วันนี้ Kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว จะพาทุกท่านไปพบกับอาหารไทย ที่หน้าตาแปลกออกไป และ สร้างสรรค์ขึ้นมาภายใต้แนวคิด ธาตุทั้ง 3 ได้แก่ ไฟ น้ำ และ ดิน กับร้านที่ตกแต่งอย่างแปลกตา ในแนวคิด ฮวงจุ้ย ร้านอาหาร มานา ( Mana Cuisine ) เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ภายใน ซัปเปอร์คลับ สไตล์ Funk Shui (ฮวงจุ้ย) ซึ่งเป็น ซัปเปอร์คลับ แห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่มีสไตล์การเล่นกับศาสตร์ของฮวงจุ้ย ทั้งการตกแต่ง ออกแบบ งานสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายใน งานศิลป์ ลอยตัว รวมไปถึง เครื่องดื่ม และ อาหาร โดย ชิ ได้จับมือกับเชฟห้องอาหารไทยตำรับชาววังที่มีชื่อเสียงระดับโลก Blue Elephant Mana Cuisine นำเสนออาหารเอเชียในรูปแบบแนวคิด Divine Nourishment ซึ่งเกิดจากการร่วมมือระหว่างชีวิตกับ เชฟเรสเตอรองต์ มันนา ซึ่งมาจาก Blue Elephant สถาบันสอนทำอาหารและเครือบริหารธุรกิจห้องอาหารชั้นนำ ดำเนินการโดย คิม สเปค์ บุตรชายของ มาสเตอร์เชฟ นูเรอร์ โซมานี โดยมี โทนี่ บิช หัวหน้าเชฟ ทีมเชฟและหัวหน้าครูสอนทำอาหารจาก Blue Elephant ภูเก็ต ซึ่งมาร่วมกันรังสรรค์แนวคิด และเติมเต็มประสบการณ์การสร้างสรรค์อาหาร ให้ทุกท่านได้ประทับใจ ให้มีและได้มาซึ่งห้องอาหารที่แปลกทั้งหน้าตาและรสชาติ นำเสนออาหารมื้อค่ำทั้งหมดสามธาตุ ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ให้ ลูกค้าได้พบกับประสบการณ์ กิน ชิม อาหารที่มี หน้าตา รสชาติ และสัมผัสแบบใหม่ โดยแนวคิด Divine Nourishment สำหรับเช็ตเมนูนี่คือ การผสมผสานรสชาติที่แปลกใหม่ จิตวิญญาณ และเทคนิคที่หลากหลายเข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์แห่งรสชาติชั้นเลิศ ซึ่งลูกค้าจะได้ลิ้มรสผ่านเมนูที่น่าลิ้มลองมากมายรวมทั้งเมนู ทาปาส ที่จะคอยให้บริการถึงตีหนึ่ง สำหรับลูกค้าสามารถรับประทานอาหารคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และค็อกเทลเลิศรสหลากหลายเมนู ที่นำเสนอผ่านเมนูหนังจระเข้สีดำอักษรสีทองสวย หรูแปลกตา…
Author: Kittin Assavavichai
เที่ยงวันอาทิตย์ หากมองหาที่กิน ดื่ม ที่หลากหลาย ตระการตา คุณภาพสูง และวิวที่สวยงามกับบริการที่น่าประทับใจ ” Mega Brunch ” ณ ห้องอาหาร VIU, St.Regis Bangkok เป็นอีกตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด ! ผ้าสีแดงขาว กับชุดจาน ชาม แก้ว ที่เรียบง่ายแต่ เสริมบรรยากาศให้ หรูหรา น่านั่ง สวยสง่าชวนน่านั่ง เคาเตอร์ในไลน์บุฟเฟ่ต์ที่ตกแต่งแบบโมเดิร์น แขกทั้งหลายสามารถเพลิดเพลินไปกับการปรุงอาหารสดๆใหม่ๆตลอดเวลาจากเชฟ เห็นทุกขั้นตอนการปรุง แต่กลิ่นอาหารไม่ฟุ้งออกนอกบริเวณปรุง และแล้วเราก็มาเริ่มต้นมื้อ กันด้วย แชมเปญ ของ MOËT อันขึ้นชื่อ เริ่มต้นอย่างสดใส จุดประกายมื้อสายของวันอาทิตย์อย่างมีระดับ เริ่มต้นกันที่ station แรก โคลคัทที่หลากหลาย และเครื่องเคียงที่มีให้เลือกมากมาย ตามมาด้วยสลัด มีให้เลือกหลากหลายมากมาย มีทั้งที่แบบปรุงไว้เสร็จแล้ว ทั้ง สลัดเนื้อแกะ ซีซาร์สลัด สลัดทูน่า สลัดสตรอเบอรี่ สลัดทะเลรวม และสลัดผักย่าง หรือ เลือกผักคลุกใหม่ๆสดๆได้ ผักสดๆคุณภาพสูง คลุกเคล้าใหม่ๆ ตามมาด้วยพาสต้าคอเนอร์ สามารถเลือกเส้น ชนิดพาสต้า และซอสได้อย่างหลากหลาย ได้แก่ ซอสมะเขือเทศ ซอสโบลองเนส และ ผัดน้ำมันมะกอกกับพริก ซึ่งทุกจานจะประกอบด้วยก้ามล็อปสเตอร์แคนาเดียน ก้ามโตเนื้อแน่น หวาน อร่อย นอกจากนี้ยังมี พิซซ่า ที่ทำสด อบใหม่ๆทีละถาดพอหมดแล้วก็จะทำใหม่เรื่อยๆ และหน้าก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่สร้างสรรค์จากวัตถุดิบพรีเมียม คุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็น หน้าล็อปสเตอร์ หรือ หน้าแบลคทรัฟเฟิลสด เป็นต้น มาถึงจุดนี้เราขอพาทุกท่านมายังอีกห้องหนึ่งกันบ้าง สำหรับห้องอาหาร Decanter ได้เปิดเป็น station ชีส และ โคลคัท ซึ่งมีชีสพรีเมียมคุณภาพสูงให้เลือกหลากหลายชนิดจากทั่วโลก รวมไปถึงผลไม้แห้งให้กินแกล้ม Western Cooking Station สำหรับมุมอาหารตะวันตกมีทั้งที่ปรุงสุกเรียบร้อยพร้อมกินและแบบสั่งทำใหม่ๆหลากหลายรายการและปรุงจากวัตถุดิบคุณภาพสูง 1. Foie gras ::…
อาหารฝรั่งเศส อาจไม่ได้เป็นที่คุ้นเคยของคนไทยส่วนใหญ่ เนื่องด้วยหากินยากและราคาสูงกว่าอาหารตะวันตกชนิดอื่นๆเช่น อิตาเลียน สเปน เป็นต้น ด้วยความที่อาหารฝรั่งเศสระดับ Fine Dining มีราคาที่สูงกว่าอาหารอื่นๆทั่วไป หลายคนจึงมักจะไปกินกันในโอกาสพิเศษหรือเพื่อเฉลิมฉลองกัน โดยหลักๆที่อาหารฝรั่งเศสเน้นคือ คุณภาพและความสดของวัตถุดิบที่นำมาใช้ จะใช้ของที่ดีที่สุดที่หาได้และมีในตลาด ด้วยความสวยงาม น่าสะดุดตา เหมือนดั่งงานศิลป์บนจานในทุกๆรายการอาหาร อาหารฝรั่งเศสจึงได้รับขนานนามว่าเป็น อาหารชั้นสูง และในปัจจุบันอาหารหลายๆแนวก็นำ วิธี หรือ การจัดวางแบบอาหารฝรั่งเศสไปใช้ ซึ่งเดิมอาหารฝรั่งเศสนั้น มีต้นกำเนิดมาจากการที่พระราชาแห่งราชวงค์บูร์บงของฝรั่งเศส เชิญเชฟอิตาเลียนมาปรุงและรังสรรค์ขึ้นมาให้สวยงามและมีเอกลักษณ์ รวมถึงความหลากหลายของซอสที่เพิ่มขึ้น ในปัจจุบันประเทศไทยมีร้านอาหารฝรั่งเศสเปิดขึ้นมากมาย และมีร้านที่ได้รับรางวัล มิชลินสตาร์มาเปิดในกรุงเทพฯหลายร้าน แต่ทว่าก็มิอาจจะการันตีได้ว่าจะดีงามสมบูรณ์แบบ เพราะปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การบริการ ความรู้ของพนักงานเสิร์ฟ การเข้าถึง หรือแม้แต่มาตรฐานของรสชาติอาหาร ใน 5 ร้านแนะนำนี้ จึงมิได้อิงว่าแต่ละร้านจะได้รางวัลอะไรมาจากที่ใด แต่ใช้เกณฑ์ของทางทีมงาน KinlakeStars.com § Le Normandie Grill, Mandarin Oriental Bangkok § Le Normandie ห้องอาหารฝรั่งเศสริมเจ้าพระยาที่ดีที่สุด สมบูรณ์แบบทั้งรสชาติ บรรยากาศ บริการ ความคุ้มค่า ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ต้องมา สุดยอดห้องอาหารฝรั่งเศสริมน้ำ ที่ขึ้นชื่อทั้งในด้าน รสชาติ ความสวยงาม และวัตถุดิบชั้นเลิศของอาหาร บริการที่หาที่ใดเทียบยาก และบรรยากาศที่สวยงามทั้งภายในห้องอาหารและทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยาภายนอก อีกทั้งความคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป ซึ่งสิ่งที่ได้รับกลับมา นับว่าคุ้มค่ามาก อ่านต่อที่>>> § J’AIME By Jean-Michel Lorain § ความสวย สร้างสรรค์ งามของร้าน และ อาหาร สร้างสรรค์เมนูโดยเชฟมิชลินระดับ 3 ดาว อาหารฝรั่งเศสดีกรีมิชลินสามดาวกับแนวคิด กินแบบเอเชีย กินแบบครอบครัว และการตกแต่งร้านแบบ Upside down J’AIME By Jean-Michel Lorain เป็นธุรกิจครอบครัวที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นที่ผูกพันธ์กับธุรกิจอาหารมาตั้งแต่รุ่นทวดจนถึงรุ่นหลาน ร้านนี้มีคุณ Marine Lorain (ลูกสาวของ Jean-Michel Lorain) เป็นผู้จัดการร้าน…
เพียง 1 วันเท่านั้น ที่ผู้รักดนตรีคลาสสิกจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของยามบ่ายสุดโรแมนติก ด้วยการดื่มด่ำไปกับแชมเปญและสปาร์กลิ้งไวน์ชั้นเลิศ อาหารมื้อเบาๆ และการแสดงดนตรีสดจาก นักบรรเลงเพลงเดี่ยว วงเวียนนา แชมเบอร์ ออเคสตรา ในวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน 2559 ระหว่างเวลา 16:00 น. ถึง 19:00 น. ณ ล็อบบี้ เลาน์จ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ โอลิเวอร์ พาสเตอร์ และ ออร์โซลยา พาลฟี สองนักไวโอลินฝีมือเยี่ยม พร้อมด้วย ซินเธีย เหลียว ผู้เชี่ยวชาญการเล่นวิโอลา และ พาเวล โจนาส เครซซี นักเชลโลฝีมือเอก จากวงเวียนนา แชมเบอร์ ออเคสตรา จะขับกล่อมด้วยเพลงโรแมนติกแสนไพเราะในช่วงเวลาพิเศษ จิบเครื่องดื่มและเอร็ดอร่อยกับอาหารมื้อเบาๆ ที่สร้างสรรค์ได้อย่างน่าอัศจรรย์โดย เชฟมาร์ค ซีโบรวีอุส พ่อครัวใหญ่ของโรงแรมฯ และเพลิดเพลินกับดนตรีไพเราะท่ามกลางบรรยากาศหรูและทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยา ความสุนทรีย์แห่งเสียงเพลงไม่มีค่าใช้จ่ายเริ่มด้วยเพลงพิณจาก มิสหวัง ทงจวน นักบรรเลงพิณสาวฝีมือระดับโลกชาวจีน เวลา 16:00 น. ถึง 18:00 น. จากนั้นชมการแสดงดนตรีฝีมือนักบรรเลงเพลงเดี่ยวจาก วงเวียนนา แชมเบอร์ ออเคสตรา ที่ประกอบด้วยแนวเพลงคลาสสิกหลากหลายทั้ง โจเซฟ ไฮเดิน: ควอเตท อิน ดี เมเจอร์ โอพี 64 เดอะลารค์ (1790) และ อันโตญีน ดโวชาก: สตริง ควอเตท อิน เอฟ เมเจอร์ โอพี อาหารมื้อพิเศษที่จะได้ลิ้มรสประกอบด้วย ชุดมิวสิคัลโน้ต ราคา 788++บาท (เฉพาะอาหาร) และ อาหารจานอร่อย ราคาจานละ 388++บาท (เฉพาะอาหาร) พิเศษสุด ซื้อ 1 แถม 1…
โปรโมชั่นห้องอาหาร ประจำเดือนมิถุนายน 2559 ณ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ พบกับเมนูใหม่ เริ่มต้นเดือนมิถุนายนนี้ เวอร์ทิโก้ห้องอาหารเปิดโล่งชั้น 61 ของโรงแรมบันยันทรี ขอเสนอเมนูใหม่แกะกล่อง ซึ่งเมนูใหม่นี้มุ่งเน้นไปที่ความสดใหม่ และเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลมาปรุงรส เพื่อดึงรสชาติความอร่อยที่แท้จริงออกมาให้นักชิมทุกท่านได้ลิ้มลอง ตั้งอยู่บริเวณชั้น 61 โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ เปิดทุกวัน: ห้องเวอร์ทิโก้ เวลา 18.00 น. – 23.00 น. มูนบาร์ เวลา 17.00 น. – 1.00 น. *ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เวอร์ทิโก้ทู G+T แทงคิวรี่ ยิน (Tanqueray Gin) เป็นหนึ่งในยินระดับพรีเมียม ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ด้วยความซับซ้อนของกระบวนการผลิตและการรวมตัวที่หลากหลายของสมุนไพรชั้นยอดจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักดื่มต่างหลงใหลกับเครื่องดื่มชนิดนี้ สัมผัสกับรสชาติที่นุ่มนวลนี้ได้แล้ว ที่เวอร์ทิโก้ทู หรือจะจะลองชิมค็อกเทลสูตรเด็ดที่คิดค้นโดย “มิกโซโลจิสต์ไข่” ตั้งอยู่บริเวณ ชั้น 60 โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ เปิดทุกวัน: เวอร์ทิโก้ทู เวลา 17.00 น. – 01.00 น. ห้องอาหารญี่ปุ่นไทเฮ อาหารชุดเบนโตะ เบนโตะ หรือ กล่องข้าว ถือเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่งในการเสริฟ์อาหารของคนญี่ปุ่น และตลอดเดือนมิถุนายนนี้ห้องอาหารญี่ปุ่นไทเฮได้เตรียมเบนโตะเซ็ตแสนอร่อย ที่สามารถเลือกอาหารแต่ละอย่างได้เอง ทั้งอาหารทานเล่น และอาหารจานหลักรวมไว้ในกล่องเดียว ทุกเซ็ตในราคาเดียว เฉพาะในช่วงอาหารกลางวันเท่านั้น ตั้งอยู่บริเวณชั้น 53 โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวัน ตั้งแต่ 11.30 น. – 14.30 น. มื้อค่ำ ตั้งแต่ 18.00 น. –…
สยาม แอ็ท สยาม ดีไซน์ โฮเต็ล กรุงเทพ เชิญผู้หลงใหลในศิลปะฝรั่งเศสลองมาสัมผัสอาหารตาบนจานอาหารสไตล์ฝรั่งเศสโดย เชฟจิลล์ พอยทิวิน์ พ่อครัวใหญ่ชาวฝรั่งเศส ได้นำสไตล์การสบัดพู่กันบนผืนผ้าใบของศิลปะยุคอิมเพรสชั่นนิสต์มาวาดลวดลายลงบนจานอาหารใน”อิมเพรสชั่นนิสต์ไวน์ดินเนอร์” ที่ห้องลา วู ชั้น 25 วันอังคารที่ 31 พฤษภาคมนี้ เวลา 18.30 น. เพียงวันเดียวเท่านั้น จากศิลปะสู่รสสัมผัสบนจานอาหารสไตล์ฝรั่งเศส “art on the plate”… เชฟจิลล์ ได้คัดสรรวัตถุดิบจากแคว้นนอร์มองดี ประเทศฝรั่งเศส มารังสรรค์เป็นเมนูพิเศษ 5 คอร์ส ได้แก่ Oysters from Saint-Vasst, Norman Soup, Cider Fricassée of Homarus Lobster and Roasted Apple in a Vegetable and Flower Garden, Roasted Oyster Shoulder Lamb Merino and Potato Camembert Stew และ Cranberry and Apple Normand Tart และจับคู่กับไวน์ชั้นเลิศจากแคว้นบอร์กโดซ์ที่มีชื่อเสียง Borie-Manoux ผู้ผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุด ราคาเพียงท่านละ 2,499 บาท++เท่านั้นรวมไวน์แพร์ลิ่ง ครั้งนี้ศิลปิน “ธีธัช ธนโชคทวีพร” ได้จัดนิทรรศการแสดงศิลปะอิมเพรสชั่นนิสต์ให้ได้ชมกันอีกด้วย ด่วน! สำรองที่นั่งก่อนวันที่ 31 พฤษภาคมรับส่วนลดทันที 10% สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทรฯ 02 217 3000 หรือ [email protected] Kin Promo & Event KinlakeStars A B A B A B…
อากาศร้อนๆ แบบนี้เครื่องดื่มเย็นๆ ซ่าๆ กระชากต่อมความร้อนสักแก้วคงจะดีไม่น้อย ตลอดเดือนมิถุนายน เพลย์กราวด์ บาร์ ณ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี (สีลม) ชวนคุณมาคลายร้อนด้วยหลากหลายเครื่องดื่มนิวยอร์กโซดาสุดซ่าชวนชื่นใจ จิบเครื่องดื่มดับร้อนเคล้าเสียงเพลงไปกับหลากรสนิวยอร์กโซดา อาทิ Minty Fizz โซดารสมิ้นท์อร่อยซาบซ่าชุ่มคอ หรือชอบออกแนวหอมหวานต้อง Lychee Rose Breeze โซดารสลิ้นจี่กลิ่นดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนรสชาติกลมกล่อมสดชื่นเบาๆ ต่อมา Peach Please โซดารสลูกพีชสุดฟินหวานนุ่มกำลังดี และ Tea Collins โซดารสชาเอิร์ลเกรย์ให้รสชาติแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ตัดกับมะนาวคั้นสดอมเปรี้ยวนิดๆ ลงตัวสุดๆ สำหรับซัมเมอร์นี้ ในราคาเพียงแก้วละ 120++ บาท เพลย์กราวด์ บาร์ ชั้น G ณ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี (สีลม) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06:00 – 18:00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2238 1991 อีเมล [email protected] หรือเข้าเว็บไซต์ www.pullmanbangkokhotelg.com Kin Promo & Event KinlakeStars A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B…
รีวิว บุฟเฟ่ต์ กุ้ง ปลาหมึก หอย หมูคุโรบุตะ ย่างสดๆ ซูชิ พิซซ่าโฮมเมด เป็ดย่าง ราคา 990++ และลดอีก 50% สำหรับแขกโรงแรมหรือจองผ่าน eatigo และ จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ราคามา 3 จ่าย 2 !!! ณ The Square, Novotel platinum * the buy 1 get 1 is for inhouse guests — for external guests its either 3 pay 2 with credit card OR actually 50% via eatigo. สวัสดีครับ พบกันอีกครั้งกับบุฟเฟ่ต์ห้องอาหาร The Square ณ โรงแรม Novotel platinum กับราคาที่สัมผัสได้ง่าย มีความหลากหลายของอาหาร การตกแต่งและบรรยากาศที่น่านั่ง มีคุณภาพที่สมราคา ในช่วงนี้ทางห้องอาหารมีโปรโมชั่นพิเศษคือ “คุโรบุตะ” และทะเลย่างครับ อีกทั้งความพิเศษที่ทางห้องอาหารเปลี่ยนไปคือ การเพิ่มคุณภาพของ ซูชิบาร์ทั้งขนาด หน้าตา คุณภาพวัตถุดิบ และรสชาติ ดีขึ้นมากครับ และราคาที่แสนคุ้มคือ 990++ มา 2 จ่าย 1 สำหรับแขกในโรงแรมหรือจองผ่าน eatigo !!!!! * the buy 1 get 1 is for inhouse guests — for external guests its either…
สูตรทำ กิมจิ สไตล์ฮ่องกง พร้อมคลิป สาธิตการทำ อร่อย ดี มีประโยชน์ ! สำหรับ “กิมจิ ” นั้นอาจเป็นสิ่งที่ใครหลายคนคุ้นเคย และเมื่อพูดถึงกิมจิ ทุกคนก็จะติดภาพเป็นผักดองสีแดง และเกาหลี แต่ในวันนี้ KinlakeStars.com -กินแหลกแจกดาว จะขอนำเสนอเมนูกิมจิสไตล์ฮ่องกง ที่สีสันจะออกไปทางสีเหลืองส้ม และมีรสชาติที่กลมกล่อมกว่า มีรสมันเค็มนำ ตามด้วยรสหวานเปรี้ยวตาม โดย เชฟ ปีเตอร์ มาสเตอร์เชฟชาวฮ่องกงได้กล่าวว่าได้สูตรนี้มาจากทางตอนเหนือของจีน เดิมสูตรนี้มาจากชนเผ่าที่อยู่ขึ้นไปทางเหนือของเมืองฮาร์บิน ส่วนผสม ผักกาดขาวแบบห่อ ต้นใหญ่ 20 Kg กระเทียม 350 g แครอท 1 Kg พริกสดสีแดง 300 g เต้าหู้ยี้สีขาว 700 g น้ำส้มสายชู 1,400 g น้ำมันงา 1 L น้ำตาลทรายขาว 800 g เกลือป่น 35 g วิธีปรุง หั่นผักกาดขาวเป็นชิ้นพอประมาณ แล้วนำไปลวกในน้ำเดือด 1-2 นาที จากนั้นยกลงจากเตา กรองน้ำทิ้งไป เหลือแต่ผักกาดขาว แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ 2. ต้มแครอททั้งหัว นาน 1 ชั่วโมง แล้วนำแครอทที่ต้มสุก ไปปั่น พร้อมน้ำส้มสายชู เติมเต้าหู้ยี้ขาว กระเทียม น้ำมันงา และพริกแดงสด ปั่นรวมกันจนละเอียด 3. จากนั้น เทลงบนผักกาดขาว ที่ต้มสุก ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำตาล และ น้ำมันงา 4. คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นนาน 5 – 6 ชั่วโมง และจึงค่อยสามารถ นำออกมาเสิร์ฟได้…
5 Stars French Cuisine with Japanese Influences นั่งกินอาหารฝรั่งเศสจากวัตถุดิบอย่างดี และการปรุงที่ใส่ใจในรสชาติและรายละเอียด พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศทัศนียภาพที่งดงามยามพระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้าเป็นสีส้มอมม่วงกับยอดตึกระฟ้ามากมายและสระว่ายน้ำ สิ่งเหล่านี้นับว่าสามารถสร้างให้มื้อค่ำของคุณเป็นมื้อที่พิเศษได้ดีทีเดียว สำหรับห้องอาหาร Element แต่ ไม่เพียงแค่ที่กล่าวไป ความพิเศษมากกว่านั้นที่ทำให้ที่นี่ไม่เหมือนที่ใดนั้นคือ “French Cuisine with Japanese Influences” การผสมผสานเอากลิ่นอาย ส่วนผสมแบบญี่ปุ่นลงไปในอาหารฝรั่งเศสที่ลงตัวทั้ง รสชาติ และความงาม การสร้างสรรค์อันทำให้ที่ The Element นั้นพิเศษไม่เหมือนใคร ห้องอาหาร Element เปิดให้บริการเพียงมื้อค่ำเท่านั้น ในส่วนของพื้นที่ห้องอาหารมีทั้ง Indoor และ Outdoor ซึ่งจะให้บรรยากาศที่ต่างกันออกไป สำหรับส่วนของ Outdoor ก็นับว่าเห็นทัศนียภาพสวยงามและโรแมนติก แม้สภาพภูมิอากาศประเทศไทยจะร้อน แต่หากนั่งไม่นานนักก็พอนั่งได้เพราะห้องอาหารตั้งอยู่ในชั้นที่ 25 ค่อนข้างสูง ลมพัดผ่านพอให้อยู่ในสภาวะน่าสบายเชิงอุณหภาพ แต่น่าจะเหมาะกับช่วงปลายปีมาก ในส่วนของพื้นที่ Indoor มีการตกแต่งให้ความรู้สึกสบายๆ Casual ทั้งการใช้พื้นไม้ที่มีพื้นผิวและสีออกไปในโทนที่สบายๆไม่เป็นทางการ เพดานเน้นโทนสีเข้มและ มีเพดานไม้แซมเป็นโซนๆไป ในส่วนที่นั่งสองท่านก็จัดให้เห็นทัศนียภาพภายนอก เข้ามุม และโรแมนติกไปอีกแบบ ในส่วนของโต๊ะให้สำหรับมาเป็นกลุ่ม มีการแบ่งโซนเป็น Semi – Private โดยการใช้ผ้าห้อยลงมาคั่น แต่ไม่ถึงกับใช้ผนังทึบ ในส่วนผนัง ส่วนใหญ่ออกโทนสีแนวเข้ม ทั้งพื้นผิวไม้ สีเทาเข้ม และผนังบางส่วนใช้ถ่านในการนำมาเป็นส่วนประกอบผนังที่ให้ทั้งความสวยงามและการดูดซับกลิ่น เนื่องจากในห้องอาหารนั้นมีส่วนของครัวเปิดด้วย ในส่วนของครัวเปิด เราสามารถใกล้ชิดกับเชฟ และเห็นความเป็นไป และขั้นตอนการทำ จัดเตรียม และความพิถีพิถัน ใส่ใจ และบรรจงในการรังสรรค์อาหารขึ้นมาในแต่ละจาน ซึ่งจะเห็นว่าเชฟใหญ่ประจำโรงแรม แอนโทนี ชอลท์ไมเยอร์ (Antony Scholtmeyer) นั้นลงมาควบคุมคุณภาพของอาหารในแต่ละจานด้วยตนเอง อาหารทุกจานจึงมาจากความตั้งใจและใส่ใจ สำหรับมื้ออาหารจะเริ่มต้นด้วย อมูสบุช ซึ่งที่ห้องอาหารนี้ แม้เป็นห้องอาหารฝรั่งเศส แต่ด้วยแนวคิด French Cuisine with Japanese Influences” ดังนั้น แทบทุกเมนูแม้จะใช้กระบวนการปรุงในรูปแบบอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ แต่ก็มีการใส่กลิ่นอายและส่วนผสมของญี่ปุ่นลงไป สำหรับเมนูอมูชบุชนี้เป็น ข้าวญี่ปุ่นที่หุงอุ่นๆเมื่อเข้าปากยังได้ความอุ่นของข้าวหวานมันมีรสเปรี้ยวนิดๆจากมิริน ได้สัมผัสกรุบมันจากงาดำที่โรย ความสดฉ่ำจากลีนทูน่าสดๆและความกรุบๆมันเค็มจากไข่ปลาแซลมอน ความสดชื่นจากขิง…