ร่วมรับประทานอาหารฝรั่งเศสชั้นเลิศกับ Michelin-Star 2 กับเชฟ Sylvestre Wahid วันอังคารที่ 27 มิถุนายน – วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 มีบริการอาหารกลางวันตั้งแต่ 12:00 น. – 15.00 น อาหารเย็นใช้ได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 23.00 น. * * การเลี้ยงอาหารค่ำในวันที่ 27 มิถุนายนจะหมดลง จากห้องอาหาร Michelin-Star 2 แห่งของเขาที่ L’Hôtel Thoumieux ในปารีสเชฟ Sylvestre Wahid มอบห้องครัวที่ Jojo ใน St. Regis Bangkok ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน เพลิดเพลินไปกับไดเนอร์สด้วยความพิถีพิถันในการเสิร์ฟอาหารเลิศรสของชาวฝรั่งเศสพร้อมเมนูชุดสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำ โรงแรมระดับ 2 ดาวชื่อ Michelin-Chef de L’Hôtel Thoumieux ในกรุงปารีสมอบเมนูอาหารเลิศรสที่ Jojo สำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำ เชฟ Sylvestre มีวิสัยทัศน์และเทคนิคการทำอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการล้ำยุค THB 3,800 ++ ต่อท่านพร้อมเมนูอาหารกลางวันแบบ 7 คอร์ส (บวก 2,500 ++ สำหรับการจับคู่ไวน์) หากต้องการดูเมนูอาหารกลางวัน คลิกที่นี่ 5,800 ++ บาทต่อท่านพร้อมเมนูอาหารค่ำ 8 คอร์ส (บวก 3,000 บาทสำหรับการจับคู่ไวน์) หากต้องการดูเมนูอาหารเย็น คลิกที่นี่ KinlakeStars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว…
Author: Kittin Assavavichai
“กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้อง! VIE Hotel Bangkok เชิญท่านลิ้มรสมื้อกลางวันสุดหรูระดับมิชลินสตาร์ โดยเชฟหนุ่มสุดฮอต Sylvain Sendra บินตรงมาจากกรุงปารีส ราคาพิเศษเพียง 2,000 บาทสุทธิ/ท่าน (จากปกติ 2,500 บาท) หรือ 3,500 บาท/ท่าน รวมเครื่องดื่มพิเศษ (จากปกติ 4,000 บาท) พิเศษเฉพาะบัตรเครดิต KTC VISA ทุกประเภท (26 – 28 ก.ค. 60) โทร. 083 820 4224” ต้อนรับการกลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องมากมายจากแฟนๆ กับเชฟหนุ่มสุดฮอตที่บินตรงมาจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว เชฟซิลเวน เซนดร้า เป็นที่รู้จักและยอมรับของคนทั่วโลกด้วยฝีมือและรสชาติอันยอดเยี่ยมมาพร้อมกับกับเทคนิคประณีตสวยงามระดับเวิร์ลคลาสรังสรรมาเป็นเมนูสุดพิเศษเพื่อให้คุณได้ลิ้มลองที่ห้องอาหาร La VIE – Creative French Cuisine และ Villazzo โดยเฉพาะ เชฟซิลเวน เซนดร้า เป็น เชฟ และยังเป็นเจ้าของภัตตาคารชื่อดังภายใต้ชื่อ “Restaurant Itinéraires du chef Sylvain Sendra” ภัตตาคารมิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว ตั้งอยู่กลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มิชลินสตาร์ระดับ 1 ดาว เชฟซิลเวน เซนดร้า จะกลับมารังสรรเมนูอาหารและแสดงฝีมือระดับมิชลินสตาร์ เพียงแค่ 4 วันเท่านั้น ระหว่างวันที่ 26 ถึง 29 กรกฎาคม 2560 ที่ ห้องอาหาร La VIE – Creative French Cuisine ชั้น 11 โรงแรม วี กรุงเทพฯ และ ห้องอาหาร Villazzo ใน โรงแรม วี…
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ขอต้อนรับทาช่า ลู แบรนด์แอมบาสเดอร์จากเฮนดริกส์ จิน ในค่ำคืนวันพุธที่ 21 มิถุนายน 2560 ตั้งแต่เวลา 19:00-21:00 น. ณ ห้องอาหาร 22 คิทเช่น แอนด์ บาร์ ท่ามกลางทิวทัศน์ยามราตรีของกรุงเทพมหานคร แบบพาโนรามาบนชั้นสูงสุดของโรงแรมฯ โอกาสพิเศษเพียงคืนเดียวเท่านั้น พบกับ ทาช่า ลู แบรนด์แอมบาสเดอร์จากเฮนดริกส์ จิน ที่จะมาโชว์ฝีมือการทำค็อกเทลสูตรพิเศษให้ได้ลิ้มลองถึง 3 สูตรด้วยกัน ราคาเริ่มต้นเพียง 299 บาท ต่อแก้ว พร้อมโปรโมชั่นส่วนลด 27% สำหรับค่าอาหารจากเมนูปกติตลอดทั้งคืนอีกด้วย โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองโต๊ะล่วงหน้าที่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โทร 02 200 9000 ต่อ 2345 อีเมลล์: [email protected] เว็บไซต์: www.dusit.com/dtbk, www.facebook.com/dusitthani โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ขอต้อนรับทาช่า ลู แบรนด์แอมบาสเดอร์จากเฮนดริกส์ จิน ในค่ำคืนวันพุธที่ 21 มิถุนายน 2560 ตั้งแต่เวลา 19:00-21:00 น. ณ ห้องอาหาร 22 คิทเช่น แอนด์ บาร์ ท่ามกลางทิวทัศน์ยามราตรีของกรุงเทพมหานคร แบบพาโนรามาบนชั้นสูงสุดของโรงแรมฯ โอกาสพิเศษเพียงคืนเดียวเท่านั้น พบกับ ทาช่า ลู แบรนด์แอมบาสเดอร์จากเฮนดริกส์ จิน ที่จะมาโชว์ฝีมือการทำค็อกเทลสูตรพิเศษให้ได้ลิ้มลองถึง 3 สูตรด้วยกัน ราคาเริ่มต้นเพียง 299 บาท ต่อแก้ว พร้อมโปรโมชั่นส่วนลด 27% สำหรับค่าอาหารจากเมนูปกติตลอดทั้งคืนอีกด้วย โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองโต๊ะล่วงหน้าที่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โทร 02 200 9000 ต่อ…
โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค โรงแรมสุดหรูกลางกรุงพร้อมนำเสนอความประทับใจด้วยประสบการณ์แบบจีนกวางตุ้งร่วมสมัย ณ ห้องอาหารจีน “พาโกด้า ไชนีส เรสเตอรองท์” (Pagoda Chinese Restaurant) ที่ยังคงเทคนิคการปรุงอันเก่าแก่แต่เพิ่มเติมความแตกต่าง เพื่อรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เมนูไก่ทองคำ ซุปกระเพาะปลาตุ๋นเห็ดมอเรล และหมูกรอบ 5 ชั้น เป็นต้น ภายใต้การดูแลของ เชฟออสการ์ ปัน (Oscar Pun) ผู้เคยสร้างชื่อเสียงให้โรงแรมชั้นนำระดับห้าดาว และร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์อีกหลายแห่ง พร้อมจิบชาระดับพรีเมี่ยมและชมการแสดงกังฟู ที โชว์ (Khungfu Tea Show) ได้ทุกวัน ทั้งมื้ออาหารกลางวันและอาหารค่ำ การตกแต่งห้องอาหารจีน “พาโกด้า ไชนีส เรสเตอรองท์” (Pagoda Chinese Restaurant) ได้แรงบันดาลใจจากเจดีย์ของจีน ซึ่งหมายถึงความมั่นคง มั่งคั่ง จะเห็นได้จากกษัตริย์จีนมักจะมีเจดีย์ประจำพระองค์ เมื่อประกอบกับสัญลักษณ์ ของห้องอาหารที่เป็นรูปมังกร ก็ยิ่งย้ำความมั่นคงนำพาความโชคดีมาสู่ทุกคน และโดยการดูแลของ คุณปิยนันท์ คารวะ ผู้จัดการห้องอาหารที่ยึดมั่นในการรังสรรค์บรรยากาศอบอุ่นเสมือนเป็นคนในครอบครัวให้กับลูกค้า พร้อมทั้งพนักงานที่รักในการให้บริการและสามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ทำให้มั่นใจได้ว่า ทุกครั้งที่มาเยือนห้องอาหารทุกท่านจะได้รับการบริการที่น่าประทับใจ อาหารของ “พาโกด้า ไชนีส เรสเตอรองท์” เป็นอาหารจีนกวางตุ้งร่วมสมัย ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีจากทั้งในประเทศและนอกประเทศ เครื่องเทศ เครื่องปรุงรสและวัตถุดิบที่ไม่สามารถหาได้ในประเทศไทย ได้นำเข้าจากฮ่องกงและประเทศจีนเมืองต้นกำเนิดของเมนู โดยมี เชฟออสการ์ ปัน (Oscar Pun) เชื้อสายฮ่องกงผู้มีประสบการณ์กว่าสองทศวรรษ ในการร่วมงานกับโรงแรมหรูชั้นนำ และห้องอาหารชื่อดังมากมาย ในปี พ.ศ. 2540 เชฟออสการ์ได้ร่วมงานกับห้องอาหารในเครือ ไหล่ การ์เดน (Lei Garden Restaurant) ทำให้มีโอกาสร่วมงานกับห้องครัวและห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์มากมาย ทั้งในปักกิ่งและสิงคโปร์ เป็นเวลานานถึง 14 ปี ก่อนจะผันตัวมาเป็นหัวหน้าพ่อครัวอาหารจีนให้กับโรงแรมชื่อดังอีกหลายแห่ง และวันนี้เขาพร้อมเสิร์ฟ ความประทับใจให้กับเหล่านักชิม ด้วยเมนูอาหารจีนกวางตุ้งร่วมสมัยในเมืองไทยแล้ว ยังมีเมนูอีกหลากหลาย ทั้งซีฟู้ด เนื้อ และผัก…
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ขอต้อนรับทาช่า ลู แบรนด์แอมบาสเดอร์จากเฮนดริกส์ จิน ในค่ำคืนวันพุธที่ 21 มิถุนายน 2560 ตั้งแต่เวลา 19:00-21:00 น. ณ ห้องอาหาร 22 คิทเช่น แอนด์ บาร์ ท่ามกลางทิวทัศน์ยามราตรีของกรุงเทพมหานคร แบบพาโนรามาบนชั้นสูงสุดของโรงแรมฯ โอกาสพิเศษเพียงคืนเดียวเท่านั้น พบกับ ทาช่า ลู แบรนด์แอมบาสเดอร์จากเฮนดริกส์ จิน ที่จะมาโชว์ฝีมือการทำค็อกเทลสูตรพิเศษให้ได้ลิ้มลองถึง 3 สูตรด้วยกัน ราคาเริ่มต้นเพียง 299 บาท ต่อแก้ว พร้อมโปรโมชั่นส่วนลด 27% สำหรับค่าอาหารจากเมนูปกติตลอดทั้งคืนอีกด้วย โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองโต๊ะล่วงหน้าที่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โทร 02 200 9000 ต่อ 2345 อีเมลล์: [email protected] เว็บไซต์: www.dusit.com/dtbk, www.facebook.com/dusitthani โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ขอต้อนรับทาช่า ลู แบรนด์แอมบาสเดอร์จากเฮนดริกส์ จิน ในค่ำคืนวันพุธที่ 21 มิถุนายน 2560 ตั้งแต่เวลา 19:00-21:00 น. ณ ห้องอาหาร 22 คิทเช่น แอนด์ บาร์ ท่ามกลางทิวทัศน์ยามราตรีของกรุงเทพมหานคร แบบพาโนรามาบนชั้นสูงสุดของโรงแรมฯ โอกาสพิเศษเพียงคืนเดียวเท่านั้น พบกับ ทาช่า ลู แบรนด์แอมบาสเดอร์จากเฮนดริกส์ จิน ที่จะมาโชว์ฝีมือการทำค็อกเทลสูตรพิเศษให้ได้ลิ้มลองถึง 3 สูตรด้วยกัน ราคาเริ่มต้นเพียง 299 บาท ต่อแก้ว พร้อมโปรโมชั่นส่วนลด 27% สำหรับค่าอาหารจากเมนูปกติตลอดทั้งคืนอีกด้วย โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองโต๊ะล่วงหน้าที่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ โทร 02 200 9000 ต่อ…
เนื่องจากความสำเร็จของ Orange Wine ในปีที่แล้ว ณ About Eatery ทางร้านจึงตัดสินใจที่จะทำให้เป็นช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายประจำปี มีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับ Orange Wine สำหรับการเริ่มต้นเพราะผู้คนมักคิดว่าเป็นไวน์ที่ทำจากส้มจริงหรือ? แต่ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับส้ม แท้ที่จริง Orange Wine จะใช้องุ่นขาวพร้อมกับเปลือกที่ห่อหุ้มผิวเนื้อองุ่นมาใช้ในการบ่ม Orange Wine จึงเป็นไวน์ขาวที่ทำไม่ต่างจากไวน์แดง About Eatery ยินดีต้อนรับนักทานไวน์และคนรักไวน์ในการค้นพบหรือทบทวนตัวเองด้วยสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติตามธรรมชาติและลักษณะของ Orange Wine และในคอลัมน์นี้ ผมขอพาทุกท่านไปพบกับรีวิว Orange Wine พร้อมกับอาหารที่สามารถเลือกจับคู่ได้ตามที่ทุกท่านชอบกันเลยครับ ORANGE WINE WEEK 2017 SCHEDULE [DAILY PROMOTION]: Orange Wine Flight with Food Pairing . Extensive Range of Orange Wine Promotion – Wine by Glass/ Half Glass Daily Orange Wine and Food Pairing on display counter About Eatery ไวน์ เริ่มต้นกันด้วย 2015 Pinot Gris Rhymes natural Wine เก็บเกี่ยวด้วยมือ ใช้ยีสต์ธรรมชาติ ไม่ใช้ finning สามารถดื่มได้กับคนกินพืชอย่างเดียว (Vegans) ปริมาณ sulphites 40 mg/l ปริมาณน้ำตาลที่เหลือ 0.2 G/l 2015 Jamon Jamon natural Wine เก็บเกี่ยวด้วยมือ ใช้ยีสต์ธรรมชาติ ไม่ใช้ finning สามารถดื่มได้กับคนกินพืชอย่างเดียว (Vegans) ไม่มี sulphites ปริมาณน้ำตาลที่เหลือ…
เทรนด์การท่องเที่ยวในยุคนี้ต้องบอกว่าถ้าอยากไปไหนต้องไปให้ประหยัดที่สุด แต่ก็ต้องเป็นแพลนที่ไม่ทุลักทุเลจนเกินไปด้วย ไม่ว่าจะเที่ยวเมืองไทยหรือไปต่างประเทศ เดี๋ยวนี้ราคาไม่แตกต่างกันมากเท่าไรนัก โดยเฉพาะประเทศที่ไม่ไกลจากบ้านเรา เช่น “สิงคโปร์” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยนิยมไปพักผ่อนหย่อนใจในระยะสั้นๆ แถมเดี๋ยวนี้ยังไปง่ายกว่าเดิมมาก เพราะตั๋วเครื่องบินมีราคาที่ถูก โปรโมชั่นหลากหลาย ใช้งบประมาณไม่เยอะเลยจริงๆ อันดับแรกเราต้องรู้จักเทคนิคในการจองตั๋วเครื่องบินไปสิงคโปร์ให้ได้ราคาที่ถูกกว่าปกติเสียก่อน เพื่อความประหยัดแล้วเอาสตางค์ไปกินขนมอร่อยๆ ที่นั่นแทน ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการไปเที่ยวสิงคโปร์แบบราคาประหยัดจะเป็นเดือนกรกฎาคม ซึ่งถือว่าเป็นช่วงโลวซีซั่นของบ้านเขา ซึ่งก็ไม่ต่างจากบ้านเราเลย อากาศจะร้อนไปนิดแต่ด้วยความโปร่งสบายของสภาพบ้านเมืองของเขา ก็ทำให้เราไม่ได้รู้สึกอึดอัดมากนัก และอีกหนึ่งเคล็ดลับคือการจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า ถ้าใครชอบแพลนอะไรยาวๆ ควรเช็คตั๋วแล้วจองล่วงหน้าไว้เลยประมาณ 4-5 เดือน ระยะเวลาประมาณนี้จะทำให้เราได้ราคาตั๋วเครื่องบินที่ถูกมากๆ ซึ่งเราตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินกับทาง Traveloka เพราะง่ายและสะดวกกับการเลือกไฟลท์ เลือกสายการบิน และเช็คราคาตั๋วก็ง่ายเช่นกัน แค่คลิกไปที่ https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Singapore.SIN/1 แล้วเลือกวันเดินทางล่วงหน้าในช่วงเดือนกรกฎาคม วิธีการจองตั๋วเครื่องบินไปสิงคโปรกับ Traveloka ขั้นตอนที่ 1 : หลังจากเลือกวันเดินทางที่ต้องการแล้วก็กดเลือกสายการบินที่ราคาถูกที่สุด แต่ควรดูเวลาเดินทางให้ด้วย ซึ่ง Traveloka มีหลายไฟลท์และหลายสายการบินให้เลือกมากอยู่เลยล่ะ สะดวกเวลาไหนราคาเท่าไหร่จากนั้นกดเลือกได้เลย ขั้นตอนที่ 2 : หลังจากที่เลือกไฟลท์ขาไปได้แล้วก็มองหาไฟลท์ขากลับ ซึ่งอาจจะเลือกสายการบินอื่นก็ได้ แล้วแต่เวลาเหมาะสมสำหรับเรา แต่หากเลือก Combo Set คือไป-กลับ สายการบินเดียวกันก็จะได้ราคาที่ถูกกว่า ขั้นตอนที่ 3 : หลังจากเลือกแล้วก็ใส่ข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างพร้อมกดจองกันแบบชิลๆ ได้เลย ซึ่งถ้าจองล่วงหน้านานๆ ราคาตั๋วจะถูกลงมากจริงๆ และที่สำคัญหากจองผ่านแอพพลิเคชั่น Traveloka จะมีรหัสส่วนลดให้แทบทุกอาทิตย์ สามารถนำไปลดราคาได้ในหน้าชำระเงิน เพราะฉะนั้นจะได้ราคาตั๋วไปสิงคโปร์ถูกกว่าที่อื่นๆ แน่นอน ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ามาก หลังจากจองตั๋วเครื่องบินแล้วก็อย่าลืมมองหาที่พักราคาประหยัดเพิ่มเติมด้วย ซึ่งใน Traveloka ก็มีที่พักสิงคโปร์ให้เลือกเช่นกันตามไปดูกันได้ ที่นี่ หลังจากที่จองทุกอย่างครบแล้วคราวนี้เรามาแพลนเรื่องเที่ยวกันบ้าง ซึ่งวันและเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวสิงคโปร์ควรจะเป็น 3 วัน 2 คืน หรือมากหน่อยก็ 4 วัน 3 คืน ถือว่ากำลังดีมีเวลาเที่ยวได้ครบ ส่วนเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว สิงคโปร์ จัดว่าเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้อย่างสะดวก ง่าย สบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องหลงทางมีป้ายบอกเป็นภาษาอังกฤษ ใครไม่เก่งภาษาไม่ต้องกลัว Google Translate ก็มีใช้ได้ชิลๆ…
kinlakestars.com ขอเชิญชวนท่านผู้อ่านไปนั่งชิวๆ ชิมอาหารและเครื่องดื่มสบายๆทั้งอาหารคาว หวาน รวมไปถึงชุดชายามบ่ายแสนน่ารัก ณ Café Claire คาเฟ่สไตล์ปาริเซียง สถานที่ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ที่ปารีส ถนนวิทยุ หนึ่งในถนนที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญตลอดสองแนว ทั้งยังเป็นที่ตั้งของสำนักงาน โรงแรม และคอนโดฯที่ดูดีมีระดับมากมาย อีกทั้งยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก และที่นี้แหละคือสถานที่ตั้งของ Café Claire, Oriental Residence Operating Hours Breakfast = 6:00 am – 10:30 am (11:00 am on weekends) All-day dining = 6:00 am – 10:30 pm (last orders at 10:00 pm) Afternoon Tea = 2:30 pm – 5:00 pmKinlakestars.com The dishes that we ordered from the all-day dining menu were: Salade Niçoise (Traditional Niçoise Salad) – Fresh peppered tuna loin with green beans, lettuce, potatoes, tomatoes, anchovies and boiled egg served with olive oil’s vinaigrette and Niçoise olives = THB 310 Eggs Benedict -…
Kinlakestars.com ขอเชิญทุกท่านมาสัมผัสรสชาติความอร่อยและความสดใหม่ของหน่อไม้ฝรั่งขาว (White Asparagus) คัดขนาดสั่งตรงจากประเทศเยอรมันที่มีเฉพาะช่วงเดียวของปีเท่านั้น ลิ้มลองความฉ่ำนุ่มของเนื้อหน่อไม้ฝรั่งขาวชิ้นอวบโตที่พ่อครัวบรรจงปรุงด้วยความพิถีพิถันในหลากหลายเมนู ร้านอาหารและบาร์ร่วมสมัยริมแม่น้ำเจ้าพระยา สังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน เคล้าคลอด้วยเสียงเพลงเบาๆ ห้องอาหารได้ถูกจัดแบ่งอย่างลงตัวออกเป็น 2 โซน ทั้งแบบห้องปรับอากาศ และแบบรับลมริมน้ำ โดยมีที่นั่งให้เลือกทั้งโซฟา โต๊ะ และเก้าอี้แบบสูงให้คุณเลือกพักผ่อนในบรรยากาศแบบริมน้ำ บรรยากาศของห้องอาหารใช้สีโทนอบอุ่นและใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก บริเวณภายในห้องอาหารจะใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการตบแต่ง รวมถึงโต๊ะและเก้าอี้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและแข็งแรง ส่วนบริเวณริมน้ำด้านนอกนั้นตัวเก้าอี้จะทำจากหวายเป็นหลัก เพราะฉะนั้นลูกค้าก็จะสามารถสัมผัสความแข็งแรงทนทาน ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามช่วงเวลา/สถานการณ์เหมือนสายน้ำ โดยใช้หมอนสีต่างๆมาเล่นสีตัดกับสีของเก้าอี้หวายที่มีสีน้ำตาลเข้ม ทำให้บรรยากาศดูสดใสมีชีวิตชีวา เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจะน่ากิน อร่อย สร้างสรรค์ขนาดไหนครับ “White Asparagus Menu” White asparagus with Serrano ham and chive vinaigrette ราคา 380++ บาท หน่อไม้ฝรั่งขาวคุณภาพสูงนำเข้าจากเยอรมัน หวานสดๆ ชิ้นโต นุ่ม กรุบนิดๆ กับเซอราโนแฮม ชิ้นบาง หอมๆ มันๆ หนุ่มหนึบ ไม่เค็มมากจนเกินไป และน้ำสลัดช่ายเวนนีเกรทที่ให้รสมันเค็มนิดๆ ควรกินเข้าไปพร้อมๆกัน จะได้รสที่ละมุนเข้ากันได้ดี และสัมผัสที่ครบไม่ว่าจะจะกรุบกรอบ นุ่มหนึบ White asparagus soup with blue swimmer crab meat ราคา 450++ บาท ซุปหน่อไม้ฝรั่งขาว กับเนื้อปู ซุปหน่อไม้ฝรั่งขาวเนื้อเนียน รสอ่อนๆ ละมุน กลมกล่อม มันๆเค็มอ่อนๆและตามด้วนหวานนิดๆ กับเนื้อปูม้าที่แน่นนุ่ม เข้ากันกับซุปได้เป็นอย่างดี กินคู่กับขนมปังกรอบโรยงายิ่งอร่อย White asparagus with avocado hollandaise and new potatoes ราคา 480++ บาท หน่อไม้ฝรั่งขาวคุณภาพสูงนำเข้าจากเยอรมัน หวานสดๆ ชิ้นโต นุ่ม กรุบนิดๆ กับอะโวคาโด ที่ให้รสมันๆนุ่มละมุนและ ซอสฮอลแลนแดซ เป็นเมนูซอสชื่อดังของต่างประเทศ…
เติมความสดชื่นในช่วงหน้าร้อนด้วย “พาเหรดไอศกรีม” เมนูใหม่ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ วันนี้ ถึง 31 กรกฎาคม 2560 หลบพักจากไอร้อน แล้วมาอิ่มอร่อยเพลิดเพลินไปกับขบวนไอศกรีมพาเหรดเมนูใหม่ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อซัมเมอร์นี้ ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 กรกฎาคมนี้เท่านั้น ในปีนี้เชฟลอเรนท์ ดัฟโฟท์ หัวหน้าพ่อครัวเพสทรี ได้รังสรรค์ไอศกรีมเมนูและรสชาติใหม่ถึง 9 เมนู ยกขบวนมาให้ท่านได้ลิ้มลองเพื่อเพิ่มความสดชื่นในช่วงหน้าร้อนนี้ ลิ้มรสชาติหวานเย็นฉ่ำและเพลิดเพลินกับไอศกรีมทั้ง 9 เมนู ในราคาเมนูละ 350 ++ บาท (ราคาไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าบริการ) ให้บริการตลอดวันที่เดอะล็อบบี้และทุกห้องอาหารของโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ได้แก่ เมดิสันสเต็กเฮ้าส์ ห้องอาหารอิตาเลียนบิสก็อตติ ห้องอาหารญี่ปุ่นชินทาโร ห้องอาหารไทยสไปซ์ มาร์เก็ต และอควาบาร์ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 กรกฎาคม 2560 เมนูไอศกรีมแนะนำ เบอร์รี่ไอศกรีม (Wood Berry) แก้วนี้ คือ ‘ Wood berry ‘ เป็นซันเดย์มิกซ์เบอรี่ ซึ่งถูกเสิร์ฟมาในแก้วมาร์ตินี่ขนาดใหญ่ ซึ่งในแก้วนั้นก็เต็มไปด้วยของต่างๆ มากมาย ทั้งไอศกรีม ซอส เมอแรงก์ ผลไม้สด เป็นต้น สำหรับตัวไอศกรีม แก้วนี้จะใช้เป็นซอร์เบท์ทั้งหมด ได้แก่ สตรอเบอรี่ ราสพ์เบอรี่ และ แบล็คเบอรี่ ราดด้วยซอสเบอรี่ โรยด้วยฟินองเซียรสเลมอน และ เมอแรงก์โยเกิร์ต ตกแต่งผลไม้สดนานาชนิด เช่น เรดเคอเรนท์ สตรอเบอรี่ แบล็กเบอรี่ บลูเบอรี่ และสุดท้าย ตกแต่งข้างบนด้วยแผ่นราสพ์เบอรี่ช๊อคโกแลต คือ พอได้ชิมแล้ว รู้สึกว่าแก้วนี้แหละ ที่เหมาะกับหน้าร้อนแบบนี้มาก เพราะรสชาติที่เปรี้ยวอมหวานของผลไม้ ความเย็นของซอร์เบท์ และ ความฉ่ำของเบอรี่ต่างๆ ทำให้เวลาทานแล้ว รู้สึกสดชื่นมากๆเลยครับ นอกจากความสดชื่นแล้ว แก้วนี้ยังมีเนื้อสัมผัสต่างๆ…