่อน ๆ หรือครอบครัวที่กำลังมองหาที่จะสำรวจรสชาติเดิมของ อาหารไทย ที่ Celadon สำหรับมื้อกลางวันหรือมื้อค่ำ Kapraw ชุดเมนูรประกอบไปด้วย : –  ของว่างที่คัดเลือกโดยทีมเชฟ  ศิลาดล – สลัดยำคอหมูย่าง – ต้มยำกุ้ง – ผัดเนื้อวัวกระเทียมพริกและกระเพรา – ปูนิ่มทอดในซอสกระเทียม – คะน้าน้ำมันหอยผัด – ไอศครีมตะไคร้โฮมเมดเสิร์ฟพร้อมกับผลไม้ตามฤดูกาล ศิลาดล เปิดบริการทุกวัน : อาหารกลางวัน 12:00-15:00 น และมื้อค่ำ 18:30-23:00 น รำไทยคลาสสิก ที่จะดำเนินการแสดง ให้ทุกท่านเชยชมสมอุรา ทุกวันเวลา 20:00 น และ 21:00 น สำหรับการสำรองที่นั่ง โทร 66 (0) 2344 8888 หรือ อีเมล์: [email protected] คิดถึงแหล่งรวมโปรโมชั่นอาหาร คิดถึง  Kin Promo…

Read More

ค่ำคืนนี้ทาง Kinlakestars ได้รับเชิญมาชิม ปลาไหลญี่ปุ่น UNAGISHI ซึ่งเป็นปลาไหลแบรนด์อันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น โดยงานนี้จะปรุงโดยเชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์ เชฟกระทะเหล็กอาหารญี่ปุ่นของประเทศไทย งานนี้จะจัดร่วมกับ YATSUSHIKA BREWERY CO., LTD. เป็นบริษัทจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆของญี่ปุ่น เช่น สาเก โชจู คนญี่ปุ่นนิยมจะรับประทานปลาไหลในช่วงหน้าร้อน เพราะปลาไหล เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ใช้เป็นยารักษาโรคได้มาแต่โบราณกาล เพื่อเพิ่มพลัง ให้ความสดชื่น และความกระปรี้กระเปร่าจากความแข็งแรงที่ลดลงในช่วงฤดูร้อน ทำให้คนญี่ปุ่นนิยมกินปลาไหลย่างกันมากในหน้าร้อน หรือช่วงก่อนเปลี่ยนฤดูกาล โดยเฉพาะระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน Unagishi เป็นคำที่ใช้เรียก ผู้เชี่ยวชาญด้านปลาไหล ของบริษัท Yamada Suisan และในขณะเดียวกันก็เป็นชื่อสินค้าอีกด้วย ในปี 2005 Yamada Suisan เป็นเจ้าแรกที่สามารถเพาะเลี้ยงปลาไหลได้โดยที่ไม่ใช้สารเคมีหรือยาเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จนี้ได้คือการใช้น้ำบริสุทธิ์จากใต้ดินลึกกว่า 70 เมตร จากเมืองชิบูชิ จังหวัดคาโกชิม่า และการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง (อุณหภูมิ, คุณภาพน้ำและปริมาณออกซิเจน) และสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้ Unagishi เป็นผู้นำในตลาดปลาไหลของญี่ปุ่น Kabayaki เป็นปลาไหลออแกนิคราดซอสสูตรพิเศษ และนำมาย่างด้วยเตาถ่านร้อนๆ เหมาะจะนำมาทำเมนู คาบายากิ ฮิซึมะบูชิ และซูชิ Shiro-Yaki เป็นปลาไหลราดด้วยโชยุอ่อนๆ และนำมาย่างด้วยเตาถ่าน เหมาะสำหรับเชฟที่ต้องการรังสรรค์เมนูด้วยตัวเองเพราะสามารถนำมาปรุงแต่งรสชาติได้ง่าย นอกจากอาหารญี่ปุ่นแล้วยังสามารถนำมาทำอาหารประเภทอื่นได้อีกด้วย ภายในงานจะมีไวน์ขาว และไวน์แดงมาให้ชิม และทานคู่กับอาหารของคืนนี้ด้วยครับ เมนูคอร์สดินเนอร์ของ Unagishi ซึ่งจะใช้ทั้ง Kabayaki และ Shiro-Yaki เสิร์ฟควบคู่กับสาเกญี่ปุ่น โชจู และเหล้าต่างๆของบริษัท Yatsushika ซึ่งมาจากเกาะคิวซู เรามาลองชิมคอร์สแรกกันเลยครับ เริ่มจากคอร์สแรก “Unagishi no Unagi” Canapé (Braised Unagishi no Kaba-yaki eel, tofu, burdock and egg / Unagishi no Shira-yaki…

Read More