Author: Kittin Assavavichai

โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโอเอซิสกลางกรุงที่ดีแห่งหนึ่ง ซึ่งท่านสามารถผ่อนคลายเหมือนอยู่ชานเมืองหรือต่างจังหวัดได้ทั้งๆที่อยู่ใจกลางสาทร วันนี้ kinlakestars จึงจะพาทุกท่านไปพบกับการจิบชาด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่น ปกคลุมด้วยต้นไม้มากมาย บ่ายๆ แบบนี้ก็เลยขอมานั่งเล่น จิบน้ำชายามบ่ายกัน กับชุดชาชุดใหม่ที่รังสรรค์จากบัว ชุดน้ำชานี้ ถูกออกแบบให้เป็นเหมือนสระบัว มีดอกบัวโผล่ขึ้นมา ขนมต่างๆ ถูกวางไว้บนใบบัว ข้างล่างมีควันออกมา เสมือนเป็นน้ำในสระบัว คือ การนำเสนอชนะเลิศ เสิร์ฟคู่กับ ชากลีบดอกบัวแบรนด์ดัง อย่าง Saro Royal Lotus Tea โดยวันนี้ขอเลือกเป็นตัวซิกเนเจอร์ของที่นี่นะครับ ตัวนี้ทาง Saro Tea ได้ผสมมาให้ทางโรงแรมฯเป็นพิเศษที่เดียว นั่นก็คือ Sukhothai Tea ตัวนี้ไม่มีคาเฟอีนด้วยนะครับ ตอนที่รินชาลงแก้ว กลิ่นหอมนี่ฟุ้งขึ้นมาเลย ให้ความรู้สึกสดชื่นเป็นอย่างดี เรามาเริ่มในส่วนของคาวก่อนดีกว่า ชิ้นนี้เป็นแซนวิชโฮลวีทแฮมชีส ต่อมาเป็น กริลด์แซนวิชสอดแทรกด้วยมะเขือเทศ และ ชีสมอซซาเรลล่านุ่มๆมันๆ ขนมปังมีความกรอบๆตรงผิวด้วย แซนวิชหมดแล้ว เราเขยิบต่อกันเลย กับ ครัวซองท์แฮมคอปป้า และ แตงกวาดอง  แฮมแผ่นบางๆ แตงกวาดองสไลด์ และ ผักสลัดกรอบๆ วางอยู่บนครัวซองท์ที่ถูกตัดมาเป็นทรงคล้ายถ้วย ตัวครัวซองท์หลงเหลือความกรอบที่ผิวเล็กน้อย ข้างในเหนียวนุ่ม ได้รสชาติเค็มๆ และ หอมๆ จากแฮม สำหรับชิ้นนี้เป็นแรปไส้ไก่เม็ดบัว แผ่นแป้งที่ห่อมีความนุ่ม ไส้ข้างใน ตอนที่ได้ทาน กลิ่นรมควันนี่ฟุ้งขึ้นจมูกเป็นอย่างแรกเลย รสชาติจะออกหวานๆเค็มๆ กลมกล่อมดี มาต่อกันที่ชิ้นนี้เลยครับ แอบหลงกลุ่มหรือเปล่า ดูแล้วมันคือ ‘มาการอง’แต่เดี๋ยวก่อน ไส้เป็นแซลมอน นี่นา คือเป็นการจับคู่ที่ค่อนข้างลงตัวทีเดียว ด้วยพื้นฐานของรสชาติเจ้ามาการองที่ค่อนข้างหวาน จับคู่กับ กราฟลักซ์ ที่รสชาติจะออกไปทางเค็มนิดๆ มีความหอมของปลาแซลมอน แต่ด้วยรสชาติของกราฟลักซ์อาจจะยังสู้เจ้ามาการองไม่ได้ ทำให้รสชาติโดยรวมของชิ้นนี้อาจจะเบนไปทางหวานมากกว่า แต่ก็ถือว่าเป็นการทานมาการองอีกรูปแบบหนึ่ง คือ ทำให้เรารู้สึกได้ทานของหวานและของคาวในคำเดียวนั่นเอง นอกจากนี้ยังได้ความมันและความหอมจากครีมชีสที่สอดไส้ขนมมาด้วย หมดของคาวแล้ว เรามาคั่นกันด้วยสโคนกัน ของที่นี่จะเป็น สโคนชาเขียวมะม่วง เสิร์ฟคู่กับ Clotted cream และ แยมสตรอว์เบอร์รีพอลองฉีกสโคนแยกออกจากกันดู ดูเนื้อขนมค่อนข้างแห้งเหมือนกัน แต่ไม่แตกร่วงโรย…

Read More

สูงที่สุดแห่งย่านราชประสงค์ อัดแน่นด้วยงานศิลป์ทำมือ เรียบหรูผู้ดีใหม่สุดๆต้อง Waldorf Astoria Bangkok วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทเป็นลักซ์ชัวรี่แบรนด์ที่โดดเด่นของฮิลตัน มีโรงแรมภายใต้แบรนด์นี้อยู่หลายแห่งในโลก สร้างความรู้สึกเฉพาะให้ผู้คนจดจำความเป็นแบรนด์ได้ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะมอบบริการที่เป็นเลิศแบบเป็นส่วนตัว และประสบการณ์เกี่ยวกับอาหารที่ยอดเยี่ยม ในจุดที่ตั้งสำคัญหลาย ๆ แห่งของโลก พื้นที่โดยรวม: 39,867 ตารางเมตร วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนชั้น 6-16 และ 55-57 ของอาคาร 60 ชั้น แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด ออกแบบโครงสร้างตึกโดย บริษัท เดอะ โบว์มอนท์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด ห้องพัก โรงแรมมี ห้องพักและสวีท จำนวน 171 ห้อง บนชั้น 6-15 ทุกห้องกว้างขวางและตกแต่งอย่างหรูหรา  ราคาห้องพัก:  เริ่มต้นที่ 13,000 บาท (ไม่รวมภาษีและค่าบริการ ทั้งหมด17.7%) ประเภทห้องพัก:  ห้องดีลักซ์ เตียงเดี่ยว จำนวน 89 ห้อง ขนาด 50 ตารางเมตร  ห้องดีลักซ์ เตียงคู่ จำนวน 3 ห้อง ขนาด 50 ตารางเมตร  ห้องดีลักซ์ สำหรับผู้ใช้วีลแชร์ จำนวน 2 ห้อง ขนาด 50 ตารางเมตร  ห้องดีลักซ์ เตียงเดี่ยว บนชั้นสูง จำนวน 33 ห้อง ขนาด 50 ตารางเมตร  ห้องดีลักซ์ เตียงคู่ จำนวน 9 ห้อง ขนาด 50 ตารางเมตร  ห้องดีลักซ์ สวีท เตียงเดี่ยว จำนวน…

Read More

หลายคนอาจคุ้นเคยกับร้านอาหารอิตาเลียนริมน้ำอย่าง Ciao ด้วยทัศนียภาพที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งรสที่อร่อยถูกปาก พร้อมทั้งคุณภาพวัตถุดิบชั้นสูงที่นำมาใช้ แต่ในครั้งนี้มีสองอย่างที่เปลี่ยนไป นั้นคือ เชฟกับเมนู และช่วงเวลาการให้บริการนั้นเอง ความสวยงามของริมน้ำเจ้าพระยา แสงตะวันที่ทอเป็นสีทองค่อยๆลาลับไป จากสีส้มเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดงที่ดูสงบ สวยงาม โรแมนติก จนกลายเป็นความมืดยามราตรีพร้อมแสงสีที่ประดับประดา ดูสวยหรู ประดุจหญิงสวยงามในชุดเดรสสีดำ ห้องอาหารอิตาเลียน‘เชาว์ เทอร์เรซซ่า’(Ciao Terrazza Restaurant) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยารายล้อมด้วยวิวทิวทัศน์อันงดงาม และอาคารประวัติศาสตร์ตกแต่งตามสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลอายุ 142 ปี พร้อมทั้งสนามหญ้าสีเขียวขจี รังสรรค์เมนูโดยเชฟมาร์เซลโล่ สกอคนามิกกลิโอ หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหารอิตาเลียน‘เชาว์ เทอร์เรซซ่า’(Chef Marcello Scognamiglio, Chef de Cuisine, Ciao Terrazza Restaurant) เชฟชาวเนเปิลส์แห่งแคว้นกัมปาเนีย(Campagnia)ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงอาหารสไตล์โฮมเมดสูตรต้นตำรับ เชฟ เน้นคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วโลก สรรค์สร้างมาเป็นเมนูเลิศรสให้กับลูกค้าคนสำคัญ และสามารถสัมผัสประสบการณ์กับมื้ออาหารสุดพิเศษ โดยมีทีมเชฟคอยดูแลตลอดมื้ออาหารของคุณในห้อง ‘Chef’s Table’ อย่างเป็นส่วนตัว พร้อมมีบริการบาร์เครื่องดื่มนานาชนิดให้คุณเลือกสรรมากมายในทุกค่ำคืน ในส่วนของการให้บริการที่เปลี่ยนไปคือปัจจุบัน Ciao ให้บริการตลอดทั้งปี ซึ่งแต่เดิมจะให้บริการแค่ช่วงหัวปี และท้ายปีเท่านั้น และจะปิดบริการในช่วงกลางปี ส่วนของพื้นที่ให้บริการมีสองส่วน คือส่วนกลางแจ้งริมน้ำ และส่วนในอาคาร ซึ่งเป็น chef table กับครัวเปิด เริ่มต้นกันด้วยขนมปัง ให้บริการกันมาอย่างหลากหลายชนิด โดยส่วนตัวผมชอบและแนะนำ FOCACCIA BREAD ที่มีความฟู นุ่ม เค็มๆในตัว พร้อมมะเขือแห้งด้านบน กินคู่กับน้ำมันมะกอก หรือ มาสคาร์โปเน่ชีส ชีสเนื้อเบาละมุน ซึ่งในแต่ละวันเชฟจะมีการเปลี่ยนกิมมิคที่ใส่ลงไปในเจ้าชีสนี้ เช่นอย่างในวันนี้เชฟใส่เปลือกส้มที่ทำเป็นฝอยๆ ทำให้ได้กลิ่นที่หอม สดชื่น อมูสบูช Amuse Bouche เป็นปกติที่การกิน fine dining จะต้องมีการให้บริการ Amuse Bouche ก่อนที่จะเข้าสู่มื้ออย่างเป็นทางการ ซึ่ง Amuse Bouche ก็จะมีการเปลี่ยนวนไปเรื่อยๆตามแต่เชฟเช่นกันครับ ในครั้งนี้ เป็นมะเขือที่นำไปนำเป็นของเหลวแต่หุ้มด้วยผิวเจลาติน รูปร่างสวยงาม จุ๋มจิ๋มมุ้งมิ้ง วางบนช้อนโลหะพอดีคำ เจ้าตัวนี้กินเข้าไปให้รสสดชื่นและเรียกน้ำย่อยได้ดี UOVO CROCCANTE, PECORINO E TARTUFO Crunchy egg,…

Read More

หนึ่งในหน้าที่ของนาฬิกานอกจากการใช้บอกเวลา ยังใช้เป็นทั้งเครื่องประดับ เครื่องบ่งบอกฐานะ และยังสะท้อนถึงรสนิยมและตัวตนของผู้ใส่อีกด้วย และในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีงามของผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกา จะมาชม หรือจะมาซื้อก็ยิ่งเหมาะ ห้างเซ็นทรัล/เซนผู้ริเริ่มจัดมหกรรมนาฬิกาประจำปีที่ยิ่งใหญ่ในประเทศไทย จนกลายเป็นสุดยอดมหกรรมนาฬิกาแห่งภูมิภาคเอเชีย บนความเชี่ยวชาญตลอด 2 ทศวรรษ ตอกย้ำความเป็นกูรูงานนาฬิกาอีกครั้ง โดยจับมือค่ายนาฬิกาชั้นนำ จัดงาน “เซ็นทรัล/เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์แฟร์ 2018” (Central/ZEN International Watch Fair 2018) มหกรรมนาฬิกาสุดยิ่งใหญ่แห่งเอเชียประจำปี ครั้งที่ 20 นำนาฬิกาเรือนเด่น ส่งตรงจาก 2 งานแสดงนาฬิการะดับโลก บาเซิลเวิลด์(Baselworld) และงานเอสไอเอชเอช (SIHH-The Salon International de la Haute Horlogerie) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มารวมไว้ในงาน กว่า 180 แบรนด์ วันนี้ ถึง 17 ก.ย. 61 ณ ดิ อีเว้นต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลมและจัดต่อเนื่อง ถึงวันที่ 30 ก.ย. 61 ที่แผนกนาฬิกา ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา และเซน ภายในงานวันนี้ ซึ่งจัดขึ้น ณ ดิ อีเว้นต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม ได้รับเกียรติจากบรรดา เซเลบริตี้วอทช์เลิฟเวอร์ อาทิ พิณน้อย กิติยากร ณ อยุธยา, พญ.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช, เพ็ญสุภา คชเสนีย์, กัลยพัชร ภักดีผดุงแดน, ณชา จึงกานต์กุล, กรุณา วัจนะพุกกะ, แพรพรรณ ธรรมวัฒนะ, ญานินท์ วีระไวทยะ, ณัฏฐิ์ประภา ชุณหะวัณ ธาพิดา นรพัลลภ เผยว่า “ในฐานะกูรูงานนาฬิกา เราจัดงาน เซ็นทรัล/เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์แฟร์ 2018…

Read More

ขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อย กับไส้สุดพิเศษ ทรัฟเฟิลไข่เค็ม ที่โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด เทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึง 24 กันยายน2561 โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ ขอเชิญคุณลิ้มลองความอร่อยของขนมไหว้พระจันทร์สูตรต้นตำรับหลากรสชาติ จากส่วนผสมที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันเนื้อแป้งอันละเอียดบางหอมกรุ่น ผสมผสานกับรสชาติความกลมกล่อมอย่างลงตัวหลากชนิด อาทิ โหงวยิ้งไข่เค็ม, ทุเรียนไข่เค็ม, ลูกบัวไข่เค็ม, ถั่วแดง และที่พลาดไม่ได้สำหรับปีนี้ คือ ขนมไหว้พระจันทร์สูตรพิเศษ“ทรัฟเฟิลไข่เค็ม”ซึ่งทำออกมาจำหน่ายจำนวนจำกัด เพียง 500 ชิ้น เท่านั้น หมดแล้วหมดเลย รสชาติโดดเด่น ที่ไส้เป็นไข่เค็มเต็มคำ เข้มข้น หวาน มันกำลังดี เข้ากันอย่างลงตัวกับกลิ่นอันหอมโดดเด่นเฉพาะตัวของทรัฟเฟิลออยล์ บรรจุในกล่องอันสวยงาม เรียบโก้ โทนสีทอง-น้ำตาล สามารถสั่งจองได้แล้ววันนี้ ที่ห้องอาหารจีนหลงฟ่ง และเดลี่สวิส เบเกอรี่ ในราคาชิ้นละ 188 บาทสุทธิ หรือกล่องละ 888 บาทสุทธิ (4 ชิ้น) เฉพาะสูตรพิเศษทรัฟเฟิลไข่เค็ม ราคาชิ้นละ 250บาทสุทธิ หรือกล่องละ 1,200บาทสุทธิ (4 ชิ้น) สั่งจองล่วงหน้าได้ที่โทร 02 694 2222 ต่อ 1510หรือ อีเมล์ [email protected] ขนมไหว้พระจันทร์, mooncake, 2018, Review mooncake swissotel 2018 KinlakeStars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด…

Read More

เทศกาลไหว้พระจันทร์ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญของชาวจีน ที่สมาชิกในครอบครัวจะนัดหมายมารวมตัวกันอย่างอบอุ่น และมอบขนมไหว้พระจันทร์ให้กับญาติผู้ใหญ่ โดยในปีนี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ได้รังสรรค์ขนมไหว้พระจันทร์ 4 รสชาติยอดนิยม ในกล่องดีไซน์ใหม่ สวยหรู ณ ร้านเบเกอรี่มอคค่า แอนด์ มัฟฟินส์ ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม – 24 กันยายน ศกนี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ร่วมสืบสานและเฉลิมฉลองประเพณีอันงดงามนี้ ด้วยขนมมงคลไหว้พระจันทร์สูตรดั้งเดิม ผลิตจากวัตถุดิบคัดสรรคุณภาพชั้นดี ปราศจากสารกันบูด อัดพิมพ์ลวดลายโลโก้ของ “อนันตรา” ซึ่งหมายถึงน้ำใจและไมตรีของคนไทยอันไม่มีที่สิ้นสุด บรรจุลงในกล่องสีแดงเข้มดุจกำมะหยี่ ปั๊มลายดอกบัวหลวงสีทอง ดีไซน์หรูหรา เหมาะกับการเลือกนำไปเป็นของฝากสำหรับญาติผู้ใหญ่ ลูกค้าคนสำคัญ หรือมอบเป็นของขวัญให้กับแขกคนพิเศษ บรรจุ 4 ชิ้น 4 รสชาติ ได้แก่ ได้แก่ ทุเรียนหมอนทองไข่เดี่ยว พุทราจีนไข่เดี่ยว ชาเขียว และคัสตาร์ด โดยมีให้เลือกถึง 2 แพ็คเกจตามความชื่นชอบ กล่องขนมไหว้พระจันทร์ แบบลักชัวรี่กล่องหนังสีแดงเข้ม ภายในมีลิ้นชัก 4 ชั้น (ชิ้นละ 170 กรัม) ราคากล่องละ 1,600+ บาท กล่องขนมไหว้พระจันทร์ แบบพรีเมี่ยม กล่องทรงครึ่งวงกลม พร้อมสายริบบิ้นคล้องแขน เมื่อเปิดออกจะเป็นทรงพระจันทร์เต็มดวง บรรจุขนม 4 ชิ้น (ชิ้นละ 60 กรัม) ราคากล่องละ 950+ บาท หรือเลือกซื้อขนมไหว้พระจันทร์ ราคาชิ้นละ 118+ บาท ขนาด 60 กรัม และ ราคา 188+ บาท ขนาด 170 กรัม(ราคาไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สั่งจองขนมขนมไหว้พระจันทร์ล่วงหน้าก่อนวันที่ 25 สิงหาคม 2561 รับส่วนลด 15%(เฉพาะแบบกล่อง)…

Read More

ในครั้งนี้ Kinlakestars.com มีมื้ออาหารสุดว้าวไม่เหมือนใครมาให้ชมกัน เชฟจาก 80/20 BKK (Eighty Twenty Bangkok) จับมือกับเชฟจาก Haoma  ร่วมกันสร้างงานเลี้ยง อาหารค่ำมื้อสุดพิเศษไม่เหมือนใคร 2 คืน เพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารฟิวชั่นแบบ ไทย – ญี่ปุ่น – อินเดีย ซึ่งจะแปลก สร้างสรรค์ อร่อย ว้าวขนาดไหน ไปดูกันเลยครับ พ่อครัววัยหนุ่มสาวและสามสาวในกรุงเทพฯมารวมกันเพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบมหากาพย์ผสมผสานวัฒนธรรมที่แตกต่างกันสามอย่างในค่ำคืนสองคืนที่ร้าน Haoma ในวันที่ 7 และ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เชฟ Deepanker Khosla (DK) ชาวอินเดีย จาก Haoma กับเชฟ ณพล (Joe) ชาวไทย และ เชฟ ซากิ ชาวญี่ปุ่น จากร้าน 80 / 20bkk มาร่วมกันสร้างอาหารแบบการปรุงและวัตถุดิบดั้งเดิม ที่ผสมผสานรสชาติอาหาร ไทย, ญี่ปุ่น, อินเดียเข้าไว้ด้วยกันโดยใช้วัตถุดิบพื้นถิ่น และ จากฟาร์มในเมืองของ Haoma จานทุกจานที่เสิร์ฟมานั้น เป็นผลงานที่ไม่เหมือนใคร จากกลุ่มเชฟหนุ่มสาวไฟแรง ความคิดในการทำอาหารที่ออกแบบมาเพื่อสร้างการรับประทานอาหารที่ลืมไม่ลง นี่เป็นหนึ่งในชุด ‘Food Trinity’ ที่ได้ระเบิดขึ้นครั้งแรกในกรุงเทพฯ ซึ่งทำเอาทุกคนพกพาความประทับใจกลับไป HAOMA X 80/20 BKK จะสร้างอะไรออกมาบ้าง ไปดูกันเลยครับ Amuse Bouche เริ่มต้นกันด้วยอมูชบูชสุดว้าวที่เสิร์ฟมาในกล่องไม้ หากใครเคยสูบซิการ์ หรือ ที่บ้านเคยมีคนสูบซิการ์จึงดูคุ้นตา เพราะขนาดและรูปแบบกล่องนั้นเหมือนกล่องซิการ์ไม่มีผิด เมื่อเปิดออกมา จะพบกับอาหารสามอย่าง ให้เริ่มกินจากรสชาติ และ สัมผัสที่เบาไปหนัก ตามต่อไปนี้ เริ่มต้นกันด้วย ปานีปูรีโฟม ปานีปูรี หรือ พานีปูรี (Pani Puri) นั้นคืออาหารว่างเรียกน้ำย่อย ที่สามารถพบเห็นตามข้างทางทั่วไปในเมืองต่างๆของอินเดีย สมัยที่ผมไปเที่ยวที่อินเดียได้แต่มองแต่ไม่กล้าชิมจริงๆ เพราะที่ขายตามข้างทางดูไม่สะอาดเลย แต่น่าจะอร่อยแน่เพราะชาวบ้านต่อคิวซื้อกันยาวเหยียด…

Read More

ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ จตุจักร คาเฟ่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ชวนคุณมาลิ้มลองความอร่อย ที่ทั้งสด และสะอาดกับขบวนบุฟเฟ่ต์โฉมใหม่ “ลักซ์ชัวรี่ เลซี่ ลันช์” พาเหรดอาหารซีฟู้ด สุดอลังการ ที่ควงคู่มาพร้อมกับนานาเมนูอาหารจานเด็ดทั้งในแบบตะวันออกและตะวันตกกว่า 70 รายการ พร้อมเครื่องดื่มหลากหลายชนิดให้คุณได้เลือกสรรแบบไม่อั้นกว่า 6 ชั่วโมงเต็ม ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา12.00 – 18.00 น. จัดเต็มไปกับเมนูคุณภาพเยี่ยม อาทิ หอยนางรมสด ฟิน เดอ แคร์, ปูอลาสก้า,กุ้งเครย์ฟิช, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์,กุ้งแม่น้ำ, กั้ง, ซูชิ,ซาชิมิแซลมอน, ซาชิมิทูน่า,ข้าวผัดสเปนปาเอยาเสิร์ฟพร้อมซีฟู้ด ไก่ หมู ไส้กรอกสเปนโชริโซ, แกงกะหรี่ไก่ทิกก้ามาซาลาสไตล์อินเดีย,ต้มยำกุ้งแม่น้ำและซีฟู้ด, แกงเขียวหวานไก่, ทอดมันกุ้ง,ชีสนานาชนิด, ซุป,สลัด, พาสต้า,ขนมหวานไอศกรีมฯลฯ รวมถึง “คิดส์คอร์เนอร์” มุมสนุกที่จัดเตรียมไว้ต้อนรับคุณหนูๆไม่ว่าจะเป็นป๊อปคอร์น นักเก็ตไก่ เยลลี่ ขนมขบเคี้ยวต่างๆ ผลไม้ ของเล่น กิจกรรมระบายสี และอื่นๆ อีกมากมาย **สุขคูณสอง! ทุกท่านจะได้รับ ล็อบสเตอร์ครึ่งตัว และ ฟัวกราส์เลิศรสเพิ่มพิเศษอีกท่านละ 1 เซ็ท พิเศษ! รับส่วนลดทันที 25 %เฉพาะโปรโมชั่นลักซ์ชัวรี่ เลซี่ ลันช์ ตลอดเดือน กรกฎาคม – สิงหาคม 2561 (ไม่เกิน 8 ท่าน / 1ใบเสร็จ) โปรโมชั่น ลักซ์ชัวรี่ เลซี่ ลันช์ มื้อสุขสันต์วันเสาร์ ราคาท่านละ 2,000 บาท ++(รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้ง และ น้ำสมุนไพร ที่ไม่มีแอลกอฮอล์) ราคาท่านละ 3,000 บาท++( รวมเครื่องดื่ม สปาร์กลิ้งไวน์ ไวน์ขาว ไวน์แดง เบียร์…

Read More

ครั้งนี้ Kinlakestars จะมาแนะนำกิจกรรมพิเศษ“The Taste of Macao” ชวนอิ่มอร่อยกับ ต้นตำรับอาหารมาเก๊าพร้อมลุ้นบินลัดฟ้าเที่ยวมาเก๊าฟรี! ตลอดเดือนสิงหาคมนี้เท่านั้น! จัดโดย ฟู้ดลอฟท์ เซ็นทรัลชิดลมร่วมกับ การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย สายการบินแอร์มาเก๊า และ โรงแรมกาแลกซี่ มาเก๊า สำหรับเมนูจานพิเศษที่ยกมาเสิร์ฟให้ได้ลิ้มลองกันในครั้งนี้ได้เชฟมือโปร อรรถพล ปราโมช ณ อยุธยา จาก ดีน แอนด์ เดลูก้า มาร่วมรังสรรค์เมนูอาหารสไตล์แมกานีส (Macanese) ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอาหารโปรตุเกสและจีน คัดสรรเฉพาะซิกเนเจอร์สูตรต้นตำรับจากมาเก๊า ยกมาเสิร์ฟให้ได้ลิ้มลองเป็นครั้งแรกที่ฟู้ดลอฟท์   เริ่มที่เมนูแรก ไก่ย่างแอฟริกันหมักซอสถั่วเหลือง (Macanese African Chicken) สะโพกไก่หมักย่างสุกกำลังดี หมักด้วยซอสถั่วเหลืองสูตรเข้มข้น ราดด้วยซอสสูตรพิเศษใส่เนยถั่ว ผสมมะพร้าวคั่วและพริก เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ แม้สีจะดูเข้มๆไปนิดแต่รสแน่นเต็มปากเต็มคำ ต้องกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เข้ากันได้เป็นอย่างดี   ข้าวกุ้งผัดเครื่องเทศ เผ็ดมาก ถัดมาที่ เมนู แซนวิชไส้สันคอหมู (Macao Pork Bun) นำสันคอหมูหมักย่างจนหอมในขนมปังบาแกตต์ กรอบนอกนุ่มใน ตัดความเลี่ยนด้วยหอมใหญ่เคี่ยวคาราเมล เสิร์ฟพร้อมโคลสลอร์และแตงดอง รับประทานแล้วก็ติดใจไปตามๆ กัน   อีกหนึ่งเมนูเด็ดห้ามพลาด ต้องยกให้ เมนู ทาร์ตไข่สูตรดังต้นตำรับมาเก๊า (Macao Egg Tart) คัสตาร์ดหวานมันอบในแป้งกรอบชุ่มเนย บอกเลยว่ารสชาติอร่อยเหมือนกินอยู่ที่มาเก๊าเลยจริงๆ ปิดท้ายกันด้วยเมนูเครื่องดื่มสไตล์แมงกานีส ชานมเย็นสูตรต้นตำรับจากมาเก๊า (Coffee Jelly Milk) มาพร้อมเยลลี่กาแฟเพิ่มความเข้มข้นหอมมัน สดชื่น! พร้อมยกมาเสิร์ฟให้ได้ลิ้มลองความอร่อยกัน ตั้งแต่วันที่1 – 13 ส.ค. นี้เท่านั้น!   พิเศษ! ชวนลุ้นบินลัดฟ้าเที่ยวมาเก๊าฟรี!เพียงรับประทานอาหารที่ ฟู้ดลอฟท์ เซ็นทรัลชิดลมครบทุก 800 บาท ลุ้นรับตั๋วเครื่องบิน-ที่พัก จากสายการบิน Air Macau (แอร์มาเก๊า) และที่พัก 3 วัน 2 คืน จากโรงแรมหรูสุดอลังการ Galaxy Macau…

Read More

Man Ho ชื่อนี้ไม่มีคออาหารจีนรุ่นใหญ่คนไหนไม่รู้จัก แต่! อย่าพึ่งข้ามคอลัมน์นี้ไป เพราะแม้ Man Ho จะเก่าแก่ และอยู่มานานก็จริง ทว่าอาหารตอนนี้ของ Man Ho, JW Marriott นั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ภายใต้ฝีมือสะบัดตะหลิวของเชฟใหญ่ใหม่นามว่า Peter Li ผู้มากความสามารถ รักในโลกแห่งอาหาร สนุกกับการคิดสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ วันนี้ Kinlakestars.com จะพาทุกท่านมาเพลิดเพลินไปกับแนวคิด “ROYAL KITCHEN TO MAN HO” เรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างแท้จริงของ Executive Chef Peter Li การยกระดับประสบการณ์การทำอาหารจีนของ Man Ho ด้วยประสบการณ์การทำอาหารเกือบ 30 ปีในโรงแรมระดับ 5 ดาวและรีสอร์ทจากทั่วทุกมุมโลก ของเชฟใหม่อย่าง Peter Li นี้เชฟลี่เรียกได้ว่าเป็นบุคคลต้นแบบ ในทุกด้านการปรุงของอาหารจีนแนวใหม่ การทำอาหารกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเชฟลี่ ในช่วงเวลาว่างของเขาและระหว่างการท่องเที่ยวในวันหยุดเขาจะเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ เพื่อลองชิมอาหารท้องถิ่น และนั่นทำให้เขาได้ค้นพบส่วนผสมและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เขาสามารถนำมาสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆได้ ความหลงใหลในชีวิตและการทำงานของเขาเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายๆ แรงบันดาลใจในการทำอาหารของเขาออกมาน่าตื่นตะลึง เราเชื่อมั่นได้เลยว่าในการเดินทางที่เปิดตาและเพดานปากของเขา สำหรับ 20 ปีที่ผ่านมาทำให้ได้เดินทางไปยัง 14 ประเทศที่ต่างกันนี่ จะเป็นแรงบันดาลใจในมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาในการส่งมอบรสชาติจีนพร้อมกับแรงบันดาลใจ  ห้องอาหาร Man Ho นั้นมีบรรยากาศที่เคร่งขรึม ดูเป็นผู้ใหญ่ที่เหมือนผ่านชีวิตมาอย่างยาวนานแต่ดูอบอุ่นสง่างามประดุจผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมให้บริการและสร้างความประทับใจแก่แขกผู้มาเยือนด้วยประสบการณ์ที่สะสมมาอย่างยาวนาน ห้องอาหาร Man Ho นั้นมีทั้งพื้นที่ห้องส่วนตัวและส่วนนั่งกินทั่วไป รองรับทุกแนวความต้องการแก่แขกได้ทุกรูปแบบและกิจกรรม ไม่ว่าจะมากินข้าวทั่วไป สังสรรค์ หรือพูดคุยส่วนตัว การตกแต่งนั้นเป็นการตกแต่งแบบ Chinese Contemporary สำหรับเมนูที่จะมาแนะนำในวันนี้นั้น หลายเมนูเชฟจะมาปรุงให้ถึงโต๊ะ เพราะมีลูกเล่นที่น่าตื่นตา สนุกสนานจนแนะนำให้อัดวีดิโอไว้ดูเล่นกันเลยทีเดียวครับ เรามาเริ่มต้นเข้าสู่เมนูแรกกันเลยดีกว่า SQUID INK HAR GAO far Çao of course dates back to the spice road, so Marco…

Read More