Kinandleisure
    Facebook Twitter Instagram
    Trending
    • [Review] Silver Waves by Boon, Chatrium Hotel Riverside Bangkok ห้องอาหารจีนวิวเจ้าพระยา โดยเชฟมิชลินจากสแกนดิเนเวีย เปิดใหม่หรูหราบนชั้น 36
    • [Review] ลิ้มลองโอมากาเสะแบบอิตาเลียน 7 คอร์ส รสเลิศวัตถุดิบเยี่ยมสวยทุกจานใจกลางเมือง ที่ Enoteca Bangkok
    • [News] โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ฉลอง 15 ปี แห่งความสำเร็จของ Lady in Red และ Gentleman in Red, Sindhorn Kempinski Bangkok
    • [News] รื่นรมย์กับมนต์เสน่ห์แห่งฤดูร้อน ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ The Okura Prestige Bangkok กับ “Sense of Lavender Afternoon Tea” 2025
    • [News] โซเนวา ชวนสัมผัสประสบการณ์ดูแลสุขภาพกับเทศกาล SOUL Festival ครั้งที่ 3 เวิร์กช้อปเพื่อดูแลสุขภาพอย่างล้ำลึกระยะเวลา 5 วัน ที่มัลดีฟส์ นำโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Sanctum, Ground Wellbeing และอีกมากมาย
    • [News] คีรี ไพรเวท รีเซิร์ฟมอบแพ็กเกจพิเศษสำหรับคนไทยเพื่อเป็นการส่งท้ายสัมผัสความเงียบสงบของเกาะกูด กับรีสอร์ตในฝันของทุกคน
    • [Review] ดื่มด่ำกับโลกไซไฟยามค่ำคืน กับอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสายรักษ์โลก กับมนต์เสน่ห์แห่งแกะไฟฟ้า @ Electric Sheep ,Bangkok
    • [News] สัมผัสมนต์สเน่ห์แห่งโมร็อกโก Morocco ณ ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู Vertigo Too, Banyan Tree Bangkok
    Facebook Twitter Instagram
    Kinandleisure
    • Kin Reviews
      • Top Restaurant
      • French Cuisine
      • European Cuisine
      • German Cuisine
      • Italian Cuisine
      • Japanese Cuisine
      • Thai Cuisine
      • International Cuisine
      • Spanish Cuisine
      • tea lounge/Café & bakery
      • Chinese Cuisine
      • American Cuisine
      • Bar Drinks
      • Steak House
      • Vietnamese Cuisine
      • Korean Cuisine
      • Indian Cuisine
      • latin American
      • Steak House
    • K healthy
      • Kin Healthy
      • Healthy Living
    • Kin Articles
      • Kin General
      • Kin Cooking
      • Kin Seasonal
    • Kin Channel
    • Promo & Event
      • Kin Promo
      • Kin News
      • LifeStyle Promo & Event
    • K Travel&LifeStyle
      • Trip Review
      • Hotel Review
      • Spa & beauty
      • K Fashion
      • K Fit
      • Our Team เบื้องหลัง โฉมหน้าผู้สร้างเนื้อหา กิน ดื่ม เที่ยว โดยทีมงานคุณภาพ
    • K Living & Design
    Kinandleisure
    Home»Dining Type»Fine Dining»อิตาเลียนรสเลิศที่คุณห้ามพลาด ทุกจานจาก เชฟ Ciccio Sultano จาก Duomo ร้านระดับ Michelin star กับโปรเจค The Italian Job Vol.3 ที่ La Scala, The Sukhothai Bangkok
    Fine Dining

    อิตาเลียนรสเลิศที่คุณห้ามพลาด ทุกจานจาก เชฟ Ciccio Sultano จาก Duomo ร้านระดับ Michelin star กับโปรเจค The Italian Job Vol.3 ที่ La Scala, The Sukhothai Bangkok

    KreingkraiBy KreingkraiFebruary 16, 2019Updated:February 16, 2019No Comments3 Mins Read

    Ciao!! กลับมาอีกครั้งสำหรับการจับมือร่วมรังสรรค์อาหารมื้อพิเศษระหว่าง เชฟจากร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดังทั่วโลก กับ เชฟประจำห้องอาหาร ลา สกาล่า แห่งโรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ โดยรอบนี้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 นั่นก็คือ The Italian Job Vol.3

    โดยคราวนี้ Kinlakestars.com จะพาไปพบกับเชฟมากประสบการณ์ ดีกรีมิชลินสตาร์ Michelin Star อีกเช่นเคย Chef Ciccio Sultano จากร้านอาหารอิตาเลี่ยนมิชลิน 2 ดาว อย่าง Duomo Ragusa Ibla, Sicily ประเทศอิตาลี

    เรามาเริ่มกันที่อาหารเรียกน้ำย่อยกันก่อนเลยครับ Cherry Tomato

    มาในลักษณะของผลเชอร์รี่ตามชื่อ แต่รสชาติก็ตามชื่อ Tomato นั่นก็คือ มะเขือเทศนั่นเอง รสออกเค็มหน่อยๆ เนื้อสัมผัสนุ่มๆ ได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากโหระพาที่ปักมาด้านบน คือ ทำออกมาได้ประหลาดใจตรงที่ทำหน้าตาออกมาให้คล้ายสิ่งหนึ่ง แต่รสชาติกลับออกมาเป็นอีกสิ่งๆหนึ่ง

    ต่อมา Truffle

    ทำออกมาเลียนแบบหน้าตาของเห็ดทรัฟเฟิล ลูกทรงกลมสีดำ คือ ต้องบอกว่าจานนี้เซอร์ไพรส์มากๆเลยทีเดียว พอนำเข้าปาก พอเรากัดลงไป ผิวด้านนอกกรอบๆ เบาๆ เนื้อสัมผัสคล้ายๆโฟมเย็นๆ ทะลักออกมา พร้อมกลิ่นหอมเฉพาะตัวของทรัฟเฟิลฟุ้งขึ้นมา คือ กลิ่นเบาๆ แต่มันมีความละมุนอยู่ทั่วปาก สำหรับจานนี้บอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่เพิ่งเคยทานแบบนี้ครั้งแรก ส่วนตัวรู้สึกว่ามันดีมากๆ

    มาต่อด้วยมะกอกเขียวสอดไส้ Green olive staffed with Raffadali pistachio marzipan

    พอเข้าปากแล้วเคี้ยว จะได้รสหวานมาก่อนเลย ตามด้วยกลิ่นของมะกอก และพอเคี้ยวไปถึงตรงกลางจะเจอเป็นเม็ดแข็งๆ ไม่ต้องตกใจนะครับ ตรงกลางเขาน่าจะตั้งใจทำให้มันออกคล้ายกับเมล็ดของมะกอก แต่แท้ที่จริงแล้ว มันคือถั่วพิชตาชิโอนี่เอง สรุปจานนี้เราสามารถทานได้ทั้งหมดเลยครับ

    “I wanted to be fried” : small cannolo, Mazara del Vallo red prawn, Oscietra caviar

    แคนโนลีชิ้นน้อย สอดไส้ด้วยชีสสดบูราต้า มาคู่กับ กุ้งจาก Mazara del Vallo ตกแต่งด้วยไข่ปลาคาเวียร์โอสซีตรา พอทานรวมๆ จะได้สัมผัสกรอบๆจากแป้งแคนโนลี สัมผัสนุ่มเด้ง จากเนื้อกุ้ง และความมันเข้มข้น เค็มหน่อยๆจากไส้ มันลงตัวดีนะครับ

    สำหรับอาหารเรียกน้ำย่อยสุดท้าย – Langoustine and its roe, San Cono prickly pear

    ถูกเสิร์ฟลงบนช้อน เป็นเนื้อขุ่นๆสีขาว ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร พอลองทานเนื้อมันนุ่มละมุนลิ้นมากๆ เขาบอกว่า มันคือเนื้อกุ้งแลงกูสทิน ที่ก้นช้อนเป็นซอสรสออกหวานๆเปรี้ยวๆ

    จากอาหารเรียกน้ำย่อยทั้งหมด ดูแล้วมีความหลากหลายมากมาย ทั้งรูปแบบ และ รสชาติ ทำให้รู้สึกประหลาดใจดี โดยรวมแล้วรู้สึกว่าอาหารทุกอย่างที่ได้ทาน มีเทคนิคที่ซ่อนอยู่มากมาย น่าติดตามและค้นหาดีครับ

    งั้นเรามาต่อกันที่จานสตาร์ทเตอร์ กันดีกว่า ก่อนที่จะเข้าจานหลัก

    ANTIPASTO – Mediterrenean turbot and winter black truffle

    จานนี้ใช้เป็นปลาเทอร์บอท เสิร์ฟคู่กับมันฝรั่ง และ เห็ดทรัฟเฟิล โดยฐานล่างสุดจะเป็นมันฝรั่งสไลด์เรียงซ้อนๆ สุกกำลังดี นุ่ม แต่ไม่เละ มีเมล็ดสนกรุบๆ หอมๆ โรยอยู่ทั่ว ถัดมาเป็นเนื้อปลาชิ้นหนา สด เนื้อแน่นๆ นำไปจี่บนกระทะจนผิวนอกสีเหลืองทอง หนังเกรียมๆหอมๆ ยังคงไม่หยุดความเซอร์ไพรส์ คือ เชฟมีการสอดไส้อะไรบางอย่างในชิ้นเนื้อปลา มันคือเกล็ดขนมปังที่นำไปปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทย และอบจนขึ้นสี ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับชิ้นปลาได้เป็นอย่างดี

    ตกแต่งด้านบนด้วยตุอิลมันฝรั่ง แผ่นกลมบางเฉียบ กรอบๆ หอมกลิ่นมันฝรั่งเวลาเกรียมๆ และแต่งรอบๆด้วยแผ่นทรัฟเฟิลสไลด์ ล่างสุดเป็นซอสครัสเตเชียน คือ เขาจะนำพวกกุ้ง ล็อบสเตอร์ หรือ พวกสัตว์น้ำที่มีเปลือกไปเคี่ยวเป็นซอส จะมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาด้วย สำหรับซอสจานนี้ นอกจากมีกลิ่นหอมจากกุ้งแล้ว จะได้กลิ่นหอมๆจากโรสแมรี่อ่อนๆด้วย ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ เป็นอีกหนึ่งจานที่ชอบมากๆ

    มาถึงจานหลักกันแล้ว PRIMO PIATTO – Ragusano cheese gnocco, cuttleflish carbonara lemon and pistachio

    จานนี้จะเป็นใช้ปลาถึงสามอย่างด้วยกัน ได้แก่ ปลาแมงป่อง ปลาเกอร์นาร์ด และ ปลาหมึกกระดองตัวน้อย โดยตรงกลางเป็นไฮไลท์ของจานนี้เลยครับ นั่นก็คือ แป้งก้อนกลมๆ สอดไส้ด้วยชีสรากูซาโน่ แป้งนุ่มๆ มีชีสยืดๆตรงกลาง เสิร์ฟอยู่บนซอสคาโบนารารสชาติเข้มข้น กลมกล่อม เนื้อปลามีความสด เนื้อนุ่ม เด้งๆ โรยด้วยเกล็ดขนมปังปรุงรส

    Truffle Gelato

    มาคั่นด้วย Truffle Gelato ก่อนเข้าจานหลักจานที่สอง เนื้อเจลาโต้เบาๆ หอมกลิ่นทรัฟเฟิลหน่อยๆ หวานกำลังดี หยดด้วยน้ำมันมะกอก แล้วประกบด้วยแผ่นขนมปังอบกรอบแผ่นบางๆ ช่วยเพิ่มมิติให้กับจานนี้ได้เป็นอย่างดี ด้านบนตกแต่งด้วยทรัฟเฟิลสไลด์ ใช้ทำความสะอาดเพดานปาก และเคลียร์ต่อมรับรสได้ดีเยี่ยม


    มาถึงจานเนื้อแล้ว SECONDO – Sicilian black pork striploin staffed “alla chiaramontana”, carrob’s glace , canataloupe melon

    วันนี้ใช้เป็นเนื้อหมูดำจากเกาะซิซิลีเลย โดยเชฟใช้ในส่วนของสตริปลอยน์ ในจานจะมีเนื้อสองชิ้น คือ ชิ้นเล็ก กับ ชิ้นใหญ่ ในส่วนของชิ้นเล็ก เชฟจะปรุงมาให้ไม่ถึงกับสุกซะทีเดียว มันยังมีความชมพูอ่อนๆตรงกลาง มีความชุ่มอยู่ ส่วนชิ้นใหญ่ เชฟจะยัดไส้ตรงกลาง คิดว่าน่าจะเป็นส่วนของเนื้อหมูบดปรุงรส ตรงกลางเป็นซอส Carob’s glace รสออกเค็มๆ เข้มข้นดี และ พิวเล่เมลอน รสหวานๆ ซอสทั้งสองถูกห้อมล้อมด้วยมันบด

    ปิดท้ายด้วยขนม

    วันนี้เป็นขนมที่ถือได้ว่าเป็นขนมอิตาเลี่ยนแบบดั้งเดิมเลย นั่นก็คือ แคนโนลี สอดไส้ด้วยครีมนุ่มเนียนที่ทำจากชีสริคอตต้า รสจะออกหวานๆเค็มๆ โรยด้วยผงอบเชย ปิดหัวท้ายแคนโนลีด้วย ถั่วอัลมอนด์ และ ถั่วพิชตาชิโอ ข้างใต้มีดาร์กช็อคโกแลตเป็นชิ้นๆด้วย เสิร์ฟคู่กับ Pizzuta Almond Sorbet กลิ่นมันจะคล้ายๆบิทเทอร์อัลมอนด์ครับ หวานกำลังดี ตรงกลางเป็นซอสที่ทำจาก ลูกแพร์ทะเลทราย (Prickly pear) หรือ ผลของต้นกระบองเพชร นั่นเอง รสชาติมันจะออกเปรี้ยวๆ คิดว่าจานนี้โดยรวมถูกคิดมาให้ทุกอย่าง มาช่วยเสริม ช่วยตัดกันให้รสชาติออกมาพอดีกันสุดๆ คือ รสกลางๆของจานนี้จะออกหวาน แน่นอนสินะ มันคือจานหวานนี่นา นอกจากรสหวาน ก็ยังมีรสเปรี้ยวจากลูกแพร์ทะเลทราย มีความเค็มนิดๆจากชีสริคอตต้า และได้รสขมจากดาร์กช็อคโกแลตมาช่วยตัดให้รสชาติออกมาลงตัวนั่นเอง


    เนื่องจากรอบที่แล้ว ได้รับการตอบรับดีมากๆ รอบนี้ทางห้องอาหาร ลา สกาล่า เลยขอจัดเต็ม ขยายเวลาให้ทุกๆคนได้มีโอกาสมาลิ้มลองลิ้มรสอาหารอิตาเลียนจากแคว้นซิซิลีแท้ๆ โดยสามารถมาทานได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น สำหรับ The Italian Job Vol.3 จะมีทั้งมื้อกลางวัน และ มื้อเย็น ครับ ในส่วนของราคาตามนี้เลยครับ


    • มื้อกลางวันจะเป็นแบบ 5 – คอร์ส ท่านละ 2,900++ บาท (เฉพาะอาหาร) และ 3,900++ บาท (อาหารคู่กับไวน์ที่ถูกคัดสรรมาให้คู่กับอาหารแต่ละจาน)
    • มื้อเย็นจะเป็นแบบ 7 – คอร์ส ท่านละ 5,800++ บาท (เฉพาะอาหาร) และ 7,200++ บาท (อาหารคู่กับไวน์ที่ถูกคัดสรรมาให้คู่กับอาหารแต่ละจาน)
    สนใจสอบถามเพิ่มเติม หรือ สำรองที่นั่งได้ที่ 02 344 8888 หรือ email to [email protected]

    Story Krangkrai T.

    Photo Pol.Cap.Kittin A.

    Italian Cuisine, western Cuisine, review, fine dining, michelin stars, dinner, สาทร, Sathorn, Ciccio Sultano, duomo

    KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว

    รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

    Share this:

    • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
    • Click to share on X (Opens in new window) X
    • Click to share on Threads (Opens in new window) Threads
    Ciccio Sultano dinner duomo fine dining Italian Cuisine Michelin Stars review sathorn western Cuisine สาทร
    Previous ArticleCafe Claire กับการปรับปรุงสีร้านใหม่และเชฟใหม่ อาหารฝรั่งเศสเข้าใจง่าย กินง่าย สวยอร่อย ราคาสบายกระเป๋า ณ Oriental Residence Bangkok
    Next Article พบกับมิชลินสตาร์เชฟนิโคลา รุสโซ่ มอบความอร่อยให้กับนักชิม โดดเด่นทั้งในเรื่องการรังสรรค์เมนูอาหารทะเลและพาสต้า นำเสนอเซ็ตเมนูและอาลาคาร์ท ทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ณ ห้องอาหารโจโจ ตั้งแต่วันที่ 21 ถึง 24 กุมภาพันธ์ 2562

    Related Posts

    [Review] Silver Waves by Boon, Chatrium Hotel Riverside Bangkok ห้องอาหารจีนวิวเจ้าพระยา โดยเชฟมิชลินจากสแกนดิเนเวีย เปิดใหม่หรูหราบนชั้น 36

    July 10, 2025

    [Review] ลิ้มลองโอมากาเสะแบบอิตาเลียน 7 คอร์ส รสเลิศวัตถุดิบเยี่ยมสวยทุกจานใจกลางเมือง ที่ Enoteca Bangkok

    July 2, 2025

    [Review] ดื่มด่ำกับโลกไซไฟยามค่ำคืน กับอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสายรักษ์โลก กับมนต์เสน่ห์แห่งแกะไฟฟ้า @ Electric Sheep ,Bangkok

    June 25, 2025

    Comments are closed.

    • Recent Posts
    • POPULAR

    [Review] Silver Waves by Boon, Chatrium Hotel Riverside Bangkok ห้องอาหารจีนวิวเจ้าพระยา โดยเชฟมิชลินจากสแกนดิเนเวีย เปิดใหม่หรูหราบนชั้น 36

    July 10, 2025

    [Review] ลิ้มลองโอมากาเสะแบบอิตาเลียน 7 คอร์ส รสเลิศวัตถุดิบเยี่ยมสวยทุกจานใจกลางเมือง ที่ Enoteca Bangkok

    July 2, 2025

    [News] โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ฉลอง 15 ปี แห่งความสำเร็จของ Lady in Red และ Gentleman in Red, Sindhorn Kempinski Bangkok

    June 29, 2025

    [News] รื่นรมย์กับมนต์เสน่ห์แห่งฤดูร้อน ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ The Okura Prestige Bangkok กับ “Sense of Lavender Afternoon Tea” 2025

    June 29, 2025

    [News] โซเนวา ชวนสัมผัสประสบการณ์ดูแลสุขภาพกับเทศกาล SOUL Festival ครั้งที่ 3 เวิร์กช้อปเพื่อดูแลสุขภาพอย่างล้ำลึกระยะเวลา 5 วัน ที่มัลดีฟส์ นำโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Sanctum, Ground Wellbeing และอีกมากมาย

    June 29, 2025

    [Review] Silver Waves by Boon, Chatrium Hotel Riverside Bangkok ห้องอาหารจีนวิวเจ้าพระยา โดยเชฟมิชลินจากสแกนดิเนเวีย เปิดใหม่หรูหราบนชั้น 36

    July 10, 2025

    [Review] ลิ้มลองโอมากาเสะแบบอิตาเลียน 7 คอร์ส รสเลิศวัตถุดิบเยี่ยมสวยทุกจานใจกลางเมือง ที่ Enoteca Bangkok

    July 2, 2025

    [News] โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ฉลอง 15 ปี แห่งความสำเร็จของ Lady in Red และ Gentleman in Red, Sindhorn Kempinski Bangkok

    June 29, 2025

    [News] รื่นรมย์กับมนต์เสน่ห์แห่งฤดูร้อน ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ The Okura Prestige Bangkok กับ “Sense of Lavender Afternoon Tea” 2025

    June 29, 2025

    [News] โซเนวา ชวนสัมผัสประสบการณ์ดูแลสุขภาพกับเทศกาล SOUL Festival ครั้งที่ 3 เวิร์กช้อปเพื่อดูแลสุขภาพอย่างล้ำลึกระยะเวลา 5 วัน ที่มัลดีฟส์ นำโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Sanctum, Ground Wellbeing และอีกมากมาย

    June 29, 2025
    POPULAR

    “ฟัวกราส์” ถูกแบนแล้วในแดนแซมบ้า ห้ามซื้อห้ามขายห้ามกิน

    June 29, 2015

    เมล็ดมันแกวแก่ กินไม่ดีถึงตายไปหลายรายแล้ว!!!!

    June 30, 2015

    ภาชนะที่ทำจากโฟมใส่ของกินของต้องห้ามในนิวยอร์กตั้งแต่วันนี้!

    July 2, 2015
    @KinlakeStars
    KINLAKESTARS.COM

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

     

    Loading Comments...