Kinandleisure
    Facebook Twitter Instagram
    Trending
    • [News] โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ฉลอง 15 ปี แห่งความสำเร็จของ Lady in Red และ Gentleman in Red, Sindhorn Kempinski Bangkok
    • [News] รื่นรมย์กับมนต์เสน่ห์แห่งฤดูร้อน ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ The Okura Prestige Bangkok กับ “Sense of Lavender Afternoon Tea” 2025
    • [News] โซเนวา ชวนสัมผัสประสบการณ์ดูแลสุขภาพกับเทศกาล SOUL Festival ครั้งที่ 3 เวิร์กช้อปเพื่อดูแลสุขภาพอย่างล้ำลึกระยะเวลา 5 วัน ที่มัลดีฟส์ นำโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Sanctum, Ground Wellbeing และอีกมากมาย
    • [News] คีรี ไพรเวท รีเซิร์ฟมอบแพ็กเกจพิเศษสำหรับคนไทยเพื่อเป็นการส่งท้ายสัมผัสความเงียบสงบของเกาะกูด กับรีสอร์ตในฝันของทุกคน
    • [Review] ดื่มด่ำกับโลกไซไฟยามค่ำคืน กับอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสายรักษ์โลก กับมนต์เสน่ห์แห่งแกะไฟฟ้า @ Electric Sheep ,Bangkok
    • [News] สัมผัสมนต์สเน่ห์แห่งโมร็อกโก Morocco ณ ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู Vertigo Too, Banyan Tree Bangkok
    • [News] เรือแซฟฟรอน ครูซ โดย บันยันทรี กรุงเทพ อวดโฉมลุคใหม่จากแรงบันดาลใจ “ปลากัด” สัตว์น้ำประจำชาติบนเส้นทางสายวัฒนธรรมของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา New look Saffron Cruise, Banyan tree Bangkok
    • [Review] จากรากอีสาน สู่จานเมืองกรุง” – ดินเนอร์ร่วมรังสรรค์จากสามเชฟรุ่นใหม่ ที่เปลี่ยนมุมมองอาหารอีสานให้ ‘มากกว่าส้มตำ KAENKRUNG X House Number Seventeen Twelve
    Facebook Twitter Instagram
    Kinandleisure
    • Kin Reviews
      • Top Restaurant
      • French Cuisine
      • European Cuisine
      • German Cuisine
      • Italian Cuisine
      • Japanese Cuisine
      • Thai Cuisine
      • International Cuisine
      • Spanish Cuisine
      • tea lounge/Café & bakery
      • Chinese Cuisine
      • American Cuisine
      • Bar Drinks
      • Steak House
      • Vietnamese Cuisine
      • Korean Cuisine
      • Indian Cuisine
      • latin American
      • Steak House
    • K healthy
      • Kin Healthy
      • Healthy Living
    • Kin Articles
      • Kin General
      • Kin Cooking
      • Kin Seasonal
    • Kin Channel
    • Promo & Event
      • Kin Promo
      • Kin News
      • LifeStyle Promo & Event
    • K Travel&LifeStyle
      • Trip Review
      • Hotel Review
      • Spa & beauty
      • K Fashion
      • K Fit
      • Our Team เบื้องหลัง โฉมหน้าผู้สร้างเนื้อหา กิน ดื่ม เที่ยว โดยทีมงานคุณภาพ
    • K Living & Design
    Kinandleisure
    Home»Dining Type»ยกร้านอาหารมาไว้กลางสวน ลิ้มรสวัตถุดิบชั้นเลิศ เมนูสุดสร้างสรรค์ ปรุงไปปลูกไป ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น ที่ Haoma สุขุมวิท 31
    Dining Type

    ยกร้านอาหารมาไว้กลางสวน ลิ้มรสวัตถุดิบชั้นเลิศ เมนูสุดสร้างสรรค์ ปรุงไปปลูกไป ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น ที่ Haoma สุขุมวิท 31

    KreingkraiBy KreingkraiDecember 30, 2017Updated:December 30, 2017No Comments3 Mins Read

    วันนี้เราจะพาทุกท่านมาร้านอาหารแนวใหม่ เป็นร้านอาหารที่ทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนเราได้นั่งทานอาหารอยู่ในสวนหลังบ้าน Haoma ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31เป็นร้านอาหารที่นำเสนอคอนเซ็ปต์ร้านแบบ Progressive Urban- Farm Dining and Mixology คือ การรวบรวมวัตถุดิบคุณภาพ ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม โดยเน้นเรื่องความยั่งยืน ในพื้นที่สีเขียว ภายใต้ร่มเงาของ Haoma ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ในความเชื่อโบราณ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้าน นั่นเอง


    เทรนด์ร้านอาหารแต่ก่อนจะเป็นแนว Farm to Table ซึ่งคือร้านที่ส่งตรงวัตถุดิบจากแหล่งผลิตต่างๆ แต่สำหรับ Haoma ร้านอาหารแนวโมเดิร์นยุโรเปียน ได้เลยจุดๆนั้นมาแล้ว คือ เป็นยิ่งกว่า Farm to Table เพราะ เขาปลูกพืชผักกันเอง ด้านหลังร้านกันเลยทีเดียว นอกจากคนที่มาทานอาหารที่ร้านจะได้ทานผักสดๆ ที่เด็ดมาจากสวนหลังร้านแล้ว ยังได้บรรยากาศที่ร่มรื่นอีกด้วย โดยร้านจะมีทั้งมุมอินดอร์ และ เอ้าดอร์

    เข้ามาข้างในกันบ้าง ก็ยังคงให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติอยู่ มีต้นไม้รอบๆ ไปหมด

    ตรงนี้เป็นส่วนของครัว และ บาร์

    สำหรับสวนด้านหลัง เชฟได้ปลูกพืชผักกว่า 40 ชนิด เช่น มะเขือเทศ เบซิล ร็อคเกต ข้าวโพด และ อีกมากมาย

    อร่อย รักษ์โลก  !!!

    โดยตอนนี้ทางร้านฯ กำลังทำให้ร้านอยู่ในรูปแบบของ Zero waste คือ การนำของที่เหลือใช้ กลับมาใช้ประโยชน์ อย่างเช่น น้ำที่ใช้ในครัว ทางร้านมีการนำไปผ่านการกรอง และ นำไปใช้รดต้นไม้ต่อ ท่อทุกท่อจะส่งน้ำเหล่านี้มาให้น้ำแก่พืชผักต่างๆ ในสวนนั่นเอง ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จในไม่ช้านี้

    Chef Deepanker Khosla หรือ เชฟ ดีเค นี่เอง เชฟหนุ่มชาวอินเดีย มากประสบการณ์ เคยทำงานให้กับโรงแรมในเครือ Starwoods เป็นเชฟทีมเปิดให้กับร้านอาหารชั้นนำ อย่าง Charcoal Tandoor Grill & Mixology นอกจากนี้ยังเคยผ่านการแข่งขันในรายการ Iron Chef Thailand อีกด้วย จริงๆคอนเซ็ปต์การปลูกพืชผักต่างๆ ก็มาจากตัวเชฟเองด้วย เชฟบอกว่า “เราปลูกปลูกสิ่งที่เราปรุง และ เราปรุงสิ่งที่เรารัก” นี่คือข้อสรุปของทุกอย่าง เชฟจะพิถีพิถันกับรายละเอียดของอาหารทุกๆจาน นอกจากนี้สิ่งที่เชฟยังคำนึงถึงนอกจากเรื่องของอาหาร ก็คือ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เอื้อต่อระบบนิเวศที่ยั่งยืน อย่างเช่นการทำระบบน้ำหมุนเวียนที่ใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด อย่างที่บอกข้างต้น

    มาเริ่มกันที่สลัดกันก่อน นั่นก็คือ Stick to the roots (370++ บาท)

    สำหรับจานนี้ เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากต้นไม้ที่อยู่ในดิน แต่เป็นการมองในมุมกลับ และด้วยชื่อของจานนี้ เชฟจึงใช้ส่วนรากของพืชชนิดต่างๆ มาเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารจานนี้ครับ ไม่ว่าจะเป็นเบบี้แครอท มันแกว บีทรูท รากบัว และ เทอร์นิพ ซึ่งแต่ละอย่างถูกปรุงมาในรูปแบบต่างๆ ต้องบอกก่อนว่าวัตถุดิบที่บอกมา เชฟก็ปลูกเอง และ เก็บเองจากสวนหลังร้านนี่แหละครับ รับรองในความสดแน่นอน

    ข้างล่างสุดจะเป็นซอสบีทรูท นำมาตกแต่งเป็นลวดลายบนจานอย่างสวยงาม และก็มีรากของพืชชนิดต่างๆ พอได้ลองชิม ก็รู้สึกถึงรสชาติธรรมชาติแท้ๆของพืชผักต่างๆเลยครับ

    มันจะมีความหวานในตัวของมัน ทั้ง แครอท มันแกว และ เทอร์นิพ แครอทปรุงมาไม่สุกจนเกินไป ยังมีความหวานกรอบอยู่ แผ่นชมพูๆ ทำมาจากบีทรูท มันจะอารมณ์ประมาณข้าวเกรียบ มีความหอมๆของของทอด


    รากบัวดอง รสเปรี้ยวๆ เทอร์นิพจะถูกหั่นเต๋ามา มีความกรอบๆ ฉ่ำๆ ในขณะที่มันแกวจะมีเนื้อที่ค่อนข้างจะแข็งและแห้งกว่าหน่อย


    มาการองไส้แครอท กลิ่นของแครอทอาจจะไม่ได้ชัดเจนนัก คือ ตอนทานจะได้กลิ่นของอัลมอนด์ชัดกว่า แต่สำหรับมาการองก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับจานนี้เป็นอย่างดี


    Buratta and the bubbles (390++ บาท) จานนี้จะเป็นการจับคู่ระหว่าง บูราต้าชีส กับ มะเขือเทศ Heirloom หลากหลายสี นอกจากนี้ เชฟยังสร้างมิติเพิ่มให้กับจานนี้ โดยการใส่ลูกเดือยกรอบๆ และ สาคูที่หมักกับน้ำส้มสายชูบัลซามิกอีกด้วย ทำให้จานนี้ดูไม่ได้มีแค่ชีส มะเขือเทศ และ ใบเบซิล เหมือนที่ทานกันทั่วๆไป นอกจากนี้ความพิเศษของจานนี้ คือ ตัวบูราต้าชีส เชฟเป็นคนทำเอง จากนมควายสด และ มะเขือเทศก็ปลูกเองเช่นกัน


    เชฟกำลังเอาโฟมสีแดงๆ ที่ทำจากมะเขือเทศมาหุ้มบูราต้าชีสไว้


    จานนี้ พอได้ทานแล้ว มันให้ความรู้สึกสดชื่นมากๆครับ มันลงตัวสุดๆ ชีสนุ่มๆ มันๆ ทานกับมะเขือเทศหวานอมเปรี้ยว นุ่มๆ ฉ่ำๆ คือ ต้องบอกว่าเค้าพิถีพิถันขนาดลอกเปลือกของมะเขือเทศออกหมด เพื่อให้ความนุ่มของชีส และ มะเขือเทศ ผสมรวมกันอย่างลงตัว ในความนุ่มของทั้งสอง

    ก็มีความกรอบๆของลูกเดือย และสาคู ที่มันมีกรึบๆอยู่ตรงกลาง เข้ามาให้จานนี้ไม่ได้มีความรู้สึกนุ่มๆอย่างเดียว นอกจากนี้ซอสที่เค้าใช้ อย่าง Chimichuri sauce รสชาติเข้มข้น ช่วยเสริมและชูรสชาติให้จานนี้ดีทีเดียว มีกลิ่นหอมของพริกไทยดำอ่อนๆ รวมไปถึงกลิ่นของใบเบซิล และน้ำมันเพสโต้ ที่มันแสนจะเข้ากับมะเขือเทศสุดๆ ส่วนโฟมข้างบน จะมีรสออกเปรี้ยวๆ

    Deep sea diving (550++ บาท) สำหรับจานนี้ เชฟได้แรงบันดาลใจและอิทธิพลมาจากอาหารญี่ปุ่นเลยครับ โดยใช้วัตถุดิบต่างๆที่เป็นญี่ปุ่น แต่นำมาปรุงออกมาในแบบของเชฟ ทำให้เวลาทานจานนี้ จะรู้สึกถึงการผสมผสานระหว่างความเป็นตะวันออก และ ตะวันตกอย่างลงตัว


    จานนี้ดูจะตกแต่งออกมาค่อนข้างแตกต่างจากจานก่อนหน้านี้ คือ ของในจานจะดูกระจัดกระจายออกจากกัน โดยซอสสีดำๆ ที่ราดบนจาน จะเป็นซอสที่มีมิโสะ หรือ เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น เป็นส่วนประกอบ ส่วนสีม่วงๆ บนจาน เป็นพิวเร่มันม่วง
    และก็จัดวางของทะเลต่างๆ อย่าง หอยเชลล์จากฮอกไกโด หมึกยักษ์ และไข่ปลาคาเวียร์


    โรยๆ ด้วยถั่วแระญี่ปุ่น และ แต่งด้วยต้นอ่อน กับ เนื้อส้ม


    แผ่นๆที่อยู่ข้างๆ หอยเชลล์ ทำมาจากส่วนผิวของหอยเชลล์ครับ มันจะกรอบหน่อย มีกลิ่นหอมของหอยเชลล์อ่อนๆ พอเคี้ยวไป มันก็จะเริ่มมีความเหนียวนิดๆ


    สำหรับจานนี้ รู้สึกว่ามีเนื้อสัมผัส และ รสชาติที่ซับซ้อนดีทีเดียว คือ ถ้าทานทุกส่วนประกอบในจานนี้พร้อมๆกันในคำเดียว มันให้ความรู้สึกที่หลากหลายของเนื้อสัมผัส และรสชาติต่างๆที่ผสมรวมกัน คือ อย่างตัวหอยเชลล์ และ หมึกยักษ์ มันก็มีความเหนียวนุ่มคล้ายๆ กัน แต่ระดับความเหนียวที่ต่างกัน ทำให้เวลาทานมันได้ความรู้สึกที่ต่างกันด้วย ยังมีคาเวียร์ที่ให้ความรู้สึกกรึบๆ มีความกรอบๆหอมๆของผิวหอยเชลล์ และ เวลาเคี้ยวจะได้กลิ่นหอมๆมันๆของถั่วแระญี่ปุ่น และ กลิ่นเฉพาะตัวของต้นอ่อน ส่วนซอสรสชาติออกเปรี้ยวๆ หวานๆ มีกลิ่นของมิโสะอ่อนๆ นอกจากนี้ยังมีเนื้อส้มฉ่ำน้ำหวานๆอมเปรี้ยวอีกด้วย

    Hungarian goulash (850++ บาท) เชฟใช้เนื้อวัวชั้นดี สานพันธุ์แองกัส มีเนื้อที่นุ่ม ด้วยความที่เนื้อวัวสายพันธุ์นี้มีจุดเด่น ที่จะมีชั้นไขมันแทรกอยู่ระหว่างเนื้อ ทำให้ได้ความนุ่มเวลาทาน เสิร์ฟมากับ Goulash Glaze เห็ด และ ผักต่างๆ

    Black forest (350++ บาท) ขนมที่เรารู้จักกันดี ในรูปแบบของเค้กแบล็คฟอเรสท์ นั่นก็คือการนำเอาดาร์กช็อคโกแลต กับ เชอรี่ มารวมกัน แต่ของที่นี่จะดัดแปลงนิดๆหน่อยๆ คือ ใช้ดอกกระเจี๊ยบแดง ให้รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ แก่จานนี้ แทนเชอรี่ นำเสนอในรูปแบบจานหวานสุดอลังการ


    ตอนแรกที่เห็นแผ่นโค้งๆ คิดว่าเป็นแผ่นช็อคโกแลต ทีจริงแล้ว เป็น Cacao tuiles คือ จะเป็นคล้ายๆ แครกเกอร์แผ่นบางๆ นำมาทำให้เป็นแผ่นโค้งๆ หุ้มแท่งมูสช็อคโกแลตที่อยู่ข้างในไว้ แต่งด้วยใบไม้ติดทองคำเปลว

    เสิร์ฟมากับมาการองช็อคโกแลต และ ซอร์เบท์กระเจี๊ยบแดง


    ข้างใต้มีโรย Cacao Soil ไว้ด้วย
    ตัวมูสช็อคโกแลตรสชาติเข้มข้น ขมๆ หวานๆ มีเปรี้ยวตามนิดๆ เชฟใช้ช็อคโกแลตแบรนด์พรีเมี่ยมอย่าง Valrhona ใช้เป็นตัว Manjari 64% คือ จุดเด่นของตัวนี้จะมีรสชาติเปรี้ยวหน่อยๆ ซึ่งค่อนข้างเหมาะกับจานนี้

    คือ มันช่วยเชื่อมรสชาติกับซอร์เบท์กระเจี๊ยบที่มีรสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ ได้อย่างดีทีเดียว

    จุดเด่นของค๊อกเทลของที่นี่ คือ เขาจะทำไซรัปขึ้นเอง เพื่อนำมาผสมในค็อกเทลต่างๆ โดยไม่ได้ปรุงแต่งรสชาติเพิ่มเลย ใช้ผักหรือผลไม้อย่างเดียว คือความเข้าใจของเราไซรัปมันคือน้ำเชื่อมหวานๆ แต่ที่นี่ไม่ใช่ ไซรัปของเขา จะอารมณ์เหมือนเป็นการสกัดกลิ่นและรสชาติจากผักผลไม้นั้นๆ ให้ได้กลิ่น และ รสชาติที่เป็นธรรมชาติของผักผลไม้นั้นออกมา

    แก้วแรก Bell Pepper (350++ บาท)

    รสชาติจะแนวๆ Blood Mary แต่เขาจะใช้เป็นพริกหวานแทน ซึ่งตอนกำลังจะดื่มกลิ่นเฉพาะตัวของพริกหวานก็ลอยขึ้นมาเลย จะมีความเผ็ดๆนิดๆ ตามมาด้วยเวลาดื่ม จุดเด่นของแก้วนี้คือเวลาเขาทำการผสมเสร็จแล้ว เขาจะทำการพ่นควันลงไปด้วยครับ

    ต่อมาเป็น Ginger (360++ บาท)

    แก้วนี้รสชาติจะออกเปรี้ยวๆหวานๆ มีกลิ่นขิงค่อนข้างชัดเจนทีเดียว แต่ไม่มีรสเผ็ดจากขิงเลย แก้วนี้เบสจะเป็นวิสกี้ คือ เขาจะนำเอาดอกดาวเรืองที่ปลูกเองในสวน มาอินฟิวส์กับ วิสกี้ โดยนอกจากนี้ก็จะมี จิงเจอร์ไซรัป และ น้ำผึ้งด้วย

    และสุดท้าย Strawberry (350++ บาท)

    พอลองชิม กลิ่นของสตรอเบอรี่หอมฟุ้งมาก มีรสออกหวานๆ กำลังดี เสิร์ฟมาในแก้วมาร์ตินี่ สำหรับแก้วนี้เป็นวอดก้าเบส ผสมกับ สตรอเบอรี่ไซรัป

    ข้างบนเป็นสตรอเบอรี่น้ำปั่นและ ทำให้แห้ง เป็นแผ่นบางๆ รสออกเปรี้ยวๆ

    ขอทิ้งท้ายด้วยรูปอาหาร และ วิวสวนหลังร้านนะครับ ร้านอาหารให้บริการวันอังคาร ถึง วันอาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 18.00 -23.00 น.

    สนใจมาลิ้มลองอาหารที่รับรองในความสดของวัตถุดิบ และ รสชาติที่ลงตัว สามารถโทรมาสำรองที่นั่งได้ที่ 02 258 4744 หรือ 061 460 5441 และสามารถติดตาม Facebook และ Instagram ชื่อ Haomabkk ได้เลยครับ

    chef dk, haoma, Deepanker khosla, modern european,cuisine,fine dining, plant,organic,urban farm,farm mixology,gastronomy,sukhumvit31,ฮาโอมา,สุขุมวิท31,เสือนอนกิน,อาหารฝรั่ง,สวน,ฟาร์ม,ปลูกผัก,ผักสด, เชฟดีเค

    KinlakeStars.com


     

    KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว

    รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

    Share this:

    • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
    • Click to share on X (Opens in new window) X
    • Click to share on Threads (Opens in new window) Threads
    chef dk Cuisine Deepanker khosla farm mixology fine dining gastronomy haoma modern european organic plant sukhumvit31 urban farm ปลูกผัก ผักสด ฟาร์ม สวน สุขุมวิท31 อาหารฝรั่ง ฮาโอมา เชฟดีเค เสือนอนกิน
    Previous Articleอิ่มอร่อยกับ seafood สดๆใหม่ๆใจกลางเมือง ที่ The Square Novotal Siam
    Next Article เริ่มปีใหม่นี้ต้องไปลิ้มลอง “ซึบากิ” ชุดน้ำชายามบ่ายชุดใหม่ที่ออกแบบจากดอกซึบากิ สวยงาม รสชาติดีที่ The Okura Prestige Bangkok

    Related Posts

    [Review] ดื่มด่ำกับโลกไซไฟยามค่ำคืน กับอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสายรักษ์โลก กับมนต์เสน่ห์แห่งแกะไฟฟ้า @ Electric Sheep ,Bangkok

    June 25, 2025

    [Review] จากรากอีสาน สู่จานเมืองกรุง” – ดินเนอร์ร่วมรังสรรค์จากสามเชฟรุ่นใหม่ ที่เปลี่ยนมุมมองอาหารอีสานให้ ‘มากกว่าส้มตำ KAENKRUNG X House Number Seventeen Twelve

    June 19, 2025

    [Review] เชฟใหม่ เมนูใหม่ ครัวใหม่ ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารแดนมังกรสุดครีเอทีฟอันน่าประทับใจ @ Hei Yin, Gaysorn Village

    June 14, 2025

    Comments are closed.

    • Recent Posts
    • POPULAR

    [News] โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ฉลอง 15 ปี แห่งความสำเร็จของ Lady in Red และ Gentleman in Red, Sindhorn Kempinski Bangkok

    June 29, 2025

    [News] รื่นรมย์กับมนต์เสน่ห์แห่งฤดูร้อน ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ The Okura Prestige Bangkok กับ “Sense of Lavender Afternoon Tea” 2025

    June 29, 2025

    [News] โซเนวา ชวนสัมผัสประสบการณ์ดูแลสุขภาพกับเทศกาล SOUL Festival ครั้งที่ 3 เวิร์กช้อปเพื่อดูแลสุขภาพอย่างล้ำลึกระยะเวลา 5 วัน ที่มัลดีฟส์ นำโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Sanctum, Ground Wellbeing และอีกมากมาย

    June 29, 2025

    [News] คีรี ไพรเวท รีเซิร์ฟมอบแพ็กเกจพิเศษสำหรับคนไทยเพื่อเป็นการส่งท้ายสัมผัสความเงียบสงบของเกาะกูด กับรีสอร์ตในฝันของทุกคน

    June 28, 2025

    [Review] ดื่มด่ำกับโลกไซไฟยามค่ำคืน กับอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสายรักษ์โลก กับมนต์เสน่ห์แห่งแกะไฟฟ้า @ Electric Sheep ,Bangkok

    June 25, 2025

    [News] โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ฉลอง 15 ปี แห่งความสำเร็จของ Lady in Red และ Gentleman in Red, Sindhorn Kempinski Bangkok

    June 29, 2025

    [News] รื่นรมย์กับมนต์เสน่ห์แห่งฤดูร้อน ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ The Okura Prestige Bangkok กับ “Sense of Lavender Afternoon Tea” 2025

    June 29, 2025

    [News] โซเนวา ชวนสัมผัสประสบการณ์ดูแลสุขภาพกับเทศกาล SOUL Festival ครั้งที่ 3 เวิร์กช้อปเพื่อดูแลสุขภาพอย่างล้ำลึกระยะเวลา 5 วัน ที่มัลดีฟส์ นำโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Sanctum, Ground Wellbeing และอีกมากมาย

    June 29, 2025

    [News] คีรี ไพรเวท รีเซิร์ฟมอบแพ็กเกจพิเศษสำหรับคนไทยเพื่อเป็นการส่งท้ายสัมผัสความเงียบสงบของเกาะกูด กับรีสอร์ตในฝันของทุกคน

    June 28, 2025

    [Review] ดื่มด่ำกับโลกไซไฟยามค่ำคืน กับอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสายรักษ์โลก กับมนต์เสน่ห์แห่งแกะไฟฟ้า @ Electric Sheep ,Bangkok

    June 25, 2025
    POPULAR

    “ฟัวกราส์” ถูกแบนแล้วในแดนแซมบ้า ห้ามซื้อห้ามขายห้ามกิน

    June 29, 2015

    เมล็ดมันแกวแก่ กินไม่ดีถึงตายไปหลายรายแล้ว!!!!

    June 30, 2015

    ภาชนะที่ทำจากโฟมใส่ของกินของต้องห้ามในนิวยอร์กตั้งแต่วันนี้!

    July 2, 2015
    @KinlakeStars
    KINLAKESTARS.COM

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

     

    Loading Comments...