Author: Nopmanee

Chef : Champ Panichkul : 1 2024 Story : Nathapol K. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Bijoux de Beurre Echire (บิฌูส์ เดอ เบอร์ เอชิเร่) ร้านขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสชื่อดังย่านเอกมัย ซึ่ง Kinandleisure ได้เคยพาทุกท่านไปเยี่ยมชมและชิมขนมอันแสนอร่อยกันมาแล้วนั้น ผ่านไปด้วยเวลาไม่นานเพียงประมาณ 1 ปี ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังสามารถบุกมาเปิดสาขาใหม่พร้อมกับห้าง Emsphere สุดชิค ใจกลางสุขุมวิทได้ แสดงให้เห็นศักยภาพและคุณภาพของร้านที่ยังคงเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี ร้าน Bijoux de Beurre Echire ที่สาขา Emsphere นั้น จะตั้งอยู่ที่ชั้น G ใกล้กับ Gourmet Market โดยลักษณะการตกแต่งร้านใกล้เคียงกับที่สาขาเอกมัย โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และใช้โทนสีขาวฟ้าเป็นหลัก ให้บรรยากาศอบอุ่น สบายๆ แต่มีความโมเดิร์น ที่หน้าร้านยังคงมีน้องวัวสีขาวลายฟ้าคอยยืนต้อนรับอยู่ เดินเข้าไปภายในร้านก็จะพบกับshelfวางขนมปังบางส่วนให้ลูกค้าสามารถเลือกหยิบใส่ถาดได้เอง แตกต่างจากที่สาขาเดิม และด้านข้างก็จะมีเคาน์เตอร์พนักงานคอยให้บริการพร้อมกับขนมอบหอมกรุ่นและบาร์เตรียมเครื่องดื่ม ด้านในสุดจะเป็นพื้นที่อบขนมโดยมีกระจกใสกั้นไว้ทำให้สามารถมองดูเชฟทำขนมได้อย่างเพลิดเพลิน ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะมีโต๊ะและเก้าอี้สีน้ำตาลและสีขาวสลับฟ้าให้ลูกค้าสามารถเข้าไปนั่งทานในร้านได้ แต่เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างจำกัด จึงมีโต๊ะให้บริการเพียงประมาณ ๘ โต๊ะเท่านั้น หากจะนั่งทานที่ร้านบางเวลาอาจต้องใช้เวลารอโต๊ะหน่อย เนื่องจากมีลูกค้าค่อนข้างเยอะ สำหรับผู้รังสรรค์เมนูต่าง ๆ ของร้าน ก็คือ เชฟแชมป์ พานิชกุล ซึ่งเป็นทั้งเชฟหลักและ Co-owner ของร้าน โดยเชฟแชมป์จบการศึกษาจากโรงเรียนสอนทำอาหารระดับโลกอย่าง Le Cordon Bleu และสั่งสมประสบการณ์มากว่าสิบปี จนมีความเชี่ยวชาญด้านขนมสไตล์ฝรั่งเศสเป็นอย่างยิ่ง โดยยังคงคอปเซปในการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดีเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เนย” ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำขนมสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งแน่นอนว่าทางร้านได้ใช้เนย Echire ซึ่งเป็นเนยเกรดพรีเมี่ยมนำเข้าจากฝรั่งเศสที่มีสัญลักษณ์ AOP (Appellation d’Origine Protégée or Protected Designation of Origin) ซึ่งเป็นตรารับรองที่รัฐบาลฝรั่งเศสได้การันตีว่าสินค้านั้นผลิตในถิ่นกำเนิดและผลิตด้วยภูมิปัญญาดั้งเดิมของสินค้านั้น…

Read More

เรื่อง: กิจกรรมการกุศล – Bangkok Uncovered & Beyond Vol.4วันที่: วันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 16 และ 17 ธันวาคม 2023เวลา : 10.00 – 21.00 นที่ตั้ง: สวนสุโขทัย โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลระดมทุน “Bangkok Uncovered &Beyond” เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาสังคมของ 6 ชุมชนที่ใกล้สูญพันธุ์ในกรุงเทพฯ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ของการเฉลิมฉลองโครงการ โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ และพันธมิตรยอดนิยม รวมถึงกรุงเทพมหานครฝ่ายบริหาร (กทม.) – กองการท่องเที่ยว เตรียมขยายขนาดการจัดงาน จึงมีโครงการอยู่ในขณะนี้ที่เรียกว่า “Bangkok Uncovered & Beyond” และถือเป็นงานที่สี่ของเรานับตั้งแต่ปี 2562 โครงการนี้ได้พัฒนามาจากการสร้างแนวคิด APPEAR เพื่อรักษาชุมชนและวัฒนธรรมที่สูญหายไปทำให้พวกเขากลับมาอีกครั้งผ่านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เราได้ร่วมมือกับการพัฒนาแห่งสหประชาชาติโครงการ (UNDP) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) – กองการท่องเที่ยว ทางโรงแรมสุโขทัยกรุงเทพก็ได้ร่วมมือกันในโครงการนี้เพื่อส่งเสริมกิจกรรมที่ยั่งยืนภายในชุมชนที่สูญหาย 6 แห่งพร้อมทั้งปรับปรุงความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ชุมชนที่ใกล้สูญพันธุ์ 6 ชุมชน ได้แก่ เกาะสานเจ้า บางลำภู หัวตะเข้ บางกระดี่ บ้านบุ และนางเลิ้ง เวิร์คช็อปสร้างสรรค์ศิลปหัตถกรรมไทยโดยช่างฝีมือชุมชน เช่น ว่าวยั่งยืนที่ทำจากใบไม้ลงรักปิดทอง (ลายรถน้ำ) งานปักผ้ามอญ งานหัตถกรรมกระดาษมอญ และ(ไม่) เหมือนกันการวาดภาพเหมือนตนเอง การแสดงดนตรี การเต้นรำ และงานฝีมือที่หายาก เช่น กล้วยแกะสลัก ดอกผงหินวินเทจการทำพวงมาลัย(ปางพวง) ดนตรีมอญ รำชาตรี เรียนรู้สูตรลับจากคุณย่าในชุมชน เช่น ด้ายสีทองและขนมจักร ช้อปปิ้งของขวัญที่ไม่ซ้ำใครหรือเพียงแค่พักผ่อนและปรนเปรอต่อมรับรสของคุณอย่างไม่สิ้นสุดอาหารและขนมอร่อยๆ เช่น คาราเมลมอญและมาร์ซิปันถั่วเขียว ลองขนมเรรายโบราณ เยลลี่ก้อน เค้กก้านบัวแดงนึ่งแบบไทย รับข้อเสนอพิเศษด้วยบัตรกำนัลจากโรงแรมห้าดาวสุดหรูอย่างแท้จริง – The Sukhothai…

Read More

Chef :  เชฟสุจิรา พงษ์มอญ หรือเชฟอ้อม : 11 2023 Story : Nathapol K. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Khaan (ขาล) เป็นร้านอาหารไทยไฟน์ไดน์นิ่งแห่งใหม่ย่านชิดลมของเชฟสุจิรา พงษ์มอญ หรือเชฟอ้อม ผู้ซึ่งเคยได้รับรางวัล Michelin Guide Young Chef Award 2021 และสร้างชื่อเสียงให้กับห้องอาหารต่าง ๆ มามากมาย โดยเชฟได้นำเอาประสบการณ์ในวงการอาหารตลอดเกือบ ๒๐ ปี มาเปิดร้านอาหารของตัวเองแห่งแรกที่แสดงถึงตัวตนของเชฟได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ชื่อร้านก็มาจาก “ปีขาล” ซึ่งเป็นปีนักษัตรของเชฟอ้อม และยังพ้องเสียงกับคำว่า “เล่าขาน” หรือ “กล่าวขาน” ซึ่งเป็นคอนเซปของร้านในการนำเอาเมนูอาหารในท้องถิ่นต่าง ๆ ของประเทศไทย หรือที่เรียกว่าเป็นสตรีทฟู้ด นำเอามาเป็นแรงบันดาลใจ แล้วผ่านกระบวนการคิดและรังสรรค์ขึ้นมาใหม่ในรูปแบบของเชฟอ้อมให้มีความเป็น royal cuisine (from street to royal) และเชฟได้นำมาเล่าขานให้ทุกท่านได้ลิ้มลองโดยยังคงกลิ่นอายดั้งเดิม แต่จะได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนที่ใดอย่างแน่นอน ร้านอาหาร Khaan ตั้งอยู่ภายในซอยสมคิด ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลมและเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ โดยตัวร้านเป็นอาคารสีขาวตัดกับไม้สีน้ำตาลแดงเข้มแบบเรือนไทย โดยมีส่วนของครัวทำอาหารตั้งอยู่ด้านหน้าร้านสร้างความตื่นตาตื่นใจและน่าเพลิดเพลินกับการทำอาหารของเชฟและผู้ช่วยได้คล้ายกับร้านสตรีทฟู้ด แต่จะมีกระจกใสกั้นไว้เพื่อสุขอนามัยและความสะอาด ภายในร้านตกแต่งด้วยลวดลาย ผ้าไหม และงานศิลปหัตถกรรมแบบไทย โดยใช้โทนสีขาว น้ำตาล แดง เงิน และทอง ให้ความรู้สึกเรียบหรูเหมาะกับมาทานดินเนอร์ สำหรับอาหารนั้น เชฟอ้อมได้คัดสรรเอาเมนูที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในท้องถิ่นต่าง ๆ ภายในประเทศไทย นำมาร้อยเรียงเล่าขานให้ทุกท่านได้ลิ้มรสกัน โดยพยายามใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีทั้งคุณภาพและคุณประโยชน์นำมาปรุงอาหารอย่างคุ้มค่าทุกส่วน (zero waste) โดยใช้เทคนิคทั้งแบบไทยและตะวันตก จนได้ออกมาเป็นอาหารทั้งสิ้น ๑๑ คอร์ส โดยในวันนี้เราได้ลองชิมไปถึง ๗ คอร์ส ดังนี้ ๑. ขานรสเลิศตำรับขาล Amuse Bouche Amuse Bouche เป็นคำมาจากภาษาฝรั่งเศส อ่านว่า “อามูส บุช”…

Read More

โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ มีความภูมิใจเสนอการเปิดประสบการณ์รับประทานอาหารครั้งใหม่ โดยได้แต่งตั้ง โฮ คิง ยิป (หรือ เชฟวิคเตอร์) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ชาวจีนคนใหม่ ผู้รังสรรค์อาหารจีนกวางตุ้งเมนูใหม่พร้อมให้ลิ้มลอง ณ ห้องอาหารจีนเหม่ยเจียง ที่เลื่องชื่อด้านอาหารจีนตำรับกวางตุ้ง เชฟวิคเตอร์ได้สั่งสมประสบการณ์มากว่าสามทศวรรษ เขาได้นำความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมอันมากมาย จากประสบการณ์งานครัวที่มีชื่อเสียงมากมายทั่วเอเชีย เช่น “Lung King Heen Kitchen” ระดับมิชลิน 3 ดาว (ในขณะที่เชฟร่วมงาน) ประเทศฮ่องกง และ Shang Palace ที่ไทเป ประเทศไต้หวัน มาสู่การสร้างสรรค์อาหารจีนตำรับกวางตุ้งเมนูใหม่ ยกระดับศิลปะอาหารจีนและสร้างประสบการณ์การทานอาหารที่พิเศษ ที่ห้องอาหารเหม่ยเจียง (Mei Jiang) ในฐานะหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ชาวจีน ความทุ่มเทของเขาในการรักษามาตรฐานอันไร้ที่ติและแนวทางการสร้างสรรค์อาหารจีน ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับในวงการ อาหารจีนกวางตุ้งเมนูใหม่ ที่เหม่ยเจียง เป็นการนำวัตถุดิบเกรดพรีเมียมจากในท้องถิ่นและนำเข้าจากนานาชาติ มารังสรรค์อาหารจีนกวางตุ้ง เสิร์ฟในรูปแบบตะวันตก หรือสไตล์แบ่งปันกับครอบครัว อาทิ กุ้งลายเสือและหมั่นโถวทอดซอสเอ็กซ์โอ ปูจ๋าสไตล์จีน ซุปหอยสังข์ตุ๋นกระเพาะปลาน้ำใส กุ้งมังกรภูเก็ตนึ่งไข่ขาวเหล้าจีน ซี่โครงเนื้อผัดพริกสไตล์เสฉวน และ ข้าวผัดเป๋าฮื้อห่อใบบัว ฯลฯ “ผมรู้สึกตื่นเต้นและยินดีมากที่ได้ร่วมงานกับทีมพ่อครัวและที่มีความสามารถของห้องอาหารเหม่ยเจียง โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ แห่งนี้ ผมมีความมุ่งมั่นในการทำอาหารเพื่อความสมบูรณ์แบบมาโดยตลอด และจะได้นำความหลงใหลในอาหารจีนและอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ใหม่ๆ ของผมมาสู่ห้องอาหารแห่งนี้” เชฟวิคเตอร์กล่าว ความเชี่ยวชาญของเชฟวิคเตอร์ครอบคลุมทักษะการทำอาหารที่หลากหลาย ตั้งแต่การประดิษฐ์อาหารที่ประณีตไปจนถึงบริหารทีมพ่อครัวชั้นนำ ในการสร้างประสบการณ์ยกระดับการรับประทานอาหารด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่น่าจดจำให้กับแขกโรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ ห้องอาหารเหม่ยเจียง โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน มื้อกลางวัน (เสาร์-อาทิตย์) 11.30-14.30 น. และมื้อค่ำ (ทุกวัน) 18.00 – 22.30 น. สำรองที่นั่งและสอบถามข้อมูล กรุณาติดต่อ โทร. 0 2020 6969 หรือ อีเมล [email protected] Kin…

Read More

บ่ายนี้ ดิฉันและ Kinandleisure จะพาคุณๆท่านผู้อ่านที่เจริญทั้งหลายมาทาน Afternoon tea บนตึกที่สูงเทียมเมฆแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯกัน นั่นก็คือ ที่ห้องอาหาร Vertigo Too ชั้น 60 โรงแรมบันยัน ทรี (Banyan tree Bangkok) นั่นเองคราวนี้เค้าเปลี่ยนเชฟขนมหวานใหม่ ชุดขนมใหม่ คอนเซปลูกเล่นใหม่ๆ ที่ทำให้คุณต้องร้อง ว้าววววว ตามธรรมเนียมแล้ว เรามาเลือกชากันก่อนค่ะ มี 2 แบรนด์ให้เลือก ซึ่งเราขอแนะนำ TWG : Silver Moon ที่รสชาติจะออก Berry Fruity+Vanilla bouquet ผสมกันอย่างลงตัว (1 คน เลือกชาได้ 1 รสค่ะ) จากนั้นไม่นานเลย พนักงานเข็นรถชุดน้ำชาวันนี้มาแล้ว ยิ่งตอนที่มีควันแล้ว ชวนให้นึกถึงสวนสวยในจินตนาการขึ้นมาจริงๆ เราสามารถขอถ่ายรูปคู่กับรถเข็นก่อนได้ด้วยนะคะ แล้วค่อยนำมาจัดวางบนโต๊ะ กับ Background ที่เป็นวิวตึกสูง ไม่มีที่ไหนจะเก๋ไปกว่านี้แล้วล่ะค่ะก่อนอื่นเรามาหยิบแก้วค็อกเทลที่เห็นมีฟองอากาศอยู่ด้านบนนี้ เป่าฟองให้แตก แล้วจิบ Welcome drink กันก่อนเถอะค่ะ แก้วนี้จะประกอบไปด้วยไซรัปกุหลาบเป็นตัวหลัก นางเอกแห่งยุคตั้งแต่ดึกดำบรรพ์เป็นตัวนำนี้จะทำให้คุณผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งลูกเล่นการสร้างฟองขนาดใหญ่บนปากแก้ว ที่พอคุนเป่าหรือจิ้ม ฟองก็จะระเบิดตูมออกมาเป็นควันกลิ่นกุหลาบ แสนหอมหวาน เลิศมากค่ะ โดยเซ็ตอาฟเตอร์นูนทีสุดพิเศษนี้รังสรรโดยเชฟหนึ่ง จตุพร เชฟขนมหวานมากประสบการณ์ของโรงแรม เชฟหนึ่งสั่งสมประสบการณ์ด้านขนมหวานมากว่าหนึ่งทศวรรษ ทำงานในเครือโรงแรมชั้นนำและแบรนด์เบเกอรีชื่อดัง​มากมาย เชฟหนึ่งได้สรรสร้างขนมอย่างพิถีพิถัน จนมาเป็นขนมหวานสุดน่ารัก ดื่มด่ำกับช่วงเวลาพิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์ ณ เวอร์ทิโก้ทู ที่จะโอบล้อมคุณด้วยบรรยากาศสุดเอ็กคลูซีฟบนชั้น 60 พร้อมให้คุณจิบชาร้อนๆหรือเลือกเป็นม็อกเทลเย็นๆ ก็ดูลงตัวไม่แพ้กัน คลอเคล้าด้วยเสียงเพลงที่จะขับกล่อมให้คุณได้ผ่อนคลาย และด้วยความหิวนี้ ขอเริ่มกันที่  เบิร์ดออฟพาราไดซ์ล็อบสเตอร์แซนวิช Bird of Paradise เป็นของว่างที่มีเนื้อล็อบสเตอร์สดๆมาให้ฉ่ำๆ มาเต็มตลอดขนมปังทรงบาแก๊ตนิ่มๆนี้ ท๊อปด้วยคาเวียร์ได้อีก Melon Bouquet เป็นของว่างที่มองเผินๆอาจจะนึกว่าลูกองุ่นได้ เพราะด้วยสีเขียวสดใสของเค้า แต่หาใช่ไม่ เป็นเมล่อนคว้านเป็นลูกกลมหวานสดชื่น กับครีมชีสฉ่ำๆ ซึ่งควรทานพร้อมกันทั้งชิ้น รสชาติจะพอดี! Organic senses…

Read More

โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ชวนคุณมาจิบน้ำชายามบ่ายในธีม “Garden of Senses” ที่จะพาคุณไปสัมผัสความรื่นรมย์ของสวนสวยในจินตนาการ เพลิดเพลินไปกับขนมคาวหวานแสนอร่อยและเครื่องดื่มระดับพรีเมียม คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพมาเสิร์ฟให้คุณได้ลิ้มลอง โดยเซตอาฟเตอร์นูนทีสุดพิเศษนี้รังสรรโดยเชฟหนึ่ง จตุพร เชฟขนมหวานมากประสบการณ์ของโรงแรม เชฟหนึ่งสั่งสมประสบการณ์ด้านขนมหวานมากว่าหนึ่งทศวรรษ ทำงานในเครือโรงแรมชั้นนำและแบรนด์เบเกอรีชื่อดัง​มากมาย เชฟหนึ่งได้สรรสร้างขนมอย่างพิถีพิถัน จนมาเป็นขนมหวานสุดน่ารักอย่าง แรสเบอร์รีฟิโลทาร์ตไส้วานิลลารสหวานหอม (Flower Raspberry Filo) ชูซ์หงษ์ไส้คาราเมลอัลมอนด์ (White Swan Caramel Choux) และบัตเตอร์ฟลายคาเนเล่ช็อกโกแลต (Canelé Ganache Monte) อีกทั้งยังมีคานาเปรสเลิศ อาทิเช่น เบิร์ดออฟพาราไดซ์ล็อบสเตอร์แซนวิช (Bird of Paradise Sandwich) และลูกเมล่อนในวาฟเฟิลโคน (Melon Bouquet) เป็นต้น ดื่มด่ำกับช่วงเวลาพิเศษในวันหยุดสุดสัปดาห์ ณ เวอร์ทิโก้ทู ที่จะโอบล้อมคุณด้วยบรรยากาศสุดเอ็กคลูซีฟบนชั้น 60 พร้อมให้คุณจิบชาร้อนๆหรือเลือกเป็นม็อกเทลเย็นๆ ก็ดูลงตัวไม่แพ้กัน คลอเคล้าด้วยเสียงเพลงที่จะขับกล่อมให้คุณได้ผ่อนคลาย เตรียมเปิดประสบการณ์ใหม่กับ “Garden of Senses Afternoon Tea” ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 13.00 – 16.00น. ที่ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ทู ชั้น 60 ในราคา 2,200++ บาท ต่อเซต สำหรับ 2 ท่าน

Read More

ถ้าคุณเป็นคนชอบกินขนมไหว้พระจันทร์ทั้งไส้ทุเรียนและไส้คัสตาร์ดแล้วละก็ ขอบอกเลยว่าขนมของที่นี่ตอบโจทย์สุดๆ ด้วยความที่เชฟได้นำสูตรการทำขนมไหว้พระจันทร์คัสตาร์ดไข่แดงแบบโรงแรมริมน้ำเก่ากึกแห่งหนึ่งมาผสมผสานกับทุเรียนคุณภาพสูงจนได้เป็นรสซิกเนเจอร์ใหม่ ที่จะต้องถูกใจคนที่ชอบทั้งคัสตาร์ดและทุเรียนอย่างแน่นอนSomphong S.-   โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ (InterContinental Bangkok) เตรียมต้อนรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่กำลังจะมาถึงในปีนี้ ด้วยขนมไหว้พระจันทร์รสเลิศระดับพรีเมียมบรรจุอยู่ในกล่องที่มีเอกลักษณ์บ่งบอกถึงความคิดสร้างสรรค์และความพิถีพิถันในการทำขนมไหว้พระจันทร์ เทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นเทศกาลตามวัฒนธรรมของจีนที่มีขึ้นช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง เพื่อแสดงถึงการสิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยว อีกทั้งยังเป็นเวลาที่ครอบครัวรวมตัวกันเพื่อขอบคุณและไหว้พระจันทร์ จึงถือเป็นโอกาสพิเศษสำหรับการเฉลิมฉลองเพื่อมอบขนมไหว้พระจันทร์ให้กับเพื่อนและครอบครัว ขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ประจำปี 2566 นี้ ถูกรังสรรค์โดยการผสมผสานความเป็นไทยได้เป็นขนมไหว้พระจันทร์รสชาติใหม่ที่อร่อยอย่างลงตัว บรรจุในกล่องที่ถูกออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงและความงดงามของพวงมาลัย สัญลักษณ์ของความโชคดี ความนอบน้อม และการให้เกียรติ รูปทรงกลมของกล่องขนมไหว้พระจันทร์ยังสื่อถึงความสมบูรณ์และการได้พบกันอีกครั้ง เรียบหรูในโทนสีฟ้าที่มีลวดลายสีทองสวยงามดุจดั่งเส้นขอบฟ้าระยิบระยับของกรุงเทพฯ ประดับด้วยอุบะดอกรักและดอกจำปีที่ปั้นจากดินอย่างประณีต  ขนมไหว้พระจันทร์บรรจุในกล่องรูปทรงพวงมาลัยของโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ นี้ถือเป็นของขวัญที่สมบูรณ์แบบ สำหรับครอบครัว คนพิเศษ หรือเพื่อนร่วมงานสำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้  อุบะดอกรักและดอกจำปีที่นำมาใช้ประดับกล่องขนมไหว้พระจันทร์นั้นสร้างเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมการต้อนรับอันงดงามของไทย ในขณะเดียวกันยังแสดงถึงความหรูหรา ทันสมัยเข้ากับยุคสมัย นอกจากนี้ สูตรขนมไหว้พระจันทร์ยังถูกรังสรรค์โดยพ่อครัวประจำห้องอาหารจีน ซัมเมอร์ พาเลซ (Summer Palace) เลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพเยี่ยมที่หาได้ภายในประเทศเท่านั้น ถือเป็นสิ่งที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของโรงแรมฯ ในการร่วมสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพสูงของไทยเพื่อลดการนำเข้าและก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด  โดมินิค มาร์ติเนซ (Dominique Martinez) ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ กล่าวว่า “เทศกาลไหว้พระจันทร์ถือเป็นช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่และสะท้อนถึงวัฒนธรรมที่หลากหลายของประเทศไทย ซึ่งปีนี้ โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ นำเสนอขนมไหว้พระจันทร์สูตรโฮมเมดที่ทีมเชฟมากความสามารถของห้องอาหาร ซัมเมอร์ พาเลซ ช่วยกันปั้นขนมไหว้พระจันทร์แต่ละชิ้นด้วยมืออย่างประณีต พิถีพิถัน อบสดใหม่จากเตาทุกวัน ได้เป็นขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อยบรรจุในกล่องรูปทรงพวงมาลัย เหมาะสำหรับมอบเป็นของขวัญให้คนสำคัญในเทศกาลนี้ หรือเพียงรับประทานเพื่อความสิริมงคล” ขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ มี 4 รสชาติ ซึ่งจะมีถึง 2 รสที่ใช้เบสเป็นคัสตาร์ด ด้วยความที่เชฟใหญ่เคยกำกับห้องอาหารเหม่ยเจียงแห่งริมน้ำฝั่งธนบุรีมาก่อน จึงได้สร้างสรรค์ขนมไหว้พระจันทร์สูตรใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากขนมคัสตาร์ดไข่แดงเดิมมาผสมผสานเป็นรสใหม่อีก 2 รสอย่าง คัสตาร์ดทุเรียน และ คัสตาร์ดกาแฟ ได้แก่ คัสตาร์ดทุเรียน คัสตาร์ดกาแฟ ถั่วแดงไข่เค็ม และ เม็ดบัวไข่เค็ม บรรจุในกล่องที่มีให้เลือก 3 แบบ…

Read More

การทำขนมไหว้พระจันทร์นั้นถือเป็นสิ่งที่ปฎิบัติกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนานมากกว่าพันปี ทำขึ้นเพื่อเป็นของเส้นไหว้พระจันทร์และเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วงของจีน ซึ่งเทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ชาวจีนเฉลิมฉลองกันมากที่สุด ขนมไหว้พระจันทร์นั้นจะใช้มอบเป็นของขวัญเพื่ออวยพรให้ผู้รับมีความสุข ความเจริญรุ่งเรืองและความอุดมสมบูรณ์ เนื่องในโอกาสพิเศษนี้โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ได้เตรียมขนมไหว้พระจันทร์สูตรพิเศษคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ นำเสนอหลากหลายรสชาติยอดนิยมอย่าง ทุเรียน เม็ดบัว โหง่วยิ้ง พุทราผสมวอลนัท คัสตาร์ด และ มอคค่าคาราเมล  เป็นต้น โดยปีนี้เชฟยังได้รังสรรค์ไส้ใหม่ไม่เหมือนที่ไหนคือ ช็อกโกแลตพีนัทบัตเตอร์ อีกด้วย ขนมไหว้พระจันทร์บรรจุในกล่องรูปกระต่ายสวยงาม เหมาะสำหรับเป็นของขวัญให้ กับครอบครัวและคนพิเศษ รีวิวขนมไหว้พรจันทร์ 7 รสชาติ จากโรงแรม Banyan Tree Bangkok ที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ: ไส้ทุเรียน: ไส้ทุเรียนนี้เป็นทุเรียนที่สุกสีสวยงามและหอมหวานมาก ขนมนี้มีลักษณะที่อ่านว่านุ่มและเข้มข้น รสชาติทุเรียนที่หวานและครีมมากจับต้องได้ทันที คุณจะได้รับความสุขจากความหอมหวานและความอร่อยของทุเรียนนี้ รสชาติ 4.5/5 ไส้เม็ดบัวโหง่: ขนมไหว้พรจันทร์ที่มีไส้เม็ดบัวโหง่มีรสชาติหวานอ่อนจากเม็ดบัว และความนุ่มนวลจากไข่เดี่ยว ผิวขนมบางและกรอบ รสชาติเข้มข้นของเม็ดบัวนี่ให้ความพิเศษให้กับขนม รสชาติ 4/5 พุทราผสมวอลนัท: ขนมนี้มีรสชาติหวานจากพุทราและความหอมของวอลนัท รสชาติของไข่เดี่ยวที่นุ่มนวลเพิ่มความครีมให้กับขนม ขนมไหว้พรจันทร์แบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบรสชาติหวานและโรแมนติก รสชาติ 4.5/5 คัสตาร์ด: ขนมคัสตาร์ดนี้มีรสชาติหวานอ่อนจากคัสตาร์ดและไข่เดี่ยวที่นุ่มนวล ผิวขนมบางและกรอบ รสชาติที่ไม่เป็นที่น้อยของคัสตาร์ดนี่จะเป็นทางเลือกที่เยี่ยมในการจบมื้ออาหารแบบหวาน รสชาติ 4/5 มอคค่าคาราเมล: ขนมมอคค่าคาราเมลมีรสชาติหวานจากคาราเมลและความหอมของกาแฟ รสชาติของไข่เดี่ยวที่นุ่มนวลทำให้ขนมนี้เป็นอร่อยมาก รสชาติ 4.5/5 ช็อกโกแลตพีนัทบัตเตอร์: ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ช็อกโกแลตพีนัทบัตเตอร์นี้มีรสชาติหวานจากช็อกโกแลตเข้้าคู่กันเป็นอย่างดี ประดุจเบลและเจ้าชายอสูร หรืออาลดินและจัสมินประมาณนั้นเลยทีเดียว และความนุ่มนวลจากไข่เดี่ยว ผิวขนมบางและนุ่ม รสชาติเข้มข้นของช็อกโกแลตให้ความเยิ้มที่อร่อยมาก รสชาติ 5/5 ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างของความหลากหลายและความอร่อยของขนมไหว้พรจันทร์ในรูปแบบแฟนซี ขนมไหว้พรจันทร์จาก Banyan Tree Bangkok นี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบรสชาติหวานและอร่อยมาก แน่นอนว่าคุณจะต้องชอบ วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม – 29 กันยายน 2566 ที่ห้องอาหารไบยุน และห้องอาหารร่มไทร กล่องเดี่ยว ราคาชิ้นละ 248 บาท แบบกล่อง 2 ชิ้น ราคากล่องละ 788 บาท แบบกล่อง 4 ชิ้น ราคากล่องละ 1,188 บาท แบบกล่อง 8…

Read More

หนึ่งในเชฟที่มีชื่อเสียงจากประเทศเกาหลีใต้ ผู้ผ่านประสบการณ์การทำงานจากห้องอาหารและโรงแรมชั้นนำระดับโลกมากมาย เชฟเอ็ดเวิร์ด ควอน (Edward Kwon) พร้อมแล้วที่จะนำเสนอ ‘เอ็ดเวิร์ด ควอน อิน แบงค็อก’ (Edward Kwon in Bangkok) ห้องอาหารเกาหลีสไตล์โมเดิร์น ส่งตรงจากเมืองปูซานสู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 7 กรกฎาคม ถึง 7 ตุลาคม 2566 นี้เท่านั้น เชฟเอ็ดเวิร์ดและทีมเชฟมืออาชีพจากห้องอาหาร ‘LAB XXIV by KUmuda’ ห้องอาหารเกาหลีร่วมสมัย ที่สืบสานวัฒนธรรมการทำอาหารแบบตะวันตกควบคู่กัน พร้อมสร้างความตื่นเต้นผ่านเซ็ตเมนูอาหารเกาหลีแบบ 12 คอร์ส รังสรรค์ผ่านกรรมวิธีการทำอาหารแบบตะวันตกชั้นสูง หากรสชาติแบบเกาหลีคลาสสิกยังคงถูกรักษาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ห้องอาหาร LAB XXIV by KUmuda ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก จากการจัดอันดับของ ‘La Liste 2023’ จากประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในความตั้งใจของเชฟเอ็ดเวิร์ดคือการยกระดับชื่อเสียงของอาหารประจำชาติให้กว้างขวางในระดับนานาชาติ รวมถึงประเทศไทย ผ่านความรักและความเชี่ยวชาญในการทำอาหารตะวันตก โดยให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดในการปรุงและการตกแต่ง เพื่อให้จานอาหารทุกจานออกมาสง่างามน่ารับประทาน และให้ความรู้สึกน่าสนใจเมื่อได้รสสัมผัสของรสชาติแบบเกาหลีคลาสสิกผ่านวัตถุดิบชั้นนำคุณภาพนำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้และทั่วโลก สร้างความประทับใจให้กับแขกทุกท่านราวกับการได้ชื่นชมงานศิลปะชั้นสูงผ่านจานอาหาร เริ่มต้นความน่าประทับใจนี้กับเมนูเรียกน้ำย่อย 5 รายการ เริ่มจาก ‘แซวู จัง’ (Sae Woo Jang) เมนูทาร์ตเล็ทกุ้งหมักโชยุเกาหลีกับยูซุ ตกแต่งด้วยสาหร่ายคมบุขาวกรอบ ‘พุลโกกิ’ (Bulgogi) เมนูยอดนิยมในหมู่ชาวเกาหลีใต้ ส่วนผสมหลักได้แก่ ข้าว ชีสโปรโวโลเน (Provolone) เนื้อหมักซอสถั่วเหลืองเกรดพรีเมียมอายุ 10 ปี รังสรรค์ขึ้นในรูปแบบฟริทเทอร์บอล ประดับด้วยเห็ดทรัฟเฟิลดำ และเมนูยอดนิยมอย่าง ‘ทัคคาลบี้’ (Dakgalbi) ผัดกับซอสโคชูจังเข้มข้น นำเสนออย่างแปลกตาในแป้งครุสตาดสไตล์ฝรั่งเศส เมนู ‘ยู-คเว’ (Yukhoe) เมนูทาร์ทาร์เนื้อวากิวปรุงแบบเกาหลี ที่มีความหมายตรงตัวว่า ‘เนื้อดิบ’ เสิร์ฟบนบริยอชและยกระดับรสชาติด้วยไข่ปลาคาเวียร์และสาลี่จากแหล่งปลูกสาลี่ชั้นยอด และปิดท้ายเมนูเรียกน้ำย่อยด้วย ‘คิมมารี’ (Gimmari) หรือปอเปี๊ยะเกาหลี ประดับด้วยเนื้อปลาโอโทโร่ กิมจิ พันด้วยสาหร่ายทะเลกรอบ และเพิ่มความประณีตของรสสัมผัสด้วยหอยเม่นทะเลนำเข้าคุณภาพดี…

Read More

แค่เนยดีทำอะไรก็อร่อย หนึ่งเดียวในไทยที่ใช้เนยที่ดีที่สุดในโลกอย่าง Echire อัญมณีแห่งโลกอาหาร Bijoux de Beurre Echire Chef : Hola : 05 2023 Story : Nopmanee P. , Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Kinandleisure อยากให้ทุกท่านได้มาสัมผัสกับขนมฝรั่งเศสสุดพรีเมี่ยมของร้าน Bijoux de Beurre Echire ร้านขนมฝรั่งเศสย่านใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ที่มีเอกลักษณ์สุดพิเศษคือการใช้เนย Echire ที่ผลิตด้วยการปั่นแบบดั้งเดิมในถังไม้และส่งตรงจากประเทศฝรั่งเศส การันตีการเป็นเนยคุณภาพสูงที่ได้รับมาตรฐานระดับ AOP มีความหอมและละมุนลิ้นที่สามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนจากยี่ห้ออื่น ซึ่งทางร้านได้ใช้เนยนี้เป็นวัตถุดิบสำคัญอย่างไม่มีกั๊ก ร่วมกับฝีมือการรังสรรค์ขนมระดับคุณภาพจากฝีมือของเชฟแชมป์ (Patisserie Rosie) ที่ได้ทุ่มเทสร้างสรรค์ขนมทุกชนิด ทุกเมนู ให้เป็นเมนูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง จากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ร่วมกับความใส่ใจจากทางร้านที่ต้องการมอบประสบการณ์ทางอาหารที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า ทำให้ Bijoux de Beurre Echire เป็นร้านขนมที่น่าตราตรึงใจและพร้อมดึงดูดทุกท่านด้วยมนต์เสน่ห์แห่งเนยและขนมหวานแห่งดินแดนน้ำหอมอันเลื่องชื่อ Bijoux de Beurre Echire เป็นร้านตั้งอยู่ในโครงการ Earth Ekkamai ในซอยสุขุมวิท 63 โดยสามารถขับรถมาได้ตาม Google Map ป้ายร้านสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากป้ายหน้าโครงการ มีที่จอดรถแบบมีค่าบริการพร้อมให้บริการอย่างเหลือเฟือ หรือสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีเอกมัย ซึ่งถ้ามองจากบันไดรถไฟฟ้า เป็นระยะที่มองเห็น เดินถึงได้ไม่ไกล เมื่อเปิดประตูร้านเข้าไป สัมผัสแรกที่ท่านจะได้รับ คือกลิ่นหอมอบอวลจากเนย Echire ความละลานตาของขนมเค้กหลากหลายรูปแบบในตู้ทางด้านซ้าย และด้านหลังยังเป็นครัวเปิดที่เราสามารถมองเห็นเชฟกำลังตั้งอกตั้งใจทำขนมกันอยู่ได้เช่นกัน มีขนมอบหลากหลายรูปแบบในตู้ทางด้านขวา ขณะที่การตกแต่งภายในร้านเรียบง่ายแต่มีความพิถึพิถัน หากแฝงไว้ด้วยความ cozy สบายๆ ในโซนที่นั่งทานขนมภายในร้าน คำอุทานแรกที่ออกมาจากปากคือคำว่า “สวยมาก” มีการจัดโซนที่นั่งได้อย่างสบายตา เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง แบบที่เราสามารถนั่งเม้ากับเพื่อนได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็นได้อย่างไม่มีเบื่อ จากบรรยากาศสบายๆ ของร้าน และขนมหวานคุณภาพสูงที่น่าลิ้มลองทุกเมนู จึงทำให้เป็นร้านขนมในฝัน ทั้งสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน แม่บ้าน(ญี่ปุ่น) กลุ่มเพื่อน(จะได้มาช่วยกันทาน แต่ละชิ้นใหญ่ใช่เล่น…

Read More