“ ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า พร้อมพงษ์ มีที่ผืนหนึงที่ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นโรงแรมที่อบอวลและเต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งความรักของ เจ หนุ่มชาวอิตาเลียน และเดซี่ สาวชาวอเมริกันผู้รักในการเดินทาง และมะลิ หมาพุดเดิลตัวน้อยของสาวเดซี่ และความรักที่ลงตัว ณ ที่แห่งนี้ “ Hilton Sukhumwit” “

สวัสดีครับทุกท่าน ในครั้งนี้ เราจะพาทุกท่านไปพบกับที่พักสบายๆ ใจกลางเมือง ที่รายล้อมไปด้วยของอร่อยๆ และห้างสรรพสินค้า ที่มีเรื่องราวความรักของคู่รักนักเดินทาง บันทึกไว้ทุกแห่งของโรงแรม ตั้งแต่โถงต้อนรับ ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ ไปจนถึงในห้องพัก

หลายคนอาจมีคำถามว่าโรงแรมกลางเมืองมีมากมาย แล้วโรงแรม “ Hilton Sukhumwit” นี้แตกต่างอย่างไร เราค่อยๆมาดูมาชมกันเลยครับ

เริ่มตั้งแต่เข้ามาในโถงต้อนรับ ก็จะพบกับหุ่นของ หนุ่มเจ ที่นั่งอ่านหนังสือพิมและเหลือบหันไปเจอ เดซี่ ซึ่งกำลังจูงมะลิ หมาน้อยของนาง และ นั้นคือ รักแรกพบ ที่สองคนนี้พบรักกันจากการเดินทาง

บนเพดานจะเห็นเป็นงานศิลปะที่เป็นภาพที่สร้างสรรค์โดยศิลปินไทย ที่เน้นเป็นสีน้ำเงินและแดง อันเป็นตัวแทนของความรักที่มีทั้ง ความเร่าร้อนและความเย็นชา นั่นเอง

แขกทั่วไปสามารถเช็คอินที่เคาเตอร์โถงต้อนรับนี้ได้เลย ส่วนแขกที่พักในห้องระดับ “Exclusive” พนักงานจะพาไปเช็คอิน ณ ห้องรับรองพิเศษซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของโรงแรม ในครั้งนี้ก่อนที่เราจะพาทุกท่านไปชมห้องรับรองพิเศษ ขอพาทุกท่านไปตามเส้นทางแห่งรักของคู่รักนักเดินทางกันก่อนดีกว่าครับ

หลังจากที่เราเดินพ้นจากส่วนโถงต้อนรับเข้ามาภายในของบริเวณโรงแรม เราก็จะพบกับ “Mondo” ซึ่งเป็นห้องอาหาร All day dining สำหรับคำว่า “Mondo” นั้น แปลว่า โลก และเพราะอะไรทำไมจึงใช้ชื่อนี้ ?

ด้วยความที่ เดซี่ นั้นเป็นคนรักในการเดินทางมาก และท่องเที่ยวไปทั่วโลก โลก หรือ “Mondo” จึงเป็นชื่อที่เหมาะสมกับห้องอาหารนี้มาก

เมื่อเดินเข้ามาก็จะพบกับกระเป๋าเดินทางมากมายเป็นข้าวของประกอบการตกแต่งร้าน ซึ่งกระเป๋าเหล่านี้ก็เป็นตัวแทนของเดซี่ สิ่งแสดงถึงการเป็นสาวนักเดินทางบ้าหอบฟาง

นอกจากนี้ หากเปิดหีบหับกระเป๋าเดินทาง ก็จะพบกับเล่มรายการอาหารของห้องอาหารนี้ และ ด้วยความไม่ธรรมดาของเล่มรายการอาหารของห้องอาหารนี้คือ ออกแบบมาให้เป็นเล่มหนังสือเดินทาง และภายในรูปเล่มหนังสือเดินทาง ก็จะพบกับรายการอาหารที่มีอยู่มากมายหลากหลาย จากทุกมุมโลก ที่เดซี่ได้ไปชิมมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผัดไทย ยัน สปาเก็ตตี้

เมื่อเราเดินถอยออกมาก่อนขึ้นไปยังชั้นสอง เราก็จะพบกับ เพชรเม็ดโตสีดำ ซึ่งเป็นหนึ่งในอนุสรณ์ความรักที่เจมอบให้ เดซี่ ทั้งสองตกลงจะเป็นคู่รักกันจากนั้นเรื่องราวก็ดำเนินต่อไปพร้อมกับการตกแต่งของส่วนถัดไปของโรงแรมกันครับ

บันไดวนโค้งสวยงามที่ประดับด้วยแผ่นโลหะสีเงินที่บรรจงติดลงทีละชิ้นด้วยมือ ดูสวยงามทันสมัย ซึ่งเป็นทางที่จะนำไปสู่หนึ่งในส่วนสำคัญของเรื่องราวของคู่รักนักเดินทาง และห้องอาหารสำคัญของโรงแรม

สองคู่รักนักเดินทางขึ้นเรือไปเพื่อ ข้ามน้ำข้ามทะเลจากอิตาลีไปยังอเมริกา “Scalini” ห้องอาหารอิตาเลียนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายอเมริกายุคที่เต็มไปด้วยการหลั่งไหลของอิตาเลียนเข้าสู่อเมริกา คำว่า “Scalini” เป็นภาษาอิตาเลียนแปลว่าบันไดวน

ห้องอาหารอิตาเลียนสกาลินีมีคอนเซ็ปต์การตกแต่งแบบนิวยอร์กซิตี้ในช่วงยุค Prohibition

ที่มีการห้ามผลิตและซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผู้อพยพชาวอิตาเลียนที่เข้ามาตั้งรกรากในพื้นที่ต่างๆของนิวยอร์ก ตกแต่งด้วยกลิ่นอายของนิวยอร์กสกายไลน์ ตู้ไวน์สูงจรดเพดานนำเสนออาหารอิตาเลียน – อเมริกันรสเลิศ สูตรดั้งเดิมแห่งทศวรรษ 1920 โดยใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น

ท่ามกลางบรรยากาศการปรุงอาหารในครัวแบบเปิดผสมผสานด้วยวิธีการปรุงอาหารแบบสมัยใหม่โดยแขกที่มารับประทานจะรับชมวิธีการปรุงอาหารและพูดคุยกับเชฟได้ อ่านรีวิวเต็มห้องอาหารสกาลินี่>>>

เดซี่และเจได้เดินทางและใช้เวลาร่วมกันในเรือแห่งนี้ เพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับอาหารอิตาเลียนกลิ่นอายอเมริกันเลิศรส กับ ไวน์ ที่หลากหลาย

พักเบรคเรื่องราวแห่งความรักของเดซี่ กับ เจ มาชมห้องรับรองพิเศษสำหรับผู้เข้าพักห้องพักระดับ “Exclusive” ขึ้นไปกันบ้างครับ สำหรับห้องรับรองพิเศษนี้ ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายหลากหลาย ห้องรับรองนี้มีทั้งส่วนคุยงาน ห้องทำงาน ส่วนสำหรับนั่งพัก และส่วนที่พิเศษกว่าในหลายๆที่คือส่วนของบาร์เครื่องดื่มและของกินในส่วนนี้เป็นบาร์เครื่องดื่มและของกินนั้นจะมีการเปลี่ยนวนรูปแบบอาหารและเครื่องดื่มไปไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา ในส่วนเวลาที่เราเข้ามาทำการเช็คอินเป็นช่วงบ่าย จึงได้พบกับขนมและของว่างจากชุดชายามบ่าย ทั้งคาวหวาน และชาหลากหลายรสและกลิ่นให้เลือกลิ้มลอง อีกทั้งน้ำผลไม้ กาแฟ และอื่นๆ และหากเป็นช่วงเย็นจะเป็นค็อกเทลและม็อกเทล ส่วนช่วงเช้าไปนถึงสายๆจะมีบริการโจ๊ก และอาหารเช้าต่างๆด้วย

ส่วนห้องพัก

การเดินทางของคู่รักเจและเดซี่ยังไม่จบ หลังจากที่คู่รักนักเดินทางได้ลงเรือ ก็ได้พักผ่อนยังห้องพักสุดเรียบหรู สะดวกสบาย มองออกไปเห็นภาพวิวเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงและพลวัตรของเมือง

สำหรับทัศนียภาพเมืองกรุงเทพเราก็ไม่ได้แพ้นิวยอร์คเลยทีเดียว พอถูๆไถๆไปกันได้ครับ

เรามาชมห้องพักกันเถอะครับ สำหรับห้องพักที่เราจะพาทุกท่านมาชมกันในวันนี้เป็นห้อง “Exclusive Plus” ซึ่งเป็นไซส์ใหญ่หากเทียบกับระดับขนาดห้องอื่นๆในโรงแรม

ภายในห้องมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง เมื่อเข้ามาก็จะพบโถงทางเดินกว้างขวาง ตู้สื้อผ้าที่ใหญ่โต เครื่องชงกาแฟเป็นชอร์ทๆ

หรือจะกาแฟสำเร็จรูปธรรมดาที่ล้วนเป็นคอมพลิเมนทารี
มินิบาร์และอุปกรณ์แก้วน้ำอย่างครบครัน ขนม เครื่องดื่ม ถุงยางมาตรฐาน นำทางไปสู่ส่วนนั่งเล่นที่อยู่ปลายเตียง

ช่องทีวีที่ครบครันกับลำโพงบลูทูธที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาทโฟนของคุณได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย

ส่วนโต๊ะทำงานที่มีอุปกรณ์ทำงานพื้นฐาน ไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเย็บกระดาษ ตัวหนีบ ดินสอ ยางลบ ฯลฯ

สำหรับห้องน้ำก็นับว่ามีขนาดใหญ่ และออกแบบได้ เรียบ หรู ทันสมัย อีกทั้งแบ่งได้อย่างลงตัว เป็นสัดเป็นส่วนดี ภายในห้องน้ำ แบ่งออกเป็นห้องขับถ่ายเล็กๆที่กั้นโดยประตูกระจก ห้องอาบน้ำ ที่มีขนาดใหญ่กั้นด้วยประตูกระจก มีอ่างล้างหน้าสองอ่าง และ ไฮไลท์ของห้องน้ำที่นี่คือ อ่างลอย และผนังกระจกบานใหญ่ที่สามารถอาบน้ำไปพร้อมกับชมทัศนียภาพเมืองอย่างไกลๆ

ผ่อนคลายไปกับการแช่น้ำร้อนอุ่นๆ กับอากาศเย็นสบายรอบๆ และเลือกชมทัศนียภาพเมือง

.

สบู่ก้อนตัวนี้สำหรับใช้อาบน้ำออกแบบให้มีพื้นผิวเป็นปุ่มเพื่อการนวดผ่อนคลายสำหรับผลิตภัฑท์ทั้งสบู่ ยาสระผม ครีมนวดและอื่นๆใช้ของ ” Peter Thomas Roth ”

และความโดดเด่นของห้องพักที่ “ Hilton Sukhumwit ” ก็คือการเลือกใช้เครื่องนอนของ Setra แบรนด์เครื่องนอนคุณภาพสูงจาก สหรัฐอเมริกา

ซึ่งพิเศษสุดๆกับเครื่องนอนที่ท่านจะพบได้เพียงที่ “ Hilton Sukhumwit ” เพราะเป็นรุ่นที่สั่งทำมาพิเศษเพื่อที่นี่เท่านั้น ! หมอนขนห่านที่นุ่ม ละมุน กับเตียงที่นุ่ม รองรับกับทุกสรีระ เพียงแค่ปล่อยตัวลงก็ผ่อนคลาย หลับสบาย แม้คนนอนด้วยจะกรนก็ไม่หวั่น

และเราก็เดินทางมาจนถึงจุดหมายปลายทางของเส้นทางแห่งความรัก หน้าสุดท้ายของเรื่องสั้นความรัก เจและเดซี่ ณ ดาดฟ้าชั้นบนสุดของ “ Hilton Sukhumwit ” .เป็นสระว่ายน้ำและศูนย์ออกกำลังกาย ที่สามารถออกกำลังกาย หรือ ว่ายน้ำ พร้อมไปกับการชมความสวยงามจากทัศนียภาพอาคาร ตึกสูง ของกรุงเทพมหานครฯ . ....ที่แห่งนี้จะพบกับรูปปั้น เจ และ เดซี่ นั่งพลอดรักกันอยู่ริมสระว่ายน้ำ ในตามท้องเรื่อง เจ และ เดซี่ พลอดรักชมพระอาทิตย์ตกดินไปจนถึงฟ้ามืดอย่างโรแมนติก เป็นอันจบเรื่องราวความรักของเจและเดซี่ กับการพาชมโรงแรม “ Hilton Sukhumwit ” โรงแรมสวย นอนสบาย ใจกลางเมือง ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งความรัก

เรื่อง : Pol.lt. Kittin A.

ภาพ : Said C.

รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStarts.com ไม่อนุญาติให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาติจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด