: เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเฉลิมฉลองในโอกาสสุดพิเศษของสุดยอดนักปรุงอาหารและนักผสมเครื่องดื่มแห่งเอเชียกับ Tatler Best of Asia Takeover Series ที่โคจรมาถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 26 พฤศจิกายน เทศกาลอาหาร 5 วันนี้ถือเป็นส่วนสำคัญของโครงการ Tatler Best ที่ถูกกล่าวขานถึงอย่างมาก โดยเป็นชุมนุมของเหล่าเชฟและบาร์เทนเดอร์ชั้นนำของภูมิภาคนี้ในป๊อปอัปอีเว้นท์ที่จัดต่อเนื่องและไม่เหมือนใคร โดยจะเปิดให้จองเฉพาะที่หน้า Tatler Experience บนเว็บไซต์ Priceless.com ของ Mastercard เท่านั้น เพื่อให้สมกับการรอคอย งานนี้จะจัดขึ้นในสถานที่อันหรูหราและเป็นส่วนตัวที่สุดในกรุงเทพฯ มั่นใจได้ว่าแขกที่มาร่วมงานจะได้รับประกันประสบการณ์ด้านอาหารและได้ลิ้มลองค็อกเทลที่ไม่ซ้ำใครและหาไม่ได้จากที่อื่น โดยแต่ละอีเว้นท์มีที่นั่งจำกัด นับเป็นโอกาสหายากที่จะได้สัมผัสกับการสร้างสรรค์เมนูอาหารสุดล้ำสมัยและค็อกเทลสูตรใหม่ๆ จากยอดฝีมือของเอเชีย รายชื่อเชฟ นักชิมจะได้ดื่มด่ำกับอาหารจานพิเศษจากเชฟชื่อดังทั่วเอเชีย ไฮไลท์ได้แก่: Julien Royer จากร้าน Odette (สิงคโปร์): วันที่ 26 พฤศจิกายน เชฟจะนำเสนออาหารฝรั่งเศสสุดหรูพร้อมกลิ่นอายเอเชียที่ Maison Dunand Kai Ho จากร้าน Taïrroir (ไทเป) และ Vincent Thierry จาก Chef’s Table by Lebua: วันที่ 22-23 พฤศจิกายน เชฟคู่หูคู่นี้จะนำเสนอรสชาติที่ผสมกลมกลืนบของอาหารฝรั่งเศสและไต้หวันที่ห้องอาหารฝรั่งเศสของโรงแรมดุสิตธานี Ricardo Chaneton จากร้าน Mono (ฮ่องกง): ในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน โดยเชฟจะพาคุณไปสัมผัสกับอาหารละตินอเมริกาที่ Tiara Room พร้อมชมทิวทัศน์ที่สวยงามตื่นตาของสวนลุมพินี ค็อกเทลสูตรใหม่ๆ นักผสมเครื่องดื่ม (mixologist) ชั้นนำของเอเชียจะมาพลิกโฉมวงการบาร์ของกรุงเทพฯ ด้วยการนำเสนอค็อกเทลสุดพิเศษที่ก้าวข้ามขีดจำกัด โดยแขกจะได้พบกับ: Antonio Lai จากบาร์ Quinary (ฮ่องกง): นำการผสมเครื่องดื่มระดับโมเลกุลมาสู่ Firefly Bar (22 พฤศจิกายน) และ Raynue Lounge ภายในศูนย์การค้าเกสรอัมรินทร์ (23…
Author: Kittin Assavavichai
บริษัท กูร์เมท์ วัน ฟู้ดส์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) และกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ประจำสถานเอกอัครราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทย จัดแคมเปญส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ด้วย “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน (American Beef Feast)” นำเสนอรสชาติแห่งความเป็นเลิศของเนื้อวัวอเมริกัน โดยเฉพาะ USDA เกรดพรีเมี่ยมที่นำเข้ามาเป็นพิเศษโดย กูร์เมท์ วัน เพื่อยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารของผู้ที่ชื่นชอบเนื้อในทุกมุมของประเทศไทย แคมเปญ American Beef Feast นี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม โดยมีโรงแรมระดับ 5 ดาว และร้านอาหารชั้นนำในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา และขอนแก่น จำนวนถึง 17 แห่ง เข้าร่วมแคมเปญ นำเสนอเมนูพิเศษที่ปรุงด้วยเนื้อวัว USDA เกรดพรีเมี่ยมทั้ง USDA Prime, Choice และ Select เพื่อให้ผู้บริโภคไทยได้สัมผัสกับเนื้อวัวที่ได้รับการยกย่องทั่วโลกในด้านความนุ่ม ความฉ่ำ และรสชาติที่เข้มข้น และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารที่บ้าน สามารถหาซื้อเนื้อ USDA พรีเมี่ยมคัทเหล่านี้ได้ที่ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ 17 สาขาทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวหลักได้เช่นกัน งานเปิดตัวแคมเปญ “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน” ครั้งนี้ จัดขึ้น ณ โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก มร. โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เป็นประธานในงานและเป็นผู้มอบ “American Black Angus Sculpture” ประติมากรรมรูปวัวแบล็คแองกัส ที่ กูร์เมท์ วัน จัดทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อมอบให้ผู้เข้าร่วมแคมเปญนี้ แบล็คแองกัสเป็นวัวสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงในการผลิตเนื้อวัวคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอ วัวพันธุ์นี้จึงได้กลายเป็นมาตรฐานระดับโลกสำหรับคุณภาพสเต็ก รูปวัวแบล็คแองกัส จึงเป็นสัญญลักษณ์ของเนื้อวัวคุณภาพสูง ภายในงาน ยังมีการสาธิตการปรุงอาหาร พร้อมเมนูอาหารต่าง ๆ ที่ปรุงจากจากเนื้อวัว USDA Prime…
ร่วมสัมผัสประสบการณ์แห่งมื้ออาหารละตินอเมริกันสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ลิ้มลองทุกเมนูเด็ดที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์สไตล์เปรูและเม็กซิกันอย่างเหนือระดับ ด้วยเทคนิคการประกอบอาหารอันล้ำสมัยชูรสชาติต้นตำรับ จากเชฟฟรานโก อัลดาน่า (Chef Franco Aldana) ผู้คร่ำหวอดในการประกอบอาหารสไตล์เปรู ร่วมมือกับเชฟเฟอร์นันโด โคโรน่า (Chef Fernando Corona) เชฟประจำห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ผู้เชี่ยวชาญในการรังสรรค์อาหารสไตล์เม็กซิกัน ที่จะสร้างสีสันและพาทุกท่านเพลิดเพลินไปกับค่ำคืนสุดพิเศษนี้ เชฟฟรานโก หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหาร Feliz ห้องอาหารเปรู รูฟท๊อปชื่อดังประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ผู้สั่งสมประสบการณ์จากการเป็นเชฟ ณ ห้องอาหารชั้นนำหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสาธารณรัฐโดมินิกัน ตลอดจนประเทศเปรู ด้วยเทคนิคการประกอบอาหารอันเหนือระดับที่ได้รับการการันตีจากสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอ ทำให้เชฟฟรานโกเป็นหนึ่งในเชฟผู้เชี่ยวชาญในการประกอบอาหารสไตล์เปรูผู้หลงใหลในการรังสรรค์เมนูพื้นเมืองให้มีความล้ำสมัยโดยยังคงสอดแทรกวัฒนธรรมเปรูไว้ในทุกจาน เช่นเดียวกับเชฟเฟอร์นันโด เชฟชาวเม็กซิกัน ประจำห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ผู้มีประสบการณ์ในการเป็นเชฟมากกว่า 20 ปี และผ่านการเป็นเชฟประจำห้องอาหารชื่อดังหลากหลายแห่งในประเทศเม็กซิโก รวมทั้ง แถบแคริบเบียน ทำให้เชฟเฟอร์นันโดได้พัฒนาเทคนิคในการรังสรรค์อาหารสไตล์เม็กซิกันและนำมาประยุกต์เข้ากับวิธีการประกอบอาหารสไตล์ยุโรปดั้งเดิมได้อย่างลงตัว เพื่อสร้างสรรค์และชูจุดเด่นของเมนูอาหารเม็กซิกันทุกจานให้มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์น่าลิ้มลอง ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ขอนำเสนอ “4-Hand Kitchen Takeover – Mexico meets Peru” มหกรรมการร่วมมือกันของสองเชฟมากฝีมือที่จะมาร่วมกันรังสรรค์เมนูสุดพิเศษซึ่งเชฟเฟอร์นันโดและเชฟฟรานโกพร้อมที่จะพาทุกท่านไปสัมผัสรสชาติต้นตำรับสุดเข้มข้นของอาหารสไตล์ละตินอเมริกัน โดยทุกจานได้มีการคัดสรรวัตถุดิบสุดพรีเมียมและนำเทคนิคการประกอบอาหารอันล้ำสมัยที่ได้สั่งสมประสบการณ์อย่างยาวนานมายกระดับมื้ออาหารแก่ทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็น เมนูยอดนิยมของชาวเม็กซิกันอย่าง ทามาล (Tamal abierto de cochinita pibil) แป้งข้าวโพดสอดไส้เนื้อหมูที่ได้รับการหมักและตุ๋นจนนุ่ม เสิร์ฟคู่กับโฟมข้าวโพดเพิ่มอรรถรส และสัมผัสเมนูอาหารต้นตำรับสไตล์เปรูไปกับ เมนูคีนัวเสิร์ฟคู่กับทูน่า ทาทากิ (Quinotto & Tuna Tataki) รับประทานพร้อมผักนานาชนิด ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวาน เค้กช็อคโกแลตสไตล์เม็กซิกัน (Texturas de chocolate) จัดเสิร์ฟพร้อม ช็อคโกแลตทรัฟเฟิล และไอศกรีมรสช็อคโกแลตสุดเข้มข้น เพิ่มความกลมกล่อมของมื้ออาหารสไตล์ละตินอเมริกันให้พิเศษไปอีกขั้น เชิญร่วมเปิดประสบการณ์ดินเนอร์สุดประทับใจไปกับ 4-Hand Kitchen Takeover – Mexico meets Peru ณ ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู สัมผัสความเข้มข้นและจัดจ้านของ เซตอาหาร 5 คอร์ส ราคา 1,999 บาท ต่อท่าน หรือเพิ่มอรรถรสด้วยเครื่องดื่มสุดพิเศษ ในราคา 2,699 ต่อท่าน เฉพาะวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2567 นี้เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 0 2679 1200 หรือ [email protected] Kin News Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ…
โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ประกาศแต่งตั้ง มร. ซาโตชิ ซาวาดะ เชฟญี่ปุ่นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการสรรค์สร้างอาหารญี่ปุ่นอย่างมีศิลปะมากว่า 30 ปี เชฟซาวาดะมีประสบการณ์ในด้านการเลือกวัตถุดิบชั้นดี มาปรุงแต่งเป็นอาหารญี่ปุ่นสุดหรู รวมถึงทักษะด้านอาหารทุกประเภท ได้ร่วมงานกับโรงแรมชั้นนำและเครือโรงแรมระดับนานาชาติมากมาย เชฟซาวาดะมีประสบการณ์การทำงานในประเทศไทยมามากกว่า 25 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538-2563 จนเรียกได้ว่าประเทศไทยกลายเป็น “บ้านหลังที่สอง” เชฟซาวาดะมีประสบการณ์ในแวดวงอาหารญี่ปุ่นมากมาย เคยได้ร่วมงานกับห้องอาหารญี่ปุ่นชินทาโร่, โรงแรมเดอะ รีเจนท์ กรุงเทพฯ, โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จากนั้นเชฟซาวาดะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเชฟเดอคูซีน และดำรงตำแหน่ง Executive Sous Chef ที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2566 เชฟซาวาดะได้รับแต่งตั้งให้เป็นเชฟใหญ่ที่โรงแรมดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน โทยามะ ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะเข้าร่วมงานกับ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ในฐานะเชฟใหญ่ด้านอาหารญี่ปุ่นประจำห้องอาหาร คิ อิซากายะ เชฟซาวาดะพร้อมที่จะทุ่มเทความสามารถผนวกกับความเป็นศิลปินในด้านการทำอาหารญี่ปุ่น มานำเสนอเมนูที่ผสมผสานทั้งรูปลักษณ์และอรรถรสที่ดีที่สุด เพื่อต้อนรับแขกและผู้ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ พบกับเชฟซาวาดะได้ที่ ห้องอาหาร คิ อิซากายา ชั้น 9 โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ Kin News Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล…
อัปสรา เรือที่ได้รับการสรรสร้างอย่างวิจิตรงดงาม ผสมผสานเสน่ห์เหนือกาลเวลาของเรือบรรทุกข้าวโบราณเข้ากับความสง่างามร่วมสมัย ให้นิยามใหม่ของความหรูหราผ่านการล่องเรือไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นสัญลักษณ์คู่เมืองกรุงเทพมหานคร ในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้ อัปสรานำเสนอประสบการณ์เดินทางสุดพิเศษให้ทุกท่านได้ชื่นชมมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของราชอาณาจักรไทย เพียบพร้อมไปด้วยอาหารไทยสุดวิจิตร ทิวทัศน์ที่งดงาม และการแสดงวัฒนธรรมไทยแบบร่วมสมัยที่จะสะกดทุกสายตา อัปสราเป็นงานสร้างสรรค์ชั้นยอด สร้างขึ้นจากไม้สักที่สะท้อนความสง่างามแบบไทยไปพร้อมกับความสะดวก สบายสมัยใหม่ แขกที่ร่วมเดินทางสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์สองข้างทางแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มตาผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่เต็มพื้นที่ และชื่นชมแลนด์มาร์กต่าง ๆ อย่างวัดวาอารามและเจดีย์ที่ส่องประกายระยิบระยับโดยไม่ต้องก้าวออกจากห้องปรับอากาศของห้องรับประทานอาหารที่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามนอกจากนี้ยังมีพื้นที่ดาดฟ้าชั้นลอยที่จะสร้างความประทับใจที่ไม่อาจลืมเลือนบนพื้นน้ำเจ้าพระยาตลอดการเดินทางอีกด้วย ประสบการณ์บนเรืออัปสราเป็นความประทับใจที่หาไม่ได้ทั่วไป แรงบันดาลใจจากเรื่องเล่าขานพื้นบ้านของไทย ทำให้เกิดการผสานระหว่างศิลปะและวัฒนธรรมอย่างลงตัว ทั้งการตกแต่งภายในของเรือที่จะสะกดทุกสายตา โดยเฉพาะผลงานที่สรรสร้างโดยศิลปินชื่อดังของไทยอย่าง นักรบ มูลมานัส ที่นำตำนานเก่าแก่ของไทยอย่างเมขลาล่อแก้วกับรามสูรขว้างขวานมาเป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์บาร์ ส่วนดีไซน์ในห้องควบคุมเรือเป็นการแสดงความเคารพต่อแม่โพสพ เทพีแห่งข้าวและสัญลักษณ์แสดงความอุดมสมบูรณ์และความโชคดี นอกจากนี้ แม้แต่ห้องน้ำยังได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างสนุกสนานตามคติแบบไทย ๆ ด้วยภาพเขียนแบบตำนานเทพยดาที่แฝงไปด้วยอารมณ์ขันและคำคมโบราณเกี่ยวกับการใช้ห้องน้ำของไทย ที่สร้างความมีชีวิตชีวาให้กับการเดินทาง อาหารไทยต้นตำรับหายากที่เสิร์ฟบนเรืออัปสรามีสี่คอร์สด้วยกัน เป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมด้านอาหารของไทยที่สืบต่อกันมาแต่โบราณกาล และนำมารังสรรค์ใหม่ให้เข้ากับรสนิยมแบบร่วมสมัย อาหารแต่ละจานจะได้รับการเตรียมอย่างประณีตตามสูตรอาหารที่ตกทอดกันมา และปรับเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบส่วนผสมที่มีในแต่ละฤดูกาล เพิ่มความหลากหลายและให้ความมั่นใจว่าวัตถุดิบที่ใช้มีความสดใหม่และคุณภาพดีเลิศที่สุด เมนูไฮไลท์ล้วนแต่ปรุงขึ้นอย่างบรรจง เช่น ซี่โครงเนื้อตุ๋น เสิร์ฟพร้อมซอสสูตรลับของอัปสราและใบชะมวง ต้มยำกุ้งแม่น้ำจากอยุธยา ปลาหิมะทอดผัดน้ำพริกแจ่ว เป็นต้น เครื่องดื่มบนเรืออัปสราก็มีความน่าประทับใจไม่ยิ่งหย่อนไปจากอาหารเช่นกัน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากแลนด์มาร์กที่มีความสำคัญด้านวัฒนธรรมของไทย ตัวเลือกที่หลากหลายมีตั้งแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของไทย เช่น วิสกี้ รัม และวอดก้า รวมทั้งเครื่องดื่มจากประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชียที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีไวน์จากทั่วโลกนำเสนอเพื่อเพิ่มตัวเลือกระดับสากลให้กับประสบการณ์แบบไทย ๆ เซ็ทเมนูสี่คอร์สเสิร์ฟที่ราคาสุทธิ 3,800 บาท พร้อมตัวเลือกไวน์แพริ่งในราคา 4,800 บาท นอกจากนี้ ท่านที่ต้องการประสบการณ์ที่มีความเป็นส่วนตัวยังสามารถเช่าเหมาลำ ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นการดินเนอร์แบบส่วนตัวหรือการเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญ อัปสราขอเชิญคุณมาสัมผัสประสบการณ์อันหรูหรามีระดับที่จะพาคุณเดินทางผ่านเส้นทางประวัติศาสตร์ ชื่นชมวัฒนธรรม และลิ้มรสอาหารชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษหรือค่ำคืนอันน่าประทับใจบนผืนน้ำ อัปสราจะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างแน่นอน อัปสราให้บริการทุกวันและเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เวลา 18.45 น. จากท่าเรือริเวอร์ซิตี้ หมายเลข 1 สามารถรับรองผู้โดยสารได้ 50 ท่าน พร้อมการแสดงวัฒนธรรมไทยร่วมสมัยที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสการระหว่างดื่มด่ำทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่รวมถึงแลนด์มาร์กสำคัญ เช่น วัดอรุณ และ พระบรมหาราชวัง ติดต่อสอบถามและสำรองที่นั่งได้ที่ 0-2679-1200 หรืออีเมล [email protected] ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าชมได้ที่เว็บไซต์ banyantree.com ดาวน์โหลดรูปและข้อมูลได้ที่: APSARA Kin News Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม…
โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เชิญคุณมาสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยกับ Six-Hand Dinner: Flourish x KAEN ลิ้มลองอรรถรสความอร่อยของเมนูอาหารไทยสไตล์อีสานร่วมสมัย 7-คอร์ส ที่ปรุงขึ้นโดย เชฟชัชษร ประทุมมา จากห้องอาหารเฟลอริช โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ห้องอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ (MICHELIN Bib Gourmand) ผสานความอร่อยแบบไทยร่วมสมัยฝีมือเชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ และเชฟจิ๊บ-กัญญารัตน์ ถนอมแสง จาก ร้านแก่น ร้านอาหารจากจังหวัดขอนแก่น ที่ได้รับรางวัลมิชลิน เพลท (MICHELIN Plate) เชฟชัชษร ประทุมมา Executive Sous Chef โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ มีประสบการณ์ด้านการปรุงอาหารมากมายทั้งในเอเชียและยุโรป พร้อมรังสรรค์เมนูอาหารไทยที่มีสไตล์เฉพาะไม่เหมือนใครเพื่อนำเสนอรสชาติไทยแสนอร่อยให้ชาวไทยและชาวต่างชาติได้ลิ้มลอง ผนวกกับเมนูอาหารไทย-อีสานสุดสร้างสรรค์จากร้าน “แก่น” โดยเชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ และเชฟจิ๊บ-กัญญารัตน์ ถนอมแสง ที่ภูมิใจนำเสนอแก่นแท้ของความเป็นไทยร่วมสมัยถ่ายทอดผ่านอาหารรสมือของเชฟทั้งสองที่ปรุงขึ้นด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ เริ่มจาก ลาบหมูหลุมโนนศิลา ต่อด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยที่อย่าง ทอดมันปูภูผาม่านสอดไส้ และ ส้มตำมันแกวบรบือ ปลายอนซอสปลาร้าหวาน ลิ้มลอง ซุปไก่บ้านใบย่านาง ที่เชฟพร้อมเสิร์ฟเมนูซุปรสชาติจัดจ้านผสมผสานความเป็นไทยของเครื่องสมุนไพร ตามด้วยกุ้งแม่น้ำกาฬสินธุ์แจ่วบักเขือส้ม อิ่มอร่อยกับเมนูจานหลักอย่าง มหาสารคามแองกัสสันในย่าง กับ คูนเกรวี ปิดท้ายด้วยของหวานอย่างเมนู ไอติมกะละแม ขนมเหนียวดำมะพร้าวอ่อน ขนุนสาโท Six-Hand Dinner:โดย เชฟชัชษร ประทุมมา จากห้องอาหารเฟลอริช โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ และ เชฟไพศาล ชีวินศิริวัฒน์ และเชฟจิ๊บ-กัญญารัตน์ ถนอมแสง จากร้านอาหารแก่น จังหวัดขอนแก่น พร้อมบริการคุณในมื้อค่ำวันศุกร์ที่ 15 – วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ในราคาท่านละ 2,700++ บาท ที่ห้องอาหารเฟลอริช…
การเยี่ยมชมพระราชวังคย็องบกในชุดฮันบกทำให้ประสบการณ์ครั้งนี้มีสีสันและเต็มไปด้วยบรรยากาศยุคโชซอน การได้สวมใส่ชุดกษัตริย์โชซอนสีแดงมีตรามังกรห้าเล็บสีทองเสริมความสง่างามและขลัง รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในยุคสมัยที่เหล่าราชวงศ์ครองอำนาจ อีกคนหนึ่งใส่ชุดฮันบกสำรับมงกุฎราชกุมารที่เป็นชุดออกประพาสสีน้ำเงิน ตรามังกรสี่เล็บบนชุดสะท้อนความสง่างามตามตำแหน่ง ทั้งสองชุดเข้ากันดีกับบรรยากาศของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและช่วยให้เราได้เข้าเที่ยวชมวังฟรีตามธรรมเนียม นับเป็นความประทับใจที่ยากจะลืมและทำให้รู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ แต่เราคงต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าภาพในคอลัมน์นี้อาจจะน้อยเพราะภาพอีกส่วนที่ถ่ายด้วยมือถือตอนนี้พยายามกู้กลับมาอยู่เนื่องจากมือถือจีนเมนบอร์ดใช้ไปอยู่ๆก็ระเบิดขึ้นมา ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่พระราชวังคย็องบก (Gyeongbokgung Palace) งดงามที่สุดของปี เมื่อทิวทัศน์ของต้นเมเปิ้ล ต้นหลิว และต้นแปะก๊วยที่รายล้อมวังเปลี่ยนเป็นเฉดสีแดงสด เหลืองทอง และส้ม บรรยากาศของพระราชวังที่เก่าแก่ที่ขนาดใหญ่สุดของราชวงศ์โชซอนนี้ ชวนให้ผู้มาเยือนรู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในยุคอดีต แสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบลงบนอาคารไม้สีแดงเข้มสะท้อนศิลปะเกาหลีแบบดั้งเดิม เข้ากันได้ดีกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่อบอุ่น ทำให้การท่องเที่ยวพระราชวังคย็องบกในฤดูกาลนี้ยิ่งพิเศษขึ้นไปอีก ประตูควังฮวามุน (Gwanghwamun Gate) เริ่มต้นที่ประตูควังฮวามุน (광화문) ซึ่งเป็นประตูหลักของพระราชวังคย็องบก ประตูนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1395 และเป็นทางเข้าที่สร้างขึ้นในยุคแรกๆ ของพระราชวัง นับเป็นประตูที่สำคัญที่สุดในยุคโชซอน ประตูนี้นำพาเข้าสู่บริเวณพระราชวังและเปิดทางให้เห็นทิวเขาบุกฮันซาน (Bugaksan Mountain) เป็นฉากหลัง ที่ในฤดูใบไม้ร่วงนั้นเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ภาพประตูโบราณตัดกับสีสันของใบไม้สร้างบรรยากาศงดงามและขลัง ซึ่งผู้มาเยือนมักถ่ายภาพตรงบริเวณนี้เพื่อเก็บความทรงจำ ศาลาเคียงเฮรุ (Gyeonghoeru Pavilion) ถัดจากประตูควังฮวามุน เดินเข้าไปไม่ไกลนักจะพบกับศาลาเคียงเฮรุ (경회루) ศาลาแห่งนี้เป็นศาลากลางน้ำที่งดงาม ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่จัดงานเลี้ยงและงานสำคัญของราชวงศ์โชซอน ตัวศาลาตั้งอยู่บนเสาของศาลาระหว่างบึงน้ำใหญ่ รอบบึงน้ำนี้รายล้อมไปด้วยต้นเมเปิ้ลและต้นแปะก๊วยที่เริ่มเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง เงาสะท้อนของศาลาลงบนผิวน้ำสีฟ้าใสช่วยเสริมความงามของศาลาเคียงเฮรุให้โดดเด่น ผู้มาเยือนมักนั่งชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีและศาลาจากมุมนี้ เพราะความงดงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมผสานกันอย่างลงตัว พระที่นั่งคึนจองจอน (Geunjeongjeon Hall) พระที่นั่งคึนจองจอน (근정전) ถือเป็นอาคารสำคัญที่สุดในพระราชวังคย็องบก เป็นที่ประทับของกษัตริย์และเป็นที่จัดพิธีการสำคัญ ตัวอาคารถูกออกแบบในสไตล์เกาหลีโบราณที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดที่ประณีต ความโดดเด่นของพระที่นั่งนี้อยู่ที่โครงสร้างไม้และหลังคาที่มีความสูงใหญ่และซับซ้อน ยิ่งเมื่ออยู่ท่ามกลางบรรยากาศฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สีสันของใบไม้รอบๆ ทำให้พระที่นั่งยิ่งโดดเด่นและสง่างาม บริเวณลานกว้างหน้าพระที่นั่งมีทหารยามในเครื่องแต่งกายโบราณที่เพิ่มความสมจริงให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในยุคโชซอน ศาลากลางน้ำฮยางวอนจอง (Hyangwonjeong Pavilion) ศาลากลางน้ำฮยางวอนจอง (향원정) เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของพระราชวังคย็องบกที่มีความงดงามแตกต่างจากจุดอื่นๆ ศาลาเล็กๆ แห่งนี้ตั้งอยู่กลางสระน้ำซึ่งสามารถเดินข้ามสะพานไม้สีแดงไปได้ ในฤดูใบไม้ร่วง บริเวณนี้จะถูกปกคลุมด้วยใบไม้สีแดงสดและเหลืองทอง เป็นทัศนียภาพที่งดงามและเงียบสงบ บรรยากาศรอบศาลาฮยางวอนจองนี้ช่วยเสริมให้ผู้มาเยือนรู้สึกสงบและผ่อนคลาย การได้เดินข้ามสะพานไม้สู่ศาลากลางน้ำในบรรยากาศของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีถือเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ พระตำหนักคย็องฮวยรูและสวนลับ (Huwon Garden) เดินลึกเข้าไปอีก ผู้มาเยือนจะพบพระตำหนักคย็องฮวยรู ซึ่งมีสวนลับที่แวดล้อมด้วยต้นไม้สูงใหญ่และปกคลุมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง สวนลับนี้เป็นพื้นที่ที่กษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ใช้พักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบ มีบ่อปลาและศาลาน้อยๆ สำหรับการนั่งชื่นชมธรรมชาติ ใบไม้สีสันสดใสในสวนลับที่สะท้อนในน้ำบ่อทำให้ภาพรวมของสวนลับดูงดงามราวกับอยู่ในภาพวาดเก่าแก่ การเดินชมสวนลับในฤดูใบไม้ร่วงทำให้รู้สึกผ่อนคลายและซึมซับกับบรรยากาศของธรรมชาติและความเป็นประวัติศาสตร์ของเกาหลี เมื่อเดินลึกเข้าไปในพระราชวังคย็องบก ยังมีหมู่อาคารและสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจอยู่ด้านหลังวัง หนึ่งในนั้นคือเจดีย์สูงที่ตั้งตระหง่านโดดเด่น แสดงถึงความศรัทธาทางศาสนาพุทธและความปรารถนาของราชวงศ์ในการสร้างที่พักสงบทางจิตวิญญาณ เจดีย์นี้สะท้อนถึงความเชื่อในโชคลาภและการขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ผู้มาเยือนสามารถเดินชมเจดีย์และสัมผัสถึงศิลปะการก่อสร้างที่ผสมผสานความศรัทธาและความงดงามได้อย่างลงตัว นอกจากเจดีย์แล้ว ยังมีรูปปั้นหินของ 12 นักษัตรที่ตั้งเรียงรายในบริเวณสวนใกล้เคียง…
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับค่ำคืนแห่งความสนุกสุดหลอนกับบุฟเฟต์ดินเนอร์ฮาโลวีนที่ห้องอาหาร เรน ทรี คาเฟ่ ในวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2567! สำหรับผู้ที่แต่งกายในชุดแฟนซีธีมฮาโลวีน ผู้ใหญ่รับส่วนลดจัดเต็มถึง 50% และเด็กเข้าฟรี เมนูชวนลิ้มลองในค่ำคืนผีสุดเฮี้ยนนี้ ได้แก่ ปลาหมึกย่างในซอสมะเขือเทศสีเลือดฟัวกราส์ย่าง ปลากะพงขาวเนื้อนุ่ม หอมกลิ่นสมุนไพรไทยแกงพะแนงปลาแซลมอนรสเข้มข้น และทาร์ตกล้วยหอมหวานละมุนบุฟเฟต์แสนอร่อยพร้อมเสิร์ฟตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.00 น.ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 1,800 บาท/ท่าน พร้อมรับส่วนลด 50%สำหรับผู้ที่แต่งตัวในชุดธีมฮาโลวีน ส่วนเหล่า ‘ปีศาจน้อย’ อายุตั้งแต่ 6 ถึง 12 ปีราคาเพียง 900 บาท/ท่าน และเข้าฟรีสำหรับเด็ก ๆ ที่แต่งตัวตามธีมฮาโลวีน! สมาชิกแมริออท บอนวอย รับส่วนลด 10% และคลับแมริออท รับส่วนลด 30%สำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่มห้องอาหาร เรน ทรี คาเฟ่ ตั้งอยู่ที่ชั้น G โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทลเปิดความกล้า ท้าความอร่อยในช่วงเทศกาลฮาโลวีนนี้! สำรองที่นั่งได้เลยที่https://athenee.co/RTCHalloween Kin News Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ…
1. Trick or Treats! ร่วมฉลองความหฤหรรษ์ สังสรรค์ฮาโลวีน กับขนมหวานเมนูใหม่สุดพรี่เมียม ที่รอให้คุณมาลิ้มลอง @ Bijoux de Beurre Echire ในเดือนตุลาคม ทางทีมงาน Kinandleisure ขอนำเสนอการเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีนของร้านขนมฝรั่งเศสชื่อดังอย่าง Bijoux de Beurre Echire ที่มีอยู่สองสาขา ทั้งที่ Earth Ekamai และ The Emsphere ที่ได้จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อต้อนรับเทศกาลฮาโลวีนในปีนี้ ซึ่งก็ไม่ได้มาเล่น ๆ แต่มาพร้อมการนำเสนอขนมใหม่ในธีมฮาโลวีน ซึ่งผ่านการประดิษฐ์คิดค้นเมนูด้วยความคิดสร้างสรรค์โดยเชฟขนมผู้มากฝีมือ พร้อมการสร้างสรรค์เมนูขนมหวานด้วยเนย Echire สุดยอดเนยมาตรฐาน AOP จากฝรั่งเศสที่ผลิตจากนมวัวสดใหม่ทุกเช้าของวันที่ผลิต <คลิกที่นี่เพื่ออ่านต่อ> 2. เติมสีสันวันฮาโลวีนด้วยบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อค่ำสุดตระการตา ณ ห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์ goji kitchen, Marriott Marquis Queen’s park Bangkok halloween 2024 ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2567 นี้ โกจิ คิทเช่น + บาร์ ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติชั้นนำแห่งโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ขอเชิญชวนเพื่อนฝูงและครอบครัวมาร่วมฉลองค่ำคืนฮาโลวีนอันน่าตื่นเต้นด้วยอาหารนานาชาติสุดพิเศษในบรรยากาศธีมฮาโลวีนที่จัดเต็มความสนุกและความหลอนอย่างมีสไตล์ <คลิกที่นี่เพื่ออ่านต่อ> 3. หลอนขนหัวลุกปลุกผีทั้งป่าช้ามายัดกันไว้ที่ Halloween 2024 ณ JW Marriott Bangkok เตรียมตัวรับความหลอนแสนอร่อยกับขบวนขนมหวานธีมฮาโลวีนจากห้องอาหารแบงค็อก เบกกิ้ง คอมพานี (บีบีโค) มาพร้อมค็อกเทลสายหลอนสุดสร้างสรรค์จากแมนฮัตตัน บาร์ ที่จะมาช่วยเพิ่มความสยองในเทศกาลปล่อยผี ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2567 <คลิกที่นี่เพื่ออ่านต่อ> 4. ปลุกความสนุกสนานต้อนรับเทศกาลฮาโลวีนไปกับเครื่องดื่มค็อกเทลและม็อกเทล ที่ โซแคล So cal, Intercontinential bangkok โซแคล (SoCal) ห้องอาหารสไตล์แคลิฟอร์เนีย ตั้งอยู่ที่โรงแรม…
เตรียมตัวรับความหลอนแสนอร่อยกับขบวนขนมหวานธีมฮาโลวีนจากห้องอาหารแบงค็อก เบกกิ้ง คอมพานี (บีบีโค) มาพร้อมค็อกเทลสายหลอนสุดสร้างสรรค์จากแมนฮัตตัน บาร์ ที่จะมาช่วยเพิ่มความสยองในเทศกาลปล่อยผี ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2567 ปลุกปีศาจความอร่อยรับเทศกาลฮาโลวีนด้วยเมนูขนมหวานที่ เชฟโอ เพ็ญสิริ โชติแก้ว เชฟขนมหวานประจำห้องอาหารแบงค็อก เบกกิ้ง คอมพานี (บีบีโค) ได้รังสรรค์ขึ้นมา ตั้งแต่เมนูเค้กช็อกโกแลตไส้แยมแอปเปิล ชีสเค้กข้าวโพด เค้กเนยถั่วฟักทอง คัพเค้กเรดเวลเวทที่มีครีมชีสฟรอสติ้งรูปผีน้อยน่ารักคลุมอยู่ข้างบน ไปจนถึงเมนูคุกกี้ช็อกโกแลตชิพแมคคาเดเมีย ให้ทุกท่านได้สัมผัสความหลอนปนน่ารักที่มาในรูปแบบขนมหวานแสนอร่อย ราคาเริ่มต้น 80 บาทสุทธิ ต่อชิ้น สำหรับใครที่อยากเพิ่มเติมสีสันวันฮาโลวีนให้สนุกมากยิ่งขึ้น คุณคิว พชรวัฒน์ พัฒนพงษ์ตระกูล ผู้จัดการแผนกเครื่องดื่มประจำโรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ พร้อมมาเขย่าขวัญให้ทุกท่านรับความหลอนไปกับค็อกเทลในธีมแม่มดใจร้าย อาทิ เมนู “Young Blood” ค็อกเทลที่บอกเล่าเรื่องราวของแม่มดที่ต้องดื่มเลือดของสาวพรหมจรรย์เพื่อคงไว้ซึ่งความเยาว์วัย เมนู “Poison” ค็อกเทลที่มาพร้อมเยลลี่อาบยาพิษ ปรุงขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือฆ่าหญิงสาวบริสุทธิ์ หรือเมนู “Awaken” เปรียบดั่งยาถอนพิษที่มีฤทธิ์ช่วยฟื้นคืนชีพให้คนที่ถูกมนต์ดำครอบงำ ทุกแก้วมาพร้อมเรื่องราวเคล้าความหลอน ในราคา 420++ บาท ต่อแก้ว โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ชวนคุณมาซึมซับบรรยากาศแสนสนุกช่วงเทศกาลฮาโลวีน ให้คุณได้แต่งตัวสวยสยองแบบจัดเต็ม พร้อมมารับประทานขนมหวานและเครื่องดื่มสุดหลอนแสนอร่อยได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2567 ที่ห้องอาหารแบงค็อก เบกกิ้ง คอมพานี (บีบีโค) และแมนฮัตตัน บาร์ ห้องอาหารแบงค็อก เบกกิ้ง คอมพานี (บีบีโค) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 ถึง 20.30 น. และแมนฮัตตัน บาร์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึงเที่ยงคืน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร 02.656.7700 Kin News Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ…