โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) เชิญท่านมาลิ้มลองหอยนางรมนำเข้าระดับพรีเมี่ยม และจิบบลัดดี้แมร์รี่ค็อกเทล ชมวิวเมืองกรุงเทพฯ ยามเย็นขณะพระอาทิตย์กำลังตกดิน กับโปรโมชั่นหอยนางรมและบลัดดี้แมร์รี่ (Oysters & Bloody Mary) ให้บริการทุกวันพฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ เวลา 17.00 น. – 19.00 น. ตั้งแต่ วันที่ 7 เมษายน – 30 มิถุนายน 2559 ที่อัพแอนด์อะบัฟ บาร์ (Up & Above Bar) เชฟ แอนโทนี ชอลท์ไมเยอร์ (Antony Scholtmeyer) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Executive Chef ) คัดสรรหอยนางรมคุณภาพระดับพรีเมี่ยม นำเข้าจากหลากหลายประเทศ อาทิ ฟินเดอแคลร์ (Fin de Claire) จากประเทศฝรั่งเศส อีเกิล ร็อค (Eagle rock) จากประเทศสหรัฐอเมริกา และแปซิกฟิก (Pacific) จากประเทศออสเตรเลีย มาให้เลือกรับประทานตามชอบ กะเทาะเปลือกกันแบบสด ๆ ที่บริเวณอัพแอนด์อะบัฟ บาร์ ให้บริการพร้อมน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่มีให้เลือกถึง 6 ชนิด ได้แก่ ซอสพอนซึ (Ponzu) ซอสเปรี้ยวแบบญี่ปุ่น ซอสค็อกเทล (cocktail sauce) เป็นซอสมีส่วนผสมของมายองเนส บรั่นดีและซอสมะเขือเทศ มิกโนเนท (mignonette) ซอสรสเปรี้ยวแบบอิตตาเลี่ยนที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู ไวน์แดง และหอมแดง หากชอบน้ำจิ้มรสจัด เชฟก็ได้เตรียมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเผ็ดแบบไทย (Thai Spicy seafood) น้ำจิ้มส้มยูซุรสเผ็ด (spicy yuzu) หรือ วาซาบิขูดสด (Grated Wasabi) ไว้คอยให้บริการ หอยนางรม 4 ตัว พร้อมน้ำจิ้มราคาชุดละ 410 บาท ส่วนมุมบลัดดี้แมร์รี่ บาร์เทนเดอร์ของเราจะเตรียมส่วนประกอบต่าง ๆ ของบลัดดี้แมร์รี่ไว้ที่อัพแอนด์อะบัฟ บาร์ เพื่อให้คุณ ปรุงบลัดดี้แมร์รี่แก้วโปรดในแบบของคุณ หรือ จะสั่ง “แบล็กเมจิกวูเมน” (Black Magic Woman)…
Author: Kittin Assavavichai
อากาศร้อนๆยามบ่าย แดดแรงๆเช่นนี้ ย่อมทำให้อยากกินอะไรที่ทำให้รู้สึกเย็น สดชื่น และเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ใช่แล้ว “ข้าวแช่” เมนูอาหารไทยนี้แหละที่จะตอบโจทย์คุณ กลิ่นน้ำอบควันเทียนหอมๆ เครื่องเคียงรสชาติดี สมุนไพรอันเป็นเครื่องเคียงในชุดที่จะทำให้ร่างกายคุณนั้น สดชื่นจากภายในในวันนี้กินแหลกแจกดาวจะขอนำเสนอข้าวแช่ของห้องอาหาร Erawan Tea Room, Grand Hyatt Erawan Bangkokซึ่งนอกเหนือจากคุณภาพที่สูง ราคายังเป็นมิตรสมเหตุสมผลอีกด้วย เพราะขายเพียงชุดละ 280++ Erawan Tea Room เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นห้องอาหารที่เสิร์ฟอาหารไทยรสชาติดี ราคาไม่แพง และอีกหนึ่งเมนูที่ทางกินแหลกแจกดาวอยากนำเสนอนั้นคือ ข้าวแช่ชาววังที่ราคาเบาๆ รสชาติดี และนำเสนออกมาอย่างสวยงาม สำหรับสูตรข้าวแช่ชาววังที่ให้บริการ ณ ห้องอาหารแห่งนี้ เชฟหนึ่ง ซึ่งเป็นเชฟใหญ่แห่งห้องอาหาร Erawan Tea room ได้กล่าวว่าเป็นสูตรที่ตกทอดกันมาอย่างยาวนาน เป็นสูตรของวังร่วมฤดี ดังนั้นจึงสามารถมั่นใจในรสชาติได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว และวัตถุดิบที่ใช้ยังคงแนวคิดหลักของ Grand Hyattที่ต้องการให้เป็น Sustainable Seafood อย่างเช่น ปลาที่ใช้ก็ได้เปลี่ยนจากปลาดุก ปลาช่อนเป็นปลากะพงที่จับแบบธรรมชาติ และหาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ มิใช่ปลากะพงเลี้ยง เครื่องเคียงของข้าวแช่ที่นี่ตามตำรับข้าวแช่ชาววัง ซึ่งประกอบไปด้วย ลูกกะปิทอด ไชโป๊ผัดหวาน เนื้อฝอย/หมูฝอยหอมยัดไส้ พริกหยวกสอดไส้ และสมุนไพรต่างๆ เริ่มต้นกันด้วยข้าวและน้ำอบควันเทียน ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของข้าวแช่ สำหรับข้าวที่นี่จะใช้เป็นข้าวหอมมะลินำไปแช่น้ำค้างคืน พอเช้าแล้วจึงนำข้าวไปหุงให้สุกแค่ 60% จากนั้นจึงนำมาล้างในน้ำสะอาดเพื่อล้างยางข้าวออก จนกระทั่งเม็ดข้าวขาว ใส ถึงนำไปนึ่งอีกครั้ง และชั้นตอนสุดท้ายจึงนำข้าวไปอบควันเทียน ในส่วนของน้ำอบนั้น เป็นน้ำพร้อมดอกมะลินำไปอบควันเทียนข้ามคืน สำหรับที่นี่จะไม่นำกุหลาบไปอบรวมด้วย แต่จะนำกุหลาบมาลอยน้ำให้พอสวยงามเพราะเชฟไม่ต้องการให้มีกลิ่นที่ตีผสมกันมากจนเกินไป ลูกกะปิทอด นำกระชาย กะปิ หอมแดง ใบมะกรูด และเนื้อปลากะพงจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาบดให้ละเอียด และนำไปผัด ปั้นเป็นก้อนและชุบแป้งทอด รสชาติกำลังดีเหมาะสำหรับกินกับข้าวและน้ำอบควันเทียน กลิ่นกระชายหอมพอให้ได้กลิ่นและสดชื่นไชโป๊ผัดหวานของที่นี้ใช้ไชโป๊อย่างดีนำมาผัดกับน้ำตาลปี๊ปซึ่งเป็นน้ำตาลมะพร้าวอย่างดี จึงทำให้มีรสที่หวาน ไม่แหล และกลิ่นหอม เนื้อฝอย/หมูฝอย รสหวานนำมันตาม ไม่เหนียวจนเกินไป กินง่าย เคี้ยวง่าย …
วันนี้กินแหลกแจกดาวจะพาทุกท่านไปพบกับห้องอาหารไทยและหนึ่งในข้าวแช่ชาววังที่ไม่เหมือนใครในกรุงเทพฯและประเทศไทย ณ Saffron @ Banyan Tree Bangkok ” กินข้าวแช่ ชมพระอาทิตย์ตกดินไปกับทัศนียภาพเส้นขอบฟ้ากรุงเทพมหานครทั้งเมือง หนึ่งเดียวในประเทศไทย ช้าวแช่ชาววังครบเครื่องที่เสิรฟมาในเครื่องเชี่ยนหมากขันเงิน โดยเชฟเรณู และมีการเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบเพื่อความเหมาะสม กับการบริการและต้อนรับที่จะทำให้ทุกคนประทับใจและไม่รู้ลืม เริ่มตั้งแต่การล้างมือให้แขกทุกท่านด้วยน้ำสมุนไพรถึงโต๊ะ เช็ดมือ และดอกไม้ทัดหูสำหรับแขกผู้หญิงทุกคน” บรรยากาศตั้งแต่ออกมาจากลิฟท์ ทุกท่านจะเหมือนหลุดออกมาอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว ความเป็นไทยที่พบเห็นได้ตั้งแต่ประตูลิฟท์ และทางเข้าห้องอาหารที่ตกแต่งในรูปแบบไทยประยุกต์ ทั้งแสง สี และกลิ่น กับบรรยากาศที่ผ่อนคลายและให้ความเป็นไทย ก่อนเริ่มมื้ออาหารอันแสนจะน่าประทับใจและแสนวิเศษ จะเริ่มจากการล้างมือด้วยน้ำสมุนไพร จากพนักงาน ณ ที่โต๊ะอาหาร พร้อมการเช็ดมือ และหากเป็นแขกผู้หญิงก็จะมีช่อดอกไม้มาทัดหูให้ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการอันน่าประทับใจและเอกลักษณ์ความเป็นไทย ข้าวแช่ชาววังเครื่องครบ ซึ่งเสิรฟมาในภาชนะแปลกตา ชุดเชี่ยนหมากขันเงิน สำหรับเครื่องประกอบไปด้วย ลูกกะปิทอด หอมยัดไส้ ไข่ชุปแป้งทอด พริกหยวกสอดไส้ หมูเส้น/เนื้อส้น ไช้โป๊วผัดหวาน ปลายี่สนผัดหวาน เครื่องเคียงผต่างๆ และปลาแห้งแตงโม และในส่วนของข้าวและน้ำอบควันเทียน จะแยกกันมาให้ใส่เติมไปรวมกันในภายหลัง ข้าวและน้ำอบควันเทียนของที่นี้แยกข้าวไว้ในถ้วย ซึ่งมาพร้อมกับน้ำอบควันเทียนในขวดแก้ว สำหรับข้าวนั้นนำมาหุงขัดและแช่ได้ระดับความแข็งของข้าวแข็งกำลังดี ไม่แข็งจนเกินไปหรือนุ่มนิ่มจนเกินไป น้ำอบก็หอมกลิ่นมะลิและกุหลาบดีเพราะเชฟเรณูได้ปรับสูตรไม่ให้กลิ่นควันเทียนแรงจนเกินไป เพราะในบางครั้งลูกค้าต่างชาติจะตกใจกับกลิ่นควันเทียน จึงทำให้กลิ่นน้ำอบมีกลิ่นมะลิที่ชัดเจนขึ้น ความเย็นของน้ำก็เย็นกำลังดี ไม่ใช้น้ำแข็งตามตำหรับชาววัง กินแล้วนั้นหอมสดชื่น ไข่เค็มชุปแป้งทอด สำหรับไข่เค็มที่ที่ใช้ไข่เค็มไชยาอย่างดี และใช้แค่ไข่แดงทั้งนั้น และชุบแป้งทอด รสชาติ มันเค็มกำลังดี ไม่เค็มจนเกินไปและไม่จืดหรือเบาจนเกินไปเมื่อกินคู่กับข้าวแช่อบควันเทียน ปลายี่สนผัดหวาน สำหรับปลายี่สนที่นี้ใช้ปลาช่อนทุบและฉีก จากนั้นนำมาผัดกับน้ำตาล ปั้นเป็นก้อนและชุบไข่เล็กน้อย รสหวานำมันตาม สัมผัสหนึบหนุบ เมื่อกินกับข้าวแช่แล้ว รสกำลังดีลงตัว สำหรับลูกกะปิที่นี้เครื่องครบดี เชฟเรณูกล่าวว่าสำหรับลูกกะปิที่ใช้ปลาช่อนบด กระชาย ใบมะกรูด หอมแดง และกะปิอย่างดีมาบดรวมกันให้ละเอียด นำไปผัด ปั้นเป็นก้อนชุปแป้งและไข่เล็กน้อย จากนั้นก็นำไปทอด รสชาติกะปิจะนำเด่นสุดและมีสัมผัสเนื้อปลาบดชัดเจน แต่กลิ่นกระชายอาจจะเจือจางและเบาไปเล็กน้อย หอมยัดไส้ สำหรับไส้ที่นี้จะมาแปลกกว่าหลายที่เพราะไม่ใช้ปลาแต่ใช้เป็นไส้กุ้งแทน ทอดมาร้อนๆไม่อบน้ำมันแห้งกำลังดี หอมยังฉ่ำชุ่มและร้อนๆอยู่เลย ไส้กุ้งเองก็เช้นกัน สำหรับไส้กุ้งปรุงด้วย…
สำหรับข้าวแช่ที่นี้นั้นรังสรรค์ขึ้นโดยเชฟ เจษฏณรงค์ ทักษาปกรณ์ หัวหน้าพ่อครัว ประจำห้องอาหาร อัพแอนด์อะบัฟ เครื่องในชุดก็จะมีข้าวและน้ำอบควันเทียน ลูกกะปิทอด หอมทอดยัดไส้ เนื้อเส้น/หมูเส้น ไช้โป๊วผัด พริกหยวกสอดไส้ และ เครื่องเคียงอันได้แก่ หอม มะม่วง แครอตและแตงกวาที่แกะสลักออกมาเป็นลวดลายที่ปราณีต ชดช้อย ตามตำหรับไทย ข้าวและน้ำอบควันเทียน สำหรับข้าวกับน้ำอบควันเทียนที่นี้นั้น น้ำอบควันเทียนหอมควันเทียนและมะลิดี มีมะลิลอยอยู่ในน้ำอบ เย็นสดชื่น ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและกระปรี้กระเปร่า ส่วนตัวข้าวนั้นเม็ดข้าวของข้าวแช่ต้องแข็งกว่าข้าวทั่วไม่ไม่เหมือนข้าวสวย แต่สำหรับที่นี้ออกจะแข็งเกินไปหน่อย ควรจะแข็งน้อยลงอีกนิด ลูกกะปิทอด มีกลิ่นกระชายหอมทำให้พอสดชื่น รสชาติดีไม่เค็มหรือเบาจนเกินไป ใช้กะปิ ปลาดุก หอมแดง กระชาย ใบมะกรูด สับและบดรวมกัน ปั้นเป็นก้อนและชุปแป้งทอด หอมทอดยัดไส้ หอมแดงรสหวาน ยัดไส้ด้วยปลาช่อนบด และนำมาชุปแป้งทอนผิวนอก แป้งกรอบนิดๆกำลังดี ไส้ปลาข้องในรสหวานหนึบ หมูเส้น เนื้อเส้น ไช้โป้วหวาน รสชาติหวานในระดับที่พอเหมาะกับการกินข้าวแช่และน้ำอบควันเทียน พริกหยวกสอดไส้ ยัดไส้ด้วยหมูและกุ้งสับรวมกัน ปรุงด้วย เกลือ พริกไทย และรากผักชี เนื้อพริกนุ่มดี เอาเม็ดพริกออกจนหมด ห่อด้วยไข่แบบบหลุ่ม นิ่มเป็นแพ รสชาติกำลังดี เครื่องเคียง ประกอบไปด้วยต้นหอม มะม่วงดิบแกะสลัก แตงกว่าแกะสลัก และแครอตดิบแกะสลักในรูปใบไม้ สไตล์ไทยที่ยังคงความวิติรอันเป็นเอกลักษณ์อย่างไทย แต่ขาดกระชาไปซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องเคียงหลักของข้าวแช่ ห้องอาหาร อัพแอนด์อะบัฟ และห้องอาหาร ยามาซาโตะ อยู่ชั้น 24 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.okurabangkok.com สนใจสำรองที่นั่ง กรุณาติดต่อ 02 687 9000 By KinlakeStars.com ——————————————————————————————————————————————– AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA BB AA…
ฤดูใบไม้ผลิมาเยือนแล้ว อากาศอบอุ่น เย็นสบาย สายลมเย็นๆที่มาพร้อมกับความสดชื่น ดอกไม้ผลิบาน สีขาว ชมพู จากกลีบซากุระ สิ่งที่เติมเต็มและเป็นสัญลักษณ์การเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่น ใช่แล้วในวันนี้ กินแหลกแจกดาว Kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปพบกับชุดน้ำชา Sakura Afternoon Tea เซตน้ำชาชุดพิเศษกุ๊กกิ๊ก สไตล์ญี่ปุ่นต้อนรับเทศกาลดอกซากุระ ใช้โทนสีชมพูหวานๆของกลีบดอกซากุระเป็นแรงบันดาลใจและองค์ประกอบ ในเซตประกอบด้วยของหวานและของคาวหน้าตาน่ารับประทานมากมายหลากหลายชนิด อาทิเช่น โมจิ ช็อคโกแลต สโคน มาการอง แซนด์วิช เซตนี้มีถึง 31 มิถุนายนนี้เท่านั้น ราคาเซตละ 990++ บาท รวมเครื่องดื่มชาหรือกาแฟสำหรับ 2 ท่าน ของหวาน Sakura macaroons raspberry & yuzu มาการอง รูปลักษณ์หน้าตาภายนอกสีสันหวานแหวว น่ารับประทานเลยทีเดียวปริ้นท์ลายดอกซากุระด้านบน เนื้อแป้งด้านนอกกรอบ หนึบ นุ่ม สอดไส้ราสเบอร์รี่และส้ม Yuzu รสชาติออกหวานอมเปรี้ยวนิดๆ Sakura mochi strawberry and cheese filling โมจิสีชมพูอ่อนด้านบนใช้น้ำตาลทำเป็นรูปดอกซากุระ เนื้อแป้งเหนียว นุ่มกำลังดีสอดไส้สตรอเบอร์รี่เนื้อละเอียดรสค่อนข้างหวานแต่ถ้าทานคู่กับชาแล้วจะพอดี ไม่เลี่ยนและชั้นในสุดเป็นชีสสีขาวเนื้อเนียนละเอียดมีรสจืดๆ Sakura financier ขนมปังอบสีน้ำตาลคล้ายกับสโคนชิ้นเล็กแต่ด้านบนเป็นครีมสีชมพูขดเป็นเส้นละมีติดทองเล็กๆด้านบนสุดเพื่อความหรูหรา เนื้อขนมปังมีรสหวานนิดๆด้านในสอดไส้ราสเบอร์รี่ Sakura swiss roll เค้กแยมโรล สีชมพูสลับเหลือง ฟู นุ่ม เนื้อครีมสีขาวเนียนนุ่ม ละมุนลิ้น รสหวานกำลังดีครับ Sakura panna cotta พานาคอตต้า ขนมหวานสัญชาติอิตาเลียน เนื้อเนียน นิ่มสีขาว พร้อมเพิ่มกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นด้วยด้านบนเป็นเจลเหลวสีชมพูบางๆพร้อมดอก ซากุระดองซึ่งมีรสเค็มนิดๆ ทานด้วยกันกับพานาคอตต้าแล้วรสชาติหอม หวานเข้ากันดีครับ Sakura strawberry and yuzu chocolate pralines เป็น White Chocolate ทรงกลมเล็กๆพอดีคำ เคลือบสีชมพูด้านนอก ส่วนด้านในเป็นไส้ white chocolate กลิ่นสตรอเบอร์รี่และส้มเนื้อเหลวๆและมีเกล็ดสตรอเบอร์รี่เล็กๆเหมือนเม็ดทรายเปาะแป๊ะในปาก รสชาติค่อนข้างหวานสมเป็นช็อคโกแลต ทานคู่กับชาเพื่อลดความหวานได้ครับ Sakura scones เนื้อขนมปังแข็ง แน่น ไม่แตกง่าย ด้านบนมีติดดอกซากุระดองรสออกเค็มนิดๆ สามารถทานคุ่กับเนย แยมสตรอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่หรือแอพริคอต แล้วแต่ความชอบเลยครับ…
ตั้งแต่วันนี้ ถึง สิ้นเดือนพฤษภาคม เพลย์กราวด์ บาร์ ณ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี (สีลม)ชวนคุณมามุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกับสารพัดขนมหวานสุดเก๋เสิร์ฟความอร่อยในขวดแก้ว ทั้งรสชาติหน้าตาการันตีความหอมหวานกลมกล่อมจนยากจะปฏิเสธ อิ่มไปอร่อยไปพร้อมยิ้มแก้มปริกับหลากหลายเมนูขนมหวานในขวดแก้ว อาทิ แอปเปิ้ลครัมเบิ้ลเค้กกรุบกรอบรสเปรี้ยวอมหวาน สตรอเบอรี่ครัมเบิ้ลชีสเค้กหอมหวานมันทั้งสตรอเบอรี่และเนื้อชีสเค้กสุดเข้มข้นเข้ากันได้ดีลงตัวแบบสุดๆ เติมความหวานอีกนิดกับท๊อฟฟี่พุดดิ้งเหนียวหนึบสุดฟิน หรือ บานอฟฟี่พาย นอกจากนี้ยังมีเมนูเอาใจคนรักสุขภาพอย่างโฮมเมดกราโนลาโยเกิร์ตสดใหม่ และอีกเมนูสุดฮิตตลอดกาลอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งทุกเมนูเสิร์ฟความอร่อยในขวดแก้วสุดน่ารักขนมหวานในขวดแก้วราคาเริ่มต้นเพียงละ 95 บาทเน็ทต่อขวดเพลย์กราวด์ บาร์ ชั้น G ณ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ จี (สีลม) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06:00 – 18:00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2238 1991 อีเมล [email protected] หรือเข้าเว็บไซต์ www.pullmanbangkokhotelg.com Kin Promo&Event by KinlakeStars.com ——————————————————————————————————————————————— A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B…
พิเศษสำหรับคุณและครอบครัว ห้องอาหารอเทลิเย่ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิทขอมอบช่วงเวลาแห่งความสุขให้คุณและครอบครัวที่อยู่กรุงเทพฯในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้มาใช้เวลาร่วมกัน กับ “สงกรานต์ ซีฟู้ด บุฟเฟ่ต์” ราคาสุดพิเศษเพียง 999 บาทสุทธิต่อท่านให้บริการตั้งแต่วันอังคารที่ 12 ถึงวันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2559 นี้เท่านั้น “บาร์บีคิว ซีฟู้ด บุฟเฟ่ต์”ให้บริการตั้งแต่วันอังคารที่ 12 ถึงวันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน 2559 เวลา 18:00 – 22:30 น.ชูโรงด้วยเมนูซีฟู้ดสดใหม่ชวนรับประทาน อาทิ หมึกย่าง กุ้งลายเสือเผา หอยแครงเผาหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ เมนูอาหารจานปลามากมาย อาทิปลาจะละเม็ด ปลาทับทิม ปลากระพงแดงปลาแซลมอน ซูชิ สเตชั่นปูม้านึ่ง และหอยทอดรวมถึงมุมบาร์บีคิวแสนอร่อยหอมกรุ่นของเนื้อสัตว์ต่างๆ อาทิ เนื้อสเต๊กเซอร์ลอยน์หรือซี่โครงหมูเกรดเอและอื่นๆอีกมากมาย ตบท้ายด้วยมุมของหวาน อาทิ เค้ก พาย ผลไม้ขนมไทย ช็อกโกแลตฟองดู และไอศกรีมผัดเทปัน “บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์และซีฟู้ด”ให้บริการตั้งแต่วันศุกร์ที่ 15 ถึงวันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2559 เวลา 18:00 – 22:30 น.เต็มที่ไปกับความหวาน และสดใหม่ ของขาปูยักษ์อลาสก้าเนื้อแน่นๆ อร่อยเต็มคำและอาหารทะเลอื่นๆ อีกมากมายให้ท่านเพลิดเพลิน อาทิ หอยนางรมฟิน เดอ แคลร์หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กั้งกระดาน กุ้งลายเสือ ปลาแซลมอน ปลาหมึก ซูชิและซาชิมิไข่ปลาแซลมอนและไข่คาเวียร์ชั้นเยี่ยม ทานคู่กับน้ำจิ้มเข้มข้นรสเด็ดนอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารปิ้งย่างอาทิ เนื้อสเต๊กเซอร์ลอยน์ ซี่โครงแกะย่าง และสเต๊กปลาแซลมอนหรือเลือกอิ่มอร่อยกับพาสต้าปรุงสดใหม่ตามความชอบของท่านปิดท้ายด้วยของเมนูของหวานเพิ่มความฉ่ำใจด้วยไอศกรีมผัดเทปัน ช็อกโกแลตฟองดูเค้กนานาชนิด ขนมไทย และผลไม้สดมากมาย “สงกรานต์ ซีฟู้ด บุฟเฟ่ต์” ให้บริการตั้งแต่วันอังคารที่ 12 ถึงวันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2559ราคาพิเศษเพียง 999 บาทสุทธิต่อท่าน โดยสามารถเลือกเพิ่ม 100บาทเพื่อรับเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบบไม่อั้น หรือเพิ่ม 400++ บาท…
ตลอดเดือนเมษายนถึงมิถุนายนนี้ ที่ PH1 สยาม แอ็ท สยาม ดีไซน์ โฮเต็ล กรุงเทพเชิญดับร้อนกับอาหารไทยสุดฮ็อตจากสี่ภาค พ่อครัวปรุงรสต้นตำรับรสถึงเครื่องทุกจานอร่อยแบบสนุกตามสไตล์ของ PH1 ทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น มีให้เลือกด้วยกัน 6 อย่าง เชียงใหม่-แกงฮังเล,ภูเก็ต-หมกทะเล, อุดรธานี-อ่อมเนื้อ และน้ำตกคอหมูย่าง, กรุงเทพฯ-แกงเขียวหวานขากบ และผัดไทยในราคาที่ไม่จำกัดจำนวนคนทาน สั่ง 3 อย่างราคา 699 บาทสุทธิ, 4 อย่างราคา 899 บาทสุทธิ และอย่างราคา 1,199 บาทสุทธิ (ราคาเหล่านี้ไม่รวมข้าวสวย) หรือจะสั่งออร์เดิร์ฟแบบอีสานแท้กับจิ้งหรีดขอนแก่นทอดที่ละ 79 บาทสุทธิ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งโทรฯ 02 217 3000หรือ [email protected] KIn Promo&Event KinlakeStars.com ——————————————————————————————————————————————— A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A B A A B A…
ข้าวมันไก่เป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งมีต้นตำหรับมาจากประเทศจีน เข้าสู่อาเซียนมาทางสิงค์โปร์ โดยในวันนี้ กินแหลกแจกดาวจะขอแนะนำหนึ่งในร้านข้าวมันไก่รสชาติเด็ดดวง ย่านเชียงใหม่ “เกียรติโอชา” รสชาติเข้าเนื้อ เนื้อนุ่ม มัน หวาน เนื้อไม่แห้งแข็งเป็นเสี้ยน ผิวมัน สวย น่ากิน นั้นหละครับข้าวมันไก่เกียรติโอชา 41 – 43 ถนน อินทรวโรรส อำเภอเมือง เชียงใหม่ (อยู่ด้านหลัง อนุสาวรีย์สามกษัตริย์) เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 06.00-15.00 น. โทร: 053-327-262 – 3 สำหรับร้านนี้จะเป็นห้องแถวสองคูหา ที่มักจะมีลูกค้าร้านเข้าออกร้านตลอดเวลา บรรยกาศคึกคับตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเที่ยงๆ และในสิ่งที่ทำให้ผมทึ่งทุกครั้งที่ไปคือการบริการอันรวดเร็วจนบางครั้งถึงกับตะลึงว่าเขารู้ได้อย่างไร เพราะขณะที่ผมกำลังจะเอ่ยปากสั่งเขาก็ยกมาวางให้ผมถึงหน้าบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว และสำหรับเมนูที่เป็นไฮไลท์สุดๆของร้านนี้ที่ทางกินแลหกแจกดาวแนะนำว่าควรสั่งนั้นคือ “ไก่ต้ม” โดยไก่ที่นี่จะเป็นไก่ตอนและมีให้เลือกสั่งทั้งแบบ ข้าวมันไก่ ในราคาจานละ 40 บาท และเนื้อไก่สับเป็นจานทั้งขนาด เล็ก กลาง และใหญ่ ในราคาตั้งแต่ 40-150 บาท ส่วนของไก่ก็เลือกได้ไม่ว่าจะเป็น สะโพก หน้าอก น่อง และอีกจุดเด่นที่ทำให้ต่างไปจากหลายๆรั้านคือเครื่องในที่มีหลากหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นตับ ไส้ กึ๋น ซึ่งต้ม นึ่งได้ความสุกกำลังดี รสเด็ดโดนใจ และเลือด และน้ำจิ้มก็มี 2 แบบคือ ซีอิ๊วดำหวานและน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวปรุงรสเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมกับพริกขี้หนูและขิงสับ และสำหรับสายแข็งจัดหนักหรือผู้ประทับใจในความหวานมันหอมของข้าวมันหรือใครที่ยังไม่อิ่ม สามารถสั่งข้าวเพิ่ม ก็จานละ 10 บาท เรื่อง/ภาพ : Pol.Lt. Kittin A. ——————————————————————————————————————————————— A B A B A B A B A B A B A B A B A B A…
ข้าวแช่แต่แรกเริ่มเดิมเป็นอาหารของชาวมอญ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จประพาสเมืองเพชรก็ได้พบเห็นการขาย การบริโภค รับประทานข้าวแช่กัน จึงทรงโปรดให้มีการปรุงขึ้นมาในวัง แต่ข้าวแช่นั้น นับว่าเป็นอาหารวังอย่างเต็มตัวในช่วงยุคพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเดิมเครื่องข้าวแช่ของชาวมอญนั้นมีไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นของตากแห้งและนำมาผัดหวานให้เก็บได้นาน แต่เมื่อเข้าวังมา แน่นอนว่าอาหารวังต้องวิจิตรและมากมาย จัดเต็ม และใช้วัตถุดิบที่ทรงคุณค่าน่าทานยิ่งขึ้น และในยุคถัดๆมาก็มีการเพิ่มเครื่องเคียงต่างๆเข้าไปเรื่อยๆ สำหรับข้าวแช่ของ Smooth Curry เป็นข้าวแช่ชาววังที่ประยุกต์ ที่เพิ่มเติมเอาเครื่องเคียงใหม่ๆ และมีการดัดแปลงบางส่วน ตามสูตรและสไตล์ของเชฟจารีฟ สำหรับเครื่องเคียงที่นี้นั้นมีมากมายนั้นก็ได้แก่ ลูกกะปิทอด หมูเส้น/เนื้อเส้น หัวไช้โป๊วผัดหวาน ที่แล้วแต่ลูกค้าจะเลือก ปลายี่สนผัดหวาน และ พริกหยวกสอดใส้ ในส่วนของเครื่องที่มีการเพิ่มเติมหรือดัดแปลงจากสูตรชาววังดั้งเดิมก็ได้แก่ หอมแดงยัดไส้ซึ่งเปลี่ยนจากไส้ปลาดุกเป็นแซลมอนแทน หมูสับปลาเค็ม และไข่เค็มชุบแป้งทอด สำหรับข้าวอบควันเทียนที่นี่ก็จะหุงให้ข้าวแข็งเล็กน้อย เติมนำ้ที่อบจากควันเทียน มะลิ และกุหลาบที่ปลูกเองบนสวนชั้นที่ 4 ของโรงแรม ปลอดสารพิษและยาฆ่าแมลง อบจนกลิ่นออก หอมสดชื่นเมื่อได้กลิ่น และไม่ใช้น้ำแข็งแต่เป็นน้ำเย็น เพราะดั้งเดิมตามสูตรชาววังจะใช้น้ำฝน รองไว้ ใส่ตุ่มดินเผา ทำให้น้ำเย็น โรยด้วยกลีบกุหลาบทำให้ยิ่งสวยงามดูน่ากินยิ่งขึ้น ปลาแห้งแตงโม เป็นอีกของว่างยามอากาศอบอ้าว เมื่อเข้าฤดูร้อนของชาววังแต่โบราณ นี่จึงเป็นหนึ่งในของว่างซึ่งหาทานไม่ได้ง่ายๆ ความหวานสดชื่น จากแตงโมทำให้สดชื่น หวาน เย็น ตัดกันได้ดีกับปลาแห้งรสมัน เค็ม หอม สำหรับพริกหยวกสอดไส้ เชฟนำเม็ดพริกออกทั้งหมด เพื่อเผือแขกท่ีไม่ทานเผ็ด และยัดด้วยหมูและกุ้งสับรวมกัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล สอดยัดไส้ในพริกหยวก ห่อด้วยไข่ทอดที่ทำแบบนิ่มนุ่มเป็นแพ และตกแต่งด้วยดอกเข็มสวยงาม ในส่วนของไช้โป๊วที่นี้ เป็นไช้โป๊วอย่างดีที่นำมาผัดกับไข่เค็มทำให้ได้รสชาติที่หวานเค็มมัน และหอม ส่วนลูกกะปิ ผัดกับ กระชาย ตะไคร้ มะกรูด กระเทียม หอมแดง และนำไปชุบแป้งทอด รสหวานมันเค็มกำลังดี เนื้อเนียนละเอียด หมูเส้นและเนื้อเส้น สำหรับที่นี้เชฟกล่าวว่าใช้เนื้อเค็ม หมูเค็ม มายีและนำไปผัดกับหอมแดง น้ำตาลและเครื่องปรุงต่างๆ รสชาติลงตัวดีไม่เหนียวไป อีกเมนูเครื่องเคียงที่แปลกปากออกไป หอมแดงยัดไส้ปลาแซลมอน เชฟจารีฟได้ดัดแปลงจากเดิมที่ใช้ปลาดุกมาเป็นปลาแซลมอนก็เพราะลูกค้าที่เป็นชาวต่างประเทศบางคนไม่กล้ากินปลาดุก หรือปลาช่อน อาจเป็นเพราะเป็นปลาน้ำจืด หรือหน้าตาก็ตามแต่ เชฟจึงได้ดัดแปลงใช้เนื้อปลาแซลมอนแทน ซึ่งรสชาตินั้นก็จึงแปลกออกไป รสชาติเคล้ายกับแซลมอนผัดซาลาลี เครื่องเคียงอีกตัวที่เพิ่มเติมจากตำหรับเดิมคือ หมูเค็ม โดยนำหมูมาผัดกับปลาเค็มและกระเทียม ซึ่งรสจะออกเค็มกว่าหมูสับทั่วไป เพื่อให้รสออกมาพอดีเมื่อเวลากินกับข้าวอบควันเทียน ไข่แดงเค็มผสมไข่ขาวนำมาปั้นเป็นลูกเล็กๆ ยอดเป็นเม็ดทรงหยดน้ำ ชุบแป้งและนำไปทอด…