Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A
หากกำลังมองหามื้อค่ำที่ไม่เพียงแต่ “อิ่ม” แต่ยัง “ตราตรึง” ทุกประสาทสัมผัส — Dynasty Nights ที่ห้องอาหาร Savio โรงแรม Chatrium Grand Bangkok คือจุดหมายที่ต้องปักหมุดทุกคืนวันศุกร์ บุฟเฟ่ต์ธีมจีน–มองโกเลียสุดหรู ที่รวบรวมทั้งวัฒนธรรมการกินแบบจักรพรรดิและกลิ่นอายการเดินทางบนเส้นทางสายไหม มารวมกันไว้ในมื้อเดียว
ด้วยราคาเพียง 1,499 บาท พร้อมเครื่องดื่มฟรีโฟลว์ไม่อั้น แขกผู้มาเยือนจะได้สัมผัสตั้งแต่เป็ดย่างหนังกรอบ หมั่นโถวนุ่ม ไปจนถึงเมนูมองโกเลียสไตล์เร่าร้อนที่หาไม่ได้ง่ายในกรุงเทพฯ งานนี้จึงไม่ใช่แค่บุฟเฟ่ต์ แต่คือ “ค่ำคืนแห่งตำนาน” ที่เปิดประสบการณ์อาหารเอเชียในแบบที่ห้องอาหาร Savio เท่านั้นจะรังสรรค์ได้
สวัสดีครับท่านผู้ชื่นชอบการรับประทานอาหารเลิศรสทุกท่าน วันนี้พวกเรา ทีมงาน Kinandleisure ขอนำเสนอประสบการณ์ทางอาหารแบบจุใจในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ กับห้องอาหาร Savio แห่งโรงแรม Chatrium Grand Bangkok ซึ่งพร้อมนำเสนอแนวคิด East meets West ในรูปแบบที่ไม่ใช่เพียงการจับครัวนานาชาติมารวมกัน แต่เป็นการออกแบบไลน์บุฟเฟ่ต์ ที่มีไฮไลท์ของชาติต่าง ๆ มานำเสนอให้ทุกท่านในลิ้มลองอย่างเต็มรูปแบบในแต่ละวัน แต่ละเวลา ตั้งแต่ช่วงกลางวันจรดเเย็น ซึ่งพร้อมนำเสนอเมนูพิเศษของแต่ละวันอย่างจุใจและเปี่ยมคุณภาพ จากวัตถุดิบที่สด ครัวในรูปแบบเปิดให้เราได้เห็นรูปแบบการทำอาหารแบบจะ ๆ แบบ Live Cooking และเป็นสิ่งยืนยันว่าท่านจะได้รับประทานอาหารแบบสดใหม่จากเตา พร้อมสเตชันต่างๆ ที่พร้อมให้บริการอย่างเปี่ยมคุณภาพ ที่ท่านสามารถเพลิดเพลิน โดยรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นเราไปดูกันเลยครับ
Location
Savio ตั้งอยู่ที่ชั้น G ของ Chatrium Grand Bangkok (ซอยเพชรบุรี 30 ด้านหลังสยามพารากอน) ตัวห้องอาหารโดดเด่นด้วยเพดานสูง ประตูกระจกเต็มบาน และดีไซน์ไทยโมเดิร์น โปร่งโล่งแต่หรูหรา สะท้อนแสงไฟสีทองนวลตา โต๊ะหินอ่อนขัดเงาสีอ่อนตัดกับเก้าอี้บุผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้ม ทำให้บรรยากาศหรูแบบร่วมสมัย ภายในแบ่งเป็น โซน Live Cooking ที่เชฟปรุงอาหารกันสด ๆ ต่อหน้าแขก สร้างสีสันและกลิ่นหอมตลอดมื้อ โดยท่านสามารถเดินทางมาได้สะดวกโดยรถยนต์ (ช่วงนี้ทำถนนอาจจะประสบกับรถติดบ้าง)
นอกจากเมนูพิเศษในแต่ละวันแล้ว ไลน์บุฟเฟ่ยังมี Seafood on ice อาทิ กุ้งลายเสือ หอยนางรม Fine de Claire ปูทะเล และโซนเตาย่าง ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูย่างต่าง ๆ ที่จะสร้างสีสันให้กับมื้ออาหารของท่าน มุมญี่ปุ่น ที่เชฟแล่แซลมอน โอโทโร และปลาดิบหลากชนิดให้ดูจะๆ พร้อมปั้นซูชิคำโตเสิร์ฟ ซึ่งเป็นไลน์ที่มักตกเป็นไฮไลต์ของแขกต่างชาติและคนไทยสายปลาดิบ ตลอดจนโซนของหวานอันหลากหลายให้ท่านได้เลือกชิม ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม เค้ก ผลไม้ ตลอดจนของหวานพิเศษต่างๆ ในแต่ละวัน
โดยสำหรับวันที่พวกเรา ทีมงาน Kinandleisure ได้มีโอกาสเข้าไปรับประทาน เป็นรอบของ Dynasty Nights ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจสุด ๆ ด้วยบูธอาหารสไตล์มองโกลและจีน ที่สร้างความแตกต่างด้วยคุณภาพของวัตถุดิบและศิลปะการใช้ไฟ ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นเราไปดูกันเลยครับ
Mongolian Night
ในค่ำคืน “Dynasty Nights” ของ Savio หากอาหารจีนคือพระเอก นี้คงเป็นม้าชั้นเลิศของพระเอก ตำแหน่งม้าคู่กายพระเอกนั้นต้องยกให้ “บูธมองโกเลีย” ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องอาหาร ชวนให้ทุกคนหยุดมองตั้งแต่แรกเห็น — โต๊ะบรรจงวางวัตถุดิบสดใหม่ราวกับยกตลาดเช้าในเอเชียกลางมาไว้ตรงหน้า
เนื้อวัวสไลซ์สีแดงเข้มตัดกับเส้นไขมันลายหินอ่อนดูฉ่ำวาว, สันคอหมูติดมันชั้นบางละมุน, เนื้อไก่แล่ชิ้นหนากำลังพอดี และปลาชิ้นขาวสะอาดตา วางเรียงเคียงคู่กับกุ้งทะเลเปลือกใสเป็นมันเงา ราวกับเพิ่งยกขึ้นจากอวน
ถัดออกมาเป็นโซนอาหารทะเลที่ชวนตื่นตา หอยลายเรียงแน่นกับปลาหมึกตัวอวบเนื้อขาว ขึ้นสูงเด่นบนภูเขาน้ำแข็งเจิดจ้า สะท้อนแสงไฟอย่างน่าลิ้มลอง
ด้านหน้าเป็นชามซอสเรียงรายถึงเจ็ดชนิด — ไฮไลต์อยู่ที่ ซอสสไตล์มองโกเลีย ที่เข้มข้นและหอมเครื่องเทศ ใช้เบสซอสถั่วผสมพริก กระเทียม และสมุนไพรกลิ่นฉุนอ่อน ๆ ให้รสกลมกล่อมแต่ยังมีแรงขับแบบ rustic เหมือนอาหารนักรบบนทุ่งหญ้าอันหนาวเย็น เมื่อนำไปคลุกเคล้าเนื้อย่างบนแผ่นเหล็กร้อน
กลิ่นซอสจะหอมฟุ้งขึ้นทันที รสชาติออกเค็มหวานสมดุล แฝงความเผ็ดปลายลิ้น ทำให้เนื้อและผักที่ปรุงออกมามีบุคลิกเฉพาะตัว แตกต่างจากซอสจีนที่เน้นความละเมียดละไม หรือซอสหม่าล่าที่มาในแนวร้อนแรงเผ็ดซ่าน
นอกจากนั้นยังมีซอสหม่าล่าไฟแรง, ซอสพริกไทยดำกลมกล่อม, ซอสกระเทียมหอมเข้ม, และซอสหวานถั่วเหลืองนุ่มนวล ให้แขกเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ตามใจ กลายเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนออกแบบรสชาติได้เองเหมือนเชฟ
กองผักสดข้างกันก็ดึงดูดไม่แพ้กัน ทั้งเห็ดชิเมจิและเห็ดเข็มทองกรุบกรอบ, ถั่วหวานอวบเขียว, พริกหวานเส้นบางสีสด และต้นคะน้าอ่อนหั่นท่อนที่เพิ่มสีเขียวชอุ่มให้จาน
เมื่อเลือกโปรตีน ผัก และซอสได้ถูกใจ เชฟจึงลงมือปรุงต่อหน้า ตวัดตะหลิวเหล็กกระทบแผ่นเหล็กร้อนจัด เสียง “ฉ่า!” ดังลั่นขึ้นพร้อมละอองควันบาง ๆ ที่โอบด้วยกลิ่นเนื้อย่างและเครื่องเทศโชยกรุ่น ชั่วเวลาเพียงไม่กี่นาที เนื้อและผักถูกผัดจนเคลือบซอสเป็นมันเงา ก่อนเชฟจะยกตักลงจานอย่างสง่างาม
รสชาติในแต่ละคำคือบทสนทนาระหว่าง “ความสด” และ “ความเข้มข้น” — เนื้อนุ่มแทรกมันละมุน ตัดกับผักกรอบหวานที่ยังคงโครงสร้างสมบูรณ์ในปาก และเมื่อจับคู่กับซอสสไตล์มองโกเลีย รสชาติจะยิ่งเข้มถึงใจ มีกลิ่นเครื่องเทศที่ทิ้งท้ายด้วยโทนรมควันอ่อน ๆ ให้ความรู้สึกโอบล้อมและอบอุ่นในคราวเดียว
นี่คือบูธที่ไม่เพียงทำหน้าที่ “ให้ความอร่อย” แต่ยังสร้าง “ประสบการณ์” ที่อยากให้กลับมาซ้ำ — เพราะทุกครั้งที่คุณเลือกซอสหรือวัตถุดิบต่างกัน ก็คือการสร้างรสชาติใหม่ที่ไม่ซ้ำเดิม เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ Dynasty Nights แตกต่างจากบุฟเฟ่ต์ทั่วไป และยกระดับให้ค่ำคืนวันศุกร์กลายเป็นคืนแห่งตำนานจริง ๆ
Chinese Foods
นอกจากโซนอาหารมองโกลที่ทำให้น้ำลายสอแล้ว ในค่ำคืนนี้ยังมีความพิเศษอยู่อีกหนึ่งอย่าง คือโซนอาหารจีน ซึ่งมีทั้งโซนหมูหัน เป็ดปักกิ่ง อาหารจีนแบบต่างๆ ที่เชฟบรรจงลงกระทะให้เราดูแบบจะๆ รวมซึ่งโซนอาหารติ่มซ้ำที่ใส่ไส้แน่นๆ ซึ่งอาหารทุกจาน สิ่งของทุกอย่างล้วนผ่านการออกแบบและคัดสรรมาอย่างดี ด้วยพร้อมฝีมือเชฟอันประณีตพิถีพิถัน ทำให้
สเตชั่นอาหารจีนจัดเป็นหนึ่งในส่วนยอดฮิตของบุฟเฟ่ต์แห่งนี้ โดยขออนุญาตยกตัวอย่างเมนูบางส่วนมานำเสนอครับ
เป็ดปักกิ่ง
เมนูยอดฮิตแห่งแดนมังกร ใน Dynasty Nights คงหนีไม่พ้น “เป็ดหนังกรอบ” ที่ถูกจัดเสิร์ฟด้วยลีลาสมกับเป็นไฮไลต์ เชฟนำแผ่นแป้งบางอุ่น ๆ จากตะกร้านึ่งมาวางบนกระดานหินอ่อน เสมือนเป็นผืนผ้าใบ ก่อนวางหนังเป็ดกรอบสีอำพันที่แล่ด้วยความประณีต ลวดลายมันเงาสะท้อนไฟราวอัญมณี จากนั้นเติมความสดชื่นด้วยแตงกวา ต้นหอม และพริกหวานหั่นแท่งเรียงตัวอย่างประณีต แล้วบีบซอสหอยนางรมเข้มข้นเป็นเส้นยาวบาง ๆ ปิดท้ายด้วยการม้วนเก็บทุกอย่างให้พอดีคำ
สัมผัสแรกที่กัดลงไปคือเสียง “กรอบแตก” ของหนังเป็ดที่ทำเอาความเงียบในใจแทบหยุดลงชั่วขณะ ตามด้วยชั้นไขมันบาง ๆ ใต้หนังที่หวานมันละลายบนลิ้น กลมกล่อมไปกับซอสที่หอมลึก ขณะที่ผักสดกรอบช่วยตัดรสและคืนความสดชื่นในคำเดียว — ความสมดุลของรสชาติและสัมผัสเช่นนี้ จึงทำให้เป็ดหนังกรอบกลายเป็นเมนูที่ไม่เพียงโดดเด่น แต่ยังตราตรึงในความทรงจำของแขกผู้มาเยือน
หมูหัน
อีกหนึ่งจานไฮไลต์ที่ไม่อาจพลาดคือ “หมูหัน” ที่มาในโฉมหนังสีน้ำตาลทองแวววาว ราวกับผ่านการชโลมแสงแดดอุ่น ๆ ก่อนนำเข้าเตาอบ หนังกรอบบางแนบสนิทไปกับชั้นไขมันบางเฉียบที่แทบจะละลายในปาก เมื่อเชฟแล่ออกมาเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำแล้วจัดเรียงอย่างพิถีพิถันบนจานหรู ความเงางามของหนังตัดกับเนื้อหมูสีชมพูอ่อนด้านในยิ่งชวนลิ้มลอง
เมื่อกัดคำแรก เสียง “กร๊อบ” เบา ๆ ของหนังกรอบดังขึ้น ตามด้วยรสเค็มนวลและกลิ่นหอมรมควันอ่อน ๆ จากเตาขับเน้นด้วยซอสรสกลมกล่อมที่เสิร์ฟเคียงกันอย่างลงตัว ทำให้ทุกคำมีทั้งมิติของสัมผัสและรสชาติที่สมบูรณ์แบบ จานนี้คือความพิถีพิถันแบบคลาสสิกที่ทำให้หมูหันยังครองตำแหน่งเมนูขวัญใจบนโต๊ะจีนได้อย่างสง่างาม
ฮะเก๋ากุ้งล็อบสเตอร์
เมนูนี้คือการยกระดับฮะเก๋าธรรมดาให้กลายเป็นอาหารจานพิเศษที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน ตัวฮะเก๋ากุ้งล็อบสเตอร์ที่เห็นในภาพนั้นดูโดดเด่นสะดุดตาด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าปกติ แป้งห่อ ที่บางใสจนมองเห็นสีชมพูระเรื่อของเนื้อกุ้งด้านในเป็นเครื่องยืนยันถึงความชำนาญของเชฟ แป้งแบบนี้ต้องอาศัยเทคนิคชั้นสูงในการนวดและรีดให้ได้ความบางที่พอดี ไม่ขาดง่าย และเมื่อนึ่งแล้วยังคงความนุ่มเหนียว ไม่เละหรือกระด้าง
ส่วน ไส้ นั้นเป็นหัวใจสำคัญของจานนี้ คำว่า “กุ้งล็อบสเตอร์เนื้อเด้ง” บ่งบอกถึงคุณภาพวัตถุดิบชั้นเลิศและความสดใหม่ที่ถูกปรุงอย่างพิถีพิถัน เนื้อกุ้งล็อบสเตอร์นั้นมีรสหวานในตัวตามธรรมชาติและมีสัมผัสที่แน่นเด้ง เมื่อนำมาทำเป็นไส้ฮะเก๋าจะให้รสสัมผัสที่แตกต่างจากกุ้งทั่วไป
สิ่งที่น่าสนใจและแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ของเชฟคือการเสิร์ฟพร้อม หยดน้ำจิ้ม XO ที่บรรจุในหลอดพลาสติกขนาดเล็ก น้ำจิ้ม XO เป็นซอสที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่ซับซ้อนและเข้มข้น ทำจากหอยเชลล์แห้ง, กุ้งแห้ง, พริก, กระเทียม และวัตถุดิบอื่น ๆ การเสิร์ฟในลักษณะนี้ทำให้ลูกค้าสามารถหยอดน้ำจิ้มได้ตามใจชอบ เป็นการเพิ่มมิติของรสชาติ โดยที่ไม่ไปกลบรสหวานตามธรรมชาติของเนื้อล็อบสเตอร์
โดยรวมแล้ว ฮะเก๋ากุ้งล็อบสเตอร์จานนี้ไม่ใช่แค่ติ่มซำ แต่เป็นงานศิลปะที่ผสมผสานความประณีตแบบจีนดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัยของการนำเสนอได้อย่างลงตัว เป็นจานที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งคุณภาพวัตถุดิบชั้นเยี่ยม เทคนิคการปรุงที่ยอดเยี่ยม และการนำเสนอที่สร้างสรรค์ ซึ่งทำให้ประสบการณ์การรับประทานอาหารน่าจดจำยิ่งขึ้น
โรลเส้นก๋วยเตี๋ยวทอดไส้กุ้ง
เมนูนี้คือการผสมผสานสองสิ่งที่ตรงข้ามกันได้อย่างลงตัว นั่นคือ ความกรอบ และ ความนุ่มนวล ปกติแล้วเส้นก๋วยเตี๋ยวจะเป็นองค์ประกอบหลักในอาหารประเภทต้มหรือผัด แต่เมนูนี้ได้พลิกโฉมนำเส้นก๋วยเตี๋ยวมาทำหน้าที่เป็นเปลือกห่อที่เมื่อทอดแล้วจะให้ผิวสัมผัสภายนอกที่กรอบเป็นพิเศษ แต่ยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวลภายในที่ชุ่มฉ่ำด้วยซอส
ตัวไส้กุ้ง ที่อยู่ด้านในนั้นคือหัวใจหลักของจานนี้ คำว่า “ไส้แน่น เส้นเด้ง” บ่งบอกถึงคุณภาพของเนื้อกุ้งที่สดใหม่และถูกปรุงอย่างพิถีพิถัน เมื่อกัดเข้าไปจะได้สัมผัสกับความเด้งของเนื้อกุ้งที่อัดแน่นเต็มคำ ตัดกับความกรอบของเส้นก๋วยเตี๋ยวทอดได้อย่างลงตัว
สิ่งที่ทำให้เมนูนี้พิเศษกว่าการทอดทั่วไปคือ เทคนิคการทอด ที่ต้องใช้ความชำนาญสูง เพื่อให้ได้ความกรอบที่พอเหมาะ ไม่แข็งกระด้างหรืออมน้ำมัน และยังสามารถรักษาความนุ่มชุ่มฉ่ำของไส้และซอสไว้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เชฟต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมาก
โดยรวมแล้ว โรลเส้นก๋วยเตี๋ยวทอดไส้กุ้งจานนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของความสร้างสรรค์ในวงการอาหารจีน เป็นการเล่นกับเท็กซ์เจอร์ (Texture) หรือสัมผัสในปากได้อย่างน่าสนใจ ทำให้การทานแต่ละคำไม่น่าเบื่อและสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ที่ได้ลิ้มลอง
ขนมจีบหน้าไข่กุ้ง
ขนมจีบเป็นเมนูคลาสสิกของติ่มซำ แต่จานนี้ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเพิ่มไข่กุ้งสีส้มสดใสเป็นท็อปปิ้ง ซึ่งไม่เพียงแค่เพิ่มสีสันให้น่ารับประทาน แต่ยังช่วยเสริมรสชาติและสัมผัสกรุบๆ เมื่อกัดเข้าไป ตัวไส้ขนมจีบเนื้อแน่น ห่อด้วยแป้งสีเขียวจากผักที่ถูกนึ่งจนนุ่ม ได้รสชาติที่กลมกล่อมและลงตัว
ฮะเก๋าสีแดงไส้กุ้ง
ป็นฮะเก๋าที่โดดเด่นสะดุดตาด้วยสีแดงสดใสของแป้งห่อ ซึ่งอาจจะมาจากส่วนผสมของน้ำบีทรูทหรือสีจากธรรมชาติอื่นๆ ฮะเก๋าไส้กุ้งจานนี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียด แป้งบางใสจนมองเห็นเนื้อกุ้งที่อวบอ้วนด้านใน ไส้กุ้งมีความเด้งและรสชาติหวานตามธรรมชาติ เมื่อนึ่งออกมาแล้วยังคงความชุ่มฉ่ำ
ก้ามปูทอดไส้กุ้ง
เมนูนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเปลี่ยนจากติ่มซำนึ่งมาเป็นเมนูทอด ก้ามปูปลอมที่ทำจากเนื้อกุ้งบดปรุงรส แล้วนำไปชุบเกล็ดขนมปังและทอดจนเหลืองกรอบน่าทาน จานนี้ให้สัมผัสที่แตกต่างจากเมนูอื่นๆ คือความกรอบนอกนุ่มใน และรสชาติที่เข้มข้นขึ้นเล็กน้อยเมื่อนำไปทอด
ขนมจีบหมึกดำหน้าหอยเชลล์และเห็ดทรัฟเฟิล
จานนี้คือการผสมผสานความหรูหราเข้ากับความคลาสสิกของติ่มซำ แป้งสีดำสนิททำจากหมึกดำห่อไส้หมูและกุ้งที่แน่นเด้ง ท็อปด้วยหอยเชลล์ชิ้นใหญ่ที่นำไปย่างจนหอม และโรยด้วยเห็ดทรัฟเฟิลสับละเอียด (หรือซอสเห็ดทรัฟเฟิล) เป็นการยกระดับรสชาติให้มีความซับซ้อนและมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ซาลาเปาอบไส้หมูแดง
นี่คือซาลาเปาอบไส้หมูแดงแบบฮ่องกงยอดนิยม ตัวซาลาเปามีเปลือกนอกที่อบจนกรอบและมีรสหวานบางๆ คล้ายคุกกี้ ส่วนไส้หมูแดงด้านในยังคงมีความนุ่มชุ่มฉ่ำและรสชาติเข้มข้น เมื่อกัดเข้าไปแล้วจะได้ความกรอบจากเปลือกและความนุ่มจากไส้ เป็นการสร้างสมดุลของรสสัมผัสที่ลงตัวอย่างน่าประทับใจ
เผือกทอดไส้หงส์
เป็นเมนูที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์และรสชาติ ตัวเมนูทำจากเผือกบดนำไปปั้นแล้วทอดจนมีลักษณะเป็นเส้นๆ ดูคล้ายกับขนนก แล้วนำมาจัดวางบนจานให้มีลักษณะคล้ายหงส์ แต่ละชิ้นมีไส้อยู่ด้านในและมีความกรอบนอกนุ่มใน เมื่อรับประทานจะได้ความหอมหวานของเผือกผสมกับรสชาติของไส้ เป็นเมนูที่งดงามและอร่อยไปพร้อมๆ กัน
เกี๊ยวทอด
เกี๊ยวทอดจานนี้ดูน่ารับประทานมากด้วยสีเหลืองทองและรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์บ่งบอกถึงเทคนิคการทอดที่เชี่ยวชาญ ทำให้เกี๊ยวกรอบได้รูปไม่อมน้ำมัน ไส้ด้านในเป็นกุ้งหรือหมูปรุงรสที่แน่น เมื่อทานจะได้ความกรอบจากแป้งและรสชาติที่ลงตัวของไส้
หมูกรอบฮ่องกง
หมูสามชั้นหนังพองกรอบชั้นไขมันละลาย เค็มนิดหวานหน่อย เสิร์ฟกับมัสตาร์ดจีนและซอสหลากชนิดให้เลือกสรร
ซาลาเปาไส้หมูสับ
ซาลาเปาแบบนี้คือซาลาเปาที่หาทานได้ทั่วไปแต่ก็เป็นเมนูหลักที่ต้องมี เนื้อแป้งซาลาเปานึ่งจนฟู นุ่ม และมีสีขาวเนียน ไส้หมูสับ ที่ปรุงรสมาอย่างดีทำให้มีรสชาติที่กลมกล่อมและชุ่มฉ่ำ เมื่อกัดเข้าไปจะได้ความนุ่มของแป้งที่เข้ากันได้ดีกับไส้หมูที่อัดแน่น เป็นเมนูที่อร่อยได้ทุกเมื่อ
ซาลาเปาไส้ครีม
ซาลาเปาไส้ครีมหรือซาลาเปาไส้ลาวาเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ตัวซาลาเปามีความกลมเกลี้ยงและนุ่มฟู ไส้ครีม ที่อยู่ด้านในนั้นมีรสหวานละมุนละไมและมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มจนเป็นของเหลวคล้ายลาวาเมื่อซาลาเปายังร้อนอยู่ การมีจุดสีส้มเล็กๆ บนยอดเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงไส้ภายใน
ข้าวเหนียวทอดไส้หมู
เป็นเมนูที่คนไทยอาจจะคุ้นเคยในชื่อ “ขนมผักกาด” หรือ “หัวไชเท้าทอด” แต่จริงๆ แล้วเมนูนี้ทำจากแป้งข้าวเจ้าและหัวไชเท้าที่ขูดฝอยแล้วนำไปนึ่งก่อนจะนำมาตัดเป็นชิ้นๆ และทอดจนผิวภายนอกเหลืองกรอบและมีรอยไหม้เล็กน้อยจากความร้อน ไส้ด้านในยังคงความนุ่มและรสชาติเค็มๆ หวานๆ ของหัวไชเท้าและหมูสับ เป็นเมนูที่มีกลิ่นหอมและรสสัมผัสที่แตกต่างกันในคำเดียว
ซี่โครงหมูนึ่งเต้าซี่
เมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมในร้านติ่มซำ ซี่โครงหมูชิ้นเล็กๆ นำไปนึ่งกับ เต้าซี่ (เต้าหู้ยี้ดำหมัก) และพริก เต้าซี่จะให้รสเค็มและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อนึ่งแล้วซี่โครงหมูจะมีความนุ่มเปื่อยนุ่มและซอสจะซึมเข้าเนื้อ ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นถึงใจ
ผักน้ำมันหอยกับเป๋าฮื้อเจี๋ยน: ความเรียบง่ายที่ซ่อนความหรูหรา
เมนูนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของอาหารจีนที่ใช้ความเรียบง่ายมาสร้างความประทับใจ “ผักน้ำมันหอย” ที่เห็นในภาพนั้นดูน่าทานมาก สีเขียวสดของผักยืนยันถึงความสดใหม่และคุณภาพของวัตถุดิบ การผัดผักด้วยไฟที่แรงพอเหมาะทำให้ผักยังคงความกรอบและสีสันที่สวยงาม ไม่นิ่มเละหรือคล้ำ ซึ่งเป็นเทคนิคที่เชฟจีนต้องใช้ความชำนาญสูง
สิ่งที่ทำให้เมนูนี้พิเศษขึ้นไปอีกขั้นคือการใช้ “เป๋าฮื้อเจี๋ยนบาง” มาเป็นส่วนประกอบหลัก เป๋าฮื้อที่ถูกหั่นเป็นแผ่นบางๆ และนำไปเจี๋ยน (ทอดในน้ำมันเล็กน้อย) จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสสัมผัสที่แตกต่างจากเป๋าฮื้อนึ่งทั่วไป นอกจากนี้ยังได้รสชาติที่หวานและเค็มจากซอสน้ำมันหอยที่ซึมเข้าเนื้อผักและเป๋าฮื้อ ทำให้ทุกคำที่ทานเต็มไปด้วยรสชาติที่กลมกล่อมและมีมิติที่ซับซ้อนมากขึ้น
โดยรวมแล้ว เมนูนี้ไม่ใช่แค่ผัดผักทั่วไป แต่เป็นอาหารที่สะท้อนถึงความใส่ใจในคุณภาพของวัตถุดิบและความประณีตในการปรุง เปรียบเสมือนการนำเอาวัตถุดิบหรูหราอย่างเป๋าฮื้อมาผสานกับความธรรมดาอย่างผักได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นอาหารจานเดียวที่ครบครันทั้งรสชาติ สัมผัส และการนำเสนอ
ไก่แช่เหล้า
เมนูนี้เป็นอาหารจีนที่เน้นความพิถีพิถันและรสชาติดั้งเดิม เนื้อไก่ ที่ถูกนำไปต้มหรือนึ่งจนสุกและนุ่มพอดี จากนั้นนำไปแช่ในน้ำปรุงรสที่มีส่วนผสมของเหล้าจีนและเครื่องเทศอื่นๆ ทำให้เนื้อไก่มีกลิ่นหอมและรสชาติที่ซึมซับอย่างลึกซึ้ง จุดเด่น ของเมนูนี้คือการเสิร์ฟแบบเย็น ทำให้เนื้อไก่มีความแน่นและรสสัมผัสที่พิเศษยิ่งขึ้น และการเสิร์ฟพร้อมซอสขิงสับและพริกแดงก็เป็นคู่หูที่ลงตัว ช่วยเสริมรสชาติให้จัดจ้านขึ้น
ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกเกลือ
เป็นเมนูที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี ปูนิ่ม ที่ทั้งตัวสามารถรับประทานได้ นำไปชุบแป้งบางๆ แล้วทอดจน กรอบนอกนุ่มใน จากนั้นนำไปผัดคลุกเคล้ากับพริกเกลือและกระเทียมเจียว ทำให้ได้รสชาติที่จัดจ้าน มีกลิ่นหอมของกระเทียมและรสเค็มที่กลมกล่อม เป็นเมนูที่ทานง่ายและอร่อยสำหรับทุกคน
ยำไข่เยี่ยวม้าและเห็ดเข็มทอง
เมนูนี้เป็นสลัดหรือยำแบบจีนที่เน้นรสชาติที่สดชื่นและซับซ้อน ไข่เยี่ยวม้า ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบ นำมายำกับ เห็ดเข็มทอง ที่มีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบและดูดซับรสชาติของน้ำยำได้อย่างดีเยี่ยม การตกแต่งด้วยมะนาวฝานเป็นวงและมะเขือเทศเชอร์รี่ทำให้จานนี้มีสีสันที่น่ารับประทานมาก เป็นเมนูที่ให้รสชาติที่สดชื่นและดีต่อสุขภาพ
Shrimp Fruit Salad
กุ้งลวกหวานเด้งคลุกสลัดผลไม้หั่นเต๋าหลากสีในครีมมายองเนสเบา ๆ ได้ทั้งรสเค็มนวลและความสดชื่นของแอปเปิล แก้วมังกร สับปะรด
Jelly Fish Salad with XO Sauce
หนังแมงกะพรุนกรุบกรอบปรุงซอส XO เผ็ดหอม โรยงาขาว-ดำ เพิ่มกลิ่นคั่วมันและสัมผัสหนึบหนับ
Stir-Fried Beef with Black Bean Sauce
เนื้อสไลซ์ผัดกระทะไฟแรงกับเต้าเจี้ยวดำ พริกหวาน และต้นหอม ฉ่ำกลิ่นคั่วถั่วหมักเค็มกำลังดี
Mei Cai Kou Rou
หมูสามชั้นตุ๋นยาวกับผักกาดแห้งเหม่ยไช่จนซึมรสหวานเค็ม หนังนุ่มแต่ยังมีชั้นมันฉ่ำ เสิร์ฟกับคะน้าลวกตัดมัน
ผักกวางตุ้งฮ่องกงผัดน้ำมันหอย
เมนูนี้เป็นอาหารจีนที่ใช้ความเรียบง่ายมาสร้างความประทับใจ “ผักกวางตุ้งฮ่องกง” ที่เห็นในภาพนั้นดูน่าทานมาก สีเขียวสดและก้านที่อวบอิ่มยืนยันถึงความสดใหม่และคุณภาพของวัตถุดิบ การผัดผักด้วยไฟที่แรงพอเหมาะทำให้ผักยังคงความกรอบและสีสันที่สวยงาม ไม่นิ่มเละหรือคล้ำ
สิ่งที่ทำให้เมนูนี้เป็นที่ชื่นชอบคือ “ซอสกระเทียม” ที่ถูกปรุงมาอย่างดี ตัวซอสมีความเข้มข้นใส มีรสชาติกลมกล่อมระหว่างความเค็มจากน้ำมันหอยและความหวานอ่อน ๆ ซึ่งเมื่อราดบนผักที่ยังร้อนๆ ซอสจะเคลือบผักได้พอดี ทำให้ทุกคำที่ทานได้รับรสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว เป็นเมนูที่ช่วยเติมเต็มความสดชื่นและตัดความมันของอาหารจานอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
Pork Ears
หูหมูต้มจนหนังใส เสิร์ฟแบบเย็นเป็นกับแกล้มสไตล์กวางตุ้ง
Lamb Skewers
แกะหมักยี่หร่า พริกคั่ว และถ่านสมุนไพร ย่างไฟจนหนังกรอบนอก เนื้อนุ่มใน โรยพริกสดหอมฉุนแบบซินเจียง
Fried Rice with Egg White & Conpoy
ข้าวผัดเม็ดร่วนใส่ไข่ขาวเนียนเบาและหอยเชลล์แห้งสับเพิ่มกลิ่นทะเลอูมามิ เจือถั่วลันเตาให้สีสัน
มุมอาหารญี่ปุ่น
ในบุฟเฟ่ต์ค่ำคืน Dynasty Nights ของห้องอาหาร Savio นอกจากบูธมองโกเลียและเมนูจีนสุดอลังแล้ว มุมอาหารญี่ปุ่น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ที่ทำได้เลิศปังไม่แพ้กัน ตั้งแต่ซูชิคำพอดีคำ ซาชิมิสดฉ่ำสีสันสวยงาม ไปจนถึงโรลและอาหารปรุงร้อน ทุกจานถูกจัดวางอย่างประณีต ราวกับงานศิลป์ที่เชฟตั้งใจรังสรรค์เพื่อให้แขกได้ทั้งความอร่อยและความเพลิดเพลินในการชม
ทุกคำมีทั้งรสชาติที่ชัดเจน สมดุล และเต็มไปด้วยความสดใหม่ วัตถุดิบถูกคัดสรรอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเนื้อปลา สีของผัก หรือซอสที่เข้ากับอาหารแต่ละคำ ทำให้โดราแทบหยุดสายตาไม่ได้ และนี่คือมุมอาหารญี่ปุ่นที่ทำให้ค่ำคืนบุฟเฟ่ต์วันศุกร์ที่ Savio กลายเป็นประสบการณ์ที่ต้องกลับมาซ้ำ
ปลาแซลมอนย่างซีอิ๊ว
เมนูนี้เป็นตัวอย่างของอาหารญี่ปุ่นที่ทำได้ง่ายแต่ต้องอาศัยเทคนิคในการย่างอย่างถูกวิธี เนื้อปลาแซลมอนถูกหั่นเป็นชิ้นหนาพอดีคำ ย่างบนกระทะหรือเตาจนหนังมีความกรอบเล็กน้อยและผิวนอกเป็นสีน้ำตาลทองน่ารับประทาน ขณะที่เนื้อด้านในยังคงความนุ่มและชุ่มฉ่ำ รสชาติของซีอิ๊วที่ซึมเข้าเนื้อปลาทำให้มีความเค็มหวานที่ลงตัว เป็นเมนูที่ทานง่ายและอร่อยสำหรับทุกเพศทุกวัย
ซาชิมิรวม
นี่คือไฮไลท์ของมื้ออาหารญี่ปุ่นที่เน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบ จานนี้มีปลาหลากหลายชนิด ได้แก่ ปลาแซลมอน ที่มีลายไขมันแทรกสวยงาม, ปลาฮามาจิ หรือปลาหางเหลืองที่มีเนื้อสัมผัสแน่น, และ ปลามากุโระ หรือทูน่าที่เนื้อมีสีแดงเข้ม แสดงถึงความสดใหม่ การจัดวางที่ประณีตพร้อมด้วยผักและใบชิโสะ ช่วยเสริมให้จานนี้ดูน่าทานยิ่งขึ้น
ซูชิรวมแบบประยุกต์
เมนูนี้เป็นซูชิแบบฟิวชั่นที่นำเอาวัตถุดิบหลายชนิดมารวมกันอย่างสร้างสรรค์ มีทั้งซูชิหน้าปลาแซลมอน, หน้าปลาฮามาจิ, และซูชิโรลที่มีทั้งไข่ปลาแซลมอนและไข่กุ้ง เป็นการผสมผสานรสชาติและสัมผัสที่หลากหลายในคำเดียว ทำให้การรับประทานไม่น่าเบื่อ
ซูชิโรลแซลมอนซอสเมนไทโกะ
เป็นซูชิโรลที่เน้นความโดดเด่นของปลาแซลมอน ตัวโรล ทำจากข้าวซูชิที่ห่อด้วยปลาแซลมอนสด แล้วราดด้วย ซอสเมนไทโกะ (ไข่ปลาคอดรสเผ็ด) ที่มีสีส้มสดใสและรสชาติเข้มข้น ก่อนจะโรยด้วยไข่กุ้งเพื่อเพิ่มสัมผัสที่กรุบกรอบ เมนูนี้จึงมีความนุ่มของเนื้อปลาและความเข้มข้นของซอสที่เข้ากันได้ดี
กุ้งเทมปุระ
เมนูทอดที่แสดงถึงฝีมือของเชฟได้อย่างชัดเจน กุ้งที่ถูกเลือกมานั้นมีขนาดพอเหมาะ ชุบแป้งเทมปุระที่ผสมอย่างลงตัวแล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนจัดจนแป้งฟูและกรอบเป็นตาข่ายสีเหลืองทองไม่อมน้ำมัน เนื้อกุ้งยังคงความหวานตามธรรมชาติ เป็นเมนูทอดที่อร่อยและดีต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด
Desserts
นอกจากอาหารหลากรสแล้ว ทางห้องอาหารยังได้จัดเตรียมของหวานหลากสไตล์ให้ท่านได้เพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีมหลากรส ฟองดูสุดพรีเมียม เค้กชนิดต่าง ๆ ขนมรูปแบบต่างๆ ตามธีมในแต่ละวัน โดยขออนุญาตยกตัวอย่างบางส่วนมาให้ท่านเชยชมกันครับ
Mooncakes
ขนมไหว้พระจันทร์ เปลือกอบสีน้ำผึ้งสลักลายดอกเบญจมาศ ข้างในอัดแน่นไส้ต่างๆ เช่น ไส้ทุเรียนหมอนทองหอมมันและไส้เมล็ดบัวหวานละมุน และรวมถึงไส้อื่นๆ ที่อัดแน่นมาอย่างเต็มเปี่ยม
ไอศกรีม Häagen-Dazs
ตู้กระจกเรียงถังรสวานิลลา ช็อกโกแลต ดับเบิลช็อกโก ชาเขียวมัจฉะ มะม่วงเสาวรส มันม่วง บลูเบอร์รีชีสเค้ก และสตรอว์เบอร์รีรสเข้ม ฯลฯ เนื้อครีมเนียนแน่น ตักได้ไม่อั้น
Lemongrass Praline
ช็อกโกแลตกานาชสีเขียวอ่อนบางกรอบ ชวนให้เคี้ยวเจอไส้พราลีนหอมตะไคร้สดเย็นละลายในปาก
Ceylon Tea Praline
ดาร์กช็อกโกเคลือบคาราเมลกานาชชาใบบัวศรีลังกา กลิ่นใบชาฟุ้งนุ่มคาแรกเตอร์มอลต์
Mango Sticky-Rice Cake
เค้กครีมสดชั้นข้าวเหนียวกะทิหวานมัน ด้านบนโรยเนื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สุกหั่นชิ้นใหญ่ ฉ่ำหวานหอมไทยๆ ในรูปแบบเค้กฝรั่ง
Goji-Berry Jelly
วุ้นใสกลิ่นดอกเก๊กฮวยหวานน้อย แทรกเก๋ากี้เม็ดแดงหนึบ ให้รสหวานหอมและสัมผัสกรุบเย็นสบายคอ
Cantaloupe Sago with Coconut Milk
สาคูเม็ดเล็กต้มกะทิสด กลิ่นหอมเมล่อนแคนตาลูป เนื้อผลไม้ปั่นผสมในซุปกะทิเย็น ให้รสหวานละมุนเคี้ยวเพลินเม็ดสาคู
Buffet All-you-can-eat
สำหรับช่วงเวลาและราคาบุฟเฟ่ต์ ประกอบไปด้วย 2 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงมื้ออาหารกลางวัน (12.00-14.30 น. ราคา 1,299 บาทสุทธิต่อท่าน) และช่วงอาหารเย็น (18.00-22.00 น. ราคา 1,499 บาทสุทธิต่อท่าน / วันเสาร์ 2,199 ต่อท่าน) โดยไลน์อาหารจะมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ครอบคลุมตั้งแต่วัฒนธรรมตะวันออกจรดตะวันตก โดย
วันจันทร์ ธีมมื้อกลางวัน “The Urban Munch” เที่ยงวันจันทร์คือช่วงเวลาของความสนุกเป็นกันเอง จังหวะรวดเร็ว และรสชาติที่หลอมรวมวัฒนธรรมเมืองใหญ่ของเอเชียเอาไว้บนจานเดียว โดยมีเมนูเด็ด เช่น ไก่สะเต๊ะ Pani Puri ผัดไทย Galbi และข้าวเหนียวมะม่วง ในขณะที่มื้อเย็นจะเป็นธีม “The Silk Road Affair” นำเส้นทางสายไหมอันยิ่งใหญ่มาเล่าใหม่ด้วยภาษาของอาหาร โดยจะได้เพลินเพลินกับเสน่ห์ของอาหารแห่งเอเชียที่บอกเล่าผ่านการเดินทางตามเส้นทางสายไหม เช่น Chicken Biryani ฮัมมุสถั่วลูกไก่ ตลอดจนเนื้อแกะสุดชุ่มฉ่ำ
วันอังคาร ธีมมื้อกลางวัน “Taco Treats and Family Eats” เป็นแนวอาหารแบบเม็กซิกัน ได้แก่ นาโช และทาโก้แบบต่าง ๆ รสจัดจ้านพอให้ตื่นตัว แต่ก็อบอุ่นเป็นกันเองพอให้ทุกวัยเพลิดเพลิน ในขณะที่มื้อเย็นเป็นธีม “A Journey Through Levantine Flavors” เป็นแนวอาหารแบบอาหารเลแวนไทน์สุดอบอุ่น เมนูเด็ด เช่น เคบับ Lamb Kofta Kebabs , Shish Tawook ฯลฯ ที่พร้อมทำให้โต๊ะอาหารของท่านเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น
วันพุธ ธีมมื้อกลางวัน “Roll and wrap bonanza” เติมสีสันให้มื้อเที่ยงด้วยขบวนเมนูwarp แบบต่างๆ ตั้งแต่ Classic Chicken Shawarma Wrap หอมยี่หร่ากับซอสกระเทียม, Paneer Kathi Roll สไตล์โกลกาตา, Philly Cheesesteak เนื้อชุ่มชีสเยิ้ม, Beef Bulgogi Lettuce Wraps สไตล์เกาหลี เป็นต้น ในขณะที่มื้อเย็น เป็นธีม “Osteria bella tavola” แบบสไตล์อาหารอิตาเลียน ท่านจะได้เพลิดเพลินกับอาหารแดนพิซซ่าที่เปี่ยมเสน่ห์ ทั้งพาสต้าเส้นสด เนื้อ osso buco ตุ๋นไวน์จนเปื่อยนุ่ม ลาซานญ่า และพิซซ่า ที่พร้อมทำให้ท่านกินเพลิน คุยยาว เติมได้ไม่ยั้งตลอดคืน
วันพฤหัสบดี ธีมมื้อกลางวัน “Burgers and friends” เบอร์เกอร์และผองเพื่อน โดยจะได้เพลิดเพลิกไปกับเบอร์เกอร์แบบต่างๆ ด้วยวัตถุดิบเปี่ยมคุณภาพ พร้อมเสริมทัพด้วยเมนูพิเศษสไตล์เอเชีย เช่น Thai Chicken Satay Burger หรือ Galbi Kimchi Cheeseburger รสเกาหลีจัดจ้าน ให้ท่านได้มีความสุขไปกับผองเพื่อน
และมื้อเย็น ในธีม “Spices and Stories” เล่าเรื่องผ่านเครื่องเทศ ด้วยไลน์อาหารเปี่ยมเสนห์จากเครื่องเทศแบบต่างๆ ที่พร้อมทำให้ท่านประทับใจ เช่น Samosas หรือข้าวไบยานีหอมเครื่องเทศฟุ้ง จับคู่ Raita เย็นสดชื่น ตลอดจนอาหารสไตล์อินเดียอื่นๆ ที่พร้อมทำให้ค่ำคืนนี้ที่ตะวันออกไกลจับมือตะวันออกกลาง ได้เล่าบทความแห่งอาหารจากไฟและเครื่องเทศ ออกมาให้ท่านได้ประทับใจตลอดคืน
วันศุกร์ ธีมมื้อกลางวัน “Pacific rim island eats and Asian treats” ด้วยมื้อเที่ยงแนวอาหารชายฝั่ง เช่น Ahi Poke Bowl ปลาทูน่าดิบคลุกโชยุหอมบวกสาหร่ายวากาเมะเย็นสด Lumpia แป้งกรอบสอดไส้หมูหวานสไตล์ฟิลิปปินส์, Kalua Pork เนื้อหมูฉีกรมควันใบกล้วยเสิร์ฟกับกะหล่ำปลี, Huli Huli Chicken ไก่ย่างซอสสับปะรด และมื้อเย็น กับธีม “Dynasty Nights” ค่ำคืนสองราชวงศ์ มองโกล–จีน พร้อมโดดเด่นด้วยสเตชั่น Mongolian Beef พร้อมเลือกเนื้อให้เชฟผัดซอสแบบต่าง ๆ เสิร์ฟสไตล์มองโกเลียน และโซนติ่มซำหลากหลาย พร้อมเมนูอาหารแดนมังกรหลากรสที่เชฟพร้อมทำให้ทานกันแบบสด ๆ จากการที่เป็นครัวเปิด ทำให้เป็นมื้อค่ำอันตราตรึง
วันเสาร์ มื้อกลางวัน “Wasabi Waves” คลื่นวาซาบิ จากโซลถึงซัปโปโร เปิดเส้นทางเกาหลี-ญี่ปุ่นด้วยเมนูแพนเค้กกิมจิ แป้งกรอบซอสโกชูจัง บุลโกกิ ตลอดจนราเม็งในแบบฉบับญี่ปุ่นซอสเข้มข้น และไลน์ซูชิเปี่ยมคุณภาพ และมื้อเย็น “Flames and Feasts” ศิลปะแห่งเปลวไฟที่สายเนื้อต้องไม่พลาด กับเมนูเนื้อต่าง ๆ มากมาย ทั้ง ริบอายส์เนื้อฉ่ำ เนื้อบาร์บิคิว ซี่โครง ตลอดจนเนื้อคุณภาพเยี่ยมจากหลากหลายส่วนที่จะเพิ่มสีสันให้ค่ำคืนนี้กลายเป็นค่ำคืนอันแสนวิเศษ
Savio ไม่ได้ขายแค่ “ความเยอะ” หรือ “ความคุ้ม” แต่ยืนหยัดบนมาตรฐานของโรงแรมห้าดาว ทั้งคุณภาพวัตถุดิบ กระบวนการปรุง และบริการมืออาชีพ ในราคาที่สบายกระเป๋าและทำให้ผู้ทานรู้สึกถึงความคุ้มค่ากับราคา โดยหากคุณมองหามื้อที่รวมความหลากหลาย มาได้ไม่ซ้ำวัน และมีทั้งกลางวันและเย็น ทางห้องอาหาร Savio ของโรงแรม Chatrium Grand Bangkok คือหมุดหมายใหม่ที่ควรปักลงแผนที่ร้านประจำช่วงปีนี้ และไม่ควรพลาดไปด้วยประการทั้งปวงครับ โดยท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถาม หรือสำรองที่นั่งได้ที่ เบอร์ +66 (0) 2126 7999
หรือทางอีเมล์ [email protected]
Kin Review
Dynasty Nights, Savio Chatrium Grand Bangkok, Chatrium Grand Bangkok, Savio Restaurant Bangkok, บุฟเฟ่ต์ Savio, บุฟเฟ่ต์วันศุกร์ กรุงเทพ, Friday Night Buffet Bangkok, Chinese Mongolian Buffet, บุฟเฟ่ต์อาหารจีน กรุงเทพ, บุฟเฟ่ต์หรู โรงแรมกรุงเทพ, All You Can Eat Bangkok, Luxury Buffet Bangkok
Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์