วันนี้มาถึงเร็ว ก็ขอมานั่งชิลริมแม่น้ำเจ้าพระยาซักหน่อย พร้อมจิบซิกเนเจอร์ค็อกเทลของที่นี่ อย่าง River Breeze (350++ บาท)  ยังไม่ได้ชิม กลิ่นหอมของเสาวรสก็โชยมาเลยครับ รสชาติเข้มข้น เปรี้ยวหวาน ทำให้รู้สึกสดชื่นดี แก้วนี้รู้สึกถึงแอลกอฮอล์อ่อนๆ หรือ แทบจะไม่รู้สึกเท่าไร แต่ด้วยรสชาติแล้ว โอเคมากๆ ถือว่า เรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดีทีเดียว

ถึงเวลาแล้ว เราก็เดินมาที่ห้องอาหาร Next 2 Café กันเลย ขอลองเข้าไปเดินดูไลน์บุฟเฟ่ต์ก่อนแล้วกัน รู้สึกว่ามันเยอะมากๆจริงๆ ด้วยความหลากหลาย และ วัตถุดิบแต่ละอย่างที่ใช้ ก็ต้องบอกว่าคุณภาพจริงๆ  เขาไม่ได้มาเล่นๆจริงๆ จัดเต็มสุดๆ กับ บุฟเฟ่ต์ทุกเย็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ท่านละ 2,200 บาท เน็ต

บรรยากาศข้างในก็ดูสบายๆ

Salads

ในส่วนของไลน์บุฟเฟ่ต์ ก็จะมีทั้งสลัดในแบบที่ให้เรามาใส่ผักเองตามใจชอบ กับ แบบที่เค้าปรุงมาให้เรียบร้อยแล้ว

ในส่วนนี้เราก็สามารถใส่ผักตามชอบได้เลยครับ

มีเดรสซิ่ง และ ท๊อปปิ้งสำหรับสลัดมากมายเลยครับ

ในส่วนของสลัดที่เตรียมมาแล้วก็อยู่ข้างๆกัน

Phuket Lobster Salad เราขอเริ่มด้วยจานที่ดูสะดุดตาที่สุดก่อนแล้วกัน เสิร์ฟล็อบสเตอร์มาเป็นตัวเลย

Tuna nicoise with bacon crisps, potatoes, tomatoes, quail eggs and roasted capsicum

Seared Angus beef, prawns, asparagus ,arugula and mustard dressing

Smoked Duck with Grilled Pineapple สำหรับจานนี้ชื่ออาจจะผิดพลาดเล็กน้อย คือ ไม่มีสับปะรดนะครับ จะเป็นส้มแทน

Grilled Baby octopus, chorizo, black olive, aubergine, roasted bell peppers and sherry vinaigrette

Seafood on Ice

อาหารทะเลมาพร้อมให้เลือกทานแล้ว

ล็อบสเตอร์เนื้อแน่นๆ มาเป็นตัว เพื่อให้ทานง่าย เขาจะเสิร์ฟมาแบบผ่าครึ่งมาให้แล้วครับ

เนื้อแน่นแล้ว แน่นกว่านี้ก็ต้องส่วนกล้ามของล็อบสเตอร์นี่แหละครับ มีความสดดีครับ

ต่อมาเป็น กุ้งแม่น้ำเนื้อเด้งๆ แน่นๆ

หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์

กุ้ง

ปูอลาสก้าก็มา

นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ Oyster bar ด้วย โดยเป็นหอยนางรมนอกทั้งหมด ลองทานจากทั้งสามที่ มีความสดดี ทั้งสามที่เลยครับ

จากฝรั่งเศส

จากสหรัฐอเมริกา

จาก ออสเตรเลีย อันนี้ตัวก็จะเล็กหน่อยๆ

Cold cuts & Cheese

โคลด์คัทจะมี 3 อย่าง ด้วยกัน มี Parma ham, Coppa di Parma และ Beef Bresaola สองอย่างแรกจะทำจากเนื้อหมู ส่วนอีกอันจะทำจากเนื้อวัวครับ

ในส่วนของชีส   ก็มีให้เลือกทานกันหลายอย่างเลย อาทิเช่น  Cheddar, Gruyère, Blue cheese, Brie เป็นต้น

มีแครกเกอร์ และ ขนมปังให้ทานคู่กันด้วย

นอกจากนี้ก็มีมะกอก กระเทียมดอง มะเขือเทศตากแห้ง ด้วย

Japanese

ในส่วนของอาหารญี่ปุ่นก็จะมีในส่วนของ ซูชิ และ ซาชิมิ นิดๆหน่อยๆ

จะมีซูชิหน้าต่างๆ ให้เลือกทานกัน  ในส่วนของซาซิมิ ก็จะมี อาทิเช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ไข่หวาน เป็นต้น

ส่วนสามอย่างนี้จะเป็นตัวที่พรีเมี่ยมขึ้นมา ได้แก่ ซูชิหน้าปลาไหลสอดไส้ด้วยไก่เทมปุระ ซูชิหน้าเนื้อวากิวรนไฟ สอดไส้ด้วยกุ้งชุบแป้งทอด และ ซูชิหน้าปลาแซลมอนลนไฟ

อันนี้เค้าจัดมาเป็นเซ็ตให้เลย

Live Cooking Counter

ขยับมาก็จะเป็นในส่วนของ Live Cooking Station นะครับ ในส่วนนี้เขาจะปรุงอาหารออกมาให้เข้ากับคอนเซปท์ในครั้งนี้ คือ ‘ เซิร์ฟแอนด์เทิร์ฟ ’ การผสมผสานระหว่าง เนื้อ และ อาหารทะเล อย่างลงตัว

จะมีเสิร์ฟ Canadian Lobster & Bacon slider คือ เป็นเบอเกอร์ที่ทำจากหมึกของปลาหมึก แทรกกลางระหว่างขนมปังสีดำด้วยล็อบสเตอร์ย่าง เบคอน และ ผักต่างๆ ตรงกลาง

และก็มี Seared ‘a la minute’ wagyu steaks & river prawn served with herb butter

เป็นกุ้งแม่น้ำย่างมาไม่สุกจนเกินไป และ วางเนื้อวากิวย่างชิ้นหนากำลังดี ข้างบนอีกที

European

ขอเริ่มจาก Salmon Coulibiac เสิร์ฟมาคู่กับ Lemon Butter sauce

คือ มันจะเป็นเหมือนพัฟทรงยาวชิ้นโต สอดไส้ปลาแซลมอนเป็นชิ้นๆ และ ผักโขมนุ่มๆ ทานคู่กับ ซอสเลมอนบัตเตอร์ หอมๆ

เขยิบมาก็จะเป็น ซี่โครงวัวแองกัสชิ้นโต  ‘Australian Black Angus Prime Ribs’

เนื้อมีความสีชมพูตรงกลางนิดๆ

ทานคู่กับผักย่างต่างๆ

และ มันฝรั่งอบ

Osso Bucco Braised with White wine and Anchovies อาหารอิตาเลียน ที่นำเนื้อส่วนน่องของลูกวัว มาตุ๋นกับเครื่องปรุงต่างๆ

Baked oysters หรือ หอยนางรมอบชีส นั่นเอง

Layered chicken & shrimp Lasagna Florentine

ลองตักดูซักนิด

อันนี้เป็นซี่โครงแบล็กแองกัส เหมือนข้างในนะครับ แต่อันนี้เชฟจะแสดงฝีมือในการหั่นซักเล็กน้อย

Chef Phillip Taylor – Executive Sous Chef แห่งโรงแรมแชงกรี-ล่า กรุงเทพฯ ให้เกียรติมาลงมือเองเลย

ฝีมือเชฟ ออกมาสวยงาม เสิร์ฟคู่กับซอสรสเข้มข้น

สำหรับเมนูนี้พิเศษสุด นั่นก็คือ Lobster Thermidor  เป็นจานที่ไม่ได้มีในไลน์บุฟเฟ่ต์ แต่ท่านใดสนใจอยากลิ้มลอง สามารถสั่งไว้ก่อนล่วงหน้า ตอนที่สำรองที่นั่งได้ครับ

เป็นการนำเนื้อล็อบสเตอร์ไปปรุงกับซอสเทอมิดอร์รสชาติเข้มข้น และโรยด้วยชีส แล้วนำไปอบจนสีสวยงาม ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วครับ เป็นเมนูที่ถ้ามาแล้ว ห้ามพลาดจริงๆ

Chinese

ในส่วนนี้ ไฮไลท์จะอยู่ที่ 4 จานนี้เลยครับ คือ เป็นเมนูเด็ด จากห้องอาหาร Shang Palace เริ่มจากซุปกระเพราะปลาน้ำแดง

ผักปวยเล้งไข่คู่

ผัดหมี่ฮกเกี้ยน

ปลาทอด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และ เซลารี่

นอกจากนี้ในโซนนี้ก็จะมี ข้าวมันไก่

 และ ข้าวต่างๆ รวมไปถึง  อาหารอินเดีย อย่างข้าวหมกแกะ ด้วย

มองกลับไปอีกฝั่ง ก็จะมีสเตชั่นของก๋วยเตี๋ยว ก็สามารถสั่งกันได้เช่นกันครับ

Indian

เมื่อกี้ก็จะมีอาหารอินเดีย ไปปนๆ กับส่วนของอาหารจีนบ้าง คราวนี้ขอย้ายมาสเตชั่นของอาหารอินเดียเลยแล้วกันครับ ก็จะเป็นประมาณจำพวกแกงต่างๆ รวมไปถึงก็จะมีแป้ง และ เครื่องเคียงต่างๆ ให้ทานคู่กันด้วย

เริ่มจาก Vegetable Jalfrezi

ต่อมาเป็น Chicken Masala

และ Lamb Rogan Josh

ทานง่าย เพราะ เขาหั่นเนื้อเป็นชิ้นๆ มาพอดีคำแล้วด้วย

เรามาดูแป้งที่ทานคู่กันบ้าง จะมี แป้งปาปาดัม (รอบนอก) กับ แป้งนาน (ตรงกลาง)

เครื่องเคียงก็มีหลากหลายเลย อาทิเช่น พวกผักดองต่าง ชัทนีย์ต่างๆ และ มิ้นท์ไรต้า

นอกจากนี้ก็จะมี Prawn Tandoori

อันนี้เขาเอามาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ เขาราดมิ้นท์ไรต้ามาให้ และ ตกแต่งด้วยดอกไม้มาอย่างสวยงาม

ย่างกันแบบ Tandoori ของจริง

Thai

ขยับออกมาโซนข้างนอก ก็จะมีอาหารไทยต่างๆ เช่น อาหารยอดฮิตของชาวไทยและ ต่างชาติ ต้มยำกุ้ง

แกงเขียวหวาน

ปลาทอดสามรส

แกงพะแนง

เปาะเปี๊ยะทอด

ข้าวอบสับปะรด

นอกจากนี้ก็มีผัดไทยด้วย

รวมไปถึงผัดผักต่างๆ ก็สามารถสั่งให้พี่เขาผัดให้ได้เช่นกันครับ

Barbeques

สเตชั่นนี้ก็อยู่ด้านนอกเช่นกัน มีให้เลือกละลานตาไปหมด ไม่ว่าเป็น เนื้อ กุ้ง ปลา สดๆ

ดูความอลังการของเตาย่าง

หรือ แม้กระทั่ง ฟัวกราส์ เราก็สามารถสั่งได้ที่สเตชั่นนี้เลยครับ

Rooted in Nature

ขอวกกลับมาข้างในอีกรอบ ในส่วนของสเตชั่น ‘ Rooted in Nature’ ในส่วนนี้เป็นอาหารจะดู ออกแนวสลัดสุขภาพๆ และ ก็ดูเหมือนจะเป็นมังสะวิรัติด้วย

จะออกเป็นแนวสลัดพาสต้า

มีส้มตำด้วย ในส่วนนี้เราสามารถตำในแบบรสชาติของเราได้เลยครับ เผ็ดมาก เผ็ดน้อย เปรี้ยว หวาน เค็ม ตามสบายเลยครับ

อันนี้เขาตำมาให้ ใส่ครกเล็กๆ น่ารัก ทานคู่กับผักสด และ แคบหมู ก็อร่อยครับ

Sweets & Pastries

เริ่มด้วยขนมไทย และ ผลไม้ต่างๆ ก่อนแล้วกัน

อันนี้เป็นขนมปังบริยอช สอดไส้ครีม

Flourless Chocolate cake ชื่อดูดึงดูดมากๆ เป็นเค้กช็อคโกแลตที่ไม่ได้ใส่แป้งด้วย

แนะนำชิ้นนี้เลย เป็นชีสเค้กที่ท๊อปปิ้งด้วยถั่วต่างๆ นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นอัลมอนด์ พิสตาชิโอ วอลนัท เป็นต้น เคลือบด้วยคาราเมล คือ จากความชอบส่วนตัวเลย ทั้ง คาราเมล และ ชีสเค้ก บอกเลยว่าชิ้นนี้ดีงามมาก

 มีลอลลี่ป๊อปช็อคโกแลตต่างๆ

มีช็อคโกแลตทรัฟเฟิล หลากหลายไส้ให้เลือกชิมกัน

 

มีช็อคโกแลตลาวาด้วย ทานกับซอสวานิลา

อันนี้ผลไม้สำหรับ ทำฟองดูว์ช็อคโกแลตครับ

เริ่มด้วยตู้ไอศกรีมสุดอลังการ มีให้เลือกมากมายสิบกว่ารสชาติ

มีท๊อปปิ้งต่างๆ ให้ใส่ด้วย

นอกจากนี่ก็จะมีขนมเป็นชิ้นๆ เล็กๆ อย่างเค้กชิ้นเล็กๆ ทาร์ต มาการอง หรือ ชูครีม ให้เลือกทานอีกหลากหลายอย่างครับ คือ คิดว่าสำหรับขนมจะไม่แน่นอนว่าเป็นอะไร เพราะ จากที่สังเกตแต่ละรอบที่เติม ขนมก็จะหมุนเวียนหน้าตาไป ไม่ซ้ำกันครับ

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ สำรองที่นั่งได้ที่ 02 236 9952 หรือ 02 236 7777 หรือ ทางอีเมลล์ [email protected] และ นอกจากนี้ก็สามารถจองโต๊ะทางออนไลน์ได้แล้วด้วยครับที่ http://www.shangri-la.com/bangkok/shangri-la/dining/restaurants/next2/book-a-table/

ขอปิดท้ายด้วยรูปวิวแม่น้ำเจ้าพระยานะครับ

 

Story / photo : Krangkrai T.

KinlakeStars.com

---

 

KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว

รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด