Author: Khanenphan Chueanuam

KinlakeStars.com ชวนคุณมากินลมชมวิว พร้อมอาหารอร่อยไปกับ lounge & bar บนสวนลอยฟ้าที่สูงที่สุดในกรุงเทพมหานคร ชั้น 52 โรงแรม Banyan Tree Bangkok ให้ทุกท่านสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ครอบครัว และคนที่รักในช่วงเวลาที่แสนวิเศษ Saffron Sky Garden เป็น lounge & bar ของห้องอาหารไทย Saffron อันเป็นห้องอาหารที่ขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของโรงแรมบันยันทรี โดยอาหารที่เราสั่งนั้นเป็นเมนูใหม่ที่เชฟได้แรงบันดาลใจมาจาก Street food ของไทยโดยนำเมนูอาหารไทยต่างๆ มาปรับปรุงให้สวยงามแปลกใหม่ในรสชาติดั้งเดิมสร้างความตื่นตาให้กับผู้มาเยือน หากจะมาที่นี่แนะนำให้มาก่อนพระอาทิตย์ตกท่านจะเห็นความงดงามของท้องฟ้าเมืองหลวงยามอาทิตย์ลับแสงอันมีฉากด้านหน้าเป็นตึกน้อยใหญ่ตั้งเรียงราย มองแล้วเป็นบรรยากาศที่สวยงามจริงๆ ครับ มัวแต่ชมบรรยากาศเพลินอาทิตย์ก็เริ่มลับขอบฟ้าท้องก็ร้องแล้วครับ เรามาสั่งอาหารกันดีกว่า โดยเมนูที่เราจะพามาแนะนำให้กับทุกท่านในวันนี้มีหลายเมนูมากครับ แต่จะมีอะไรบ้างไปชมกันเลย ลาบหนวดหมึกทอด เมนูกินเล่นเอาใจคนรักของทอด โดยเชฟจะนำหนวดหมึกชิ้นเล็กๆ เคี้ยวกำลังดีมาทอดด้วยแป้งปรุงรสลาบ ใครที่คิดว่ารสชาติกลางๆ คุณคิดผิดนะครับเพราะรสชาติถึงเครื่องลาบจริงๆ กินแกล้มเครื่องดื่มเพลินมากๆ เสิร์ฟมาพร้อมซอสมัสตาร์ดและมะม่วงเปรี้ยวสไลด์บางๆ ไว้ตัดรสแก้เลี่ยน เกี๊ยวกรอบกระเพราไก่ เมนูของทอดอีกเมนูนึงที่มีความครีเอทมาก เพราะโดยปกติแล้วเกี๊ยวทอดจะมีไส้เป็นหมูสับแต่เชฟนำหมูสับมาผัดกระเพราห่อด้วยเกี๊ยวแล้วนำไปทอดกรอบจนเหลือง ที่สำคัญไม่อมน้ำมันเสิร์ฟพร้อมใบกระเพรากรอบ ในเข่งไม้ สามารถจิ้มน้ำจิ้มรสหวานเผ็ดเพิ่มความอร่อยได้ครับ ปอเปี๊ยะมัสมั่น มาต่อกันด้วยของทอดอีกเมนูนึงครับ นั่นคือเมนูที่นำปอเปี๊ยะและอาหารไทยที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดีอย่างมัสมั่นมารวมกันได้อย่างลงตัว ปอเปี๊ยะกรอบๆ ชิ้นพอดีคำถูกทอดให้เหลืองน่ารับประทานสอดไส้ด้านในเป็นไส้มัสมั่นหอมเครื่องแกงจิ้มน้ำจิ้มหวานเผ็ดเข้ากันดีครับ เนื้อคำหวาน เมนูที่ผมชอบที่สุดในวันนี้ครับ เนื้อวัวที่เชฟนำไปสโลว์คุกกับซอสจนเนื้อนุ่มละลายในปาก เสิร์ฟเป็นคำพร้อมกับเนื้อลำไยหวานๆ กรอบๆ กินพร้อมกันช่วยดึงรสชาติเนื้อให้ยิ่งโดดเด่น อร่อยมากถึงกับต้องสั่งสองรอบครับ ใครมาต้องลอง กุ้งย่างพริกสด กุ้งขาวตัวใหญ่พอดีคำนำไปย่างให้หอมไม่แห้งจนเกินไป เสียบไม้ที่ทำจากก้านตะไคร้เพื่อเพิ่มความหอมราดด้วยซอสผัดพริกสดหวานเผ็ดโรยตะไคร้ซอย เสิร์ฟบนข้าวตังกรอบชิ้นพอคำ เวลากินให้บีบมะนาวเพิ่มความเปรี้ยวนิดจะอร่อยมากครับ ยำมะเขือปู เมนูกินเล่นอีกเมนูหนึ่งที่เสิร์ฟด้วยการตกแต่งหน้าตาให้มีความสวยงาม ด้วยถ้วยแก้วที่ด้านในบรรจุไปด้วยมะเขือเผาที่เผาจนได้กลิ่นสโมคกี้ยำคลุกเคล้ากับเนื้อปูรสชาติคล้ายยำถั่วพลูเพราะมีกะทิเป็นส่วนผสม ท๊อปด้วยไข่นกกระทาและคาร์เวีย ต้มข่าหอยเชลล์ ต้มข่ากะทิที่เสิร์ฟมาในลักษณะเหมือนคาปูชิโนที่เต็มไปด้วยฟองนม แต่แทนที่ด้วยฟองครีมกะทิแทน ตัวหอมเชลล์เชฟกริลมาอย่างดียังคงความกรอบและฉ่ำ ตัวน้ำแกงหอมถึงเครื่องต้มข่า ซึ่งในน้ำแกงมีดอกโสน กุ้ง และเห็ดอยู่ด้วย ด้านบนท๊อปด้วยผักชีและปิดทองเพื่อเพิ่มความสวยงาม ผัดไทกุ้งสด อาหารประจำชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเส้นผัดไทเหนียวนุ่มผัดจนเครื่องเข้าเส้น กุ้งตัวใหญ่สดกรอบ เสิร์ฟพร้อมมะม่วงฝอยและยำหัวปลีที่ปกติจะรับประทานสด แต่พอนำมายำก็ทำให้ได้รสชาติดีไปอีกแบบครับ Thai Cream Brulee ขนมหวานเมนูแรกได้แรงบันดาลใจมาจากขนมถ้วย แต่แทนที่จะใช้กะทิเชฟหันมาใช้เนื้อขนมเป็น cream brulee แทนโดยเนื้อครีมจะแบ่งออกเป็น 3 รสชาติครับได้แก่ ชาไทย กะทิขิง และใบเตย…

Read More

สเต็กชั้นเลิศด้วยวัตถุดิบชั้นยอดจากทั่วทุกมุมโลกนำมาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองที่  New York Steakhouse ตำนานแห่งโลกอาหารที่ยังคงโลดแล่นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สุดยอดที่คอเนื้อห้ามพลาด หากพูดถึงร้านสเต็กในเมืองไทย คอสเต็กคงต้องนึกถึง New York Steakhouse เป็นอันดับต้นๆ แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยลิ้มลองคงจะมีคำถามในใจว่าที่นี่มีอะไรดี ถึงได้ถูกอกถูกใจนักชิมกันนัก วันนี้ KinlakeStars.com จึงหาโอกาสพาทุกท่านไปสัมผัสประสบการณ์สุดฟินกับเรากันครับ New York Steakhouse เป็นห้องอาหารแบบ Fine Dining ในบรรยากาศแบบนิวยอร์ค ห้องอาหารตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลเข้ม ตัดกับผนังโทนสีขาว ที่ประดับไปด้วยรูปถ่ายมหานครนิวยอร์คในสมัยก่อน ให้ความรู้สึกหรูหรา โดยนำเสนอเมนูสเต็กเนื้อชั้นเลิศจากเนื้อวัวคัดเกรดพิเศษที่มีให้เลือกทั้งเนื้อนำเข้าจากอเมริกา ออสเตรเลียและญี่ปุ่น รวมถึงซีฟู้ดชั้นเลิศจากทั่วโลกทั้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่และอาหารทะเลอีกนานาชนิด เคียงคู่กับเครื่องดื่มทั้งไวน์นำเข้าจากทั่วโลกและมาร์ตินี่ซึ่งเป็นค็อกเทลสัญลักษณ์ของมหานครนิวยอร์ค ถึงเวลาของมื้ออาหารแล้วครับหลังจากที่ชมความสวยงามของห้องอาหารกันซะเพลิน ต้องบอกว่าวันนี้เราจะจัดเต็มกับเมนูต่างๆ ที่อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองกันหลายเมนูเลยครับ ส่วนจะมีเมนูอะไรบ้างไปชิมกันเลย มาเริ่มกันที่เครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยกันก่อนครับ วันนี้ผมได้สั่งค็อกเทลกันก่อนครับ ด้วยมาร์ตินี่สามแบบสามสไตล์ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ ได้แก่  Cosmopolitan (สีชมพู) , Kyoto (สีฟ้า)  และ 5th Avanue (สีเขียว)   ค็อกเทลสีสันสดใส เสิร์ฟมาในแก้วมาร์ตินี่ สามแก้วนี้จะช่วยเรียกน้ำย่อยของมื้ออาหารในค่ำคืนนี้เป็นอย่างดีครับ พร้อมกันนั้นพนักงานสาวสวยทั้งสามก็มาเชคกิ้งให้ถึงโต๊ะเลยครับ ค็อกเทลเบส Gin และ Vodka สามแก้วนี้อย่าได้หลงสีสันของมันเชียวนะครับรสชาติเข้มข้นเชียวละ เป็นสามแก้วที่รสชาติดีจริงๆ ระหว่างรอเมนูที่สั่งไป ก็รองท้องด้วยขนมปัง 4 แบบที่ทางร้านนำมาเสิร์ฟกันก่อนครับ ได้แก่ Onion, Soya, Focaccia และ Brown Bread มาพร้อมเนยสองแบบ คือ Butter และ Herb Garlic ต่อด้วยซุปหอมๆ สามแบบ สามสไตล์ได้แก่ Lobster Bisque เข้มข้นกลมกล่อม กลิ่นหอมมันกุ้งล็อปสเตอร์โดดเด่นมากๆ เนื้อซุปครีมเนื้อเนียนหาที่ติไม่ได้ เสิร์ฟพร้อมเนื้อล็อปสเตอร์แน่นๆ , Truffle Mushroom Soup, ซุปทรัฟเฟิลหอมๆ เอาใจคนรักทรัฟเฟิล เนื้อครีมซุปข้นหอมมัน ด้วยตัวทรัฟเฟิลและน้ำมันทรัฟเฟิลช่วยเร่งความอยากอาหารได้ดีจริงๆ  French Onion Soup ซุปที่ผมชอบมากที่สุดในสามถ้วยครับ ซุปหัวหอมที่ไม่ได้มีแค่ความหอม เชฟต้มหอมจนนุ่มละลายในปาก ความกลมกล่อมของน้ำสต็อคเข้ากับชีสหนึบๆ ได้อย่างลงตัว ถัดไปเป็นส่วนของสลัดเพิ่มความสดชื่นกันบ้างครับ…

Read More

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับวันนี้ KinlakeStars.com จะพาทุกท่านไปชิมบุปเฟต์ติ่มซำย่านใจกลางเมืองที่ราคาไม่แพง เมนูหลากหลายให้ลูกค้าเลือกมากกว่า 30 แบบกันครับ บุฟเฟ่ต์ติ่มซำของห้องอาหาร The Golden Palace โรงแรม Windsor Suites สุขุมวิท 20 ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของโรงเเรม เมื่อเดินเข้ามาสามารถเดินขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 ได้เลย ห้องอาหาร The Golden Palace เปิดบริการบุฟเฟ่ต์เป็น 2 รอบ คือบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันเวลา 11.30 – 14.30 น.  เเละมื้อค่ำเวลา 18.00 – 22.30 น. ไม่รวมเครื่องดื่มรีฟิลเพียง 95 บาท ซึ่งเลือกได้ระหว่างเก็กฮวยหรือชาจีน ทั้งร้อนและเย็นครับ ซึ่งตอนนี้มีโปรโมชันพิเศษจากห้องอาหารลดราคาบุปเฟ่ต์ติ่มซำจากปกติ 20% พร้อมโปรโมชั่น มา 3 จ่าย 2 (เพียงท่านละ 655 บาทสำหรับมื้อกลางวัน เเละ 755 บาทสำหรับบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ)  เปิดเมนูมามีทั้ง A La Carte และ Buffet ให้เลือก โดยวันนี้เราจะมาชิมบุปเฟ่ต์มื้อค่ำ 755 บาทกันครับ วันนี้อากาศร้อนคงต้องดับกระหายด้วยเก็กฮวยเย็นหวานกำลังดี ถึงเวลาสั่งแล้วครับด้วยความที่เมนูเยอะมาก และวันนี้เราก็มากันสองคนคงชิมเยอะไม่ได้ เลยตัดสินใจสั่งแต่พอประมาณตามรูปด้านล่างครับ ต้องบอกว่าจัดหนักไม่กลัวโต๊ะข้างๆ มองเลย เรามาเริ่มที่ซุปกันก่อน ที่นี่มีซุปให้เลือกถึงสามแบบ ไม่ว่าจะเป็นกระเพาะปลาน้ำแดงรสชาติกลมกล่อมกระเพาะปลาชิ้นพอดีคำ ซุปหูฉลามหอมๆ และซุปเสฉวนเปรี้ยวนิดๆ แก้เลี่ยนครับ มาถึงติ่มซำกันบ้างครับ มีให้เลือกกันแบบจุใจครับทั้งจีบกุ้ง ฮะเก๋าแฮปปี้ ฮะเก๋าหอยเชลล์ ก๋วยเตี๋ยวหลอดกระเพาะหมู ลูกชิ้นกุ้งบล็อคโคลี่ ฮะเก๋ากุ้ง ขนมจีบกุ้ง ขนมจีบปู ฝั่นโก๋วผักปวยเล้ง สาหร่ายไส้มันปู ซี่โครงหมูเต้าซี่ ขาห่านตุ๋นยาจีน กุ้งนึ่งมะนาว เยื่อไผ่ไส้กุ้ง ปีกไก่อบซอสพริก เห็ดหอมหน้ากุ้ง ซาลาเปาไส้หมูแดง ซาลาเปาไส้ครีมลาวา เป็นต้น ซาลาเปาครีมลาวาเยิ้มๆ รสชาติดีทีเดียวครับ ไม่หวานจนเดินไปตัวครีมหวานมัน หอม ไม่เลี่ยน สลัดผลไม้รวมราดมายองเนสเปรี้ยวหวานเบรคระหว่างมื้อให้ความสดชื่นดีครับ ในส่วนของของทอดก็มีหลายอย่างใช้กินกันเพลินๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟองเต้าหู้ทอด เผือกทอด ปอเปี๊ยะทอด ขนมผักกาด กุ้งทอดตะไคร้ ข้าวเหนียวทอดสอดไส้แกงกะหรี่ไก่ ปอเปี๊ยะมายองเนส…

Read More

วนมาครบรอบถึงเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์กันอีกปีแล้วนะครับ บรรดาโรงแรมชั้นนำต่างก็ภูมิใจนำเสนอขนมไหว้พระจันทร์ หรือ Moon Cake ของตนเองอย่างเต็มที่ ซึ่งแต่ละแห่งก็ล้วนมีเอกลักษณ์ของตน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรสชาติ หรือ Packaging ที่ทุกแห่งต่างบรรจงสร้างสรรค์กล่องบรรจุให้ออกมาสวยงามและแตกต่าง หนึ่งในโรงแรมที่เราจะพาทุกท่านไปชิม Moon Cake นั่นก็คือ W Hotel ครับ ซึ่งที่นี่เป็นอีกแห่งที่มักจะนำเสนอความแปลกใหม่ผ่านใส้ต่าง ๆ ที่ไม่ยึดติดกับความเคยคิดเดิม ๆ  เปิดโอกาสให้นักชิมได้ค้นพบประสบการใหม่ในการกินขนมไหว้พระจันทร์ครับ ตัวกล่องบรรจุภัณฑ์ของ Moon Cake ที่นี่ก็ดูสวยงาม สนุกสนานไม่ต่างจาก Concept โรงแรมเลยครับ ตัวเปลือก Moon Cake ทุกชิ้นจะถูกปั๊มเป็นอักษร W เป็นเอกลักษณ์ที่แค่มองก็รู้แล้วว่ามาจากที่ไหน โดยขนมจะถูกบรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมสีเหลืองพาสเทล สดใสเหมือนพระจันทร์เต็มดวงยังไงยังงั้น ห่อทับด้วยผ้าเนื้อลื่น คล้ายผ้าแพร สีชมพูม่วง ตัดกับกล่องสีเหลืองได้ลงตัว ห่อมาลักษณะเหมือนการห่อกล่องอาหารหรือของฝากแบบญี่ปุ่น โดยในปีนี้ W Hotel มี 2 ชนิดแป้งให้เราได้เลือกกัน ไม่ว่าจะเป็นแป้งอบแบบดั้งเดิม หรือแป้งหิมะเนื้อบางเบา และไส้ต่าง ๆ ให้เราได้ทดลองถึง 5 ไส้ดังนี้ครับ 1. Peanut Butter Moon Cake แป้งสีเหลืองอ่อน เอาใจคนชอบความหอมมันของเนยถั่ว ตัวใส้หวานนำเล็กน้อย หากกินพร้อมแป้งรสชาติจะหวานกำลังดี ส่วนตัวคิดว่าถ้าตัดเค็มอีกนิดจะทำให้รสชาติกลมกล่อมขึ้น ความมันของเนยถั่วอยู่ในระดับปานกลางไม่เลี่ยนจนเกินไป  ตัวไส้ผสมถั่วชิ้นเล็ก ๆ ให้ความรู้สึกเพลิดเพลินกรุบกรอบเวลาเคี้ยวอีกด้วยครับ 2. Chocolate Banana Moon Cake สีน้ำตาลช็อคโกแลต ชิ้นนี้แค่ดมกลิ่นก็ได้สัมผัสถึงความหอมของกล้วยและช็อคโกแลตด้านใน ส่วนตัวเป็นคนชอบช็อคโกแลตและกล้วยอยู่แล้วจึงถูกใจชิ้นนี้มากครับ ตัวไส้นั้นจะเป็นการนำกล้วยและช็อคโกแลตมาผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน อาจจะทำให้กลิ่นช็อคโกแลตถูกกล้วยกลบไปนิด ถ้าใช้วิธีการแยกไส้กล้วยและช็อคโกแลตเป็น 2 เลเยอร์น่าจะทำให้สัมผัสทั้งสองรสชาติได้สนุกกว่านี้ครับ แต่โดยรวมรสชาติยังถือว่าดีใช้ได้เลยครับ 3. Raspberry Moon Cake สีชมพูอ่อน สอดไส้ครีมราสเบอร์รี่สีสด รสชาติหวานนิดเปรี้ยวหน่อย หอมกลิ่นราสพ์เบอร์รี่อ่อน ๆ ชิ้นนี้อาจจะถูกใจเด็ก ๆ ไม่มากก็น้อยแน่นอนครับ เพราะกินง่าย รสชาติคุ้นเคย โดยรวมผมคิดว่าตัวไส้ยังเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติให้เปรี้ยวหวานได้มากกว่านี้ จะทำให้ไส้นี้หวือหวาขึ้นมา…

Read More

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ วันนี้ KinlakeStars.com จะพาทุกท่านไปชิมอาหารไทยที่ห้องอาหาร “สวนบัว” ห้องอาหารเลื่องชื่อแห่ง โรงแรม Centara Grande กันครับ ที่ห้องอาหารสวนบัวแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารไทยเป็นที่สุดครับ นอกจากรสชาติ ความสวยงามที่โด่งดังแล้ว ขาดไม่ได้ก็คือเชพใหญ่ที่คุมห้องอาหารแห่งนี้นั่นคือ เชฟปอ สันติภาพ เพชรว่าว นั่นเองครับ เชพปอ สันติภาพ เพชรว่าวได้รับแรงบันดาลใจในการทำอาหารไทยจากคุณยายตั้งแต่เด็ก ๆ ครับเชฟเล่าว่าเชฟใช้เวลาในห้องครัววันละหลายชั่วโมงในการเฝ้าสังเกตและเป็นลูกมือคุณยายในการประกอบอาหาร ทำให้รสชาติอาหารฝีมือคุณยายนั้นยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำมิรู้ลืม นอกจากนี้เชฟยังได้มีโอกาสในการเรียนรู้สูตรอาหารชาววังต่าง ๆ มากมาย หลังจากนั้นเชฟปอจึงปฏิญาณว่าจะสืบสานอาหารไทยต้นตำรับไม่ให้สูญหายไป วันนี้จึงเป็นโอกาสดีของพวกเราครับที่จะได้ลองลิ้มชิมรสฝีมือของเชฟปอกันสักที อาหารที่เราจะชิมกันในวันนี้เชฟปอบอกว่าทุกจานผ่านการปรุงจากมือของเชฟอย่างพิถีพิถันครับจะมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย เริ่มที่ Welcome Drink เป็นสมูทตี้รสสดชื่นจากสมุนไพร รสชาติเปรี้ยว อมหวาน เพิ่มความสดชื่นหลังจากที่ฝ่ารถติดของเย็นวันนี้ได้ดีครับ ว่าแล้วก็เปิดเมนูเลือกกันเลยครับ เมนูแรกที่เชฟเสิร์ฟจะเป็น Amuse Bouche พิเศษจากเชฟในแต่ละวันจะไม่เหมือนกันครับ วันนี้จะเป็นเมี่ย’คำห่อกรวย ด้านในจะเป็นกุ้งแห้งและเครื่องเมี่ยงคำ รสชาติเค็ม เปรี้ยว หวาน ช่วยอยากอาหารได้เป็นอย่างดีครับ เมนูห้องอาหารที่นี่มีแบบเป็น Course Set และ A Lar Carte ครับโดยที่ราคาเซ็ทเมนูมื้อกลางวันจะอยู่ที่ราคาท่านละ 690.- ++ และ เซ็ทเมนูมื้อค่ำราคาท่านละ 999.-++ ซึ่งจะบริการตั้งแต่ 2 ท่่านขึ้นไปครับ ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่าว่ามีเมนูอะไรกันบ้างที่ทำให้หลายคนต่างติดใจรสชาติอาหารของที่นี่กันนัก เมนูแรก ยำชะคามเนื้อปูสมุทรสาคร 390.- ++ เมนูนี้อาจจะเหมือนเมนูยำชะคามธรรมดาครับ แต่จริง ๆ แล้วผ่านการปรุงมาอย่างดีตั้งแต่การล้างใบชะคามหลายน้ำจนหายเค็ม ยำกับเครื่องรสชาติหวาน เค็ม เพิ่มความมันด้วยกะทิ และเนื้อปูชิ้นใหญ่เต็มที่ ใครชอบรสชาติแบบเข้มข้น จัดจ้านหน่อย ๆ ท้าให้ลองเลยครับ เมนูที่สอง กุ้งแม่น้ำย่างราดหอยลายผัดพริกขิง 790.- ++ เมนูที่ผมชอบที่สุดครั้งนี้ครับกุ้งแม่น้ำตัวโตเท่าฝ่ามือย่างไฟหอม ๆ ราดด้านบนด้วยหอมลายหนึบผัดพริดขิงรสชาติหวานเผ็ด หลาย ๆ ที่มักใช้ผัดพริกขิงธรรมดา แต่เชฟปอได้นำหอยลายมาปรุงด้วยครับ เพื่อให้เวลากินพริกขิงมีเนื้อและสัมผัสให้เคี้ยวหอม ๆ มัน ๆ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ สุดจะบรรยายครับ เมนูที่สาม…

Read More

Riverside Grill ห้องอาหาร ริมแม่น้ำ ตั้งอยู่ในโรงแรม Royal Orchid Sheraton โรงแรม 5 ดาวริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่คู่กับ กรุงเทพมหานครมานาน แต่หลายอาจยังไม่รู้ว่า มีห้องอาหารบรรยากาศดีริมแม่น้ำตั้งอยู่ใน โรงแรมนี้ครับ สำหรับวันนี้ทาง Kinlakestars.com ได้มีโอกาสมาลองเมนูใหม่ จากเชฟใหม่ชาวเยอรมันที่ได้ออกแบบมาในหลายตีม แตกต่างกัน โดยวันนี้ ผมได้มีโอกาสได้ลองชิมในตีม The Classic ครับ เริ่มจากเครื่องดื่ม Old Fashion (300++) มีผสมจาก Bourbon whisky, Abgostur Bitter, sugar cube, soda ให้รสเข้มแบบนุ่มๆ ให้ความรู้สึกเข้มแต่เบา ดื่มได้ง่ายไม่บาดคอครับ Tokyo Highball (300++) Suntory Kakubin, club soda, lemon รสจะเบาๆ อ่อนๆ มีความขมนิดๆ น่าจะถูกใจแนวผู้ใหญ่ ออกสไตล์คอกเทลญี่ปุ่น แก้วนี้ ยังไม่ค่อยถูกใจกระผมเท่าไหร่ครับ ในส่วนของอาหารเริ่มจาก Ceasar Pauleta Salad (290++) Romaine leaves, grissini sticks parmesan, bacon stripes, signature dressing จานนี้ทำได้ดีตามมาตรฐานของ ซีซ่าร์สลัด ผักมีความสดกรอบ เบคอนกรอบกำลังดี ขนมปังจับโบลาย่า โดโรโทริย่า Duet of Potato Soups (290++) Traditional Veloute and Paprika scented broth ตัวซุปมีความข้น หอมมันครีม แต่ที่อร่อยมากคือ ตัวขนมปังที่ใส่ซุปไว้ ตัวแป้งมีความหอมธัญพืช มีความเค็มกำลังดี ขนาดผมต้องการคุมคาร์บ ยังเผลอทานจนหมดเลยครับ มาถึงจานหลัก Jumbo Tiger Prawns (990++) 500g…

Read More

ห้องอาหารที่ตั้งขนานไปกับชายหาดที่ทอดยาวไปกับทะเลอ่าวไทย อีกทั้งอาหารทะเลสดๆใหม่ๆที่ส่งตรงจากชาวประมง ทั้งสด ทั้งคุณภาพสูงและคัดพิเศษ มาทะเลก็ต้องกินอาหารทะเล เที่ยงนี้ขอพามาทานอาหารที่ Luna La Pran ณ Sheraton Hua Hin Pranburi Villas  เป็นห้องอาหารวิวดีอยู่ฝั่งติดทะเลของที่นี่ครับ ซึ่งห้องอาหารนี้ใช้อาหารทะเลสด คุณภาพสูงมารังสรรค์ สร้างเมนูต่างๆ ให้บริการ ทั้งอาหารไทย อาหารนานาชาติ และเครื่องดื่ม สำหรับมุมที่นั่งก็มีให้เลือกทั้งในและนอกอาคาร สำหรับในอาคารก็จะเย็นฉ่ำไปด้วยระบบปรับอากาศ ภายใน มีแบ่งเป็นมุม Bar และ มุมนั่งกินกันตามปกติ ในส่วนของด้านนอกก็มีอยู่หลายโต๊ะ สำหรับใครที่อยากสัมผัสกลิ่นอายทะเล และสายลมอ่อนๆ กับแสงแดดริมหาด เชฟใหญ่ประจำห้องอาหารแห่งนี้ เชฟเบิร์ดครับ เรามาเริ่มเมนูแรกกันเลยครับ ยำกุ้งแชบ๊วยฟู ใช้กุ้งแชบ้วยสดๆคุณภาพดีจากลุงไหว หนึ่งในชาวประมงรายใหญ่แห่งปากน้ำปรานมาทอดให้ผิวนอกฟูกรอบ ผิวสีเหลืองทอง ยำเข้ากับสารพัดเครื่องยำ ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงดิบ พริกสด หอมแดง โดยเชฟเบิร์ทมาคลุก และ ยำ โชว์ให้เราดูกันถึงที่โต๊ะเลยครับ แค่กลิ่นกับน่าตาก็ชวนหิวแล้ว น้ำยำรสเปรี้ยวหวาน และเผ็ดอย่างลงตัว น้ำยำใส่มะม่วงด้วยเข้ากันลงตัว กุ้งเองก็เนื้อเด้งกรึบ ผิวกรอบนิดๆ รสชาติ เข้ากันดีมาก ยิ่งกินกับข้าวสวยร้อนๆนี้ถือว่าเด็ดเลยทีเดียว ยอมรับเลยว่าอาหารไทยที่ห้องอาหาร ลูน่า ลาปราณ รสชาติดีครัย สำหรับคนชอบความแซ่บต้อง “ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว”  ปลาหมึกไข่ตัวโตๆ สดๆจากหมู่บ้านชาวประมง แน่นด้วยไข่มาพร้อมกับน้ำยำรสชาติจัดจ้านด้วยมะนาว พริกขี้หนูสด แค่คิดถึงก็เปรี้ยวปากเลย ข้าวผัดสับปะรดทะเล สำหรับเมนูนี้เป็นอีกเมนูที่แสดงออกถึงความเป็นปราณบุรี ด้วยการใช้กุ้งแชบ๊วยตัวโดจากปากน้ำปราณ และใช้สับปะรดที่ขึ้นชื่อของประจวบ นั้นคือ สับปะรดปัดตาเวีย ลูกโตรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ  กุ้งสดกรุบกรึบตัวโต เวลสกินหยอดน้ำจิ้มซีฟู้ดด้วยเพื่อชูรสชาติจะยิ่งดี มีหมูหยองโรยหน้า เมนูนี้จึงออกไปทางหวาน มีเมล็ดมะม่วงหินมะพานกรุบๆกรอบๆ มันๆ เค็มๆนิดๆ เพิ่มสัมผัสให้ไม่น่าเบื่อ Bake Pranburi Pineapple สับปะรดปราณบุรีอบเสิร์ฟกับไอศกรีม (180) with pink peppercorns and homemade Pranburi pineapple sorbetนอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องของชายหาดที่มีความเงียบสงบ และโรแมนติกแล้ว ปราณบุรียังขึ้นชื่อในเรื่องสับปะรดอีกด้วย แตกต่างด้วยคุณลักษณะของสับปะรดที่มีเนื่อสีน้ำตาลทรายแดง เสิร์ฟพร้อมสับปะรดซอร์เบทและคาราเมล ให้รสเปรี้ยวอมหวาน เหมาะกับอากาศร้อนของเมืองไทย แต่ความเห็นสวนตัวผมว่ารสชาติค่อนข้างหวานมาก…

Read More

เมื่อมาทะเล แสงแดดและความร้อนก็อาจจะ แผดเผาและทำเอาผิวของหนุ่มสาวไหม้ เสีย กันไปตามๆกัน แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะในครั้งนี้ kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปพบกับโปรแกรมฟื้นฟูสภาพผิว อีกทั้ง ผ่อนคลายกาย และใจไปกับการ นวดผสมผสาน ที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมา สว่าง ใส ผ่อนคลายกายและใจ ด้วยการนวดที่ผสมผสานเอาการนวดไทย นวดน้ำมัน และนวดประคบเข้าด้วยกัน สำหรับ Shine Spa นั้น เป็น Spa แบรนด์มาตรฐานของโรงแรมในเครือ Sheraton ที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งทั้งคุณภาพและมาตรฐานของทั้งผลิตภัฑธ์ที่ใช้ รวมถึงสถานที่และตัว เทราปีสนั้น จึงมั่นใจได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น กำแพงดิน กระเบื้องหลังคาที่เป็นแผ่นไม้ อีกทั้งพืชพรรณที่เลือกสรรค์จัดวางให้ดูเหมือนดั่งกระท่อมกลางปลาดิบชื้น ชวนให้ผ่อนคลายมาก เริ่มต้นด้วยการ น้ำมะตูมเย็นๆ กับผ้าเย็นกลิ่นส้ม และขิงที่ให้ความรู้สึกหอม สดชื่น กระปรี้กระเปร่า และผ่อนคลาย สปา วิลล่า ณ เชอราตันหัวหิน ปราณบุรีวิลล่า เป็นสปาที่มีเอกลักษณ์ในการผสมผสานการตกแต่งในสไตล์วิลล่าที่โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเทคนิคการนวด และทรีทเมนต์อันมีคุณภาพของชายน์ สปา ณ เชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ซึ่งเป็นสปาตามคอนเซปต์ของแบรนด์เชอราตันแห่งแรก และแห่งเดียวในเมืองไทย ทรีทเม้นต์ต่าง ๆ ซึ่งใช้ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติในท้องถิ่นซึ่งได้รับการคัดสรรอย่างดี อาทิเช่น สมุนไพรสดสำหรับลูกประคบ ข้าวหอมมะลิ งาดำ ผงทานาคา ดินสอพอง สำหรับการขัดตัวเป็นต้น โดยคุณสมบัติต่าง ๆ เหล่านี้ ได้รับการออกแบบโดยหลอมรวมความโดดเด่นของวิถีการบำบัดจากวัฒนธรรมของตะวันออกและตะวันตกมาเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ของความผ่อนคลายอย่างล้ำลึก ทั้งการขัดตัว, การฟื้นฟู, และการนวดบำรุงผิว หรือทรีทเมนต์ยอดนิยมอันเป็นเอกลักษณ์ของ สปา วิลล่า รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ของสปาระดับสูง “Pevonia” จากประเทศอเมริกา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจของความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ “Forces of Nature” อันได้แก่ Earth (ธรณี) , Water (วารี), Air (สายลม) and Plants (พืชพรรณ) พร้อมผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีในการส่งมอบประสบการณ์ของความแตกต่างอันสงบ … หลับตา…

Read More

สวัสดีครับกลับมาอีกแล้ว กับโปรโมชั่นสองโปรโมชั่นจุใจให้ท่านได้เลือกลิ้มรสความอร่อย ไปกับ KINLAKESTAR.COM โดย วันนี้เราพาท่านไปรีวิว อาหารสด ๆ กับ พร้อมปรุงตามที่คุณสั่งและวัตถุดิบที่คุณเลือกตามน้ำหนัก ที่  SCALINI @ Hilton Sukhumvit Bangkok กันครับ โดยจะมีสอง โปรโมชั่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น  TGSF ( Thank God. It’s Seafood Friday) ที่ให้ท่านได้เดินจ่ายตลาดเลือกของสดจากทะเลที่ท่านต้องการ เพื่อนำมาประกอบอาหารตามจิตนาการของท่าน  แน่นอนว่าท่านจะได้รับอาหารสุดพิเศษ ในแบบขอท่านเท่านั้น  อีกโปรโมชั่นหนึ่งนั้น จะเป็น  Seafood in the City ในราคาเริ่มต้นเพียง 550 บาทเท่านั้น  TGSF ( Thank God. It’s Seafood Friday) เรามาเริ่มต้นด้วยอาหารในแบบของเรากันเลยดีกว่า ซึ่งบอกเลยว่าท่านจะได้ทานอาหารที่ท่านอยากทานเพียงแค่เลือก วัตถุดิบ ของท่านและกำกับการปรุงกับพ่อครัวของเรา ท่านก็จะได้ อาหารในแบบของท่าน ซึ่งความสนุกอยู่ตรงที่ ท่านจะต้องเริ่มคิดว่าท่าน อยากจะทานอะไร และในเทคนิคในการจับจ่ายตลาดนิดหน่อย เพื่อเลือกวัตถุดิบที่ท่านต้องการในการรับประทาน โดยวัตถุดิบนั้นขนสดๆมาจากทะเลกันเลยทีเดียว โดยมีของทะเลให้ท่านเลือกดังนี้ American lobster , USA ล๊อบเตอร์จากประเทศอเมริกา Lobster เป็นๆที่นำเข้าจากประเทศอเมริกา โดยความพิเศษของเนื้อ ล็อบเตอร์นั้น ถือเป็นราชาแห่งกุ้งเลยก็ว่าได้ ทานจะได้เนื้อที่หวาน และสดใหม่ ระดับสูงที่สุด ซึ่งขนาด ที่นำมาให้ท่านเลือกนั้น จะอยู่ระมาณ 500-550 กรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 1,300 บาท Fines De Claire Oysters , France หอยนางรม จาก ฝรั่งเศส Fines De Claire Oysters ถือเป็นหอยนางรมชั้นยอด และเป็นหอยสายพันธ์เดียวจะไม่มีการเคลื่อนที่ตลอดชีวิตทำให้กล้ามเนื้อของหอยนางลมชนิดนี้จะมีความ เหนียวนุ่มเป็นพิเศษ ก่อนทานบีบ เลมอน และใส่น้ำจิ้มซีฟู้ดนิดหน่อย…

Read More

KinlakeStars.com จะพาทุกท่านไปชิมอาหารอิตาเลี่ยนรสเลิศ กับสุดยอดเชฟแห่งห้องอาหาร Jojo ที่จะทำให้ดินเนอร์มื้อนี้ของคุณพิเศษและประทับใจกว่าที่เคย Italian Finedining ที่นำของดีจากทกแว่นแคว้นของอิตาลีมานำเสนอ สไตล์การแต่งห้องอาหารเป็นแบบอิตาเลียนสมัยใหม่ เดินเข้าไปภายในจะเห็นครัวเปิดขนาดใหญ่ที่เราจะได้เห็นการทำอาหารจำพวกพิซซ่าและขนมปังกันสด ๆ  ถัดไปยังมี Wine Cellar ซึ่งเป็นห้องที่ใช้เก็บไวน์จากทั่วทุกมุมโลกครับ ส่วนบรรยากาศภายในนั้นหรูหรา อบอุ่นและเป็นกันเองครับ เมนูวันนี้ปรุงโดยหัวหน้าเชฟ Chef Stefano Merlo ผู้มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างสูงในการปรุงอาหารอิตาเลี่ยนและเป็นที่ยอมรับกันดีในความสามารถครับ ทำให้ดินเนอร์มื้อนี้มั่นใจได้เลยครับว่าจะได้ชิมอาหาร ขนมปังอบร้อน ๆ ผ่าสี่ให้เห็นถึงเนื้อขนมปังนุ่ม ๆ ด้านใน กินพร้อมเนยโฮมเมดหอม ๆ ซึ่งเชฟจัดมาเป็น Amuse-Bouche ตัวแรกของมื้อนี้ครับ Amuse-Bouche ตัวที่สองคือ ครีมถั่วลันเตาและโฟมมะม่วง เรียกน้ำย่อยกันแล้วเราลองมาเริ่มดินเนอร์จานแรกกันดีกว่าครับ  Polipo con Patate e Olive หนวดหมึกยักตุ๋นจนเนื้อแน่น นำไปคลุกแป้งทอดต่อจนผิวกรอบ วางบนชีสทาเลจิโอโฟมสีขาวนวล ส่วนครีมสีเขียวทำจากกรีนโอลีฟครีม ผสมกับแบล็คโอลีฟ เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งต้มใส้พาสลี่ย์เคี้ยวเพลิน จานนี้รสชาติกลมกล่อมหมึกยักหอมกลิ่นเกรียมนิด ๆ เนื้อนุ่มหนึบเคี้ยวง่าย หนังกรอบ กินพร้อม ครีมชีสและมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบเปิดมื้ออาหารได้ดีมากครับ Bisque de Astice e Gamberi บิสเก้หรือซุปหัวกุ้งเข้มข้น เชฟใช้กุ้งอาเจนตินาและบอสตันล็อบสเตอร์ เคี่ยวจนมันกุ้งแตกตัว แล้วเอาไปเบล็นจนได้กลิ่นหอม ราดด้วยซุปที่เคี่ยวก่อนหน้านี้ผสมกับแครอท กระเทียมและหัวหอม โรยปิดท้ายด้วยผงซีฟู๊ดเพื่อความหอมปิดท้าย รสชาติโดยรวมทำออกมาได้ดีมาก ตัวซุปเข้มข้น กลมกล่อม และไม่เค็มเกินไป เป็นจานที่ประทับใจมากครับ Cappelli alla Passata, Guazzeto di Pesce Picante จานนี้เสิร์ฟมาคล้านเกี๊ยวแต่ในภาษาอิตาเลี่ยนจะเปรียบเทียบเมนูนี้คล้ายกับหมวกของสตรีทำมาจากแป้งพาสต้าหนึบ ๆ ไม่หนามากเกินไปจนเสียรสชาติใส้ด้านใน เป็นโทมาโทพาซาต้าหรือเนื้อมะเขือเทศบดแล้วนำมาทำเป็นมูส วางบนซอสสองสีคือ ซอสบลูราต้าชีสสีขาว และ ซีฟู๊ดซอสสีแดงส้มทำจากกุ้งอาเจนทิเนียน กุ้งซีวิเลียนและปลาบันซีโน หลังจากลองกัดเข้าไปได้ความรู้สึกเหมือนเกี๊ยวชิ้นใหญ่ด้านในรสชาติเปรี้ยวเค็มกลมกล่อม ตัดกับซอสบลูราต้าได้อย่างดี Guancia di Vitello จานที่สี่เอาใจคนรักเนื้อวัวโดยเชฟจะเลือกส่วนแก้มซึ่งเป็นส่วนที่มีความนุ่มละลายในปากนำมาตุ๋นกับเครื่องเทศ และเรดไวน์รีดักชั่น ซึ่งเป็นการนำซอสที่เหลือจากการตุ๋นมาผสมไวน์แดงและเคี่ยวจนข้นออกมาเป็นซอสรสชาติเปรี้ยวหวาน เสิร์ฟพร้อมซีรีแลคพูรีย์เนื้อเนียน และผักกาดเขียวหรือชิโครี่อบ จานนี้รสชาติถูกปากอีกแล้วครับ แก้มวัวนุ่มแทบละลายในปาก กินคู่กันซอสเปรี้ยวหวานลงตัวมาก ๆ ครับ…

Read More