Kinandleisure
    Facebook Twitter Instagram
    Trending
    • [News] “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน | American Beef Feast 2025” ร่วมเฉลิมฉลองปลายปี 2025 ด้วยรสชาติแห่งความเป็นเลิศของเนื้อวัวอเมริกันพรีเมี่ยม
    • [Review] NewTasting menu of แก่นกรุง: แก่นแท้แห่งอีสาน ที่สลักเกลาเพื่อเมืองกรุง
    • [News] EMBASSY ROOM LA MARINA  ยกระดับเอกลักษณ์อาหารอิตาเลียนชายฝั่งกับเชฟคนใหม่ อเลสซิโอ บันเคโร Chef Alessio Banchero
    • [ToKnow] “แกงหอง” เมนูทรงโปรดในสมเด็จพระพันปีหลวง – ตำรับชาววังโบราณ กับสูตรทำง่ายแต่รสละเมียดแบบวังแท้
    • [Review] ชุดชาแสนวิจิตรสุดอร่อย โดยเชฟมากรางวัล Nicolas Lambert Afternoon Tea at The Lounge – Four Seasons Hotel Bangkok
    • [Review] “Espresso Intermezzo” Afternoon Tea ใหม่สุดหรูจาก Ms.Jigger, Kimpton Maalai Bangkok สัมผัสรสชาติอิตาเลียนยามบ่ายในบรรยากาศสุดชิค
    • [News] RAVA Beach Club เปิดตัว Pura Vida Sunday Brunch ที่สุดแห่งประสบการณ์บุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์ในบรรยากาศริมสระน้ำรับวิวสุดอลังของหาดบางเทา
    • [Promo] “FRIDAY POUR” at The Coffee Academics, Velaa Sindhorn Village Langsuan
    Facebook Twitter Instagram
    Kinandleisure
    • Kin Reviews
      • Top Restaurant
      • French Cuisine
      • European Cuisine
      • German Cuisine
      • Italian Cuisine
      • Japanese Cuisine
      • Thai Cuisine
      • International Cuisine
      • Spanish Cuisine
      • tea lounge/Café & bakery
      • Chinese Cuisine
      • American Cuisine
      • Bar Drinks
      • Steak House
      • Vietnamese Cuisine
      • Korean Cuisine
      • Indian Cuisine
      • latin American
      • Steak House
    • K healthy
      • Kin Healthy
      • Healthy Living
    • Kin Articles
      • Kin General
      • Kin Cooking
      • Kin Seasonal
    • Kin Channel
    • Promo & Event
      • Kin Promo
      • Kin News
      • LifeStyle Promo & Event
    • K Travel&LifeStyle
      • Trip Review
      • Hotel Review
      • Spa & beauty
      • K Fashion
      • K Fit
      • Our Team เบื้องหลัง โฉมหน้าผู้สร้างเนื้อหา กิน ดื่ม เที่ยว โดยทีมงานคุณภาพ
    • K Living & Design
    Kinandleisure
    Home»Dining Type»Casual Dining»[Review] “Espresso Intermezzo” Afternoon Tea ใหม่สุดหรูจาก Ms.Jigger, Kimpton Maalai Bangkok สัมผัสรสชาติอิตาเลียนยามบ่ายในบรรยากาศสุดชิค
    Casual Dining

    [Review] “Espresso Intermezzo” Afternoon Tea ใหม่สุดหรูจาก Ms.Jigger, Kimpton Maalai Bangkok สัมผัสรสชาติอิตาเลียนยามบ่ายในบรรยากาศสุดชิค

    Natthanai ChunplengBy Natthanai ChunplengOctober 22, 2025Updated:November 6, 2025No Comments4 Mins Read

    รีวิวเชิงลึกโดย Natthanai C. — Ms.Jigger, Kimpton Maalai Bangkok


    Ms.Jigger ห้องอาหารอิตาเลียนร่วมสมัย ณ โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ เปิดตัวเซ็ตอาฟเตอร์นูนทีใหม่ในชื่อ “Espresso Intermezzo” ประสบการณ์ชายามบ่ายที่ห่อหุ้มด้วยกลิ่นอายกาแฟอิตาเลียน ของว่างคาวหวานแบบอิตาเลียน และม็อกเทลกาแฟสรรค์สร้างเป็นพิเศษ เซ็ตราคา 1,590++ บาทสำหรับ 2 ท่าน (รวมเครื่องดื่ม 2 แก้ว เลือกระหว่างชา กาแฟ หรือกาแฟม็อกเทล) ให้บริการทุกวัน 11:30–17:00 น.


    บริบทของสถานที่และคอนเซ็ปต์

    Ms.Jigger เป็นห้องอาหารอิตาเลียนร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงจากเมนูกลางวัน-เย็นแบบ a la carte แต่ครั้งนี้ทีมครัวตั้งใจนำเสนอ “อาฟเตอร์นูนที” ที่ไม่ใช่การเสิร์ฟแค่ขนมเค้กและชา แต่เป็นการตีความอาหารว่างอิตาเลียนให้เข้ากับภาษากาแฟ จึงเกิดเป็นชุด Espresso Intermezzo ซึ่งเป็นการผสมผสานความเป็นอิตาเลียนกับเทคนิคการชงกาแฟสมัยใหม่ (cold brew, freddo) และม็อกเทลกาแฟที่นำเสนอเป็นไอเดียใหม่สำหรับตลาดไลฟ์สไตล์และสายคาเฟ่เชิงแฟน์ไดนิ่ง

    บรรยากาศ Ms.Jigger Terrace ให้ความผ่อนคลาย มีแสงธรรมชาติเข้าถึง เหมาะสำหรับการพูดคุยเบา ๆ ระหว่างมื้อบ่าย โดยเฉพาะถ้าต้องการนำสัตว์เลี้ยงมาร่วมสนุกด้วย ซึ่งช่วยขยายกลุ่มลูกค้าจากเพื่อนร่วมทานสู่กลุ่ม lifestyle-conscious pet owners


    เซ็ต Espresso Intermezzo

    • ราคา: 1,590++ บาท / เซ็ต (2 ท่าน) — รวมเครื่องดื่ม (ชา/กาแฟ/ม็อกเทลกาแฟ)
    • เวลาให้บริการ: 11:30 – 17:00 น. ทุกวัน
    • สถานที่: Ms.Jigger, Kimpton Maalai Bangkok (Ms.Jigger Terrace เป็นโซนสำหรับสัตว์เลี้ยง)
    • สำรองที่นั่ง: โทร 02 056 9999 / Line @ms.jigger / [email protected]

    รายการอาหารคาว (Savoury)

    ในเซ็ตนี้ ทีมครัวคัดสรรของว่างคาว 6 รายการ ซึ่งแต่ละชิ้นมีบทบาทชัดเจนทั้งด้านรส สัมผัส และหน้าที่ในการ “ตัด” หรือ “เติม” ขณะทานคู่กับกาแฟ/ชา

    1. Rotoli di Piadina con Tonno — Piadina rolls with tuna, capers and Kalamata black olives

    piadina คือแผ่นแป้งแบบอิตาเลียน (คล้ายแผ่นแผ่นแป้งประเภท flatbread) ที่ถูกม้วนเป็นโรล ตรงนี้สอดไส้ทูน่า ผสมเคเปอร์ และมะกอกดำคาลามาตา ไส้ทูน่าที่ปรุงรสด้วยน้ำมันมะกอกและเลมอนให้ความสดชื้น ตัดด้วยความเค็มและอมเปรี้ยวของเคเปอร์ ส่วนตัวแป้งมีความหนานุ่มแต่ยังคงเนื้อสัมผัสที่ทานแล้วรู้สึก “เคี้ยว” — ความรู้สึกกรอบนอกนุ่มในจะขึ้นอยู่กับการอุ่นก่อนเสิร์ฟ


    การบาลานซ์ไขมัน (จากทูน่าและน้ำมันมะกอก) กับกรด (เลมอน/เคเปอร์) สำคัญมาก — ถ้าไขมันโดดจะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วเกินไปสำหรับอาฟเตอร์นูนที
    จับคู่: เหมาะกับกาแฟ cold brew เบา ๆ (Caffè Fruttato) หรือชาเขียวแบบมีกรดผลไม้เล็กน้อย — ทั้งคู่จะช่วยตัดความมันและเพิ่มความรู้สึก “สะอาด” ในปาก

    2. Pettole Salentine al Pomodoro Piccante — deep fried pizza dough with anchovies, served with spicy pomodoro sauce

    พิซซ่าโดว์ทอดเป็นชิ้น ๆ (pettole) ราด/เสิร์ฟคู่กับซอสมะเขือเทศรสจัดและปลากะตักหรือแอนโชวีที่ให้ความเค็มลึก ด้านนอกกรอบ ด้านในฟู — เนื้อแป้งมีความยืดและเส้นใยตัวแป้งทำหน้าที่เป็นตัวรับรสจากซอส pomodoro ที่มีความเปรี้ยว-หวาน-เผ็ด

    การปรุงซอสมะเขือเทศต้องควบคุมความเป็นกรดให้ชัดเจน ระวังอย่าให้เผ็ดกลบความหอมของโดว์ทอด การเพิ่ม anchovy เป็นการใส่ umami ชั้นลึก ทำให้จานออกมา “โต” กว่าความคาดหมาย
    จับคู่: เหมาะกับกาแฟเย็นที่มี body ปานกลาง เช่น Freddo หรือม็อกเทล Roma Rosso ที่มีกลิ่นกุหลาบและพีช ช่วยเบรกความเค็มและเติมมิติให้จาน

    3. Focaccia con Mortadella, Provola e Melanzane — focaccia filled with mortadella ham, provola cheese and grilled eggplant

    โฟคาเซียสอดไส้ มอร์ตาเดลล่า ชีสโพรโวลา และมะเขือย่าง — เป็นการเล่นระหว่างไขมันและควันจากมะเขือย่าง มอร์ตาเดลล่ามีความมันที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานกับความยืดของโพรโวลาและความฉ่ำของมะเขือย่าง ชิ้นนี้เป็น “ตัวหลัก” ที่ให้ความรู้สึกอิ่มในเซ็ต ถ้าทำได้ดี จะเห็นการละลายของชีสที่เรียงชั้นกับความเค็มอ่อนของแฮม


    กินตอนอุ่นหลังเสิร์ฟทันที่ จะทำให้ชีสเริ่มยืดโดยไม่เหลวจนเกินไป ปริมาณมอร์ตาเดลล่าต้องพอเหมาะเพื่อไม่ให้กลบความเป็นมะเขือย่าง
    จับคู่: ไปได้ดีกับชาดำเข้ม หรือ Caffè Fruttato ที่มีโน้ตผลไม้จะช่วยตัดน้ำมันและเพิ่มความสมดุล

    4. Bruschetta al Gambero Rosso Stracciatella e Caviale — bruschetta with red prawn tartare, stracciatella cheese and caviar

    บรูสเก็ตต้า (ขนมปังปิ้ง) หรูด้วยทาร์ทาร์กุ้งแดง (ความสด), สตรัคคิอัตเตลล่า (stracciatella — ครีมชีสรสละมุน) และไข่คาเวียร์เป็นท็อป สมดุลระหว่างความสดหวานของกุ้ง ความนุ่มละมุนของสตรัคคิอัตเตลล่า และปริมาณรสเค็มอ่อนจากคาเวียร์ที่เป็นฟินิช ชิ้นนี้มีความซับซ้อนและเล่น dynamic ของรสได้ดีมาก


    เนื้อกุ้งต้องหั่นละเอียดและปรุงด้วยน้ำส้มเล็กน้อย น้ำมันมะกอกคุณภาพดี และเกลือเพียงเล็กน้อย หลีกเลี่ยงเครื่องเทศแรงๆ เพื่อไม่ให้บดบังความหวานของกุ้ง
    จับคู่: แนะนำให้ทานกับกาแฟเบลนด์ที่มีกรดอ่อน หรือชาเบลนด์ผลไม้ (เช่น เอิร์ลเกรย์เบา) เพื่อไม่ให้กลบรสทะเลของกุ้ง

    5. Canestrini con Spuma di Ricotta e Salmone Affumicato — tartlet filled with ricotta and smoked salmon, bottarga with basil air

    แคนเนสทรีนี (tartlet) สอดไส้ริคอตต้าครีมกับแซลมอนรมควัน ท็อปด้วยบอตตาร์ก้า (bottarga — ไข่ปลาตาก/แปรรูป) และฟองเบซิลเป็น airy finish ความครีมมี่ของริคอตต้า เสริมด้วยความควันนุ่มของแซลมอนและความเค็ม-นัวของบอตตาร์ก้า ฟองเบซิลให้มิติหอมสดชื่นด้านบน เป็นการรวมกันระหว่างครีมกรอบและความซีฟู้ดแบบ refined


    เทคนิค: การทำ spuma (โฟม) เบซิล ต้องคงกลิ่นหอมไม่ให้โดนความร้อนมากเกินไป และเชฟต้องคำนวณเกลือให้พอดีเพื่อไม่ให้ซ้อนเกลือกับบอตตาร์ก้า
    จับคู่: เหมาะกับ Freddo หรือ Caffè Freddo all’Acqua di Cocco ที่ใช้มะพร้าว-ส้ม ช่วยรับความครีมและให้ฟีล tropical เบา ๆ

    6. Insalata Caprese — buffalo mozzarella cheese, cherry tomato, oregano, olive oil & balsamic reduction

    คลาสสิกคาปรีเซ่ในขนาดคำ — มอสซาเรลล่าบัฟฟาโล่ มะเขือเทศเชอร์รี่ น้ำมันมะกอกและบัลซามิกที่เคี่ยวจนเข้มข้น ความสด ความครีมของมอสซาเรลล่า ตัดด้วยความเปรี้ยวหวานของบัลซามิกที่เข้มข้น จานนี้เป็น palate cleanser ธรรมชาติในชุด ช่วยเตรียมพื้นที่ให้ขนมหวานรับช่วงต่อ


    คุณภาพมอสซาเรลล่าและมะเขือเทศสำคัญสุด หลีกเลี่ยงมะเขือเทศที่ไม่หวานพอ หรือบัลซามิกที่หวานแหลมจะทำให้จานเสียสมดุล
    จับคู่: ชาเขียวเบา ๆ หรือ Caffè Fruttato จะช่วยรักษาความสดและไม่กลบวัตถุดิบ


    รายการขนมหวาน (Sweet)

    ขนมหวานในชุดให้ความหลากหลายตั้งแต่เบเกอร์ที่มีถิ่นกำเนิดแบบเก่า ไปจนถึงขนมทอดที่ให้สัมผัสอบอุ่น — ทั้งหมดคือการสื่อสารรสชาติอิตาเลียนในรูปแบบคำเล็ก ๆ

    1. Torta Caprese — dark chocolate and almond cake

    เค้กช็อกโกแลตเข้มผสมอัลมอนด์ที่มักมีโครงสร้างเนื้อแน่นแต่ชื้น — เป็นเค้กที่ให้รสช็อกโกแลตบริสุทธิ์และน้ำตาลน้อย เนื้อแน่นแต่ยังคงความชื้นจากอัลมอนด์ ทำให้รสสัมผัสหนักแน่นในปาก — เหมาะกับการทานคู่กาแฟเข้มหรือมูสด้านบน
    จับคู่: Mousse di Cioccolato al Rhum หรือกาแฟเข้ม ๆ จะเข้ากันดี

    2. Cannoli Siciliani — Sicilian cannoli filled with sweet ricotta cheese and pistachio crumble

    เปลือกกรอบสอดไส้ริคอตต้าหวาน โรยพิสตาชิโอครัมเบิล สัญลักษณ์ขนมหวานสไตล์ซิซิลี โดยความ Contrast ระหว่างเปลือกกรอบกับครีมริคอตต้าที่เนียน ผู้ทำรักษาความกรอบของเปลือกและความชื้นของไส้ให้สมดุลได้เป็นอย่างดี
    จับคู่: เหมาะกับกาแฟที่มีโน้ตถั่วหรือช็อกโกแลต (เช่น Freddo กับคุกกี้ช็อกโกแลต) หรือชาเอิร์ลเกรย์เพื่อให้มิติหอม

    3. Bombolini alla Crema di Nocciole — deep fried doughnuts with hazelnut custard cream & lemon curd

    บอมโบลินี คือโดนัทอิตาเลียนทอด ไส้ครีมเฮเซลนัตผสมเลมอนคอร์ดเพื่อบาลานซ์น้ำมันทอด ด้านนอกทอดกรอบนุ่มภายใน ไส้ครีมถั่วให้ความมัน หยดเลมอนคอร์ดทำหน้าที่ให้ความสดชื่นและตัดความเลี่ยน เป็นชิ้นที่ถ้าทำดีจะสร้างความประทับใจแบบ comfort-food ในเซ็ตได้อย่างดี
    จับคู่: ดีมากกับ Caffè Freddo all’Acqua di Cocco — มะพร้าวและส้มในเครื่องดื่มจะกลมกลืนกับเลมอนคอร์ดและเฮเซลนัต

    4. Bigne alla Crema di Tiramisu — choux filled with mascarpone & coffee custard

    ชูว์สอดไส้ทิรามิสุ (มาสคาร์โปนผสมคัสตาร์ดกาแฟ) การย่อทิรามิสุเป็นคำสั้น ๆ ที่กินง่ายบนถาดสแตนด์ ครีมมีมิติของกาแฟและครีมชีส ความหวานถูกควบคุมไม่ให้หวานโดด ชิ้นนี้เป็นการเล่นกับแนวคิดของทิรามิสุแบบเดิมในเวอร์ชั่นพอดีคำ
    จับคู่: ควรจิบ Freddo หรือกาแฟร้อนแบบเข้มข้น เพื่อสะท้อนโน้ตกาแฟในไส้

    5. Mousse di Cioccolato al Rhum — dark chocolate rhum mousse

    มูสช็อกโกแลตผสมเหล้ารัม ให้ทั้งความลึกของช็อกโกแลตและอาฟเตอร์เทสของเหล้า ละเอียด นุ่ม ละลายในปาก — เหมาะเป็นบทสรุปของมื้อบ่ายที่ให้ความรู้สึก “ปิดฉาก” อย่างอบอุ่น
    จับคู่: กาแฟเอสเปรสโซหรือชาดำเข้ม จะทำหน้าที่ขยายและโอบอุ้มรสช็อกโกแลต


    เครื่องดื่มม็อกเทลกาแฟและกาแฟพิเศษ

    Ms.Jigger สร้างม็อกเทลกาแฟเป็นองค์ประกอบสำคัญของคอนเซ็ปต์ แต่ละเมนูมีทั้งกาแฟจากแหล่งต่าง ๆ และการผสมผสานที่ต้องอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจเชิงรส

    Freddo

    กาแฟอาราบิก้าจากโคลอมเบีย เสิร์ฟเย็นแบบ freddo โน้ตช็อกโกแลต/คาราเมลเบา ๆ เสิร์ฟพร้อมคุกกี้ช็อกโกแลต
    โคลอมเบียให้บาลานซ์ดี เหมาะกับเมนูที่มีถั่ว/ช็อกโกแลต (เช่น cannoli หรือ torta caprese)

    Caffè Freddo all’Acqua di Cocco

    กาแฟโคลด์บรูว์จากนิการากัว ผสมมะพร้าวและส้ม เพิ่มความซ่าจากโซดา
    การผสมมะพร้าวและส้มนำมิติ tropical ที่เหมาะกับเมนูมีครีม/เฮเซลนัต หรือเมนูทะเลเบา ๆ (canestrini ด้วยแซลมอน)

    Roma Rosso

    กาแฟอาราบิก้าจากอินเดีย ผสมกับน้ำหวานกุหลาบจุฬาลงกรณ์ และโซดาพีช-มะลิ
    บทวิเคราะห์: หอมฟลอรัล สดชื่น เหมาะกับบรูสเก็ตต้าและขนมที่ต้องการความสดชื่น

    Caffè Fruttato

    กาแฟโคลด์บรูว์ผสมเกรปฟรุตสีชมพู ลูกแพร์ ส้ม และนม กลิ่นผลไม้ชัดเจนแต่ยังคงบาลานซ์ของกาแฟ
    ใช้เป็นตัวตัดความมันในชีส/มอร์ตาเดลล่า รวมถึงช่วยดึงรสของ piadina และ focaccia


    การบริการ และการนำเสนอ (Plating & Service)

    การเสิร์ฟอาฟเตอร์นูนทีที่ Ms.Jigger ใช้สแตนด์สี่ชั้นทองเหลืองเป็นพื้นฐาน ซึ่งช่วยให้การเล่าเรื่องระหว่างคาวและหวานเป็นไปอย่างมีจังหวะ ของคาววางชั้นบน ขนมหวานชั้นล่าง สร้างการไต่ระดับจากรสหนักสู่หวานละเอียด พนักงานให้คำแนะนำการจับคู่เครื่องดื่มอย่างเป็นมิตรและมีความรู้ ทำให้ผู้มารับประทานรู้สึกว่าได้ทดลองทั้งรสและเทคนิคการชง

    การใช้ภาชนะสีขาวขอบทองช่วยยกระดับความรู้สึกหรูหรา แต่ยังคงความเป็นมิตร สิ่งที่น่าสังเกตคือการรักษาอุณหภูมิสำหรับชิ้นทอด/ชีสให้ถูกต้องก่อนเสิร์ฟเพื่อคงคุณภาพสูงสุด


    Editorial Verdict

    จุดแข็ง:

    • คอนเซ็ปต์ชัดเจน การนำกาแฟแบบอิตาเลียน/ม็อกเทลมาเป็นหัวใจของอาฟเตอร์นูนทีเป็นไอเดียที่มีเสน่ห์และตลาดรับได้ดี
    • ความหลากหลายของรส จากทะเล (กุ้ง แซลมอน) ไปถึงถั่วและช็อกโกแลต ครบถ้วนทั้งมิติรสและสัมผัส
    • การจับคู่เครื่องดื่มที่ตั้งใจสร้างทำให้เซ็ตนี้ไม่ใช่แค่อาฟเตอร์นูนที แต่เป็น tasting experience ของกาแฟเชิงสร้างสรรค์

    คำแนะนำสำหรับผู้อ่าน (How to enjoy Espresso Intermezzo)

    1. เริ่มจากของคาวเรียงจากชิ้นที่มีรสเค็ม/อูมาม่ามากไปหาหมดสด (เช่น piadina → focaccia → bruschetta) เพื่อให้การรับรสเป็นลำดับ
    2. พนักงานมักจะแนะนำเครื่องดื่ม — ฟังคำแนะนำและเลือกม็อกเทลกาแฟหนึ่งแก้ว เพื่อสัมผัสคอนเซ็ปต์ของเซ็ต
    3. เวลาทานของทอดให้รีบทานทันทีเพื่อรักษาความกรอบ — ของหวานสามารถทิ้งไว้เล็กน้อยเพื่อให้มูสหรือไส้เย็นลงเล็กน้อยก่อนทาน
    4. ถ้ามาเป็นคู่ แนะนำให้สั่ง Freddo และ Caffè Fruttato สองแบบ ต่างกันชัดเจนจะช่วยให้เปรียบเทียบรสและจับคู่กับขนมได้สนุกขึ้น

    ข้อมูลสำคัญสำหรับการสำรองที่นั่ง / การเข้าถึง

    • เวลาให้บริการชุด Espresso Intermezzo: ทุกวัน 11:30–17:00 น.
    • ราคาต่อเซ็ต (สำหรับ 2 ท่าน): 1,590++ บาท (รวมเครื่องดื่ม 2 แก้ว)
    • สำรองที่นั่ง: โทร 02 056 9999 / Line @ms.jigger / [email protected]
    • Ms.Jigger เปิดทุกวัน 11:30–24:00 น. — Ms.Jigger Terrace รับสัตว์เลี้ยง 11:30–17:00 น.


    
    

    บทสรุปท้ายบทความ (Closing remark)

    Espresso Intermezzo ของ Ms.Jigger ไม่ได้เป็นเพียงอาฟเตอร์นูนทีธรรมดา — แต่เป็นการทดลองเชิงรสที่นำกาแฟเป็นศูนย์กลาง มอบทั้งความสนุกของการจับคู่รสชาติและการนำเสนอแบบ fine-casual ที่ตอบโจทย์นักชิมสมัยใหม่ ถ้าคุณเป็นคนรักกาแฟ รักอาหารอิตาเลียน หรือมองหาสถานที่พบปะที่ให้ประสบการณ์เฉพาะตัว เซ็ตนี้เป็นข้อเสนอที่ควรลอง โดยเฉพาะการเลือกม็อกเทลกาแฟที่ทำให้แต่ละคำมีมิติใหม่ ๆ


    Kin Review

    Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์

    รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง Kinandleisure.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

    Share this:

    • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
    • Click to share on X (Opens in new window) X
    • Click to share on Threads (Opens in new window) Threads
    afternoon tea Bangkok best afternoon tea Bangkok Caffè Fruttato coffee mocktail Espresso Intermezzo Freddo Italian afternoon tea Kimpton MaaLai Bangkok Ms.Jigger pet-friendly terrace Bangkok
    Previous Article[News] RAVA Beach Club เปิดตัว Pura Vida Sunday Brunch ที่สุดแห่งประสบการณ์บุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์ในบรรยากาศริมสระน้ำรับวิวสุดอลังของหาดบางเทา
    Next Article [Review] ชุดชาแสนวิจิตรสุดอร่อย โดยเชฟมากรางวัล Nicolas Lambert Afternoon Tea at The Lounge – Four Seasons Hotel Bangkok

    Related Posts

    [Review] ชุดชาแสนวิจิตรสุดอร่อย โดยเชฟมากรางวัล Nicolas Lambert Afternoon Tea at The Lounge – Four Seasons Hotel Bangkok

    October 23, 2025

    [Review] Atelier Tea Reverie: จิบชายามบ่ายสุดหรูที่ Sindhorn Kempinski Bangkok x SIRIVANNAVARI– เมื่อแฟชั่นโคจรมาพบกับศิลปะบนจานอาหาร

    September 9, 2025

    [Review] Afternoon Tea หรู “Memoirs of Lanna” สัมผัสกลิ่นอายล้านนาใจกลางกรุงเทพที่สวยและอร่อยสุดๆ @ 137 Pillars Suites & Residences Bangkok

    September 4, 2025

    Comments are closed.

    • Recent Posts
    • POPULAR

    [News] “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน | American Beef Feast 2025” ร่วมเฉลิมฉลองปลายปี 2025 ด้วยรสชาติแห่งความเป็นเลิศของเนื้อวัวอเมริกันพรีเมี่ยม

    November 5, 2025

    [Review] NewTasting menu of แก่นกรุง: แก่นแท้แห่งอีสาน ที่สลักเกลาเพื่อเมืองกรุง

    November 1, 2025

    [News] EMBASSY ROOM LA MARINA  ยกระดับเอกลักษณ์อาหารอิตาเลียนชายฝั่งกับเชฟคนใหม่ อเลสซิโอ บันเคโร Chef Alessio Banchero

    October 31, 2025

    [ToKnow] “แกงหอง” เมนูทรงโปรดในสมเด็จพระพันปีหลวง – ตำรับชาววังโบราณ กับสูตรทำง่ายแต่รสละเมียดแบบวังแท้

    October 26, 2025

    [Review] ชุดชาแสนวิจิตรสุดอร่อย โดยเชฟมากรางวัล Nicolas Lambert Afternoon Tea at The Lounge – Four Seasons Hotel Bangkok

    October 23, 2025

    [News] “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน | American Beef Feast 2025” ร่วมเฉลิมฉลองปลายปี 2025 ด้วยรสชาติแห่งความเป็นเลิศของเนื้อวัวอเมริกันพรีเมี่ยม

    November 5, 2025

    [Review] NewTasting menu of แก่นกรุง: แก่นแท้แห่งอีสาน ที่สลักเกลาเพื่อเมืองกรุง

    November 1, 2025

    [News] EMBASSY ROOM LA MARINA  ยกระดับเอกลักษณ์อาหารอิตาเลียนชายฝั่งกับเชฟคนใหม่ อเลสซิโอ บันเคโร Chef Alessio Banchero

    October 31, 2025

    [ToKnow] “แกงหอง” เมนูทรงโปรดในสมเด็จพระพันปีหลวง – ตำรับชาววังโบราณ กับสูตรทำง่ายแต่รสละเมียดแบบวังแท้

    October 26, 2025

    [Review] ชุดชาแสนวิจิตรสุดอร่อย โดยเชฟมากรางวัล Nicolas Lambert Afternoon Tea at The Lounge – Four Seasons Hotel Bangkok

    October 23, 2025
    POPULAR

    “ฟัวกราส์” ถูกแบนแล้วในแดนแซมบ้า ห้ามซื้อห้ามขายห้ามกิน

    June 29, 2015

    เมล็ดมันแกวแก่ กินไม่ดีถึงตายไปหลายรายแล้ว!!!!

    June 30, 2015

    ภาชนะที่ทำจากโฟมใส่ของกินของต้องห้ามในนิวยอร์กตั้งแต่วันนี้!

    July 2, 2015
    @KinlakeStars
    KINLAKESTARS.COM

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

     

    Loading Comments...