ทำไมเราถึงต้องไปทานอาหารไทยในโรงแรม แล้วมันจะคุ้มหรอ? ต่างจากอาหารไทยทั่วๆไปอย่างไร? ในคอลัมน์นี้เรามีคำตอบค่ะ คำถามที่ดิฉันสงสัย ก่อนที่จะได้ไปทดลองทานเมนูใหม่ของทางห้องอาหารศิลาดล โรงแรมสุโขทัย แต่หลังจากที่ดิฉันได้ลองชิมเมนูใหม่ ทั้งหมด 9 เมนูแล้วนั้น ต้องบอกว่ามันคุ้มมากค่ะที่จะมาทาน แม้ว่าเราจะเป็นคนไทยที่หาซื้ออาหารไทย หรือไปทานตามห้างได้สบายๆ แต่มันไม่ใช่แค่รสชาติอาหารเท่านั้นที่ถูกปาก แต่การสร้างสรรค์นำวัตถุดิบท้องถิ่นมาปรุงให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัว บวกกับ การนำเสนอที่ละเอียดอ่อน ทำให้อาหารแต่ละจานที่ออกมานั้น มีค่ามากขึ้นทวีคูณ ทุกท่านอาจจะคิดว่าดิฉันอวยเยอะไปรึเปล่า…งั้นเราจะพาไปชมกันค่ะว่า เมนูที่ดิฉันได้ลองชิมนั้น มันพิเศษอย่างไร เมนูแรก ปลาแห้งแตงโม เมนูนี้ เค้านำปลาน้ำดอกไม้ ของดีจังหวัดสมุทรสงคราม นำมาห่อสมุนไพรย่าง โรยด้วยหอมเจียวจากจังหวัดเชียงราย เสิร์ฟมาในแตงโมไร้เมล็ด จากฟาร์มออแกนิก ครอบมาในถ้วยแก้ว ที่ทำให้มีการรมควันของควันเทียนและดอกไม้ไทย เช่น ดอกพยอม กระดังงา แค่การนำเสนอก็น่าสนใจไม่น้อยแล้ว พอเราเปิดถ้วยแก้วออกมา ควันที่รมไว้ภายในจะหอมฟุ้งขึ้นมาเตะจมูก ที่ไม่ใช่แค่ความสวยในการนำเสนอ ปลาแห้งแตงโม : เนื้อแตงโมมีความพิเศษ คือจะกรอบๆ หวานฉ่ำ เข้ากันได้ดีกับเนื้อปลาแห้งและหอมเจียวที่โรยมา จนกระทั่งทานหมดแล้ว กลิ่นควันเทียนและดอกไม้ที่อยู่ในถ้วยแก้ว ยังคงหอมอบอวล ไม่น่าเชื่อว่าวิธีการนำเสนออาหารแบบรมควันมา จะทำให้เมนูนี้อร่อยขึ้นอย่างแตกต่างจากร้านอื่น ไม่เชื่อท่านผู้อ่าน ลองไปตามร้านที่มีเมนูนี้ ปกติจะเสิร์ฟมาบนจานตกแต่งสวยงามธรรมดา ไม่ได้มีการอบรมควันอย่างที่นี่นะคะ เพราะฉะนั้นคุณผู้อ่านจะได้รับรสความอร่อย จากการทานอย่างเดียว ไม่ได้จากกลิ่นค่ะ เมนูเรียกน้ำย่อยต่อมาคือ ข้าวเกรียบปากหม้อโบราณ เนื้อปูม้าเป็นก้อนๆ จาก คลองวาน จังหวัดประจวบฯ คลุกมากับ เห็ดชิเมจิ และออรินจิ หั่นเต๋าเล็กๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสรสเปรี้ยวเค็ม ที่หมักมาจากน้ำตาลมะพร้าว ของจังหวัดสมุทรสงคราม นานถึง 6 เดือน จนได้เป็นน้ำส้มสายชู จานนี้จะมีรสเผ็ดเล็กๆ จากพริกสดที่หั่นบางๆ มาช่วยดึงความจัดจ้าน เห็ดที่หั่นเต๋า ทำให้มีลูกเล่นมากขึ้นเวลาที่เราทานคู่กับ ปูก้อน และตัวแป้ง กินๆไปจะเห็นเลยค่ะว่าเนื้อปูเป็นก้อนๆใหญ่และแน่นมาก จานต่อมา แสร้งว่าหอยเชลล์ญี่ปุ่นใบชะคราม หอยเชลล์จากฮอกไกโด ที่ผ่านการซูวี (sous vide) ที่อุณหภูมิ 55 องศา นาน 30 นาที ส่งผลให้ด้านในเนื้อหอยเชลล์ยังมีความหนึบ และยังคงความหวานฉ่ำไว้ได้อย่างดี เสิร์ฟมาบน ใบชะครามน้ำกร่อย…
Author: Nopmanee
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ ต้นเดือนทั้งทีเรา Kinlakestars.com มีงานดีๆมาฝากกันเช่นเคย บางคนทำงานหนักมาทั้งเดือน เงินเดือนออกแล้ว เราไปหาอะไรอร่อยๆทานกันดีกว่าค่ะ ส่วนดิฉัน มื้อนี้เป็นการให้รางวัลตัวเองที่อดทนลดน้ำหนักมาในเดือนที่ผ่านมา วันนี้มีความพิเศษกว่าครั้งอื่นๆเพราะเราจะพาไปลองทานอาหารจากเชฟชาวอิตาเลียน บินตรงมาจากมิลาน เชฟสุดหล่อที่ได้รับมิชลินสตาร์ หนึ่งดาว Luigi Taglienti เราไม่ต้องบินไปไกลถึงมิลาน เราก็ได้ทานอาหารจากเชฟได้ เพราะฉะนั้น ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง วันนี้เชฟจะทำหลายเมนู จากหลายๆคอร์ส เพื่อให้มารีวิวให้ทุกท่านค่ะ เริ่มที่จานเรียกน้ำย่อย เป็นกุ้งตัวใหญ่ ที่ใช้การ ย่าง บนสมุนไพร กลิ่นหอมไหม้ของสมุนไพร ที่ขึ้นมาบนตัวกุ้ง ทำให้เวลาทานนั้น ได้ทั้งรสชาติ และอโรม่า ไปพร้อมๆกัน จานนี้เสิร์ฟพร้อม chilli oil ซอส 1st course ของจริงเริ่มตั้งแต่ scrambled oyster หอยนางรมสด ที่เชฟนำไปปรุงแล้วเสิร์ฟบน brioche หอมเนย กรอบๆ ด้านบน มี pork cheek เค็มๆ ช่วยเสริมรสชาติให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น 2nd course จานต่อมาเป็นเหมือนตัวแทนแห่งท้องทะเล ชื่อ Squid black and white วัตถุดิบนั้น ประกอบไปด้วย เม่นทะเล ที่ปกติเราชอบทานกันในอาหารญี่ปุ่น แต่จานนี้มีความพิเศษคือ เชฟนำมาทำเป็นฐาน ของวัตถุดิบหลัก นั่นก็คือ ปลาหมึก ที่เชฟนำไปปั่นกับเจลาติน ทำให้ออกมาเป็นแผ่นคล้ายเยลลี่ ตกแต่งด้วย หมึกดำ และเส้นสปาเก็ตตี้ทอดกรอบ ช่วยเพิ่มความแตกต่างของรสสัมผัส ให้มีทั้งนุ่มและกรอบ รสชาติจานนี้จะเบาๆ เน้นความสดหวานของปลาหมึกที่นำมาปรุง ตัดกับฐานที่มาจากเม่นทะเลรสเค็มกลมกล่อม เป็นการผสมผสานที่ลงตัวทีเดียว ยิ่งทานคู่กับไวน์อิตาเลียนที่เสิร์ฟมาวันนี้นั้นยิ่งเจริญอาหาร 3rd course เป็น ริซอตโตแบบพิเศษ ขอสารภาพว่าไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน เพราะเป็นการปรุงริซอตโตพร้อมกับน้ำขมิ้น ทำให้ข้าวมีสีเหลืองเสริมความเป็นเอกลักษณ์ของเชฟท่านนี้ซึ่งมีความโดดเด่นในการใช้เลมอนมาประกอบการปรุง โดยเชฟนำเลมอนผสมครีม และพาร์เมซานชีส ตบท้ายด้านบนด้วยสมุนไพรหอมๆอย่าง แซฟฟรอนและอื่นๆ เพิ่มความหอม ดาเมจทำลายล้างจานนี้รุนแรงมากค่ะ ขอบอก รสชาตินั้นเราอาจจะไม่คุ้นเพราะปกติ ริซอตโตจะเน้นหนักชีส ครีม ทรัฟเฟิล…
ในครั้งนี้ Kinlakestars.com จะพาไปแอบดูการทำอาหารของเชฟก่อนวันจริง ที่ร้าน R.HAAN ทองหล่อซอย 9 อันเป็นถิ่นของเชฟชุมพล แจ้งไพร ที่หลายคนรู้จักกันดีกันค่ะ มื้อนี้เปิดตัวกันด้วย cold appetizer จานนี้ จากเชฟเฮนดริก อูล แอนเดอร์เซน แห่งร้าน Kiin Kiinโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารพื้นเมืองของเปรู “ยำปลาแฮลิบัต” ลักษณะเด่นของจานนี้คือการปรุงน้ำยำของเชฟ ที่มีทั้งความหวาน เปรี้ยว เค็ม อยู่ในตัว จานนี้แนะนำให้ใส่สายไหม(ใช่ค่ะ ตัวสายไหมฟูฟ่องนั่นล่ะค่ะ) ตัวสายไหมจะค่อยๆละลายเพิ่มความหวานลงตัว และเนื้อปลาฮาลิบัดชิ้นสีขาวที่ถูกซุกซ่อนอยู่ด้านล่างก็จะปรากฏออกมาด้วย เสิร์ฟมาในผลเสาวรสที่มากมายไปด้วยคุณประโยชน์และรสเฉพาะตัวมาผ่าครึ่งควักเนื้อออก และแล้วก็ถึงตาเจ้าถิ่น เชฟชุมพล แจ้งไพร ผู้นำพาร้าน R.HAAN คว้ารางวัลมิชลินสตาร์ ระดับ 1 ดาว ประจำปี 2562 หรือร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การ แวะชิม เป็น 1 ใน 10 ร้านใหม่ที่เพิ่งจะได้รับดาวมิชลินครั้งแรกในปีนี้ โดยเชฟได้เริ่มจากการนำภูเก็ตล็อบสเตอร์ของดีของเด็ดจากเมืองภูเก็ต มาเป็นพระเอกของจานนี้ “ต้มยำภูเก็ตล็อบสเตอร์น้ำใส” นำส่วนเนื้อ และส่วนที่เด็ดที่สุด คือมันจากหัวมาใส่ในต้มยำ น้ำซุปใสที่ว่านี้จะใช้ไก่แก่ต้มนานถึง 3 ชั่วโมง เผาหัวล็อบสเตอร์ไว้ประดับจาน ตัวส่วนผสมอื่นๆก็จะใส่ไซฟร่อนนิด ผักชีหน่อย ให้ตะไคร้ออกรสมากกว่าหอมแดง ตำในครกให้ได้รสชาติมากขึ้น ตักน้ำปลาอีกตัก ใส่ไซฟร่อน เสิร์ฟด้วยชุดจานเชิงลายเทพพนมแบบไทยโบราณตกแต่งด้วยหัวล็อบสเตอร์เผาจนสุก และผักพริกต่างๆ ที่ให้ภาพโดยรวมดูแล้วนี่แหละ ต้มยำกุ้งของไทย โดยต้มยำจานนี้นั้น มีรสเค็มนำ เปรี้ยวตาม หวาน ขมเล็กน้อยซ่อนอยู่จากรสของมะนาว และความเผ็ดขึ้นมาตบท้ายค่ะ และเชฟคนที่ 3 เชฟเบิ้ม หัวหน้าพ่อครัวห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการได้รับดาวมิชลิน ที่คราวนี้ได้หยิบยกขาปูอลาสก้าของโปรดของใครหลายคนมาเป็นพระเอกของจานนี้กันค่ะ ก่อนอื่นเชฟนำขาปูอลาสก้าไปจี่กับเนยในกระทะ (pan roasted) จนได้ที่ และจี่เนยกับถั่วลันเตา นำน้ำแกงเหลืองที่ใช้เครื่องหลักเป็นกระชายกับขมิ้น โดยคราวนี้เชฟได้เตรียมไว้แล้ว นำไปตีให้เกิดฟอง ทำให้น้ำแกงนี้มีรสชาติที่นุ่มนวลมากขึ้นด้วย จานนี้น้ำแกงเหลืองคือดี รสนุ่มละมุนลง เผ็ดร้อนอยู่ลึกๆ สีเหลืองนวล ทำให้มาทานกับเนื้อปูอลาสก้าที่ชุ่มไปด้วยรสเนย…
หากคุณเป็นคนนึงที่รักขนมหวานตัวจริงเสียงจริงแล้ว เคยมาลองทานบุฟเฟต์ช็อกโกแลตที่นี่ดูแล้ว เราชาว Kinlakestars จะขอบอกให้มาใหม่ค่ะ เพราะตอนนี้เค้าได้เปลี่ยนไลน์บุฟเฟต์ใหม่ ไอเท่มใหม่ไฉไลกว่าเดิมเยอะแยะเลย จะเป็นยังไง เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ เดินผ่านโถงล็อบบี้ที่มีแม่นางคนสวยกำลังนั่งบรรเลงขิมให้ฟัง อยู่ตลอดเวลาที่เราจะรับประทานมื้อนี้กัน เดินมาเข้าสู่ส่วน Lobby Salons อันเป็นจุดมุ่งหมายของเราในวันนี้ มีการแบ่งโซนที่นั่งเป็น 2 ฝั่ง คั่นด้วยโถงทางเดินตรงกลาง จะมีวิวสวนและสระเจดีย์อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของโรงแรมนี้ให้ดูกัน ก่อนที่เราจะไปเริ่มของหวานกัน เราดูฝั่งนี้กันก่อนนะคะ เพราะที่นี่บอกว่าเป็นบุฟเฟต์ช็อกโกแลตแล้ว ไม่ได้มีเพียงแต่ช็อกโกแลตและขนมหวานให้ลิ้มลองเท่านั้น ยังมีของว่างอื่นๆที่น่ารักน่าทานให้ลิ้มลองกันด้วย ขอบอกก่อนว่าที่นี่เริ่ดมากค่ะ ลองนึกว่าคุณเป็นอลิซอินวันเดอร์แลนด์เวอร์ชั่นท่องโลกขนมคาวหวานดูสิคะ และที่จะไม่เอ่ยถึงคงไม่ได้เลย ก็คงเป็นซูชินี่แหละค่ะ ที่คุณภาพคับแก้ว แบบว่าร้านอาหารญี่ปุ่นบางร้านยังต้องชิดซ้ายหลบขวาให้ที่นี่เลย ซูชิชิ้นพอดีคำหน้าปลาแซลม่อนที่ใครๆก็ชอบ จานนี้จะหมดเร็วเป็นพิเศษค่ะ รอเติมใหม่อีกทีก็กลายเป็นชิ้นนี้ที่แอบโรยเกร็ดแป้งกรอบแบบพวกเทมปุระมาด้วย ก็ได้อร่อยอีกอารมณ์ดีค่ะ ของว่างอารมณ์ฝรั่งก็มา ตัวนั้นเป็นแบบแป้งเอแคล์ มีไส้ตรงกลางเป็นเนื้อปูเยอะแยะสมใจ กับมายองเนสและผักชิ้นเล็กๆ Duck rillettes, figs, brioche toast BBQ Chicken wings Bake cheesy อารมณ์ไทยก็มี มังคุดทรงเครื่อง หรือยำมังคุดนั่นเอง NEW! คนชอบทานไข่ปลาต้องมามุมนี้ค่ะ มุมใหม่ที่เพิ่งเพิ่มมาสดๆร้อนๆเลย ที่ดีอีกอย่างคือเค้าจะทำแผ่นแพนเค้กให้สดๆร้อนๆเลย ไม่ได้วางชืดๆไว้ แล้วก็ตักโน่นนี่นั่นเพิ่มได้ตามอำเภอใจอีกด้วย อย่าเพิ่งรับของว่างอิ่มนะคะ เรามาดูทางฝั่งของหวานกันค่ะ ที่คุณจะละลานตาไปกับเหล่าขนมช็อกโกแลต Sticky toffee pudding fudge sauce ที่ขอบอกว่ามาที่นี่เห็นที่ห้องไหน ก็ห้ามพลาดเด็ดขาด ของเค้าอร่อยจริงค่ะ ด้วยตัวเนื้อพุดดิ้งเนื้อนิ่ม ซอสทอฟฟี่หวานๆ และแนะนำให้ทานกับไอศกรีมค่ะ Apple chocolate sconesสโคนเนื้อแน่นแห้ง ผ่ากลางเนื้อไม่แตก ความเข้มข้นของช็อกโกแลตจากชิ้นนี้นั้นระดับอ่อนๆค่ะ ไอศกรีมและซอร์เบทที่มีให้เลือกถึง 4 รส โดยไอศกรีมรสที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ช็อกโกแลต x วาซาบิ ใช่ค่ะ ท่านผู้อ่านอ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ไอศกรีมที่นี่เค้าผสมวาซาบิจริงๆ ในแบบที่น่าชื่นชมด้วย เพราะทั้งรสช็อกโกแลตกับวาซาบินั้นมารวมกันด้วยความพอดี รสนุ่มนวลกันทั้ง 2 ฝ่าย ขมหอมช็อกโกแลตและออกเผ็ดซ่าขึ้นมาเล็กน้อยตามแบบฉบับของวาซาบิ NEW! Churros สูตรเด็ดของเชฟ ที่ทุกคนล้วนชมเป็นเสียงเดียวกันว่า อร่อยมากๆ ผิวกรอบๆ ทานกับช็อกโกแลตจากถ้วยข้างๆ…
February 21-24, 2019 วันนี้นะครับ เราจะพาไปชิมเมนูสุด exclusive ที่ Jojo ร้านอาหารอิตาเลียนสุดหรูประจำโรงแรม The St. Regis bangkok ที่รังสรรค์เป็นพิเศษโดยเชฟสุดหล่อที่ได้รับรางวัล 1 Michelin – Starred ซึ่งโดยปกติเชฟ Nicola จะประจำอยู่ที่ Tosca restaurant Hong Kong แต่ในโอกาสที่หายากนี้ เชฟจะมา present tasting menu และแบบ a la carte ของ Italian fine dining ตำหรับ Tuscan โดยเมนูจะมีทั้งแบบที่เป็น 4-Course Lunch Menu และ 6-Course Dinner Menu ทั้งนี้ สำรับที่เราได้ลิ้มลองในวันนี้จะเป็นแบบ 6-Course Dinner Menu พร้อมกับ Wine Paring ครับ เอาล่ะครับ เราไปดูกันดีกว่าครับว่า Italian fine dining ทั้ง 6 เมนูนั้นจะมีหน้าตาและรสชาติเป็นยังไงบ้าง Light Bites pair with Pitars, Prosecco Brut D.O.C. Veneto NV, Italy สำหรับจานแรกนะครับ เริ่มด้วยมะเขือเทศกินคู่กับ pesto sauce และ mozzarella cheese เมนูเบาๆ พร้อมกับจิบ Pitars ไปด้วย Sea Cappuccino Sea urchin, prawn tartare and seawater ทานกรุบกริบคู่กับ ขนมปังกรอบและ cavier ถัดจาก light…
โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา นำโดยบรูโน รอทเชเดิล ผู้จัดการทั่วไปร่วมมือกับ Festival du Féminin นำโดยซิลวี บาราเดล จัดงานแถลงข่าวเชิญชวนทุกท่านมาร่วมงาน Festival du Féminin® ครั้งที่ 4 ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมานี้ เพื่อกล่าวถึงรายละเอียดและไฮไลท์ของงานในปีนี้ซึ่งจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 15 และวันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2019 ซึ่งเป็นงานที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติสำหรับผู้หญิงจากทุกวัฒนธรรม เพื่อให้เข้ามาสัมผัสและได้รับการกระตุ้นเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจร่วมกันกับกลุ่มผู้หญิงด้วยกันเท่านั้นในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและใกล้ชิด Festival du Féminin คือกิจกรรมเวิร์คชอปจากผู้หญิงถึงผู้หญิง ที่เปรียบเสมือนการเดินทางเพื่อการค้นพบตัวเองที่จะช่วยให้เรารู้สึกเข้าถึงและเชื่อมโยงเข้าได้ดีกับส่วนที่อยู่ลึกๆ ของตัวเราเอง เพื่อช่วยให้เราไม่ต้องตกอยู่เพียงแค่ภายใต้ความคาดหวังของสังคม เป็นกิจกรรมที่สร้างพลังให้แก่กัน เมื่อผู้หญิงได้เชื่อมโยงเข้ากับส่วนลึกของตัวเองและกับเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในกรุงปารีส และถูกพัฒนาขึ้นในกว่า 10 ประเทศ ทั้งใน แคนาดา อินเดีย สิงคโปร์ ไปจนถึงโคลัมเบีย โมร็อกโก ฮ่องกง สหรัฐฯ เม็กซิโก และจะมาถึงมาเลเซีย ญี่ปุ่น และอิหร่าน วิสัยทัศน์ของ Festival du Féminin คือการรวมกลุ่มผู้หญิงจำนวนมากเข้าด้วยกันและมอบโอกาสในการพบปะเพื่อแบ่งปันและเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งชีวิตอันมีค่าของพวกเขา ให้พวกเขาค้นพบพลังและมิตรภาพที่เชื่อมต่อกัน เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงแสงสว่างภายในตัวเอง และรักษาปมในจิตใจของกันและกัน การสำรวจแง่มุมที่หลากหลายของความเป็นอิสตรี —————————————————————————- ผ่านเวิร์คช็อปที่เน้นกิจกรรมโต้ตอบกัน เตรียมตัวให้พร้อมกับงานเวิร์คชอปในสองวันนี้ ที่จะได้เรียนรู้ถึงร่างกายและจิตใจ และการเติบโตของเราเอง ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งที่เป็นแพทย์ผดุงครรภ์ ผู้ใช้ศาสตร์พลังงานในการรักษาโรค ศิลปิน นักจิตวิทยา นักวิทยาศาสตร์ โค้ช นักบำบัด นักบริหารธุรกิจ นักเขียน และอื่น ๆ โดยในปีนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญที่มาไทยถึง 6 ท่าน อาทิ คุณ Angeli Jagota ผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ทางด้านโยคะ และเป็นผู้เขียนหนังสือระดับ best selling ที่มีชื่อว่า The Intimacy Protocol เวิร์คชอปของเธอมีชื่อว่า Celebrate Womandhood เธอมีความเชื่อว่าเมื่อผู้หญิงมาอยู่รวมกัน…
Feliz dia de San Valentin! (Happy Valentine’s Day) ใกล้เข้ามาแล้วนะครับสำหรับเทศกาลแห่งความรัก สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะพาคนที่เรารักไปทานอาหารที่ไหน ทางเราขอนำเสนอร้าน TAPAS VINO อาหารสเปน ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 โรงแรม Pullman Bangkok Grande Sukhumvit เมื่อพูดถึงประเทศสเปน สิ่งที่ผู้คนนึกถึงคือความอลังการของมหาวิหาร Sagrada Familia เนินเขา Monjuic เที่ยวถนนคนเดิน La Ramblas นักสู้วัวกระทิง วัฒนธรรมอาหารและการกินดื่มของคนสเปน ซึ่งเราคิดว่าในกรุงเทพมีร้านอาหารสเปนที่สามารถปรุงอาหารได้อย่างต้นตำหรับ และสามารถปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยนั้นมีเพียงน้อยร้าน OLYMPUS DIGITAL CAMERA ดังนั้นในวันนี้เรา Kinlakestars จะมานำเสนอร้านที่เราได้ลองคัดสรรมาแล้วว่าน่าจะต้องถูกปากคู่รักนักชิมทั้งหลายแน่ๆครับ โดยเมนูที่เราได้ชิมในวันนี้เป็น set พิเศษ เป็นเมนูสำหรับคู่รักในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วัน Valentine นี้ โดยใช้ชื่อ set ว่า Tapas Vino’s Valentine’s Day dinner (THB 3,900+++ per couple) พร้อมกับแจก bubbles 2 แก้ว และดอกกุหลาบ 1 ดอก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนความรักในวันพิเศษนี้ เราไปดูกันดีกว่าว่ามีเนูเด็ดอะไรบ้างที่จะเสิร์ฟในเมนู set พิเศษ Celebrate Love นี้ To Start – Assorted Cold Cut and Cheese มาเริ่มกันที่เหล่า cold cut ไว้ทานแกล้มกับ sparkling และไว้ทานเรียกน้ำย่อย โดยในจานนี้ก็มีกับแกล้มมาตรฐาน เช่น ชีส pickles parma ham และ salami ถือเป็นการกระตุ้นความอยากอาหารที่ดีครับ To…
ในครั้งนี้ Kinlakestars ขอนำเสนอสุดยอดแห่งประสบการณ์แห่งกาลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบ Omakase มิใช่เพียงวัตถุดิบที่ดีที่สุดและการปรุงอย่างปราณีต แต่ยังรวมถึงการเรียงลำดับรายการอาหารอย่างลงตัว ทำให้ไม่ซำ้ซากน่าเบื่อ เหมือนการกิน Omakase ทั่วไปที่พอของเรียกน้ำย่อยหมดก็จะเป็นซูชิรัวๆแล้วมีของหวานปิด ที่พิเศษสุดที่ทำให้ที่นี่ไม่เหมือนใคร คือการจับคู่สาเกขั้นเทพโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสาเกโดยตรง จนแม้แต่คนที่ไม่ดื่มสาเกก็ยังต้องติดใจเพราะช่วยเสริมทั้งรสและกลิ่นอาหารได้อย่างดีเยี่ยม Sushi Zo ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ จากต้นตำรับที่นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีชื่อเสียงจนได้รับรางวัล 2 Michelin’s stars ตอนนี้ได้มีสาขาในประเทศไทยแล้ว ที่พลาซ่า แอทธินี ทาวเวอร์ ถนนวิทยุ โดยร้านจะอยู่บริเวณ ชั้น G สามารถสอบถามพนักงานในอาคารได้เลยครับ เมื่อเข้าร้านมาจะพบกับเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งที่นี่จะมีโต๊ะสำหรับเตรียมอาหารสามที่สำหรับเชฟสามท่าน โดยปกติจะรับต่อรอบประมาณ 12 ที่ แต่หากมาเป็นกลุ่มหลายคนสามารถแจ้งทางร้านได้เพื่อที่ร้านจะพิจารณาสำหรับ การจัดสรรที่นั่งเพิ่มเติม โดยหากเป็นกรุ๊ปใหญ่หรือมาเพื่อเลี้ยงฉลองอาจจะได้เป็น private round สามารถติดต่อกับฝ่าย booking ดูได้ครับ รอบแรกจะเปิดหกโมง ถึงทุ่มครึ่ง ก่อนรอบต่อไปสองทุ่ม โดยคอร์สของที่นี่ เริ่มต้นด้วยจำนวน 18 คำ สนนราคาเริ่มต้นที่ 7,000 บาท++ซึ่งสามารถสั่งสาเกหรือไวน์ทานควบคู่ไปด้วยได้ และหากวันนั้นมีผู้เชี่ยวชาญประจำอยู่สามารถ Sake Pairing ได้ด้วยเช่นกันครับ ตัวอย่างเมนูสาเกครับ วันนี้ได้เชฟ โทชิ โอนิชิ เชฟมือขวาของปรมจารย์ซูชิเชฟ เซกิ เป็นผู้ทำหน้าที่ในการจัดเตรียมความสมบูรณ์แบบในมื้อนี้ครับ เชฟ โทชิ โอนิชิ เมื่อถึงเวลาเชฟก็เริ่มบรรจงทำอาหารให้สดๆด้านหน้าเลยครับ เริ่มต้นด้วย Appetizer กันก่อนด้วย Abalone (Awabi) Abalone (Awabi) เป็นหอยเป๋าฮื้อจากฮอกไกโดซึ่งมีความสดใหม่ เคี้ยวหนึบเด้ง ลิ้นตัวซอสตับเป๋าฮื้อที่เสิร์ฟมาคู่กันมีความ creamy มันหอม ด้านใต้มี เส้นบะหมี่อยู่เล็กน้อยให้ทานเคี้ยวคู่กัน เป็นเมนูเปิดที่อร่อย ส่งผลให้ใจจดใจจ่อรอเมนูถัดไปมากทีเดียว เนื่องจากวันนี้ทางเราได้รับการ Sake Paring จากผู้เชี่ยวชาญ จึงได้มีโอกาสมาแนะนำสาเกที่ช่วยเสริมรสอาหารให้ด้วยครับ เริ่มจากตัวแรกที่จเสิร์ฟพร้อมกับ Appetizer MASUMI SANKA – Junmai Daiginjo 16% MASUMI SANKA – Junmai…
The journey of princess and friends ร้านอาหารอิตาเลี่ยนสุดชิค แหวกแนวที่รวมแนวคิดและไลฟ์สไตล์ของดีไซเนอร์ของแบรนด์มารังสรรค์ออกมาเป็นเมนูเด็ด เราจะพาไปดูบรรยากาศและการตกแต่งร้านกันก่อนดีกว่า สำหรับร้านนี้ เรียกได้ว่าจะมาฉลองกับเพื่อนฝูง ที่ทำงาน จะมาเดทหรือแม้แต่จะมาช็อปปิ้งเลือกซื้อเสื้อผ้า ก็มาได้หมดเลยครับ มีแม้แต่สระว่ายน้ำกับแพยางครับ มีทั้งส่วนในอาคาร นอกอาคาร ส่วนที่ให้น้องหมาน้องแมวมาได้ด้วย เรียกได้ว่าหลากหลายวาไรตี้สุดๆไปเลยครับ อ่อใช่ เกือบลืม ยังมีทั้งมุมนวด มุมทำเล็บอีกด้วยนะคุณ และถ้าใครที่ชื่นชอบการปรุงอาหาร การทำครัว อยากจะอินไซด์ใกล้เชฟ ทางร้านก็ยังมีมุมกินหน้าครัว ครัวสวยครับไม่ต้องกลัวว่าจะไม่งามตา ยังคงความชิคๆ เคยมั้ยครับ จะไปทานอาหารร้านเด็ด แต่ไม่มีเพื่อนหรือคู่ไปด้วย จะสั่งหลายอย่างก็ทานไม่หมด portion เยอะเกินไปอีก ทางร้านได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้จึงได้คิดค้นวิธีแก้ปัญหาตรงนี้ โดยการสร้างเมนูที่มี portion สำหรับคนคนเดียวทานได้หมด สั่งได้หลายอย่าง ไม่พลาดจานโปรดทุกจาน แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่า ลด portion ลง แต่คุณภาพของวัตถุดิบยังมีคุณภาพเหมือนเดิม เอาล่ะะะะะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เดี๋ยวเราจะพาไปดูเมนูในวันนี้กันเลยดีดว่าครับ อาหารเลิศรสสุดแสนสนุกสนาน เริ่มด้วย starter ซึ่งเป็น complitary ของทางร้าน ซึ่งสำหรับขนมปังชุดนี้ จะประกอบไปด้วยขนมปังสาม-สี่ ชนิด ซึ่งอันที่เราชอบที่สุดคือ baked baguette ทานในขณะที่ยังร้อนๆ ชีส ยืดๆ it’s a pure heaven! จานถัดไปที่ได้ชิมคือ parma ham ห่อ melon parma ham บางๆ ห่อ melon ชิ้นพอดีคำ พอกัดเข้าไปแล้วรสชาติเค็มกำลังดีของตัวแฮมเข้ากับความหวานของผลไม้ที่มันห่ออยู่จนไม่น่าเชื่อว่าจะนำแฮมมาทานกับผลไม่ได้ จานนี้ต้องสั่งจริงๆครับ จานถัดไปจะเป็นเมนูซุป นั่นก็คือจาน classic ของอาหาร Italian ซึ่งทางร้านทำ Mushroom Soup ออกมาได้เหนือความคาดหมายมากๆ กลิ่นหอมของเห็ดที่โดดเด่นมาเตะจมูก พอได้ชิมเข้าไป รับรองว่าซดหมดจนหยดสุดท้ายแน่ๆครับ เพื่อสุขภาพที่ดี เราต้องทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ในมื้อนี้คงจะขาดผักและผลไม้ไปไม่ได้ ซึ่งสลัดจานนี้ครบเครื่องทั้งผักและผลไม้ ทั้งยังมีโปรตีนจาก scallop ชิ้นโต สำรับรสชาตินั้นคงไม่ต้องบอกว่าไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆครับ…
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกคนกับเดือนสุดท้ายของปีนี้ ทุกคนคงกำลังเตรียมหาสถานที่นับถอยหลัง เข้าสู่ปีใหม่กันอย่างวุ่นวาย ไหนจะเคลียร์งาน ปลายปี รอรับโบนัส วันนี้ Kinlakestars เราพาทุกท่านมาลิ้มลองอาหาร 3 คอร์ส พร้อมไวน์ที่โรงแรม คอนราด ถนนวิทยุ เพื่อเป็นหนึ่งในตัวเลือกให้ทุกคนพาคนที่รักไม่ว่าจะครอบครัว หรือคู่รักไปดินเนอร์ ปลายปีที่จะถึงนี้ ร้านอาหารที่เราจะพาไปวันนี้คือ Cafe@2 ชั้น 2 Conrad Hotel เดิมทีจัดเป็นแบบบุฟเฟต์ แต่ตอนนี้หลังจากเปลี่ยนแปลงตกแต่งครั้งใหม่ เนื่องจากก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 ของโรงแรมแห่งนี้ ทางห้องอาหารจึงจัด 3 courses with wine paring ภายใต้คอนเซปต์ เรียบง่าย แต่อร่อย ให้ทุกท่านได้มาลิ้มลอง วันนี้ดิฉันได้มาลองทาน เป็น จานเล็กๆขนาดทดลองให้พอหอมปากหอมคอ ของจริงจะจัดมาเต็มตามรูปด้านล่างนี้นะคะ Foie Gras & Duck เริ่มกันที่จานเรียกน้ำย่อย ตับห่าน พร้อมอกเป็ดพริกไทยดำ รสชาติหวานมัน ของตับห่านทานพร้อมกับเนื้อเป็ดแน่นๆ Iberico Ham with Goat Cheese and Figs หรือใครไม่ถนัดฟัวกราส์ อาจเลือกเป็น Iberico ham ทานคู่กับชีสนมแพะก็ได้ สำหรับคนที่ชอบทานชีสนมแพะจะถูกใจมาก เนื่องจากรสชาติชีสเข้าได้ดีกับแฮมรสเค็มๆ รองด้วยหอมแดงผัดกับซอสสูตรเฉพาะ จนหวานฉ่ำ Beet roots & Buffalo Milk Feta Cheese ท่านใดชอบทานสลัดอาจเลือกเป็นสลัดบีทรูท เสิร์ฟพร้อม เฟต้าชีส ราดซอสบาลซามิกเคี่ยวจนกลมกล่อม สดชื่น ยิ่งเวลาทานคู่ไวน์ ยิ่งช่วยเรียกน้ำย่อยได้อย่างดี New Zealand Ora King Salmon and Cucumbers ปลาแซลมอนสด จากนิวซีแลนด์ เสิร์ฟมากับหอยเชลล์หวานเนื้อแน่น มีซอส รสเปรี้ยว และวาซาบิซอส ช่วยเสริมรสชาติ Aromatic Seafood Broth with Chiang…