Author: athiwat tripipitsiriwat

Chef : Isao Shinmura : 05 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A หลีกหนีความวุ่นวายและเปิดประสบการณ์การดื่มไวน์ของคุณไปกับ เดอะริดเลอร์ ไวน์บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ ที่รวบรวมไวน์คุณภาพหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 150 ฉลาก มากถึง 500 ขวด ผ่านการคัดสรรของซอมเมอร์ลิเยร์ (Sommelier) ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ประจำร้านชาวอิตาเลียน ที่ผ่านหลักสูตรไวน์และสั่งสมประสบการณ์ด้านไวน์กว่า 7 ปี อย่าง มร.แอนเดรีย บิสคาโร (Mr. Andrea Biscaro) และอีกหนึ่งความพิเศษเอาใจคอไวน์ ด้วยการเป็นไวน์บาร์ที่เสิร์ฟไวน์ด้วยแก้วและอุปกรณ์จาก “Riedel” ทั้งหมด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ผลิตภัณฑ์แก้วและอุปกรณ์ไวน์ที่มีการออกแบบเหมาะสมกับลักษณะทางขีวภาพขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ ช่วยให้ขับรสชาติและอโรมาได้ขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ได้อย่างดีเยี่ยม ยกระดับอรรถรสในการดื่มไวน์ของคุณให้ดียิ่งขึ้นไปอีกระดับ โดยชื่อของ Riddler ก็หมายถึงผู้ที่เชี่ยวชาญในกรรมวิธีในการกำจัดตะกอน (sediment) ของแชมเปญ หรือ Riddling เพื่อให้ได้รสชาติที่ perfect ที่สุด ซึ่งสะท้อนความต้องการของร้านนี้ที่จะเสิร์ฟไวน์คุณภาพสูงให้ลูกค้าผู้มาเยือน ในด้านอาหารก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ผ่านฝีมือของเชฟหลักของร้าน ดีกรีผู้ท้าชิงเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย เชฟอิซาโอะ ชินมูระ (Chef Isao Shinmura) ที่สั่งสมประสบการณ์ด้านอาหารจากเมืองนาโกย่ามากว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารยุโรป และความเชี่ยวชาญทางด้านเนื้อ (Butchery) โดยเชฟอิซาโอะได้นำประสบการณ์ที่สั่งสมรังสรรค์ออกมาเป็นอาหารฟิวชั่นญี่ปุ่น – อิตาเลียน หรือที่เรียกว่า “โยโชกุ” (Yoshoku) หรืออาหารตะวันตกที่ผสมผสานสไตล์ญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน โดยยึดหลักการปรุงตามแบบวิถีคนญี่ปุ่น คือปรุงแต่งรสน้อย เน้นรสชาติความอร่อยของวัตถุดิบจากธรรมชาติ สำหรับเมนูไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด อาทิ ตับไก่บดทานคู่กับขนมปังกรอบ คร็อกเก้เนื้อปูและตับปลาอังกิ สปาเก็ตตี้เมนไทโกะ ปลากินดาระย่างฟางเสิร์ฟกับยูซุซอส ข้าวอบหม้อดินเนื้อสไตล์ญี่ปุ่น ลิ้นวัวดรายเอจย่างฟาง รวมไปถึงเนื้อสเต็กหลากหลายส่วนที่เชฟอิซาโอะดรายเอจด้วยตัวเอง และอีกหลากหลายเมนูที่เชฟอิซาโอะคัดสรรมาแล้วว่าเข้ากับไวน์หลากชนิดได้อย่างลงตัว The Menu Chicken liver pate (260-) Chicken liver…

Read More

Chef : Makoto honazuma : 05 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A วันนี้ kinandleisure.com จะพาทุกท่านไปแวะเวียนที่ห้องอาหาร Kisara ห้องอาหารญี่ปุ่นสุดคลาสิคประจำโรงแรม Conran Bangkok ได้กลับมาจัดชุดอาหารเทปันยากินคอร์สสุดคุ้มให้ได้ลิ้มลองกันอีกครั้ง Kisara Kisara เป็นห้องอาหารญี่ปุ่นสไตล์ casual finedining แห่งหนึ่งที่มีแนวคิดการตกแต่งภายในที่น่าสนใจด้วยสไตล์ modern เน้นสีดำและไม้ มีของตกแต่งแบบรูปทรงเรขาคณิตที่ให้บรรยากาศแบบเรียบหรู และมีกิมมิกส่วนโค้ง รูปร่างต่าง ๆ ที่ออกแบบมาอย่างตั้งใจทำให้รู้สึกเพลินมากเวลาเข้ามาใช้บริการ เป็นหนึ่งในห้องอาหารญี่ปุ่นที่เรียกได้ว่ามี interior ที่ให้บรรยากาศสวยหรูที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นอกจากนั้นยังมีสัดส่วนให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น sushi bar เทปันยากิ หรือ ห้องส่วนตัวก็มีให้บริการ ตัวห้องส่วนตัวเองก็มีเบาะนั่งแบบพนักพิงสูงที่ดูน่าสนใจและเป็นทางการ ทำให้ร้าน Kisara เหมาะกับการคุยธุรกิจ หรือ นัดพบสำคัญ The Menu สำหรับเมนูขึ้นชื่อของ Kisara จะเป็นเทปันยากิ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชม เทปันยากิน set Kisara ได้จัดไว้ให้เป็นแบบ full course เสิร์ฟทีละจานสไตล์ fine dining และ ala carte แนะนำครับ Tepanyaki Set สำหรับ tepanyaki set จะมีทั้งหมดห้าคอร์สตั้งแต่ amuse bouche ถึงของหวาน ในราคาเริ่มต้น 2288 ++ บาท จะเริ่มเสิร์ฟตั้งแต่ 6PM เป็นต้นไปครับ เริ่มจาก crispy rice cracker ume sauce เป็นข้าวญี่ปุ่นทำเป็นขนม cracker รับประทานกับซอสบ๊วยหรือ ume ทอปบนสสาหร่าย เรียกน้ำย่อยก่อนระหว่างรอครับ…

Read More

Chef : Bruno Ferrari : 04 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A หลังจากพักการให้บริการชั่วคราวเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ห้องอาหารโวลติ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ จะเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2566 ด้วยแนวคิดใหม่ “อาหารย่างในสไตล์ทัสคาน” ที่คุณพลาดไม่ได้ ห้องอาหาร “โวลติ ทัสคาน กริลล์ แอนด์ บาร์” โฉมใหม่ นำเสนอความอร่อยจากเนื้อคุณภาพที่ดีที่สุดในโลก นำมาปรุงในสไตล์ทัสคานแท้ด้วยการรมควันและย่างด้วยเตาถ่าน เริ่มจากเนื้อชั้นเยี่ยมอย่างเนื้อวากิวสายพันธุ์เลือดแท้ 100% (A5) ซึ่งเป็นเนื้อวากิวเกรดสูงสุดที่หายากที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีเนื้อแองกัสออสเตรเลีย (MBS3+) ที่ได้รับคะแนนสูงสุดของเนื้อแองกัสจากเมืองดาร์ลิงดาวน์ รัฐควีนส์แลนด์ อีกทั้งยังเป็นเนื้อที่ได้รับรางวัลสเต็กเนื้อแองกัสที่ดีที่สุด โดยมีความโดดเด่นด้านเนื้อสัมผัสที่นุ่มและรสชาติเนื้อที่เข้มข้น อีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ได้แก่ F1 วากิว (MBS7+) ซึ่งได้รับคะแนนสูงสุดสำหรับเนื้อออสเตรเลียน F1 วากิว เนื้อที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมนำมาย่างบนเตาถ่านชาร์โคลที่ออกแบบโดยชาวออสเตรีย ราดด้วยไขมันวากิวหมักด้วยขิง และเสิร์ฟบนถาดเกลือหิมาลายัน เพื่อให้เนื้อสเต็กจะยังคงอุณหภูมิที่เหมาะสมไว้ในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศภายในห้องอาหารที่มีการตกแต่งในสไตล์อิตาเลียนร่วมสมัย สุดชิคในขณะชมทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยาและสระว่ายน้ำอันแสนร่มรื่นของโรงแรมฯ พร้อมจิบหลากหลายเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ในบรรยากาศสบายๆ ของเลานจ์ และบาร์ที่ชั้น 1 และชั้น 3 ของห้องอาหาร ตื่นตาไปกับทักษะการปรุงอาหารของทีมพ่อครัวมืออาชีพที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลงใหลในรสชาติของอาหารทุกจานที่ทุกท่านสามารถรับชมได้จากครัวเปิดขนาดใหญ่ที่ชั้น 2 ของห้องอาหาร ในขณะที่กำลัง อิ่มอร่อยไปกับอาหารจานโปรด ในครั้งนี้เราได้ชิมหลายๆตัวที่เชฟนำเสนอมามากพอสมควร ครบถ้วนตัวเด็ดๆ โดยเราจะแบ่งอาหารตามลำดับการกินสไตล์อิตาเลียนกันครับ มาเริ่มกันเลย !!! 1. ออเดิร์ฟ (antipasti) BEEF CARPACCIO (GF) ราคา 780Lemon, mustard, rocket leaves, pecorino cheese, black truffle, and…

Read More

Chef : Mark Hagenbach : 04 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A La Brace ที่ตั้งร้าน: โครงการ Earth Ekkamai สุขุมวิท 63 ร้าน La Brace ตั้งอยู่ใน community mall ที่รวมแหล่งอาหาร premium ใจกลางเมือง ซึ่งร้าน La Brace ก็เป็นร้านที่ concept มุ่งเน้นเสิร์ฟอาหารที่ทำจากวัตถุดิบระดับ premium ตาม concept ของโครงการ โดยมีจุดเด่นคือ เรื่องของความพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบที่เน้นว่าจะต้องเป็นที่สุดของที่สุด นำเข้าจากแหล่งผลิตต้นกำเนิดเท่านั้น และ ขายในราคาที่หาที่อื่นไม่ได้ เพราะเจ้าของร้าน La Brace เป็นผู้คัดสรรและนำเข้าด้วยตัวเอง ร่วมกับความมุ่งมั่นที่อยากให้ลูกค้าได้รับของที่ดีที่สุด ทำให้การันตีราคาที่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอน ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพชั้นยอด รวมถึงรสชาติอาหารที่เมื่อได้ลิ้มลองแล้วมีความสุขในทุกคำที่รับประทาน และมาพร้อมกับราคาที่สมเหตุสมผล  “ลา บาเช่” กริลล์เฮ้าส์แอนด์ไวน์บาร์ (La Brace Grill House & Wine Bar) มีระดับเปิดใหม่ที่ เอิร์ธเอกมัย (Earth Ekamai) ไลฟ์สไตล์มอลล์ล่าสุดบนถนนเอกมัย คือ คำตอบที่เหล่ากูร์เมต์คนรักอาหารทั้งนักชิมและนักดื่มในยุคนี้ สามารถสัมผัสและเข้าถึงได้อย่างแท้จริงKinandleisure “La Brace” เป็นภาษาอิตาเลียน หมายถึง “ถ่านที่กำลังคุ” สื่อถึงร้านอาหารที่ให้ความสำคัญกับการย่างหรือกริลล์ด้วยเตาถ่าน ดังนั้นร้าน “ลา บาเช่” ที่ Earth Ekamai จึงเป็นกริลล์เฮ้าส์ที่ภูมิใจนำเสนออาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนรูปแบบแคชชวลไฟน์ไดนิ่ง (Casual Fine Dining) ที่เน้นการกริลล์หรือการย่างด้วยเตาถ่าน ตัวเตาได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ สะอาด ถูกสุขอนามัย ใช้ถ่านที่ผลิตจากไม้คุณภาพดีในการย่าง และมีทีมเชฟที่ชำนาญการย่าง สามารถย่างเนื้อวัวเกรดพรีเมียมจากส่วนต่างๆ ของวัวที่มีขนาดและความหนาที่แตกต่างกันให้ได้ทั้งรสชาติ…

Read More

Chef :  Marco : 04 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A La Bottega Di Lucca                ท่ามกลางบรรยากาศการกลับมาเปิดทำการของร้านอาหารต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา มีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นในเมนูและตัวร้านอาหาร ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีนัก แต่วันนี้ kinandleisure.com จะพาทุกท่านไปยังร้านอาหารอิตาเลียนที่ยังคงความโดดเด่นในเรื่องของบรรยากาศและเมนูอาหารที่ไว้ใจได้ นั่นคือ La Bottega Di Lucca หรือ เรียนสั้น ๆ ว่า La Bottega ร้านอาหารอิตาเลียนที่โดดเด่นประจำย่านสุขุมวิท New Chef ลา บอตเตก้า La bottega แต่งตั้ง มาร์โก อเวซานี เป็นหัวหน้าเชฟคนใหม่เกิดและเติบโตในเมืองเวโรนาทางตอนเหนือ ทางตะวันออกของอิตาลี เชฟ Marco จะนำของเขาความเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารและความรู้ของวัตถุดิบจากอิตาลีและท้องถิ่นของเราครัว. “เราตื่นเต้นมากที่มีเชฟ Marco อยู่บนเรือเก่าแก่ลำน้อยของพวกเรา ”says Partner Luca Appino พื้นหลังการทำอาหารที่น่าประทับใจ “ฉันมั่นใจแขกของเราจะรักเขาและสิ่งที่เขานำมาที่โต๊ะ”ความหลงใหลในอาหารของ Marco นำเขาไปสู่ส่วนต่างๆ ของโลก จากบ้านของเขาในอิตาลี เขาเดินทางไปสกอตแลนด์ กัมพูชา อาบูดาบี และสุดท้ายคือแผ่นดินไทย เขามีโอกาสเข้าร่วมทีมที่มีพรสวรรค์ เช่น หนึ่งในสามมิชลินสตาร์ของร้านอาหาร Roberto ในดูไบในปี 2558, J’Aime by Jean Michel Lorain ระดับมิชลินสตาร์ในกรุงเทพฯ, Four Seasons Resort ในเชียงใหม่ในปี 2560, Ori ental Residence และมิชลินสตาร์ Savelberg ในกรุงเทพฯ ความสนใจในอุตสาหกรรมนี้เกิดจากพ่อของเขาและร้านอาหารที่ Marco เติบโตมา “พ่อของฉันสอนฉันถึงความสำคัญของคุณภาพของผลิตภัณฑ์…

Read More

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 ณ The Athenee Hotel A Luxury Collection Bangkok ห้องอาหาร Rain tree cafe ได้มีงานเลี้ยงเปิดตัว โดย  บริษัท   บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกเคทีซี เมื่อชำระค่าบัตรสมาชิกรายปีโรงแรม ดิ แอทธินี คลับ “The Athenee Club” ด้วยบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่าทุกประเภท สมาชิกจะได้รับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 – 31 ธันวาคม 2566 ดังนี้  1 ) ส่วนลดค่าสมาชิกฯ ทันที 700 บาท (บัตรสมาชิกฯ ราคา 8,000 บาท และ 12,000 บาท) 2 ) Hotel Credit มูลค่า 1,000 บาท​ 3 ) ส่วนลดเพิ่มอีก 5% จากสิทธิ์ส่วนลดสมาชิกฯที่ 8 ห้องอาหารของโรงแรม ส่วนลดสูงสุดรวม 55% เมื่อชำระค่าอาหารและเครื่องดื่มด้วยบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า (แสดงบัตรสมาชิก ดิ แอทธินี คลับ คู่กับบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า เพื่อรับสิทธิ์ทุกครั้ง) สำหรับ 8 ห้องอาหารที่เข้าร่วมรายการ ประกอบด้วย เรนทรี คาเฟ่ (Rain Tree Café) / ดิ อัลเลียม แบงค็อก (The Allium Bangkok) / เดอะ ซิลค์โร้ด (The Silk Road) / คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์ (Kintsugi Bangkok by Jeff…

Read More

Chef :  Paul : 04 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A มาจิบน้ำชายามบ่ายต้อนรับฤดูร้อน The Verdant Afternoon Tea – New Collection ท่ามกลางบรรยากาศหรูหราโอ่โถงของล็อบบี้ ที่ได้รับรางวัล Best Hotel Lobby Interior of Thailand and Best International Hotel Lobby Interior จาก International Property Awards ชุดน้ำชายามบ่ายต้อนรับฤดูร้อน The Verdant Afternoon Tea – New Collection ได้รับแรงบันดาลใจจาก  Sustainability Concept  ที่ทางโรงแรมมุ่งมั่นที่จะช่วยอนุรักษ์โลกและรักษาด้วยการนำวัสดุเหลือใช้อย่าง  ใยมะพร้าวและแกลบข้าว มาสร้างสรรค์เป็นชุดชายามบ่ายดีไซน์เก๋ ประดับด้วยต้นไม้ขนาดพอเหมาะที่ได้มาจากรากของต้นสารภี ซึ่งถือเป็นไม้มงคลของไทยและเพิ่มความตระการตาด้วยดรายไอซ์บริเวณฐานของชุดชา ลิ้มลองรสชาติอันละเมียดของเมนูชุดชายามบ่ายไม่ว่าจะเป็น ชุด ClassisAfternoon Teaสำหรับผู้ที่ชอบความเรียบหรูอร่อยในสไตล์ต้นตำรับ หรือจะเป็นชุดGuilt Free Afternoon Tea สำหรับผู้ที่ห่วงใยสุขภาพ ทุกชุดเสิร์ฟคู่กับชาระดับพรีเมี่ยมหลากหลายชนิดให้คุณได้เลือกตามความชอบ รวมทั้งชาสมุนไพรออร์แกนิก ชงโดยทีมาสเตอร์ หรือพนักงานผู้เชี่ยวชาญด้านชาของโรงแรมฯ ที่จัดเตรียมมาเสิร์ฟให้คุณได้ผ่อนคลาย พบกับชุดน้ำชายาม The Verdant Afternoon Tea – New Collection ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อคลายร้อน เติมเย็นฉ่ำก่อนจิบชาด้วย เวอร์จิ้น พินาคาลาด้า  เกล็ดน้ำแข็งสีขาวละมุ่นที่ผสมผสานความสดชื่นของ น้ำมะพร้าว         น้ำสัปปะรด และน้ำมะนาว เสิร์ฟในดาร์กช็อกโกแลตที่ถูกดีไซน์ให้ดูละม้ายกะลามะพร้าวขนาดกระทัดรัด            สโคน อร่อยกับสโคนสูตรพิเศษทั้งคลาสสิคสโคนและสโคนช็อกโกแลต เสิร์ฟพร้อมแยมสตรอเบอร์รี่ ค็อตเต็ทครีมชีส และเลม่อนเคิร์ด กรุ่นกลิ่นความหอมหวานกับเมนูของว่างยามบ่าย ไม่ว่าจะเป็น  แซลม่อนรมควันสไลด์ – แซลม่อนทาร์ท่าร์เสิร์ฟคู่กับครีมชีสและไข่ปลาแซลม่อน,  แซนวิชสลัดเนื้อปูและสตรอเบอร์รี่ – ที่นำขนมปังอบกรอบเสิร์ฟคู่กับสลัดเนื้อปูคลุกเคล้าซอสบาซามิคและสตรอเบอร์รี่สด,  ทาร์ตทูน่า – ที่ทาร์ตทูน่าหอมกรุ่น ท็อปปิ้งด้วยแตงกวาและไข่ปลาคาร์เวียร์,  ฟัวกราพาร์เฟ่ต์ – ที่เสิร์ฟฟัวกราเทอรีนโรยด้วยเมล็ดโกโก้บดผสมอัลม่อนด์บนแป้งแคร็กเกอร์อบ, ปิดท้ายเมนูของคาวด้วย  พาร์ม่าแฮมและไก่ผงกะหรี่ – ความอร่อยที่ลงตัวระหว่างพาร์ม่าแฮมทอดทานคู่กับเนื้อไก่ผัดผงกะหรี่  ลิ้มลองเมนูของหวานและเบเกอรี่เพื่อเพิ่มความสดชื่น ไม่ว่าจะเป็น   …

Read More

Chef : Ton : 04 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A ฤดูร้อนเดือนเมษายนมาถึงแล้ว ทุกคนมักจะคิดถึงเทศกาลข้าวแช่ ทาง Kinandleisure.com จึงอยากจะแนะนำอาหารว่างคลายร้อน สูตรตำรับชาววังให้ทุกท่านไปลิ้มลองกัน โดยเทศกาลข้าวแช่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคม 2566 เท่านั้น ที่ห้องอาหาร Smooth Curry ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ณ โรงแรม The Athénée A Luxury Collection Bangkok ห้องอาหาร สมูท เคอร์รี่ อาหารไทยตำรับดั้งเดิม นำโดยหัวหน้าพ่อครัวมากความสามารถและประสบการณ์ทำอาหารไทยมากกว่า 21 ปี ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เชฟพิถีพิถันกับทุกเมนูตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบจากทั่วทุกภาคของประเทศผสานกับเครื่องเทศของไทยปรุงด้วยสูตรตำรับดั้งเดิม ได้รับความนิยมจากผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ห้องอาหารถูกออกแบบในบรรยากาศสไตล์ไทยร่วมสมัย ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยผนังสีเขียวมะกอกสลับกับสีขาวงาช้าง ไม้แกะสลักและภาพวาด คลอด้วยเสียงเพลงไทยพื้นบ้านเบา ๆ เพิ่มบรรยากาศในการรับประทานอาหาร สามารถรองรับแขกได้ 12 คน จุดเด่นของที่นี่คือ เป็นอาหารไทยสูตรดั้งเดิม ไทยแท้ๆ ตำรับชาววัง (Authentic Thai) รับรองว่ารสชาติถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติแน่นอนครับ ความพิเศษของข้าวแช่ สูตรเชฟมนตรี คือความพิถีพิถันใส่ใจในวัตถุดิบทุกขึ้นตอน เริ่มจากการใช้ข้าวหอมมะลิออแกนิค 100% นึ่งสุก แช่ในน้ำเย็นลอยดอกมะลิและกระดังงา อบด้วยเทียนจนหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงครบตามแบบดั้งเดิม อาทิ หอมแดงสอดไส้ปลาช่อน ลูกกะปิทอด (สูตรเฉพาะของเชฟที่มีส่วนผสมของกระชายและมะพร้าว) พริกหยวกสอดไส้หมูผสมกับกระเทียมไทยและรากผักชี เนื้อหรือหมูฝอยหวาน ปลาช่อนแห้งผัดหวาน หมูเปีย ไข่วงเดือน และผักสด มาเริ่มจาก ข้าวแช่สมูทเคอรี่ – Chilled Jasmine Rice soaked in Flower Scented Water served with condiment (950++ baht per set) กันก่อนเลยครับ…

Read More

Chef : MarQuiS. : 03 2023 Story : Athiwat T . / Photo : Pol.Capt. Kittin A The Crystal Grill House – Asiatique สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ kinandlesiure.com จะพาทุกท่านไปชมพระอาทิตย์ตกดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับร้านอาหารเปิดใหม่ที่สวยงาม และ เต็มไปด้วยเรื่องราวนั่นคือ The Crystal Grill House Asiatique ซึ่งเพิ่งจะ soft opening กันไปไม่นานนี้ ซึ่งพร้อมจะต้อนรับทุกท่านให้มาลิ้มลองบรรยากาศสุดพิเศษนี้ ตัวร้านจะตั้งอยู่ในโครงการ Asiatique ใน prime location คือ ระเบียงริมแม่น้ำของโครงการ ถ้าเดินทางผ่านมาทางเรือเดินเรียบริมแม่น้ำมาก็จะถึงตัวร้านได้ไม่ยาก แต่ถ้ามาจากบริเวณลานจอดรถก็สามารถเดินผ่านโซนชิงช้าสวรรรค์และม้าหมุนจะพบกับตัวร้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ อีกจุดสังเกตคือร้านจะตั้งอยู่เยื้องจากบริเวณของเรือสิริมหรรณพ ร้าน The Crystral Gill House Asiatique ธีมหลักจะเป็นแบบ retro ช่วงยุค ค.ศ. 1900 ในบรรยากาศเมืองท่าที่หรูหรามั่งคั่ง ภายในตัวน้านแห่งนี้ได้แบ่งเป็นหลายโซน คือ โซนบาร์, โซน dinner โซน open kitchen และ มีไฮไลท์คือ พาวิเลียนของร้านที่ใช้เป็นห้องส่วนตัว โดยแต่ละพาวิเลียนจะตกแต่งเป็นธีมตามเมืองท่าต่าง ๆ ที่ประเทศไทยเคยไปติดต่อด้วยตั้งแต่ในอดีตถึงห้าห้อง โดยจะไล่ตั้งแต่ ญี่ปุ่นที่ตกแต่งให้มีลวดลายแบบยุคเอโดะ ผ้า และ พัดโบราณสามารถนั่งได้เป็นกลุ่มใหญ่อย่างเป็นส่วนตัว, ถัดมาคือโซนเซี่ยงไฮ้ที่แตกแต่งโทนสีแดง เรียบหรู, ต่อมาถืออินเดีย ที่มีโคมไฟ และ สีสันที่สวยงาม, ถัดมาคือห้องเปอร์เซียที่รุ่มรวยไปด้วยไปด้วยอารยธรรม พร้อมเครื่องแก้วฉลุลายสวยงาม, ปิดท้ายด้วยนิวยอร์กที่เป็นสไตล์อเมริกันจ๋า ได้บรรยากาศของปาร์ตี้ Gatsby และ กลิ่นซิการ์ ซึ่งการมีห้องไพรเวทที่หลากหลายก็จะทำให้บรรยากาศการมาฉลองไม่ซ้ำซากจำเจ แต่ถ้านั่งด้านนอกก็จะได้บรรยากาศริมแม่น้ำ สะท้อนไฟ และสีเหลืองทองของร้าน ซึงบรรยากาศจะสวยตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ตกดิน…

Read More

Chef :  Ma : 02 2023 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกครั้งกับ kinandleisure.com review ครับ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับร้านอาหาอิตาเลียนระดับ fine dining ในตำนานของประเทศไทย นั่นคือ Enoteca Bangkok ซึ่งเป็นร้านอาหารอิตาเลียน stand alone ร้านแรก ๆ ในไทยที่ทำให้พวกเราได้สัมผัสกับ อาหารอิตาเลียนระดับ fine dining ซึ่งถึงแม้กาลเวลาจะผ่านมาเพียงใด ร้านนี้ก็ยังสามารถสร้างสรรค์เมนูเพื่อให้พวกเราได้เพลิดเพลินกันได้อย่างมีมาตลอดครับ Enoteca Enoteca Bangkok ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 27 ใจกลางกรุงเทพ ซึ่งเมื่อเข้ามาในบริเวณร้านก็จะพบกับสวนอันอบอุ่นคอยต้อนรับเป็นบรรยากาศแรก ภายในตัวร้านจะแต่งแต่งสไตล์บ้านชาวอิตาเลียนที่ ตกแต่งอย่างอบอุ่นพร้อมไวน์ และ ของใช้ในบ้าน พร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของขนมปัง เมื่อเดินเข้ามาก็จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกลับมาในร้านอาหารแถวบ้านที่เราคุ้นเคยมานาน แต่ก็ยังมีความโรแมนติกซ่อนอยู่ในรายละเอียดหลาย ๆ มุม คำว่า “Enoteca” สามารถแปลตรงตัวว่า Wine Library ซึ่งตรงกับจุดประสงค์ดั้งเดิมของร้านที่ตอนแรกจะทำเป็นเพียงร้านไวน์ แต่ด้วยความต้องการของลูกค้าที่ได้มาลิ้มลองอาหารพร้อม ๆ กับไวน์แล้วเกิดติดใจจึงต้องปรับร้านเป็นร้านอาหาร ซึ่งอาหารที่เสิร์ฟในร้านแห่งนี้จะเน้นอาหารอิตาเลียนที่มีความละเอียดอ่อนของทั้งรสชาติ มีลุคที่ทันสมัยไม่น่าเบื่อ และ วัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี Enoteca Seven Sins Menu ที่ Enoteca Bangkok แห่งนี้สามารถสั่งอาหารเป็น Ala Carte คู่กับไวน์ที่ท่านชื่นชอบได้ตามใจชอบ แต่สำหรับวันนี้เราได้เลือก tasting menu ในชื่อ Seven Sins เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสกับรสชาติของ Enoteca หลากหลายรูปแบบ ซึ่งจะเป็นการผสมผสานความอร่อยอาหารอิตาเลียนที่จะนำเสนออย่างสวยงามแบบอาหารฝรั่งเศส และมีจุดเด่นที่วัตถุดิบชั้นเลิศซึ่งดูได้ตั้งแต่จากขนมปัง และ น้ำมันมะกอก Bread ขนมปังของ ร้านจะเสิร์ฟสามชนิดคือ focaccia…

Read More