Author: warn

วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านไปชิมขนมไหว้พระจันทร์อันเลื่องชื่อของแชงพาเลซ  เป็นขนมที่อบอย่างพิถีพิถันจนได้ขนมที่มีผิวเปลือกนอกเป็นสีทอง ทุกชิ้นผ่านขั้นตอนการผลิตในแบบดั้งเดิมสไตล์โฮมเมด คือ ทำด้วยมือ เพื่อคงไว้ซึ่งรสชาติความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของขนมไหว้พระจันทร์แชงพาเลซ ขนมไหว้พระจันทร์ของแชงพาเลซเป็นสูตรฮ่องกงแท้สืบทอดจากเชฟฮ่องกงตั้งแต่ปีพ.ศ. 2531 โดยเชฟศักรินทร์ได้สืบทอดสูตรนี้มานานกว่า 20 ปี เคล็ดลับอยู่ที่ไส้ขนมกวนสูตรเฉพาะของแชงกรี-ลา แป้งที่ไม่เหมือนใคร คือ บาง นุ่ม ทำให้ผู้รับประทานขนมได้ลิ้มรสไส้ขนมอย่างเต็มปากเต็มคำ ไส้ขนมไม่หวานมาก และ ไข่แดงคัดสรรขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษ สำหรับเชฟศักรินทร์อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ขนมอร่อยจะต้องเริ่มจาก “น้ำเชื่อม” ที่นำมาผสมกับแป้งเพื่อทำเปลือกขนมนั้น แต่ละที่ก็มีสูตรลับไม่เหมือนกัน ของแชงพาเลซจะเริ่มเคี่ยวน้ำตาลไว้ก่อนเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพราะน้ำตาลที่ดีจะทำให้แป้งห่อขนมบางนุ่ม แทบเป็นเนื้อเดียวกับไส้ขนม อีกหนึ่งประการสำคัญคือขนมไหว้พระจันทร์ของแชงพาเลซไม่ใส่สารกันบูด ทุกชิ้นผ่านอย. ขนมแต่ละชิ้นระบุส่วนผสมไว้อย่างชัดเจน เป็นการรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยต่อผู้บริโภค เคล็ดลับของขนมไหว้พระจันทร์แชงพาเลซที่คงความอร่อยอย่างสม่ำเสมอมายาวนานจนเป็นตำนาน นอกจากจะมาจากความชำนาญของเชฟศักรินทร์ที่มีในการทำขนมไหว้พระจันทร์มานานกว่า 20 ปีแล้ว ยังมาจากการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีมาใช้ในการทำขนม และปรุงตามหลักความปลอดภัยทางด้านอาหารที่รับประกันตามมาตรฐานสากล HACCP ถึงแม้ว่าจะต้องผลิตในปริมาณมากๆในแต่ละวันตามความต้องการของผู้บริโภค แต่ขนมไหว้พระจันทร์ของแชงพาเลซทุกชิ้นก็ยังคงทำด้วยมือโดยเชฟศักรินทร์ และทีมพ่อครัวแม่ครัวของห้องอาหาร แชงพาเลซ เชฟสาธิตการทำขนมไหว้พระจันทร์ตั้งแต่ใส่ไส้นวดแป้งลงพิมพ์และเคาะ ปีนี้เชฟศักรินทร์ได้สร้างสรรค์ สองรสขาติใหม่ 2 ไส้ใหม่ของปีนี้ได้แก่ !!! ขนมไหว้พระจันทร์ไส้คุกกี้แอนด์ครีมแมคคาเดเมีย เป็นความอร่อยอย่างลงตัวแบบใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหอมมันของถั่ว เนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบภายในแป้งนุ่มเนื้อบางสไตล์เปลือกหิมะ เนื้อแป้งภายนอกบาง นุ่ม คล้ายกับโมจิ ไส้ด้านในเป็นการผสมผสานรสชาติที่ลงตัวดี รสชาติหวานน้อยจากตัวคุกกี้ ผสมกับความมันของแมคคาเดเมีย และ ขนมไหว้พระจันทร์อัลมอนด์งาดำ เป็นความอร่อยอย่างลงตัวแบบใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นอีกหนึ่งไส้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหอมมันของถั่ว เนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบภายในแป้งนุ่มเนื้อบางสไตล์เปลือกหิมะ รสชาติออกหวานนิดๆ มีความหอมมันของถั่ว เนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบ ภายในแป้งนุ่มเนื้อบางสไตล์เปลือกหิมะ อีกตัวที่เป็นไฮไลท์ของขนมไหว้พระจันทร์เปลือกหิมะคือ ไส้ครีมรังนก ขายมาแล้วเป็นปีที่ 5 แป้งบาง นุ่ม เย็น กัดแล้วไส้ด้านในจะเจอชั้นครีมคัสตาร์ดก่อนและด้านในสุดจะเป็นรังนก ไส้เยอะ รสชาติหวานกำลังดี ความอร่อยระดับตำนานของขนมไหว้พระจันทร์แชงพาเลซแบบคลาสสิคแป้งอบ รสชาติยอดนิยมอื่นๆ ได้แก่ ไส้โหงวยิ้ง จะใส่ถั่วหลายชนิด อาทิ อัลมอนด์ วอลนัท หนำหยั่น และส่วนผสมอื่นนำเข้าจากประเทศจีน เช่น แฮมยูนาน รวมถึงมันหมูหั่นชิ้นเล็ก เม็ดก๋วยจี้หอมมันจากฮองกง เมื่อกัดขนมไหว้พระจันทร์แล้วจะได้รสขาติหอม มันของส่วนผสมเต็มคำ ไส้ทุเรียน ที่ลูกค้าติดใจนั้นเกิดจากความพิถีพิถันของการเลือกวัตถุดิบจะต้องเลือกทุเรียนหมอนทองกวนจากสวนเจ้าประจำ เนื้อเนียนเหนียวและไม่หวานจัด ไส้ลูกบัว ทำจากเม็ดบัวกวน เนื้อเนียนละเอียด หวาน…

Read More

วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านที่ชื่นชอบทานเมนูติ่มซำ มาลิ้มลองกับความหลากหลายของติ่มซำกว่า 26 เมนู ณ ห้องอาหาร ซิลค์ โร้ด (Silk Road) ชั้น 3 โรงแรมพลาซ่า แอทธินี่ รอยัล เมอริเดียน เชฟ เชง กัม ซิงเป็นเชฟประจำห้องอาหาร และทีมงานมืออาชีพได้สรรค์สร้างติ่มซำตามแบบฉบับวัฒนธรรมดั้งเดิมของฮ่องกง โดยผสมผสานความมีศิลปะและคัดสรรวัตถุดิบชั้นยอดเพื่อรังสรรค์เมนูอาหารแสนอร่อยให้ท่านได้ลิ้มลองทุกวัน โดยตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 11.30 น.-14.30 น. อิ่มอร่อยกับ “All You Can Eat Dim Sum” บุฟเฟ่ต์  ติ่มซำหลากหลายเมนู ซึ่งเชฟได้ใส่ใจในทุกรายละเอียดและพิถีพิถันในการเลือกสรรวัตถุดิบชั้นยอด ผสมผสานอย่างลงตัวกับเทคนิคพิเศษ อาทิเมนู กรรเชียงปูนึ่งผงกระหรี่ ปลาหิมะนึ่งเต้าโซว ขนมจีบกุ้ง ปู และหมู เผือกทอด โดยเฉพาะเมนูซาลาเปาไส้ไหล ที่มีความพิเศษอยู่ตรงรสหวานกลมกล่อมของเนื้อครีมที่ไหลเยิ้มเมื่อบิออก สูตรเฉพาะของทางห้องอาหาร และเมนูอื่นๆอีกกว่า 26 เมนู ซึ่งล้วนแต่เป็นอาหารรสเลิศทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้ใน ราคาสุทธิ 800 บาท++ต่อท่าน หรือเลือกอิ่มอร่อยกับชุดอาหารกลางวันมื้อพิเศษ 4 คอร์ส ที่ท่านสามารถเลือก 3 เมนูติ่มซำ ตามด้วยเลือก ซุป ข้าว หรือก๋วยเตี๋ยว อาทิ ซุปเป๋าฮื้อกั๊กตุ๋นไก่ดำยาจีนน้ำใส ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหมูนุ่ม ปิดท้ายด้วยของหวานนานาชนิด อาทิ บัวลอยน้ำขิงร้อน แปะก๊วยตุ๋นเห็ดหิมะร้อน ในราคาสุทธิ 600 บาท++ต่อชุด ในวันอาทิตย์เวลา 11.30 น.-14.30 น. สุขสันต์ไปกับครอบครัวกับเมนูบุฟเฟ่ต์ติ่มซำอร่อยแบบไม่อั้นกว่า 26 รายการ และเพิ่มความอิ่มอร่อยกับเมนูพิเศษ อาทิ ซุปเป๋าฮื้อญี่ปุ่นในน้ำกวางตุ้ง ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าทะเล และพิเศษสุดกับเมนูเป็ดปักกิ่งหนังกรอบรสเลิศ  ในราคาสุทธิ 900 บาท++ต่อท่าน การตกแต่งห้องอาหารจีนซิลค์ โร้ด (Silk Road) ผสมผสานความประณีต…

Read More

ทุกสิ่งที่คุณสรรหา ที่นี่จัดมาให้หมด อาหารทะเลสดๆคุณภาพสูง ก้ามปูทะเลก้ามโต ล็อบสเตอร์ อาหารญี่ปุ่นคุณภาพสูง ซาซิมิสดๆ แซลมอน ฮามาจิ ปลาไหลญี่ปุ่น ไข่ปลาคาร์เวีย เนื้อวากิวและเนื้อแกะชั้นเลิศ  อาหารอินเดีย อาหารตะวันออกกลาง อาหารไทย เป็ดปักกิ่ง ของหวานหลากหลายไม่อั้น และพิเศษสุดๆ Taittinger Champagne ไม่อั้น ณ Sunday Brunch สถานที่สำหรับนักกินนักดื่ม หากอยากทานมื้อใหญ่ในวันอาทิตย์ วันหยุดสบายๆแบบนี้ Kinlakestars.com ขอแนะนำ Champagne Sunday Brunch ที่อนันตรา สยาม ในโซนสวนปาริชาติคอร์ทที่ร่มรื่น ที่นี่จัดหนัก จัดเต็มด้วย Seafood on ice อาทิ หอยนางรมฟินเดอแคลร์ ล็อบสเตอร์ ขาปูอลาสก้า และที่มุมอื่นมี ชีสคัดพิเศษ ขาแกะ เนื้อวากิว เป็ดปักกิ่ง ฟัวกราส์ แกงทานกับนานแสนอร่อย ข้าวเกรียบปากหม้อ ซุชิ ปลาดิบ กับข้าวจากตะวันออกกลาง พาสต้า เครปซูเซตต์ Billecart-Salmon Champagne เรียกได้ว่ามากันครบทุกเชื้อชาติกันเลยทีเดียว จนถ้าจะพิมพ์ทุกเมนูรายการอาหารตรงนี้คงจะยาวเกินไปเป็นแน่แท้ เพราะมื้อนี้ได้รวบรวมอาหารจานเด็ดจากทุกห้องอาหารของโรงแรมมาไว้ ณ ที่ตรงนี้แล้วนั่นเอง มื้อนี้ เป็นการปิดและรวมเอา 3 ห้องอาหารเพื่อจัดวางอาหาร ให้ได้ครบครัน ตามที่กล่าวไปข้างต้น และเราสามารถเลือกนั่งตามบรรยากาศที่ต้องการได้ในทั้ง 3 ห้องเลย ได้แก่ หากอยากนั่งในบรรยากาศไทยๆ ย้อนยุคหน่อยๆ สามารถเลือกนั่งได้ในห้องอาหาร Spice Market มีโต๊ะไม้กรุหินอ่อนจับคู่กับเก้าอี้ไม้แบบคาเฟ่สมัยก่อนไว้คอยท่าอยู่ หากอยากนั่งในบรรยากาศสบายๆ ชมนก ชมไม้ ชมปลาคราฟหลากสีสันต์ สามารถเลือกนั่งได้ใน Aqua Bar ที่รายล้อมไปด้วยเคาเตอร์บริการอาหารหลากชนิด และสามารถเดินไปสั่งค็อกเทลจากบาร์เครื่องดื่มในโซนนี้ได้เลยเช่นกัน หากอยากนั่งกันหลายคน อย่าง 4 คนขึ้นไปแนะนำในห้องอาหาร Madison มีโต๊ะกลม โต๊ะยาว ให้เลือกนั่งกันได้สบายดี ทั้งยังสามารถเดินไปตักซีฟู้ด ของปิ้งย่าง สลัด และขนมกันได้โดยง่ายเพราะอยู่ในโซนเดียวกันด้วย…

Read More

อาหารทะเล สดใหม่ หลากหลาย แปลกตา และคุณภาพสูง ทั้ง หอยเม่น กุ้งแลงกูสทีน กุ้งมังกร ปลาเก๋าแดง ปลากระพงแดง หอยไม้ไผ่ ปูหิมะ ปูอลาสก้า ฯลฯ อีกทั้งไอศกรีมโฮมเมดกว่า 12 รส ซูชิ ซาซิมิอย่างดี วันนี้ทาง Kinlakestars ขอเชิญคนรักอาหารทะเลทุกท่านมาเพลิดเพลินไปกับคอนเซ็ปต์ “บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดไนท์มาร์เก็ต” ที่ทุกท่านจะได้อร่อยกันแบบเต็มอิ่มไปกับ สุดยอดอาหารทะเลคุณภาพเยี่ยม สดใหม่ ตัวโตหลากหลายชนิด ในช่วงเวลามื้อค่ำของทุกคืนวันศุกร์และคืนวันเสาร์ ห้องอาหารวัวล่า! (voilà!) ได้จำลองบรรยากาศของตลาดอาหารทะเลในช่วงกลางคืนที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอและรสชาติความสดใหม่จากอาหารทะเลสดใหม่นานาชนิดที่ส่งตรงจากท้องทะเล เริ่มต้นความอร่อยของบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลมื้อค่ำสุดอลังการด้วย กุ้งมังกร (Western Rock Lobster) ซึ่งเป็นกุ้งมังกรเจ็ดสีจากภูเก็ต ขึ้นชื่อในเรื่องความนุ่มของเนื้อและตัวขนาดใหญ่กำลังดี และ กุ้งล็อบสเตอร์จากแคนาดา (Canadian Lobster) ซึ่งมีความเด้ง และ แน่น ของเนื้อ อย่างละครึ่งตัวต่อหนึ่งท่าน ส่วนตัวผมชอบ Canadian Lobster มากกว่าเพราะเนื้อมันกรอบ เด้ง หวานกว่า Western Rock Lobster ซึ่งปกติแล้ว Canadian Lobster เนื้อจะแข็ง แต่สำหรับที่นี้ใช้เทคนิคการปรุงที่แสนพิเศษ นั้นคือ การนำไปนึ่งก่อน แล้วจึงค่อยนำไปย่างผิวเล็กน้อย ทำให้ผิวนั้นดูสุกเกรียม กลิ่นหอมออกและได้สัมผัสที่มีความแห้งกรอบเด้ง แต่เนื้อข้างในเนื้อจะ นุ่ม ฉ่ำ หวาน แต่ก็สุกดี จากนั้นลิ้มลองรสชาติแสนสดใหม่ของ หอยนางรมสามชนิดที่แกะเปลือกสดๆ ได้แก่ หอยนางรมฟินเดอร์แคลร์ (Fine de Claire Marennes d’Oléron) หอยนางรมซาร์สกายา (Tsarskaya) และหอยนางรมเมดิเตอร์เรเนียนโบซีคส์ (Mediterranean Bouzigues) ซึ่งแต่ละชนิดจะแตกต่างกันที่รสชาติและกลิ่น ในสามชนิดนี้ผมชอบ Tsarskaya มากที่สุดเพราะทานแล้วหวาน รสชาติเค็มน้อยสุดในสามชนิดนี้ สามารถทานสดๆแบบไม่จิ้มน้ำจิ้มได้เลย หรือใครชอบทานกับน้ำจิ้ม ที่นี่ก็มีน้ำจิ้มหลากหลายให้เลือก หอยนางรมสดๆ หวานๆ แบบนี้ถ้าได้ทานคู่กับไวน์ขาวแล้วจะเข้ากันมากครับ นอกจากนี้ยังมีก้ามปูอลาสก้าก้ามโต (Alaskan King Crab) ปูทะเล…

Read More

วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านไปชิมเซตเมนูอาหารกลางวัน เมนูใหม่ที่ปรุงและรังสรรค์โดย Chef Mirco Keller หัวหน้าเชฟ ณ ห้องอาหาร Water Library สาขาจามจุรีสแควร์ ราคาของ Set Lunch จะมี 2 ราคา คือ 2 Courses 890++ บาท และ 3 Courses 990++ บาท ราคาดังกล่าวจะรวมเครื่องดื่มชาหรือกาแฟแล้ว แต่บางเมนูที่เป็นเมนูพิเศษต้องเพิ่มเงินด้วยครับ ชื่อร้านก็บอกแล้วว่าเป็นห้องสมุดน้ำแร่ เป็นแหล่งรวมของน้ำแร่นานาชนิดทั่วทุกมุมโลก เมื่อเดินเข้าไปในร้านจะพบกับเคาเตอร์ขนาดใหญ่ และชั้นเรียงสูงที่แต่ละชั้นเรียงรายไปด้วยขวดน้ำแร่แต่ละยี่ห้อ หลากหลายชนิด อยู่ตรงกลางห้อง ร้านอาหารออกแบบให้เพดานสูง โปร่ง โต๊ะอาหารจะวางเป็นแนวครึ่งวงกลมติดกระจกใสมองเห็นวิวด้านนอก ร้านจะใช้โทนสีขาว ดำ ให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศที่ทันสมัย หรูหรา —————– Appertize —————— มาชมกันเลยว่าแต่ละเมนูที่เชฟ Mirco Keller นำเสนอมีอะไรบ้าง น่าทานแค่ไหน เริ่มจาก Cold starters ก่อนเป็น Beef tartar, tonnato, mustard seed, caper สำหรับจานนี้ใช้เนื้อวัวสดชั้นดีคุณภาพสูงมาสับให้ละเอียด เนื้อนั้นชุ่ม ฉ่ำ และสด ได้รสฉุนนิดๆจากเมล็ดมัสตาร์ด เข้ากันได้ดีกับ เคเปอร์ ซึ่งมีรสเค็ม เปรี้ยว นิยมใส่ในอาหารจานปลา เนื้อสด หรือ  กินเป็นออร์เดิร์ฟ สลัด เป็นต้น ซึ่งช่วยชูรสได้ดี โยที่ไม่แย่งความเด่นหรือไปกลบรสของเนื้อ เสิร์ฟมาในถ้วยที่มีลวดลายพื้นผิวเหมือนขอนไม้ Gazpacho Andaluz, mango, rouille, prawn เสิร์ฟมาในภาชนะทรงลูกบาศก์ใส ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ โชว์เนื้อด้านใน ด้านบนเป็นฟอง น่าลิ้มลอง ทำให้อยากรู้ว่าด้านในมีอะไรบ้าง เป็นซุปที่เสิร์ฟมาแบบเย็น มีเครื่องหลากหลายหั่นเต๋า ไม่ว่าจะเป็นขนมปังกรอบ กุ้ง มะเขือเทศ แตงกวา หอมแดง มะม่วง…

Read More

คงจะดีไม่น้อยเลยถ้าคุณสามารถเลือกตักอาหารจีนและสั่งได้อย่างหลากหลายและไม่อั้นมากกว่า 50 เมนู ละลานตระการตาไปกับอาหารจีนชั้นเลิศ ทั้ง เป่าฮื้อ ปลาหิมะ เป็ดปักกิ่ง ฯลฯ วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านไปรีวิว ร้านอาหารจีนระดับหรูยอดนิยมทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ชื่อห้องอาหาร The China House โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล เป็นหนึ่งในห้องอาหารจีนที่มีชื่อเสียงมาช้านานของเมืองไทย ห้องอาหารจะอยู่ด้านนอกของตัวโรงแรม อยู่ตรงถนนด้านหน้าทางเข้าโรงแรม ตั้งแต่เข้ามาในร้านจะสัมผัสได้กับบรรยากาศร้านที่ตกแต่งอย่างสวยงาม จะค่อนข้างมืดนิดนึง บนเพดานจะประดับประดาด้วยโคมแดงจำนวนมาก ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องโถงใหญ่ ตกแต่งสวยงาม เป็นกำแพงไม้ ใช้ไฟโทนสีส้ม อบอุ่น เพดานสูงโปร่ง ด้านบนจะเป็นโคมไฟทรงกลมใหญ่ๆ คล้ายกับดวงจันทร์เต็มดวง ให้กลิ่นอายของความเป็นจีนสมัยก่อน แต่ตกแต่งแบบจีนร่วมสมัย มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ใช้โทนสีแดงเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสีเพดาน กำแพง เก้าอี้ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงเตี๊ยมเซี่ยงไฮ้ในยุค 1970 โถงตรงกลางจะเป็นพื้นที่สำหรับไลน์บุฟเฟ่ต์ สามารถตัก เลือกทานได้ตามใจชอบ ร้านอาหารจะมีสองชั้น ชั้นล่างด้านขวามือในร้านจะมีบาร์น้ำ สามารถนั่งดริ้ง ฟังเพลงจีนเพราะๆ ชิลล์ๆได้ เรามาเริ่มดูไลน์บุฟเฟ่ต์กันเลยครับว่ามีอาหารอะไรบ้าง มาลองเมนูจำพวกซีฟู้ดกันบ้างครับ ปลาเงินทอดพริกเกลือ (Crispy silver fish tossed with chili, garlic and onion) ปลาเงินชิ้นโต ทอดกรอบ สีเหลืองนวล พร้อมกับพริกเกลือรสชาติเค็ม เผ็ดนิดๆ ปลาเงินทอดพริกเกลือ ปลาเงินเนื้อนุ่ม ทอดได้ดีไม่อมน้ำมัน กับพริกเกลือที่รสเข้าเนื้อ กำลังดี มาลองซุปกันบ้างครับ ซุปจานนี้เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่เลย ซุปกุ้งมังกรเสฉวน (‘The China House’ hot and sour soup) เสิร์ฟมาหน้าตาอลังการน่าทานเลยทีเดียว เป็นซุปเสฉวน รสจัดจ้านถูกปากคนไทย เปรี้ยวนำ กำลังดี พร้อมเนื้อกุ้งมังกร กรุบ เด้ง ซุปเสฉวนกุ้งล็อบสเตอร์ มีรสเปรี้ยวนำ จะหนักและเน้นรสเปรี้ยว มีรสเผ็ดร้อนตามสไตล์เสฉวนแต่ไม่แรงมากนัก กับเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์ แน่น นุ่ม กรุบ หวาน…

Read More

วันนี้ทาง Kinlakestars จะพานักชิมทั้งหลายมาลองเมนูใหม่ที่เพิ่งเปิดขายมาได้ประมาณ 1 เดือนกันที่ห้องอาหาร บราสเซอรี ยูโรป้า (Brasserie Europa) โรงแรม Siam Kempinski Hotel Bangkok บรรยากาศภายในร้านตกแต่งทันสมัย เรียบง่าย แต่ดูดี โทนสีสดใส สะอาดตา ใช้วัสดุธรรมชาติหลากหลาย เช่น เคาเตอร์ต้อนรับด้านหน้าทำจากหิน กำแพงกั้นทำจากไม้ โต๊ะหินอ่อน เพดานที่นี่จะสูงโปร่ง ไม่อึดอัด โซนด้านในจะติดกระจกใส มองเห็นวิวสวนด้านนอก ดูปลอดโปร่ง สบายตา และมีห้องส่วนตัวอยู่ด้านในสุดของร้าน 1 ห้อง นั่งได้ประมาณ 6 คน ตรงกลางของห้องอาหารจะมีครัวแบบเปิด ซึ่งเราสามารถชมวิธีการปรุงอาหารของเชฟ พร้อมทั้งเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารได้อีกด้วย Chef Carlo Valenziano เป็นเชฟชาวอิตาเลียน ผู้ซึ่งใส่ใจ และ พิถีพิถันในทุกรายละเอียดของการทำอาหาร เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เชฟพยายามดึงเอารสชาติที่ดีที่สุดออกมาของวัตถุดิบที่สด ใหม่ โดยปรุงแต่งให้น้อยที่สุด เชฟจะรังสรรค์ นำเสนอเมนูเด่นๆจากนานาประเทศในทวีปยุโรป มาปรุงอย่างพิถีพิถัน ตาม Concept อาหารสไตล์ Brasserie แบบยุโรป และจะมีการนำเสนอเมนูอาหารแปลกๆ ใหม่ๆ โดยใช้วัตถุดิบตามฤดูการเพื่อไม่ให้ลูกค้าเกิดความจำเจ เบื่อหน่าย มาลองเครื่องดื่ม Mocktail (Non-Alcoholic Cocktails) กันก่อนเลยครับ เป็น Green Inspiration (230++ บาท) – Ginger, Mint Leaf, Lime Wedge, Lime Juice, Ginger Ale เครื่องดื่มม็อกเทลสีเขียว ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เย็นสดชื่น ซาบซ่า มีรสหวานอมเปรี้ยว ได้รสเปรี้ยวจากมะนาว ได้กลิ่นหอมสดชื่นจากใบสาระแหน่ชัดเจน อีกแก้วนึงเป็น Passion Lychee (230++ บาท) – Lychee Juice, Passion Fruit Juice…

Read More

สำหรับนักกินทั้งหลายที่ชื่นชอบอาหารจีน โดยเฉพาะ All you can eat บุฟเฟ่ต์ติ่มซำ วันนี้ทาง Kinlakestars ขอนำเสนอร้านอาหารจีนใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ ชื่อห้องอาหารจีน Fei Ya ที่มีเมนูอาหาร ให้เลือกทานกว่า 40 ชนิด ราคาสำหรับวันธรรมดา มื้อกลางวัน อยู่ที่ 788++ บาท (927 บาท Net) ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ มื้อกลางวัน ราคาจะอยู่ที่ 988++ บาท(1163 บาท Net)   ทั้งสองราคาจะรวมเครื่องดื่มชาอู่หลง / ชาเก็กฮวยแล้ว ตอนนี้ทุกท่านคงอยากทราบแล้วใช่มั้ยว่ามีเมนูอะไรบ้าง แต่ละอย่างเป็นอย่างไร น่าทานแค่ไหน เชิญติดตามชมกันเลยครับ บรรยากาศในร้านจะค่อนข้างมืดนิดนึง ตกแต่งสไตล์จีนร่วมสมัย หลักๆจะใช้โทนสีแดง ไม่ว่าจะเป็นพื้นหินอ่อน โซฟา เก้าอี้ ผ้าม่าน ในร้านใช้ไฟโทนสีส้ม ให้ความอบอุ่น โรแมนติก มีมุมชงชา ดื่มน้ำชาสำหรับคอชาโดยเฉพาะอีกด้วย ในร้านจะมีโต๊ะบริการหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะกลม โซฟาโค้ง โต๊ะเหลี่ยม ห้องส่วนตัว สามารถเลือกมุมที่ชอบ แบบที่ใช่ได้เลยครับ มาเริ่มเมนูแรกกันเลยครับ ฮะเก๋ากุ้ง (Steamed shrimp dumpling) เสิร์ฟมาเข่งละ 3 ลูก ฮะเก๋าชิ้นโต ทรงสวย ตัวแป้งฮะเก๋าหนาไปนิดนึง แต่นุ่ม ด้านในเป็นไส้กุ้ง เต็มปากเต็มคำ เนื้อเด้งดีครับ ขนมจีบกุ้งและหมูหน้าไข่กุ้ง (Steamed pork & shrimp wrapped with wanton) แผ่นเกี๊ยวขนมจีบเหนียว นุ่ม ด้านในเป็นไส้กุ้งและหมูสับผสมกัน ไส้เยอะ โรยด้านบนด้วยไข่กุ้ง ฮะเก๋า 3 กษัตริย์ (Steamed shrimp dumpling with…

Read More

For foodies who like Chinese food, especially All you can eat Buffet Dim Sum ,today Kinlakestars offers a Chinese restaurant in the city center, conveniently located on the 3rd floor Renaissance Bangkok Ratchaprasong a Chinese restaurant. the menu at Fei Ya To eat more than 40 kinds of prices for weekday lunch at 788 ++ THB (927 THB Net) Saturday – Sunday lunch price is 988 ++ Baht (THB 1163 Net).   Both prices include tea, oolong tea / chrysanthemum and then. Now everyone wants to know, right? What a menu. Each is invited to watch me eat it. The…

Read More

Today Kinlakestars will take you to a tasting menu of dim sum at a Chinese restaurant, the legendary May Flower (The Mayflower), Dusit Thani Bangkok is located on the lobby floor of the hotel. For Maysville Flower there. Cantonese restaurant is the oldest. And reputation of one of Thailand. Opened over 40 years with a contemporary Chinese style decoration. Decorated with wood carvings and beautiful vases vitreous china doll show at various points so beautiful. And with the warm colors of the walls dotted with high-quality color from ICI. Combined with dark wood Chinese. It’s all a touch of…

Read More