Author: Khanenphan Chueanuam

ในปัจจุบันข้าวแช่เริ่มกลับมาได้รับความนิยม และมีการทำขาย ให้บริการแก่ท่านที่อยากลิ้มลองในหลายที่มากขึ้น ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีจุดขายและความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป สำหรับข้าวแช่ชาววังที่โอชานั้นบอกได้เลยว่าเด็ดที่กลิ่นอันหอมหวลจากน้ำอบควันเทียนที่ใช้ทั้งมะลิ กุหลาบมอญ กระดังงา และดอกชมนาด ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน อีกทั้งการเสิร์ฟอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นอย่างไรมาชมกันเลย หากท่านได้เข้ามาในร้านอาหารแห่งนี้ ท่านจะสะดุดตาแปลกใจตั้งแต่แรกเข้า การนำศิลปและองค์ประกอบงานปฎิมากรรม วิจิตรศิลป์แบบไทยมาประยุกต์เข้ากับการออกแบบภายในที่นำสมัย ในพื้นที่และรูปทรงที่ชวนตื่นตา พื้นที่นั่งถูกจัดแต่งออกมาในหลายรูปแบบและมีความเป็นส่วนตัว สวยงม น่านั่ง และมีบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละส่วน ข้าวเม็ดงามความแข็งกำลังดีในน้ำลอยดอกไม้กลิ่นหอมเย็นชื่นใจพร้อมเครื่องเคียงตามตำรับดั้งเดิม อาทิ ลูกกะปิผัด หอมแดงจุกยัดไส้ ปลายี่สนผัดหวานพริกหยวกสอดไส้หุ้มไข่ หมูผัดน้ำพริกมะขาม และหัวผักกาดเค็มผัด ทั้งหมดในราคาเพียง 390 บาท ++ ต้อนรับคิมหันต์ฤดูที่เวียนมาถึงด้วยเมนูข้าวแช่ตำรับชาววังจากสูตรเฉพาะของอาจารย์ กอบแก้ว นาจพินิจ ปูชนียบุคคลด้านอาหารไทยโบราณ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดความเย็นฉ่ำอย่างละเมียดละไมลงบนจานโดยเชฟปูริดา ธีระพงษ์ ข้าวแช่ตำรับชาววัง (The Royal Recipe of Kao-Chae inspired by Professor Kobkaew Najpinij, expert in authentic Thai culinary)  ด้วยรูปแบบถ้วยและภาชนะที่แปลกตาออกไป และที่ทำให้ตื่นตาประทับใจนั้นคือ ควันขาวพริ้วสะบัดจากน้ำแข็งแห้งเมื่อต้องน้ำ ทำให้เกิดภาพอันน่าประทับใจตามคลิปและรูปด้านบน น้ำอบควันเทียน ของที่นี้มีกลิ่นหอมที่ชัดเจนแต่ซับซ้อนกลิ่นของควันเทียนจะลอยเด็นชัดเจน ตามด้วยกลิ่นอันนวลเนียนเบาๆของมะลิ กลิ่นหวานหอมเบาๆจากดอกชมนาดซึ่งหาได้ยากในปัจจุบันแทบจะไม่มีที่ใดใช้อบแล้ว และกุหลาบมอญที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์และชัดเจน ซึ่งรูปด้านบนเป็นดอกไม้ทั้งสามชนิดที่นำมาลอยอบในน้ำอบ ซึ่งน้ำเองก็มิใช่นำ้ธรรมดา เป็นน้ำแร่ที่นำมาจากแหล่งน้ำแร่ทีดีติดระดับโลกจาก อำเภอ ทองผาภูมิ จังหวัด กาญจนบุรี นอกจากน้ำที่มีกลิ่นหอมสดชื่นแล้ว ข้าวนั้นใช้ข้าวเสาไห้เรียงเม็ดสวย ตัวข้าวเองก็มีความแข็งอยู่ในระดับกำลังดี มีความหนึบและไม่นิ่มไปแต่ก็ไม่แข็งไป ลูกกะปิผัด (Shrimps Paste Ball) กะปิชั้นเลิศคลุกเคล้าด้วยปลาช่อนย่างและสมุนไพรไทยที่คุ้นเคย อาทิ กระชาย ตะไคร้ หอมแดง ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ผัดให้สุกได้ที่ นำไปปั้น และนำไปชุบแป้งทอด เสิร์ฟเป็นลูกกลมๆ รสชาติจะออกเค็มนำ มันตาม และมีกลิ่นกระชายเบาๆพอให้สดชื่น หอมแดงจุกยัดไส้ (Stuffed Thai Shallots) เนื้อปลาช่อนย่างบดละเอียด ปรุงรสชาติด้วยน้ำตาลทรายและหอมเจียวผัด  รสชาติกำลังดี พอเหมาะ ใส่ในหอมแดงชุบแป้งทอด กลิ่นหอมเย้ายวนชวนน่ารับประทาน แต่ควรรีบกินทันทีเพราะหากทิ้งไว้นานแป้งที่ชุบอาจจะเเข็งตัวไป ปลายี่สนผัดหวาน (Stir…

Read More

เมื่อหน้าร้อนมาเยือยไทย หากพูดถึงอาหารที่มาคู่กันก็หนีไม่พ้น ข้าวแช่ และ ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งในครั้งนี้ทาง Kinlakestars.com ขอนำเสนอข้าวแช่ชาววังตำหรับ เชฟ วิชิต แห่งร้านข้าว ร้านอาหารไทยรสเลิศ อร่อยล้ำ ที่มีเพียงโต๊ะเดียวซึ่งหากจะลิ้มลองอาหารแต่ละมื้อจากเชฟต้องจองกันข้ามเดือนเลยทีเดียว เข้าฤดูร้อนมาทางร้านข้าวจึงชวน ดับร้อนแบบไทยๆ ด้วย “ข้าวแช่” เมนูสุดพิเศษประจำฤดูร้อนที่ “เชฟวิชิต มุกุระ” ขอแนะนำให้ทุกคนได้มาคลายร้อน เย็นชื่นใจ แบบฉบับชาววัง ซึ่งจำหน่างเพียงวันละแค่ 40 ชุดเท่านั้น ซึ่งจะจัดจำหน่ายเป็นชุดๆ ชุดหนึ่งกินได้ 2 ท่าน และจัดใส่ในชะลอมที่สวยงาม และออแกนิกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใน 1 ชะลอม ประกอบไปด้วย ข้าวและน้ำอบ ข้าวและน้ำอบจะใส่ถุงแยกออกจากกัน ซึ่งบอกได้เลยว่าข้าวทางร้านนั้นเป็นข้าวปลูกเอง ซึ่งปลูกโดยเชฟวิชิตที่นาของบ้านเชฟเอง และให้มาในปริมาณที่เยอะมาก ข้าวไม่แข็งและไม่นิ่มไป ผ่านการหุ่งให้สุกครึ่งและน้ำมาแช่น้ำขัดยางออกตามตำหรับสูตรข้าวแช่โบราณ ในส่วนของน้ำลอยดอกมะลินั้น ทางเชฟเลือกใช้ดอกไม้สองชนิดในการลอยและอบน้ำคือ ดอกมะลิ และ ชมนาด ซึ่งจะให้กลิ่นที่หอมสดชื่นนำ ทางเชฟได้อธิบายว่าดอกไม้สองชนิดนี้เป็นตัวหลักของกลิ่นหอม นอกจากดอกไม้ก็มีควันเทียนด้วย แต่กลิ่นหอมของข้าวแช่ที่นี่นั้น กลิ่นของดอกไม้จะนำ และค่อยมีกลิ่นควันเทียนเบาๆอ่อนๆตามเป็นตัวเสริม ซึ่งช่วยให้รู้สึกหอม สดชื่นยิ่งนัก พริกหยวกสอดไส้ พริกหยวกสอดไส้ของที่นี่นั้นใส้ในพริกหยวกทำจาก หมูบด กุ้งสับ และนำมาปรุงรสด้วย เกลอ พริกไทย รากผักชี ตามแบบฉบับการทำอาหารไทย รสดีลงตัวยัดในพริกหยวก และห่อด้วยไข่กรอบ ซึ่งนอกจากสวยแล้วยังช่วยสรา้งสัมผัสให้สนุกสนานไม่เบื่อเวลาเข้าบาง ในชุดจะให้พริกหยวกสอดไส้มาถึงสองลูก ซึ่งถือว่าเยอะมากทีเดียว ลูกกะปิทอด ลูกกะปิทอดลูกไม่เล็กไม่ให้เกินไปในชุดให้มาหลายสิบลูกเลยทีเดียว กะปินั้นใช้กะปิพรีเมียมอย่างดีนำมาย่างในใบตองด้วยไฟอ่อนๆ และคลุกคล้ากับเครื่องเทศต่างๆเช่นกระชาย และตัวหลักนั้นคือปลาช่อน ซึ่งเชฟอธิบายว่า แม้จะชื่ว่าลูกกะปิ แต่ตัวหลักๆนั้นไม่ใช่กะปิ แต่เป็นปลาช่อน ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด เป็นหนึ่งในเครื่องเคียงที่จัดว่ารสดีมากทีเดียว ด้วยตัวไข่เค็มที่ไม่เค็มและไม่จืดจนเกินไป รสชาติทำออกมาได้พอเหมาะกับการกินเคียงคู่ไปกับข้าวแช่ หมูฝอย หมูฝอย  เป็นหมูฝอยหวานผิวสัมผัสกรอบหอมแดงสอดไส้ชุบแป้งทอด หอมแดงสอดไส้ชุบแป้งทอด สำหรับไส้ของหอมแตงหลักๆจะเป็นปลาช่อน ไชโป้วผัด ไชโป้วผัดของที่นี่นุ่มหนึบกำลังดี รสออกหวานแต่ไม่หวานไป และที่ขาดไม่ได้เลย ซึ่งหลายคนอาจละเลยเวลากินข้าวแช่ นั้นคือ ผักเคียง สำหรับผักเคียงในชุดจะประกอบไปด้วย กระชาย มะม่วง และแตงกวา…

Read More

อาหารรสเยี่ยมและดีต่อสุขภาพสามารถไปด้วยกันได้ พบเมนูสุขภาพมากมายที่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์เพื่อสุขภาพและปรุงด้วยเชฟฝีมือดี ออกมาเป็นอาหารที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน หลังจากที่เราได้พาทุกท่านไปพักผ่อนที่โรงแรม Well Hotel โรงแรมแห่งสุขภาพในรีวิว นอนโรงแรมยังไงให้มีกล้าม!!! ที่ Well Hotel Bangkok : Well being : life balance กันไปแล้ว วันนี้เราจะพาทุกท่านไปสัมผัสกับอาหารกลางวัน และดินเนอร์จากห้องอาหาร Well Cafe ของโรงแรม Well Hotel กันบ้างครับ Well Cafe เป็นห้องอาหารคุณภาพ ของโรงแรม Well Hotel ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 20 ครับ ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านมาชิมทั้งอาหารกลางวัน และดินเนอร์ในรีวิวนี้รีวิวเดียวเลยครับ เริ่มแรกหลังจากมานั่งที่โต๊ะ พนักงานจะเสิร์ฟด้วยขนมปังเพื่อสุขภาพที่มีให้เลือกมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็น โฮลวีท ชาร์โคล ธัญพืช ฯลฯ ก่อนเริ่มเมนูอาหารเราก็ได้รับการแนะนำว่าให้ลองสั่งเมนูสมูทตี้ 100% ที่ทางห้องอาหารเรียกว่า Juice Therapy ที่แต่ละเมนูล้วนมีประโยชน์และช่วยบำรุงร่างกายในด้านต่างๆ มากินก่อนมื้ออาหารครับ ผมจึงลองสั่งมาดื่ม 3 ตัวรวดเลยครับ นั่นคือ Inner Peace (De-Stress) สมูทตี้ที่ผสมผักโขม บร็อคโคลี่ ผักชีฝรั่งและแครอท ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องลดความเครียด ความกังวล จากการทำงานหนักและสิ่งแวดล้อมต่างๆ ครับ Jet Lag Remedy (Refresh) สมูทตี้ที่มีส่วนผสมของบีทรูท ก้านผักชีฝรั่ง คะน้าจีน แตงกวา แอปเปิล แครอท และขิง ช่วยในเรื่องเพิ่มความสดชื่น สดใส มอบพลังงานให้พร้อมรับกับวันใหม่ ลดความเหนื่อยล้า Release Emotional (Relax) สมูทตี้ที่มีส่วนผสมของแครอท แอปเปิล เลมอน ขิง พาสเล่ย์ และมะพร้าว ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล และปลดปล่อยอารมณ์ครับ ส่วนด้านล่างนี้เป็นน้ำทับทิมรสเปรี้ยวหวานที่ทางห้องอาหารนำมาต้อนรับ สดชื่นมากๆ มาเริ่มมื้ออาหารกลางวันกันเลยครับ เป็น Special Set Lunch Food Therapy Menu…

Read More

KinlakeStars.com พาไปชิมเมนูใหม่ประจำเทศกาลที่มีขื่อว่า I Believe I Can Fly เมนูที่รังสรรค์สัตว์ปีกชั้นเยี่ยมมาปรุงแต่งโดย เชฟสุพจน์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ประจำ Hilton Sukhumvit โดยเชฟได้แรงบรรดาลใจมาจากเพลงโปรด I Believe I Can Fly ของศิลปิน R. Kelly เป็นต้นแบบในการดีไซน์อาหารในครั้งนี้ครับ เป็นที่ทราบกันดีครับว่าห้องอาหาร Scalini แห่ง Hilton Sukhumvit นั้นจะมีการสลับสับเปลี่ยน Festive Chef และ Festive Menu ในแต่ละเทศกาล ซึ่งเมื่อวันที่ 3 เมษายนนี้ ทางห้องอาหารได้นำเสนอเมนูใหม่ที่ใช้วัตถุดิบจากไก่ เป็น นกพิราบ นกกระทา และห่านจากฟาร์มธรรมชาติเพื่อคุณภาพและความอร่อยของทุกท่าน วันนี้ Scalini จะมีอะไรมาแนะนำกันบ้าง ไปชมกันเลยครับ เริ่มเรียกน้ำย่อยด้วยออเดิร์ฟหลากหลายแบบตามธรรมเนียมกันเล็กน้อยครับ ต่อด้วยไวน์ขาว PROTILLO สักแก้วเพื่อเพิ่มความร้อนแรงให้อารมณ์ได้โบยบินไปกับอาหารสี่จานสุดพิเศษต่อจากนี้ครับ มาเริ่มที่เมนูแรกครับ Fly Me To The Moon (750.- ++) Homemade Pappardelle pasta with confit magret duck sauce, asparagus and fava bean ปัพพาร์เดลเล่พาสต้าเส้นนุ่มหนึบกำลังดี ไม่แข็งไม่อ่อนจนเละ ราดซอสรสเปรี้ยวนำหวานที่ทำจากเนื้ออกเป็ดมาเกร็ดสโลวคุกจนได้เนื้อนุ่มหอมหวาน คลุกเคล้ากับหน่อไม้ฝรั่งและถั่วปากอ้า สุดท้ายโรสด้วยชีสและพริกไท กินทั้งหมดพร้อมกันได้สัมผัสหนึบ นุ่ม กรุบ วาไรตี้มากครับ เมนูที่สอง In The Air Tonight (1,200.- ++) Roasted organic Bresse pigeon sautéed garden vegetables, white truffle scented creamy polenta, Porto wine sauce โบยบินไปกับส่วนปีกและเนื้อนกพิราบที่กรอบนอกนุ่มในเหนียวกำลังดี…

Read More

KinlakeStars.com พาไปเปิดประสบการณ์เทปันยากิแบบไลฟ์สเตชั่น จากสุดยอดเชฟและสุดยอดวัตถุดิบ เบนิฮานา ห้องอาหารญี่ปุ่นสไตล์เทปันยากิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วทุกมุมโลก ในประเทศไทยนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 สาขาครับ นั่นคือ สาขาโรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ สาขาโรงแรมอวานี พัทยา และล่าสุด สาขาโรงแรมอวานี เอเทรียม กรุงเทพ ฯ ที่มีสไตล์การตกแต่งและรูปแบบอาหาร และเมนูต่างๆให้ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งวันนี้เราจะพามาที่สาขาใหม่ล่าสุดนี่แหละครับ เบนิฮานา เป็นที่รู้จักของนักชิมทั่วโลก เพราะมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนนั่นคือ เทปันยากิโชว์ โดยแขกจะตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ย่างก้าวเข้าร้าน ซึ่งพนักงานจะตีฆ้องกังวาลต้อนรับแขกทุกท่าน ไปจนถึงการแสดงที่ไม่ธรรมดาของเชฟที่ปรุงอาหารสดๆ กันถึงโต๊ะตลอดมื้ออาหารเลยครับ ร้านอาหารเบนิฮานาสั่งสมชื่อเสียงและเปิดมาอย่างยาวนานกว่า 53 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ.1964 โดยมิสเตอร์ ร็อคกี้ ฮิโรอากิ โอกิ Hiroaki Aoki ก่อตั้งร้านสเต็กเฮ้าส์สไตล์ญี่ปุ่นที่ไม่ธรรมดานี้ขึ้นที่ใจกลางมหานครนิวยอร์ค โดยชื่อ เบนิฮานา นั้นมีความหมายว่าดอกไม้สีแดง เบนิ แปลว่า สีแดง ฮานา แปลว่า ดอกไม้ โดยสัญลักษณ์ของร้านนั้นยังสื่อถึงกระต่ายในโชว์มายากลอีกด้วย จึงเป็นตัวแทนของความสนุกสนานและตื่นตาของมื้ออาหารทุกมื้อ โดยร้านจะมีคอนเซปว่า “ทุกมื้ออาหาร คือการแสดง” คุณร็อคกี้ ฮิโรอากิ โอกิ นั้นมีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัว กับคุณวิลเลียม อี.ไฮเนคกี้ William E. Heinecke CEO และ Chairman ของ Minor Corporation, CEO และ Chairman ของ Minor International, รวมไปถึง Chairman ของ Minor Food Group.[1] จึงมีการชักชวนให้มีการนำห้องอาหาร เบนิฮานา เข้ามาในโรงแรมของเครือ Minor Hotels ในประเทศไทย และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผมและ KinlakeStars.com จะพาทุกท่านไปรับชมการแสดงสุดอร่อยและอลังการกันแล้วครับ “ทุกมื้ออาหาร คือการแสดง” ใน 1 มื้ออาหารเมื่อสั่งเมนูเทปันยากิทุกเมนู ทุกท่านจะได้รับ อาหารเรียกน้ำย่อยเป็นซุปหัวหอม เบนิฮานาสลัด…

Read More

ฤดูร้อน ก่อนเก่า ทำข้าวแช่           น่าชมแต่ เครื่องกับ สำรับฉัน ช่างทำเป็น ดอกจอก และดอกจันทร์         งามจนชั้น กระชายทำ เหมือนจำปา มะม่วงดิบ หยิบดู จึ่งรู้จัก              ช่างน่ารัก ทำเป็น เช่นมัจฉา (ความจาก “รำพันพิลาป” ของสุนทรภู่ รัตนกวีสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์) Kinlakestarss.com  เชิญชวนทุกท่านสัมผัสความอร่อยของข้าวแช่ เครื่องครบ ณ โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ กรุงเทพฯ แบบ   ไม่จำกัดของเมนูพิเศษประจำฤดูกาล คลายร้อนตำรับโบราณ ไปกับ  “ข้าวแช่มิสสยาม” โปรฯ บัตร KTC มา 3 จ่าย 2 ท่ามกลางบรรยากาศความคลาสสิกแบบไทยร่วมสมัย ข้าวแช่มิสสยามรังสรรค์โดยหัวหน้าเชฟอาหารไทยแถวหน้า ไพโรจน์ ประไพรักษ์ ที่ยังคงสืบทอดต้นตำรับข้าวแช่ คัดสรรวัตถุดิบและสมุนไพรชั้นเลิศ พิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุง ตลอดจนการให้บริการแบบไทย จุดเด่นสำคัญอยู่ที่การนำข้าวมาแช่ในน้ำลอยดอกมะลิ ดอกชมนารถ  ดอกกุหลาบมอญ และกระดังงา ทำให้ได้รสชาติหอมหวาน เคล้ากลิ่นละมุนจากการอบควันเทียน ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับเคียง กับ ที่กินกับข้าวแชามากมายบน ไลน์บุฟเฟ่ต์ ที่ทำเติมมาเรื่อยๆ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงหลากหลาย รสชาติครบรส อาทิ ลูกกะปิ ไข่แดงเค็มทอด  สำหรับเครื่องเคียงตัวนี้ ไม่ได้ทำทุกที่ ไข่แดงเค็มทอดรสมัน กลม แต่ไม่เค็มเลย ซึ่งอร่อย กินได้เรื่อยๆ ไชโป๊วผัดหวาน ไชโป๊วหวานที่นี้ นุ่ม ไม่เหนียว และไม่หวานเกินไป รสกำลังดี พริกหยวกสอดไส้หมู หอมแดงสอดไส้ปลาแห้ง หมูหวานฝอย หมูทอดปลาอินทรีย์ ปลาแห้งแตงโม ปลาแห้งแตงโมเป็นขนมที่ชาววังที่นิยมกินกันในช่วงฤดูร้อน เพื่อผ่อนคลายความร้อนและให้ความสดชื่น ความพิเศษของปลาแห้งแตงโมที่นี่คือ แตงโมจะคว้านออกมาเป็นลูกกลมๆ เล็กๆ และห่ออยู่ในลำใยสด ทำให้ความเค็มๆหอมๆจากปลาแห้ง แตงโมหวานๆฉ่ำน้ำ กับความหวานจากลำใยสด และเครื่องเคียงผักสดอย่าง ใบแตงกวา ดอกกระชาย…

Read More

มากกว่าโรงแรม Well Hotel ชีวิตดี นอนดี กินดี อยู่ดี เหมือนมาศูนย์สุขภาพ แหล่งผ่อนคลายใจกลางเมืองเพื่อสุขภาพ Well Hotel Bangkok โรงแรม 4 ดาวแห่งใหม่ย่านสุขุมวิทที่คำนึงถึงสุขภาพของผู้มาพักเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องห้องพัก สปา ฟิตเนส และอาหาร ที่เดียวจบ ครบเรื่องสุขภาพ Well Hotel Bangkok ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 20 มีห้องพักทั้งหมด 235 ห้อง ตกแต่งด้วยสไตล์ Art Deco เน้นการใช้เส้น ลวดลายที่เรียบง่าย แต่ดูแข็งแรง ให้ความรู้สึกร่วมสมัย แอคทีฟ และสบายตา โทนสีหลักจะเน้นใช้สีครีมและเทา เดินเข้ามาจะเห็นห้องโถงบริเวณล็อบบี้กว้างขวางดูหรูหรา บริเวณที่นั่งตรงล็อบบี้เราจะเจอกับ Infused Water เพื่อสุขภาพที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ด้วยครับ ด้านขวาของล็อบบี้จะมีโซฟาและเจ้าหมียักษ์ตัวนี้คอยให้บริการอยู่ครับ น่ารักมากๆ เลย เมื่อเช็คอินแล้วก็ถึงเวลาเข้าห้องพักครับเปิดเข้าห้องพักมาเราจะเจอกับห้องนั่งเล่นที่มีบริเวณกว้างขวางพอสมควรและมีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้บริการพร้อมเลยครับ ที่เห็นด้านขวามือคือที่ปั่นจักรยานและอุปกรณ์ออกกำลังกายซึ่งเราจะเก็บไว้เล่นในวันพรุ่งนี้กันครับ ห้องจะใช้สีโทนอุ่นเช่นสีครีมและขาว สัมผัสได้ถึงการพักผ่อนและสุขภาพที่ดี เดินเข้ามาจะเห็นเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นทีวี ไมโครเวฟ และตู้เย็น สิ่งที่ผมชอบมากคือห้องพักทุกห้องของที่นี่จะมีพอร์ตการเชื่อมต่ออุปกรณ์ไอทีครบทุกแบบที่เราต้องการเชื่อมต่ออยู่ตามจุดต่างๆ ของห้อง ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าหากมาพักที่นี่ เราจะลืมสายเชื่อมต่อ หรืออแดปเตอร์ไฟชนิดต่างๆ ครับ บริเวณบาร์เครื่องดื่มจะมีเบียร์ ซอฟต์ดริ้งค์ น้ำแร่ ขนม และชา กาแฟ ครับ ตรงโซฟาเราจะเจอกับ complimentary แรกคือผลไม้สดที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ครับ สำรววจห้องนั่งเล่นกันมาแล้ว ทีนี้เราเดินไปที่ห้องนอนกันบ้างดีกว่า ระหว่างทางเราจะเจอกับตู้เสื้อผ้าและผ้าคลุมอยู่ขวามือ เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับโต๊ะทำงาน และห้องนอนครับ ขนาดของห้องนอนก็กว้างขวางมาก ที่สำคัญเตียงดูนุ่มน่านอนสุดๆ เดินมาดูที่เตียงก็เจอ Complimentary ที่สองนั่นคือน้องหมีน้อยที่นั่งรอเราอยู่บนเตียง พร้อมกับหมอนปักข้อความ Well Sleep เพื่อให้ตรงตามคอนเซ็พท์ของโรงแรมครับ เตียงและห้องน้ำจะแยกส่วนออกจากกัน แต่จะสามารถมองทะลุเข้าไปได้เนื่องจากมีประจกและม่านกั้นไว้ ตอนเช้าๆ เราก็สามารถนอนแช่น้ำในอ่างแล้วดูวิวไปพร้อมๆ กันก็ได้เช่นกัน บริเวณห้องน้ำก็กว้างขวางพอสมควรครับ มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนตามมาตรฐาน พาน้องหมีมาลงอ่างดีมั้ยเนี่ย ตรงบริเวณอ่างอาบน้ำสามารถมองออกไปด้านนอกได้ ตื่นเช้ามาจิบชาร้อนๆ พร้อมแช่น้ำสักแก้วก็ฟินดีนะครับ อันนี้เป็นภาพเมื่อคืนครับ สนุกทุกครั้งที่ได้เล่นฟองในอ่างน้ำ (ทำเป็นเด็กไปได้) หลังจากสำรวจห้องนอนเสร็จแล้วเราก็เก็บของแล้วมาเดินสำรวจบริเวณส่วนต่างๆ ของโรงแรมอีกเล็กน้อย เนื่องจากตอนเย็นเราจะมีเข้าคลาสต่อยมวย และนวดสปาซึ่งเป็นบริการพิเศษให้กับลูกค้าที่ต้องการ…

Read More

KinlakeStar.com วันนี้จะพาทุกท่านไปชมไปชิมอาหารที่ผสมผสานเอาความเป็นญี่ปุ่นและอิตาเลี่ยน โดยเชฟญี่ปุ่นจากโอกินาว่า รวมกันได้อย่างลงตัว ที่ห้องอาหาร Scalini โรงแรม Hilton สุขุมวิท ที่อยู่เพียง 1 เดือนเท่านั้น !!! Guess Chef พิเศษในช่วงนี้คือเชฟมาสะโนริ เทสุเกะ รับเชิญตรงจากญี่ปุ่นครับ ถือว่าเป็นเชฟคนที่ 2 ต่อจากเชฟริคาโด จากอิตาลีที่ได้รับเป็นอย่างดีครับ ก่อนเริ่มงานมีการกล่าวเปิดงาน และแนะนำตัวจากเชฟ โดยเชฟมาสะโนริ เทสุเกะปัจจุบันเป็นเชฟอิตาเลียน จากโรงแรม Hilton โอกินาวาประเทศญี่ปุ่นครับ บนโต๊ะจะมีเมนูที่ออกแบบคล้าย Love Letter ประดับด้วยโอริกามิสไตล์ญี่ปุ่นพับเป็นรูปหัวใจสีแดง ได้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ วางต้อนรับอยู่ด้วยครับ เรามาดูเมนูพิเศษที่เชฟนำเสนอกันวันนี้กันดีกว่าครับ Starter “Hamachi carpaccio” (650.- ++) Caviar, sea grape, petti tamato, mesclun, black olive soil, citrus dressing เมนูคาปาชิโอ ปลาฮามาจิ เสิร์ฟพร้อมซุปครีมมะเขือเทศ เข้มข้น ท็อปด้วยคาร์เวีย รสเค็มกรึบ ซีวีทคาร์เวีย หรือ สาหร่างพวงองุ่นนั้นเอง  ผักสลัด และมะเขือเทศสด เพิ่มรสชาติด้วยมะกอกบด เป็นสตาร์ทเตอร์ที่เอาไว้เปิดเมนูอื่น และเรียกน้ำย่อยได้ดีครับ กินแล้วสดชื่นเพราะได้ความเปรี้ยวจากมะเขือเทศและมะกอก ความหวานและสดฉ่ำ จากเนื้อฮามาจิเข้ากันได้ดีครับ Main dish “Tataki” (1,200.- ++) Seared Wagyu beef tenderloin, daikon, coriander, radish, beef shank, consommé and Katsuobushi เมนูจานหลักเอาใจคนรักวากิวส่งตรงจากญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมหัวไชเท้า หอมแดง คอนซูเม่ และผักชี ตัวเนื้อวากิวเชฟปรุงได้สุกกำลังดีเลยครับ มีความ juicy ยังฉ่ำ นุ่มและเห็นสีของเนื้ออยู่โดยเชฟจะนำเนื้อไปเซียบนไฟอ่อนเพิ่มความหอม สุดท้ายจะราดด้วยซุปใส ซึ่งมีกลิ่นที่หอม รสกลมกล่อม เหมือนซุปสไตล์ญี่ปุ่น…

Read More

กินพิซซ่าแบบอิตาเลียนใต้แท้ ณ Limoncello Ristorante Pizzeria กับพิซซ่าเตาอบไม้ วัตถุดิบจากอิตาเลียน รส สัมผัสที่ชวนให้ปลื้มและดีต่อใจ Limoncello Ristorante Pizzeria หนึ่งในร้านพิซซ่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วยความเป็นร้านพิซซ่าโดยเฉพาะ ซึ่งแตกมาจากเครื่อง Zanotti ซึ่งนอกจากพิซซ่าแล้ว ร้าน The Limoncello Ristorante Pizzeria ยังให้บริการเมนูเต็มรูปแบบของอาหารอิตาเลี่ยนที่มีคุณภาพสูง นำเข้าวัตถุดิบชั้นเลิศจากอิตาลีทุกสัปดาห์ พิซซ่าทุกถาดทำในเตาอบที่ใช้ไม้ ซึ่งเป็นเตาที่ได้รับการพิจารณาในหมู่นักกินว่าที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ร้านพิซซ่า Limoncello Ristorante Pizzeria  มีพื้นที่เพียงพอที่จะจัดงานในตอนเย็น หรือไม่ว่าจะมากินกับเพื่อนๆจาก บริษัท สังสรรค์กับเพื่อนเก่า หรือ ดื่ม กิน กับครอบครัว สไตล์ไหนก็ลงตัว บรรยากาศในร้านตกแต่งด้วยสีโทนอุ่น โปร่งโล่งสบาย ตามสไตล์อิตาเลี่ยนครับ ทุกโต๊ะจะมี Chili oil สูตรพิเศษวางไว้ให้รับประทานคู่กับพิซซ่าครับ รสชาติดีงามมากจริงๆ อยากขโมยกลับเลยครับ แต่ขวดใหญ่ไปหน่อย ^^ มองเข้าไปด้านหลังร้านเราจะเห็นเซฟและผู้ช่วยยืนนวดๆ คลึงๆ และอบพิซซ่ากันให้เห็นแบบสดๆ ดูลีลาการร่อนแป้งของเชฟระหว่างรอก็เพลินดีนะครับ และในวันนี้ KinlakeStars.com เราได้ลิ้มลองพิซซ่าทั้งหมด 4 หน้า ดังต่อไปนี้ครับ 1. Pizza Zanotti พิซซ่าแป้งบางกรอบสไตล์อิตาเลี่ยนแท้ๆ  ความเค็มของพาร์ม่าแฮมอย่างดีนำเข้ามาตัดกับความหอมมันของมอสซาเรลล่าชีสได้เป็นอย่างดี เพิ่มรสชาติด้วยซอสมะเขือเทศ และชุ่มฉ่ำไปด้วยมัสคาโปนครีมชีสที่ให้สัมผัสหอมตั้งแต่คำแรกที่กัด 2. Pizza Limoncello พิซซ่าสูตรพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน ด้วยแฮมและเห็ดที่ใส่มาเป็นเต็มๆ บวกกับกอกอนโซลาและมอสซาเรลล่าชีส ทำให้แต่ละคำที่กัดลงไปเต็มไปด้วยความฟินครับ อีกทั้งซอสมะเขือเทศและร็อคเก็ตใบใหญ่ สด กรอบ ที่โรยมาด้านบนยังเพิ่มความหอมและอร่อยให้พิซซ่าถาดนี้ได้อย่างลงตัว 3. Pizza Evotica เอาใจคนชอบความจัดจ้านกลัวความเลี่ยนของพิซซ่า ผมขอแนะนำหน้านี้ครับ พิซซ่าหน้าไส้กรอกอิตาเลี่ยนและซาลามี่ เพิ่มความจัดจ้านและร้อนแรงด้วยมอสซาเรลล่าชีส ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ และหอมหัวใหญ่ โดยที่เราสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะให้เพิ่มความเผ็ดด้วยพริกหยวก หรือพริกชี้ฟ้า 4. Pizza Smoke Salmon ขาดไม่ได้สำหรับเด็กๆ หรือผู้รักแซลมอนครับ แซลมอนรมควันรสชาติดีงามสไลด์แผ่นใหญ่ๆ วางทับมาบนมอสซาเรลล่าชีสและซอสมะเขือเทศแบบดั้งเดิมแค่นี้ก็เอาอยู่แล้วครับ โดยถาดนี้ผมสั่งมาแบบครึ่งถาดพร้อมเมนูที่สาม ด้วยความที่กลัวจะกินไม่หมดครับ…

Read More

จะมีอะไรดีไปกว่าการได้กินวนไปเรื่อยๆตั้งแต่เที่ยงครึ่งยันเย็นแบบไม่อั้น ทั้งซีฟู้ด อาหารคาวหวาน ไม่อั้น สั่งทำพรีเมียมได้เรื่อยๆ และ Champange สุดพรีเมียม Louis Roederer Brut Premier NV ไม่จำกัด !!! สวัสดีครับทุกท่านวันนี้ KinlakeStars.com จะพาทุกท่านไปรับประทาน Sunday Brunch ที่โรงแรม Siam Kempinskiโดยจุดไคลแมกซ์ของที่นี่คือเป็น Longest Sunday Brunch ที่เปิดบริการตั้งแต่ 12:30-17:00 ซึ่งยาวนานถึง 5 ชั่วโมงกันครับ !!! โรงแรม Siam Kempinski สามารถเดินมาจากทางเชื่อมห้างสรรพสินค้า Siam Paragon ทางด้านหลัง หรือจะขับรถเข้ามาทางเข้าลานจอดรถด้านหลัง Siam Paragon แต่ให้เลี้ยวเข้ามาที่โรงแรมแทนก็ได้เช่นกันครับ เดินมาถึงด้านในจะเจอกับพนักงานที่พร้อมคอยต้อนรับ ให้บริการ และห้องโถงที่โอ่อ่าหรูหราประดับประดาไปด้วยดอกไม้ เพดานสูงโปร่งโล่งสบาย และมีน้ำพุตามจุดต่างๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นเหมาะกับวันอาทิตย์ชิลๆแบบนี้มากๆ ครับ Sunday Brunch Brasserie Europa Siam Kempinski Review เดินมาทางขวามือเราจะเจอกับห้องอาหาร Brasserie Europa ครับ จากนั้นก็แจ้งชื่อเราที่จองไว้กับพนักงาน แล้วจะนำเราไปนั่งที่โต๊ะ Sunday Brunch Brasserie Europa Siam Kempinski Review มองเข้าไปจะเห็นไลน์อาหารเรียงรายอยู่มากมาย นึกไว้แล้วครับว่า 5 ชั่วโมงต่อจากนี้จะไม่ไปไหน จะกินให้ครบทุกอย่าง ไหวไหมลองกัน Sunday Brunch Brasserie Europa Siam Kempinski Review พนักงานพาเราเดินมาถึงโต๊ะแล้ว เราจะเห็นกับอุปกรณ์ต่างๆ เตรียมพร้อมสำหรับการรับประทานอาหารวางเอาไว้อยู่มากมายครับ โดย Sunday Brunch ของที่นี่จะมีทั้งหมด 3 ราคา โดยราคาสำหรับอาหารพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะราคา 3,500++ ซึ่งถ้าใครดื่มแอลกอฮอล์แพคเกจราคานี้ผมว่าคุ้มที่สุด ส่วนจะคุ้มยังไงเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังครับ นอกจากนั้นก็จะมีราคาอาหารพร้อมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในราคา 2,400++ และ 1,200++ สำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี โดยที่บนโต๊ะจะมีเมนู drink list และ…

Read More