การกลับมาใหม่ของอาหารจีนแนวใหม่ ผสานรสสร้างสรรค์ผ่านจีนต้นตำหรับ ฝีมือเชฟกระทะเหล็กชาวสิงคโปร์ วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านไปลองอาหารจีนกวางตุ้งใจกลางเมือง เดินทางสะดวกใกล้ทั้งรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดงและ MRT สีลม หลังจากที่ปิดปรับปรุงไปประมาณ 3 เดือน ชื่อห้องอาหารจีน Xin Tian Di (ซิน เทียน ตี้) ตั้งอยู่ชั้นที่ 22 โรงแรม คราวน์ พลาซ่า กรุงเทพ ลุมพินี พาร์ค เรามาดูกันเลยว่าหลังจากปิดปรับปรุงไปแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง เดิมห้องอาหารจะตกแต่งเป็นสไตล์จีนคลาสสิคแต่จะใช้โทนสีแดงเป็นหลัก เช่น สีผ้าของเก้าอี้ ม่าน แต่หลังจากปรับปรุงแล้วใช้เป็นโทนสีเหลือง ทอง ให้ความรู้สึกเป็นสไตล์จีนสมัยใหม่ ทันสมัย ดูสะอาดตา แต่ยังคงความหรูหรา อบอุ่น บรรยากาศภายในห้องอาหารจะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่เรียงรายไปด้วยโต๊ะจีนหลากหลายขนาด ทั้งโต๊ะกลม โต๊ะเหลี่ยม ขนาด 4 ที่ จนถึง 10 ที่ รอบๆห้องโถงจะมีห้องส่วนตัวอยู่ 5 ห้อง ห้องส่วนตัวจะมีแบบติดกระจก สามารถมองเห็นวิวสวยใจกลางเมืองกรุงเทพจากมุมสูงได้ ห้องอาหารจีนซิน เทียน ตี้ ปรุง รังสรรค์และการันตีความอร่อยโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญในวงการอาหารจีนมานานกว่า 20 ปี พร้อมชนะรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย Iron Chef Thailand โดยเชฟที่มีชื่อว่า เชฟ แลม ก๊ก เวง (Chef Lam Kok Weng) มาเริ่มชิมอาหารที่เป็นเมนู A la Carte แนะนำของทางร้านกันเลยครับ เริ่มจาก กุ้งทอดครีมสลัดกับผักดองกิมจิ (Pan fried prawns with kimchi paste salad dressing) 450++ บาท ใช้กุ้งแชบ๊วยทะเลสด ตัวใหญ่ เนื้อเด้ง กรุบกรอบนำไปชุบแป้งทอด ราดด้วยครีมสลัดสีส้ม หอม มัน ตัดเลี่ยนด้วยผักดองกิมจิด้านบน…
Author: warn
วันนี้ทาง Kinlakestars จะเชิญชวนทุกท่านไปชมงานแสดงดอกไม้ประจำปี ครั้งที่ 30 โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ ภายใต้แนวคิด “ป่ารักษ์น้ำ เฉลิมพระเกียรติ (The Forest For Life)” ตั้งแต่วันที่ 6 – 9 ตุลาคม 2559 โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ เจ้าของตำนานงานดอกไม้การกุศลประจำปีในโรงแรมแห่งแรกของประเทศไทย นับจากปี พ.ศ. 2529 ซึ่งได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องยาวนานจนถึงปีนี้ นับเป็นปีที่ 30 และเนื่องในปีพุทธศักราช 2559 นับเป็นปีมหามงคลอันได้แก่ เป็นปีที่พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์ครบ 70 ปี และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุ 7 รอบ 84 พรรษา โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ และบ้านปาร์คนายเลิศ จึงน้อมนำพระราชปณิธานของล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ ที่จะอนุรักษ์ป่าและน้ำไม่ให้สูญสิ้นไปจากผืนแผ่นดินไทย มาเป็นแรงบันดาลใจ ด้วยรูปแบบการจัดดอกไม้ในแนวคิด “ป่ารักษ์น้ำ เฉลิมพระเกียรติ (The Forest For Life)” โดยจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 6 ถึง วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ที่โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ กรุงเทพ และ บ้านปาร์คนายเลิศ โดยรายได้จากการจัดงานจะมอบให้แก่ มูลนิธิชัยพัฒนา และ มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ตลอด 4 วันของงานแสดงดอกไม้นานาชาติ ครั้งที่ 30 นี้ ผู้เข้าชม จะได้ตื่นตากับการประดิษฐ์และตกแต่งสถานที่ ด้วยพรรณไม้หลากชนิด รวมถึงประติมากรรมดอกไม้สดอันตระการตา รังสรรค์โดยหลากหลายศิลปินมือหนึ่งของเมืองไทย อาทิ จักรธร ประเสริฐยิ่ง ศักดิ์ชัย กาย และสกุล อินทกุล เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีส่วนจัดแสดงไอเดียการตกแต่งดอกไม้ในสวนเพื่อเพิ่มธรรมชาติให้แก่ที่อยู่อาศัย พร้อมเต็มอิ่มกับกิจกรรมบันเทิงและมหกรรมอาหารมากมาย…
หากคุณเป็นคอ Champagne คุณต้องไม่พลาดกับงานนี้ เพราะได้จัดแชงเปญ สุดยอดระดับโลกรวมไว้ให้คุณดื่มได้อย่างเต็มที่ในราคาเดียว ! วันนี้ทาง Kinlakestars จะชวนทุกท่านมาเพลิดเพลินกับการจิบแชมเปญระดับพรีเมี่ยมจาก 6 แบรนด์ดัง ได้แก่ Billecart-Salmon Laurent Perrier Taittinger, Montaudon Moet & Chandon Philipponnat ซึ่งนำมาให้ทุกท่านลิ้มลองเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ เดอะ ล็อบบี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 กันยายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2559 เวลา 11.00 น. ถึง 23.00 น. ตลอดงานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลกครั้งที่ 17 งานยิ่งใหญ่ประจำปี ที่รวบรวมสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังจากทั่วโลก เมนูชั้นเลิศ อาหารและไวน์ชั้นเยี่ยม แพ็คเกจการจิบแชมเปญระดับพรีเมี่ยมมีให้บริการ 2 แบบ ได้แก่ ซิลเวอร์แพ็คเกจ (1,900 บาท++) สามารถเลือกดื่มแชมเปญพรีเมี่ยมจาก 3 แบรนด์ โกลด์แพ็คเกจ (2,900 บาท++) เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการจิบแชมเปญพรีเมี่ยมทั้ง 6 แบรนด์ดัง พร้อมเพลิดเพลินกับช็อคโกแลต Teuscher ชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งติดอันดับหนึ่งในสิบของช็อกโกแลตที่ดีที่สุดในโลก พิซซ่าแป้งบางแบบเยอรมัน (Flammkuchen) และของกินเล่นรสเลิศอื่นๆที่มากมายหลากหลาย (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าบริการ) เรื่อง / ภาพ : Chatreth M. โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ จัดกิจกรรมเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลก เวิลด์ กูร์เมต์ เฟสติวัล ครั้งที่ 17 ตั้งแต่วันที่ 19-25 กันยายน 2559 การเฉลิมฉลองเทศกาลอาหารและไวน์ที่ดีสุดกับสุดยอดเชฟมิชลินสตาร์และเชฟชื่อดังจากทั่วโลก โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ภูมิใจนำเสนอ งานเทศกาลอาหารและไวน์ระดับโลกครั้งที่…
วันนี้ทาง Kinlakestars จะชวนทุกท่านไปพบกับห้องอาหาร Concept ใหม่ เป็นอีกหนึ่งห้องอาหารที่น่าสนใจ มีทางเชื่อมต่อกับ Siam paragon เป็นสถานที่สังสรรค์ใจกลางเมือง ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ และเป็นกันเอง มีทั้ง Indoor และ Outdoor มาลองดูคอนเซ็ปใหม่ที่คิดโดยเชฟ เจมส์ นอร์แมน (Chef James Norman) ของห้องอาหาร Niche (นิช) ที่โรงแรมสยามคิมปินสกีกันครับว่าเป็นอย่างไร ห้องอาหาร Niche จะเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของอาหารนานาชาติ ระหว่าง Asian (เอเชี่ยน) หรือ Non-Asian (นอนเอเชี่ยน) โดยมีวัตถุดิบเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งทุกท่านสามารถเลือกสรรวัตถุดิบที่ตนเองชื่นชอบ รวมถึงเลือกวิธีการปรุงได้ด้วยตนเองว่าให้เป็นแบบ เอเชี่ยน หรือ นอนเอเชี่ยน ทุกท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับการลิ้มลองรสชาติจากหลากหลายเมนูของทางห้องอาหาร โดยอาหารแต่ละจานจะถูกเสิร์ฟมาในขนาดที่พอเหมาะ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกท่านได้แบ่งปันความอร่อยและสามารถลิ้มลองอาหารได้หลากหลายมากขึ้น ต้อนรับเข้าสู่ห้องอาหารด้วยเพดานที่สูง และโอ่โถงแต่ดูซ่อนเร้นจากความวุ่นวาย สงบ และเป็นกันเอง บาร์เครื่องดื่มกลางห้องอาหารที่สร้างสรรค์เครื่องดื่มดีๆมากมาย บรรยกาศด้านนอกที่งดงาม ชวนผ่อนคลาย สไตล์รีสอร์ท มาเริ่มจากเครื่องดื่มกันก่อนเลยครับ มีทั้งแบบที่เป็น Cocktail (290++ บาท) และ Mocktail (180++ บาท) ตัวนี้ผมเลือกวัตถุดิบหลักเป็นเบอร์รี่ Berries ที่เป็น Cocktail แบบเอเชี่ยน Umeshu, Banana Liqueur, Padanus and Lime มีส่วนผสมของเหล้าบ๊วย เหล้ากลิ่นกล้วย ใบเตย และน้ำมะนาว พร้อมบลูเบอร์รี่ แอลกอฮอล์ไม่แรง สาวๆดื่มได้ ตัวนี้เป็น Mocktail แบบเอเชี่ยน Pineapple, Yusu Puree and Lime Juice มีส่วนผสมของสับปะรด ส้มยูซุเข้มข้น และน้ำมะนาว พร้อมสตรอเบอร์รี่สด เปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วสดชื่น วัตถุดิบหลักของแก้วนี้เป็นมะม่วง (Mango) ที่เป็น Mocktail…
หากมองหาการกินอาหารจีนที่เต็มอิ่ม ไม่อั้น จัดเต็ม อร่อยเลิศ สร้างสรรค์ ไม่ซ้ำใคร คุ้มค่า เราอยากจะชวนคุณมาลองที่นี่ ! หล่งฟ่ง วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านไปลิ้มลองบุฟเฟ่ต์อาหารจีน ย่านรัชดาภิเษก ณ โรงแรมสวิสโซเทล เลอคองคอร์ด ชั้น 2 ห้องอาหารจีนหล่งฟ่ง (Loong Foong) สามารถสั่งได้ตามเมนูเลย มีทั้งออเดิร์ฟ ของนึ่ง ของทอด ข้าว ก๋วยเตี๋ยวและขนมหวาน ที่มีให้เลือกทานมากกว่า 60 เมนู เป็น All You Can Eat A La Carte Buffet ด้วยราคามิตรภาพ 790++ บาท รวมเครื่องดื่มชา เก๊กฮวยเติมได้ไม่อั้นอีกด้วย ราคานี้เมื่อเทียบกับคุณภาพ รสชาติอาหารแล้ว คุ้มสุดคุ้ม บรรยากาศของร้านอาหารมีกลิ่นอายสไตล์จีน ทั้งของตกแต่ง ประดับประดา ภาพแขวนผนัง ตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้า จะมีห้องรับรองก่อน ตกแต่งหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ต่างๆจะใช้ไม้เป็นวัสดุ รวมถึงโต๊ะและเก้าอี้ บรรยากาศภายในห้องอาหารใช้ไฟสีส้ม แสดงถึงความอบอุ่น ห้องอาหารขนาดใหญ่ โอ่อ่า มีทั้งโต๊ะเหลี่ยม โต๊ะกลม รวมถึงห้องส่วนตัวหลายห้อง เหมาะสำหรับทานกับครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรือพาแขกมารับประทาน มาลองดูเมนูไฮไลท์ที่อยู่ในเมนูบุฟเฟ่ต์กันเลยครับ ฮะเก๋ากุ้งนึ่งโรยด้วยแผ่นทองคำ – Steamed Shrimp Dumpling Topped with Gold Leaf เป็นตัวเด่นของที่นี่เลย จะเห็นได้ว่าเป็นฮะเก๋าสีดำเด่นสวยงาม ติดแผ่นทองด้านบน สีดำมาจากน้ำหมึกดำ และแป้งที่ทำฮะเก๋าจะเป็นแป้งพาสต้า ที่มีความเหนียว หนึบกว่าแป้งฮะเก๋าทั่วๆไป แป้งจะไม่ขาดง่าย ด้านในเป็นไส้กุ้ง ใช้กุ้งลายเสือสับเป็นชิ้นเล็กๆ หนึบ เด้ง ผัดซอส X.O. รสชาติเผ็ดนิดๆ หอยเชลล์นึ่งรังนก – Steamed Scallop and Egg White…
วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านชมงาน Wine Journey – A New Perspective Event จัดขึ้นวันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม 2016 ณ โรงแรมเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา งานนี้เป็นงานที่คอไวน์อิตาลีไม่ควรพลาดเพราะจะรวบรวมไวน์คุณภาพจาก 6 เมืองในอิตาลีมา Pairing กับอาหาร โดยฝีมือเชฟสัญชาติอิตาเลี่ยน เชฟมาโก้ คัมมาระตะ และจะแบ่งการเดินทางครั้งนี้เป็น 7 สถานี มาเริ่มจากสถานีแรกกันเลยครับ Route 01 เป็น Prosecco Brut, Zonin เป็น Sparkling Wine พันธุ์องุ่น Glera 100% สีเหลืองอร่าม ใส ดื่มง่าย สดชื่น ให้รสสัมผัสของผลไม้อย่าง แอปเปิ้ล และดอกไม้ พร้อมทั้ง Dry ตัวนี้จะแนะนำทานคู่กับปลา Baccala เนื้อนุ่ม ครีมซอสมันนิดๆ รสชาติไม่เข้มข้นมากนัก เรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว Route 02 เป็น 2014 Trabocchetto IGT, Colline Pescaresi, Talamonti เป็นไวน์ขาวพันธุ์องุ่น Pecorino สีเหลืองอ่อน ที่เปรียบดั่งฟางสีซีด ที่น่าสนใจคือกลิ่นของมันหอมหวานออกแนวผลแอปริคอทสุกและลิ้นจี่ที่ให้กลิ่นหอมหอมหวาน รสนั้นก็สมดุลอย่างดีเลิศกับสัมผัสเพดานปากที่ดีงาม รสค่อนข้างหวาน ถ้าให้ผมเปรียบนั้น ก็คงเปรียบได้กับสาวสิบห้าหยกๆสิบหกหย่อนๆ กับผ้าคาดหัวสีสดใส เต้นระบำชะชะช่า เป่าแตร ยืนหัวเราะกลางทุ่งองุ่นในหน้าร้อน ตัวนี้จะทานคู่กับหอยนางรมสด ตัวใหญ่ ปลาแซลมอนและมะเขือยาวบด Route 03 เป็น 2014 Palas Gavi DOCG, Michele Chiarlo ไวน์ขาวพันธุ์องุ่น Cortese ตัวนี้จะใสกว่าไวน์ขาวตัวแรก แต่รสไม่ค่อยหวาน…
ใครที่กำลังมองหามื้อสายวันอาทิตย์ เป็นบุฟเฟ่ต์ขนาดกลาง แต่สามารถกินล็อบสเตอร์ได้หลายตัว มีหอยนางรม Fine De claire ก้ามปูยักษ์ มีเมนู a la carte ให้สั่ง และขนมหน้าตาน่ารักปิดท้ายอาหาร วันนี้ Kinlakestars.com มีที่หนึ่งมาแนะนำให้ ที่ห้องอาหาร Scalini โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท ในซอยสุขุมวิท 24 นั่นเอง มื้อนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 12.30 – 15.00 น.ของทุกวันอาทิตย์ ห้องอาหารอยู่เหนือ Lobby ไปชั้นเดียว เมื่อขึ้นมาถึงไล่สายตาไปตามพื้นไม้ปาร์เก้ลวดลายเก๋ไก๋ จะพบกับครัวเปิด ที่มองเห็นพ่อครัวทั้งหลายกำลังวุ่นวายกับการเตรียมอาหารมื้อนี้ให้เราอยู่ จนเข้าไปเลือกที่นั่งที่มีอยู่ติดหน้าต่างได้แสงธรรมชาติถ่ายรูปสวย หรือโต๊ะท่ามกลางเหล่าไวน์ชั้นดีหลายร้อยขวด ถ้ามากันเป็นหมู่คณะใหญ่ โต๊ะยาวๆก็มีให้เลือกนั่ง โดยตีมการตกแต่งหลักของที่นี่เป็นสไตล์อิตาเลียน – อเมริกัน ในยุค 1920 ที่ชาวอิตาเลียนเพิ่งอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้นฝาผนังบางด้านจึงมีรูปวาดเป็นเส้นสีขาวแสดงเหล่าตึกสูงในมหานครนิวยอร์กบนพื้นสีดำที่เหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน และผนังส่วนใหญ่ก็เน้นทำเป็นสีดำ ตกแต่งด้วยไม้ กระจก โคมไฟสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่แบบโบราณด้วย ที่หน้าห้องอาหารเราจะเห็นมีบันไดวนสีขาวสวยงามอยู่ ซึ่ง Scalini ในภาษาอิตาเลียน แปลว่า บันไดวน นั่นเอง ที่ด้านหน้าของห้องอาหาร มีโต๊ะไม้พร้อมแก้วเล็กหลากใบ น้ำผลไม้ในขวดแก้วหลากสีสดใส มีน้ำ 3 รส 3 สีให้เลือกเติมความสดชื่น อาทิ Pinacalada smoothie, Beetroot juice, Pineapple มาสู่มุมสุขภาพกันบ้าง เป็นแหล่งรวมสลัดมากมาย หลากหลายแบบให้เลือกทานเลยทีเดียว มีทั้ง Mamma cosetta pork tonnato แฮมสไลด์เป็นแผ่นกลมในครีมซอส White balsamic, marinated vegetables, caramel pine nuts, parmesan cheese, shaves เป็นผักดองชนิดต่างๆ พร้อมกับชีสและเมล็ดสน เพิ่มความมัน Mediterranean seafood salad…
วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านไปชิมอาหารสเปน กับประสบการณ์ที่ดีเลิศ ทานง่าย รสชาติถูกปากคนไทย อยู่ใจกลางเมือง พร้อมชมวิวสวย มุมสูง บนชั้น 54 ของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ชื่อ “UNO MAS” (อูโน มาส) มาจากภาษาสเปน หมายถึง “ขออีกหนึ่ง” โดยได้รับการออกแบบให้สะท้อนความรู้สึกของการเดินทางไปสู่ดินแดนมหัศจรรย์แห่งคาบสมุทรไอบีเรีย และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ร้าน UNO MAS จะแบ่งทั้งหมด 3 โซน โดยเริ่มจากโซนแรกเป็น Wine Cellar เหมาะสำหรับ นั่งดื่มชิลล์ๆ หลังเลิกงาน มีห้องเก็บไวน์เป็นกระจกใสสูง 8 เมตร โชว์ไวน์เรียงราย สวยงาม ที่ใช้เก็บไวน์จำนวน 36 ชนิด ทั้งไวน์โลกเก่า และไวน์โลกใหม่ จำนวนมากกว่า 2,000 ขวด สำหรับบรรดาคนรักไวน์ นอกจากนี้เรามีไวน์แอนเจิ้ลที่จะโบยบินขึ้นไปหยิบไวน์ขวดที่คุณปรารถนา โดยมีดีเจคอยเปิดแผ่นเพลงละติน ให้เสียงเพลงขับกล่อมท่ามกลางกลิ่นอายของบรรยากาศที่เข้ากันกับไวน์ที่คุณเลือกในค่ำคืนพิเศษ จากโซนไวน์เซลล่า จะเข้าสู่พื้นที่ของ Tapas & Raw Bar บาร์แบบกึ่งกลางแจ้ง ซึ่งแบ่งที่นั่งออกเป็นสองระดับ ให้คุณนั่งอย่างสะดวกสบายบนที่นั่งริมหน้าต่าง พร้อมจัดเตรียมโต๊ะสำหรับลูกค้ากลุ่มใหญ่บนระเบียงไม้ยกระดับ อีกทั้งมีเก้าอี้บาร์ให้นั่งชิมเครื่องดื่มรอบๆ เคาน์เตอร์บาร์ นอกจากนั้นบริเวณพื้นที่กลางบาร์ยังมีเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่สำหรับจัดวางหอยนางรม และอาหารทะเลสดใหม่จากทะเลเมดิเตอร์ เรเนียนและมหาสมุทรแอตแลนติก ส่วนอาหารอื่นๆ ที่ถูกบรรจงคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อนำมาจัดวางให้ลูกค้าเลือกรับประทาน ได้แก่ ชีสและมะกอกดอง ผักดองเมนูปลา รวมทั้งแฮมรมควันที่มีเฉพาะที่สเปน (Pata Negra) และซาลามี่หมูดำชั้นเยี่ยมระดับรางวัลภายใต้แบรนด์ Joselito ของประเทศสเปน ส่วนสุดท้ายจะเป็น Dining Deck เหมาะสำหรับเน้นทานแบบทางกลางหน่อย ให้อารมณ์อบอุ่นอีกแบบ สถานที่รับประทานอาหารกึ่งกลางแจ้งแห่งนี้ ไม่เพียงมอบวิวเส้นขอบฟ้ามหานครกรุงเทพที่งดงามและน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ยังมอบความสุขในการรับประทานอาหารที่ปรุงจากครัวแบบเปิดให้กับลูกค้าอีกด้วย โดยเชฟของทางร้านจะใช้หลุมไฟพิเศษในการรังสรรค์เมนูแต่ละจาน รวมทั้งใช้เตาอบ Josper ซึ่งนอกจากทำหน้าที่ย่างแล้วเตานี้ยังอบได้ด้วย โดยเมนูขึ้นชื่อของทางร้านทั้งหมูย่างสเปน เนื้อแกะย่าง และอาหารทะเลปิ้งย่างอื่นๆ ล้วนถูกอบและย่างจากเตานี้ นอกจากนั้นยังมีการใช้หลุมไฟถ่านไม้สีส้มที่จะช่วยเสริมรสชาติที่โดดเด่นให้กับเมนูปาเอลญ่า หรือข้าวผัดซีฟู้ดสเปนจานเด็ด รวมทั้งเมนูวาเลนเซีย ฟีเดวา (Valencian…
หากหลายรสที่แปลกใหม่ทั้งลูกบัวรังนก ทรัฟเฟิลขาวแสนหอม ชานมเอิร์ลเกรย์กลมกล่อม กาแฟอาราบีก้าเข้มข้นกับกล่องสวยหรู ดูเลอค่า ใช่แล้ว เรามาร่วมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ ด้วยขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายรสชาติบรรจุในกล่องกำมะหยี่ สีแดงทอง ดีไซน์สวยหรูประณีต ซึ่งท่านสามารถเลือกสั่งจองได้แล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2559 สัมผัสความอร่อยของขนมไหว้พระจันทร์ ที่คัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ทุกท่านได้เลือกลิ้มชิมรส ซึ่งมีให้เลือกหลายรสชาติตั้งแต่ทุเรียน, คัสตาร์ด, ลูกบัว, โหงวยิ้ง, และในคอลเลคชั่นแบบพรีเมี่ยมด้วยกล่องแสนหรู คือ รังนกผสมลูกบัว และในปีนี้ขอแนะนำรสชาติใหม่ที่ขอเชิญทุกท่านร่วมสัมผัส คือ ชานม เอิร์ลเกรย์, กาแฟอาราบิก้า และรสชาติพรีเมี่ยมของทรัฟเฟิลขาวและเกาลัค ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 188 บาท ทาง Kinlakestars จะมารีวิวขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรมดุสิตธานี ซึ่งเป็นรูปทรงกลม มีโลโก้ดอกไม้เป็นสัญลักษณ์อยู่ตรงกลาง โดยเริ่มจากไส้ทุเรียน เนื้อเนียน นุ่ม หอมกลิ่นของทุเรียน รสชาติหวานนิดๆ ไส้คัสตาร์ด สีเหลืองโทนส้ม กลิ่นคัสตาร์ดแปลก ไม่หอมเท่าที่ควร รสชาติออกหวาน ไส้ลูกบัว เนื้อร่วน ไม่ค่อยเนียน แต่รสชาติมัน หวานกำลังดี ไส้โหงวยิ้ง รสชาติหวาน มีความมันของถั่วหลากหลายชนิด ขนมไหว้พระจันทร์ที่ดุสิตธานีจะมีรสชาติที่แปลกใหม่ แตกต่างจากที่อื่น 3 รส คือ เอิร์ลเกรย์, กาแฟอาราบิก้า, ทรัฟเฟิลขาวและเกาลัด รสเอิร์ลเกรย์ กลิ่นของชาเอิร์ลเกรย์บางไปหน่อย ไม่หอมเท่าที่ควร แต่รสชาติเข้มข้น หวานน้อย รสกาแฟอาราบิก้า มีกลิ่นกาแฟชัดเจน หอม เข้ม ขมนำ หวานตาม รสทรัฟเฟิลขาวและเกาลัค มีกลิ่นของเห็ดทรัฟเฟิลขาวชัดเจน แต่บางท่านอาจจะไม่ชอบ เพราะส่วนมากกลิ่นเห็ดทรัฟเฟิลจะไปปรุงกับอาหารคาว ไม่ค่อยมาทำกับของหวาน แต่มีความมันจากเกาลัค เป็นการผสมผสานที่แปลกใหม่ น่าลิ้มลอง โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งจองล่วงหน้าได้ที่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โทร 02 200 9000 ต่อ 2345 อีเมลล์: [email protected] เว็บไซต์: www.dusit.com/dtbk,…
วันนี้ทาง Kinlakestars จะพาทุกท่านไปชิมขนมไหว้พระจันทร์สูตรต้นตำรับจากฮ่องกง โดยห้องอาหาร Chefman บรรจุในกล่องสีสันสวยงาม หรูหรา แข็งแรง เหมาะกับการซื้อเป็นของขวัญให้ผู้ใหญ่อย่างยิ่ง อีกทั้งปีนี้มีให้เลือกทั้งแบบลูกเล็ก ลูกใหญ่ จะจำหน่ายในช่วงกลางเดือนกรกฏาคม ถึง 15 กันยายน 2559 ลูกใหญ่มีให้เลือก 4 ไส้ ได้แก่ ไส้โหงวยิ้ง ไส้ทุเรียนไข่คู่ ไส้ลูกบัวไข่คู่ ไส้ถั่วแดงไข่คู่ โดยลูกใหญ่จะบรรจุในกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส บรรจุได้กล่องละ 4 ชิ้น ราคาเริ่มต้นที่กล่องละ 685 – 895 บาท (ราคาต่อชิ้นเริ่มต้นที่ 190 – 240 บาท) ลูกเล็ก (มินิ) มีให้เลือก 7 ไส้ ได้แก่ ไส้โหงวยิ้ง ไส้ทุเรียนไข่ ไส้ลูกบัวไข่ ไส้ถั่วแดงไข่ ไส้ชาโป๋เหล๋ไข่ ไส้กาแฟ ไส้ครีมคัสตาร์ด โดยลูกเล็กจะบรรจุในกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า สองชั้น บรรจุได้กล่องละ 8 ชิ้น ราคาเริ่มต้นที่กล่องละ 685 – 780 บาท มาเริ่มรีวิวขนมไหว้พระจันทร์กันเลยครับ ขนมไหว้พระจันทร์ที่เชฟแมนจะแป้งบางมาก นุ่ม ละมุนลิ้น เริ่มที่ไส้โหงวยิ้งกันครับ โหงวยิ้งที่นี่ไส้เยอะ แน่น แต่อาจจะไม่ถูกปากคนไทยซักเท่าไหร่เพราะเป็นสูตรจากฮ่องกง รสชาติเข้มข้น หวาน มัน กลิ่นของเครื่องเทศชัดเจน เคี้ยวเพลิน ที่แปลกคือมีหอมกลิ่นของเหล้าจีน ไส้ทุเรียนไข่คู่ มีความหอมจากทุเรียนที่แท้จริง เนื้อเนียน แน่น รสชาติหวานกำลังดีตัดกับความมันของไข่แดง ไส้ลูกบัวไข่คู่ ประทับใจกับไส้นี้จริงๆ ไส้เนียน หวานกำลังดี รสชาติกลมกล่อม พร้อมไข่แดงลูกใหญ่ ไส้ถั่วแดงไข่คู่ เป็นถั่วแดงที่เนื้อเนียน รสชาติหวานน้อย ไส้กาแฟ ไส้เนื้อสีดำ มีกลิ่นกาแฟเข้มแบบกาแฟดำ รสหวานน้อย ไส้ชาโป๋เหล๋ไข่ ไส้นี้แปลกไม่เหมือนที่อื่น มีกลิ่นของชาเล็กน้อย แต่รสชาติขมเข้ม ออกขมเล็กน้อย คล้ายกับรสกาแฟ …