Story : Dr. Athiwat T. Photo : Pol.Capt. Kittin A. สวัสดีครับ วันนี้ kinlakestars.com จะพาทุกท่านมาอัพเดตคอร์สใหม่ของร้านอาหารที่เรียกได้ว่าได้มิชลินสตาร์ทันทีที่เปิด ดีงามแบบไม่ต้องพิสูจน์อะไรกันนานมากมาย นั่นคือ Saawaan นั่นเองครับ คอร์สของวันนี้เป็นคอร์สเซตที่สามของร้านครับ ยังคงคอนเซปแบ่งเมนูเพื่อแสดงเทคนิคต่าง ๆ ของเชฟในการทำอาหารแต่ละจาน เช่น การทำอาหารประเภท ดิบ จิ้ม หมัก หรือต้ม ครับ รวมเป็นอาหารคอร์ส 9 คอร์ส พร้อมอาหารเคียง ยังไม่รวมส่วนที่ใช้ clear palate, amuse bouche ครับ แม้จะเป็นร้านที่ฝังตัวอยู่ในอาคารพาณิชย์ แต่ทว่าทางร้านก็สามารถเนรมิตพื้นที่ที่มีทั้งขนาดและรูปทรงอย่างจำกัดออกมาได้อย่างงดงาม ตามชื่อร้าน สวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายบนผนังฝั่งนึงที่เป็นสีดำและมีลวดลายเมฆที่ทำจากโลหะ หรืออีกฝั่งที่มีลวดลายดอกไม้ขาวบนพื้นสีชมพูพีช ครัวที่เป็นครัวเปิด ทุกท่านสามารถเห็นเชฟทั้งทำ ทั้งจัดจานได้ทุกขั้นตอน Location ตัวร้าน Saawaan แห่งนี้ ตั้งอยู่ในซอยสวนพลูครับ ร้านเป็นแบบตึกแถว แต่ตกแต่งแบบเรียบหรู โดยยังคงบรรยากาศที่นั่งสบายเป็นมิตร สามารถแต่งตัวสบายๆ มาได้เลย ไม่ต้องเตรียมตัวมาก ในตัวร้านมีรายละเอียดการตกแต่งที่น่าสนใจ ทำได้สวยงาม เช่น ส่วนของครัวที่ตั้งไว้ใต้บันได ก็สามารถทำให้ดูมีระดับได้ นอกจากนั้นการเล่นแสงเงาของร้านที่ทำให้ร้านสวยมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังมีการใส่ใจในเรื่องเสียงนั่นคือตัวร้านมีการบุผนังเป็นตัวซับเสียง ช่วยลดเสียงก้องเสียงสะท้อน ถึงแม้ร้านจะเล็กทำให้อรรถรสของการชิมอาหารนั้นไม่เสียไปอย่างแน่นอน The Course คอร์สนี้เป็นอาหารคอร์สที่สามของ Sawaan ครับ ซึ่งยังคงคอนเซป showcase อาหารแต่ละจานด้วยวิธีการปรุงอาหารแต่ละอย่างครับ Amuse bouche เสิร์ฟมาสามคำครับ ซึ่งเชฟจะแนะนำให้ลองตามลำดับดังนี้ครับโจ๊ก หมูย่าง ไข่นกกระทา ตัวข้าวลื่นคอ เข้ากับหมูย่าง แต่ที่น่าแปลกใจคือ ไข่ที่ยังดูดิบสีเหลืองสวย แต่ไม่มีกลิ่นคาวเลย บ่งบอกถึงคุณภาพชั้นสูงของวัตถุดิบ กุ้งแพ ข้าวแครกเกอร์ ผงน้ำส้มสายชู มะกรูด เสิร์ฟบนใบตอง ได้รสชาติและกลิ่นของกุ้งที่เราชื่นชอบเต็มคำดีครับ สัปปะรดสวี เตรียมโดยใช้ถุงสูญญากาศสองคืนหรือคือทำซูวี บ่งบอกถึงความขี้เล่นของเชฟครับ ออกมาได้เนื้อบางใส ท๊อปด้วยปลาแห้งแผ่น ซอสพริก…
Author: athiwat tripipitsiriwat
Loukjaan By Saneh Jaan Sindhorn Kempinski Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A. “ลูกจันทร์” ร้านอาหารไทยที่ได้รับ DNA จากร้านแม่ ระดับมิชลินสตาร์ คือ สเน่ห์จันทน์ กลายมาเป็น ลูกจันทน์ ที่ยังคงรสชาติอันเข้มข้น และเป็นที่เลื่องลือ มาในบรรยากาศของโรงแรมหรูแห่งใหม่ Kempinski Sindhorn ซึ่งบอกได้เลยว่าราคานั้นพิเศษ จนเรียกได้ว่าคุ้มค่าที่สุดเวลานี้ ด้วยราคาอาหารเริ่มต้นเพียง 180 บาท ต่อจาน และข้าวสวยหอมมะลิ จานละ 30 บาท ! ตัวร้านตั้งที่ชั้นล็อบบี้ของโรงแรมตกแต่งแบบ modern luxury ทุกท่านจะต้องประทับใจตั้งแต่แว่บแรกที่เดินเข้ามา ด้วยโครงสร้างอาคารที่โอ่โถง ผนังคอนกรีตขนาดมหึมาที่บิดตัวโค้งประดุจประตุทะลุมิติเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง ลูกจันทน์ โดยเสน่ห์จันทน์ ตั้งอยู่ภายในห้องอาหารเฟลอริช (Flourish) ห้องอาหารที่บริการอาหารตลอดทั้งวัน บริเวณชั้นล็อบบี้ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โรงแรมหรูแห่งใหม่ ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบายจากผ่านทางเดินเชื่อมท่ามกลางสวนสวยจากโครงการ เวลา (Velaa) บูติกไลฟ์สไตล์มอลล์ที่มีทางเดินเข้าสู่โรงแรมฯ ได้โดยตรง วิวสวนของเคมปินสกี้สินธรเป็นอีกทัศนียภาพที่พลาดไม่ได้เลย เป็นป่าร้อนชื้นขนาดเล็กที่มีความสมบูรณ์มากในใจกลางกรุงเทพ พร้อมด้วยการบริการชั้นเลิศจากพนักงาน นอกจากการตกแต่งที่สวยงามของทั้งภายในอาคาร และ ภายนอกอาคาร รวมไปถึงสวนที่สวยงามแล้ว ภายในห้องอาหารยังมีครัวเปิดที่สวยงามและน่าสนใจ ท่านสามารถชมการปรุงอาหารของเชฟได้ในขณะที่เชฟทำอาหาร ครัวเปิดที่ดูสวยงามเป็นระเบียบนี้มีระบบดูดควันที่ดีมาก แม้จะปรุงอาหารไทย ไฟแรงขนาดไหน กลิ่นอาหารก็ไม่หลุดออกมาสร้างความรบกวนแก่แขกที่มานั่งรับประทานกันเลย เชฟพิไลพร คำหนัก เชฟชาวเชียงใหม่เป็นผู้ควบคุมดูแลทีมครัว เธอเคยเป็นส่วนหนึ่งของทีมเปิดร้านอาหารเสน่ห์จันทร์ และได้นำความรู้และประสบการณ์มากมายมาใช้ในการรังสรรค์อาหารไทย เชฟพิไลพรมีความชำนาญทั้งอาหารไทยและอาหารตะวันตก และยังเชี่ยวชาญในการปรุงอาหารแบบง่าย ๆ จากวัตถุดิบธรรมชาติด้วยความรักในการปรุงอาหารและความมั่นใจในคุณภาพและวัตถุดิบอย่างแท้จริง ลูกจันทน์ โดยเสน่ห์จันทน์ พร้อมเสิร์ฟอาหารไทยต้นตำรับด้วยสูตรอาหารที่สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ที่ยังคงรักษาดีเอ็นเอการปรุงอาหารไทยต้นตำรับจากร้าน เสน่ห์จันทน์ ไว้อย่างครบถ้วน พร้อมด้วยวัตถุดิบคุณภาพดีจากเกษตรกรท้องถิ่นทั่วประเทศไทย เพื่อเป็นการรักษาและคงไว้ซึ่งอาหารไทยต้นตำรับ ลูกจันทน์ โดยเสน่ห์จันทน์ พร้อมนำเสนอเมนูที่หารับประทานได้ยากหรือสูตรอาหารที่อาจถูกหลงลืมไปแล้วเพื่ออนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลัง และนำกลับไปสู่แก่นแท้ของความพิถีพิถันในการปรุงอาหารไทยแบบดั้งเดิม ทำให้มาได้ทั้งวันสบาย ๆ หรือ แม้แต่ฉลองโอกาสพิเศษ…
Sunday Brunch Buffet Date : Oct 2020 Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A. In Briefสุดยอด Sunday Brunch ที่ Highlight นอกจากจะเป็นวัถตุดิบสุดพรีเมี่ยม และ Ala Carte Menu เช่น Beef Wellington อร่อยและหากินได้ยาก พร้อมช่วงนี้ยังมีร้านอาหาร Street Food Michelin Star มาให้ลิ้มลองถึงที่ในราคาสุดคุ้มเริ่มต้นเพียง 2200++ บาท Kinlakestars Anantara Sunday Brunch สุดยอด Sunday brunch ที่จะรวมทุก ร้านอาหารประจำโรงแรมอนันตราสยาม ซึ่งล้วนแต่เป็นตำนานพร้อมใจกัน มาออกร้านเพื่อให้ทุกท่านลิ้มลองสุดยอดอาหารแบบสุดคุ้ม ในช่วงเวลาสุดพิเศษ มื้อสายวันอาทิตย์ กับครอบครัวและคนพิเศษแบบไม่จำกัดจำนวน โดยลูกค้าที่มาจะสามารถเลือกนั่งได้หลายโซน ไม่ว่าจะเป็นแบบเรียบหรู ส่วนตัวที่ Madison แบบผสมผสนานความเป็นไทยที่ The Spice Market หรือ นั่งชิว ชมบ่อปลาคาร์ป พร้อมดนตรีสดแบบใกล้ชิดที่ AQUA ทำให้บรรยากาศการกิน Sunday Brunch ของโรงแรมอนันตราสยามแห่งนี้ สามารถกลับมากินซ้ำ ๆ และเพลิดเพลินได้อย่างไม่รู้เบื่อ วันนี้เราจะพาทุกท่านมาชมกับอัพเดตเมนูของ Sunday Brunch ในตำนานกันครับ โดยอัพเดทหลักครั้งนี้จะเป็นในส่วนของ event เมนูพิเศษที่จะรวบรวมอาหาร street food มาสลับเวียนกันให้ได้ลองถึงที่ และไลน์บุฟเฟ่ต์ที่จัดใหม่เพื่อรองรับนโยบาย social distancing เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ COVID-19 ครับ สำหรับสถานที่วันนี้ เราเลือกมานั่งแบบเงียบสงบ ผ่อนคลายใน Madison , Luxury Steakhouse สุดคลาสสิคและสวยงามครับ Beverages ขอเริ่มจากเครื่องดื่มครับ…
หลังจากแนะนำการออกแบบเพื่อความยั่งยืนของ Soneva Kiri ซึ่งเป็น Ep.1 ของเรา Soneva kiri กับ Sustainable design ความ Luxury ที่มาพร้อมกับความรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม นิยามแห่งการพักผ่อนโดยสมบูรณ์แบบ <คลิกที่นี่เพื่ออ่านต่อ> Soneva Ep.2 ที่พาไปลองชมทรีทเมนต์จากเมนูสปาของ Six Senses เพื่อเริ่มต้นการเดินทางทางประสาทสัมผัสโดยไม่ต้องออกจาก Soneva Kiri สปาที่ผุดขึ้นมาจากผืนทะเลและรายล้อมด้วยป่าชายทะเล <คลิกที่นี่เพื่ออ่านต่อ> และEp.3 Private Plane & Private Airport เครื่องบินส่วนตัว สู่เกาะสวรรค์ รีสอร์ตสุดหรู Soneva Kiri ประสบการณ์เดินทางแสนส่วนตัวสุดพิเศษไม่เหมือนใครไม่เหมือนใคร <คลิกที่นี่เพื่ออ่านต่อ> ในครั้งนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับการกินแบบลอยฟ้ากลางอากาศที่ไม่เหมือนใคร ! ความพิเศษอันหนึ่งทีพลาดไม่ได้ของ Soneva นั่นคือ Treepod dining แห่งแรกของเอเชีย ประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษที่จะได้ ทำให้ผู้มาเยี่ยมเยียนได้สัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาติ ห้อมล้อมไปด้วยแมกไม้แบบ 360 องศา ตัว Treepod dining นี้จะตั้งอยู่ในโซนเฉพาะของ Soneva ซึ่งจัด มุมพิเศษให้ ผู้ที่เลือก experience มาโดยเฉพาะเลยครับ จุดที่ตั้งของ Treepod อยู่ในป่าริมทะเล ป่านี้ทอดตัวไปตามทางลาดลักษณะเนินเขา การจะเข้าไปถึงในจุดที่ตั้งเราจะต้องเดินเข้าจากห้องอาหารหลักของทางรีสอร์ทและเดินไปตามทางเดินไม้ที่วางตัวยาวคดเคี้ยวไปมา เดินขึ้นๆลงๆลัดเลาะไปในป่าที่เกาะตัวขนานไปกับทะเล ท่านจะรู้สึกประดุจผจญภัยในป่าที่ยอดไม้สูงเสียดฟ้าสุดสายตา มีแสงรำไรลอดลงมาจากด้านบนและแสงจากฝั่งชายทะเล ช่วงเวลาจะจัดไว้สองรอบคือ Breakfast และ Afternoon tea โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่ามุมนี้เหมาะมากๆ สำหรับช่วงเช้า เพราะจะไม่ร้อน ทำให้สามารถมองออกไปดูทะเลและเส้นขอบฟ้าได้อย่างเต็มที่ โดยไม่แสบตา ซึ่งแน่นอนว่าด้วย availability ที่จำกัดทำให้ต้องจองกันหน่อยครับ เราแนะนำให้จองล่วงหน้าก่อนจะเข้าพัก การจองก็สามารถแจ้งความต้องการได้โดยตรงกับ Mr. Friday ครับ ซึ่ง Mr. Friday ก็จะนำเมนูมาให้เราเลือกติ๊กไว้ก่อนเพื่อเตรียมการครับ ซึ่งจะให้เลือกเป็นหมวดหมู่ โดยเครื่องดื่มจะสามารถเลือกได้ 1 เมนูต่อหมวดหมู่ต่อคนครับ สำหรับการกินอาหารของ treepot กระเช้าไม้จะจอดอยู่ที่ฐานไม้ตรงพื้น เมื่อแขกทุกท่านเข้าไปนั่งเรียบร้อย พนักงานจะใช้สลิงค์ยกตัวกระเช้าขึ้นไปเรื่อยๆ Hot beverage เป็นกลุ่มชา และ กาแฟ…
Staycation Bangkok Marriott Hotel The Surawongse Story : Dr. Athiwat T. /Photo : Pol.Capt. Kittin A. หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าย่านเมืองเก่าอย่างสุรวงศ์ มีโรงแรมระดับห้าดาวที่อันแน่นไปด้วยคุณภาพ ทั้งบรรยากาศ ห้องพัก สปา และ อาหาร นั่นก็คือ Bangkok Marriott Hotel The Surawongse ซึ่งวันนี้เราจะขอแนะนำโปรแกรม Staycation ของโรงแรมให้ทุกท่านได้ลองพิจารณาครับ โรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ โรงแรมดีไซน์เก๋ที่มีแรงบันดาลใจมาจากศิลปะช่างสิบหมู่ เหมาะแก่การสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการมาพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ เช็คอินถ่ายรูปสวยฟินไปกับสระว่ายน้ำลอยฟ้า พร้อมวิวกรุงเทพแบบ 180 องศา ทุกท่านสามารถอิ่มอร่อยกับอาหารไทยรสจัดจากพระยา คิทเช่น หรืออาหารจีนจากเย่า เรสเตอรองท์ แล้วปิดท้ายวันที่เย่า รูฟท็อป บาร์ บาร์เก๋สไตล์เซี่ยงไฮ้พร้อมวิวระยิบระยับของกรุงเทพยามค่ำคืน Bangkok Marriott Hotel: The Surawongse ตัวโรงแรมตั้งอยู่บนถนนสุรวงศ์ใจกลางย่านเมืองเก่าแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เป็นแอเรียที่ใกล้กับสาทร สีลม สยาม แต่ยังคงไว้ซึ่งความเงียบสงบ เหมาะแก่การเดินเล่นชิว ๆ ในวันสบาย ๆ ครับ ตัวโรงแรมชั้นล่างจะล้อมด้วยกำแพงสูงทำให้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงชัดเจนเมื่อเดินเข้ามาครับ เป็นความผ่อนคลายและเงียบสงบ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นที่ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรม ซึ่งจะถูกใช้ในทุกจุดของโรงแรม ชั้นล่างสุดของโรงแรมมี Lobby 2 ฝั่ง โดยฝั่งที่ให้แขก check-in จะอยู่ฝั่งที่ติดกับถนนใหญ่ ด้านซ้ายมือหากหันเข้าโรงแรมคือเคาท์เตอร์เช็คอิน ตรงกลางเป็นพื่นที่นั่งพักคอย และด้านขวาเป็นร้ายขายของที่ระลึก ส่วนล็อบบี้ก็ทำได้หรูหราครับ ซึ่งสีของโรงแรมนี่จะเน้นการตกแต่งแบบเรียบ โมเดิร์น โทนเทาดำ แต่ชูรายละเอียดของศิลปะไทยช่างสิบหมู่ ซ่อนไว้ในส่วนต่าง ๆ ของโรงแรม ส่วน Lobby อีกฝั่งเป็นร้านเบเกอร์รี่ที่สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มได้ พร้อมกับนั่งเล่นนั่งทำงานไปด้วย ซึ่งยังเป็นจุดที่เชื่อมไปยังอาคารสำหรับจัดเลี้ยง ซึ่งเมื่อเชคอินและฝากกระเป๋าแล้ว ก็สามารถไปนั่งชมวิว และ พักผ่อนก่อนมื้ออาหารเย็นได้ที่ M…
พูดถึงสุดยอดร้านอาหารจีนในประเทศไทย แน่นอนว่า Shang Palace นั้นเป็นหนึ่งในชื่อที่ต้องติดอันดับอยู่ต้นๆแน่นอน ด้วยประวัติอันแสนยาวนานและชื่อเสียงที่สะสมมา เปลี่ยนเชฟมาก็มากมาย ทว่าเชฟทุกคนที่มาล้วนถูกคัดสรรค์ว่าต้องมีฝีมืออันดีเยี่ยม ประดุจคัดพ่อครัวเข้าวังหลวงสำหรับปรุงอาหารให้จักรพรรดิ์เลยทีเดียว เชฟเชามีชื่อเสียงและประสบการณ์อันโดดเด่นในการทำอาหารจีนในประเทศจีน ฮ่องกง และญี่ปุ่นมามากกว่า 40 ปี เขาได้ตั้งใจรังสรรค์เมนูใหม่ อาหารจีนกวางตุ้งแบบดั้งเดิมรสชาติต้นตำรับโดยใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพนำเข้าจากประเทศจีนให้ทุกท่านได้อิ่มเอม หลายคนที่อ่านมาถึงตอนนี้อาจคิดว่า ห้องนี้เปิดมานานเคยมาก็หลายคราแล้ว แต่ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงเมนูใหม่ที่ทุกท่านมิเคยได้ลิ้มลองเพราะเชฟเชาพึ่งรังสรรค์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมดนั้นเอง ท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับหลากหลายเมนูใหม่เลิศรส อาทิ ซี่โครงแกะอบชานจาและซอสสับปะรด เนื้อวากิวผัดกระเทียม ปีกไก่ผัดเป๋าฮื้อและเห็ด ผัดอุด้งทะเลพริกไทยดำ และอีกมากมาย อาหารเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีรสชาติดีแต่ยังมีกลิ่นหอมเย้ายวนอีกด้วย แถมยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่เบื้องหลังอาหารแต่ละจาน ด้วยเมนูที่หลากหลายที่มีให้บริการทำให้แขกได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่ซ้ำกันและเป็นที่น่าจดจำ New Shang Palace A La Carte Menuเมนูเลิศรสใหม่ที่จะมาเสริมทัพ ร้านอาหารจีนชั้นนำอย่าง แชงพาเลซ แน่นอนว่าจะต้องไม่ธรรมดา โดยฝีมือชั้นครู ของ มร. เชา ไวแมน สืบทอดตำนานอาหารจีน จะมีอะไรกันบ้างไปชมกันเลยครับ น้ำชาโกจิเบอร์รี่ กับ ถั่วเคลือบน้ำตาล แก้วนี้เป็นหนึ่งใน welcome สุดสร้างสรรค์ที่ให้ความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้อย่างดีเยี่ยม และเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าที่ที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกาย โดยเฉพาะโกจิเบอร์รี่หรือเก๋ากี้ ซึ่งช่วยบำรุงสายตาเป็นอย่างดีที่มาพร้อมกับเมล็ดมะม่วงหินมะพานคั่วคลุกน้ำตาลแสนกรุบกรอบ หมูแดงเลิศรส Honey Glazed pork Char Siewเพียงคุณเห็นคุณก็จะรู้แล้วว่าอร่อยแน่ด้วยสัมผัสของแสงที่กระทบและตกลงบนผิวหมูแดง เมื่อใช้ตะเกียบคีบขึ้นมา และเข้าปาก ลิ้นสัมผัสกับตัวหมูรสชาติที่พอดิบพอดี รสฉ่ำนุ่ม แทรกมันกำลังดี เนื้อหวานน้ำผึ้ง รสเค็มแบบหอมซีอิ๊วชั้นดี ทำให้อยากอาหารมากขึ้น เป็น appetizer ชั้นเลิศ เนื้อปูยัดไส้ทอดกรอบ Deep-Fried stuffed Crab Meat in Shellเนื้อปูหิมะยัดไส้ ก่อนทำเชฟจะค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิน้ำมันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เปลือกเป็นสีเหลืองกรอบร่วนไม่อมน้ำมัน ตัวไส้เป็นครีมเนื้อปูอัดแน่น ปลาจินดาระเจี๋ยนไข่ขาวกังป๋วย Baked Cod Fillet with Egg White and Dried Scallopปลาจินดาระ หรือ ปลาหิมะ ปรุงรสด้วยซอสไข่ขาวฟูนุ่มนวล ลื่นคอ กับ กังป๋วยหรือหอยเชลล์อบแห้ง…
Kinlakestars.com วันนี้จะขอนำทุกท่านไปพบกับร้านอาหารสุดพิเศษ ร้านใหม่ที่เพิ่งเปิดทำการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 ที่ผ่านมาจาก Chef Dan Bark – เชฟชาวเกาหลี-อเมริกัน ที่สั่งสมประสบการณ์การทำอาหารในร้านมิชลินมาอย่างยาวนานก่อนเดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งเชฟได้พิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้เป็นที่ประจักษ์ไปแล้วจากความสำเร็จของ Upstairs at Mikkeller การันตีด้วยรางวัลมิชลินสตาร์ระดับหนึ่งดาว ในปีนี้เชฟแดนได้เปิดร้านใหม่เพื่อรองรับลูกค้าที่นับวันจะมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งภายใต้สถานที่ใหม่นั่นคือ ‘Cadence’ Cadence at a Glanceร้านอาหาร Fine dining style American-progressive จากเชฟมิชลินสตาร์ Dan Bark ที่ทำให้ Upstaris at Mikkeller ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม จุดเด่นคือ Course ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพ การปรุงและรสสัมผัสที่หลากหลายพร้อม สวยงามด้วยอุปกรณ์ชั้นเลิศ ความสนุกสนานจาก wine cocktail และ mocktail pairingราคา: 4300 บาท ++Contact: https://www.cadence-danbark.com/reservationKinlakestars Location ร้านใหม่แห่งนี้ตั้งเป็น Stand alone ในบริเวณใจกลางเมืองแต่ยังเงียบสงบใน ซอยปรีดีพนมยงค์ 25 ที่ไม่ไกลจากทองหล่อ สามารถเดินทางได้ไม่ยากโดยรถส่วนตัว ซึ่งบริเวณหน้าร้านมีที่จอดรถพอควร และ บริการ Valet คอยดูแลเรื่องที่จอดรถให้ เมื่อเข้ามาในตัวร้านก็จะพบกับร้านที่ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสไตล์ Retro Glamourous เน้นสีน้ำเงินตัดกับทองแดงให้ความรู้สึกหรูหรา แต่ยังมีความสนุกสนาน ขี้เล่นและผ่อนคลาย ซึ่งโซนแรกจะเป็นโซนต้อนรับ และ บาร์ซึ่งใช้ชื่อว่า “Caper” ซึ่งสามารถมานั่งชิลกับเพื่อน ๆ หรือ สั่งอาหารแบบ a la carte มาได้เช่นกัน ตัวอย่างเมนูของ Caper Cadence ส่วน Fine dining Section จะให้บริการในส่วนเฉพาะของร้านนั่นคือ Cadence อาหารของเชฟจะเป็น Style Progressive American…
At a Glance: Yao Chinsese Afternoon Tea 🍵เซ็ต afternoon tea ที่รวมของว่างแบบจีนและแบบดั้งเดิม เซ็ตเดียวที่ได้ทั้งจิบชา พร้อมสโคน และ เป๋าฮื้อ ! 🕑ทุกเสาร์-อาทิตย์ 14.30 – 17.00 น.🛎️Yao Restaurant and Rooftop Bar, Bangkok Marriott Hotel The Surawongse🧧1288 บาท ++ ต่อสองท่านKinlakestars วันนี้ kinlakestars.com จะขอพาทุกท่านไปที่ ร้านอาหารจีน rooftop ชื่อดังย่านสุรวงศ์ นั่นคือ Yao Restaurant and Rooftop Bar แห่งโรงแรม Bangkok Marriott Hotel the Surawongse นั่นเองครับ เพราะตอนนี้เค้ากำลังจัด เซ็ตAfternoon Tea ที่เรียกได้ว่ามีเอกลักษณ์น่าสนใจมาก ๆ นั่นคือ เซ็ต Afternoon Tea แบบจีน ซึ่งมีตั้งแต่สโคน ติ่มซำ ไปจนถึงเป๋าฮื้อ ! จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยครับ Yao Restaurant and Rooftop Bar ก่อนอื่นเรามารู้จักกับร้าน Yao (เย่า) กันก่อนครับ ร้านอาหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้น 32 ของโรงแรม Marriott Surawongse ทำให้เห็นโซนวิวเมืองเก่าของแถบสี่พระยา และ สุรวงศ์ไปจนถึง ย่านธุรกิจอย่างสาทร และ แม่น้ำเจ้าพระยา ภายในร้านตกแต่งแบบ modern oriental ให้บรรยากาศสบาย ๆ ไม่วุ่นวาย หรือ หรูหรารุงรังจนเกินไป ส่วนอุปกรณ์เครื่องเคลือบของที่นี่ก็มีสีสันแบบแปลกตาดีครับ เป็นหนึ่งในความประทับใจตอนเดินเข้ามา Yao:…
ในยุคที่ Buffet Sunday brunch นั้นมีแทบทุกหัวมุมถนนในใจกลางเมือง แต่อะไรบ้างล่ะที่ทำให้แตกต่าง หนึ่งในจุดขายของของ buffet เจ้าต่าง ๆ เช่น Seafood on ice และความหลากหลายของอาหาร แต่ที่ Rain Tree Cafe แห่งนี้นั้น พิเศษและแตกต่างจาก Sunday Brunch Buffet เจ้าอื่น ๆ อย่างแน่นอน ด้วยความหลากหลายของอาหาร ทุกประเภทอาหารที่ทำอย่างพิถีพิถัน ไม่มีมุมไหน จานไหนเป็นตัวประกอบ เพราะวัตถุดิบทุกตัวได้รับการคัดสรรมาทั้งหมด ความสวยงามของอาหารและการตกแต่งภายในห้องอาหาร ลูกเล่นของอาหารและการเสิร์ฟ การที่ทำให้คุณรู้สึกเป็นคนพิเศษด้วยการให้บริการแบบใส่ใจในทุกรายละเอียดให้คุณรู้สึกถึงการเป็นแขกคนพิเศษ การตกแต่งภายในของห้องอาหาร Rain Tree Cafe แห่งนี้มีความหรูหราสง่างามประดุจพระราชวัง ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งฝ้าลักษณะเป็นช่องๆ การแบ่งกระจกเป็นชิ้นเล็กๆ กระจกเจียปลี และยึดติดกับโครงก้างปลาในบานกรอบ มือจับ รวมไปถึงช่อไฟกิ่งประดับ และที่โดดเด่นคือพื้นลายตารางหมากรุกซึ่งมีที่มาจากความชอบของพระองค์หญิง เนื่องจากเดิม พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นวังมาก่อน และพระองค์หญิงเองก็โปรดการเล่นหมากรุกมากนั่นเอง สำหรับการแบ่งพื้นที่ภายในห้องอาหารนั้น ที่ห้องอาหาร Rain Tree จะแบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน โดยหากแยกพื้นที่ตามผังการใช้งานจะพบว่าหลังจากเดินผ่านด้านหน้าที่เป็นพื้นที่ต้อนรับและนั่งดื่ม ท่านจะพบกับมุมขนมหวานสุดแสนสวยงามอลังการ ด้านซ้ายจะเป็นมุมอาหารหลากหลายประเภทต่างๆเรียงตัวยาวไปถึงโถงทรงวงรี ด้านขวาเป็นพื้นที่นั่งกินดื่มที่แยกเป็นห้องโถงใหญ่ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความพลุกพล่าน และชอบแสงธรรมชาติ สว่าง โปร่ง และโล่ง หากเดินตรงเข้าไปจะเป็นพื้นที่อีกหลากหลายมุม เหมาะสำหรับผู้ชอบบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและครื้นเครง และสะดวกต่อการหยิบตักอาหารมากที่สุด และโซนสุดท้ายจะมีความเป็นส่วนตัวสูงสุดเป็นห้องโถงแยกออกไปสุดมุมซ้ายสุดของห้องอาหาร เอาล่ะครับ หลังจากพาชมความงามและที่มาของการตกแต่งภายในของห้องอาหารกันมาพอสังเขปแล้ว เรามาดูภาพรวมความโดดเด่นของอาหารกันก่อนลงรายละเอียดกันดีกว่าครับ Seafood On Ice ไฮไลท์ที่ขาดไม่ได้ของ Sunday brunch buffet นั้นก็คือ Seafood on ice แม้หลัง covid-19 จะทำให้หลายห้องอาหารไม่กล้าจัดเต็มกับ Seafood on ice บน line buffet เพราะไม่สามารถคาดเดาจำนวนแขกได้ แต่ไม่ใช่ที่นี่ ของเรานั่นคือ Seafood on ice ของที่นี่เต็ม เยอะ เติมตลอด…
La Scala แห่งโรงแรม The Sukhothai หนึ่งในห้องอาหารอิตาเลียนที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ฯ ที่คออาหารอิตาเลียนรู้จักกันดี กวาดรางวัลระดับนานาชาติมาแล้วมากมายได้เปิดทำการอีกครั้ง ภายใต้การนำของ Executive Chef คนใหม่ Anthony Burd ผู้อยู่ในวงการอาหารมาตลอดชีวิต พร้อมประสบการณ์การทำร้านอาหารชั้นเลิศมาแล้วทั่วโลก At a Glance 🌟 La Scala ร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังคู่กรุงเทพ ฯ พร้อม Tasting menu จากเชฟใหม่ Anthony Burd รสชาติเยี่ยมพร้อมวัตถุดิบชั้นยอดทั้ง Foie gras, Brittany blue lobster, Ora King Salmon และ Te mana Lamb 🍕 Truffle Pizza คือความดีงามที่ต้องลอง💰 Tasting menu เริ่มต้น 3200 THB ++ (full 6 courses) 🏨 โรงแรม The Sukhothai กรุงเทพ, สาทร *แนะนำสำรองที่นั่งก่อน*Website: La Scalakinlakestars The Vibe ตัวร้านสไตล์ Comtemporary สีดำแดงให้ความรู้สึกน่าประทับใจตั้งแต่แรกเห็น หรูหรา แต่ไม่ทำให้อึดอัด เครื่องใช้ White plate เครื่องเงิน สวยงามระยิบระยับ ตัดกับแก้ว สีดำแดง ร้อยเรียงเดินไปในทางเดียวกันกับการตกแต่งของห้องอาหาร สีแดงที่บ่งบอกถึงหรูหรา และสีดำที่ทำให้รู้สึกน่าค้นหา เป็นภาพที่ช่วยให้เรามั่นใจว่าอาหารมื้อนี้จะต้องเป็นอาหารมื้อพิเศษอย่างแน่นอน The Menu สำหรับเมนู ที่เราจะรีวิวในครั้งนี้เป็น Tasting menu ใหม่ประจำฤดูกาลครับ เป็น 6-Course Tasting Menu ที่เชฟ Anthony Burd ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัตถุดิบประจำฤดูกาลของประเทศไทย ซึ่งก่อนอื่นจะตามธรรมเนียมก็จะมี…