Author: yoyo

เทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของการที่เหล่าสมาชิกของครอบครัวได้กลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลอันแสนงดงาม วันพิเศษนี้ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งเป็นช่วงที่พระจันทร์เต็มดวงทอแสงกระจ่างตาทั่วท้องฟ้า และเป็นเวลาที่ทุกคนจะได้ลิ้มรสขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายรสชาติแสนอร่อยของแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ขอเชิญคุณและครอบครัวที่คุณรักมาร่วมฉลองหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญของชาวจีนพร้อมต้อนรับ “เทศกาลไหว้พระจันทร์” ประจำปี พ.ศ. 2565 ไปกับขนมไหว้พระจันทร์ในตำนานหลากหลายรสชาติยอดนิยมสุดคลาสสิกในแบบฉบับแชงกรี-ลา ที่ได้รับความไว้วางใจจากท่านที่ชื่นชอบในการรับประทานขนมไหว้พระจันทร์มามากกว่า 30 ปี ซึ่งในปีนี้โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ขอนำเสนอ  คอลเลกชั่นกล่องบรรจุขนมไหว้พระจันทร์ประจำปี พ.ศ. 2566 ดีไซน์หรู ด้วยลวดลายแสนคลาสสิคของนกฮัมมิงเบิร์ดที่กำลังดื่มด่ำน้ำหวานจากดอกโบตั๋นอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขอันบริสุทธิ์ที่ไร้ขอบเขต  เช่นเดียวกับนกฮัมมิงเบิร์ดที่ได้ดื่มด่ำน้ำหวาน ท่านที่ชื่นชอบขนมไหว้พระจันทร์แชงกรี-ลาจะได้อิ่มเอมไปกับขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อย บรรจุในกล่องดีไซน์สวยหรูหลากหลายขนาด พร้อมจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2566 ในราคาเริ่มต้นที่กล่องละ 488 บาทถ้วน ถึง 2,668 บาทถ้วน ขนมไหว้พระจันทร์แห่งโรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศนานาชนิดผ่านกรรมวิธี อันแสนพิถีพิถันที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดโดยมาสเตอร์เชฟขนมไหว้พระจันทร์มากประสบการณ์ นำมาบรรจุในกล่องบรรจุภัณฑ์อันหรูหราที่เต็มเปี่ยมด้วยความหมายอันเป็นมงคลให้แก่ทั้งผู้รับและผู้ให้ ขนมไหว้พระจันทร์ในตำนานในแบบฉบับแชงกรี-ลาหลากหลายไส้เลิศรสสุดคลาสสิก ประกอบไปด้วย   ไส้โหงวยิ้ง ความโดดเด่นของโหงวยิ้งที่นี่คือส่วนประกอบของไส้นั้นเอง กรุบกรอบไปกับเหล่าถั่วชนิดต่างๆ อาทิ อัลมอนด์ ผสมแฮมยูนนาน ใบมะกรูด หอมซ่าจางๆ ตัดด้วยรสชาติของไข่เค็ม ซึ่งตัวเนื้อนั้นที่นี่จะทำไม่แห้งเกินไป จะใส่ถั่วหลายชนิด อาทิ อัลมอนด์ วอลนัท หนำหยั่น และส่วนผสมอื่นนำเข้าจากประเทศจีน เช่น แฮมยูนาน รวมถึงมันหมูหั่นชิ้นเล็ก เม็ดก๋วยจี้หอมมันจากฮ่องกง เมื่อกัดขนมไหว้พระจันทร์แล้วจะได้รสขาติหอม มันของส่วนผสมเต็มคำ ไส้ทุเรียน ที่ลูกค้าติดใจนั้นเกิดจากความพิถีพิถันของการเลือกวัตถุดิบจะต้องเลือกทุเรียนหมอนทองกวนจากสวนเจ้าประจำ เนื้อเนียนเหนียวและไม่หวานจัด ใช้ทุเรียนหมอนทองกวนจากทางจันทบุรี รสชาติทุเรียนเข้มข้น สีออกน้ำตาลเข้มหน่อยๆ ผสมกับเม็ดลูกบัวเพื่อไม่ให้ตัวเนื้อแข็งเกินไป รสชาติหวานอร่อย หนึบหนับกำลังดี ไส้เม็ดบัว พร้อมไข่เค็มเดี่ยวขนาดปกติ หวานหอมลูกบัวกวน สีน้ำตาลอ่อน มีเม็ดบัวกระจายอยู่อย่างประปราย ทำจากเม็ดบัวกวน เนื้อเนียนละเอียด หวาน มันกำลังดี คนที่ชอบทานเม็ดบัวไม่ควรพลาด อีกทั้งไส้อัลมอนด์งาดำขนาดปกติ     …

Read More

Chef : boi : 03 2022 Story : Pissana A. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีค่ะ พบกับคอลัมน์ข้าวแช่ที่สุดท้ายในปีนี้ที่ดิฉันจะพาทุกท่านไปชิมกันค่ะ นั้นก็คือร้านอาหารที่ได้รับรางวัลการันตีความอร่อยจากคู่มื่อพาชิมของบริษัทยางรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสอย่างมิชลินถึง 1 ดาวทุกปีติดต่อกันมาตั้งแต่มีการประกาศรางวัลนี้ในไทยอย่างร้านเสน่ห์จันทร์ ถนนวิทยุนั้นเองค่ะ ร่วมสืบสานการทานข้าวแช่แบบไทยๆ เชฟเสน่ห์จันทน์บรรจงปรุงข้าวแช่พร้อมเครื่องเคียงรสชาติกลมกล่อมถึง 11 ชนิด อาทิ พริกหยวกสอดไส้หมูกุ้งห่อไข่มือเสือ หมูฝอย ไชโป๊วผัดหวาน พริกชี้ฟ้าแห้งยัดไส้ปลา หอมจุกยัดไส้ ลูกกะปิทอด ปลายี่สนผัดหวาน กุ้งเสียบผัดหวาน หมูเปีย ไข่แดงเค็มทอดกรอบเนื้อสัมผัสกรอบนอกมันใน และยำมะม่วงสูตรโบราณ ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะจากครัวเสน่ห์จันทน์. เมื่อพูดถึงอาหารไทยในวงการ Fine Dining นั้นเราจะพบว่า มีการปรับปรุงภาพลักษณ์ของอาหาร และใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อนำเสนออาหารไทยในมุมมองอันแปลกใหม่ มีร้านจำนวนไม่มากที่นำเสนออาหารไทยแท้ ๆ ในรูปแบบของ Fine dining วันนี้เรามาที่ร้าน Flagship ของเสน่ห์จันทร์ในโครงการสินธร ริมถนนวิทยุ prime location ที่แวดล้อมไปด้วย โครงการระดับไฮเอนด์ ไม่แออัดจอแจจนเกินไป สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การมาในโอกาสพิเศษ ตัวร้านเสน่ห์จันทน์ ตกแต่งในสไตล์ Thai Tradition Contemporary เน้น lighting ที่อบอุ่นสวยงาม ที่นั่งสบาย ให้ความสำคัญกับทั้ง visual audio และ feeling ของเครื่องเรือน ซึ่งสมกับการที่เป็นร้านอาหารมิชลินสตาร์ระดับหนึ่งดาว “ข้าวแช่” เป็นอีกหนึ่งเมนูช่วยคลายร้อนของคนไทยสมัยโบราณ และขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันในการเตรียมตั้งแต่การหุงข้าวให้เรียงเม็ดสวยงาม การเตรียมน้ำอบสำหรับข้าวแช่ ที่ต้องอบควันเทียนลอยดอกมะลิและกลีบกุหลาบเพื่อเพิ่มความหอมสดชื่น อีกทั้งเครื่องเคียงที่กรรมวิธีการปรุงนั้นประณีตและซับซ้อนหลายขั้นตอน จนได้เป็นเครื่องเคียงที่มีรสชาติที่กลมกล่อม ได้แก่ พริกหยวกสอดไส้หมูและกุ้งห่อด้วยไข่มือเสือ นำเอาพริกหยวกไปคว้านเอาไส้พริกหยวกออก แล้วยัดไส้หมูสับ สัดส่วนของเนื้อและมันกำลังดี ผสมรวมเข้ากับเนื้อกุ้งขาวสับละเอียดด้วยสามเกลอ เครื่องปรุงพื้นฐานของการทำอาหารไทย อันได้แก่ใส่รากผักชี ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย แล้วนำไปนึ่งห่อประดับด้วยไข่ที่ทอดกรอบจนฟูสีเหลืองทองอร่าม ซี่งทางร้านจะเรียกว่าไข่มือเสือไม่ใช่หลุ่ม ไข่แดงเค็มทอด ใช้ไข่เค็มอย่างดี โดยส่วนผสมหลักเป็นไข่เค็มแดงและผสมไข่ขาวเค็มลงไป…

Read More

สวัสดีค่ะ อากาศร้อนๆเช่นนี้ หากได้กินอะไรที่เย็นๆสดชื่น คงจะดีไม่น้อย ข้าวแช่เป็นอีกเมนูที่เหมาะกับการกินกันในช่วงฤดูร้อนมาก โดยหากหาอ่านประวัติของข้าวแช่จะพบว่า แต่เดิมข้าวแช่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อใช้ไหว้ผีไหว้เจ้า ต่อมาได้ถูกปรับสูตรต่างๆจนเหมาะกับการกิน ให้มีหน้าตาที่สวยงาม รสชาติที่น่ากิน กลิ่นที่ชวนให้ลิ้มลอง ข้าวแช่ตำรับเรือนนพเก้ามีการปรับเปลี่ยนหลายๆสูตรที่ดีเข้าด้วยกันจนลงตัว ทำให้ถูกปากผู้ใหญ่ แต่คนรุ่นใหม่ก็สามารถเข้าถึงและรู้สึกรื่นรมณ์เวลากินค่ะ โดยสูตรข้าวแช่และเครื่องเคียงนี้ต้องชื่นชมเชฟปิ๊กเจ้าของรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขันทำอาหารที่มีจิตวิญญาณความเป็นพ่อครัวอาหารไทยอย่างแรงกล้า ซึ่งปีนี้ทางเรือนนพเก้า สาทร ได้รังสรรค์สุดวิจิตรบรรจงลงในภาชนะที่ดูหรูหราล้ำค่า นั่นคือให้บริการด้วยเครื่องเบญจรงค์ลายดอกราชพฤกษ์ โดยช่างเขียนชั้นบรมครูของการทำเครื่องเบญจรงค์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และวัตถุดิบชั้นเลิส รังสรรค์เป็น 3 คอร์ส ประกอบด้วย แตงโมหน้าปลาแห้ง โดยปลาแห้งได้มาจากการนำปลาช่อนแดดเดียวจากจังหวัดสิงห์บุรี นำมาย่างเอง จากนั้นนำมาโขลกให้ฟูหลังจากนั้นนำมาผัดให้แห้งปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือ หอมแดงเจียว เสิร์ฟพร้อมกับแตงโมแช่เย็น ข้าวแช่และเครื่องเคียง ต่อมาจะเข้าสู่ส่วนหลักของชุดข้าวแช่นี้ ซึ่งประกอบด้วยข้าวแช่ น้ำลอย และเครื่องเคียง ๗ อย่าง ประกอบด้วย ลูกกะปี หอมแดงสอดไส้ปลาแห้ง ไข่เค็มชุบแป้งทอด พริกหยวกสอดไส้ หมูฝอย ปลาช่อนแดดเดียวผัดหวาน หัวไช โป๊วหอมผัดน้ำมันหมู และเครื่องเคียงผักต่างๆสำหรับกินแนม เริ่มกันที่ตัวข้าวค่ะ ข้าวมาจากสุรินทร์ สำหรับน้ำข้าวแช่ได้ มาจาก แหล่งน้ำแร่จากหมู่บ้านดอยงาม อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย แล้วนำมาฆ่าเชื้อด้วยการต้มในอุณหูภูมิ ㆍㆍ องศาเซียสเซล เป็นเวลา ๑๕ นาที และทิ้งไว้ให้เย็นในโอ่งดินเผาเป็นเวลา 3 วัน หลังจากนั้นนำมาลอยด้วยดอกไม้หอม ๔ ชนิด ประกอบด้วย กุหลาบมอญ ชมนาด กระดังงาสงขลามะลิ มาลอยในโอ่งดินเผาเป็นเวลา ๑ คืน และตามด้วยอบควันเทียนซึ่งมาจากเจ้าเก่าแก่ที่อยู่แถวบางลำพู ส่วนข้าวในสำรับของข้าวแช่นั้น นำข้าวเสาไห้เก่ามาล้างน้ำสะอาด และแกว่งสารส้มจนใส หลังจากนั้นนำมาต้ม ในหม้อดินเผาให้จนเมล็ดข้าวบานและหลังจากนั้นนำมาล้างน้ำให้เย็น และพักไว้ให้สะเด็ดน้ำให้แห้งแล้วนำไปนึ่งทั้งหมด ๓ รอบ แล้วผึ่งให้แห้ง หลังจากนั้นนำมาอบด้วยดอกไม้สดอีก ๔ ชนิดแล้วตามด้วยเทียนอบอีก ๑ คืน ทีนี้เรามาดูเครื่องที่กินกับข้าวแช่กันค่ะ ลูกกะปิ สำหรับกะปิที่นี่หอมเค็มกลมกล่อมกำลังดี ใช้กะปิจากระนอง ที่โขลกกะปิ ตะไคร้ กระชาย หัวหอม กะทิ ปั้นเป็นก้อนพอดีคำชุบไข่กับแป้งทอดให้เหลืองและเทคเจอร์เข้ากันอย่างลงตัว…

Read More

สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาร้านอาหารอิตาเลียนดีๆราคาสมเหตุสมผล เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขที่ใกล้เข้ามานั้น ทางเราขอเสนอ La Tavola &Wine Bar ซึ่งตั้งอยู่ที่ ชั้น 3 ของโรงแรม Renaissance Bangkok Ratchaprasong การเดินทางก็สะดวกมาก เนื่องจากโรงแรมอยู่ติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีชิดลมเรียกได้สะดวกต่อการเดินทางมากมาก สำหรับในวันนี้ทาง La Tavola ได้เชิญ Kinlakestars.com มาเพื่อแนะนำเมนูอาหารเมนูใหม่ๆ ที่รังสรรค์โดยเชฟชาวอิตาลีสุดหล่อSalvatore Catania สำหรับเทศกาลคริสมาสต์ และปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนั่นเอง โดยชื่อของเมนู set นี้มีชื่อว่า BUON NATALE E FELICE ANNO NUOVO หรือถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษคือMerry Christmas and Happy New Year นั่นเองครับซึ่งขอบอกก่อนนะครับว่า เมนูที่เราได้ลิ้มลองในวันนี้ มีทั้ง ChristmasMenu และ New Year’s Eve menu ซึ่งสำหรับ Christmas Menu ซึ่งเป็นจาน Italianที่ค่อนข้าง original เชฟจะทำมาใน portion ที่สามารถ share กันได้สำหรับคู่รัก เพื่อนหรือแม้กระทั่งครอบครัว สำหรับ New Year’s Eve menu จะเป็นจานที่ค่อนข้างมีลูกเล่นแพรวพราวที่เชฟได้ดัดแปลงและได้แรงบันดาลใจมาจากความต้องการที่จะใส่ลูกเล่นใหม่ๆ ลงไปในอาหารอิตาเลียนโดยใน set นี้ อาหารจะมาใน portion สำหรับหนึ่งท่านมี7 courses ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราจะพาทุกท่านไปแนะนำเมนูพิเศษของ La Tavola กันเลยครับ ตอนเรามาถึงกันทางร้านได้เสิร์ฟ Apparel SpritzRosemary เป็น welcome drink cocktail เครื่องดื่มเบาๆที่จิบแล้วได้รสชาติอันสดชื่นของ Grapefruit เมื่อได้เวลาอันสมควรแล้วทางร้านได้เริ่มต้นเสิร์ฟขนมปังหลากชนิดเช่น tomato bread, basil bread, bread stick, pizza stick และอื่นๆ…

Read More

สำหรับใครหลายคนอาจคิดว่าอาการท้องเสีย ท้องร่วงมักมาคู่แค่กับช่วงฤดูร้อน แต่ทว่าจะมีซักกี่คนที่รู้ว่าช่วงเวลาที่อากาศดีๆก็มีภัยจากเชื้อที่ทำให้ท้องเสียท้องร่วง และอาจถึงตายสำหรับเด็ก หากไม่รู้ถึงสาเหตุและรักษาอย่างไวรัส “โรต้า” มักเกิดขึ้นกับ ? เจ้าไวรัส โรต้า นี้ มักจะระบาดและแสดงอาการกับเด็กเล็กๆเป็นส่วนใหญ่ สาเหตุเพราะเด็กๆมีภูมิคุ้มกันที่ต่างจากผู้ใหญ่ เบาบางและอ่อนแอกว่า แต่ผู้ใหญ่อย่างเราๆก็ใช่ว่าจะเป็นกันไม่ได้ และเหตุที่ผู้ใหญ่เราเป็นได้ ก็ในยามที่เราภูมิคุ้มกันต่ำลงจากทั้งการพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย หรือแม้แต่ผลข้างเคียงจากยาบางตัวเช่นยากลุ่มสเตอรอย หรือยากดภูมิคุ้มกันเป็นต้น ติดต่ออย่างไร? สำหรับไวรัส โรต้า นี้ติดต่อผ่านโดยการรับเชื้อเข้าทางปากและเป็นไวรัสที่แฝงตัวอยู่กับสิ่งของรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อาหาร หรือของเล่นเด็ก เช่น การทานอาหารหรือการดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ หรือหยิบจับของที่มีเชื้อและเอามือเข้าปาก ช่วงที่พบ? อันที่จริงสามารถพบได้ตลอดปี แต่ช่วงเวลาการระบาดของเชื่อไวรัส โรต้า ที่มากที่สุด ตรงข้ามกับเชื้อที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงยอดฮิตติดหูอย่างอหิวาอย่างขั้วตรงข้ามเลยทีเดียว เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงจากฝนเป็นหนาว ทำให้ไวรัสเติบโตได้ดี ซึ่งไวรัสโรตาไม่ใช่ไวรัสตัวใหม่ มีมานานแล้วและรุนแรงน้อยกว่าอหิวาตกโรค แล้วอาการเป็นอย่างไร? อาการของท้องเสีย ท้องร่วง หลายคนมักจำแนกไม่ออก แต่มูลเหตุการเกิดโรคนั้นแตกต่างอย่างชัดเจน อีกทั้งแนวทางรักษาก็ต่างกันออกไปอีกด้วย สำหรับอาการท้องเสียจาก ไวรัสโรต้า มีหลักๆได้แก่ ท้องเสียหนักมาก ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำและถ่ายบ่อยกว่าปกติ บางรายมีอาเจียนร่วมด้วย เด็กเล็กอาจมีไข้เวลาถ่ายจะถ่ายเหลวเป็นน้ำ มีฟองออกมา บางครั้งจะมีมูกหรือกลิ่นเหม็นเปรี้ยวหากเกิดขึ้นกับเด็ก เด็กจะมีอาการซึม มือเท้าเย็น เนื่องจากอุจจาระบ่อยจนอาจหมดแรงปัสสาวะออกน้อยลง บางครั้งมีสีเข้ม หรือไม่ปัสสาวะเลยเกิน 6 ชั่วโมงร้องไห้ไม่มีน้ำตา ตาโหล ปากแห้ง กระหายน้ำ ซึ่งเกิดจากร่างกายขาดน้ำ ต้องระวังให้มากอาจเกิดการช็อกได้ สาเหตุ? เชื้อไวรัสโรต้าแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากเชื้อชนิดนี้ทนต่อสภาพแวดล้อมภายนอกร่างกายคนได้นาน เมื่อได้รับเชื้อไวรัสโรตาเข้าสู่ร่างกาย จะมีระยะฟักตัว 48 ชั่วโมง เชื้อเมื่อเข้าสู่ทางเดินอาหารที่ลำไส้เล็กจะทำลายผนังลำไส้เล็ก ทำให้การดูดซึมน้ำและเกลือแร่ลดลง และเอนไซม์ (Enzyme) สำหรับย่อยคาร์โบไฮเดรตผิดปกติทำให้มีอาการท้องร่วง, ท้องเสีย, ท้องเดิน เจ้าเชื้อไวรัส โรต้า นี้ยังสามารถอาศัยอยู่ในร่างกายต่อไปได้นานถึง 10 วันหลังหายดีแล้ว บุคคลเหล่านี้จึงกลายเป็นพาหะแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว วิธีการรักษาเบื้องต้น เนื่องจากในปัจจุบัน ยังไม่มียาสำหรับการรักษาเพื่อกำจัดเชื้อไวรัสชนิดนี้โดยเฉพาะ และเนื่องจากเป็นเชื้อไวรัส ยาปฎิชีวนะจึงไม่เป็นผลเพราะไม่ใช่เชื้อแบคทีเรีย จำเป็นต้องให้ร่างกายแข็งแรงและใช้ภูมิคุ้มกันร่างกายจัดการกับเชื้อนี้ และค่อยๆ ฟื้นฟู มีอาการดีขึ้น ในระหว่างนี้ผู้ป่วยควรประคับประคองอาการไม่ให้รุนแรงขึ้นโดยเบื้องต้นได้แก่- ดื่มน้ำและผงเกลือแร่เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำ เนื่องจาก ร่างกายสูญเสียน้ำเป็นจำนวนมากจากอาการท้องร่วง- กินอาหารอ่อน…

Read More

เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับคนเมือง ด้วยสถานที่แฮงค์เอาท์แห่งใหม่ “เย่า เรสเตอรองท์ แอนด์ รูฟท็อป บาร์” (Yào Restaurant & Rooftop Bar) ณ โรงแรมเปิดใหม่อย่าง โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์  ร้านอาหารจีนและ เอาท์ดอร์บาร์บนชั้นสูงสุดของโรงแรม แห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่หยิบยกเอาความคลาสสิคแบบจีนมานำเสนอในมุมมองใหม่ ให้ทันสมัยและเปี่ยมด้วยสไตล์ ภายในตัวร้านแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ร้านอาหารจีนบนชั้น 32 เสิร์ฟอาหารกวางตุ้ง และเซี่ยงไฮ้และรูฟท็อปบาร์บนชั้นดาดฟ้าของตัวตึก บาร์เปิดโล่งตกแต่งสไตล์จีนโมเดิร์น ที่คุณจะสามารถจิบค็อกเทลและอาหารเบาๆ พร้อมดื่มด่ำกับทิวทัศน์กรุงเทพมหานคร และแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะท้อนแสงแดดระยิบระยับ จนกลายเป็นสีทองและเส้นขอบฟ้าที่เรืองรอง อันน่าประทับใจแม้จะเป็นครั้งแรกที่มาเยือน สำหรับการสังสรรค์ในบรรยากาศสุดชิค ขอแนะนำ เย่า รูฟท็อป บาร์ บนชั้นดาดฟ้า ที่นำสไตล์จีนโมเดิร์นมาผสานอารมณ์วินเทจ แต่ยังคงความหรูหราที่มาพร้อมกับวิวมหานครกรุงเทพแบบเปิดโล่ง เย่า รูฟท็อป บาร์ สามารถรองรับผู้มาเยือนได้ถึง 160 ที่นั่ง เครื่องดื่มเพื่อความสดชื่นผ่อนคลายก็มีเตรียมไว้บริการหลากหลาย รังสรรค์โดยอิลฮาน เบเซอร์ (Ilhan Beser) ผู้จัดการคนใหม่ ของ เย่า รูฟท็อป บาร์ โดยเฉพาะค็อกเทลซิกเนเจอร์ เช่น เซี่ยงไฮ้ เดอะ ซิตี้ อัพออน เดอะ ซี (Shanghai, The City “Upon The Sea”) ได้แรงบันดาลใจจากหอไข่มุกของเซี่ยงไฮ้ เป็นค็อกเทลสีม่วงเหมือนสีของหอคอย สัญลักษณ์ของเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเล และอีกหลายรายการ ที่รังสรรค์มาเพื่อความรื่นรมย์ของผู้มาเยือน นอกจากนี้ยังมีค็อกเทลหลากหลายรส หลายอารมณ์ หลากสีอีกมากมาย ทั้งสวยงามสดใส อร่อย สดชื่น อาหารเบาๆบนบาร์เก๋แห่งนี้ ก็ได้รับอิทธิพลจากเซี่ยงไฮ้เช่นเดียวกัน แต่ประยุกต์ให้ทันสมัย ผ่านการนำเสนอที่มีสไตล์ เช่น ไก่ทอดผัดพริกกรอบสไตล์เสฉวน เมนูนี้ดูง่ายแต่อร่อยเลิศ ด้วยเนื้อนุ่มๆ หนังกรอบๆ รสที่คลุกเค้ากันอย่างลงตัวดีเลิศ ทาโก้เป็ดย่าง แสนอร่อยและสร้างสรรค์สุดๆไปกับแป้งทาโก้แต่ไส้ในเป็นเป็ดย่างแบบจีนๆ กินง่าย รสเข้าใจง่ายๆ…

Read More

หากจะกล่าวถึงร้านอาหารดีๆ การปรุงด้วยเชฟฝีมือฉมัง และวัตถุดิบชั้นเลิศ หลายคนก็คงจะนึกไปถึงร้านอาหารแถวเส้นสุขุมวิท ร้านอาหารแถวเส้นถนนสาทร หรือบรรดาห้องอาหารโรงแรมหรูในเมือง แต่ทว่าในปัจจุบันก็มีร้านอาหารดีๆมากมายหลายร้านที่เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี รวมถึงการปรุงด้วยเทคนิคชั้นสูง จากเชฟหน้าใหม่และหน้าเก่าทั้งหลาย เริ่มเปิดกระจายตัวตามชานเมือง ซึ่งในครั้งนี้ Kinlakestars.com กินแหลกแจกดาว ขอพาทุกท่านไปพบกับ ร้าน Coal Bistrol ซึ่งเป็นร้านอาหารที่เพิ่งเปิดใหม่ ดำเนินการโดยเหล่าบรรดาเชฟหน้าใหม่ไฟแรงที่มากมายไปด้วยรางวัลชนะเลิศการประกวดชิงแชมป์ระดับโลกมาหลายรางวัลหลายรายการนอกจากนี้ยังสามารถคว้ารางวัลตามรายการทีวีมากมายหลายรายการเกี่ยวกับการทำอาหาร ซึ่งเชฟเด็กๆหน้าใหม่ไฟแรงเหล่านี้นั้นมีความรักในการอาหารรักในการทำอาหารจากก้นบึ้งลึกของหัวใจ สำหรับร้าน Coal Bistrol นั้นเป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่บริเวณเขตกรุงเทพตะวันตกเส้นถนนราชพฤกษ์ไม่ไกลจากตัวเมืองเท่าไหร่นักสามารถวิ่งออกจากเส้นบรมราชชนนีมาเล็กน้อยร้าน Coal Bistrolหากมองจากภายนอกอาจจะดูเป็นร้านอาหารเล็กๆ แต่ใครจะรู้ว่า ร้านนี้แน่นไปด้วยคุณภาพทั้งจากวัตถุดิบและเทคนิคการปรุง ร้าน Coal Bistrol เป็นร้านอาหารที่เน้นในเรื่องของการย่างตามชื่อเนื่องจากว่าเนื้อ และวัตถุดิบต่างๆที่ใช้ในร้านโดยมีการเลือกสรรเป็นอย่างดีจากทีมเชฟ นอกจากนี้ ร้าน Coal Bistrol ยังมีเทคนิคการย่างที่ไม่เหมือนใครสำหรับหลายๆที่เพียงอย่างนั้น เพราะอาจเป็นขั้นตอนที่เพียงพอแล้วแต่ทว่าร้าน Coal Bistrol แห่งนี้นอกจากย่างแล้วยังมีการรมควันด้วยสำหรับการย่าง ของร้านนี้มีความพิเศษจากที่อื่นๆทั่วไปนั่นคือการใช้เตาถ่าน สำหรับไม้ที่ใช้ในการย่างมีทั้ง ไม้แอปเปิล ไม้วอลนัท ไม้สนฮิคอลิส และไม้อื่นๆอีกมากมายหลังจากทำการย่างจนได้ความสุกกำลังดีหรือความสุกที่ลูกค้าต้องการทางร้านก็จะนำเนื้อหรือวัตถุดิบเหล่านี้ไปรมควัน ซึ่งทำให้มีกลิ่นที่หอมยาวนานและเตะจมูกตั้งแต่จานยังไม่รวมถึงโต๊ะ บรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งให้ออกมาดูธรรมชาติและติดรูปผนังปูนสีเทาเข้ม และมีการทำให้มีลวดลายที่มีร่องปูนกะเทาะออกและเห็นถึงตรวจแนวที่เรียงตัวเป็นกำแพงในบางจุด เอาล่ะ กล่าวกันมามากพอแล้วสำหรับในส่วนของร้านอาหารและเชฟ ทีนี้เรามาเข้าสู่ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม อันเป็นส่วนสำคัญกันเลยดีกว่าครับ เริ่มต้นกันด้วยเมนูพิเศษที่แถมให้ฟรีสำหรับช่วงเปิดร้าน คำหวาน เมนูนี้เป็นเมนูที่เชฟมาย ได้รับรางวัลจากการแข่งขันทำอาหารในรายการทีวี สงครามครัว ซึ่งประกอบไปด้วยเมนูย่อยๆ ต่างรส ต่างสัมผัส 3 เมนู จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ คำกรอบ คำหวาน คำหอม ก่อนอาหารจะมาพนักงานให้เราลองเบียร์ตัวต่างๆซึ่งในวันนี้เรามาลองกัน 4 ตัวซึ่งมาจาก 3 ประเทศ แต่ละตัวมีความเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป เริ่มต้นกันด้วย เบียร์สัญชาติเยอรมัน Maisel’s Weisse : Original การเลือกข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ที่ดีที่สุด ทำให้เบียร์ของ Weisse ของ Maisel ทำให้สีอำพันสีเหลืองเร่าร้อนของมันและกระบวนการผลิตเบียร์แบบดั้งเดิมของการหมักขวดด้วยยีสต์จากการเพาะพันธุ์แท้ของเจ้าเบียร์ตัวนี้จะทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ กลิ่นหอมสดชื่นของก๋วยเตี๋ยวและกลิ่นผลไม้เชื่อมต่อกับ Antrunk ด้วยสาโทอ่อน ๆ จากมอลต์ผลไม้กลิ่นกานพลูและลูกจันทน์เทศ หลังจากนั้นก็แผ่กระจายไปทั่วสำหรับ Weisse ของ Maisel โดยทั่วไปผลไม้เล็กน้อยรสชาติของเบียร์สไปซ์ ตามด้วย  เบียร์สัญชาติเยอรมัน…

Read More

วันนี้ทางทีมงาน Kinlakestars.com ขอทำท่านไปเปิดประสบการณ์สุดเอกคลูซีฟครั้งแรกในประเทศไทยกับอาหารมังสวิรัติแบบไฟน์ ไดนิ่งด้วยการร่วมมือกับเชฟ ฌอง คริสเตียน จูรี ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารมังสวิรัติที่เดินทางไปทั่วโลกเพื่อแสวงหาวัตถุดิบชั้นดีในการรังสรรค์จานอาหารมังสวิรัติที่ดีที่สุด ณ แอตติจูด รูฟทอป บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์ ห้องอาหารไฟน์ ไดนิ่งร่วมสมัย พร้อมวิวเมืองกรุงเทพมหานครและแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามา เชฟ ฌอง คริสเตียน จูรี (Jean-Christian Jury) เป็นเชฟที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากเมืองตูลูส (Toulouse) ประเทศฝรั่งเศส มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารมังสวิรัติสมัยใหม่และอาหารแบบใช้วัตถุดิบสดใหม่ในการปรุง นอกจากนั้นยังเป็นผู้เขียนหนังสือ “Vegan : The Cookbook” อีกด้วย แรงบันดาลใจในการเป็นเชฟมังสวิรัติของเขามาจากการที่เขาล้มป่วยด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวสมัยที่เขาต้องทำงานอย่างหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ และการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ขณะที่ทำงานเป็นเชฟอยู่ที่ร้านอาหารอันพลุกพล่านใจกลางกรุงลอนดอน ด้วยเหตุการณ์นั้นเองทำให้ เชฟ ฌอง คริสเตียนหันมาศึกษาการปรุงอาหารจากวัตถุดิบสดใหม่ และอาหารมังสวิรัติ เพื่อสร้างสรรค์อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและไลฟ์สไตล์การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ในปี พ.ศ.2550 เขาได้เปิดร้านอาหารมังสวิรัติแห่งแรก La Mano Verde ในกรุงเบอร์ลิน และในปัจจุบันเชฟ ฌอง ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ ลอส แองเจลิส เขาได้ออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อสำรวจอาหารมังสวิรัติในแต่ละท้องถิ่น และคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดสำหรับจานอาหารชั้นเยี่ยมของเขา เชฟ ฌอง คริสเตียนมีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าอาหารมังสวิรัติที่ทำจากวัตถุดิบที่ดีและสดใหม่จะช่วยสุขภาพของเราดีขึ้นและช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ป้องกันโรคต่างๆนานา จุดมุ่งหมายของเขาคือการปรุงอาหารมังสวิรัติให้แก่ผู้ทานที่ไม่ใช่มังสวิรัติรู้สึกประหลาดใจกับสูตรอาหารมังสวิรัติที่อร่อยและเป็นเอกลักษณ์ เขาจึงได้เขียนหนังสือ Vegan: the Cookbook เพื่อนำเสนอสูตรอาหารมังสวิรัติที่อร่อยและถูกปากสำหรับทุกคน เพราะเขาเชื่อว่าอาหารมังสวิรัติคืออาหารชนิดหนึ่งซึ่งมีชีวิตชีวา มีรสชาติ มีความสดใหม่และหลากหลาย ในวันนี้ เชฟ ฌอง คริสเตียนได้บรรจงสรรค์สร้างรูปลักษณ์ของอาหารแต่ละจานให้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์พร้อมรังสรรค์รสชาติกลมกล่อมจากวัตถุดิบธรรมชาติ เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยซุปกัซปาโชผักโขมและอโวคาโด (Spinach & Avocado Gazpacho) เสริฟพร้อมกับเชอร์เบทแตงกวา มิ้นท์ พริก และเลมอน ให้รสสัมผัสที่หลากหลายทั้งเปรี้ยว เย็น และเผ็ด ตัวซุปผักโขมมีรสหอมละมุน เมื่อทานพร้อมกับเชอร์เบททำให้รสชาติละมุนลิ้นเข้ากันเป็นอย่างดี ดื่มคู่กับไวน์ออแกนิคตัวนี้ค่ะ สลัดหน่อไม้ทะเล (Salade de la Mer) คลุกเคล้าด้วยน้ำสลัดจากขมิ้น มะพร้าวและขิง โรยหน้าด้วยเนื้อมะพร้าวอบแห้งและพริกไทยแดง ตัวหน่อไม้ทะเลสดมีรสชาติออกเค็มแต่เมื่อรับประทานคู่กับน้ำสลัดแค่เนื้อมะพร้าวอบแห้งช่วยทำให้รสชาติกลมกล่อมไม่เค็มหรือหวานเกินไป กลิ่นสมุนไพรจากขมิ้นและขิงช่วยชูรสชาติของสลัดจานนี้ให้ดียิ่งขึ้น ดื่มคู่กับไวน์ออแกนิคตัวนี้ค่ะ ราวิโอลี…

Read More

วันนี้ ผมและทีมงาน Kinlakestars.com จะพาท่าน เปลี่ยนบรรยากาศมาจิบชายามบ่ายในแบบ luxury style พิถีพิถันนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะ ในโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพ อย่างโรงแรม St.Regis ภายใต้แบรนด์ Qeelin แบรนด์เครื่องประดับจากประเทศฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งในวันนี้ทางแบรนด์ Qeelin ก็ได้ถ่ายทอดผลงาน fine jewelry ผ่านทางชุดน้ำชามาให้เราได้ชมและชิมกัน ก่อนอื่นก็ต้องทำการเลือกเครื่องดื่ม ซึ่งในวันนี้ทางโรงแรมได้เลือกชา ที่เป็น signature ของทางโรงแรมนั้นก็คือ St. Regis Exclusive blend ที่ต้องบอกว่าเป็นชาที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิด และทำให้รสชาติของขนมในวันนี้ ยังคงรสชาติทีทางแบรนด์ต้องการจะสื่อออกมาได้ดีเยี่ยมครับ เมื่อได้ชาแล้วเราก็มาดูชุดน้ำชาในวันนี้กันครับ ตัวชุดน้ำชา ถูกออกแบบมาในรูปทรงน้ำเต้าสีแดง ซึ่งเป็น icon ของแบรนด์เค้า ใน Wulu collection โดยเค้าบอกว่า รูปทรงน้ำเต้า เป็น a magical balance of Lines and Curves ตัวเซ็ตมีทั้งหมด 4 ชั้น ไล่จากของคาวอยู่ด้านล่าง ไล่ขึ้นไปจนถึงบนสุดซึ่งเป็นของหวานอยู่ด้านบน โดยเราก็จะเริ่มชิมกันตามลำดับจากของคาวไปสู่ของหวานนั่นเอง เริ่มที่ Warm traditional raisin scones กลิ่นของ scone หอมละมุนบวกเนื้อสัมผัสนุ่มๆ ทานคู่กับ 4 รสชาติ Devonshire clotted cream , chantilly cream, mixed berry jam, strawberry jam มาดูเมนูของคาวกันบ้างครับ ชิ้นแรกเลยคือ Boston lobster, Tom yum mayonnaise, soft roll รสชาติเผ็ดนิดๆของต้มยำ กับเนื้อ Lobster เสิร์ฟบนขนมปัง รสชาติกลมกล่อมที่คนไทยถูกปากแน่นอนครับ Duck liver mousse profiteroles, coconut เป็นอีกชิ้นที่เด็ดในวันนี้ด้วยความ “กรอบนอกนุ่มใน”…

Read More

ชีส ชีส ชีสสสสสสส สุดแสนคุ้มใจกลางสยามกลับมาแล้ว !!! เหลือเพียง 750 พิเศษรับส่วนลดทันที 50% เมื่อสำรองที่นั่งออนไลน์ที่ https://www.novotelbkk.com/th/grill-and-say-cheese-returns-kinlake/  โปรโมชั่นสุดฟินที่คนรักชีสไม่ควรพลาดที่ ห้องอาหารเดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์ พร้อมให้มาลิ้มลองความอร่อยกับกองทัพอาหารคาวหวานรสเด็ดทุกคืนวันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี บอกได้เลยว่าเกินคำว่าคุ้มจริงๆ พบกับเมนูสุดพิเศษที่เชฟภูมิใจนำเสนอ ได้แก่ ราเคล็ตต์ชีส เยิ้มๆ ซึ่งเลือกที่จะนำไปใส่ได้กับทุกเมนูในห้องอาหารเลยทีเดียว ราเคล็ตต์ชีสนี้นำเข้ามาจากสวิสแท้ๆ ทั้งความมันทั้งความหนึบจึงได้สัมผัสดั้งเดิมต้นตำหรับแท้ๆ แต่รสชาติ ทางหัวหน้าเชฟมีการแก้ไขรสเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับรสนิยมและถูกปากคนไทย เพราะรสชาติดั้งเดิมจะค่อนข้างเค็มไปสำหรับคนไทย จึงมีการปรับรสความเค็มลงเล็กน้อย โดยเจ้าชีสนี้แขกทุกท่านจะสามารถนำเมนูที่ชอบถือมาบอกเชฟ และให้เชฟราดเจ้าชีสนี้ลงไป แต่ต้องใช้เวลาเล็กน้อยรอให้ชีสละลายตัวด้วยความร้อน เมนูซี่โครงบาร์บีคิว ซี่โครงบาร์บีคิวที่ราดด้วยชีส 3 ชนิดผสมกับครีมข้าวโพดที่จะมาเพิ่มอรรถรสความอร่อยให้กับคุณยิ่งขึ้น จัดได้ว่าเป็นตัวเด็ดของมื้อเลยทีเดียว ทั้งรสชาติ สัมผัส ความสุก นับว่าเลิศ เอาเมนูอื่นๆมาราดชีสเพิ่มไปก็ย่อมได้อย่าง เนื้อหมูสันในคุโรบุตะตามในรูป นอกจากนี้เราก็ยังได้ลองเอาอีกหลากหลายเมนูไปราดอย่าง แซลมอนย่าง แซลมอนสดซาซิมิ กุ้ง หรืออะไรก็ได้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีมุมปิ้งย่างที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจกับวัตถุดิบชั้นดีที่ทางเชฟคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน และยังสามารถเลือกระดับความสุก ทำให้นอกจากเลือกวัตถุดิบ แล้วความสุกในการปรุง รวมๆกันจึงได้เป็นจานเด็ดที่คุณต้องการโดยแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวากิว เนื้อสันในคุโรบุตะ เนื้อแกะ กุ้งลายเสือ ตัวโตๆ ปลาแซลมอน ปลาหมึกสดๆ ตัวโตๆ กรุบกรึบ และไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด  อย่างคุชิคัทซึซีฟู๊ด และผักนานาชนิดสไตล์ญี่ปุ่น ทั้ง ปลา กุ้ง สารพัดผัก ลูกชิ้น แม้แต่ไข่ก็ยังมี สารพัดวัตถุดิบชุบแป้ง เลิศๆจิ้มกับซอสสำหรับคุชิคัท ที่มีรสเปรี้ยวหวาน เข้ากันได้เป็นอย่างดี ทอดด้วยน้ำมันร้อนๆ ใหม่ๆ จุใจขึ้นไปอีกกับมุมอาหารทะเลสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรม หรือปูออนไอซ์ ปลากะพงอบตัวโต ซุปเห็ดทรัฟเฟิลและสารพัดกับมากมาย คาร์ปาชโช่ ซูชิ และซาชิมิ มาเสริมทัพ ซึ่งในหมวดซูชินี้หนึ่งในไอเทมน้องใหม่มาแรง ที่ได้รับความนิยมและเลิฟกันสุดๆก็คือซูชิวากิวอาบุรินั้นเอง อีกทั้งซาซิมิสดๆหลากหลายไม่อั้น จบของคาวด้วยปังชีสเยิ้มสายรุ้งพาสเทล ตบท้ายด้วยขนมหวาน ขนมหวานนานาชนิดทั้งไทยและเทศไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตฟองดูว์, ไอศกรีม และอีกหลากหลายเมนูความอร่อย ก่อนจะปิดอาหาร จะบอกว่าห้องนี้ขนมปังก็มีอย่างหลากหลายเลยทีเดียว ในส่วนของเครื่องดื่ม นอกจากอาหารแล้ว เครื่องดื่มก็ยังเติมเพิ่มได้ไม่อั้น ซึ่งมีมากมายหลากหลายที่รวมอยู่ในราคาบุฟเฟต์นี้แล้ว…

Read More