Indoor Rooftop ที่งดงามและอาหารอร่อยที่สุดแห่งหนึ่งในไทย สวยงาม เก๋ลไก๋เหมือนล่องลอยอยู่ในอวกาศ เพลิดเพลินกับทัศณียภาพกรุงเทพ 360 องศา และอาหารแสนอร่อย ราคาเหมาะสม หากท่านเคยอ่านรีวิวชุด Afternoon Tea ของ Banyan Tree มาก่อนแล้ว (อ่านต่อที่นี่) อันนั้นเป็นที่นี่ ที่เดียวกันแต่เป็นเวอร์ชันกลางวันค่ะ คราวนี้ Kinlakestars.com ขอพามาลองทานอาหาร เครื่องดื่ม และวิวอันงดงามเหนือเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพมหานคร ในยามกลางคืนกันบ้าง จะได้บรรยากาศอันแสนสวยงามที่แตกต่างกันไปอีกแบบค่ะ ซึ่งจะเปิดตั้งแต่เวลา 17:00 – 1:00 น. จริงๆแนะนำให้มากันตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน เพราะเราจะได้ชมเมืองกันตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดิน เป็นภาพที่สวยงามมากค่ะ จุดเริ่มต้นของแสงสียามกลางคืน ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่ดูโรแมนติกดีค่ะ นั่งกินดื่มชมวิวอันสวยงามจากทุกมุมของ กรุงเทพมหานคร เหนือเส้นขอบฟ้า ในห้องแอร์เย็นๆ ยามค่ำคืนกับวิวระดับ Rooftop ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และอาหารที่สวยงาม อร่อย หลากหลาย อีกทั้งเครื่องดื่มยังมีมากมาย และราคาสมเหตุสมผลอีกด้วย @Vertigo Too, Banyan Tree Bangkok หากคุณเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง ที่นั่งที่เป็นเบาะขนาดใหญ่ สามารถเหยียดขาได้สบาย หรือโต๊ะเก้าอี้ ก็มีให้เลือกหลายโต๊ะ ทั้งแบบโต๊ะเก้าอี้นั่งกิน ดื่ม ตามปกติ หรือแบบเก้าอี้ และโต๊ะทรงสูง สไตล์บาร์ ในอีกส่วนที่แปลกและดูเก๋ไม่เหมือนที่ใด ได้แก่ ในส่วนของโซน ชั้นลอยทั้ง 2 ด้านก็สามารถขึ้นไปนั่งชมวิวกันได้ค่ะ พอมืดแล้วไฟดวงเล็กดวงน้อยที่ถูกติดตั้งสูง-ต่ำในระดับที่ไม่เหมือนกัน คนละระนาบ ท่ามกลางฝ้าเพดานสีดำจนมองดูเหมือน ดวงดาวสุกสกาวอยู่กลางคืนเดือนมืดเลยล่ะค่ะ ชมวิวกับบรรยากาศโดยรอบไปพร้อมกับวงดนตรีเล่นสดตั้งแต่ 1 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม เพลงประมาณ Close to you, Dream a little dream of me, Sway เป็นต้น หลังจากนั้นจะเป็นการเปิดแผ่นบ้าง ดีเจเปิดเองบ้าง อย่างวันที่มารู้สึกว่ายิ่งดึกยิ่งเป็นเพลง Jazz เร็วๆ และมีความครึกครื้นมากยิ่งขึ้น หลังจากนั่งชมบรรยากาศจนจุใจในระดับหนึ่งแล้ว…
Author: Nopmanee
หากคุณเคยไปลิ้มลองบุฟเฟ่ต์เค้กทั้งหลายตามร้านทั่วไปแล้วล่ะก็ สิ่งเหล่านั้นเรียกได้ว่าหลบไปได้เลย เราคงต้องปูพรมแดงให้กับ บุฟเฟ่ต์ช็อกโกแลต ณ Lobby Salons ที่มีทั้งช็อกโกแลตหลายสิบแบบจากทั่วโลก เค้กและขนมอีกหลายๆตัว ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น มาชเมลโลวส้มทำเอง ไอศกรีมจากน้ำส้มแท้ๆ เค้กหลากหลาย มากา รองหลากรส ซูชิ ทอดมัน เบอเกอร์ กุ้งลายเสือ เค้กนานาชนิต ฯลฯ ซึ่งทุกชิ้นล้วนเป็นไอเทมคุณภาพสูง พร้อมชา TWG มากมายหลากหลายรสและกลิ่นที่จะเสิร์ฟมาให้คุณในแบบร้อนหรือเย็นก็ได้ วันนี้ Kinlakestars.com ขอพาท่านผู้ชื่นชอบช็อกโกแลตและขนมทั้งหลายมาชิมกันที่ Lobby Salons โรงแรมสุโขทัย ย่านสาธรกันค่ะ และต้องมาช่วงวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ เวลา 14:00 – 17:00 น. เท่านั้นนะคะ และราคาก็สุดแสนจะคุ้มในราคาไม่ถึงพัน !!! เพราะถ้ามาวันอื่นจะเป็นชุด Afternoon Tea แทน Lobby Salons เป็นพื้นที่ที่อยู่ติดกับโถง Lobby ส่วนที่เช็คอินห้องพักเลย แต่มีความสงบ เป็นส่วนตัวมาก แม้จะโดนโถงทางเดินที่พาไปส่วนอื่นๆของโรงแรมผ่ากลางก็ตาม นั่นเพราะที่นี่ใช้หลักการแบ่งพื้นที่แบบไทยโบราณอย่างหนึ่ง ใช้เสาและผนังวางอย่างเป็นจังหวะให้เกิดช่องทางเดินที่พอดิบพอดีสมกับคอนเส็ปหลักของโรงแรม ตกแต่งพื้นส่วนนี้ด้วยพรมลายตาราง ผนังเป็นสีเขียวเข้มและน้ำตาล กับโต๊ะเก้าอี้ไม้บุผ้าที่นั่งสบายและไม่ดูเทอะทะ มองออกนอกหน้าต่างไปจะเห็นวิวสระเจดีย์อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของโรงแรม และอีกห้องนึงจะเป็นวิวต้นไม้ พร้อมกับเสียงแว่วๆของขิมบรรเลงสดเป็นระยะ มื้อนี้แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน จากอาหารที่วางไว้ 2 โต๊ะ เราจะมาเริ่มกันที่โต๊ะแรกเป็นอาหารว่างกันก่อน มีเป็นแบบฝรั่งและญี่ปุ่นที่ไม่ได้มากันเล่นๆเลย ข้าวห่อสีสันต์สดใสนั่น มีความหวานอร่อย ข้าวเป็นเม็ดชัดเจน ปูอัดที่ใช้ก็สดดี ข้าวปั้นหน้าปลาดิบก็สไลด์บางกำลังดี น่าเดินไปตักเพิ่ม แนะนำให้ลองค่ะ รสชาติดีกว่าบุฟเฟ่ต์อาชีพบางที่เสียอีก Cucumber Raita เป็นการนำแตงกว่าฝานเป็นแผ่นบางมาก สีเขียวอ่อนนวลกับขอบเขียวเข้ม รสหวาน สดชื่น ห่อกับขนมปังนุ่มๆและออนท๊อปด้วยมะเขือเทศสดรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ Shrimp/ Chicken Cocktail Sausages/ สำหรับของว่างแบบทอด เราจะเริ่มกันด้วยทอดมันกุ้ง เนื้อกุ้งปรุงรสหวานมันเค็มกำลังดี นุ่มเด้ง ผิวชุบเกล็ดขนมปังกรุบกรอบ จิ้มกินกับซอสหวานอร่อยดีค่ะ ไส้กรอกไก่รสดี Potato Croquets มันฝรั่งบดปรุงรสได้อย่างลงตัวนุ่มละมุน ชุปแป้งเกล็ดขนมปังกรุบกรอบ…
สวัสดีค่ะ วันนี้ KinlakeStars.com – กินแหลกแจกดาว ขอนำเสนอรีวิวอาหารจีนที่ อร่อย สร้างสรรค์และที่พิเศษคือ อร่อยและได้สุขภาพด้วย ทุกเมนูล้วน Healthy ละเพื่อสุขภาพแค่ไหนก็ดูจากเชฟได้เลยค่ะ เชฟที่ลงมือปรุงครั้งนี้คือ Master Chef อันโด่งดังและขึ้นชื่อ ปีเตอร์ ซาง หากไม่บอกอายุคงไม่มีคาดว่าเชฟ ปีเตอร์ ซาง จะอายุเลยวัย 60 ไปแล้ว ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ยังดูเยาว์วัย ด้วยการทำอาหารและการกินเพื่อสุขภาพนั้นเอง ห้องอาหาร The Mayflower โรงแรมดุสิตธานี ได้เชิญมาสเตอร์เชฟ ปีเตอร์ ซาง เชฟชาวฮ่องกงผู้ปรุงอาหารสไตล์กวางตุ้งแท้ๆ ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการอาหารจีนมาทั้งชีวิต เขียนตำราอาหารมาแล้วหลายเล่ม ได้ปรุงอาหารให้บุคคลสำคัญของโลกชิมมาแล้วหลายคน จนล่าสุดได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน 20 เชฟแห่งเอเชียโดยนิตยสารไลฟ์สไตล์ มาสร้างมื้ออาหารพิเศษให้แก่ทุกท่าน ณ The Mayflower โรงแรมดุสิตธานี ณ บัดนี้ ช่วงเวลา 11 – 20 พฤษภาคม 2559 เชฟได้มาปรุงอาหารให้ท่านได้ลิ้มลองที่เมืองไทยแล้ว ดังอาหารชุดมื้อเย็นที่เราได้ลองชิมมาบางส่วนดังนี้ค่ะ จานแรกเป็นออร์เดิร์ฟ 4 ชนิด (ซึ่งเราได้เริ่มทานจากทางขวามือกันก่อน) ราชาเห็ดตุ๋นสไตล์แต้จิ๋ว ให้รสชาติหวานๆแบบเครื่องยาจีนเข้มข้น ที่ใกล้ๆตัวเราแบบพะโล้ มะเขือเทศเชอรีในซอสบ๊วย ที่ถึงแม้ว่าจะตักมะเขือเทศลูกเล็กสีแดงขึ้นมา แต่รสชาตินั้นได้บ๊วยมาเต็มๆ มะระกรอบแก้วสไตล์ซอสพริก เป็นมะระสีเขียวสดที่กรอบสมชื่อ ทานเข้าไปจะรู้สึกถึงรสชาติของน้ำจิ้มก่อนแล้วค่อยมีความขมตีตื้นขึ้นมา และเนื้อล็อบสเตอร์ในครีมซอส เป็นเนื้อหนึบๆรสเบาๆ เบาที่สุดในชุดนี้ ซุปสี่กษัตริย์ (ราคา 450 บาท) ในน้ำซุปสีเหลืองอ่อนน่าทานนี้ นั้นมีส่วนประกอบสำคัญอยู่ 4 อย่าง เป็น หอยเป๋าตัวขนาดใหญ่กำลังดีฮื้อนิ่มๆหนึบๆเด็ง ตังก๋วย กระเพาะปลาสดหั่นชิ้นขนาดกำลังดีหนึบนุ่มมันอร่อย ผักขมห่อเนื้อกุ้งนิ่มๆซึ่งเป็นเกี้ยวหยกเพื่อสุขภาพ เพราะใช้ผักโขมแทนแผ่นแป้งกับกุ้งหนุ่มกรึบรสเข้าเนื้ออร่อย ส่วนตัวน้ำซุปนั้นมีรสอ่อนๆ รสชาติเบาๆหอมกลมกล่อม นำด้วยรสกระเพาะปลาสด ส่วนเมนคอร์สนั้นให้เลือกระหว่าง ปลาคอดและหอยเชลล์แห้งทอดกรอบ (ราคา 450 บาท) เนื้อปลาคอดนิ่มสีขาวละเอียด ผิวกรอบกับไข่ขาวทอดแสนอร่อยที่ฐาน ท๊อปด้วยเส้นเล็กๆนั้นคือหอยเชล์แห้ง เสริมความงามด้วยเม็ดชุบทองอีกนิด กับเนื้อแก้มวัวตุ๋น…
RIB ROOM & BAR STEAKHOUSE : Fine dining with famous Asparagus เมนูหรูหน่อไม้ฝรั่ง เอ็กเซ็กคูทีฟเชฟ ฟิลิปป์ โกดัล คัดสรรหน่อไม้ชั้นดี ทั้งหน่อไม้ฝรั่งสีขาวและหน่อไม้ฝรั่งสีเขียวนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส นำมาปรุงอย่างพิถีพิถัน พร้อมให้คุณลิ้มลองเมนูพิเศษสุดหรูท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกจากชั้น 31 ตลอดเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนนี้ ATRIUM INTERNATIONAL BUFFET : King Crab Feast เเทศกาลปูยักษ์ ละลานตากับบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ห้องอาหารเอเทรี่ยม พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ “ปูยักษ์” ที่การันตีความสด ใหม่ เตรียมเสิร์ฟความอร่อยให้คุณลิ้มลองแบบไม่จำกัดทั้งแบบเย็นและปรุงในสไลต์ที่คุณชื่นชอบ ทุกมื้อค่ำและมื้อสายวันเสาร์และวันอาทิตย์ พิเศษรับส่วนลด 50% เมื่อมารับประทานอาหารตั้งแต่ 4 ท่านขึ้นไป THE HUNTSMAN PUB: America’s favourite Hot Dogs / Weekend Roast with the Most ฮันส์แมน ผับ ขอเชิญคุณมาลิ้มลองความอร่อยของ “ฮ็อทด็อก” หนึ่งในเมนูสุดฮิตของชาวอเมริกัน ที่นำไส้กรอกมาย่างหรือนึ่ง เสิร์ฟในขนมปัง เติมแต่งความอร่อยด้วยซอสมะเขือเทศสูตรเข้มข้น มายองเนส ชีส ซาวร์เคร้าท์ และวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมอีกมากมาย บุฟเฟ่ต์อาหารอบสไตล์อังกฤษ เต็มอิ่มในวันหยุดสุดสัปดาห์กับหลากหลายเมนูอาหารอบต้นตำรับเมืองผู้ดี อาทิ เนื้อออสเตรเลียนอบ เนื้อแกะนิวซีแลนด์อบ แกมมอนแฮมอบน้ำผึ้ง ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน ยอร์คเชียร์ พุดดิ้ง และอีกมากมาย ในราคาท่านละ 850 บาท++ พร้อมเสิร์ฟคุณทุกมื้อค่ำ วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น. และ มื้อกลางวัน วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.30 – 16.00 น. พิเศษรับส่วนลด 50% เมื่อมารับประทานอาหารตั้งแต่ 4 ท่านขึ้นไป SUI SIAN : Unlimited Delectable Dim…
หลายท่านอาจพอคุ้นชื่อร้าน ABC Essence in Eatery กันมาบ้าง ที่เป็นร้านอาหารอยู่ซอยทองหล่อ แต่วันนี้ Kinlakestars.com ขอพาไปที่ร้านนี้ ร้านอาหารแนวฟิวชัน ที่แต่ละจานได้รวบรวมอาหารทั้ง 5 หมู่ไว้อย่างครบถ้วน ที่สาขาใหม่ (อาจใกล้บ้านท่านกว่าเดิม) ริมถนนเลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา ชั้น 2 ของ The Crystal Veranda (อยู่ติดกับ The Crystal Park) การตกแต่งภายในร้านเน้นโทนสีขาวตัดกับโต๊ะเก้าอี้สีไม้อ่อนๆและสีขาว มีบางส่วนเน้นการตกแต่งด้วยกระจกและสีน้ำตาลอ่อนๆของไม้ มีพุ่มไม้สีเขียวสวยให้ความสบายตาเป็นระยะ และยังมีโซนกึ่ง outdoor คือเป็นห้องกระจกติดแอร์ กั้นเป็นสัดส่วน เห็นวิวภายนอกอีกด้วย ส่วนตัว – ที่นี่ดูแต่งน่าสบาย น่านั่งกว่าที่ทองหล่อด้วยค่ะ ว่าแล้วเราก็มาเริ่มจากจานเรียกน้ำย่อยกันเลย (แต่ละอย่างชุดละประมาณ 120 – 160 บาท) เป็น จานรวมของ Crab roll แป้งบางใสไส้ผักนานาชนิด หลากหลายสีสันผสมเนื้อปูและน้ำสลัด ชิ้นถัดไปแอบเทใจให้ชิ้นนี้เข้าไว้ เป็นแป้งบางสีเหลืองทองทอดกรอบกรุบ ห่อผัก น้ำสลัดครีม และเนื้อปูเส้นๆเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเข้าไว้ ชิ้นสุดท้ายของจานนี้เป็นแบบขนมปังกลมๆแบนๆ อบจนเกือบกรอบ ราดหน้าด้วยผักชิ้นเล็กๆ มีรสเผ็ดลอยขึ้นมา (เหมือนเผ็ดแบบพริกในไส้กรอกแผ่นกลมแบนเท่านั้น) พักจิบน้ำเป็นน้ำ Smoothies (120 บาท) ก็เข้าท่า มีให้เลือกถึง 5 รสด้วยกัน ส่วนวันนี้เราได้ลองรสสตรอเบอรี ที่หอม หวานอมเปรี้ยวเล็กๆ ตัวน้ำมีความเข้มข้นมากๆ Mac n’ cheese (400 บาท) ปูนิ่มชุบแป้งทอด ที่ทั้งนิ่มและกรอบเล็กๆ มีความมันหน่อยๆจากตัวปู จับคู่กับมักกะโรนีผสมชีสที่คนรักชีสคงชอบ เพราะรู้สึกถึงความครีมมี่ของชีสมาก จานนี้แบ่งกันทานหลายๆคนคงจะกำลังดีค่ะ Parma ham tortilla (240 บาท) แป้งบางกรอบอบมากำลังดี…
เมื่อตะวันออกและตะวันตกมาฟิวชันกันในขนมทานคู่กับชา Mariage Frères รสพิเศษมีที่นี่เท่านั้น At The Lobby, Anantara Siam วันนี้ Kinlakestars.com ขอพาท่านไปทานขนมกันอยู่ใจกลางเมือง แถวสยามกันอีกซักครั้ง ที่ The Lobby (ชั้น 1) โรงแรมอนันตรา สยาม ริมถนนราชดำริ เป็นมื้อบุฟเฟ่ต์ขนมในวันเสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 14:00 – 18:00 น. ราคา 950++ บาท ต่อท่าน พร้อม 2 เครื่องดื่ม ชาหรือกาแฟ หรือถ้าสะดวกมาในวันธรรมดา ที่นี่ก็มีเป็นแบบจัดเป็นเซ็ต ในวันจันทร์ – ศุกร์ ราคา 850++ บาท พร้อม 1 เครื่องดื่มเป็นชาหรือกาแฟ ในช่วงเวลาเดียวกัน รับประทานคลอไปกับเสียงเปียโน เล่นเพลงร่วมสมัย อย่าง When you say nothing at all, Yesterday once more, Hero, I’m leaving on a jet plane และเพลงอื่นๆอีกมากมายในช่วงเวลานี้ตลอดทุกวัน ที่นี่มีชา Mariage Frères ชาในตำนานจากฝรั่งเศสให้ลิ้มลองถึง 12 รส ซึ่งแต่ละรสนั้นมีที่มา มีกระบวนการวิธีในการได้มาและผสมที่แตกต่างกันออกไป และมี 3 รสที่ผลิตขึ้นเพื่อที่นี่เท่านั้น เช่น Temple De L’aube ให้กลิ่นแบบเครื่องเทศ Lune Rouge เป็นชาเขียวที่ปลูกในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ จังหวัดเชียงราย ได้แรงบันดาลใจมาจากพระจันทร์สีแดงที่มีเพียงปีละ 1 หนเท่านั้น กลิ่นให้ความรู้สึกแบบเครื่องเรือนไม้แบบโบราณ และ Eléphant Blanc ที่หอมแบบฟรุตตี้ เหมือนน้ำหอม มีรสมีชาติในตัวที่เข้มข้นกำลังดี ส่วนตัวชอบตัวนี้มาก แนะนำให้ลองให้ได้ค่ะ…
วันนี้ Kinlakestars.com ขอพาไปนั่งจิบชา ทานขนมอยู่ในคาเฟ่เล็กๆ แสนสงบ พร้อมด้วยบรรยากาศอันอบอุ่นแบบไทยโบราณผสมตะวันตกทางยุโรปกันอย่างลงตัว ที่โรงแรม The Siam ซึ่งหลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อกันนัก ไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ได้มีรถไฟฟ้าเข้าถึง มีเพียงเรือที่จะพาคุณล่องมาทางแม่น้ำเจ้าพระยามาขึ้นที่ท่า หรือถ้ามาทางรถยนต์ก็แนะนำค่ะ ซึ่งทั้งสองทางที่ว่านี้ คุณจะพาคุณไปพบกับบรรยากาศโดยรวมของโรงแรมที่แตกต่างกันออกไป “หากคุณอยากหาคาเฟ่เล็กๆ สงบๆ พร้อมสรรพไปด้วยขนมและชา ปลีกตัวจากความวุ่นวายทั้งหลายของเมือง ที่นี่คุ้มค่าที่จะมาค่ะ” ส่วนวันนี้เรามาทางรถยนต์ค่ะ ได้เดินมาในโถงบันไดที่ปูด้วยหินอ่อน สีขาวปนเทาที่ได้เลือกลายมาเป็นอย่างดีแล้วถึงได้ดูสวยงามเข้ากันดี เจอโถงทางเดินให้เลี้ยวไปทางซ้าย พบกับคอร์ทยาร์ดที่มีน้ำพุและต้นไม้สีเขียวดูสบายตาอยู่ตรงกลาง เท่านี้เราก็เริ่มคิดแล้วว่า นี่เราหลุดมาอยู่ที่ไหนกันแน่เนี่ย? ยิ่งเดินผ่านเฟอร์นิเจอร์โบราณที่เป็นของสะสมของเจ้าของโรงแรมหลายๆชิ้นเข้า ก็ยิ่งรู้สึกถึงความพิถีพิถันในรายละเอียด การจัดวางที่เหมาะสมของที่นี่เข้าไปทุกที เมื่อเดินถึงร้าน Café Cha เปิดประตูกระจกเป็นบานเฟี้ยมที่มีรางเลื่อนอยู่ด้านล่างเข้าไป ยืนอยู่บนพื้นไม้ท่ามกลางโต๊ะและเก้าอี้ไม้แบบโบราณที่น่านั่งสบายด้วยตัวของเนื้อไม้จริง เราได้สั่งชุดน้ำชา สำหรับ 2 คนมาพร้อมกับชา Ronnefeldt กันคนละกา (ชุดละ 1,350++ บาท) เชฟดำริผู้สร้างสรรค์ชุดนี้ขึ้นมาได้แนะนำให้ลองทาน Scone จากชั้นล่างก่อนเป็นอันดับแรก เราจึงลองแบบ plain กัน ซึ่งเค้าก็ได้ออกตัวไว้ก่อนเลยว่าของที่นี่จะเป็นแบบสไตล์อังกฤษนะ มันจะไม่นิ่ม ซึ่งก็จริงค่ะ ส่วนตัวว่าเนื้อแน่นดี แต่ก็ร่วน หั่นออกมาแล้วมีหลายชิ้นไปหน่อย อันนี้มาพร้อมกับแยมสตรอเบอร์รี ครีมเลมอน ที่หวานๆเปรี้ยวเล็กๆจากเลมอน หอมเลมอน และเนยที่ผ่านการตีมาเล็กน้อยแล้วจึงดูพองฟูขึ้น นอกจากนี้ชั้นนี้ยังมีผลไม้สำรับเล็กๆให้ได้ทานคั่นรายการกันก่อนด้วย ส่วนดอกอัญชันผู้มีสารพัดประโยชน์นั้นมาจากในสวนที่ ที่นี่ปลูกเอง จึงไม่มีสารพิษใดๆ ช่วยประดับสวยงามและลองทานได้ด้วย แล้วมาต่อกันที่ชั้นที่ 2 ที่เป็นเหล่าแซนด์วิชและแฮมเบอร์เกอร์จิ๋ว โดยที่นี่จะทำทุกอย่างเองตั้งแต่ขนมปังเลย ขนมปังจึงนุ่ม ผิวเป็นสีส้มสวย แฮมเบอร์เกอร์ไส้แซลมอนที่นำแซลมอนสดมาหมักข้ามวันกับ 2 คืน แล้วสไลด์มา รสชาติของแซลมอนที่นี่จึงไม่จำเป็นต้องเค็ม ความเป็นแซลมอนและกลิ่นหอมยังอยู่ครบ โดยชิ้นนี้จะเค็มนิดๆด้วยเนยกระเทียมบางๆซะมากกว่า แฮมเบอร์เกอร์ไส้แฮม ที่ใช้ชีสรสเค็มช่วยตัดรสชาติ ต่อด้วยแฮมเบอร์เกอร์ไส้ไข่กับมายองเนสและผักสลัดรสเบาๆให้ไม่เลี่ยน มาถึงขนมปังสีขาวนุ่มฟูเป็นไส้มายองเนสและแตงกวาที่ช่วยเติมความหวานฉ่ำ สดชื่น และชิ้นสุดท้ายของชั้นนี้เป็นพายถ้วยเล็กไส้แฮม…
หากคุณมองหาร้านเบอเกอร์ดีๆซักร้าน 25 Degrees เป็นตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้ามเลย เพราะด้วยคุณภาพวัตถุดิบที่นำมาใช้อีกทั้งรสชาติ สัมผัสที่น่าจดจำเป็นเอกลักษณ์ และด้วยที่ร้านนี้เปิด 24 ชม ไม่มีปิด! ร้าน 25 Degrees แต่เดิมนั้นมีสาขาแรกที่โรงแรม Roosevelt เมือง Los Angeles ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่สาขาที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ ตั้งอยู่ที่โรงแรมพูลแมน จี สีลม ประเทศไทยนี้เอง โดยชื่อ 25 อาศา (ฟาเรนไฮต์) นั้นมาจากอุณหภูมิระหว่าง สุกดีแล้ว กับ ดิบ ของเนื้อแฮมเบอร์เกอร์ โดยร้านนี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่ Hamberger และมีทั้ง All day breakfast ,ของหวาน, Hotdog, Salad, Craft your own (คือครีเอทและสร้างสูตรเบอเกอร์ของคุณขึ้นมาเองได้) และของแกล้มอื่นๆ อีกทั้งเครื่องดื่มขึ้นชื่อ เช่น มิลเชครสต่างๆและดราฟเบียร์ ภายในร้านตกแต่งด้วยสีดำแดงเป็นหลัก มีลักษณะให้กลิ่นอายแบบอเมริกันสไตล์ มีที่นั่งทั้งแบบเข้ามุมส่วนตัว โต๊ะธรรมดา และบาร์ ซึ่งสามารถเลือกสรรได้ตามสไตล์ผู้กินเลย บรรยากาศสบายๆเป็นกันเองไม่เป็นทางการครับ มาถึงเบอเกอร์ตัวเเรกกันเลยครับ Number 1 เป็นเบอร์เกอร์คุณภาพสูงครับโดยใช้ US Beef มีรสชาติของบลูชีสเด่นออกมาถ้าคนชอบบลูชีสอยู่แล้วจะชอบทั้งกลิ่นและรสมากแต่ถึงไม่ชอบก็ไม่เป็นไรเพราะกลิ่นไม่ได้แรงมากนักและจากการที่ผสมผสานกับส่วนผสมอื่นๆทำให้กลิ่นที่ออกมานั้น หอม กลมกล่อม เพิ่มความมันหอมสโมคและเค็มอีกนิดๆด้วยเบคอนย่างกรอบหน่อยๆ ควบคู่มากับสลัดผักสดๆจากโครงการหลวง ที่สดกรอบฉ่ำสดชื่นอร่อย เข้ากันได้ดีกับนำ้สลัดเทาซันไอส์แลนด์ที่มีรสมันเค็มหวานเปรี้ยวนิดๆ เบอร์เกอร์ชิ้นนี้อร่อยลงตัวมากครับเรียกได้ว่าให้ 10 เต็ม 10 เลยทีเดียว มาที่นี้ต้องลองอันนี้ครับ มาถึงตัวที่ 2 กันครับ Thai Burger หรือเบอเกอร์ลาบนั้นเองครับ เบอเกอร์ตัวนี้ทางร้านต้องการแสดงออกถึงความเป็นไทยทั้งจากส่วนผสมและรสชาติครับ แน่นอนว่าพูดถึงอาหารไทย นอกจากต้มยำกุ้ง ส้มตำ ลาบก็เป็นอีกสิ่งที่ขึ้นชื่อในอาหารไทย สำหรับเบอเกอร์ตัวนี้ ส่วนประกอบหลักๆประกอบด้วยกะหล่ำขาวสดๆรสชาติจึงจะออกจืดๆกรอบๆครับให้ความสดชื่นเล็กน้อย เข้าใจว่าเลือกกะหล่ำขาวมาเพื่อเป็นเบสให้กับลาบหมู เรามาดูตัวเนื้อเบอเกอร์กันครับ ลาบหมูที่ผสมเครื่องเทศไว้เรียบร้อยแล้วเนื้อหมูนิ่มดีแต่ในเรื่องรสชาติผมว่ามันยังไม่ถึง เหมือนขาดอะไรไปซักอย่าง คาดว่ารสชาติจะอ่อนไปหน่อยครับน่าจะใส่เครื่องเทศให้รสชาติมันเด้งออกมาหรือชัดกว่านี้หน่อยครับ นอกจากนี้ในเบอเกอร์นี้ก็ยังใส่ใบกระเพราและมะเขือซึ่งช่วยดึงรสให้ความรู้สึกเหมือนกินลาบหมูจริงๆ สำหรับเบอเกอร์ชิ้นนี้ผมว่าน่าจะเพิ่มส่วนของรสชาติลาบหมูอีกนิดจะดีมากครับ Truffle Fries ที่มาในรูปแบบของเฟรนฟรายด์สีเหลืองทอง คลุกน้ำมันเห็ดทรัพเฟิลและผงเห็ดทรัฟเฟิล จนมีกลิ่นที่หอมชวนน้ำลายสอกว่าปกติ เพราะเพียงยกมาตั้งสิ่งที่สะดุดผมเป็นอย่างแรกไม่ใช่หน้าตาแต่เป็นกลิ่นทรัฟเฟิลที่ลอยมาเตะจมูกอย่างจังเลย ด้วยความที่ชอบกลิ่นทรัฟเฟิลอยู่แล้วด้วย เลยยิ่งชอบมากเลยครับ เฟรนฟรายด์ทอดได้กรอบและไม่มีนำ้มันเลย กรอบหอมทรัฟเฟิล เป็นเฟรนฟรายด์ที่น่าประทับใจมากครับ โดย…
ซูชิอร่อยสุโก้ยที่เดอะรูฟ แกสโตร ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ เดอะรูฟ แกสโตร ชั้น 25 สยาม แอ็ท สยาม ดีไซน์ โฮเต็ล กรุงเทพนอกจากอาหารชั้นเลิศในสไตล์กัสโตร กรูเม่ต์และวิวแบบพาโนรามาอันสวยงามของเมืองเก่าและเมืองใหม่แล้ว หากอยากมานั่งชิลแบบเพลินๆ กับเครื่องดื่มแก้วโปรด และไม่อยากทานอาหารหนักท้องจนเกินไปที่เดอะรูฟมีบริการเมนูซูชิให้ทานแบบเบาๆ ได้แก่ ถั่วแระญี่ปุ่น (100 บาท), ซาชิมิรวม 3 อย่าง (980 บาท)หรือซาชิมิรวม 5 อย่าง (1,500 บาท) ประเภทนิงิริซูชิหน้าต่างๆ 5 ชิ้น (700 บาท) และ 10 ชิ้น (1,250 บาท) รวมทั้งซาชิมิ และซูชิโรลหน้าต่างๆ รวมกว่า 20 เมนูที่ล้วนคัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ทุกวัน และราคาคุ้มค่าแน่นอนสำรองที่นั่งล่วงหน้าหรือสอบถามเพิ่มเติมที่ 0 2217 3000 หรืออีเมล [email protected] Sensational Sushi This May, chill-out and enjoy a sensational Japanese meal experience at Siam@Siam DesignHotel B angkok’s The Roof Gastro. Our creative chefs have put their heads together toprepare for you the Sushi Menu that reflects the best of the Japanese culinary tradition. The delicacy embodies the world-renowned and…
จิบชาแกล้มขนมดูความเป็นไปของเมืองจากมุมสูง 360 องศาใจกลางสาธร @ Vertigo Too, Banyan Tree Bangkok วันนี้ Kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว ขอพาทุกท่านสวมวิญญานเป็นผู้ดีอังกฤษจิบชา แกล้มขนม และของว่าง ซึ่งยังเลือกได้ว่าจะจิบชาหรือเพิ่มเป็นแชมเปญของ Moët & Chandon Brut Imperial บนชั้น 60 กับวิวจากยอดตึกสูง 360 องศา ใจกลางสาธร ที่สามารถมองเห็นความเป็นไปของเมือง สถานที่ สวนลุมพินี สนามม้าราชดำริ ถนนวิทยุ โค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานพระราม 9 และสถานที่อื่นๆได้ อีกทั้งที่นั่งก็มีให้เลือกตั้งแต่ โต๊ะเก้าอี้ และโซฟาเบดที่ทำให้คุณเอนหลังแล้วเหยียดขายาวๆได้ พร้อมกับรับฟังดนตรีสดตั้งแต่บ่าย 2 เป็นต้นไป ซึ่งนับว่าเป็นการจิบชาที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ชุดน้ำชาชุดนี้ 1 ชุด นอกจากขนมปัง ขนมเค้ก แล้วยังรวมชา Ronnefeldt ที่มีหลายกลิ่นให้เลือก 9 ตัว ทั้ง Red Roses, Mango Dream, Earl Grey, Classic English Tea เป็นต้น ในราคา 880++ บาท หรือ เพิ่ม Moët & Chandon Brut Imperial 1 แก้ว ราคาแก้วละ 1299+ เสิร์ฟระหว่าง บ่ายโมงถึงห้าโมงเย็น เฉพาะวันสุดสัปดาห์เท่านั้น หากจะกล่าวในส่วนของชานั้น ที่นี่ใช้ชาของ Ronnefeldl ซึ่งนับว่าเป็นชาเกรดสูง คุณภาพดีมากเลยทีเดียว มีให้เลือกหลากหลายชนิด ซึ่งก็จะต่างรส ต่างกลิ่น ต่างอารมณ์กันไป ในครั้งนี้เราได้ลองเป็น Rosé Tea หรือชากุหลาบนั่นเองค่ะ ซึ่งสีชมพูออกแดงระเรื่อ…