♠♠♠ รีวิว Top 12 สถานที่ จิบชา กินขนม และของว่าง Afternoon Teaประจำปี 2018 ในกรุงเทพฯ ♠♠♠ กลับมาอีกครั้งกับการคัดสรรร้านจิบชาที่ไม่ควรพลาด afternoon tea ชิลๆอย่างมีสไตล์กับ Kinlakestars จิบชา 12 ที่ กับ 12 เดือนใน 1 ปี ” สำหรับการจิบชาในปัจจุบันนั้นนับว่าเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าเดิมในอดีตสำหรับประเทศเรา นับว่าเป็นเทรนและเป็นกิจกรรมที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สถานที่ร้าน ห้องอาหารต่างๆจึงมีทั้งการเปิดตัวเพิ่ม รวมถึงพัฒนาและแข่งขันกันมากขึ้น และในวันนี้ กินแหลกแจกดาว – KinlakeStars.com จะขอนำเสนอรวมรีวิว สถานที่จิบชา พร้อมขนม ของว่างคาวหวาน และสถานที่อันน่านั่ง ที่ทางเราคัดมาให้แล้ว ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วกรุงเทพฯ มีทั้งร้านในโรงแรม ร้านในห้าง และร้านเดี่ยวๆที่เปิดแยกบนที่ตัวเอง โดยมีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไปในแต่ละด้าน ตามหัวข้อที่เราแบ่งไว้ จะมีที่ไหน และแต่ละที่น่าไปลองขนาดไหน มาดูกันเลย “ 1. The Lobby, Anantara Siam สุดยอด ตระการตา เกินคำว่าคุ้มค่ากับ Buffet จิบชายามบ่ายกับสารพัดขนมคาวหวานที่รังสรรค์จากดอกไม้ และชา MARIAGE FRÈRES ในราคาไม่ถึงพัน !!! จิบชายามบ่ายรังสรรค์จากมวลบุปผชาติ อ่านต่อที่ >>> 2. The Lobby Lounge,Shangri-la Bangkok ชุดชายามบ่ายและขนมสุดเก๋ไก๋จากเชฟเคลาส์ผู้โด่งดัง พร้อมทัศนียภาพเจ้าพระยาอันงดงามและเสียงพิณอันไพเราะ จะดีแค่ไหนถ้าได้จิบชายามบ่าย รื่นรมย์ไปกับทัศนียภาพเจ้าพระยา สายน้ำแห่งชีวิตและวัฒนธรรม พร้อมขนมหวาน สวย เก๋ เลิศรส และเสียงฮาร์พอันนุ่มนวล ไพเราะ ณ โถงต้อนรับอันแสนโอ่โถง กับราคาที่แสนจะสมเหตุสมผล อ่านต่อที่ >>> 3. Authors’ Lounge, Mandarin Oriental Bangkok สุดยอดแห่งประสบการณ์จิบชายามบ่าย ในอาคาร สไตล์เฟรนช์โคโลเนียลกว่า 140 ปี อันสวย สง่า หรูหรา นั่งสบาย กับชาชั้นเลิศจาก TWG /…
Author: Kittin Assavavichai
ครั้งนี้ Kinlakestarsจะมา แนะนำเมนูอาหารอิตาเลี่ยนใหม่ ในรูปแบบ อา ลา คาร์ท ณ ห้องอาหารโจโจ ห้องอาหารอิตาเลี่ยนซึ่งคงรสชาติดั้งเดิม และความเรียบง่ายสไตล์อิตาเลียนไว้อย่างสมบูรณ์แบบ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของห้องอาหารอิตาเลี่ยนในกรุงเทพฯ ห้องอาหารโจโจ ชั้น 1 ณ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านรสชาติอิตาเลียนแท้ๆ นำเสนออาหารอิตาเลี่ยนเมนูใหม่ ที่คัดสรรมาอย่างดีสำหรับทุกท่าน ในเดือนกรกฎาคมนี้ ทีมงานของห้องอาหารโจโจ ขอนำเสนอประสบการณ์ใหม่สำหรับนักชิม ด้วยเมนูใหม่รสเลิศที่รังสรรค์ในสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ และการนำเสนอศิลปะการปรุงอาหารร่วมสมัย ดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์ของอาหารอิตาเลี่ยนมีการสืบทอดกันมาเป็นเวลายาวนานต้นกำเนิดความอร่อยแบบต้นตำหรับผสมผสานนวัตกรรมการปรุงอาหาร ความพิถีพิถันในการคัดสรรส่วนผสมที่สดใหม่และได้พัฒนาจากสูตรดั้งเดิมสะท้อน เพื่อสร้างอรรถรสที่สมบูรณ์แบบและมอบประสบการณ์ของอาหารอิตาเลี่ยนที่แท้จริง เพลิดเพลินกับเมนูใหม่ในรูปแบบ อา ลา คาร์ท เสิร์ฟทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ท่ามกลางบรรยากาศหรูหราคละเคล้ากับความคลาสสิค ทุกวันตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 23.00 น. ห้องอาหารโจโจเป็นที่ยอมรับในบรรดานักชิมว่ามีชื่อเสียงด้านโฮมเมดพาสต้า เชฟมิเคเล่ชวนท่านลิ้มลอง พาสต้าสารพัดชนิด ซึ่งถ่ายทอดความรู้สูตรต้นตำรับจากคุณยายอันเป็นที่รัก เชฟและทีมงานห้องอาหารโจโจ รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้นำเสนออาหารอิตาเลี่ยนที่แท้จริง มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะให้การต้อนรับทุกท่าน มอบประสบการณ์แห่งมื้ออาหารด้วยเมนูรังสรรค์ใหม่ทั้งเนื้อและปลาคุณภาพที่ดี เริ่มต้นมื้ออาหารนี้กันด้วย อมูชบูชตัวใหม่ สำหรับอมูชบูชตัวนี้ ขอแนะนำเลยว่าต้องยกซด ดื่มให้หมดในกรึ้บเดียว รสมันๆเค็มๆ ค่อนข้างหนักกว่าอมูชบูชทั่วไป นับว่าเป็นการเรียกน้ำย่อย และเปิดมื้ออาหารที่ต่างจากมื้อทั่วๆไปเลยทีเดียว จากนั้นจึงกินขนมปังที่มีปลารมควันตาม มาเริ่มอาหารเมนูใหม่ในหมวด STARTER กันเลยครับ 1. TARTAR DI MANZO Australian Beef tenderloin, Dijon mustard, egg yolk, bread lives จานนี้ เรียบง่าย และมีความสนุกสนานในการกิน เพราะเสิร์ฟมาครบเครื่องแต่ไม่เสร็จเสียทีเดียว ผู้กินจะต้องนำเรื่องต่างๆมาคลุกกันเอง เป็นกิจกรรมบนโต๊ะที่สร้างความสนุกไปอีกรูปแบบ โดยในชุดจะมีเนื้อวัวบดจากประเทศออสเตรเลีย เสิร์ฟควบคู่กับไข่แดงดิบ มัสตาร์ด และขนมปัง ให้ความรู้สึกเฟรชๆ อร่อยดี INSALATA DI RUCOLA E FRUTTI ROSSI Wild…
เมื่อรส รูป กลิ่น เสียงแห่งเวียดนามมาถึงกรุงเทพฯ โอกาสดีๆสำหรับเวียดนามเลิฟเว่อร์ที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงเวียดนาม ก็สามารถลิ้มชิมอาหารเวียดนามด้วยการปรุงและการใช้วัตถุดิบแบบเวียดนามแท้ๆ อีกทั้งเพลิดเพลินกับเสียงดนตรีจากเครื่องดนตรีพื้นถิ่นหาชม หาฟังยาก โดยศิลปินเวียดนามแท้ๆ คนรักอาหารสุขภาพพลาดไม่ได้สำหรับโอกาสที่จะได้สัมผัสอาหารเวียดนามแบบดั้งเดิมโดยเชฟบินตรงมาจากเมืองโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม เชฟ บุย แวน แดม จะนำเสนอทั้งเมนูที่เป็นที่นิยมอยู่แล้วและเมนูพิเศษอื่นๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นเน้นการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง อีกทั้งเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงบรรเลงโดยศิลปินเวียดนามและนิทรรศการศิลปะ ตลอดทั้งสัปดาห์เพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าประทับใจในสภาพแวดล้อมที่หรูหราของห้องอาหารเธียนดอง ซึ่งมีความหมายว่า “สวรรค์” ในภาษาเวียดนาม เรามาลองดูตัวอย่างอาหารกันคร่าวๆดีกว่าครับ เริ่มต้นกันด้วยอาหารว่าง อาหารเรียกน้ำย่อยกัน 1 ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม แป้งสดบาง เหนียวหนึบไม่ขาดง่าย อัดแน่นด้วยวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นสารพัดผัก สมุนไพร อันเป็นเอกลักษณ์แห่งอาหารเวียดนาม ซอส ปลาหมึก ล้วนสร้างสัมผัสรสชาติที่แสนน่าประทับใจ 2 กุ้งพันอ้อย กุ้งพันอ้อย เนื้อกุ้งไร้กลิ่นคาว ปรุงรสมาอย่างลงตัว เนื้อนุ่มหนึบ เค็มหวานมัน ผิวมีความเกรียมพอให้สัมผัสไม่น่าเบื่อ 3 จานนี้เเป็นจานเรียกน้ำย่อยรวม ประกอบไปด้วย ข้าวเกรียบปากหม้อไส้หมูย่าง ยำเผือกกรอบสมุนไพรกุ้งและหมู กับตัวเด็ดสุดของจาน นั้นก็คือ กุ้งข้าวเม่าทอดกรอบ ข้าวเกรียบปากหม้อไส้หมูย่าง แป้งมีความบาง แต่ไม่ขาดง่าย อัดแน่นไปด้วยผักสด และหมูย่างรสเลิศ ราดด้วยซอสรสหวาน ต่อมาเป็น ยำเผือกกรอบสมุนไพรกุ้งและหมู รสเปรี้ยวโดด มีรสค่อนข้างเผ็ด มีสัมผัสกรุบกรอบไม่น่าเบื่อจากเผือกทอด กับตัวเด็ดสุดของจาน นั้นก็คือ กุ้งข้าวเม่าทอดกรอบ ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูที่เรานั้นประทับใจที่สุดในมื้อก็ว่าได้ ด้วยความกรอบ แต่เบา ของเปลือกนอกที่ห่อหุ้มกุ้งซึ่งทำจากข้าวเม่า กับตัวเนื้อกุ้งที่มีความกรุบ หวานของเนื้อกุ้ง จัดได้ว่าเด็ดและห้ามพลาด มาเข้าสู่จานหลักกัน สำหรับจานหลักจะขนาดแต่ละที่ค่อนข้างใหญ่ เสิร์ฟมาแบบแชร์ๆกัน 4 ซี่โครงหมูย่างตะไคร้สไตล์เว้ ซี่โครงหมู ชิ้นขนาดกำลังพอดี เนื้อและมันที่ติดอยู่กำลังพอเหมาะ ปรุงรสแบบเมืองเว้ด้วยซอสต้นตำรับ สูตรเฉพาะตัว รสชาติจานนี้จะออกหวานนำ 5 ปลาผัดขมิ้น สไตล์ “La Vong” 6 ข้าวห่อใบบัว เรามีหนึ่งจานที่ภาพขาดหายไปนั้นคือ เฝอเนื้อ เข้าสู่ของหวานกัน 7 ขนมชั้นเวียดนาม 8 กล้วยทอดแบบเวียดนาม 9 ลำใยเม็ดบัวลอยแก้ว โอ…
จิบชา ชิมขนมสุดมุ้งมิ้ง ดูความงดงามของเมืองจากมุมสูง 360 องศาใจกลางสาธร อีกทั้งเพลงแสนไพเราะจากนักร้องนักดนตรีสดๆ @ Vertigo Too, Banyan Tree Bangkok มอบช่วงเวลาพิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์กับโปรโมชั่นอาฟเตอร์นูนที (Afternoon Tea) นั่งชิวๆ ชมวิวกรุงเทพจากชั้นที่ 60 พร้อมจิบเครื่องดื่มหลากหลายที่รังสรรค์สูตรต่างๆจากส่วนผสมของดอกไม้นานาชนิด ที่ท่านสามารถเลือกได้มากมายไม่ว่า จะเป็นชาดอกไม้หลากชนิด หรือจะเป็นค็อกเทลดอกไม้นานาพรรณ หรือใครอยากจะเพิ่มแชมเปญก็ดูลงตัวไม่แพ้กัน และ สำหรับท่านที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ก็ยังมีเมนูเครื่องดื่มม็อคเทลให้ท่านจิบพร้อมของว่างยามบ่ายอีกด้วย วันนี้ Kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว ขอพาทุกท่านมาจิบชาชั้นเลิศแบรนด์เยอรมัน แกล้มขนม และของว่างสุดแสนสร้างสรรค์ ซึ่งยังเลือกได้ว่าจะจิบชา ค็อกเทล ม็อกเทลดอกไม้ หรือเพิ่มเป็นแชมเปญของ Moët & Chandon Brut Imperial บนชั้น 60 กับวิวจากยอดตึกสูง 360 องศา ใจกลางสาธร ที่สามารถมองเห็นความเป็นไปของเมือง สถานที่ สวนลุมพินี สนามม้าราชดำริ ถนนวิทยุ โค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานพระราม 9 และสถานที่อื่นๆได้ อีกทั้งที่นั่งก็มีให้เลือกตั้งแต่ โต๊ะเก้าอี้ และโซฟาเบดที่ทำให้คุณเอนหลังแล้วเหยียดขายาวๆได้ ตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม ฟ้ามืด น้ำเงินม่วง ประดุจลอยอยู่กลางอวกาศ พร้อมกับรับฟังดนตรีสดตั้งแต่บ่าย 2 เป็นต้นไป ซึ่งนับว่าเป็นการจิบชาที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร AFTERNOON TREATS 1,230 HIGH TEA SET (Choose 1 item) 1,250 เครื่องดื่มในชุดที่มีให้นั้น หลากหลาย สร้างสรรค์ ไม่เหมือนที่ไหน เครื่องดื่มในชุดที่จะได้คือ * 1 Pot of Tea สำหรับชานั้น แม้จะเป็นชาแบรนด์เยอรมัน แต่ชามัดแบบจีนก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ครั้งนี้เราเลือกกันมา 2 ชนิด แต่อันที่อยากนำเสนอคือ ความสงบแห่งพระพุทธรูป ชานี้เป็นชามัดแบบจีน ใช้ใบชาห่อดอกไม้เอาไว้ ต้องชงในกาแก้วใสๆ พอลูกชามัดลงในน้ำร้อน…
Kinlakestars.com นำเสนอสุนทรีย์ศาสตร์แห่งดนตรีกับBest In Jazz พบกับเหล่านักดนตรีระดับโลก คีเธน คาร์เทอร์ และ โคโค้ รูซิเยร์ ทุกค่ำคืนวันพฤหัสบดีถึงวันเสาร์ ตั้งแต่ 20.00 น. ถึง 23.00 น. ณ The St.Regis Bangkok ในครั้งนี้ Kinalkestars.com ขอนำเสนอสุนทรีย์ศาสตร์แห่งดนตรีแจ๊ส เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพระดับสากล โดยสุดยอดนักดนตรีชั้นแนวหน้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ Best in Jazz ร่วมเปิดประสบการณ์ รับความสุขผ่านดนตรีแจ๊สสด ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นณ เดอะ เซนต์ รีจิส บาร์ ณ ชั้น 12 ของโรงแรม ทุกค่ำคืนวันพฤหัสบดีถึงวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคมถึง 29 กันยายน พ.ศ. 2561 ตั้งแต่เวลา 20.00 น. ถึง 23.00 น. พบกับ Keithen Carterทุกค่ำคืนวันเสาร์ เริ่มวันที่ 7 กรกฎาคม คีเธน คาร์เทอร์ นักร้องแจ๊สผู้มากความสามารถ การันตีด้วยรางวัลแกรมมี่อวอร์ด ผู้มีสไตล์การร้องเป็นที่รู้จักกันดีในสำเนียงที่หมดจด ชัดเจน และอบอุ่น เป็นทั้งนักร้องและนักแต่งบทเพลงจากชิคาโก เคยร่วมงานกับศิลปินดังระดับโลกมากมาย อาทิ มาดอนน่า ปีเตอร์ เซเทร่า แรมซีย์ ลูอิส ฟิล เบลีย์ เจอร์รี่ บัตเลอร์ สเตฟานี มิลส์ คีเธนย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยได้8 ปีแล้ว และได้เปิดการแสดง และเขียนเพลงให้กับค่ายเพลง พบกับ Coco Rouzierทุกค่ำคืนวันศุกร์ เริ่มวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ สัมผัสดนตรีแจ๊สโดย โคโค้ ในสไตล์การร้องแบบSoulful มากด้วยประสบการณ์ร้องเพลงมากกว่า 21 ประเทศทั่วโลก นักร้องนักแต่งเพลงจากวอชิงตัน ดี.ซี.…
ถ้าถามถึงหนึ่งในร้านอาหารเวียดนามในกรุงเทพฯ ที่มีชื่อคงไม่มีใครไม่รู้จัก “ห้องอาหารเธียนดอง” ที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ พิเศษสุดในเดิอนกรกฏาคมนี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ถือโอกาสจัดงานเทศกาลอาหารเวียดนามร่วมกับสถานทูตเวียดนาม และสายการบินเวียดเจ็ท แอร์ไลน์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 – 22 กรกฎาคม 2561 คนรักอาหารสุขภาพพลาดไม่ได้สำหรับโอกาสที่จะได้สัมผัสอาหารเวียดนามแบบดั้งเดิมโดยเชฟบินตรงมาจากเมืองโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม – เชฟ บุย แวน แดม จะนำเสนอทั้งเมนูที่เป็นที่นิยมอยู่แล้วและเมนูพิเศษอื่นๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นเน้นการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง อีกทั้งเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงบรรเลงโดยศิลปินเวียดนามและนิทรรศการศิลปะ ตลอดทั้งสัปดาห์เพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าประทับใจในสภาพแวดล้อมที่หรูหราของห้องอาหารเธียนดอง ซึ่งมีความหมายว่า “สวรรค์” ในภาษาเวียดนาม นอกจากเมนู A la carte ทั้งมื้อกลางวันและเย็น ทั้งท่านยังสามารถเลือกไวน์คู่กับอาหารแต่ละคอร์ส สำรองที่นั่ง หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 02-200-9000 ต่อเบอร์ 2199 kinlakestars.com review, รีวิว, fine dining, Vietnamese cuisine, อาหารเวียดนาม, dusit thani KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน…
ช่วงหน้าร้อนของประเทศญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมของทุก ๆ ปี การเที่ยวชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่บานสะพรั่งเป็นสีม่วงสวยงามบนเกาะฮอกไกโดถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เชฟเซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Sebastiaan Hoogewerf ) หัวหน้าพ่อครัวเบเกอร์รี่ (Executive Pastry Chef) จึงได้นำสีม่วงของทุ่งดอกลาเวนเดอร์มาเป็นแรงบันดาลใจ ในการออกแบบชุดน้ำชายามบ่ายลาเวนเดอร์ เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสถึงบรรยากาศอันงดงามของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ในช่วงฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่น ชุดน้ำชายามบ่ายลาเวนเดอร์ ประกอบไปด้วย ของหวานและของคาวทั้งหมด 12 รายการ ที่ผสมผสานรายการของคาวหวานทั้งแบบฝรั่งและญี่ปุ่น ได้อย่างลงตัว เริ่มจากขนมหวาน อาทิ เค้กลาเวนเดอร์สลับชั้นกับเยลลี่แบล็คเคอร์แรนท์และมูสไวท์ช็อกโกแลต ไดฟูกุไส้มันม่วง ช็อกโกแลตทรัฟเฟิลไส้เกสรผึ้ง (Bee Pollen) วุ้นญี่ปุ่นกลิ่นลาเวนเดอร์วางบนพุดดิ้งนมฮอกไกโด สโคนสีม่วงแต่งด้วยแบล็คเคอร์แรนท์อบแห้ง และขนมหวานที่ขาดไม่ได้ คือ มาการองพิมพ์ลายดอกลาเวนเดอร์ไส้แบล็คเคอร์แรนท์ ส่วนรายการของคาว ได้แก่ ทาร์ตสาหร่ายญี่ปุ่นสลัดเนื้อปูและอะโวคาโด้ หน่อไม้ฝรั่งขาวราดซอสฮอลแลนด์เดส (Hollandaise) และเคเปอร์ (Caper) คลับแซนวิชแบบพอดีคำ แซนวิชขนมปังไรย์ไส้ปลาเทร้ารมควันและแตงกวาผสมฮอร์สแรดิช(Horse radish) ชุดน้ำชายามบ่ายลาเวนเดอร์ให้บริการคู่กับเครื่องดื่มชา หรือ กาแฟสำหรับ 2 ท่าน โดยสามารถเลือกได้ระหว่างชามาคิยาจ แฟรส์ (Mariage Frères) ชาชั้นเลิศสัญชาติฝรั่งเศส ที่มีชาลาเวนเดอร์ เป็นชาพิเศษให้บริการพร้อมชุดน้ำชาลาเวนเดอร์เท่านั้น ชากลีบดอกบัวซาโรที(Saro Tea) หรือกาแฟอิลลี่ (Illy) ที่สามารถให้บริการทั้งแบบร้อนและเย็น ชุดน้ำชายามบ่ายลาเวนเดอร์ มีให้บริการทุกวันเวลา 14.00 น. ถึง 17.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2561ที่อัพแอนด์อะบัฟ บาร์ ชั้น 24 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯชุดน้ำชายามบ่ายชุดพิเศษนี้ราคาเริ่มต้นชุดละ 1,190++ บาท ราคารวมเครื่องดื่มชาหรือกาแฟสำหรับ 2 ท่าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสำรองที่นั่ง กรุณาติดต่อ 02 687 9000 หรือ อีเมล์ [email protected] …
กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่เป็นปีที่ 7 สำหรับงานเทศกาลอาหาร “SO Amazing Chef 2018”ซึ่งในปีนี้มีเชฟชื่อดังและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร จากทั่วโลก มาร่วมประชันความสามารถทั้งหมด 21 ท่าน รวมดาวมิชลินถึง 14 ดวงไว้ในงานเดียวกัน เตรียมพบกับกิจกรรมน่าตื่นตาตื่นใจและประสบการณ์ที่หาไม่ได้ที่ไหนตลอด 10 วันเต็ม ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14 ถึงวันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2561 ณ โรงแรมโซโซฟิเทล แบงคอก ครั้งนี้ Kinlakestars.com ได้รับเชิญให้มาลิ้มลองอาหารที่จะมีการเสิร์ฟในงานจริง ซึ่งจัดขึ้นก่อนเป็นกรณีพิเศษ รังสรรค์โดยเชฟบาสเตียน ฟอลเก้นรอท– เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี (1 ดาวมิชลิน) เรามาดูกันเลยว่าจะสร้างสรรค์ ตระการตา ตื่นตะลึงขนาดไหน ก่อนที่เชฟบาสเตียนจะเปิดห้องอาหาร U.Das และได้รับ 1 ดาวมิชลินในปี ค.ศ. 2013 เขาได้ผ่านประสบการณ์ในการร่วมงานกับเชฟชื่อดังมากประสบการณ์หลายท่าน อาทิ เชฟโฮลเกอร์ เบเรน เชฟนีล เฮนเคิล และยังเคยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของห้องอาหาร Patrick le Guern จนได้รับการจดทะเบียนลง Gault –Millauในฐานะห้องอาหารทะเลที่ดีที่สุดในเมืองดุสเซลดอร์ฟ นอกจากนี้เชฟบาสเตียนยังเคยได้รับเลือกจากหนังสือพิมพ์ Frankfuter Allegemeine Zeitungว่าเป็น “เชฟที่ได้รับการชื่นชอบมากที่สุดในปี ค.ศ 2017” เริ่มต้นกันด้วยขนมปัง ขนมปังเริ่มมื้ออาหาร แม้จะดูเป็นอะไรที่ธรรมดาสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับที่นี่ ขนมปังจะถูกเสิร์ฟมา ทุกรูปแบบค่อยๆบรรจงจัดวางอย่างสวยงามบนจานสีดำ ทุกชิ้นอร่อย สวย ควรค่าแก่การลิ้มลอง ด้วยการนำเนยฝรั่งเศสชั้นเลิศมาใช้ ตามมาด้วยอมูชบูช Amuse Bouche อมูชบูชในมื้อนี้ เชฟได้ลงมือรังสรรค์ ปรุงขึ้นมาเพื่อแขกทุกคนได้ลิ้มลอง จะสร้างสรรค์ขนาดไหนไปดูกันเลยครับ 1.Apple & Cereal นับว่าเป็นการเปิดมื้ออาหารที่ดีเลยทีเดียว กับความสดชื่นสุดใจไปกับของเหลวรสหวานอมเปรี้ยวจากแอปเปิลเขียว ที่มาบนธัญพืชอบคล้ายข้าวตัง เสิร์ฟมาบนถาดไม้ตกแต่งด้วยก้อนหิน 2 ไก่สะเต๊ะ อีกชิ้นที่ต้องทำให้ใครหลายคนว้าว เพราะปรุงโดยคนเยอรมัน ใช้เทคนิคการปรุงแบบฝรั่งเศส แต่รสออกมาอย่างไทยเลยทีเดียว จะจัดว่าเป็นอาหารไทยไปเลยเสียทีเดียวก็คงไม่ใช่ เพราะเจ้าสะเต๊ะเองมีต้นกำเนิดมาจากทางอินเดีย เจ้าเมนูนี้ทั้งรสและกลิ่นเหมือนสะเต๊ะมากๆที่ถูกแปลงรูปให้เป็นมูสในโดมเล็กๆ บรรจงวางลงบนขนมปัง รสมันของถั่วและกลิ่นเครื่องเทศทำให้เริ่มอยากอาหาร เทียบกับตัวก่อนมีรสที่หนักและเข้มขึ้น แต่ก็ยังเบาๆ…
เผลอใจไปกับการปรนนิบัติอย่างสมบูรณ์แบบ ฟื้นฟูสมดุลภายในของท่านด้วยการผ่อนคลายและฟื้นฟูชีวิตชีวาที่สปาเซ็นวารี โอเอซิสแห่งความสงบริมหาดหัวหิน หากจะกล่าวถึงเมืองแห่งการพักผ่อน “หัวหิน” นั้นเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ดีสำหรับ การพักผ่อนที่ไม่ว่าคนไทยหรือชาวต่างชาติก็ต้องนึกถึง หัวหินนั้นเป็นเมืองตากอากาศที่นิยมเป็นที่พักผ่อนกันมายาวนานมากกว่า 100 ปี โดยในอดีตชนชั้นสูง เจ้านาย มักใช้หัวหินเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แม้เวลาผ่านไปยาวนานแต่มนต์เสน่ห์แห่งหัวหินก็ยังไม่เสื่อมคลาย ครั้งนี้ Kinlakestars.com ขอพาทุกท่านไปพบกับสปาริมหาดหัวหิน กับเทคนิคหนึ่งเดียวที่ไม่เหมือนใคร ใช้หม้อดินอัดแน่นไปด้วยสมุนไพรอุ่นให้ร้อน ประคบตามจุดต่างๆของร่างกาย เพื่อความผ่อนคลาย และสุขภาพที่ดี สปา Cenvaree นี้ตั้งอยู่ใกล้ๆกับริมหาดหัวหิน หากเดินจากทาง lobby โรงแรม จะต้องเดินผ่านสวนหลายส่วนด้วยกัน ระหว่างเดินผ่านสวนและสระน้ำไป จะได้สัมผัสถึงความร่มรื่น ผ่อนคลายได้ทั้งกายและใจ เมื่อมาถึงสปา Cenvaree เราจะพบกับอาคารไม้สีขาวสไตล์โคโลเนียล ล้อไปกับอาคารหลักของโรงแรมที่สร้างมากว่าร้อยปี มาถึงแล้วจะเจอตู้รองเท้าด้านหน้าอาคาร ให้แขกได้เปลี่ยนจากรองเท้าของแขกเป็นรองเท้าสลิปเปอร์ หลังจากเปลี่ยนรองเท้า ย่างก้าวแรกที่เดินเข้ามา ท่านจะสัมผัสได้ถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่นของพนักงาน หลังจากนั่งแล้ว พนักงานจะนำน้ำอัญชันมะนาว ใบเตย เย็นๆ สดชื่นดีต่อสุขภาพมาให้ โดยที่น้ำจะถูกเสิร์ฟมาในแก้วทรงช้าง เป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมชื่อคุณโชคดี ดูแล้วน่ารัก มีเอกลักษณ์ พร้อมด้วยผ้าเย็นกลิ่นตะไคร้เย็นๆ หอมสดชื่น บริเวณโต๊ะรับรองจะมีบรรดาสมุนไพรวางเรียงรายไว้ให้ดู เพราะสมุนไพรเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของส่วนประกอบที่จะนำมาใช้ในการนวดและบริการแก่แขกในทรีดเมนต์โปรแกรมต่างๆ พนักงานจะนำแอพลิเคชั่นมาให้แขกกรอก ซึ่งข้อมูลที่จะต้องกรอกไปเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่เป็นประโยชน์แก่การทำทรีทเมนต์ ได้แก่ น้ำหนักการนวด จุดที่ต้องการให้เน้น จุดที่ต้องการให้หลีกเลี่ยง และโรคประจำตัว หลังจากผ่านการต้อนรับ และให้ข้อมูลแก่พนักงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พนักงานจะนำทางเราไปยังห้องเปลี่ยนชุด โดยภายในห้องเปลี่ยนชุดจะเตรียมชุดให้เปลี่ยนไว้ พร้อมกางเกงใน มีตู้ให้เก็บเสื้อผ้าและกุญแจ หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย พนักงานจะพาเราไปยังห้องทรีทเมนต์ ภายในห้องทรีทเมนต์จะประกอบไปด้วยส่วนที่นั่งสำหรับทำทรีทเมนต์เท้า เตียงสำหรับทำทรีทเมนต์หลัก และเคาเตอร์วางของต่างๆ โดยที่อุปกรณ์ต่างๆที่พนักงานเตรียมไว้สำหรับเราในครั้งนี้จะมีทั้งน้ำมันนวดตัวพร้อมที่อุ่น หม้อดินใส่สมุนไพรห่อด้วยผ้าฝ้ายลายไทย และอุปกรณ์ทรีทเมนต์เท้า นี่คือเกลือสมุนไพรและน้ำมันสูตรพิเศษสำหรับการทำทรีทเมนต์เท้า อีกส่วนจะเป็นน้ำมันนวดที่มีเครื่องอุ่นน้ำมัน ซึ่งขั้นตอนแรกจะเริ่มต้นจากการทรีทเมนต์ที่เท้า โดยเริ่มต้นจากการเอาเท้าแช่ในน้ำอุ่น ลอยด้วยดอกลีลาวดีกลิ่นหอมหวล ทำให้กระแสเลือดไหลเวียน จากนั้นพนักงานจะนำเกลือสมุนไพรมาขัดผิวเท้า จากนั้นนำน้ำมันสมุนไพร มานวดที่เท้า และล้างเท้าอีกรอบ ต่อด้วยการนำผ้ามาเช็ดเท้า หลังจากที่ทำทรีดเมนต์เท้าเป็นที่เรียบร้อย พนักงานจะให้เราขึ้นไปนอนบนเตียง ก็จะให้เรานอนในท่านอนคว่ำ และถอดเสื้อคลุมออก หลังจากนอนคว่ำก็จะเห็นอ่างที่เอาดอกเฟื่องฟ้ามาลอยน้ำ ความหลากสีและสดใสของดอกเฟื่องฟ้าทำให้ผ่อนคลายสบายตา ก่อนทำทรีดเมนต์ เทอราปีสจะนำ singing bow มาใช้ เจ้าถ้วยนี้ทำจากทองเหลือง ใช้ท่อนไม้มาลากวนตรงปากถ้วยทำให้เกิดเสียงที่มีคลื่นความถี่ต่ำ ทำให้สมองผ่อนคลาย…
เชิญคุณมาอิ่มหนำไปกับติ่มซำมื้อกลางวันที่สามารถเลือกอร่อยได้ไม่จำกัดจากเมนูติ่มซำถึง 46 รายการ ทั้งนึ่ง อบ ทอด ซุป โจ๊ก บาร์บีคิวและของหวาน ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 11.30 น. ถึง 14.30 น. ในราคาเพียงท่านละ 788 บาทถ้วนที่ ห้องอาหารจีน แชงพาเลซโรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ติ่มซำแสนอร่อยแบบนึ่งมากถึง 15 รายการ เรียงรายอยู่ในเมนูให้ลิ้มรส อาทิ ขนมจีบไข่กุ้ง ขนมจีบผักโขมชีส เสี่ยวหลงเปา เนื้อปลาสอดไส้กุ้งนึ่ง ซาลาเปาไส้ครีม ข้าวเหนียวห่อใบบัว และเต้าหู้สาหร่ายราดหน้าเนื้อปู ผู้ที่ชื่นชอบติ่มซำแบบทอดหรืออบจะได้อิ่มเพลินกับ ฟองเต้าหู้ห่อกุ้งทอด ปอเปี๊ยะกุ้ยหลิน เผือกทอดสอดไส้ทะเล เกี๊ยวซ่าไส้ผัก และทาร์ตไข่ นอกจากนี้ยังมีติ่มซำแบบอื่นๆที่เสิร์ฟให้ลิ้มรสได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ก๋วยเตี๋ยวหลอดหมูแดง โจ๊กหมูและไข่เยี่ยวม้า หมูกรอบ หมูแดงเลิศรส ยำแมงกระพรุน ซุปเสฉวนทะเล ซุปเห็ดสมุนไพรเก๋ากี้ และเต้าหู้หม่าผ่อและจบมื้ออร่อยด้วยของหวานซึ่งมีให้เลือก 5 รายการ ได้แก่ มะม่วงพุดดิ้ง หม่าไหลโก๊วน้ำมันชา สาคูแคนตาลูป ขนมต้มแชงพาเลซ และบัวลอยน้ำขิง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะได้ที่ฝ่ายสำรองที่นั่งห้องอาหารของโรงแรมฯ โทร. 0 2236 7777 หรือ 0 2236 9952 หรือ อีเมล [email protected] หรือสำรองโต๊ะผ่านเว็บไซต์ที่https://www.shangri-la.com/bangkok/shangrila/dining/restaurants/shang-palace/book-a-table/ # # # kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ…