Kinandleisure
    Facebook Twitter Instagram
    Trending
    • [Review] ลิ้มลองโอมากาเสะแบบอิตาเลียน 7 คอร์ส รสเลิศวัตถุดิบเยี่ยมสวยทุกจานใจกลางเมือง ที่ Enoteca Bangkok
    • [News] โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ฉลอง 15 ปี แห่งความสำเร็จของ Lady in Red และ Gentleman in Red, Sindhorn Kempinski Bangkok
    • [News] รื่นรมย์กับมนต์เสน่ห์แห่งฤดูร้อน ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ The Okura Prestige Bangkok กับ “Sense of Lavender Afternoon Tea” 2025
    • [News] โซเนวา ชวนสัมผัสประสบการณ์ดูแลสุขภาพกับเทศกาล SOUL Festival ครั้งที่ 3 เวิร์กช้อปเพื่อดูแลสุขภาพอย่างล้ำลึกระยะเวลา 5 วัน ที่มัลดีฟส์ นำโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Sanctum, Ground Wellbeing และอีกมากมาย
    • [News] คีรี ไพรเวท รีเซิร์ฟมอบแพ็กเกจพิเศษสำหรับคนไทยเพื่อเป็นการส่งท้ายสัมผัสความเงียบสงบของเกาะกูด กับรีสอร์ตในฝันของทุกคน
    • [Review] ดื่มด่ำกับโลกไซไฟยามค่ำคืน กับอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสายรักษ์โลก กับมนต์เสน่ห์แห่งแกะไฟฟ้า @ Electric Sheep ,Bangkok
    • [News] สัมผัสมนต์สเน่ห์แห่งโมร็อกโก Morocco ณ ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู Vertigo Too, Banyan Tree Bangkok
    • [News] เรือแซฟฟรอน ครูซ โดย บันยันทรี กรุงเทพ อวดโฉมลุคใหม่จากแรงบันดาลใจ “ปลากัด” สัตว์น้ำประจำชาติบนเส้นทางสายวัฒนธรรมของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา New look Saffron Cruise, Banyan tree Bangkok
    Facebook Twitter Instagram
    Kinandleisure
    • Kin Reviews
      • Top Restaurant
      • French Cuisine
      • European Cuisine
      • German Cuisine
      • Italian Cuisine
      • Japanese Cuisine
      • Thai Cuisine
      • International Cuisine
      • Spanish Cuisine
      • tea lounge/Café & bakery
      • Chinese Cuisine
      • American Cuisine
      • Bar Drinks
      • Steak House
      • Vietnamese Cuisine
      • Korean Cuisine
      • Indian Cuisine
      • latin American
      • Steak House
    • K healthy
      • Kin Healthy
      • Healthy Living
    • Kin Articles
      • Kin General
      • Kin Cooking
      • Kin Seasonal
    • Kin Channel
    • Promo & Event
      • Kin Promo
      • Kin News
      • LifeStyle Promo & Event
    • K Travel&LifeStyle
      • Trip Review
      • Hotel Review
      • Spa & beauty
      • K Fashion
      • K Fit
      • Our Team เบื้องหลัง โฉมหน้าผู้สร้างเนื้อหา กิน ดื่ม เที่ยว โดยทีมงานคุณภาพ
    • K Living & Design
    Kinandleisure
    Home»Dining Type»Fine Dining»[Review] อร่อย และสวยคุมโทนไปกับสุดยดวัตถุดิบและการปรุงที่แสนซับซ้อน ณ La Scala จากเชฟ Eugenio
    Fine Dining

    [Review] อร่อย และสวยคุมโทนไปกับสุดยดวัตถุดิบและการปรุงที่แสนซับซ้อน ณ La Scala จากเชฟ Eugenio

    athiwat tripipitsiriwatBy athiwat tripipitsiriwatOctober 20, 2021Updated:October 24, 2021No Comments5 Mins Read

    Chef : Eugenio / Date : Oct 2021
    Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A

    At a Glance
    * La Scala ร้านอาหารอิตาเลียน ที่จะทำให้เพลิดเพลินประหนึ่ง ชมโชว์ในโรงโอเปร่า ชื่อดังคู่กรุงเทพ ฯ เซเลบริตี้เชฟคนใหม่ Eugenio Cannoni ที่จะพาไปสัมผัสกับอาหารอิตาเลียนแท้ ในแบบฉบับของ fine dining
     *จานเด่น PICCIONE E NOCCIOLE
    *Tasting menu เริ่มต้น 3200 THB ++ (full 6 courses)
     *โรงแรม The Sukhothai กรุงเทพ, สาทร *แนะนำสำรองที่นั่งก่อน*

    Kinlakestars

    La Scala

                   วันนี้เราจะขอเชิญทุกท่านไปยังร้านอาหารที่หลายคนคิดถึง นั่นคือ La Scala ห้องอาหารอิตาเลียนประจำโรงแรม The Sukhothai Bangkok (เดอะ สุโขทัย กรุงเทพ) ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการกลับมาเปิดให้บริการธรรมดา แต่มาพร้อมกับอาหารอิตาเลียน สุดวิจิตรบรรจงกับเซเลบริตี้เชฟคนใหม่ คือ Eugenio Cannoni

    ผู้มีชื่อเสียง และ คร่ำหวอดในวงการอิตาเลียนมาอย่างยาวนาน และเคยเป็นถึง Chef de Cuisine ในห้องอาหารของ Castello di Casalborgone, Turin ประเทศอิตาลี ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเครื่องการันตีอย่างดีถึงความลุ่มลึกในศาสตร์แห่งอาหารอิตาเลียนของเชฟได้เป็นอย่างดี และ เป็นครั้งแรกของเอเชียที่จะได้ลิ้มลองอาหารของเชฟ Eugenio Cannoni

                   ปรัชญาการทำอาหารของเชฟคือการคงสภาพและรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบให้มากที่สุด และ เสริมด้วยเทคนิคพิเศษขั้นสูงเพื่อความสวยงามและความน่าสนใจของแต่ละจาน เรียบหรู แต่ น่าตื่นเต้นสมกับบรรยากาศของ La Scala

    โดยสำหรับครั้งนี้เชฟจะนำอาหารที่ใช้วัตถุดิบหลักในฤดูใบไม้ร่วงของอิตาลีมารังสรรค์เป็นคอร์สอาหารสุดพิเศษ โดยสามารถเลือกได้ตั้งแต่ 4 ถึง 8 จาน ซึ่งในวันนี้เราจะนำอาหารในคอร์ส Viaggio Gastronomico หรือ Gastronomic Journey มาพรีวิวให้กับผู้อ่านทุกท่าน

    The Prelude

                   ก่อนจะถึงจานหลักของ fine dining แน่นอนว่าจะต้องกล่าวถึง amuse bouche ก่อนสักเล็กน้อย amuse bouche ของเชฟ Eugenio นั้นอาจจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ตามวัตถุดิบที่หาได้ในแต่ละวัน ซึ่งเชฟได้นำมาเสิร์ฟถึงห้าคำได้แก่

                   Red Prawn Panna Cotta

                   กุ้งสดหวาน ด้านล่างเป็น เนื้อพานาคอตต้าเนื้อเนียนนุ่มละมุน ข่วยเสริมรสชาติเนื้อกุ้งให้โดดเด่น เป็น amuse bouche ที่ทำให้อารมณ์ดีและกระตุ้นความอยากอาหาร

                   Black sesame tacos with lobster and horseradish

                   ตัว Taco ด้านนอกทำจากงาดำ แผ่นหนาพอสมควร หอมกรอบเต็มรสงาดำ ด้านในเป็น lobster สดหั่น เนื้อกรุบ แฝงด้วยความสดชื่นของ horseradish รสชาติเข้มข้น

                   Mozzarella truffle tart

              ทรัฟเฟิลทาร์ตรสชาติหอมกลมกล่อม เข้มข้นเต็มคำด้วยครีมด้านบนที่มีส่วนผสม

                   Carbonara cannolino

                   หลายคนจะคุ้นกับคาโนลี ขนมห่อม้วนอิตาลีในรูปขนม แต่สำหรับชิ้นนี้จะเป็นคาโนลีขนาดเล็ก หรือ cannolino สอดไส้ด้วยชีสที่อัดแน่นด้วยรสชาติของคาโบนารา คนที่รักชีสจะต้องชอบ

                   Fake cherry with liver pâté

                   คำนี้เรียกได้ว่าเป็นดาวเด่นของ amuse bouche เซตนี้นั่นคือ live pâté ที่แปลงร่างเป็น cherry อย่างแนบเนียน ด้านนอกมีรสหวานเปรี้ยวนิด ๆ และสีแดงก่ำของ beetroot ส่วนก้านทำจากช็อคโกแลต ทำให้รสชาตินัวหวานเปรี้ยว ลงตัว ตัวตับไม่มีกลิ่นคาวเลย แม้แต่คนที่ไม่ชอบตับก็สามารถเพลินไปกับ amuse bouche ชิ้นนี้ได้

    Breads

    สำหรับขนมปังของ La Scala ก็บรรจงจัดมาให้อย่างประนีต basket จะมีให้เลือกถึง 3 แบบนั่นคือ Black olive croissant ครัวซองนุ่มหอมกลิ่นมะกอกดำ, focaccia กรอบนอกนุ่มในอันเป็นที่ร่ำลือ, ขนมปังเนย shea butter ซึ่งเสิร์ฟพร้อม ชีสมัสคาโปน และ น้ำมันกะกอก (Olive -mascarpone) สูตร La Scala ที่มากี่ครั้งก็ยังติดใจ และ ยังมี Grissini ขนมปังแท่งยาวกรอบหอม ที่บรรจงทำใน bakery ของ La Scala เช่นกัน

    Viaggio Gastonomico

    สำหรับเมนูอาหารในคอร์สนี้ chef Eugenio จะเน้นคุมโทนสีของแต่ละจานให้มีลักษณะ monotone เคารพตามวัตถุดิบหลักที่จะชูในแต่ละจาน เน้นการคงสภาพของวัตถุดิบแต่ใช้เทคนิคการปรุงขั้นสูงเพื่อดึงรสชาติ จานส่วนใหญ่จะดัดแปลงมาจากอาหารอิตาเลียนท้องถิ่นหลากหลายที่เชฟมีความรู้จริงและเชี่ยวชาญ ส่วนความสวยงามนั้นใช้วิธีความสร้างสรรค์คราฟส่วนต่าง ๆ ของวัตถุดิบที่เหลือทำเป็นลักษณะห่ม ห่อ บังวัตถุดิบหลักไว้  เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และ เสริม texture ของจาน ซึ่งแต่ละจานก็ทำได้อย่างสวยงาม

    SCAMPO

              จานแรกของคอร์สก็เปิดตัวด้วยวัตถุดิบพิเศษอย่าง Langoustine หรือ Norway lobster เนื้อหวานชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟมาใน white plate ตัดกับสีแดงส้ม สาดซอส ออกมาอย่างสวยงาม ตัว Langoutine ห่อมาในsheet ที่ทำและปรุงรสด้วย bell pepper และ ซอสเปรี้ยวหวานที่ทำจาก bell pepper และ สมุนไพรหลายชนิดคั่วอบให้มีกลิ่นหอม  แซมรสเผ็ดร้อน แต่ ชุ่มชื่น

    FEGATO GRASSO

                   จานนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารพื้นเมืองของ Italy คือ Fegato all veneziana หรือ ตับและหอมใหญ่สไตล์เวเนเซียน (Venetian style liver) ซึ่งจานนี้ได้เปลี่ยนจาก beef liver เป็น Foie gras และ stewed onion เป็น caramelized onion ทำให้ได้รสสัมผัสหวานหอมชุ่มฉ่ำรับประทานง่าย เสิร์ฟพร้อม waffle ตกแต่งลายสวยงามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากขนมดอกจอก ทอปด้านบนด้วยหอมใหญ่แบบต่าง ๆ ทั้ง burnt และ pickled onions, foie gras mousse และ เสริมรสชาติของซิครัสแบบเอเขียน ด้วยสมจี๊ด หรือ calamansi ทำเป็น calamansi drops

    PICCIONE E NOCCIOLE

                        จานเด็ด จานหลักของคอร์สนี้ นั่นคือ นกพิราบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ตัวเชฟ Eugenio นั้นให้ความสนใจกับการปรุงนกพิราบมาอย่างยาวนาน จนตกผลึกเป็นเทคนิคเฉพาะตัวที่ทำให้สามารถควบคุมให้เนื้อของนกพิราบนั้นอ่อนหวานนุ่มนวลในทุก ๆ ครั้งที่ทำ เรียกได้ว่าเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเลยทีเดียว ทำให้จานนี้นั้นพิเศษมาก ๆ ตัวนกพิราบนำเข้าจาก Piedmont จะถูกแบ่งส่วนเป็น ส่วนอก ที่ถูกปรุงเป็นตัวหลักของจานเสิร์ฟบนจาน glazed

    ด้วยซอสที่มีเบสของ ฮาเซลนัท แอนโชวีและ สมุนไพรหลากชนิด ให้รสหวานมันเข้มข้นเข้ากันได้ดีกับเนื้ออกหนานุ่มที่ perfect ทั้ง texture และอุณหภูมิ เสิร์ฟกับขานกพิราบที่นำไปทอดจนนุ่มละลาย

    และ เพื่อลด food waste เชฟได้นำตับและหัวใจของนกพิราบทำเป็นรากู  ตุ๋นด้วยฮาเซลนัท และ สมุนไพรจนกลิ่นคาวหมดสิ้น ห่อเป็นทาโกแซนวิช เป็นจานที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยม

    CAPESANTE

                        อาหารสีขาวสวยบริสุทธิ์ในจานนี้คือ หอยเชลล์ ที่ pan-seared มาห่อหุ้มด้วยฟิล์มพิเศษที่ทำจากหอยเชลล์ ! เสิร์ฟตัดสี บนซอสสีส้มสวย ที่ทำจากครีมฟักทองหวาน  ผสมกับ texture กรุบกรอบที่ทำจาก pickled pumpkin ราดปรุงรสด้วย lard cream sauce สีขาวทำจากกระดูกหมูและโรสแมรี จานนี้ให้รสชาติหวานมันของหอยเชลล์และ lard cream sauce พร้อมฟักทองเนื้อเนียนละมุนลิ้น ตัดเลี่ยนด้วยฟักทองดอง (pickled pumpkin) กรุบกรอบรสอมเปรี้ยว

    RAVIOLI

    อีกจานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารจากบ้านเกิดของเชฟ ซึ่งดั้งเดิมจานนี้จะเป็นหางวัว ห่อด้วย ผักกาด แต่ เชฟได้ประยุกต์เป็นราวีโอลีซึ่งทำจากแป้งเคลสีเขียวอ่อนสวยงามห่อหุ้มหางวัวตุ๋นเปื่อย ละลายในปาก ราดด้วย cabbage sauce รสเข้มข้นอมเปรี้ยวเล็กน้อย แต่เข้าได้เป็นอย่างดีกับตัวหางวัวที่ตุ๋นจนละลายในปาก ทำให้ไม่เลี่ยน กินเพลินได้จนหมดจาน

    ARAGOSTA

     Lobster tail ชิ้นโตกงฟีพร้อม brown butter ราดด้วยซอสสีเขียวที่ทำจาก  anchovies นำเข้าจากทะเลแคริบเบียน ซึ่งจานนี้เป็นอีกหนึ่งจานที่เชฟได้ดัดแปลงอาหารประจำถิ่น ของแคว้น Piedmont นั่นคือ Bagna Cauda ซึ่งทำจาก anchovies เช่นเดียวกัน โดยจะผสมกับกระเทียม เติมเนยนม ทำให้จานนี้มีรสชาติค่อนข้างเข้มข้น อาจจะมีความขมติดปลายลิ้นเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนรสชาติให้คอร์สนี้ครบรสเลยทีเดียว

    YUZU

    มาถึงจานของหวานนั่นคือ Yuzu ซึ่งไม่ทำให้ผิดหวัง ถึงแม้เราจะอิ่มมาก แต่ด้วยความสวยงามของจานก็ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความพิเศษ เริ่มจากตรงกลางของจานที่ได้ใช้ yuzu curd ผสมแครอททำเป็นลายรังผึ้งที่สวยงามเพื่อให้เข้ากับตัว honey comb icecream รสหวานละมุน และ Yuzu Bavarois เนื้อเนียนนุ่มอีกเช่นกันแกล้มด้วย เมอแรงกรุบ ๆ เมื่อรับประทานทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วเรียกได้ว่าเท่าไหร่ก็ไม่พอ

    Petite fours

              และท้ายสุดสำหรับการ cool down หลังมื้ออาหารดีดี ก็ต้องมี petite fours ซึ่งเชฟก็ยังทำให้เราทึ่งอีกเช่นเคยด้วย petite fours สุดพิเศษที่ทำจากวัตถุดิบของบ้านเราซึ่งเชฟชอบมากเป็นพิเศษนั่นคือ jackfruit หรือ ขนุน ทำเป็น jackfruit tart ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์  นอกจากนั้นยังมี peach jelly, tiramisu และ ลูกอมมะพร้าวสอดไส้พีชโยเกิร์ต ซึ่งขอแนะนำว่าสั่งกาแฟ หรือ ชา SARO Lotus tea The Sukhothai’s signature blend มาลองสักครั้งรับรองได้เลยว่าจะไม่ผิดหวัง

              สำหรับท่านที่ไม่อยากจะพลาดโอกาสที่จะได้ชิมอาหารอันวิจิตรนี้ของเชฟ Eugenio Cannoni ต้องอย่าลืมจองโต๊ะของ La Scala The Sukhothai Bangkok ซึ่งสำหรับ Course Viaggio Gastronomico 6 courses นั้นเริ่มต้นเพียง 3,200 บาท ++ เท่านั้น และ 8 courses ที่ 3800++ บาท

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

    Website: La Scala, Italian restaurant Bangkok | The Sukhothai Bangkok

    +66 2 344 8888 Ext. 8654

    Kinlakestars.com

    KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว

    รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

    Share this:

    • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
    • Click to share on X (Opens in new window) X
    • Click to share on Threads (Opens in new window) Threads
    Eugenio Cannoni fine dining Italian Cuisine La Scala sathorn Testing menu The Sukhothai Bangkok
    Previous Article[Promo] เมนูล็อบสเตอร์แนะนำ ซีฟู๊ดบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ “Lobsterlicious” @ Next 2 cafe, Shangri-la Bangkok ห้องอาหาร เน็กซ์ทู คาเฟ่ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
    Next Article โรงแรมสยามเคมปินสกี้กรุงเทพฯ เชิญชวนให้ลมิ้ ลองกูเกลิฮัพฟ์(Gugelhupf) ขนมอัน มีเอกลักษณ์แสนอร่อยจากยุโรป Siam Kempinski Bangkok

    Related Posts

    [Review] ลิ้มลองโอมากาเสะแบบอิตาเลียน 7 คอร์ส รสเลิศวัตถุดิบเยี่ยมสวยทุกจานใจกลางเมือง ที่ Enoteca Bangkok

    July 2, 2025

    [Review] ดื่มด่ำกับโลกไซไฟยามค่ำคืน กับอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสายรักษ์โลก กับมนต์เสน่ห์แห่งแกะไฟฟ้า @ Electric Sheep ,Bangkok

    June 25, 2025

    [Review] เชฟใหม่ เมนูใหม่ ครัวใหม่ ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารแดนมังกรสุดครีเอทีฟอันน่าประทับใจ @ Hei Yin, Gaysorn Village

    June 14, 2025

    Comments are closed.

    • Recent Posts
    • POPULAR

    [Review] ลิ้มลองโอมากาเสะแบบอิตาเลียน 7 คอร์ส รสเลิศวัตถุดิบเยี่ยมสวยทุกจานใจกลางเมือง ที่ Enoteca Bangkok

    July 2, 2025

    [News] โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ฉลอง 15 ปี แห่งความสำเร็จของ Lady in Red และ Gentleman in Red, Sindhorn Kempinski Bangkok

    June 29, 2025

    [News] รื่นรมย์กับมนต์เสน่ห์แห่งฤดูร้อน ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ The Okura Prestige Bangkok กับ “Sense of Lavender Afternoon Tea” 2025

    June 29, 2025

    [News] โซเนวา ชวนสัมผัสประสบการณ์ดูแลสุขภาพกับเทศกาล SOUL Festival ครั้งที่ 3 เวิร์กช้อปเพื่อดูแลสุขภาพอย่างล้ำลึกระยะเวลา 5 วัน ที่มัลดีฟส์ นำโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Sanctum, Ground Wellbeing และอีกมากมาย

    June 29, 2025

    [News] คีรี ไพรเวท รีเซิร์ฟมอบแพ็กเกจพิเศษสำหรับคนไทยเพื่อเป็นการส่งท้ายสัมผัสความเงียบสงบของเกาะกูด กับรีสอร์ตในฝันของทุกคน

    June 28, 2025

    [Review] ลิ้มลองโอมากาเสะแบบอิตาเลียน 7 คอร์ส รสเลิศวัตถุดิบเยี่ยมสวยทุกจานใจกลางเมือง ที่ Enoteca Bangkok

    July 2, 2025

    [News] โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ฉลอง 15 ปี แห่งความสำเร็จของ Lady in Red และ Gentleman in Red, Sindhorn Kempinski Bangkok

    June 29, 2025

    [News] รื่นรมย์กับมนต์เสน่ห์แห่งฤดูร้อน ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ The Okura Prestige Bangkok กับ “Sense of Lavender Afternoon Tea” 2025

    June 29, 2025

    [News] โซเนวา ชวนสัมผัสประสบการณ์ดูแลสุขภาพกับเทศกาล SOUL Festival ครั้งที่ 3 เวิร์กช้อปเพื่อดูแลสุขภาพอย่างล้ำลึกระยะเวลา 5 วัน ที่มัลดีฟส์ นำโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Sanctum, Ground Wellbeing และอีกมากมาย

    June 29, 2025

    [News] คีรี ไพรเวท รีเซิร์ฟมอบแพ็กเกจพิเศษสำหรับคนไทยเพื่อเป็นการส่งท้ายสัมผัสความเงียบสงบของเกาะกูด กับรีสอร์ตในฝันของทุกคน

    June 28, 2025
    POPULAR

    “ฟัวกราส์” ถูกแบนแล้วในแดนแซมบ้า ห้ามซื้อห้ามขายห้ามกิน

    June 29, 2015

    เมล็ดมันแกวแก่ กินไม่ดีถึงตายไปหลายรายแล้ว!!!!

    June 30, 2015

    ภาชนะที่ทำจากโฟมใส่ของกินของต้องห้ามในนิวยอร์กตั้งแต่วันนี้!

    July 2, 2015
    @KinlakeStars
    KINLAKESTARS.COM

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

     

    Loading Comments...