Author: yoyo

จัดหนักจัดเต็มไปกับบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันพร้อมยกขบวนพาเหรดซีฟู้ดสดใหม่มาไว้ตรงหน้า ที่ห้องอาหารมิสทราล ณ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี (สีลม) ตลอดเดือนมิถุนายนนี้! อิ่มหนำกับอาหารทะเลและอาหารนานาชาติคัดสรรมาอย่างดีไม่ว่าจะเป็น กุ้งตัวโตสดใหม่ หอยเชลล์ตัวใหญ่เต็มคำ ปูเนื้อแน่นๆ นานาชนิด หอยแมลงภู่และหอยตลับสุดฟิน และปลาหมึก ซีฟู้ดสดใหม่ทั้งหมดนี้เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มและเครื่องเคียงให้คุณได้เลือกลิ้มลอง ต่อด้วยเมนูไฮไลท์อย่าง ยำซีฟู้ดแซ่บๆ รสเด็ด หลากรสค๊อกเทลซีฟู้ดเสิร์ฟในแก้วสวยงามให้อารมณ์งานเลี้ยง ข้าวอบซีฟู้ดปาเอญ่าสไตล์สเปน ซีฟู้ดสตูว์นุ่มชุ่มลิ้นรสกลมกล่อม และอื่นๆ อีกมากมาย บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12:00 – 14:30 น. ในราคาเพียง 599 บาทเน็ทต่อท่านสำหรับผู้ใหญ่รวมชาหรือกาแฟ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลด 50% และเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบทานฟรี กรุณาสำรองที่นั่งและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2238 1991 หรืออีเมล [email protected] จัดหนักจัดเต็มไปกับบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันพร้อมยกขบวนพาเหรดซีฟู้ดสดใหม่มาไว้ตรงหน้า ที่ห้องอาหารมิสทราล ณ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี (สีลม) ตลอดเดือนมิถุนายนนี้! อิ่มหนำกับอาหารทะเลและอาหารนานาชาติคัดสรรมาอย่างดีไม่ว่าจะเป็น กุ้งตัวโตสดใหม่ หอยเชลล์ตัวใหญ่เต็มคำ ปูเนื้อแน่นๆ นานาชนิด หอยแมลงภู่และหอยตลับสุดฟิน และปลาหมึก ซีฟู้ดสดใหม่ทั้งหมดนี้เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มและเครื่องเคียงให้คุณได้เลือกลิ้มลอง ต่อด้วยเมนูไฮไลท์อย่าง ยำซีฟู้ดแซ่บๆ รสเด็ด หลากรสค๊อกเทลซีฟู้ดเสิร์ฟในแก้วสวยงามให้อารมณ์งานเลี้ยง ข้าวอบซีฟู้ดปาเอญ่าสไตล์สเปน ซีฟู้ดสตูว์นุ่มชุ่มลิ้นรสกลมกล่อม และอื่นๆ อีกมากมาย บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12:00 – 14:30 น. ในราคาเพียง 599 บาทเน็ทต่อท่านสำหรับผู้ใหญ่รวมชาหรือกาแฟ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลด 50% และเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบทานฟรี กรุณาสำรองที่นั่งและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2238 1991 หรืออีเมล [email protected] จัดหนักจัดเต็มไปกับบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันพร้อมยกขบวนพาเหรดซีฟู้ดสดใหม่มาไว้ตรงหน้า ที่ห้องอาหารมิสทราล ณ โรงแรมพูลแมน…

Read More

ห้องอาหาร ยามาซาโตะ (Yamazato) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) จัดโปรโมชั่นอาหารต้อนรับต้นฤดูร้อนที่ประเทศญี่ปุ่น ให้บริการทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ระหว่างวันที่ 10-26 มิถุนายน 2559 เชฟชิเงรุ ฮางิวาระ (Shigeru Hagiwara) หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารยามาซาโตะ ได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีและมีชื่อเสียงที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานในช่วงต้นฤดูร้อนขอ งประเทศญี่ปุ่น อาทิ ปลาไหลทะเล ปูขนญี่ปุ่น ปลากินเมได แล้วนำมารังสรรค์เป็นเมนูอาหารน่ารับประทานหลายรายการ อาทิ ปลาไหลทะเลหม้อไฟ (Hamo Yanagawa Nabe Sea Eel) สลัดซีฟู้ดขาปูและเส้นโซบะราดซอสงารสเผ็ด (Kani Soba Pirikara Goma, Crab Salad with Soba Noodle, Spicy Sesame Sauce) ปลากินเมไดราดซอสปาปริกา (Kinmedai red snapper in an anchovy paprika sauce) คางิอะเกะข้าวโพดและกุ้งแก้ว (Toumorokoshi shiroebi kakiage, deep-fried with corn and glass shrimp) ซึ่งเป็นเมนูข้าวโพดและกุ้งแก้วผสมกับแป้งทอดกรอบแล้วนำไปทอดจนกรอบนอกนุ่มในน่ารับประทาน นอกจากนั้นยังมีเมนูน่ารับประทานอื่น ๆ อีกมากมายไว้คอยให้บริการสำหรับ โปรโมชั่นอาหารต้อนรับต้นฤดูร้อนที่ประเทศญี่ปุ่น ให้บริการระหว่างวันที่ 10 – 26 มิถุนายน 2559 ราคาเริ่มต้นที่ 300++ บาท มื้อกลางวันให้บริการตั้งแต่เวลา 11.30 น. ถึง 14.30 น. และมื้อค่ำให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น. ห้องอาหารยามาซาโตะ ตั้งอยู่ที่ชั้น 24 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสำรองที่นั่ง กรุณาติดต่อ 02 687 9000 Kin promo & Event KinlakeStars.com ———————————————————————————————————————————————…

Read More

จากศิลปะสู่รสสัมผัสบนจานอาหารสไตล์ฝรั่งเศส “art on the plate”…สยาม แอ็ท สยาม ดีไซน์ โฮเต็ล กรุงเทพ  เชิญผู้หลงใหลในศิลปะฝรั่งเศสลองมาสัมผัสอาหารตาบนจานอาหารสไตล์ฝรั่งเศสที่เชฟใหญ่ของโรงแรมฯ ได้นำสไตล์การสบัดพู่กันบนผืนผ้าใบของศิลปะยุคอิมเพรสชั่นนิสต์มาวาดลวดลายลงบนจานอาหารใน”อิมเพรสชั่นนิสต์ไวน์ดินเนอร์” ที่ห้องลา วู ชั้น 25 วันอังคารที่ 31 พฤษภาคมนี้ เวลา 18.30 น. เพียงวันเดียวเท่านั้น เชฟจิลล์ พอยทิวิน์ พ่อครัวใหญ่ชาวฝรั่งเศส ได้นำวัตถุดิบที่คัดสรรค์จากแคว้นนอร์มองดี ประเทศฝรั่งเศสมารังสรรค์เป็นเมนูพิเศษ 5 คอร์สจับคู่กับไวน์ชั้นเลิศจากแคว้นบอร์กโดซ์ที่มีชื่อเสียง Borie-Manoux ผู้ผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุด  อาหาร 5 คอร์สที่จะได้เพลินกับศิลปะบนจานอาหารสู่รสสัมผัสเมื่อได้ลิ้มลองได้แก่ Oysters from Saint-Vasst, Norman Soup, Cider Fricassée of Homarus Lobster and Roasted Apple in a Vegetable and Flower Garden, Roasted Oyster Shoulder Lamb Merino and Potato Camembert Stew และ Cranberry and Apple Normand Tart  เพิ่มอรรถรสของไวน์ดินเนอร์ครั้งนี้ด้วยนิทรรศการแสดงศิลปะอิมเพรสชั่นนิสต์จากศิลปิน “ธีธัช ธนโชคทวีพร” ในวันเดียวกัน  ทั้งหมดนี้ราคาเพียงท่านละ 2,499 บาท++เท่านั้นรวมไวน์แพร์ลิ่งแล้ว   ด่วน! สำรองที่นั่งก่อนวันที่ 31 พฤษภาคมรับส่วนลดทันที 10%   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทรฯ 02 217 3000 หรือ [email protected] Kin promo & Event KinlakeStars.com ——————————————————————————————————————————————— A B A B A B A B…

Read More

ห้องอาหาร เดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์ เชิญคุณมาพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ กับ บุฟเฟ่ต์นานาชาติ ซันเดย์ บรั๊นซ์ ในราคา 1,350 บาท++ ต่อท่าน รวมเครื่องดื่มไม่อั้น ทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00 – 15.30 น. อร่อยกับเมนูอาหารนานาชาติ พร้อมซีฟู้ดสดใหม่ และเมนูปรุงสดหลายรายการที่จะทำให้คุณน้ำลายสอ อาทิ ตับห่าน, ลาซานญ่าซีฟู้ด, แซลมอนรมควัน กราฟลักซ์, หอยเชลล์และกุ้งผัดพริก พิเศษเครื่องดื่มหลากชนิดไม่อั้น และห้องขนมหวานสำหรับหนูๆ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ทานฟรี เมื่อมากับผู้ปกครอง เด็กอายุ 6 – 13 ปี จ่ายครึ่งราคา พิเศษ สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตวีซ่าทุกประเภทกับโปรโมชั่น “มา 2 จ่าย 1” เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรที่ห้องอาหารเดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์ ตลอดเดือนพฤษภาคม 2559   สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02-209-8888 ต่อ ห้องอาหาร เดอะสแควร์ หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ www.novotelbkk.com KIn Promo&Event KinlakeStars.com ——————————————————————————————————————————————— A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A…

Read More

ฤดูร้อนกับประเทศไทยเป็นของคู่กัน แม้ไม่ใช่ฤดูร้อน อากาศของไทยเราก็ร้อนอบอ้าวอยู่แล้ว ยิ่งฤดูร้อน ยิ่งร้อนอบอ้าวหนัก หากได้หลบร้อนมาลองกินอาหารไทยสูตรต้นตำรับรสชาติดี คุณภาพสมราคากัน ณ Erawan Tea Room น่าจะดีเสียไม่น้อยเลย และในช่วงนี้ทางห้องอาหาร Erawan Tea Room ได้จัดเมนูพิเศษขึ้นมา นั่นคือ เมนูต้อนรับเทศกาลฤดูร้อน เมี่ยงกุ้ง 280++ บาท กุ้งที่นำมาใช้ในจานนี้ เป็นกุ้งเสียบตัวใหญ่อย่างดี คลุกเคล้าเข้ากับมะนาวที่มีทั้งเนื้อ และเปลือก ขิง หอมแดง พริก ถั่ว และปรุงรสเพิ่มด้วย น้ำตาล น้ำปลา นี่นอนรสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม กุ้งกับถั่วที่มันกรอบและเอาเครื่องทั้งหมดนี้ ห่อด้วยใบชะพลูสีเขียวและรับประทาน กลิ่นใบชะพลูที่หอมและมีเอกลักษณ์นั้นจะช่วยให้ยิ่งได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น นับว่าเป็นจานแรกที่เริ่มเรียกน้ำย่อยได้ดีเลยทีเดียวครับ ไก่รวนตะไคร้ 250++ บาท เนิ้อไก่ในเมนูนี้ใช้ไก่ส่วนอก แต่ไม่แห้ง แข็ง หรือ เหนียว ในทางกลับกัน เนื้อไก่นั้นออกจะนุ่ม และรสชาติเข้าเนื้อไม่จืดเหมือนอกไก่ทั่วไป เพราะเนื้อไก่ส่วนอก นอกจากการหมักแล้วก็นำมาผัดกับตะไคร้ เนื้อไก่จึงมีกลิ่นหอม เครื่องตะไคร้ซึมลึกเข้าไปในเนื้อไก่ให้รสชาติที่ถึงเนื้อ พริกแกงของที่นี่ก็โขกและทำขึ้นเอง จึงได้คุณภาพที่ตามต้องการและมีรสชาติกับความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อตักไก่กินพร้อมกับตะไคร้หั่นแว่นและผักชีใบเลื่อย จะได้รสชาติที่อร่อยลงตัวมาก แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายสอดไส้ไข่เค็ม 260++ บาท สำหรับจานนี้เป็นจานแนะนำพิเศษเลยทีเดียว เนื้อปลากรายนั้นตีด้วยน้ำเกลือ และนำมาห่อไข่เค็ม เฉพาะไข่แดงเท่านั้น จากนั้นนำไปลวกให้พอสุกและมาแกงกับเครื่องแกงเขียวหวาน ความหอม มัน จากกะทิคุณภาพดี และเนื้อปลากรายที่เนียน นุ่ม ละเอียดและหวานในตัวกับความมันของไข่เค็ม ทำให้ได้รสอันแสนกลมกล่อม ตักแกงราดข้าวสวยร้อนๆซักชิ้นและกินคู่กับลูกชิ้นปลา กรายไข่เค็ม รับประกันว่าคำแรกคุณจะต้องร้อง “ว้าว” ช้าวแช่ 280++ อ่านต่อในคอลัมน์ข้าวแช่ Erawan tea room 2016 >>> ห้องอาหารเอราวัณ ทีรูม ชั้น 2 เอราวัณ แบงค็อก เปิดบริการ 10.00 น. – 22.00 น. สำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียดได้ที่ ห้องอาหาร เอราวัณ ที รูม โทร 0…

Read More

บรรยากาศในวันว่างจากการทำงาน ตอนบ่ายแก่ๆแดดร้อนเปรี้ยง ดิฉันออกเดินทางไปที่  W hotel เพื่อ Afternoon tea ณ The House on Sathorn สถานที่อันโดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล อาคารสีเหลืองกับปูนปั้นสีขาววงกบบานกรอบสีเขียว สวนเด่นเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในสาทร หลังคากระเบื้องว่าวสีส้ม และในรีวิวนี้ KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาวขอนำเสนอ เปิดประสบการณ์ชุดน้ำชา กลางอาคารอันทรงคุณค่าใจกลางสาธร กาลเวลาที่สามารถหยุดได้ !  สถานที่ที่เราจะไปทานวันนี้อยู่ในส่วน Outdoor ของ The house อดีตเคยเป็นบ้านของคุณหลวงต่อมาเปลี่ยนมือไปเป็นบูทีคโฮเทลแห่งแรกในไทยโดยมาดามชาวอิตาเลียนจนต่อมาได้กลายเป็นสถานทูตและที่พักของท่านทูตรัสเซียมาก่อน  บ้านอายุ126 ปีแล้วค่ะ ถูกนำมาดัดแปลงบางส่วนเพื่อให้กลายเป็นมัลติฟังก์ชั่น พอเดินเข้ามานั้นทำให้รู้สึกถึงความแตกต่างกับฝั่ง W hotel อย่างมาก เปลี่ยนจากความโมเดิร์น ตื้ดๆ เป็นความสงบร่มเย็น มีต้นไม้ ลานม้านั่งกว้างๆ ถ้าอากาศเย็นหน่อยนี่จะเลิศว้าวไปนานค่ะ  แต่มาบ่ายแก่ๆแบบนี้ แดดเริ่มร่ม บวกกับมีพัดลมและร่มไม้คอยช่วย ก็พอคลายร้อนไปได้ ในเซตนึงจะมีขนมมากมาย หลังจากได้ที่นั่งแล้วก็จะมีเครื่องดื่มต้อนรับเป็นนำ้ตะไคร้เย็นๆและผ้าเย็นกลิ่นตะไคร้หอมๆช่วยผ่อนคลายสำหรับเครื่องดื่มในชุดสามารถเลือกชาได้คนละกาโดยเป็นแบบเติมนำ้ร้อนได้เรื่อยๆ จากนั้นเริ่มจากจานแรกสุดเลยคือไอศกรีมซอร์เบท์โฮมเม้ดประจำวัน ซึ่งเปลี่ยนไปเรื่อยๆ วันนี้ตรงกับรสพีช ดิฉันปลาบปลื้มพีชเป็นพิเศษค่ะ แต่ซอร์เบท์โฮมเม้ดประจำวันตัวนี้ไม่ได้ออกเปรี้ยวมากนัก จะติดหวานอยู่ค่ะ จานต่อไปหลังจากไอศกรีมก็ไปต่อกันที่เครื่องดื่ม ___________________________ สำหรับเครื่องดื่มในครั้งนี้ดิฉันเลือกเป็นชาซากุระค่ะ ซึ่งเป็นชาเขียวที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของฤดูใบไม้ผลิแห่งเมืองเกียวโต แต่ดิฉันยังแยกไม่ค่อยออกว่าต่างจากชาเขียวอย่างไรแต่ที่พอรู้สึกได้คือกลิ่นที่ต่างออกไปเล็กน้อย ส่วนคุณกฤตินเลือกเป็นชา White House ซึ่งเป็นชาผลไม้กลิ่นกุหลาบและมีรสเปรี้ยวๆและกลิ่นหอมจาก    ผลไม้ตระกูล Berry ค่ะ จานต่อไปหลังจากไอศกรีมต่อด้วย  สโคน(Scone) ที่เสิร์ฟพร้อมมาร์มาเลด (Marmalade) แยมชนิดต่างๆ และคล็อทเท็ดครีม (Clotted Cream) เลยค่ะ อบมาอุ่นๆ มีแยมสามชนิด กับครีม แยกมา  แยมที่นี่ทำเองนะคะ เริ่มจาก รสหวานมันประทับใจ อร่อยสุดๆคือ แยมมะพร้าว ไม่เคยเห็นที่ไหนนะคะ รสชาติมันแจ่ม หวานมะพร้าวผสมกับเนื้อมะพร้าวเป็นใยๆ ทำให้มีรสสัมผัสที่แตกต่างเพราะทั้งกลิ่นและรสนั้นเป็นกลิ่นและรสจากมะพร้าวธรรมชาติไม่ใช่กลิ่นและรสประดิษฐ์  กินกับสโคนจะรู้สึกหวานๆเบาๆ อ่อนนุ่ม  ถัดมาเป็นแยมมะม่วง ตัวนี้หวานกำลังดีมีกลิ่นมะม่วงเบาๆ แต่รสมะม่วงไม่ได้เด่นชัดมาก ต่อมาตัดกันด้วยแยมมิกซ์เบอร์รี่ รสเปรี้ยวหวานช่วยแก้เลี่ยนได้ค่ะ เสริมกับรสชาติของครีมหอมเนยอร่อยเข้ากันค่ะ เราไปเริ่มกันที่ของคาว จัดวางมาในถาดไม้ สามคู่…

Read More

หรรษากับเมนูอาหารเที่ยง 3 คอร์ส โดย เชฟ STEFANO MERLO ณ Jpjo JOJO LAUNCHES 3-COURSE PRANZO ITALIANO, BY CHEF STEFANO MERLO เมนูเซทพิเศษนี้มีให้บริการในช่วงวันจันทร์ ถึง ศุกร์ Pranzo Italiano is available from Mondays through Fridays: 2 Course – THB 750++ 3 Course – THB 950++ A la carte menus are available on Saturdays and Sundays. เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ยินดีนำเสนอเมนูอาหารกลางวันใหม่ ตามแบบฉบับอิตาเลียน “Pranzo Italiano” (Italian Lunch) ให้ท่านเลือกรับประทานชุดอาหารกลางวันสไตล์อิตาลี(Italian set lunch menu) กับหลากเมนูอาหารคัดสรรใหม่ นำเสนอในแต่ละสัปดาห์โดยสเตฟาโน เมอร์โล เชฟประจำห้องอาหารโจโจ ให้บริการทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา12.00น. ถึง 15.00 น. สัมผัสรสชาติอาหารอิตาเลียนแท้ๆ กับ “Pranzo Italiano” (Italian Lunch) ชุดอาหารกลางวันให้ท่านเลือกสั่งจากเมนูแนะนำประจำวัน รังสรรค์โดยเชฟสเตฟาโน เริ่มต้นเสิร์ฟอาหารกลางวันด้วย Spuncioni & Spuma ตามสไตล์อิตาเลี่ยน Spuncioni เมนูเรียกน้ำย่อยจัดมาเป็นคำเล็กๆหลากหลายเมนู และ“สปูม่า” (Spuma) เครื่องดื่มพรายฟองที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นเครื่องดื่มแบบดั้งเดิมประเภทซอฟ์ทดริ้งค์ คล้ายกับโซดา ตามด้วยเมนูชุดอาหารกลางวันที่ท่านสามารถเลือกหนึ่งรายการจากเมนูอาหารประเภททานเล่น (Antipasti) จานหลัก (Secondi) ชีสและของหวาน (Formaggi & Dolce) ในแต่สัปดาห์เชฟจะนำเสนอเมนูใหม่ทั้งจากเมนูอิตาเลี่ยนดั้งเดิมและเมนูซิกเนเจอร์ และปิดท้ายด้วยกาแฟอิตาเลี่ยนเข้มข้น (Italiano Moka Caffe) ภายใต้บรรยากาศอบอุ่นเสมือนคุณกำลังนั่งดื่มด่ำกาแฟที่คาเฟ่ในอิตาลี Pranzo Italiano ชุดเมนูอาหารกลางวันพร้อมเสริ์ฟทันที ด้วยบริการทีรวดเร็วเหมาะสำหรับท่านที่เวลาน้อยหรือรีบเร่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารให้บริการทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์เวลา12.00น.…

Read More

ตั้งแต่วันที่ 5 – 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 นี้ เชฟโทเบียส ชวาเซนดอร์เฟอร์ และทีมเชฟมากประสบการณ์แห่งบาร์เบต เดอะ สเต็กเฮ้าส์ แบงค็อก เชิญคุณมาร่วมฉลองการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิในประเทศอิตาลีด้วยหลากหลายเมนูเนื้อแกะนุ่มลิ้นหอมกรุ่นเลิศรสที่คุณต้องอดใจไม่ไหว   คุณจะได้อิ่มหนำไปกับเมนูแกะเลิศรสสุดพิเศษหลากเมนู ไม่ว่าจะเป็น สตูว์น่องแกะสไลด์เนื้อนุ่มสไตล์อิตาเลียน เสิร์ฟพร้อมเห็ดทรัฟเฟิล มันบดชุ่มครีม และสลัดผักสด (Italian-inspired ossobucco made using full-flavoured lamb shank, slow cooked to succulent fall off the bone perfection and served with creamy truffled mashed potatoes and a side salad) และเมนูซี่โครงแกะกับแป้งพายอบกรอบ สอดไส้เห็ด เสิร์ฟพร้อมถั่วลันเตา     แครอท และซอสครีมแครนเบอร์รี่ (Rack of spring lamb with short crust pastry filled with baked stuffed mushrooms, served with peas, carrots and a cranberry jus) นอกจากนี้ยังมีเมนูน่องแกะ เสิร์ฟพร้อมสตูว์ผักและมันฝรั่งอบ (Knuckle of lamb with ratatouille and roast potatoes) เมนูท้องแกะกรอบกับตับอ่อนแกะ เสิร์ฟพร้อมเส้นคาลามาราต้า เห็ดป่า ผักโขมอ่อน และครีมสด (Crisp lamb belly with sweetbread, calamarata noodles, wild mushrooms, baby…

Read More

ดูเหมือนว่าหลายๆประเทศจะมี crème caramel ในแบบฉบับของตัวเอง ตั้งแต่แถบอเมริกาใต้ถึงอินเดียและฟิลิปปินส์ เจ้าคาราเมลคัสตาร์ดก็มีอยู่ทุกหนแห่ง ฝรั่งเศสได้นำครีมคาราเมลเข้าสู่เวียดนามและต่อมาก็ถูกเรียกว่า Banh caramel ส่วนในญี่ปุ่นเองก็มี “Purin” หรือพุดดิ้งที่แสนจะโด่งดัง คนฝรั่งเศสเรียกคัสตาร์ดนี้ว่า “crème au caramel” เรามีสูตรทำง่ายๆ ของ Ricardo มาให้ท่านลองทำดู ส่วนผสม ซอสคาราเมล น้ำตาล                      1/2 ถ้วย     (125 ml) น้ำ                             2 ช้อนโต๊ะ (30 ml) เนื้อขนม น้ำตาล                      1/4 ถ้วย   (60 ml) วานิลลาสกัด              2 ช้อนชา (10 ml) นมร้อน                      2 ถ้วย     (500 ml) ไข่                             3 ฟอง   การเตรียม อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 °C (350 °F) ซอสคาราเมล ผสมน้ำตาลกับน้ำเข้าด้วยกันในกระทะท้องแบน อุ่นร้อนจนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทองเข้ม (สีมะฮอกกานี) จากนั้นแบ่งใส่ถ้วยเซรามิคเล็กขนาด 125 ml (1/2 cup) จำนวน 6 ถ้วย ทิ้งไว้จนเย็นดี เนื้อขนม ผสมน้ำตาลและวานิลลาลงในนมอุ่นร้อน คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย ตอกไข่ลงถ้วย คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วเทลงในถ้วยเซรามิคที่มีคาราเมลอยู่ วางถ้วยเซรามิคทั้งหมดลงในถาดถ้วยอบขนาดใหญ่ เทน้ำร้อนที่ยังไม่เดือดลงไปให้สูงถึงครึ่งถาด นำเข้าเตาอบประมาณ 40 นาที ระวังอย่าให้น้ำเดือด นำถ้วยเซรามิคแต่ละใบออกจากเตาอบและถาด ปล่อยทิ้งให้เย็นลงแล้วนำไปแช่เย็นต่อ ใช้ปลายมีดเซาะขอบถ้วยเซรามิค คว่ำถ้วยลงใส่จาน แล้วเสิร์ฟได้เลย ——————————————————————————————————————————————– AA…

Read More

อาหารไทยเป็นหนึ่งในอาหารที่ได้รับความนิยมสูงและเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก นอกจากรสชาติที่ เข็มข้น และอาจมีความเผ็ดร้อน ตามสภาพอากาศ อาหารไทยยังถูกมองว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพในหายเมนู จากส่วนผสมที่เต็มไปด้วยสมุนไพร และส่วนประกอบต่างๆที่เป็นประโยน์ต่อร่างกาย นอกจากรสชาติ และคุณค่าทางสารอาหาร ความงามกซึ่งเป็นอาหารตาก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้อาหารไทยไม่เหมือนใคร และสำหรับอาหารไทยที่โอชา จะทำให้ทุกท่านตื่นตากับหน้าตาและความสร้างสรรค์ หากท่านได้เข้ามาในร้านอาหารแห่งนี้ ท่านจะสะดุดตาแปลกใจตั้งแต่แรกเข้า การนำศิลปและองค์ประกอบงานปฎิมากรรม วิจิตรศิลป์แบบไทยมาประยุกต์เข้ากับการออกแบบภายในที่นำสมัย ในพื้นที่และรูปทรงที่ชวนตื่นตา พื้นที่นั่งถูกจัดแต่งออกมาในหลายรูปแบบและมีความเป็นส่วนตัว สวยงม น่านั่ง และมีบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละส่วน *************************************************************************** ดอกไม้กรอบโอชา เชฟนำกลีบดอกไม้นานาพรรณสีสันสวยงามไปทอดกับแป้งกรอบเป็นแผ่นใหญ่ หักเป็นชิ้นใหญ่พอดีๆ เสิร์ฟพร้อมกับซอสใบหม่อนสีน้ำตาลสองแบบ มีทั้งซอสแบบร้อนและแบบเย็น โรยหน้าซอสด้วยโคโคนัทคาร์เวียร์เม็ดเล็กสีขาว นับว่าเป็นเมนูที่ใช้การเล่นสีบนจานอาหารได้ลงตัวทีเดียว โทนร้อนเย็น และสัมผัสร้อนเย็นของซอสใบหม่อน เวลาทานตักซอสใบหม่อนทั้งสองแบบมาวางบนแป้งกรอบที่มีกลีบดอกไม้ ทานพร้อมๆกันให้รสชาติเค็มกลมกล่อม เรียกน้ำย่อยก่อนเมนูถัดไปได้ดีเลย ปลาหมึกผัดไข่เค็มไชยา เป็นอีกเมนูเด็ดของร้านนี้ ใช้ปลาหมึกสดมาผัดกับไข่เค็มไชยาซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างดีของเมืองสุราษฎร์ธานี ไข่เค็มไชยาขึ้นชื่อในเรื่องสีไข่แดงที่เข้มและรสชาติที่กลมกล่อมกว่าไข่เค็มทั่วไป เมนูปลาหมึกผัดไข่เค็มไชยาของร้านโอชาจึงนับว่ารสชาติออกมาถูกปากคนได้ลองชิมจริงๆ มีความมันเค็มของตัวไข่พร้อมกับความสดกรอบของปลาหมึก นอกจากนี้การนำเสนอจัดวางก็แปลกจากที่อื่น โดยใช้กะลาขัดมันเป็นภาชนะรองปิดทับด้วยแผ่นใส ด้านล่างมีไอสีขาวๆลอยอยู่ ทำให้เพลิดเพลินไปกับการทานเมนูนี้จริงๆ กุ้งแช่น้ำปลา จานนี้ทางร้านก็ภูมิใจนำเสนอ ทางร้านคัดกุ้งสดขนาดพอดีคำ นำมาเสิร์ฟเรียงบนจาน ประดับด้วยแตงกวาหั่นบางๆล้อมรอบ แต่ที่พิเศษกว่าที่อื่นคือซอสสีเขียวที่เสิร์ฟไว้ข้างบน ลักษณะคล้ายๆกับ sorbet แต่มีความเผ็ดของพริก ต้องทานคู่กับกุ้งพร้อมๆกัน จะได้รสชาติเผ็ดเค็มและความหนึบสดของกุ้ง แต่เมนูนี้ก็จะออกเผ็ดหน่อยๆ สำหรับคนไม่กินเผ็ดก็อาจต้องบอกทางร้านครับ ข้าวตังไรซ์เบอร์รีและบัวลอยน้ำกะทิ ต้องยอมรับว่าร้านทำของหวานไทยได้ดีทั้งรส กลิ่น และการจัดวาง เมนูนี้ทางร้านนำข้าวไรซ์เบอร์รีไปทำเป็นข้าวตัง และอีกส่วนนำไปทำคล้ายบัวลอยในน้ำกะทิ เสิร์ฟมาพร้อมๆกันในฝาแก้วปิดครอบอบควันหอม ด้านล่างวางบัวลอยข้าวไรซ์เบอร์รีในน้ำกะทิ ส่วนด้านบนเป็นข้าวตัง เวลาทานเปิดฝาแก้วออกจะได้กลิ่นหอมลอยฟุ้งบนโต๊ะ จากนั้นนำข้าวตังเทลงในน้ำกะทิรสมันเค็ม หอม กลมกล่อม ตักแบ่งทานได้ 2 ท่าน รสชาติของข้าวตังแช่น้ำกะทิจะออกมันๆ หวานๆ กรอบๆ ตัดกันกับ รสมันเค็มของกะทิได้อย่าง งดงาม ลงตัว เป็นรสอันดีเยี่ยใและละมุนในปาก ทานพร้อมกับบัวลอย แป้วนุ่มหนึบ ก็จะได้อรรถรสไปอีกแบบ ผลไม้แกะสลัก เมนูผลไม้ แต่นำเสนอด้วยเอกลักษณ์แบบไทย ก็คือการแกะสลักผลไม้ ทางร้านเสิร์ฟผลไม้แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงแบบไทย มีทั้งชมพู่ ฝรั่ง และมะม่วง พร้อมด้วยเครื่องจิ้มที่เป็นน้ำปลาหวานซึ่งทางร้านบอกว่าได้จดลิขสิทธิ์ไว้ด้วย ผลไม้รวมและไอศกรีมซอร์เบต์             ร้านได้นำเสนอไอศกรีมซอร์เบต์รสชาติพิเศษ…

Read More