อิ่มแบบมีคุณภาพ กับ Sunday brunch Premium เด็ดสุดที่โรงแรมสุโขทัย ณ ห้องโคโลเนด เมนูชั้นเลิศที่คัดสรรแต่วัตถุดิบเฉพาะ คัดคุณภาพทั้งดีทั้งสดทั้งใหม่มาให้เลือกทานอย่างจุใจแบบไม่อั้น 3 ชั่วโมงเต็ม เรียกได้ว่า Fine dining แบบ อันลิมิต โรงแรมสุโขทัย โรงแรมหรูใจกลางเมืองที่ขึ้นชื่อทั้งความสง่างามและการบริการที่เป็นเลิศ จึงเป็นที่หมายตาในการแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนรวมถึงพักผ่อนสำหรับชีวิตที่มีระดับ วันนี้กินแหลกแจกดาวจะพาทุกท่านมาลองลิ้มชิมไลน์บุฟเฟต์อาหารพิเศษ ที่คัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นดี และการปรุงจากเชฟชั้นเลิศ มาบริการให้คุณแบบพิเศษ กับซันเดย์บรันช์ที่ห้องอาหาร Colonade เราไปชมรายอาหารที่น่าสนใจแต่ละที่กันเลยครับ Seafood Paradise เริ่มจากไฮไลท์จุดเด่นกลางงานคือบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด ที่มากมายไปด้วยอาหารทะเลสดทั้งปูอลาสก้า คิงแครบ กุ้งนานาพันธุ์ ที่เรียงรายมาให้คุณได้ลองลิ้มชิมรสกันแบบไม่อั้น แถมรับประกันความสดชนิดที่เรียกว่า ผมทานเข้าไปแล้วต้องวนไปตัดอีกรอบเลยทีเดียวทั้งที่ปกติจะไม่ชอบอาหารทะเลแบบเย็นๆเท่าไหร่ แต่เนื้อปูโดยเฉพาะก้ามปูคิงแครบนั้นสดหวานและเนื้อแน่นมาก ลืมไปว่าแค่มุมแรกนี้คุณก็ไม่อยากไปต่อที่มุมไหนแล้วครับ ก้าม Lobster สดๆ หอยหลอด สด อร่อย หอยแมลงภู่ ปูอลาสก้า ปูจักจั่น Oysters Tournament ความพิเศษของไลน์อาหารนี้คือแยกความสำคัญของหอยนางรมสดออกมาเป็นอีกไลน์อาหารนึงเลยทีเดียว บริการสดๆมีให้เลือกมาถึง 7 สายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นต้นตำรับจากสุราษฎร์ธานีของเรา ตามด้วย Fin De Claire, Normandy, St.Vaast, Irlande, Jersey และ Oleron แสดงว่างานนี้เลือกชิมกันจนฟินกับหอยนางรมไปเป็นเดือนเลยทีเดียว Fin De Claire Normandy St.Vaast Irlande, Jersey ละ Oleron Cheese Parade ขบวนพาเหรดของคนรักชีส ที่นี่จัดให้แบบเรียกว่า อลังการ เกินกว่าจะหาคำบรรยายปกติได้เลยทีเดียวครับ เพราะมีให้เลือกมากมายถึง 40 ชนิด ตั้งเป็นแถวแนวไม้ยาวไล่ไปตลอดขนานกับบาร์เครื่องดื่มและขนมหวาน มาตั้งแต่รูปแบบต่างๆจะเป็นชีสแข็ง ชีสนุ่ม ไปจนถึงชีสเยิ้ม ตั้งแต่คนชอบกินกลิ่นเบาๆทานง่ายๆอย่างบรีชีส ไปจนเข้มฉุนแบบตระกูลบลูชีสก็มีให้เลือกอีกหลายสปีชีส์ทีเดียว งานนี้เรียกว่าถ้าคุณมาแล้วเห็นไลน์ชีส อาจจะสนใจเพิ่มบุฟเฟ่เครื่องดื่มไวน์และแชมเปญเพื่อจิบกันให้เพลินไปเลยทีเดียวก็ได้คับ ปล. ฟินจริง Sushi Creation and Japanese Fine dining ไลน์อาหารญี่ปุ่นที่นี่ก็เรียกว่าเด็ด ไม่น้อยหน้าใครไม่ว่าจะเป็น Premium แบบสุดๆ จัดพื้นฐานมาตั้งแต่แซลมอน…
Author: Natthanai Chunpleng
อร่อยอิ่มสุดคุ้มกับบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นหลากหลายด้วยเมนู โรงแรมหรูใจกลางย่านรัชดา ณ Swissotel Le Concorde วันนี้กินแหลกแจกดาวพาคุณมายังร้านอาหารญี่ปุ่นทาคุมิ Takumi ร้านอาหารญี่ปุ่น อร่อยและน่าสนใจมากทีเดียวกับเมนูและราคาในวันนี้ หลายท่านคงเคยเห็นบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นมากมายที่กระจายอยู่กลางกรุงเทพ ซึ่งคงหาได้ยากที่ได้จะมาทานบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมี่ยม ในโรงแรมหรูดูดีมีระดับ แต่ราคาสบายกระเป๋า เมื่อเข้ามาถึงล็อบบี้ด้านหน้าโรงแรมตรงเข้ามาด้านในจนสุด ร้านทาคุมิก็จะตั้งเด่นอยู่ทางด้านขวามือ มุมที่ดูเหมือนสงบเล็กๆนี้ ในช่วงนี้เรียกว่าแน่นขนัดไปด้วยลูกค้าที่ผลัดกันเข้ามารับประทานอาหารตลอดช่วงเย็นเลยทีเดียว เรามาเริ่มลิ้มชิมรสกันเลยครับ เริ่มที่เมนูซูชิที่มีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ Hokkigai Nigiri เนื้อ Wagyu ปลาไหล Engawa แซลมอน กุ้ง ไข่กุ้ง ปลาทูน่า ไข่หวาน ปลาซาบะ ไข่กุ้ง แซลมอน ปลาทูน่าปลาหมึก ปลากระพง ปูอัด ปูอัดอลาสก้า ปลาซาบะ ไปจนถึงไข่หวาน เรียกว่าสดและชิมกันได้เรื่อยๆเลยทีเดียว ถั่วแระญี่ปุ่น แม้ดูธรรมดาแต่บอกเลยค่ะว่ากินแล้วหยุดไม่ได้เลยค่ะ เกี๊ยวซ่า อีกหนึ่งเมนูพื้นๆที่มีรสถูกปากใครหลายคนจนอดสั่งไม่ได้ แป้งนุ่มที่มีผิวบางส่วนที่กรอบเกรียม ไส้หมูปรุงได้รสเลิศเนื้อแน่นค่ะ เต้าหู้ เนื้อนุ่มละมุนหนึบ ได้กลิ่นและรสอูมามิจากสาหร่ายและปลาโอแห้ง ปลาหมึกแล่เป็นเส้นเสียบไม้ย่าง นุ่มหนึบ กรึบ อร่อยค่ะ ซาซิมิชิ้นใหญ่ ทั้งแซลมอนสดๆ และอากามิสดๆ แซลมอนเกรดดีมันแทรกเนื้อกำลังดี อร่อยเลิศกินเท่าไหร่ก็ไม่พอเลยค่ะ ซูชิฟัวกราส์ ของล้ำค่าของวงการอาหาร ฟัวกราส์ย่างหอมกรุ่น มันนุ่มละมุน กับข้าวสวยร้อนๆพันแนบด้วยสาหร่าย มีเมนูแบบนี้ในรายการบุฟเฟ่ต์ด้วย ไม่เรียกว่าคุ้มละจะเรียกว่าอะไรล่ะคะท่านผู้อ่านเจ้าขา มากุโระซูชิสดน่าทาน เนื้อแดง นั้นก็คือเนื้อที่อยู่บริเวณส่วนกลางด้านข้างของตัวปลา จุดเด่นคือเนื้อสีแดงสด ไม่มีแถบไขมันสีขาวเหมือนชูโทโร่ โอโทโร่ และใสเหมือนมองทะลุได้ จริงๆมีชื่อเรียกว่า “อากามิ” แต่ส่วนใหญ่ในร้านซูชิเองก็ไม่ค่อยเรียกชื่อนี้ จะเรียกมากุโร่เฉยๆ อาคามินั้นเป็นเนื้อที่มีรสสัมผัสแน่น เนื่องจากมีไขมันแทรกอยู่น้อย ให้แคลอรี่ต่ำแต่มีโปรตีนสูงจึงดีต่อสุขภาพ เมื่อเทียบกับโอโทโร่ และ ชูโทโร่ แล้ว เนื้อแดงอาคามินั้นรับประทานได้คล่องกว่า ด้วยสัมผัสและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ที่ให้ความรู้สึกเต็มอิ่ม ไม่มีมันติดในปากหลังทานเสร็จ เอ็นกาวะ เนื้อใสลื่นอร่อยมาก “Engawa” ครีบปลาฮิราเมะ หรือ ครีบปลาตาเดียว อย่างที่หลายคนรู้จักนั่นเอง แต่จะเรียกว่าครีบปลาตาเดียวนั้นก็ไม่ถูกทั้งหมด เพราะ Engawa คือส่วนกล้ามเนื้อที่ใช้บังคับครีบ และสามารถหาได้จากปลาคะเรย์ (หรือที่คนไทยเรียกกันว่าปลาลิ้นหมา) ได้เช่นกัน “ซูชิหอยปีกนกซาชิมิ” เนื้อแน่นสีแดงขาวสวยงาม สดใหม่ รสชาติหวาน เคี้ยวหนึบหนับ คุณประโยชน์ทางอาหารมากมายเพื่อสุขภาพที่ดี…
บรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ กับทัศนียภาพสวนสวยสีเขียวขนาดใหญ่ของสองสถานทูต พร้อมความเรียบหรู แต่อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านหนึ่งเดียวใจกลางกรุงเทพ ริมถนนวิทยุ พื้นที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ถูกขนาบข้างด้วยสถานทูตอเมริกา และเนเธอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของโรงแรม Oriental Residence บรรยากาศความหรูหราอย่างมีระดับประกอบกับการบริการชั้นเลิศที่พร้อมดูแลเพื่อคนพิเศษเช่นคุณ วันนี้กินแหลกแจกดาว Kinlakestars.com จะพาคุณไปสัมผัสโรงแรม Oriental Residence นี้กันอย่างใกล้ชิดครับ โรงแรมที่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุมีเพียงส่วนที่ติดกับถนนวิทยุเพียงด้านเดียวส่วนอีก 3 ด้านล้อมรอบโรงแรมเป็นบรรยากาศของสวนสีเขียว สนามหญ้า บ่อน้ำ และต้นไม้ขนาดใหญ่ เต็มอิ่มกับธรรมชาติจากสถานฑูตเนเธอร์แลนด์และสถานทูตสหรัฐอเมริกา นับเป็นหนึ่งในไม่กี่ที่พื้นที่สีเขียวที่ยังคงเหลืออยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ เมื่อก้าวเท้าเข้ามายัง ล็อบบี้โรงแรมสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความโอ่โถงในขนาดที่กำลังพอดี ไม่ได้ทำให้รู้สึกเกร็งหรือต้องรู้สึกปรับตัวเหมือนกับว่าเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ หรูเลิศเกินกว่าจะรู้สึกผ่อนคลาย เพราะที่นี่แบ่งเป็นทั้งส่วนที่เป็นโรงแรมและส่วนที่เป็นที่พักอาศัยสำหรับผู้ที่ซื้อสิทธิ์ขาดในการเป็นเจ้าของระยะยาว ซึ่งจะแบ่งส่วน Facility และพื้นที่การใช้สอยอย่างชัดเจน มีลิฟท์ แยกระหว่างทางส่วนโรงแรมและในส่วนของที่พัก ในล็อบบี้นั้นตกแต่งโดยใช้สีออกโทนสว่างขาวครีมเทาอ่อน มีโซนพื้นที่นั่งเล่นให้บรรยากาศเหมือนห้องนั่งเล่นที่บ้านแต่ยังคงความหรูหราอย่างมีระดับไว้ได้อย่างเข้ากันทีเดียว Lobby หลายคนมักกล่าวว่า Lobby นั้นเป็นเหมือนหน้าตา และเป็นสิ่งบ่งบอกถึงตัวตน และภาพลักษณ์ของโรงแรมนั้นๆได้เป็นอย่างดี ตรงกลางล็อบบี้มีการจัดพื้นที่ตกแต่งเป็นโต๊ะกลาง มีของตกแต่งทั้งที่วางเทียนแจกันดอกไม้ต่างๆที่ประดับดอกไม้สดสีสันสดใส แต่คุมโทนให้เป็นสีที่ทำให้เห็นแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ผลัดเปลี่ยนไปในแต่ละวัน กำแพงด้านหลังรวมถึงพื้นหินอ่อน และฝ้าเพดานออกสีครีมให้ความรู้สึก อบอุ่น เหมือนได้รับการต้อนรับด้วยอ้อมกอดอันแสนนุ่มนวล บนผนังประดับกรอบรูปเรียบง่ายมีตราสัญลักษณ์ของทางโรงแรมโอเรียนเต็ล ดั้งเดิมไว้แสดงถึงความหรูหราที่เป็นตำนานที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 การออกแบบผนังมีการแทรกลายของการวางตัวชิ้นไม้สีเหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง หรือรูปแบบ “ฝาปะกน” ฝาผนังของเรือนเครื่องสับแบบไทยภาคกลาง ซึ่งประกอบด้วยไม้หลายชิ้น มีไม้ลูกตั้ง ลูกนอน และแผ่นไม้บางเข้าลิ้นประกบกันสนิท ลูกตั้งปะกน คือ ไม้ตัวยืนในแนวดิ่งประกอบเป็นฝาปะกน ลูกนอนหรือลูกขั้นปะกน(ลูกเซน) คือ ไม้ตัวนอนอยู่ระหว่างตัวยืนในฝาปะกน ส่วน ไม้กรุปะกน คือไม้ที่บรรจุระหว่างลูกตั้งกับลูกนอน ทั้งหมดเมื่อประกอบกันขึ้นมาจะได้ฝาปะกน จัดเป็นฝาสำเร็จรูปที่สามารถใส่และถอดได้อย่างสะดวก โดยแบ่งเป็นกระแบะ ซึ่งที่สามารถพบเห็นได้ตามเรือนไทยในยุคก่อน ทางฝั่งกำแพงและทางฝั่งกระจกที่เป็นทางเข้าของ Lobby ไปถึงกำแพงส่วนต่างๆ ทางมุมหนึ่งจะเป็นโต๊ะ Reception ที่พร้อมต้อนรับทุกคนอยู่เสมอ การแต่งกายของผู้ดูแลที่นี่จะเป็นสูทสีเทาดูเรียบสุภาพและหรูอย่างมีระดับ หลังจากที่ทำการเช็คอิน หรือระหว่างนั่งรอแขก ท่านทั้งหลายสามารถนั่งพักผ่อนกับมุมรับรองพักคอย ซึ่งมีที่นั่งมากมายรองรับอยู่บริเวณด้านหลังเคาเตอร์เช็คอิน ในส่วนของโคมระย้าแก้วเจียระไนของที่นี่ไม่ใหญ่โตมาก แต่มีขนาดที่ใหญ่กำลังพอดีกับสัดส่วนของโถง เพื่อให้ความรู้สึกที่หรูหรา แต่ยังคงความอบอุ่นและไม่ทำให้รู้สึกเป็นทางการ โอ่อ่าจนต้องวางตัวและอึดอัด Oriental Bar มาถึงชั้น 2 ของโรงแรมจะเป็นโซนพื้นที่เล็กๆสำหรับ Oriental Bar และยังมีพื้นที่สำหรับจัดงานประชุม จัดสัมมนาเล็กๆ หรือจัดงานเปิดตัวสินค้า ที่ดูเป็นพื้นที่ส่วนตัวแต่หรูหราอย่าง Oriental suite มาในส่วนของบาร์ที่เปิด…
สัมผัสเมนูเลิศล้ำเกินคำบรรยายจากเชฟชื่อดังบินตรงจากอินโดนีเซีย เพื่อมาเสิร์ฟเมนูพิเศษสูตรเฉพาะให้ทุกคนลองชิม อาหารจีนที่ทุกคนคงคิดว่าน่าจะทานแล้วเลี่ยนเยอะและอัดแน่นไปด้วยอาหารมันๆแต่วันนี้เชฟ Christopher Chai ของเราจะนำเสนอในรูปแบบที่น่าสนใจทานแบบพอดีคำเรียกว่าใครมาต้องลิ้มลองให้ได้เลย เนื้อสันทอดน้ำผึ้ง เนื้อสันสไลด์บางเฉียบ เมื่อวางบนจานนี้แล้วยอมรับเลยว่าตอนแรกคิดว่าเหมือนไม่ใช่เมนูหลัก แต่ความจริงแล้วเป็นตัวชูโรง เนื้อสไลด์สูตรพิเศษที่ทำออกมาแล้ว บางมากจนตอนแรกนึกว่าเป็นเห็ดบางๆที่ทอดมาจนกรอบ แต่นี่คือเนื้อสไลด์จริงๆที่บางมากแล้วนำไปผึ่งให้แห้งโดยใช้กรรมวิธีพิเศษเคล็ดลับเฉพาะ เมื่อห้างจนได้ที่แล้วก็นำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนมากๆเรียกว่าใช้เวลาทอดไม่นานเพียงแค่สัมผัสแผ่นเนื้อถ่านน้ำมันเพียงไม่กี่วินาทีแล้วนำขึ้นเลยจนได้เนื้อที่กรอบและบางมากทุกข์เคล้าด้วยซอสสูตรพิเศษที่บางคนอาจจะนึกแจ้งว่าเป็นน้ำผึ้งแต่เชฟของเรากระซิบว่าส่วนผสมนั้นมีความซับซ้อนและหลากหลายอยู่มากมายทีเดียว เป็นเมนูที่เรียกว่าเมื่อได้ชิมแล้วอยากจะขอเพิ่มอย่างไม่ทันรู้ตัวแต่เชฟเราก็สงวนไว้ว่ามีเพียงปริมาณจำกัดเท่านั้น เรียกว่าทำผมเอาสไนถึงเมนูนี้ไปหลายคืนทีเดียวครับ ปอเปี๊ยะอโวคาโด สาหร่าย อโวคาโด ผักสลัดใบ เป็นส่วนผสมที่ดูธรรมชาติมากออกมาแล้วก็เป็นคำที่ให้ความสดชื่น ตัดเลี่ยนของตาลอื่นๆข้างเคียงออกไปได้มากทีเดียว รสชาติก็ออกมามันหอม กำลังดีทั้งเนื้อของอะโวคาโดซอสมายองเนสและผักใบเขียวต่างๆ เป็นคำที่มาแทนความรู้สึกของสลัดได้ทีเดียว ฟองเต้าหู้ห่อผักรวมห่อใบชา ฟองเต้าหู้ ที่เป็นแผ่นบางนำมาห่อใบชาผักและเครื่องเคียงต่างๆให้รสชาติของบรรยากาศ การทานอาหารสุขภาพแต่ยังมีรสชาติที่อร่อยและน่าสัมผัส เครื่องเทศต่างๆถูกปรุงเข้าอย่างกำลังดีคลุกเข้ากับส่วนผสมของผักต่างๆออกมาเป็นรสชาติที่น่าสัมผัส หอยเชลล์ซอสกุ้งมาโย จากฐานชั้นล่างที่ทำด้วยเต้าหู้ทอดแล้วจี่ ไฟพอสุกด้านหนึ่งจนเกรียมออกเป็นสีดำ เสริมด้านบนด้วยหอยเชลล์ที่ปรุงซอส ปรุงจนสุกกำลังดี ราดด้านบนด้วยไข่กุ้งฝอยเล็กๆน่ารับประทาน และราดด้วยซอสสูตรพิเศษ ออกมาเต้น หมูสับห่อรากบัวเจี๋ยนซอสบาร์บีคิว เนื้อหมูสะบที่หมักเครื่องปรุง เคล้าเครื่องเทศ อร่อยสไตล์จีน ประกบคู่ด้วยรากบัวที่ต้มสุกจนนุ่มแต่ไม่เละ ออกมาเป็นก้อนขนาดกำลังดี น่าสนใจ แล้วเจี๋ยวราดรสชาติ ด้วยซอสบาร์บีคิว สัมผัสแรกรู้สึกรสชาติออกไปทาง ยุโรป แต่ชิมนานๆแอบโฉบกลี่นอายแบบจีนๆ ออกมาเป็นอาหารจีนที่มีความผสมผสานทันสมัย อร่อยทีเดียว ผัดผักแปดเซียน จานผัดผักเล็กๆ เน็นสีเห็นต่างๆ พร้อมด้วย พริกหพริกหยวกรสชาติจานอร่อยที่น่ารับประทาน ผักสดมาก ผัดออกมายังคงกลิ่นและรสสัมผัสของตัวผักไว้เพียงแต่กลิ่นคั่วของกระทะ พี่หอมกำลังดีให้ผักสดทานแล้วรู้สึกสบายปาก กลบอาการเลี่ยนจากมันของจานอื่นๆได้ลงไปพอสมควร บัวลอยชาหมื่นลี้ เป็นลูกบัวลอยที่ได้ในใส่ไว้ด้วยเครื่องงา เหมือนเวลาเราทานบัวลอยน้ำขิงแต่กลับแตกต่างด้วยการใช้น้ำชาจากต้นหอมหมื่นลี้ทำให้ได้กลิ่นที่น่าสัมผัสแป้งของบัวลอยที่ทำมามีความเหนียวนุ่มอร่อยทานแล้วรู้สึกได้ถึงความตั้งใจที่ไม่ให้แป้งนั้นสุขหรือว่าเละจนเกินไปผสานกับรสชาติของไส้งาที่อยู่ด้านในแล้วยิ่งทำให้รสชาติน่าสนใจมาก เคียงกับเห็ดหูหนูขาว และเม็ดพุทราเชื่อม ทำให้ความหวานออกมาลงตัวกำลังดี บัวลอยชาหมื่นลี้เป็นลูกบัวลอยที่ได้ในใส่ไว้ด้วยเครื่องงา เหมือนเวลาเราทานบัวลอยน้ำขิงแต่กลับแตกต่างด้วยการใช้น้ำชาจากต้นหอมหมื่นลี้ทำให้ได้กลิ่นที่น่าสัมผัสแป้งของบัวลอยที่ทำมามีความเหนียวนุ่มอร่อยทานแล้วรู้สึกได้ถึงความตั้งใจที่ไม่ให้แป้งนั้นสุขหรือว่าเละจนเกินไปผสานกับรสชาติของไส้งาที่อยู่ด้านในแล้วยิ่งทำให้รสชาติน่าสนใจมาก เคียงกับเห็ดหูหนูขาว และเม็ดพุทราเชื่อม ทำให้ความหวานออกมาลงตัวกำลังดี ผ่านกันไปแล้วสำหรับเมนูทั้งหมดนี้เรียกว่าใครที่จะมารับประทานต้องจองคิวกันที่โรงแรมแชงกรี-ลา ขอเชฟของเราจะมาแค่ช่วงเวลาจำกัดเท่านั้นแต่จะมาอีกครั้งเมื่อไหร่ลองติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ห้องอาหารจีน ผ่านกันไปแล้วสำหรับเมนูทั้งหมดนี้เรียกว่าใครที่จะมารับประทานต้องจองคิวกันที่โรงแรมแชงกรี-ลา ขอเชฟของเราจะมาแค่ช่วงเวลาจำกัดเท่านั้นแต่จะมาอีกครั้งเมื่อไหร่ลองติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ห้องอาหารจีน Shang Palace รร. แชงกรีล่า รีวิว, Christopher Chai review, อาหารจีน , chinese cuisine , shang palace, shangrila bangkok ข้อมูลติดต่อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะได้ที่ฝ่ายสำรองที่นั่งห้องอาหารของโรงแรมฯ โทร. 0 2236 7777 หรือ…
เพลินบรรยากาศวิวเมืองตระการตาใจกลางสุรวงศ์ พร้อมลิ้มรสชาติอาหารจีนเมนูอร่อยในราคาที่สัมผัสได้ กระเป๋า Restaurant ชั้นดาดฟ้า โรงแรมแมริออท สุรวงศ์ ซึ่งเป็นรูปภาพแนวใหม่ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารจีนรสเลิศแต่ราคาแบบสบายใจ ในส่วนของรูฟท็อปบาร์ด้านบนซึ่งเป็นบาร์เปิดโล่งตกแต่งสไตล์จีนโมเดิร์น ซึ่งลักษณะของภัตตาคารจะตกแต่งด้วยกระเบื้องและ เฟอร์นิเจอร์สไตล์จีนแทบจะทั้งหมด โดยมีการใช้สีที่อยู่ในโทนเข้มไม่สดจนเกินไป ทำให้รู้สึกถึงความเรียบหรูในที โดยที่นี่สถานที่มีความกว้างขวางและมุมมองรอบด้านที่สวยงาม โดยเห็นทั้งวิวเมืองและวิวแม่นํ้า โดยมีลมพัดคลอ ดนตรีเบาๆ ทำให้นั่งชิวได้เรื่อยๆ ยิ่งเมื่อถึงช่วงกลางคืนจะเห็นทิวทัศน์ของไฟหลากสีในกรุงเทพสวยงามเป็นอย่างมาก สำหรับ Yao Rooftop Bar นันเราได้นำเสนอท่านผู้อ่านกันไปถึง 2 รอบแล้ว ท่านสามารถอ่านรีวิวของ Yao Rooftop Bar ย้อนหลังฉบับเต็มๆกันได้ที่ อ่านต่อที่>>> จากอาหารจีนต่างๆ อร่อย ทานง่าย น่าสนใจ ราคาสบายกระเป๋า ที่ กินแหลกแจกดาวพาไปลองชิมกันไปแล้วในคราก่อน วันนี้เราจะพา ไปลิ้มลองเพิ่มเติม กับ เครื่องดื่นสุดพิเศษ จาก คู่หู บาร์เทนเดอร์ สุดเท่ ลุคแบดบอย ดีกรีแชมป์ บินตรงจาก เมืองน้ำหอม กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มารังสรรค์ เครื่องดื่ม กลิ่นอายเมืองน้ำหอม พร้อมเสิร์ฟ อย่างเข้ากันกับอาหารจีน พร้อมแล้วไปลองชิมกันเลยครับ ก่อนอื่นให้ดูตัวอย่างอาหารของว่างคร่าวๆกันเป็นบาตัวกันก่อนดีกว่าค่ะ SHRIMP WANTON WITH SZECHUAN PEPPER SAUCE 298.- เริ่มต้นด้วยเกี๊ยวกุ้งขนาดพอดีคำ 6 ชิ้น ซึ่งถือว่ากำลังพอดี เมื่อกัดลงไปจะรู้สึกถึงความกรุบกรอบของกุ้งสดๆเป็นอย่างแรก ตามมาด้วยความหอมและเผ็ดร้อนเบาๆของซอสเสฉวน และพริกไทย เหมือนเป็นการเปิดต่อมรับรสของลิ้นก่อนรับประทานอาหารเมนูต่อๆไป ซึ่งโดยรวมเป็นเมนูที่กินได้โดยไม่เลี่ยนแน่นอน และไม่ได้มีความเผ็ดแบบพริกทั่วไป คนไม่รับประทานเผ็ดน่าจะสามารถรับประทานได้ครับ CRISPY FRIED CRAB ROLL 278.- ตามมาด้วย หอยจ๊อปูซอสบ๊วย เป็นออเดิร์ฟที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารจีน เมนูพื้นที่เห็นได้ทั่วไป แต่กลับเป็นการเตรียมพร้อมที่คู่ควรกับ การสั่ง ด้วยความกรอบของเนื้อสัมผัสฟองเต้าหู้ตั้งแต่คำแรกที่กัด และเนื้อปูแน่นๆที่อัดอยู่ภายใน ทานพร้อมนํ้าจิ้มบ๊วยเพิ่มความกลมกล่อมได้อย่างลงตัว FOIE GRAS & SHRIMP DUMPLING 258.- ฮะเก๋ากุ้งฟัวกราส์ จานเด็ดที่เด่นตั้งแต่หน้าตา…
เที่ยวกรุงเทพ เสพความชิค พักผ่อนแบบมีระดับ เก๋ไก๋ แบบลงตัว ที่ Hotel Indigo @ Wireless Road Lobby เริ่มต้นการเช็คอินด้วย welcome drink เป็นชาไทยตรามือ ระหว่างรอเจ้าหน้าที่จัดการด้านเอกสาร ณ ใจกลางเมืองที่ หนาแน่น คับคั่ง บนถนนวิทยุ ปลายเส้นทางท่องเที่ยวที่คนอาจจะเบื่อความจำเจ ที่หรูหรา เรียบๆ มาสัมผัสความมีระดับ แบบเท่ เก๋ไก๋ สไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ที่ Hotel Indigo ตาม Concept โรงแรมที่ไม่ว่าจะตั้งอยู่ที่ไหนบนโลก การตกแต่งบรรยากาศและข้าวของที่นำมาใช้ในการบริการ ก็จะเน้นการนำเอกลักษณ์ของท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ตั้ง มาใช้ จึงทำให้เราสัมผัสความเป็นกรุงเทพฯร่วมสมัยได้ตั้งแต่ย่างเท้าก้าวแรกเข้ามาที่ล็อบบี้ของโรงแรม อย่างในส่วนของ Lobby มีความสร้างสรรค์ที่นอกจากจะมีการแต่งโดยใช้ของสุดฮิปแนววินเทจต่างๆจากวิทยุเก่า เครื่องฉายหนัง ชั้นหนังสือ ก็ยังมีการใช้เส้นสายผ่านการติดไฟตรงผนัง Lobby ที่แสดงถึงถนนและสัญญาณวิทยุ เป็นหนึ่งในการออกแบบจากแนวคิดสะท้อนอัตตาลักษณ์พื้นที่ หลังจากดื่มด่ำกับความกิ๊บเก๋ของการตกแต่งที่แสนฮิปและเข้ากัน เราก็มาเดินถ่ายรูปเล่นเก็บภาพตามจุดต่างๆที่ไม่ว่าจะหันกล้องไปมุมใด ก็ได้ภาพสวยๆทั้งนั้น ด้วยการตกแต่งที่ดูเก๋ไม่เหมือนใคร ยังคงความหรูอย่างมีระดับ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่างๆก็มีความร่วมสมัย ทั้ง โซฟา แบบต่างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ การตกแต่งด้วยรถสามล้อถีบ ทีวีที่นำมาจัดทำเป็นโมบายแบบไม่เหมือนใคร กำแพงลายเส้นที่ประดับด้วยไฟแอลอีดีเป็นเส้นวิ่งสื่อถึงความหมายของคลื่นสัญญาณวิทยุ แต่ละมุมถ่ายรูปออกมาได้สวยดูดี มีเอกลักษณ์จริงๆครับ ชั้นเก็บกุญแจที่โรงแรมในอดีตจะต้องมี ซึ่งปัจจุบันโรงแรมใช้ระบบบัตรแถบแม่เหล็กแล้ว ชั้นเก็บกุญแจนี้จึงเป็นเพียงส่วนตกแต่งและจุดถ่ายรูป ด้วย Concept ของความเป็นถนนวิทยุ ที่เป็นถนนเส้นแรกที่ตัดผ่านสถานีวิทยุแห่งแรกของประเทศไทย เป็นแรงบันดาลใจสู่การตกแต่งที่นำเอาความเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นไทยและเรื่องราวนี้ เริ่มจาก Welcome Drink ก็เป็นชาดำเย็นโดยใช้ชาตรามือมาชงเพื่อให้ได้รสชาติหวานสดชื่นหอมละมุน เมื่อเดินทางมาถึงทางขึ้นลิฟท์จะเจอกับ Radio Wall กำแพงที่ออกแบบตกแต่งด้วยบรรดาเครื่องวิทยุจากยุคสมัยต่างๆ ให้ความเรียบเก๋ไก๋และไม่เหมือนใคร ตั้งแต่ก่อนที่จะขึ้นไปยังห้องพัก ภายในลิฟท์ตกแต่งให้ดูแบบวินเทจ ด้วยหนังบุและไม้ ในลิฟท์ที่ตกแต่งสไตล์ วินเทจ เหมาะกับการถ่ายรูปเช่นกัน นอกจากจะสวยงามทางสายตาด้วยลวดลายแผ่นหนังยิงหมุดดุมแล้ว เข้ามาเรายังได้กลิ่นหนังแท้ อันเป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ โคมไฟบนเพดานในลิฟท์ก็กิ๊บเก๊วินเทจสุดไปเลย Twenty Two step bar บาร์เครื่องดื่มชั้นถัดมาจาก Lobby เพียงเดินขึ้นผ่านบันได 22 ขั้นขึ้นมาก็จะเห็นมานี้ตั้งอยู่ในมุมที่มีความเป็นส่วนตัว ตกแต่งด้วยบรรยากาศผนังเหมือนกำแพงห้องสมุดแต่งด้วยโคมไฟระย้าขนาดใหญ่สวยงามมีบาร์เครื่องดื่มบริการมากมาย และยังมีช่องเปิดเพื่อให้เห็นบรรยากาศของเราที่เป็นแบบอบอุ่นไม่รู้สึกเงียบเหงา…
ชิมฝีมือเชฟสุดหล่อดีกรี มิชลิน 3 ดาว ณ โรงแรมสุดหรูใจกลางกรุงเทพ บรรยากาศดื่มด่ำพิเศษ ที่จะทำให้คุณจดจำค่ำคืนนี้ไม่รู้ลืม วันนี้กินแหลกแจกดาวพาคุณมาที่โรงแรมเซนต์รีจิส จากต้นทุนเดิมที่หรูหราในระดับประเทศแล้วสิ่งที่เราจะกำลังได้สัมผัสคือมื้ออาหารสุดพิเศษจากเชฟมิชลินระดับ 3 ดาว Andreas Caminada เชฟฝีมือรสชาติเยี่ยมเชื้อชาติสวิส ที่วันนี้จะมารังสรรค์เมนูสุดพิเศษแถมนำบรรยากาศกลิ่นอายจากร้านของเขาที่เรียกว่าหาโอกาสรับประทานได้ยากทีเดียว สัมผัสเมนูอาหารสุดพิเศษ เกินกว่าคำว่าน่าสนใจทุกจาน แต่ต้องเรียกว่าสุดประทับใจในทุกคำ เพราะร้านอาหารของเชฟคนนี้ตั้งอยู่ในปราสาทที่เข้าถึงได้ยากและต้องจองคิวล่วงหน้าหลายเดือนทีเดียว จาก Concept ร้านที่มีความหมายถึงรังนก สื่อออกมาเป็นสัญลักษณ์ของทั้งรูปสัญลักษณ์ร้านที่ดูเหมือนรังนก ตรงกลางช่องที่เว้นไว้ดูเหมือนรูปไข่ ซึ่งทำให้บรรยากาศของดินเนอร์มื้อนี้ที่ปกติเราจะนึกว่าเป็น Fine dining ที่จะจัดจานอาหารมาเป็นจานส่วนตัว ต่างคนต่างลิ้มรส เป็นการจัดอาหารแบบ Sharing เหมือนการที่นกทำรังอยู่ด้วยกัน แต่ต่างออกไปหาอาหารแล้วนำมาทานร่วมกันที่รังนั่นเอง และที่สำคัญเมนูยังสอดแทรกเมนูไข่ไว้ได้อย่างน่าสนใจในทุกๆช่วงของเมนูทีเดียว ว่าแล้วเรามาเริ่มมื้ออาหารที่น่าสนใจและสุดอลังการนี้ด้วยกันเถอะครับ Small Appertizer Egg Surprise-chilli -crab สมกับเป็นชื่อไข่แห่งความน่าประหลาดใจ ภายในเปลือกไข่ที่เสิร์ฟบนเม็ดเกลือสมุทร ภายในบรรจุไว้ด้วยซุปที่เหมือนซุปกลิ่นน้ำปู มีเนื้อปูและน้ำซุปที่ภายใต้จะมีเนื้อของไข่ตุ๋น วางตัวอยู่ด้านใต้น้ำซุปและเนื้อปูรสชาติออกเค็มมันหอมเนื้อปูขึ้นมาในทันทีที่สัมผัส Air Bread-shellfish แป้งกรอบห่อไส้ภายใน ที่ดูเหมือนเนื้อครีม รสชาติออกไปทางอิตาเลี่ยน ตอนปิดหน้าเล็กๆเป็นเรื่องของเห็ดหอม มะเขือเทศ หอมใหญ่ และเนื้อกุ้งสด Red Cabbage – Mustard ไล่ตั้งแต่บนคือแป้งแผ่นบางกรอบ ตัดเป็นวงกลมประดับ รองไปด้วยลูกโป่งกลมที่ตอนแรกอาจจะนึกว่าเป็นแป้งกลมปั้นก้อนแต่จริงๆแล้วเป็นเหมือนเปลือกสร้างที่ห่อน้ำซุปรสชาติเปรี้ยวหวานไว้ด้านใน ลักษณะเหมือนน้ำหมักรสหวานกะหล่ำปลีม่วง รองด้านล่างสุดด้วยลักษณะเหมือนหน้ามาการองมัสตาร์ดให้รสชาติโดยรวมที่สัมผัสได้ยาก ARTICHOKE – TOMATO-Coriandor ครีมไส้ชีส เนื้อที่สอดกลางระหว่าง อาร์ติโชก พืชตระกูลเดียวกับทานตะวัน Starter Arrigoni “Manon” Pinot Grigio Previncia Italy Hamachi – Radish – Avocadoเนื้อปลาฮามาจิที่เกิดมาเป็นชิ้นจี่ไฟให้สุกแต่ริมด้านนอกกรอบๆ ล้อมด้วยเครื่องเทศงา พริกไทยดำ วางข้างหัวไชเท้าดองที่ตั้งใจสไลด์บางแล้วห่อม้วนเป็นแท่ง เพื่อตกแต่งให้ดูมีเอกลักษณ์ แต่งตามด้วยครีมอโวคาโดที่นับเป็นทีเด็ดของจาน เสริมรสชาติออกมันของเค็มให้กับเนื้อปลาฮามาจิได้เป็นอย่างดี Langoustine – Papaya – Spices สลัดเนื้อกุ้งมังกรที่เสิร์ฟโจรสลัดที่ดูแล้วเหมือนส้มตำไทย นับเป็นบรรยากาศที่แอบขำในใจเล็กๆ นึกว่าเชฟ 3 ดาวจะเอาใจคนไทยอย่างเราซะแล้ว แล้วก็ไม่ผิดหวังครับ…
เปลี่ยนบรรยากาศ วุ่นวายสู่การผ่อนคลายยามบ่าย จิบชา ลิ้มรสชาติขนมอร่อย ในบรรยากาศห้องนั่งเล่น วิวสวนธรรมชาติที่ห้องอาหาร Metro โรงแรม Hotel indigo ถนนวิทยุ จาก Concept ของร้านที่เน้นการนำ Street Food มาเสิร์ฟในบรรยากาศที่มีระดับ และได้กลิ่นอายของความเป็นเมืองกรุงผสานกับวิวธรรมชาติ บริเวณหน้าร้าน บริเวณชั้น 2 ของโรงแรม ซึ่งปกติแล้วที่นี่จะบริการเป็น All day diningที่พร้อมต้อนรับแขกหรือลูกค้าที่เดินทางมาสัมผัสบรรยากาศตลอดทั้งวัน ด้วยการตกแต่งแบบ Casual Contemporary จึงทำให้ ผู้ที่มาพักผ่อนสามารถผ่อนคลายแบบเป็นกันเองเพลิดเพลิน ได้อย่างเต็มที่ จากไอเดียอาหารที่เข้าถึงง่าย สู่การสร้างสรรค์ผลงานเป็นชุดน้ำชายามบ่ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้ง 2 รูปแบบ Neighborhood Tea Set ทั้งแบบตะวันตกและ ตะวันออก Western Set (800.- net)เติมเต็มพื้นที่ในกระเพาะอาหารยามบ่ายแบบเบาๆ แต่อิ่มท้องได้ ด้วยเมนูแซนวิชแบบตะวันตก ซึ่งเป็นเมนูที่เลือกโดยเชฟ เป็นรูปแบบเฉพาะในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็น Salmon Tower แซลมอนโรลท็อปปิ้งด้วยไข่ปลาแซลมอน แทรก cream chesse lemon เสิร์ฟบนขนมปังอบ สอดไส้กลางด้วยไข่คน Salmon Tower ด้านในชั้น Toast อัดแน่นด้วย Scrambled eggs Minichicken Burger with BBQ sauce เบอร์เกอร์ไก่ไซส์ย่อมแต่อัดแน่นด้วยรสชาติ บาร์บีคิวไว้อย่างอร่อยเข้มข้น บราเวท Variety Cucumber แถมของหวานด้วยสโคนและสโคนลูกเกด เสิร์ฟพร้อมกับแยมสตรอเบอรี่และครีมเลมอน พร้อมของหวานแบบต่างๆที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น Mango-Passion Fruit Cheesecake ชีสค้ก มะม่วง-เสาวรส เปรี้ยวหอมหวาน เข้มข้นลงตัว Mango-Passion Fruit Cheese Cake OrangeSkin Marjolaine Cake with Almond toast chocolate and vanilla homemade orange…
เปลี่ยนบรรยากาศค่ำคืนให้โรแมนติกสวยงามหรือสังสรรค์กับเพื่อนอย่างเป็นกันเองภายใต้วิวอันงดงามของเมืองกรุงเทพฯ ตระการตา ที่ Char Restuarant and Bar @ Hotel Indigo Wireless Bangkok Char Restuarant ภัตตาคารหรูระดับโลก ในเครือโรงแรม IHG ซึ่งในแถบภูมิภาคเอเชียนั้นมีเพียงที่ฮ่องกงและไทยเท่านั้น วัตถุดิบชั้นเลิศ ที่ถูกคัดสรรมาเพื่อเสิร์ฟให้กับ บรรดานักชิมที่ต้องการลิ้มรสความแปลกใหม่ สัมผัสได้ตั้งแต่สีสันของร้านที่เบสด้วยสีน้ำเงินเข้มตัดกับโลหะสีทองมันวาว แบบอินดัสเตียล ตกแต่งออกมาได้อย่างเรียบหรู แบบยุโรป มีความเป็นส่วนตัว ประกอบกับวิวของใจกลางเมืองกรุงเทพ ผ่านกระจกที่สะท้อนแสงจากโคมไฟที่ประดับประดาไว้ได้อย่างสวยงาม เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นและโรแมนติกเหมาะสำหรับคู่รักมากเลยทีเดียว โซนมีทั้งโต๊ะนั่งที่สามารถนั่งสังสรรค์ได้แบบเป็นกลุ่ม มีโต๊ะอาหารที่จัดไว้เป็นพิเศษสำหรับหมู่คณะที่ชมวิวได้แบบกว้างๆ มีมุมกระจกที่จัดเป็นที่นั่งสำหรับบรรยากาศ ชมวิวสวนของสถานทูตสหรัฐอเมริกา และตึกระฟ้าบริเวณกลางสุขุมวิท ที่จัดมาพอดีสำหรับนั่งกันสองคนเหมาะกับสร้างบรรยากาศความเป็นส่วนตัวของคู่รัก สำหรับการเลี้ยงฉลองเป็นกลุ่มใหญ่ๆถึง 20 คนก็มีห้องที่จัดไว้เป็นโซนพิเศษที่ตกแต่งอย่างโอ่อ่าและหรูหรา เริ่มกันด้วยขนมปังอบเองและเนยทำเอง Appetizer เนื้อปลาไหลที่จี่ ไฟให้พอสุกเสิร์ฟพร้อมกับหัวไชเท้าดองที่แกะสลักเป็นรูปดอกไม้สวยงาม รสชาติออกเค็ม เปรี้ยว และมิโสะ เป็นอาหารคำเล็กที่ไว้กระตุ้นความอยากอาหารได้ดีสำหรับการเริ่มต้นเซตอาหาร Pistachio Soup Espuma ครีมถั่วพิสตาชิโอ ที่ทำออกมาเป็นรสชาติของมัน รสสัมผัสเกือบคล้ายฟัวกราส์ที่ข้นมันผสานกับแอปเปิ้ลเจลลี่บดละเอียดที่สอดแทรกความเปรี้ยวเล็กน้อยอยู่ด้านล่างของถ้วย แล้วโปรยด้านบนด้วยเกร็ดผงเครื่องเทศ Mexican Chicken Ball เนื้อไก่บดปรุงรสแบบเม็กซิกันที่ปรุงจนสุกดีแล้วนำมาปั้นเป็นก้อน ห่อด้วยแป้งบางๆที่ปรุงรสออกเป็นแบบเม็กซิกัน ด้านบนท๊อปด้วยถั่วและไชเท้าและเติมซอสรสชาติออกบริการด้านบน เชฟสุดเท่ห์ของเราแนะนำให้ใช้นิ้วมือหยิบขึ้นรับประทานเลยจะได้รูปแบบการทานที่สนุกไปอีกแบบ Brandard Brandard ด้านล่าง ทำจากเนื้อปลาคอตบด ผสมกับเนื้อครีม ได้รสสัมผัสออกกลิ่นอายแบบทะเล แล้วเติมชั้นบนด้วยมันฝรั่งบดผสมกับ Thyme และ Lemon ได้กลิ่นออกเครื่องเทศนิดๆ ท๊อปด้านบนด้วย Alseta Caviar ไข่ปลาคาเวียร์เกรดพรีเมี่ยมที่ให้รสชาติเค็มละมุน พอเหมาะ เข้ากับเนื้อครีมทั้งสองชั้นอย่างลงตัว Salmon Grilled with smell mashed potato ปลาแซลมอน เกรดพรีเมี่ยม ชิ้นกลางพอประมาณ นำไปย่าง ให้สุกกำลังดี แบบยังคงความนุ่มของเนื้อปลา สัมผัสกับกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ผสานกับ Bone Marrow ซอสจากเนื้อไขมันกระดูกสันหลังของวัว ส่วนของหนังมีความกรอบหอม และ มัน เข้ากับมันบดที่ลงมาแบบหอมอ่อนๆเสิร์ฟอยู่ด้านล่างของเนื้อปลาและด้านบน โรยตกแต่งด้วยใบ…
เติมเต็มความรักใต้บรรยากาศอันแสนโรแมนติก สัมผัสรสชาติอาหารอิตาเลี่ยนเมนูใหม่ โดย Chef Philips สุดหล่อที่สาวๆเห็นต่างกรี๊ดกร๊าด ที่ Volti Ristrorante & Bar @ Shangri la Hotel Bangkok เปลี่ยนค่ำคืนอันแสนน่าเบื่อ สู่บรรยากาศสุดโรแมนติกเพื่อคนพิเศษและคุณ ด้วยเมนูใหม่ที่สวยงามเหนือจินตนาการ และล้ำเลิศด้วยรสชาติแสนอร่อย รังสรรค์โดย Chef Philips ผู้เปี่ยมประสบการณ์ ที่ Volti Ristrorante & Bar ภัตตาคารอาหารอิตาเลี่ยนรสเลิศ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามและน่าเพลิดเพลิน ณ โรงแรม แชงกรีล่า กรุงเทพฯ หากพูดถึงความหรูหราและการบริการอันยอดเยี่ยมในประเทศไทย ทุกคนคงมีชื่อหนึ่งของโรงแรมแชงกรีล่า อยู่ในใจอย่างแน่นอนและในวันนี้กินแหลกแจกดาวจะพาทุกท่านมาลิ้มลองอาหารอิตาเลี่ยน เมนูใหม่ ที่ Volti Ristrorante & Bar โดยเมื่อถึง Lobby ของโรงแรมฝั่ง Shangri-La Wing แล้วเราจะเห็นทางเข้าร้าน Volti จะอยู่ใกล้ๆเลย เรียกว่าหาได้ไม่ยากครับ ซึ่งภายในร้านจะออกแบบให้ดูทันสมัยและคงความหรูหราในระดับ 6 ดาวไว้ได้อย่างลงตัว และการเตรียมการที่พิถีพิถัน คอร์สวันนี้จะถูกเสิร์ฟ แบบจับคู่กับไวน์ที่คัดสรรเฉพาะ เพื่อเข้ากับแต่ละจาน โดย Chef Philips เราลองไปชมกันเลยครับ Apertizer shot and bite ชอตเปิดรสสัมผัส เพิ่มเรียกน้ำย่อยและความอยากอาหาร มีแตงกวาผลไม้ซอยเล็กๆ กลิ่มหอมสดชื่น หวานแบบธรรมชาติ แป้งบางอบ หอม ด้วยเห็ดทรัฟเฟิลและอิตาเลี่ยนซอส รสออกเค็มมัน เรียกว่า เป็นการเปิดประสาทสัมผัส การต้อนรับเข้าสู่กรุงโรมเลยทีเดียว Esspresso Poached Caramlized Foie Gras – ฟัวกราส์ย่างคาราเมลและเมล็ดกาแฟให้สุกแบบพอดี ได้เนื้อที่ละเอียดนุ่ม แบบพอเหมาะ หอมหวานๆ ขมนิดๆ ไม่แข็งไม่เละ ตัดเลี่ยนด้วย ผักขม, ราสเบอร์รี่สด, บีทรูทดอง, แอพริคอท, พิสตาชิโอบด Insalata Di…