เมื่อเทศกาลไหว้บะจ่างเวียนมาถึงในแต่ละปี นอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งการรำลึกถึงประวัติศาสตร์จีนโบราณ ยังเป็นฤดูกาลแห่งการมอบความสุข ความโชคดี และความเป็นสิริมงคลให้กับคนที่คุณรัก ซึ่งปีนี้ ห้องอาหารพาโกด้า ไชนีส เรสเตอรองท์ โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ได้หยิบยกเสน่ห์ของบะจ่างสูตรดั้งเดิมจากเมืองเจียซิง ประเทศจีน มารังสรรค์อย่างประณีต เพื่อเปลี่ยนขนมโบราณชิ้นนี้ให้เป็นของขวัญชั้นเลิศ ทั้งในรสชาติและรูปลักษณ์ ต้นตำรับแท้จากเจียซิง สู่ความพิถีพิถันในทุกคำ เชฟออสก้า ปัน และทีมเชฟชาวจีนของห้องอาหารพาโกด้า ไม่เพียงยึดถือตำรับดั้งเดิมของบะจ่างจากเมืองเจียซิง (Jiaxing Zongzi) ที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติและคุณภาพ แต่ยังลงรายละเอียดในทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ ไปจนถึงเทคนิคการห่อที่งดงาม เปรียบเสมือนงานศิลป์ที่กินได้ ข้าวเหนียวเนื้อนุ่มที่ผ่านการนึ่งจนสุกพอดี ห่อแน่นด้วยใบไผ่หอมละมุน เป็นฐานของรสสัมผัสที่สมบูรณ์แบบ รองรับไส้บะจ่างทั้งสองรสชาติที่ห้องอาหารนำเสนอในปีนี้ ได้แก่: บะจ่างไส้เค็ม – ความหรูหราจากวัตถุดิบระดับจักรพรรดิ ราคา 328 บาทสุทธิ / ชิ้นไส้เค็มลูกนี้อัดแน่นด้วยความมั่งคั่งในสไตล์จีนแท้ เริ่มจาก หอยเป๋าฮื้อ และ หอยเชลล์แห้ง สองวัตถุดิบจากทะเลที่ให้กลิ่นอายแห่งความหรูหรา เคียงคู่ด้วย ไข่แดงเค็ม ไส้กรอกจีน ซี่โครงหมูตุ๋น กุ้งแห้ง เห็ดชิทาเกะ ถั่วเหลือง เกาลัด และ เม็ดบัว ซึ่งผสมผสานกันได้อย่างนุ่มนวลในทุกคำ บะจ่างไส้หวาน – ความกลมกล่อมละเมียดละไม ราคา 288 บาทสุทธิ / ชิ้นหากคุณเป็นคนที่หลงใหลในรสหวานละมุน บะจ่างไส้นี้คือคำตอบ – ด้วยส่วนผสมอย่าง เผือกเนื้อเนียน แปะก๊วย พุทราจีน เกาลัด เม็ดบัว ถั่วแดง และถั่วเหลือง ซึ่งผสมผสานกันอย่างสมดุล ให้รสสัมผัสที่เต็มไปด้วยความหอมหวานแบบละเมียดละไมที่ไม่เลี่ยน กล่องของขวัญที่งามทั้งรูปและรส ไม่เพียงแต่ตัวบะจ่างที่น่าประทับใจ หาก บรรจุภัณฑ์กล่องของขวัญ ก็ออกแบบมาอย่างงดงามในโทนสีเขียวหยก ผสมผสานกับลายไม้ไผ่และพู่จีนสีทอง ดูเรียบหรูอย่างมีเอกลักษณ์ สื่อถึงความโชคดีและความสง่างามแบบวัฒนธรรมจีน กล่องละ 2 ชิ้น จัดจำหน่ายใน 2 แบบ: กล่องละ 788 บาทสุทธิ (ไส้เค็ม 2 ชิ้น…
Author: Kittin Assavavichai
ในบรรดาเทศกาลมงคลของชาวจีน “เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง” หรือ ตวนอู่เจี๋ย นั้นมีความพิเศษทั้งเชิงวัฒนธรรมและความศรัทธา และในแวดวงของคนรักอาหาร นี่คือช่วงเวลาทองที่เราจะได้ลิ้มรสบ๊ะจ่างตำรับพิเศษซึ่งแต่ละร้านต่างงัดฝีมือกันออกมาอย่างเต็มที่ ปีนี้ ร้านอาหารจีน “ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน” ได้นำเสนอเมนูบ๊ะจ่างที่เรียกได้ว่า เหนือระดับ ในทุกแง่มุม — “บ๊ะจ่างกังป๋วยรวมมิตรสไตล์ฮ่องกง” ที่รังสรรค์ขึ้นจากสูตรต้นตำรับฮ่องกงแท้ดั้งเดิม ลูกใหญ่พิเศษ ขนาดเกือบหนึ่งกิโลกรัมต่อหนึ่งลูก ห่อแน่นด้วยวัตถุดิบคุณภาพ 12 ชนิดอย่างพิถีพิถัน ทุกคำให้ความรู้สึกถึงความใส่ใจที่เหนือชั้นจากครัวภัตตาคาร รสชาติที่มาพร้อมโชคลาภและความมั่งคั่ง ในแง่ของรสชาติ บ๊ะจ่างลูกนี้ให้มิติที่ซับซ้อนและกลมกล่อมจากวัตถุดิบระดับพรีเมียม อาทิ เป็ดย่างหนังกรอบ กลิ่นหอมอ่อนของซอสจีนเคล้ากับความกรอบที่ลงตัว หมูสามชั้นหมักซีอิ๊ว เคี่ยวจนละลายในปาก ไข่แดงเค็ม สีทองสด มันเค็มกำลังดี กังป๋วย (หอยเชลล์แห้ง) ชิ้นใหญ่ เนื้อแน่น หอมกลิ่นทะเล รวมถึงวัตถุดิบสัญลักษณ์แห่งสิริมงคลอย่าง แปะก๊วย กุนเชียง เกาลัด ถั่วลิสง เห็ดหอม กุ้งแห้ง และ ถั่วเขียวทั้งหมดนี้ห่อด้วยข้าวเหนียวเขี้ยวงูเมล็ดยาวที่มีความเหนียวนุ่ม ไม่เละไม่แฉะ ทำให้เนื้อสัมผัสของทั้งเม็ดข้าวและไส้แน่นรวมกันอย่างมีจังหวะ เสิร์ฟพร้อมซอสซีอิ๊วปลาสไตล์ฮ่องกง และน้ำตาลทราย – เครื่องเคียงที่ยกระดับ ความประณีตไม่ได้หยุดอยู่แค่ในตัวบ๊ะจ่าง เชฟยังแนะนำให้รับประทานคู่กับ ซีอิ๊วปลาสไตล์ฮ่องกง ที่ให้รสกลมกล่อมเค็มหวาน ปรุงแต่งรสชาติให้ครบลำดับ และ น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญตามธรรมเนียมโบราณ ช่วยเสริมมิติของรสและเพิ่มความมงคลในแต่ละคำ ของฝากแสนอร่อย บ๊ะจ่างกังป๋วยฯ นี้จัดจำหน่ายในบรรจุภัณฑ์ตะกร้าสานโทนสีอบอุ่น ดูหรูหราแบบจีนร่วมสมัย เหมาะทั้งซื้อเป็นของฝากให้ผู้ใหญ่หรือมอบเป็นของกำนัลในช่วงเทศกาล รายละเอียดการจำหน่าย ราคา: 1 ลูก 380 บาท / 2 ลูก 730 บาท (รวมภาษีและค่าบริการแล้ว) จำหน่ายถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เท่านั้น สถานที่: ร้านฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน (ล็อบบี้ อาคาร 12) และร้านฮ่องกง คาเฟ่ (ชั้น 1 อาคารชาเลนเจอร์ 3) อิมแพ็ค เมืองทองธานี โทร.…
ในช่วงเวลาที่สายลมต้นฤดูฝนเริ่มพัดผ่าน พร้อมกลิ่นหอมของข้าวเหนียวและเครื่องเทศลอยอบอวลมาจากครัวจีนเก่าแก่ใจกลางกรุงเทพฯ ห้องอาหารจีน “ไชน่าพาเลซ” โรงแรมปรินซ์พาเลซ นำเสนอประสบการณ์รสชาติระดับตำนาน กับ “บ๊ะจ่างสูตรดั้งเดิม” ซึ่งสืบทอดมากว่า 30 ปี เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้ขนมจ้าง หรือเทศกาลตวนอู่เจี๋ย ที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ภายใต้แนวคิด “รสชาติที่เล่าเรื่องได้” คุณสุกฤตา ชมธวัช ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์ของโรงแรม ได้กล่าวไว้ว่า บ๊ะจ่างของไชน่าพาเลซไม่ได้เป็นเพียงอาหาร หากคือมรดกทางวัฒนธรรมที่ส่งต่อผ่านความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ ไปจนถึงการปรุงด้วยเทคนิคต้นตำรับจีนแท้ สองเมนูซิกเนเจอร์ที่ไม่ควรพลาด 1. บ๊ะจ่างสูตรดั้งเดิม – ราคา 88 บาทสุทธิถือเป็นเมนูที่หวนคืนสู่ความคลาสสิกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ห่อด้วยใบไผ่หอมสดใหม่ ข้าวเหนียวเมล็ดสวยเหนียวนุ่มแน่นพอดีคำ ภายในอัดแน่นด้วยวัตถุดิบหายากในปัจจุบัน เช่น กุ้งแห้งคุณภาพดี เห็ดหอมอบแห้งหั่นชิ้นใหญ่ ไข่แดงเค็มสีส้มเข้มที่เค็มกลมกล่อมไม่ฉุนจนเกินไป เสริมด้วยเกาลัดหวานกรุบ และแปะก๊วยเนื้อหนึบที่ให้กลิ่นอายของอาหารจีนแบบดั้งเดิม 2. บ๊ะจ่างสูตรพรีเมียม – ราคา 199 บาทสุทธิสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความหรูหราในเทศกาล บ๊ะจ่างสูตรพรีเมียมนี้คือคำตอบ ตัวไส้ถูกยกระดับด้วยหอยเป๋าฮื้อชิ้นงามและหอยเชลล์แห้งหรือกังป๊วยที่ให้รสหวานละมุนแบบทะเลจีนดั้งเดิม ความกลมกล่อมของข้าวเหนียวที่ซึมซับรสชาติจากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม ทำให้บ๊ะจ่างถุงนี้ไม่ใช่เพียงอาหาร แต่เป็นงานศิลปะที่ผ่านการรังสรรค์อย่างประณีต โปรโมชั่นสั่งล่วงหน้าที่ตอบโจทย์ทั้งครอบครัวและองค์กร ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม 2568 ลูกค้าที่สั่งบ๊ะจ่างล่วงหน้าในปริมาณมากจะได้รับส่วนลดพิเศษ: สั่ง 100 ชิ้นขึ้นไป รับส่วนลด 10% สั่ง 200 ชิ้นขึ้นไป รับส่วนลด 20% โปรโมชั่นนี้เหมาะสำหรับการเตรียมของไหว้ในช่วงเทศกาล หรือเป็นของฝากที่มอบความหมายลึกซึ้งให้แก่ญาติผู้ใหญ่และพันธมิตรทางธุรกิจ สถานที่และช่วงเวลาบริการ ทุกเมนูพร้อมเสิร์ฟ ณ ห้องอาหารไชน่าพาเลซ ชั้น 32 อาคาร A โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ ซึ่งเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 – 21.00 น. ท่ามกลางบรรยากาศจีนร่วมสมัยที่ยังคงกลิ่นอายของราชสำนักจีนอันโอ่อ่า หากคุณกำลังมองหาความทรงจำในรสชาติที่ผสานวัฒนธรรมจีนอย่างแท้จริง “บ๊ะจ่างจากไชน่าพาเลซ” คือคำตอบที่ควรลิ้มลองอย่างยิ่งในเทศกาลปีนี้ เพราะบางครั้ง…ความอร่อยที่แท้จริง อาจไม่ใช่แค่รสชาติ แต่คือความตั้งใจที่ซ่อนอยู่ในทุกคำที่คุณกิน สอบถามเพิ่มเติมหรือสั่งจองล่วงหน้า โทร. 02…
“สามรส สามวัฒนธรรม สามภูมิปัญญาในใบไผ่” — บ๊ะจ่าง 3 สหายแห่งเดอะ ซิลค์ โร้ด ณ ใจกลางมหานครที่ไม่เคยหลับใหล ห้องอาหารจีนระดับตำนาน เดอะ ซิลค์ โร้ด ณ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ได้เปิดม่านต้อนรับเทศกาลแข่งเรือมังกรประจำปี 2568 ด้วยบ๊ะจ่าง 3 สหาย — อาหารประเพณีที่แฝงไว้ด้วยเรื่องเล่า วัฒนธรรม และความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนของการสร้างสรรค์ เชฟกั๊ม แห่งเดอะ ซิลค์ โร้ด — บุคคลผู้คร่ำหวอดในครัวจีนระดับภัตตาคารมาหลายทศวรรษ — ได้รังสรรค์บ๊ะจ่างทั้งสามชนิดในปีนี้ด้วยหัวใจที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และรสสัมผัสอันลุ่มลึกเข้าสู่มิติแห่งรสชาติ ที่มิใช่เพียงความอร่อย หากแต่เป็นบทสนทนาอันลึกซึ้งของวัตถุดิบ สัดส่วน เทคนิค และรากวัฒนธรรมที่เชฟบรรจงร้อยเรียงไว้ในแต่ละห่อ 1. บ๊ะจ่างสูตรพิเศษของเชฟ (Chef’s Signature Zong Zi) ไฮไลต์ของปีนี้อยู่ที่ห่อนี้ — บ๊ะจ่างที่เชฟกั๊มรังสรรค์ขึ้นใหม่ในสไตล์ “กวางตุ้งร่วมสมัย” ด้วยหัวใจและมือของผู้ปรุงที่ผ่านครัวมามากกว่าครึ่งศตวรรษ ข้าวเหนียวเนื้อเนียนไม่ร่วนไม่เละ ถูกคลุกเคล้าอย่างแยบยลกับซีอิ๊วดำคุณภาพสูงและกลิ่นหอมเย้ายวนของพุทราจีนแห้งที่ผ่านการตุ๋นอย่างพิถีพิถันจนเปื่อยนุ่มราวเยื่อใยไหม ตัดรสด้วยกุ้งแห้งขนาดกำลังพอเหมาะ ให้รสชาติเค็มละเมียด ถั่วแดงเม็ดนุ่มสุกพอดี เห็ดหอมชั้นดี ถั่วลิสงกรุบกรอบ และหมูคุโรบูตะที่ผ่านการตุ๋นในน้ำปรุงจนเข้าเนื้อ กลายเป็นหนึ่งในห่อที่นำเสนอรสชาติ “จีนแบบใหม่” ซึ่งยังคงยืนหยัดบนรากฐานของสูตรดั้งเดิม 2. บ๊ะจ่างกวางตุ้ง (Cantonese Zong Zi) คลาสสิกที่ผู้หลงใหลอาหารจีนไม่ควรพลาด บ๊ะจ่างสูตรกวางตุ้งแท้ที่ยึดมั่นในหลักของ “รสพอดี ความกลมกล่อม และวัตถุดิบต้องสด” ข้าวเหนียวเหนียวนุ่มกำลังดี ปรุงรสเค็มอมหวานด้วยซีอิ๊วดำที่เชฟเลือกใช้เฉพาะซีอิ๊วหมักบ่มนาน เพิ่มกลิ่นหอมพิเศษเฉพาะตัว ภายในซ่อนขุมทรัพย์อันหลากหลาย — หมูคุโรบูตะหั่นชิ้นหนาให้เคี้ยวเต็มคำ กุนเชียงที่มีกลิ่นรมควันจาง ๆ ไข่แดงเค็มที่ไม่แห้งไม่ร่วน แต่ชุ่มฉ่ำมันกำลังดี เกาลัดนุ่มแน่น เมล็ดบัว ถั่วเขียว และเห็ดหอมซึ่งล้วนผ่านกรรมวิธีที่แม่นยำ ทำให้รสสัมผัสทั้งหมดในคำเดียวเปรียบเสมือนการไล่ระดับของออร์เคสตรา รื่นรมย์แบบมีจังหวะ 3. บ๊ะจ่างเป๋าฮื้อ (Abalone Zong…
การพบกันของคราฟเบียร์และอาหารไทยเลิศรส กรุงเทพฯ ประเทศไทย – ห้องอาหารนิมิตร โรงแรม 137 พิลลาร์ สวีท แอนด์ เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพฯ ร่วมกับ วานา บริววิ่ง นำเสนอ มื้ออาหารค่ำ 5 คอร์สจับคู่กับคราฟเบียร์ไทย 5 รสชาติ ที่เข้ากันอย่างลงตัว ในวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2568 เวลา 19:00 น. – 22:00 น. รังสรรค์ประสบการณ์โดยทีมเชฟมากความสามารถ และผู้เชียวชาญด้านคราฟเบียร์ไทยระดับรางวัล ราคา 1,888++ บาทต่อท่าน สำหรับอาหารไทยรสชาติเข้มข้น 5 คอร์ส ที่รังสรรค์อย่างมีศิลปะ พร้อมร้อยเรียงรสชาติเข้ากับคราฟเบียร์ไทย 5 รสชาติ พร้อมรับที่รองแก้วเซรามิก “137 พิลลาร์ x วานา บริววิ่ง” ของที่ระลึกพิเศษสำหรับค่ำคืนนี้เท่านั้น พิศษส่วนลด 15% เมื่อสำรองโต๊ะภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เมี่ยงคำหอยเชลล์ – หอยเชลล์ย่างเสิร์ฟพร้อมสมุนไพรไทย มะพร้าวคั่ว และซอสรสกลมกล่อม บนใบชะพลูกรอบ จับคู่กับ คริสปี้บอย เฮลส์ ลาร์เจอร์ด (Crispy Boy Helles Lager) ต้มกระดูกหมูอ่อนหน่อไม้ไผ่ตง – ซุปหน่อไม้ไผ่ตงกระดูกหมูอ่อน จับคู่กับ วาฬ เพล เอล (Whale Pale Ale) แกงเหลืองปลาแซลมอน – แกงเหลืองปลาแซลมอนท๊อปไข่ปลาแซลมอน จับคู่กับ วิฬาร์ ไวเซ่น (Wila Weizen) มัสมั่นแกะ – แกงมัสมั่นแกะเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย จับคู่กับ ราเวน ไอพีเอ (Raven IPA) ขนมเปียกปูน – พุดดิ้งชาร์โคล เสิร์ฟพร้อมครีมกะทิ แปะก๊วย มะพร้าวขูดและมูสมะพร้าว จับคู่กับ อนันต์ ดีดีเดช ฮาเซ่ ไอพีเอ…
Sense of Sakura Afternoon Tea @ The Okura Prestige Bangkok Afternoon Tea สุดละมุนในกลิ่นอายซากุระใจกลางกรุงเทพฯ หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์น้ำชายามบ่ายที่มีทั้งความหรูหรา ความละมุน และกลิ่นอายญี่ปุ่นแบบเต็มขั้น ต้องไม่พลาด “Sense of Sakura Afternoon Tea” ณ ห้องอาหาร Up & Above Bar โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ห้องอาหาร Up & Above Bar ตั้งอยู่บนชั้น 24 ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ตัวร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เรียบหรู มีความโปร่งโล่งจากกระจกบานใหญ่ที่มองเห็นวิวเมืองได้แบบพาโนรามา บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนยามบ่ายกับคนรู้ใจหรือกลุ่มเพื่อนสุดพิเศษ ชุดน้ำชา Sense of Sakura Afternoon Tea ชุดน้ำชาเซ็ตนี้ออกแบบมาในธีม “ซากุระ” ซึ่งไม่ใช่แค่ความสวยงามของดอกซากุระสีชมพูอ่อนหวานเท่านั้น แต่ยังแฝงด้วยรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของดอกซากุระในแทบทุกเมนู ซึ่งเชฟรังสรรขึ้นอย่างละเมียดละไมทั้งของคาวและหวาน Savory – Watermalon I Wild Hokkaido Smoked Salmon I Yuzu เป็นเมนูที่มีความสร้างสรรค์โดยใช้การผสมผสานกันระหว่างแตงโมที่มีรสชาติหวานชุ่มฉ่ำ กับปลาแซลมอนรมควันจากฮอกไกโดที่มีรสเค็มและความหอม เพิ่มความพรีเมียมด้วยไข่ปลาแซลมอนท็อปด้านบน ผสานด้วยยูซุช่วยเพิ่มความสดชื่นและความเปรี้ยวเล็กน้อย เมื่อทานด้วยกันแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นและมีกลิ่นหอมลงตัวเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ Beetroot I Cheese Mousse I Tartlet เป็นทาร์ตที่มีความพิเศษด้วยการผสมผสานรสชาติหวานจากบีทรูท ความครีมมี่จากมูสชีสและฟัวกราส์ รสชาติออกเค็มเล็กน้อย และความกรุบกรอบจากฐานทาร์ต ทำให้มีรสชาติที่ได้สมดุลและมีมิติที่หลากหลาย Chor-Phaka-Krong I Chicken I Radish เมนูนี้ใช้ชื่อว่าช่อผกากรองแต่ลักษณะการจับจีบและสีสันทำให้คล้ายดอกซากุระที่กำลังบานสะพรั่ง ไส้ข้างในทำจากเนื้อไก่เนียนนุ่มผสมกับเครื่องเทศเล็กน้อยและหัวไชเท้า ทำให้มีเนื้อสัมผัสและความสดชื่นมากยิ่งขึ้น Cheese Croquette I Mentaiko I…
เดอะ ซิลค์ โร้ด ห้องอาหารจีนรสเลิศแห่งโรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ร่วมฉลองเทศกาลบ๊ะจ่าง หรือเทศกาลแข่งเรือมังกร ชวนชิมบ๊ะจ่าง 3 สหาย จากฝีมือเชฟกั๊ม พ่อครัวใหญ่ระดับตำนาน โดยปีนี้ พิเศษกว่าปีไหน ๆ เพราะเชฟกั๊มได้รังสรรค์บ๊ะจ่างสูตรพิเศษของเชฟ ซึ่งผสมผสานตำรับกวางตุ้งแบบดั้งเดิม เข้ากับประสบการณ์และเทคนิคการทำอาหารที่สั่งสมมายาวนาน ลิ้มลองได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2568 บ๊ะจ่าง 3 สหาย ประกอบด้วย บ๊ะจ่างสูตรพิเศษของเชฟ (Chef’s Signature Zong Zi) อันเป็นไฮไลต์ประจำปีนี้ ทุกท่านจะได้สัมผัสรสชาติระดับปรมาจารย์ ที่ลงตัวระหว่างซีอิ๊วดำและพุทราจีน เพิ่มรสชาติด้วยกุ้งแห้ง ถั่วแดง เห็ดหอม ถั่วลิสง และหมูคุโรบูตะ บ๊ะจ่างกวางตุ้ง (Cantonese Zong Zi) ที่คุ้นเคยและรอคอย ปรุงรสชาติหวานเค็มพอดีด้วยซีอิ๊วดำ ครบตำรับกวางตุ้งด้วยกุนเชียง หมูคุโรบูตะ เกาลัด เมล็ดบัว เห็ดหอม ถั่วเขียว และไข่แดงเค็ม บ๊ะจ่างเป๋าฮื้อ (Abalone Zong Zi) เพิ่มความหรูหราด้วยหอยเป๋าฮื้อจากประเทศญี่ปุ่นและวัตถุดิบระดับพรีเมียม บ๊ะจ่าง 3 สหาย พร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 31 พฤษภาคม 2568 สัมผัสรสชาติและประเพณีอันเก่าแก่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมอันหลากหลายของชาวจีนในช่วงเทศกาลบ๊ะจ่าง หรือ เทศกาลแข่งเรือมังกร ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคม ได้ที่เดอะ ซิลค์ โร้ด ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 280++ บาท ให้บริการทุกวัน สำหรับมื้อกลางวันเวลา 11:30 – 14:30 น. มื้อเย็นเวลา 18:00 – 22:00 น. และสำหรับสั่งกลับบ้าน สมาชิกแมริออท บอนวอย รับส่วนลด…
Story : Natthanai C. / Photo : Pol.Capt. Kittin A ในห้วงเวลาที่ความเงียบสงบโอบล้อมความเป็นส่วนตัว ณ ETCHA 360° ซึ่งเพิ่งเปิดม่านต้อนรับในเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา สัมผัสแรกที่ตราตรึงมิใช่เพียงบรรยากาศอันละเมียดละไมภายใต้โทนสีเทาละมุนและเอิร์ธโทนอันแสนอบอุ่น หากแต่เป็นการเดินทางแห่งรสชาติอันน่าอัศจรรย์ที่รังสรรค์โดย Chef Giacomo Primante ผู้เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งการปรุงอาหารมาตั้งแต่เยาว์วัยจากแคว้น Abruzzo ประเทศอิตาลี Chef Giacomo Primante เกิดในปี 1995 ที่เมือง Lanciano ประเทศอิตาลี ได้รับแรงบันดาลใจในการทำอาหารจากหญิงแม่ในครอบครัวตั้งแต่วัยเยาว์ เส้นทางอาชีพของเขาเริ่มต้นที่ร้านอาหาร Chesery ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งได้รับดาวมิชลิน ตามด้วยบทบาทสำคัญในร้านอาหารระดับสามดาวมิชลินในสเปน ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา เช่น Diverxo, Kei Kobayashi, Mirazur และ Benu ปรัชญาการทำอาหารของเขาเน้นการผสมผสานเทคนิคการปรุงอาหารยุโรปเข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่นจากทั่วโลก โดยไม่ยึดติดกับขอบเขตใด ๆ สะท้อนถึงแนวคิด “Borderless Dining” ที่ ETCHA 360° ซึ่งเป็นการนำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไร้พรมแดน เมนูที่ ETCHA 360° ถูกออกแบบให้เป็นการเดินทางทางรสชาติที่เล่าเรื่องราวผ่านแต่ละจาน เช่น การนำปลา Monkfish จากฝรั่งเศสมาผสมผสานกับดอกซูกินีจากเชียงใหม่ ไส้ไก่บด และโฟมกาแฟจากภาคเหนือของไทย สร้างสรรค์เป็นจานที่รวมรสชาติและเทคนิคจากหลากหลายวัฒนธรรม บรรยากาศภายในร้านได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ด้วยโทนสีเอิร์ธโทนและการตกแต่งที่เรียบหรู สร้างความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง เสริมด้วยผ้าม่านที่พลิ้วไหวและแสงไฟอบอุ่น ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกผ่อนคลายและพร้อมเปิดรับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร ที่ ETCHA 360° การรับประทานอาหารไม่ใช่เพียงแค่การลิ้มลองรสชาติ แต่เป็นการสัมผัสศิลปะแห่งการปรุงอาหารที่ผสมผสานวัฒนธรรม เทคนิค และวัตถุดิบจากทั่วโลก นำเสนอผ่านมุมมองของ Chef Giacomo Primante ที่เชื่อว่าการทำอาหารคือการแสดงออกถึงความรักและความหลงใหลในศิลปะการปรุงอาหารอย่างแท้จริง เบื้องหลังความสง่างามนี้ คือเส้นทางอาชีพที่ค้นหาของเชฟ Giacomo ซึ่งได้สั่งสมประสบการณ์จากครัวระดับมิชลินสตาร์ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น Chesery (1 ดาวมิชลิน) ในสวิตเซอร์แลนด์ ไปจนถึง DiverXO, Kei, Mirazur และ Benu…
“Silver Waves by Boon” (ซิลเวอร์เวฟส์ บาย บูน) ณ โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ ก็พร้อมเปิดประตูต้อนรับลูกค้าทุกท่านในเดือนพฤษภาคมนี้ นำเสนอมิติใหม่แห่งการรับประทานอาหารจีนกวางตุ้งระดับไฟน์ไดนิ่งใจกลางเมือง ภายใต้การสร้างสรรค์โดยเชฟมิชลินสตาร์ “Ho Chee Boon” (โฮ ชี บูน) กับห้องอาหารวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของกรุงเทพฯจากชั้น 36 แขกผู้มาเยือนจะได้สัมผัสประสบการณ์ทางรสชาติที่ผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมอาหารจีนดั้งเดิมกับเทคนิคการสรรสร้างอาหารแบบใหม่ที่เรียกได้ว่าเฉพาะตัว และความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลในท้องถิ่นได้อย่างดีเยี่ยม แรงบันดาลใจแห่งความสวยงามของห้องอาหาร “Silver Waves by Boon” มาจากช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์ยามเย็นทอดแสงลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ให้แสงสะท้อนประกายสีน้ำเงินนุ่มละมุนและสอดแทรกด้วยประกายสีโทนอุ่นอย่างเทอร์ราคอตต้า สะท้อนความงดงามราวบทกวีของช่วงโกลเด้นอาวร์แห่งกรุงเทพฯ ของประดับตกแต่งรูปทรงโค้งมน พื้นผิวเคลือบเงา และศิลปะแนวป๊อปอาร์ตจีนร่วมสมัย ต่างช่วยเติมเต็มบรรยากาศในห้องอาหารเพิ่มความมีชีวิตชีวา พร้อมคงไว้ซึ่งกลิ่นอายความงามแบบตะวันออกที่ไร้กาลเวลา นอกจากการตกแต่งร้านในรูปแบบใหม่แล้ว หัวใจสำคัญหลักของการปรับโฉมครั้งนี้คือรูปแบบและปรัชญาการทำอาหารจากเชฟมิชลินสตาร์ของเรา เชฟ “Ho Chee Boon” ที่มีการตีความรสชาติอาหารกวางตุ้งแบบดั้งเดิมอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้ลิ้มลองเมนูต่างๆที่นอกจากจะอร่อยตามแบบฉบับแล้วยังมีเสน่ห์และลูกเล่นมากมายแฝงอยู่ให้ค้นหา ไม่ว่าจะเป็น ปูอบและหัวหอม, ล็อบสเตอร์บอสตันผัดซอสเอ็กซ์โอสุดนุ่มละมุน และเป็ดปักกิ่งหนังกรอบเสิร์ฟพร้อมแป้งนึ่ง ที่ถือว่าเป็นจานขวัญใจมหาชน นอกจากนี้ยังมีหลากหลายติ่มซำรสเลิศที่รังสรรค์โดยเชฟ Mo Jianming (โม่ เจี้ยนหมิง) หัวหน้าเชฟติ่มซำอีกด้วย งานเปิดตัวที่จัดขึ้นเริ่มต้นด้วยการเปิดบ้านครั้งแรกของ “Cloud 36” (คลาวด์ เซอร์ที่ ซิกส์) รูฟท็อปบาร์แห่งใหม่ซึ่งตั้งอยู่ติดกับร้านอาหาร ทุกท่านได้ลิ้มลองเครื่องดื่มและค็อกเทลพร้อมชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ อันตระการตายามพระอาทิตย์อัสดง “Cloud 36” ได้มอบบรรยากาศอันสมบูรณ์แบบสำหรับการจิบเครื่องดื่มเย็นๆสักแก้วชมวิวพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าก่อนเริ่มมื้อดินเนอร์ หรือจะชมบรรยากาศกรุงเทพฯยามค่ำคืน ดื่มด่ำกับความสวยงามของแสงไฟระยิบระยับหลังมื้ออาหาร เรามีหลากหลายเครื่องดื่มสุดสร้างสรรค์จากสมุนไพร เครื่องเทศ แฝงไปด้วยกลิ่นอายแห่งเอเชีย ทั้งยังมีเมนูยอดนิยมทุกประเภทให้คุณได้มาท้าทายบาร์เทนเดอร์มากความสามารถของเรา บรรยากาศภายในงานอบอวลไปด้วยแขกผู้ทรงเกียรติ พันธมิตร และสื่อมวลชนที่มาร่วมเปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ของร้านอาหาร ทั้งในส่วนของการออกแบบ การได้พบปะเชฟระดับมิชลิน อาหารที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น การบริการที่ยอดเยี่ยม และวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาที่ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เปรียบเสมือนบทกวีที่สอดคล้องน่าจดจำมิรู้ลืม Silver Waves by Boon พร้อมเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ ขอเชิญทุกท่านร่วมค้นพบการผสมผสานอันเป็นเอกลักษณ์ระหว่างมรดกและนวัตกรรมอาหารจีนกวางตุ้ง ที่ทุกจาน ทุกองค์ประกอบ ต่างถ่ายทอดเรื่องราวอันน่าประทับใจ Silver Waves by Boon ให้บริการทั้งเมนูอะลาคาร์ทและเซ็ตเมนู…
บิฌูส์ เดอ เบอร์ เอชิเร่” เปิดตัวสาขาสยามพารากอน เอาใจสายช้อป สายชิม มอบประสบการณ์ขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสระดับพรีเมี่ยมที่ใช้ “เอชิเร่” สุดยอดเนยมาตรฐาน AOP จากประเทศฝรั่เศส พร้อมแนะนำขนมใหม่ ทาร์ตไข่ไส้มัจฉะโมจิ | ทาร์ตไข่ไส้เครมบรูเล่โมจิ | ชีสเค้กหน้าไหม้ไส้ลาวา | เอชิเร่ชิโอะปัง Bijoux Siam Paragon กูร์เมท์ วัน กรุ๊ป ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมของประเทศไทย เปิดตัว “บิฌูส์ เดอ เบอร์ เอชิเร่ (Bijoux de Beurre Echire)” ที่สยามพารากอน ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ระดับแนวหน้า แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของคนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ร้านใหม่นี้ ตั้งอยูที่ชั้น G ภายในกูร์เมท์ มาร์เก็ต (Gourmet Market) พร้อมมอบความอร่อยของขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสหลากหลายเมนู ที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าระดับพรีเมี่ยมในทุกขั้นตอนการผลิต โดยเฉพาะ“เอชิเร่ (Echire) ” เนยมาตรฐาน AOP จากประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับการยกย่องจากเชฟทำขนมทั่วโลกให้เป็นสุดยอดเนย การเปิดตัว “บิฌูส์ เดอ เบอร์ เอชิเร่” ที่สยามพารากอน ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ กูร์เมท์ วัน กรุ๊ป เพื่อมอบความสะดวกสบายและบริการที่รวดเร็วให้กับแม่บ้าน นักช้อป และนักชิม ที่ชื่นชอบสินค้าคุณภาพสูงที่จัดจำหน่ายในกูร์เมท์ มาร์เก็ต ได้มีโอกาสเลือกซื้อขนมอบสไตล์ฝรั่งเศสชั้นเลิศที่ผลิตวันต่อวัน มีความใหม่ สด และรสชาติอร่อย เหมาะสำหรับนำกลับไปรับประทานที่บ้านหรือเป็นของฝาก โดยมีพนักงานของร้านพร้อมให้บริการอย่างเป็นกันเอง นอกจากนี้ “บิฌูส์ เดอ เบอร์ เอชิเร่” ยังออกเมนูขนมทาร์ตยอดฮิตที่ได้รับการรังสรรค์โดยทีมเพสตรี้เชฟอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เพื่อมอบรสชาติสัมผัสที่สมบูรณ์แบบที่แม้จะ “มาช้าแต่อร่อยล้ำ” ได้แก่ ทาร์ตไข่ไส้มัจฉะโมจิ (Matcha Mochi Tart) และ ทาร์ตไข่ไส้เครมบรูเล่โมจิ (Crème Brulee Mochi Tart) ที่กำลังอยู่ในกระแสยอดนิยม มาพร้อมชั้นโมจิโฮมเมด นุ่มหนึบ อร่อยเต็มคำ ชีสเค้กหน้าไหม้ไส้ลาวา…