Kinandleisure
    Facebook Twitter Instagram
    Trending
    • [Review] บุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นพรีเมียมกลางกรุงเทพฯ! Soshi เสิร์ฟฟัวกราส์–วากิว–ล็อบสเตอร์ไม่อั้น So/ Bangkok
    • [Review] เปิดประสบการณ์ Buffet ติ่มซำเหนือระดับบนชั้น 59 เมนูใหม่โดยเชฟไซมอน คิน ที่ Bai Yun, Banyan Tree Bangkok พร้อมชมวิวกรุงเทพสุดตระการตา
    • [News] “เฮยยิน” ตอกย้ำความเป็นเลิศ! เสริมทัพสองสุดยอดเชฟระดับมาสเตอร์ ยกระดับประสบการณ์อาหารจีนกวางตุ้งและติ่มซำสู่มิติใหม่
    • [Top Review] รวมรีวิวบ๊ะจ่างเลิศรส 4 สไตล์ประจำปี 2025: จากภัตตาคารหรูสู่รสชาติแห่งวัฒนธรรม
    • [Review] รีวิวบะจ่างเจียซิงจาก Pagoda, Marriott Maquis Queen’spark มาพร้อมกล่องของขวัญหรูที่อัดแน่นทั้งรสชาติและสิริมงคล
    • [Review] รีวิวบ๊ะจ่างกังป๋วยสไตล์ฮ่องกง ลูกใหญ่ไซซ์กิโล! ไส้แน่น 12 อย่าง เสิร์ฟพร้อมซีอิ๊วปลาสูตรต้นตำรับ โดย Hongkong Fisherman
    • [Review] บ๊ะจ่างสูตรดั้งเดิมจาก China Palace, Prince Palace Hotel Bangkok— ความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่นที่ไม่ควรพลาดในเทศกาลบ๊ะจ่าง 2568 ไส้พรีเมียมในราคาจับต้องได้
    • [Review] เปิดห่อบ๊ะจ่าง 3 สไตล์ เชฟกั๊มแห่ง The Silk Road: เป๋าฮื้อ กังป๋วย คุโรบูตะ ครบสูตรหรูรับเทศกาล The Athenee Hotel, A Luxury Collection Bangkok Hotel
    Facebook Twitter Instagram
    Kinandleisure
    • Kin Reviews
      • Top Restaurant
      • French Cuisine
      • European Cuisine
      • German Cuisine
      • Italian Cuisine
      • Japanese Cuisine
      • Thai Cuisine
      • International Cuisine
      • Spanish Cuisine
      • tea lounge/Café & bakery
      • Chinese Cuisine
      • American Cuisine
      • Bar Drinks
      • Steak House
      • Vietnamese Cuisine
      • Korean Cuisine
      • Indian Cuisine
      • latin American
      • Steak House
    • K healthy
      • Kin Healthy
      • Healthy Living
    • Kin Articles
      • Kin General
      • Kin Cooking
      • Kin Seasonal
    • Kin Channel
    • Promo & Event
      • Kin Promo
      • Kin News
      • LifeStyle Promo & Event
    • K Travel&LifeStyle
      • Trip Review
      • Hotel Review
      • Spa & beauty
      • K Fashion
      • K Fit
      • Our Team เบื้องหลัง โฉมหน้าผู้สร้างเนื้อหา กิน ดื่ม เที่ยว โดยทีมงานคุณภาพ
    • K Living & Design
    Kinandleisure
    Home»Kin Articles»Kin General»“หญ้าฝรั่น” หรือ Saffron สุดยอดเครื่องเทศแพงที่สุดในโลก ทำไมถึงแพง ประโยชน์เยอะแค่ไหน ไปดูกัน
    Kin General

    “หญ้าฝรั่น” หรือ Saffron สุดยอดเครื่องเทศแพงที่สุดในโลก ทำไมถึงแพง ประโยชน์เยอะแค่ไหน ไปดูกัน

    Kittin AssavavichaiBy Kittin AssavavichaiMay 10, 2020Updated:May 10, 2021No Comments3 Mins Read

    “แซฟฟรอน” / Saffron หรือชื่อในภาษาไทยว่า “หญ้าฝรั่น”  (ออกเสียงว่า ฝะ-หรั่น) ชื่อสามัญ Saffron, True saffron, Spanish saffron, Crocus นั้น เป็นเครื่องเทศที่ได้มาจากเกสรตัวเมียของดอกแซฟฟรอน โครคัส (saffron crocus) ซึ่งเป็นพืชประเภทหัว มีกลีบดอกสีม่วง พบได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก เช่น สเปน กรีซ อินเดีย อิหร่าน จอร์เจียร์ ฯลฯ แต่ประเทศที่ผลิตแซฟฟรอนได้มากที่สุดในโลกก็คือ อิหร่าน

    หลายคนอาจจะตกใจถ้าทราบว่าแซฟฟรอนมีราคาซื้อขายโดยเฉลี่ยขายปลีกกันประมาณกิโลกรัมละ 77,700 บาท ขนาดนี้ก็นับว่าแพงมากแล้ว แต่ในบางยุคแซฟฟรอนยังมีราคาสูงกว่าทองคำเสียอีก เหตุที่เป็นเครื่องเทศราคาแพงขนาดนี้ก็เนื่องจากดอกแซฟฟรอน โครคัสแต่ละดอกจะให้เกสรเพียง 3 เส้นเท่านั้น ดังนั้นการที่จะเก็บแซฟฟรอนแห้งให้ได้น้ำหนักเพียง 1 ปอนด์ (0.45 ก.ก.) ก็จะต้องใช้ดอกแซฟฟรอน โครคัส มากถึง 50,000-75,000 ดอก นอกจากนั้นการเก็บเกสรต้องรีบเก็บในวันเดียวก่อนที่ดอกจะโรย และต้องรีบนำมาคั่วให้แห้งทันที และยังต้องใช้แรงงานคนเท่านั้น ใช้เครื่องจักรแทนไม่ได้อีกด้วย

    เราใช้แซฟฟรอนมาใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร โดยเฉพาะในแถบยุโรป และแถบประเทศอาหรับ รวมถึงประเทศในแถบเอเชียกลาง เช่นตุรกี อินเดีย เป็นต้น แซฟฟรอนเป็นเครื่องเทศที่ให้กลิ่นหอมและกลิ่นติดนาน แม้จะใช้เพียงนิดเดียวเท่านั้น และนิยมใช้ในอาหารที่ทำในโอกาสพิเศษเพื่อการเฉลิมฉลอง ใช้ได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน และในตำรายาไทยก็ยังนำหญ้าฝรั่นมาใช้เป็นตัวยาที่ช่วยในการแก้ลมวิงเวียนใช้ในยาหอมต่างๆ และยังเป็นยาชูกำลัง บำรุงหัวใจ อีกทั้งยังทำให้ผิวเปล่งปลั่ง และอายุยืนอีกด้วย

    หญ้าฝรั่น ชื่อวิทยาศาสตร์ Crocus sativus L. จัดอยู่ในวงศ์ว่านแม่ยับ (IRIDACEAE) และยังไม่มีชื่อท้องถิ่นหรือชื่อพื้นเมืองอื่น ๆ เนื่องจากเป็นพืชสมุนไพรของต่างประเทศ โดยประเทศที่ปลูกหญ้าฝรั่นเพื่อส่งออกได้แก่ ประเทศสเปน เยอรมัน ฝรั่งเศส อินเดีย และอิหร่าน[1],[3],[4],[8] โดยอิหร่านเป็นประเทศที่สามารถผลิตหญ้าฝรั่นที่มีคุณภาพและมีปริมาณการผลิตมากที่สุดในโลก โดยคิดเป็นร้อยละ 81 ของหญ้าฝรั่นทั่วโลก

    Saffron คืออะไร ? Saffron หรือหญ้าฝรั่นคือเครื่องเทศสมุนไพรจากต่างประเทศที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลก เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้มาตั้งแต่สมัยกรีกและโรมันโบราณ โดยแหล่งผลิตหญ้าฝรั่นที่มีคุณภาพสูงคือประเทศอิหร่าน

    ลักษณะของหญ้าฝรั่น

    • ต้นหญ้าฝรั่น จัดเป็นพืชล้มลุก ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-30 เซนติเมตร และมีความสูงเฉลี่ยน้อยกว่า 30 เซนติเมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินลักษณะคล้ายหัวเผือกหรือหัวหอม มีอายุหลายปี ในประเทศไทยยังไม่มีการเพาะปลูกหญ้าฝรั่น

    สรรพคุณของหญ้าฝรั่น

    1. ใช้เป็นยาบำบัดรักษาโรคมะเร็ง ช่วยต่อต้านมะเร็ง และต่อต้านสารก่อกลายพันธุ์
    2. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
    3. ช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด
    4. ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย
    5. ช่วยทำให้เจริญอาหาร
    6. การรับประทานหญ้าฝรั่นทุกวันจะช่วยถนอมสายตาไม่ให้มืดมนเมื่ออายุมาก ถนอมเซลล์อันซับซ้อนในดวงตาให้สามารถใช้งานนานและทนทานกับโรคได้ดี ป้องกันเซลล์ไม่ให้ตายเพราะมีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่เข้มแข็งอยู่ ช่วยป้องกันดวงตาจากแสงแดด และช่วยขัดขวางไม่ให้เป็นโรคจอตาเสื่อม มีสารสีขึ้นหรือโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ (ศาสตราจารย์ซิลเวีย พิสติ มหาวิทยาลัยอกิลาในอิตาลี) นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดที่จอตานอกเหนือจากจุดรับภาพเสื่อม และช่วยป้องกันโรคตาบอดกลางคืนได้
    7. ช่วยบำรุงโลหิตในร่างกาย
    8. ในประเทศเยอรมนีมีการใช้หญ้าฝรั่นเพื่อเป็นยาคลายกล้ามเนื้อประสาท ช่วยผ่อนคลายความเครียดของระบบประสาท
    9. ยอดเกสรและกลีบดอกหญ้าฝรั่นช่วยรักษาภาวะซึมเศร้าได้ (หญ้าฝรั่น, กลีบดอก)
    10. ใช้เป็นยาชูกำลัง
    11. ช่วยบำรุงหัวใจ (ต้น)
    12. ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
    13. ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในพลาสม่า
    14. ช่วยบรรเทาอาการของโรคหอบหืด (ในเยอรมัน)
    15. ช่วยแก้อาการสวิงสวายหรืออาการรู้สึกใจหวิว มีอาการวิงเวียน คลื่นไส้ ตาพร่ามัว คล้ายจะเป็นลม[5]
    16. ช่วยแก้ซางในเด็ก
    17. ใช้เป็นยาขับเหงื่อ
    18. ดอกและรากหญ้าฝรั่นช่วยแก้ไข้ (ดอก, ราก)
    19. ช่วยขับเสมหะ
    20. ในประเทศเยอรมนีมีการใช้หญ้าฝรั่นเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง อาการปวดในกระเพาะอาหาร[7]
    21. ช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
    22. ช่วยแก้อาการบิด (ราก)
    23. ช่วยแก้อาการปวดท้องหลังการคลอดบุตรของสตรี
    24. ช่วยขับระดูของสตรี
    25. ช่วยแก้อาการเกร็ง เส้นกระตุก ลดอาการกล้ามเนื้อกระตุก
    26. ช่วยระงับความเจ็บปวด
    27. มีการใช้สารสกัดที่ได้จากหญ้าฝรั่นที่มีตัวยาที่ชื่อว่า Swedish bitters เพื่อใช้ในการเตรียมยาบำบัดเพื่อรักษาโรคต่าง ๆ
    28. งานการศึกษาอื่น ๆ ระบุว่าหญ้าฝรั่นอาจมีศักยภาพในคุณสมบัติทางด้านการแพทย์อีกหลายอย่าง

    ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของหญ้าฝรั่น

    สารเคมีที่พบในหญ้าฝรั่นได้แก่ Crocin 2%, Destrose, Picrocrocin 2%, Riboflavin และน้ำมันหอมระเหย[4]

    ประโยชน์ของหญ้าฝรั่น

    1. เชื่อว่าหญ้าฝรั่นมีสรรพคุณช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและมีอายุยืนยาว[5]
    2. หญ้าฝรั่นมีรสขมอมหวานและมีกลิ่นหอมแบบโบราณ นำมาใช้ทำเป็นยาหอมได้[5]
    3. หญ้าฝรั่นนิยมนำมาใช้ในการประกอบอาหาร ใช้แต่งกลิ่นและสีของอาหาร โดยจะช่วยทำให้อาหารมีสีเหลืองส้มสว่าง อย่างเช่น ลูกกวาด ขนมหวาน เค้ก พุดดิง คัสตาร์ด รวมไปถึงเหล้าและเครื่องดื่ม[1],[4],[8]
    4. หญ้าฝรั่นเป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอมและกลิ่นติดทนนาน เมื่อนำมาใช้ทำอาหารจึงไม่ต้องใช้มาก และนิยมนำมาใส่ในขั้นตอนสุดท้ายของการปรุงอาหาร เนื่องจากเป็นเครื่องเทศที่มีราคาแพงมากจึงมักนิยมใส่ในอาหารในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลอง[5]
    5. นอกจากนำมาใช้แต่งกลิ่นอาหารแล้ว ยังใช้แต่งกลิ่นเครื่องหอมและน้ำหอมหรือน้ำอบได้อีกด้วย[4],[8]
    6. ใช้ในการย้อมสีผ้า โดยให้สีเหลือง[5]
    7. ในตำรายาสมุนไพร Farmakuya ซึ่งเป็นตำรับยาสมุนไพรโบราณระบุว่า หญ้าฝรั่นมีสรรพคุณนำมาใช้ทำเป็นทิงเจอร์ที่มีชื่อว่า Tinctura Opiicrocata[7]
    8. นิยมใช้กับข้าวปรุงรสต้นตำรับหรืออาหารจากต่างประเทศ เช่น ข้าวบุหรี่, ข้าวหมาก ข้าวปิลาฟ (Pilaf Rice), ข้าว Pilaus ของอินเดีย, ข้าวปาเอญ่า (Paella) ของสเปน, ข้าว Risotto Milanese ของอิตาเลียน, ซุปทะเลรวมมิตรแบบฝรั่งเศส หรือบุยยาเบส (Bouillabaisse) ด้วยการใช้หญ้าฝรั่นนำมาชงด้วยน้ำร้อนแล้วกรองเอาแต่น้ำ หรือนำมาบดให้ละเอียดและผสมลงในอาหารหรือใส่ทั้งเส้น[2],[5]

    คุณค่าทางโภชนาการของหญ้าฝรั่น ต่อ 100 กรัม

    • พลังงาน 310 กิโลแคลอรี
    • คาร์โบไฮเดรต 65.37 กรัม
    • เส้นใย 3.9 กรัม
    • ไขมัน 5.85 กรัมลักษณะของหญ้าฝรั่น
    • ไขมันอิ่มตัว 1.586 กรัม
    • ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 0.429 กรัม
    • ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 2.067 กรัม
    • โปรตีน 11.43 กรัม
    • น้ำ 11.9 กรัม
    • วิตามินเอ 530 หน่วยสากล
    • วิตามินบี 1 0.115 มิลลิกรัม 10%
    • วิตามินบี 2 0.267 มิลลิกรัม 22%
    • วิตามินบี 3 1.46 มิลลิกรัม 10%
    • วิตามินบี 6 1.01 มิลลิกรัม
    • วิตามินบี 9 93 ไมโครกรัม
    • วิตามินซี 80.8 มิลลิกรัม 97%
    • ธาตุแคลเซียม 111 มิลลิกรัม 11%
    • ธาตุเหล็ก 11.1 มิลลิกรัม 85%
    • ธาตุแมกนีเซียม 264 มิลลิกรัม 74%
    • ธาตุฟอสฟอรัส 252 มิลลิกรัม 36%
    • ธาตุโพแทสเซียม 1,724 มิลลิกรัม 37%
    • ธาตุโซเดียม 148 มิลลิกรัม 10%
    • ธาตุสังกะสี 1.09 มิลลิกรัม 11%
    • ธาตุซีลีเนียม 5.6 ไมโครกรัม

    % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

    ข้อควรรู้เกี่ยวกับหญ้าฝรั่น

    • สภาพอากาศและสภาพภูมิประเทศเป็นปัจจัยสำคัญและมีผลต่อคุณภาพและปริมาณการผลิตของหญ้าฝรั่น ดังนั้นผลผลิตที่ปลูกคนละพื้นที่ จึงมีผลโดยตรงในเรื่องของคุณสมบัติและสรรพคุณของหญ้าฝรั่นที่ต่างกัน ซึ่งจากผลการวิจัยและค้นคว้าพบว่าหญ้าฝรั่นที่ปลูกในประเทศอิหร่าน มีสารพิษที่เจือปนในปริมาณที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับหญ้าฝรั่นจากประเทศอื่น ๆ จากข้อได้เปรียบดังกล่าวจึงสามารถใช้ต่อรองราคากับประเทศคู่ค้าอื่น ๆ ได้ และยังเป็นเกณฑ์แบ่งระดับคุณภาพ รวมถึงมาตรฐานระหว่างหญ้าฝรั่นที่ผลิตในประเทศอื่นอีกด้วย
    • หญ้าฝรั่นปลอมก็มีเหมือนกัน เนื่องจากเป็นพืชที่มีราคาสูงมาก จึงมีผู้ฉวยโอกาสผลิตสินค้าลอกเลียนแบบขึ้นมา ด้วยการนำดอก Rose–Coloured ที่มีทั้งลักษณะและคุณสมบัติคล้ายกับหญ้าฝรั่น มาผสมปนกับหญ้าฝรั่นบดหรือผง ซึ่งเมื่อนำมาละลายน้ำดู น้ำก็จะเกิดเป็นสีเหลืองเช่นเดียวกับหญ้าฝรั่น โดยวิธีการตรวจสอบ
      • วิธีแรก ก็คือ ให้นำหญ้าฝรั่นผงประมาณ 2-3 มิลลิกรัม มาผสมกับกรดซัลฟิวริกเข้มข้น 2-3 หยดในหลอดทดลอง แล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หากเป็นหญ้าฝรั่นของแท้ก็จะเปลี่ยนจากสีแดงเข้มหรือสีแดงน้ำตาลเป็นสีแดงม่วง
      • วิธีที่สอง ให้นำหญ้าฝรั่นผงประมาณ 2-3 มิลลิกรัม นำมาบดกับกรดซัลฟิวริก 1 หยดบนกระจกแก้วแล้วนำไปส่องดูด้วยกล้องไมโครสโคป ที่มีกำลังขยาย 100 ก็จะเห็นผล หากเป็นหญ้าฝรั่นของแท้ก็จะเปลี่ยนสีฟ้า และเกิดรัศมีทรงกลดสีฟ้าอยู่รอบ ๆ
    • การเก็บรักษาหญ้าฝรั่น เนื่องจากสี กลิ่น และรสชาติของหญ้าฝรั่นมีคุณสมบัติที่ระเหยได้ง่าย โดยเฉพาะหญ้าฝรั่นที่เป็นผงหรือเป็นฝอย ดังนั้นจึงควรเก็บให้พ้นแสงแดดและในที่ที่ปราศจากความชื้น โดยเก็บไว้ในขวดโหลแก้วที่มีฝาปิดได้อย่างมิดชิด หรือจะเป็นขวดโลหะก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงของรสชาติและสรรพคุณของหญ้าฝรั่นนั่นเอง และที่สำคัญอย่างมากก็คือไม่ควรนำหญ้าฝรั่นมาบดเป็นผงถ้าหากยังไม่ได้ใช้งาน
    • ผลข้างเคียงของหญ้าฝรั่น การรับประทานหญ้าฝรั่นในปริมาณมากเกินไปอาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะ อาเจียน มีอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนตัว ตัวสั่น ผิวเหลือง มีเลือดกำเดาไหล มีเลือดออกบริเวณเปลือกตาและริมฝีปาก ถ่ายเป็นเลือด เลือดออกภายในมดลูก และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากพบอาการในเบื้องต้นต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน ทั้งนี้จากการค้นคว้าและวิจัยพบว่า ปริมาณการบริโภคหญ้าฝรั่นคือไม่ควรเกิน 1.5 กรัมต่อวัน
    เอกสารอ้างอิง
    1. สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.rspg.or.th.  [20 ต.ค. 2013].
    2. โรงเรียนอุดมศึกษา.  “เมนูอาหารพรรณไม้“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.udomsuksa.ac.th.  [20 ต.ค. 2013].
    3. หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.medplant.mahidol.ac.th.  [20 ต.ค. 2013].
    4. เครือข่ายความร่วมมือบริการเภสัชสนเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.  อ้างอิงใน: หนังสือสมุนไพรไทยเทศ เล่ม 1 (อรุณพร อิฐรัตน์), หนังสือสมุนไพรสารพัดประโยชน์ (วันดี กฤษณพันธ์).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: drug.pharmacy.psu.ac.th.  [20 ต.ค. 2013].
    5. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาน่าน เขต 2.  อ้างอิงใน: หนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.nan2.go.th.  [20 ต.ค. 2013].
    6. วิชาการดอตคอม.  “วิจัยเผยหญ้าฝรั่นกันตาบอด“.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.vcharkarn.com.  [20 ต.ค. 2013].
    7. บ้านจอมยุทธ.  “หญ้าฝรั่น (Safron)“.  อ้างอิงใน: สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน มิถุนายน 2548.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.baanjomyut.com.  [20 ต.ค. 2013].
    8. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: th.wikipedia.org/wiki/หญ้าฝรั่น.  [19 ต.ค. 2013].

    Share this:

    • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
    • Click to share on X (Opens in new window) X
    • Click to share on Threads (Opens in new window) Threads
    Previous Articleท่องเที่ยวลัดเลาะตามชายฝั่งเมดิเตอเรเนียนไปกับหลากวัฒนธรรมผ่านอาหาร ณ ALATi, Siam Kempinski Bangkok
    Next Article อาหารจีนแสนอร่อยใจกลางกรุง พร้อมชมทัศนียภาพเมืองกรุงย่านสีลม ราชดำริ กับ Xin Tian Di โรงแรม Crowne Plaza Bangkok

    Related Posts

    Kin Review : Peruvian Flavors: มนต์เสน่ห์แห่งแดนละติน ท่องเที่ยวเปรูผ่านจาน สัมผัสวัฒนธรรมและรสชาติอันน่าตราตรึงใจ จาก 7 เชฟชาวเปรู

    December 10, 2024

    [Seasonal] กินเจ: จากประเพณีโบราณสู่เทรนด์ระดับโลก สุขภาพดี ใจเบาสบาย และรักษ์โลก! Vegetarian Festival

    October 3, 2024

    [General] เรียนรู้เกี่ยวกับไวน์ออสเตรเลีย Australian Wine

    November 2, 2022

    Comments are closed.

    • Recent Posts
    • POPULAR

    [Review] บุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นพรีเมียมกลางกรุงเทพฯ! Soshi เสิร์ฟฟัวกราส์–วากิว–ล็อบสเตอร์ไม่อั้น So/ Bangkok

    June 7, 2025

    [Review] เปิดประสบการณ์ Buffet ติ่มซำเหนือระดับบนชั้น 59 เมนูใหม่โดยเชฟไซมอน คิน ที่ Bai Yun, Banyan Tree Bangkok พร้อมชมวิวกรุงเทพสุดตระการตา

    June 1, 2025

    [News] “เฮยยิน” ตอกย้ำความเป็นเลิศ! เสริมทัพสองสุดยอดเชฟระดับมาสเตอร์ ยกระดับประสบการณ์อาหารจีนกวางตุ้งและติ่มซำสู่มิติใหม่

    May 23, 2025

    [Top Review] รวมรีวิวบ๊ะจ่างเลิศรส 4 สไตล์ประจำปี 2025: จากภัตตาคารหรูสู่รสชาติแห่งวัฒนธรรม

    May 20, 2025

    [Review] รีวิวบะจ่างเจียซิงจาก Pagoda, Marriott Maquis Queen’spark มาพร้อมกล่องของขวัญหรูที่อัดแน่นทั้งรสชาติและสิริมงคล

    May 20, 2025

    [Review] บุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นพรีเมียมกลางกรุงเทพฯ! Soshi เสิร์ฟฟัวกราส์–วากิว–ล็อบสเตอร์ไม่อั้น So/ Bangkok

    June 7, 2025

    [Review] เปิดประสบการณ์ Buffet ติ่มซำเหนือระดับบนชั้น 59 เมนูใหม่โดยเชฟไซมอน คิน ที่ Bai Yun, Banyan Tree Bangkok พร้อมชมวิวกรุงเทพสุดตระการตา

    June 1, 2025

    [News] “เฮยยิน” ตอกย้ำความเป็นเลิศ! เสริมทัพสองสุดยอดเชฟระดับมาสเตอร์ ยกระดับประสบการณ์อาหารจีนกวางตุ้งและติ่มซำสู่มิติใหม่

    May 23, 2025

    [Top Review] รวมรีวิวบ๊ะจ่างเลิศรส 4 สไตล์ประจำปี 2025: จากภัตตาคารหรูสู่รสชาติแห่งวัฒนธรรม

    May 20, 2025

    [Review] รีวิวบะจ่างเจียซิงจาก Pagoda, Marriott Maquis Queen’spark มาพร้อมกล่องของขวัญหรูที่อัดแน่นทั้งรสชาติและสิริมงคล

    May 20, 2025
    POPULAR

    “ฟัวกราส์” ถูกแบนแล้วในแดนแซมบ้า ห้ามซื้อห้ามขายห้ามกิน

    June 29, 2015

    เมล็ดมันแกวแก่ กินไม่ดีถึงตายไปหลายรายแล้ว!!!!

    June 30, 2015

    ภาชนะที่ทำจากโฟมใส่ของกินของต้องห้ามในนิวยอร์กตั้งแต่วันนี้!

    July 2, 2015
    @KinlakeStars
    KINLAKESTARS.COM

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.