Author: nutthawat jaruwat

Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีครับ เหล่าผู้ชื่นชอบรับประทานอาหารอย่างมีรสนิยมทุกท่าน วันนี้ พวกเราทีมงาน Kinandleisure มีร้านอาหารที่น่าสนใจมาแนะนำกันอีกเช่นเคยครับ โดยในคราวนี้เป็นรอบของอาหารจีนร่วมสมัยที่ผสมผสานทั้งความเป็นฮ่องกงแท้ ๆ เข้ากับศิลปะการปรุงอาหารที่สุดยอด ประกอบกับองค์ประกอบด้านวิวทิวทัศน์แบบสุดขอบฟ้า ณ ใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น พวกเราไปรับชมไปพร้อม ๆ กันเลยครับ บทนิยามใหม่ เปิดประตูสู่ความอร่อยสไตล์จีนร่วมสมัย หากพูดถึงร้านอาหารจีนแนวใหม่ที่กำลังมาแรง ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่าน น่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับร้าน “K by Vicky Cheng” เป็นชื่อแรก ๆ ในลิสต์ เพราะร้านนี้ถือเป็นโปรเจกต์ใหญ่ล่าสุดของเชฟชื่อดังระดับมิชลินสตาร์ เชฟ “Vicky Cheng” ซึ่งในคราวนี้เชฟได้เดินทางตรงจากฮ่องกงมาแสดงฝีมือถึงกรุงเทพฯ เพื่อเปิดตัวเมนูใหม่อันน่าสนใจ ก่อนอื่นต้องขอบอกเล่าเกี่ยวกับสถานที่เสียก่อน โดยตัวร้านได้ตั้งโดดเด่นอยู่บนชั้น 56 ของตึก The Empire ใจกลางย่านสาทร ซึ่งทุกท่านจะได้สัมผัสถึงความหรูหราและความพิเศษแบบพรีเมียมตั้งแต่แรกเริ่มที่เดินเข้าตึกจนขึ้นลิฟต์ ซึ่งจะเหมือนกับได้ถูกเวทย์มนต์ตรึงใจไว้จากการตกแต่งที่วิจิตรตระการตา เท่านั้นยังไม่พอ เพราะทันทีที่ก้าวเท้าออกจากลิฟต์ ท่านจะได้พบกับวิวเมืองที่สวยสะกดตา ยิ่งหากมาตอนช่วงกลางคืนที่มีแสงสีเต็มที่แล้วยิ่งรู้สึกประทับใจ ผนวกกับการตกแต่งภายใน ทั้งภายในตัวตึกและภายในตัวร้านเอง ที่เน้นความหรูหราทันสมัย ใช้โทนสีเข้มผสานกับแสงไฟอุ่น ๆ ให้บรรยากาศร่วมสมัยแบบมีระดับ สำหรับการเดินทางก็สะดวกสบาย ใกล้สถานี BTS ช่องนนทรี ซึ่งเดินออกมาก็จะถึงได้โดยไม่ไกล สำหรับท่านที่ขับรถมา ทางตึกก็มีที่จอดรถพร้อมบริการอย่างเหลือเฟือ เพียงแต่ท่านที่เดินทางในเวลาเร่งด่วน หรือเวลาเลิกงานอาจต้องเผื่อเวลาซักหน่อย เนื่องจากบริเวณนั้นรถติดมากครับ จุดเริ่มต้นของ “K by Vicky Cheng” ร้าน “K by Vicky Cheng” เปิดให้บริการครั้งแรกในช่วงปีที่ผ่านมา และได้นำเสนอผลงานเมนูที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยการชูจุดเด่นอาหารจีนแบบดั้งเดิมสไตล์ฮ่องกงได้อย่างน่าสนใจ และยังเพิ่มเติมด้วยการปรุงและประกอบอาหารด้วยเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ จนผสมผสานกลายเป็นรสชาติที่แปลกใหม่ แต่ยังคงแก่นแท้ของความเป็นจีนแบบต้นตำรับไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ วัตถุดิบที่ใช้ก็ยังมีความใส่ใจ ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบหรือเครื่องปรุงรสหลักบางอย่างจากต้นทางมาใช้เพื่อให้ตัวอาหารมีรสชาติและรสสัมผัสที่คงความดั้งเดิมไว้มากที่สุด สำหรับเชฟวิคกี้ เฉิง (Vicky Cheng) เป็นที่รู้จักในฐานะเชฟมิชลินสตาร์จากฮ่องกง ที่เปี่ยมประสบการณ์ในการทำอาหารจีนทั้งแบบดั้งเดิมและประยุกต์ ซึ่งได้มีการพิสูจน์ตนเองมาแล้วจากรางวัลมากมายที่ได้รับ…

Read More

Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารทุกท่านอีกครั้งครับ วันนี้ ทาง Kinandleisure ขอยกเว็บไซต์มากินลมชมวิวกันที่ริมแม่น้ำ พร้อมกับขอบอกกล่าวว่า หากท่านผู้อ่านกำลังมองหาร้านที่จะมอบประสบการณ์อาหารไทยร่วมสมัยที่แสดงออกถึงความเป็น “อาหารไทย” ที่แฝงความโมเดิร์น ในขณะที่ถ่ายทอดความเป็นไทยผ่านวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม มีความเป็นท้องถิ่นและมี Story to tell พร้อมบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องขอบอกเลยว่าร้าน Chao Phraya Terrace คือจุดหมายสำคัญที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ด้วยการเป็นร้านอาหารที่ชูความเป็นสไตล์ “จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร” ที่ได้รวบรวมความอุดมสมบูรณ์ของภูมิภาคต่าง ๆ ของไทยมารังสรรค์และปรุงแต่งจนกลายเป็นเมนูที่โดดเด่น โดยมี เชฟป๊อด คุณเจษฎา เครือพันธุ์ เป็นหัวหน้าเชฟ (Chef de Cuisine) พร้อมทีมงานร่วมกันถ่ายทอดประสบการณ์มาสู่บนจาน พร้อมด้วยมุมมองสวยน่าจับตาของแม่น้ำเจ้าพระยาในยามอาทิตย์อัสดง บรรยากาศและการออกแบบ ตัวร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายในบริเวณโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ  ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้บรรยากาศสุดสบายที่แฝงไปด้วยความเรียบหรูดูดี สะท้อนความเป็น casual luxury และการที่มีพื้นที่เปิดโล่ง มีลมริมแม่น้ำโกรกเย็นสบาย ทำให้ผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและทิวทัศน์ของแม่น้ำสายประวัติศาสตร์ รายล้อมด้วยแสงสีทองของดวงอาทิตย์ที่สะท้อนบนผิวน้ำในช่วงยามตกดิน โดยเฉพาะช่วงเย็นพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า แสงสีทองสาดส่องให้บรรยากาศแสนโรแมนติก เหมาะกับการนั่งสังสรรค์ พร้อมชมวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเพลิดเพลิน และในยามค่ำคืน สถานที่แห่งนี้ก็พร้อมเติมเต็มบรรยากาศโรแมนติกและสร้างความดื่มด่ำผ่อนคลายไปกับแสงสีในยามราตรี แนวคิด “ฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร” และศิลปะการย่างด้วยถ่าน หัวใจหลักของ Chao Phraya Terrace คือการคัดสรรสุดยอดวัตถุดิบไทยจากทุกภูมิภาคของประเทศ โดยวัตถุดิบทุกชิ้นล้วนมีเรื่องราวเฉพาะและความเป็นเอกลักษณ์อย่างชัดเจน เช่น เนื้อวากิวมหาสารคาม ซึ่งมีความพิเศษตรงที่โคเนื้อได้รับอาหารผสมข้าวหอมมะลิ ทำให้มีลายไขมันแทรก (marbling) ที่สวยงามและรสชาติละมุน หมูออร์แกนิกจากราชบุรี (ที่เลี้ยงด้วยสมุนไพรไทยแบบอินทรีย์ กุ้งกล้วย จากทะเลอันดามัน ทางภาคใต้ซึ่งมีรสชาติอันเลื่องลือและเป็นที่รู้จัก หรือน้ำตาลมะพร้าวจากสมุทรสงคราม ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องรสหวานหอมเป็นเอกลักษณ์ เป็นต้น นอกจากการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของไทยเป็นตัวชูรสชาติแล้ว เชฟและทีมงานยังให้ความสำคัญกับการใช้ ถ่านไม้มะพร้าว จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ ถ่านไม้ลิ้นจี่ จากจังหวัดน่าน เพื่อดึงความหอมควันอันเป็นเอกลักษณ์และรสชาติที่ลุ่มลึกให้กับวัตถุดิบ สะท้อนถึงหลักการของเชฟที่ว่า “ไฟเป็นหัวใจสำคัญของการทำอาหารทั้งปวง” จึงเกิดเป็นมิติใหม่ของอาหารไทยที่ผสานเทคนิคการปรุงด้วยไฟและถ่านอย่างประณีต แต่ละจานเป็นเสมือนการยกย่องและขอบคุณเกษตรกรไทยผู้ส่งมอบวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากแต่ละภูมิภาค นำเสนอความโดดเด่นของแต่ละภูมิภาค ผสานกับทักษะของเชฟป๊อดและทีมงาน…

Read More

Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีทุกท่านที่ชื่นชอบในการรับประทานอาหารเลิศรสอีกครั้งครับ ในปี 2568 นี้ เป็นวาระอันดี หากใครกำลังมองหาร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โมเดิร์น ที่ให้ความสำคัญอย่างถึงที่สุดของความสดใหม่ของวัตถุดิบ ชนิดแบบที่เรียกได้ว่า “สดใหม่กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว” กับวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมียม ท่ามกลางร้านอาหารบรรยากาศดีใจกลางกรุง มีเมนูหลากหลายให้ได้ลิ้มลอง เริ่มไปตั้งแต่ซูชิบาร์ ไปจนถึงเทปปันยากิและค็อกเทลบาร์ ซึ่งร้าน Shinsen ฉบับปรับปรุงใหม่นี้คือหนึ่งในตัวเลือกที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงสำหรับท่านที่ชื่นชอบการทานอาหารสดใหม่ ด้วยทางร้านมาพร้อมกับแนวคิด “Alive-Style Dining” ซึ่งหมายถึงการคัดสรรวัตถุดิบมาประกอบอาหารแบบสดใหม่ ซึ่งขอย้ำอีกครั้งว่า สดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ด้วยการมีไฮไลท์จาก Live Tank ที่นำเข้าและเก็บสัตว์ทะเลสดๆ ไว้ให้ลูกค้าสัมผัสความสดได้แบบใกล้ชิด ซึ่งสัตว์ทะเลในตู้เหล่านี้ก็จะถูกมานำขึ้นจานให้เห็นกันแบบสด ๆ เต็มตากันอีกทีเดียว ทำความรู้จัก Shinsen ร้าน Shinsen (ชินเซน) เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2016 โดยผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพวัตถุดิบและความสดใหม่ของรสชาติ ซึ่งร้านได้ทำการรีโนเวทใหม่และย้ายตัวร้านมาตั้งอยู่บริเวณ หน้า Tops Food Hall ซอยสุขุมวิท 39 โดยมีพื้นที่ครอบคลุมทั้งสองชั้น เดินทางสะดวก พร้อมบรรยากาศโปร่งสบาย เหมาะกับการมานั่งทานอาหารหรือแฮงเอาต์กับเพื่อนๆ ได้ตั้งแต่กลางวันยาวไปจนถึงดึก โดยความโดดเด่นของ Shinsen คือการแบ่งโซนรับประทานอาหารอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โซน Live Tank ที่เป็นตู้ปลาขนาดใหญ่ที่ขนวัตถุดิบสดๆ อย่าง ปูทาราบะเป็นๆ ชนิดที่ขยับทักทายเราได้ ล็อบสเตอร์แคนาดา หอยเป๋าฮื้อ ฯลฯ มาให้ลูกค้าได้เลือกกันตรงหน้า เรียกได้ว่าอยากทานอะไรสามารถจิ้มได้เลย นอกจากนี้ ในร้านยังมีบริเวณที่เป็น Sushi Bar ที่เชฟพร้อมที่จะรังสรรค์เมนูซูชิและซาชิมิ ซึ่งความสดของวัตถุดิบนี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญถึงความอร่อยของเมนูที่เรียบหรูเหล่านี้ และยังมี Teppanyaki Bar ที่เป็นลักษณะแบบครัวเปิด สามารถมองเห็นการประกอบอาหารได้อย่างชัดเจน ใครชอบความสนุกในการชมเชฟปรุงอาหารต่อหน้าต่อตา จะต้องไม่พลาดกับโซนนี้ครับ นอกจากนี้ ในร้านยังมี Cocktail Bar by Midlife Crisis Bangkok มุมเครื่องดื่มที่สรรค์สร้างค็อกเทลหลากรสด้วยวัตถุดิบคุณภาพ เหมาะแก่การผ่อนคลายหลังมื้ออาหารอีกด้วยครับ…

Read More

Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีปีใหม่ครับ ท่านผู้รักในการรับประทานอาหารเลิศรสทุกท่าน วันนี้ทางทีมงาน Kinandleisure ก็มีร้านขนมดี ๆ ในราคามิตรภาพมานำเสนอกันอีกครั้งแล้ว โดยเชื่อว่าหลายท่านน่าจะคุ้นเคยกับร้าน Bijoux de Beurre Echire เป็นอย่างดี ทั้งจากรีวิวเดิมของทางเรา และคุณภาพที่คุ้มราคาเสียจนอยากไปลองอยากไปซื้อมาทานในทุกโอกาสทุกครั้งไป ซึ่งในวันนี้ทางทีมงานก็หลงเสน่ห์เนยแห่งดินแดนน้ำหอมเป็นอีกครั้งครา ซึ่งตอนย้ำประโยควรรคทองที่ว่า “แค่เนยดี ทำอะไรก็อร่อย” ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปรับชมกันเลยครับ ทำให้ความอร่อยตราตรึงใจ ด้วยเนย Echire ผลิตภัณฑ์เนยชั้นเยี่ยมของโลก ร้าน Bijoux de Beurre Echire เป็นร้านหนึ่งเดียวในไทยที่ใช้เนย Echire ในการทำขนมปังและเค้กทุกชนิด ซึ่งเป็นตามชื่อของร้าน ที่มีชื่อเนย Echire ใส่อยู่ด้วย มาพร้อมกับสโลแกนสุดเก๋ “With The Best Butter, Everything is good” ซึ่งเนย Echire มีความพิเศษคือการได้รับมาตรฐานระดับ AOP และเป็นเนยที่ผลิตในเฉพาะแหล่งพื้นที่ในฝรั่งเศสเท่านั้น มีกรรมวิธีที่พิเศษจากเนยปกติ จากการที่ผลิตด้วยการปั่นแบบดั้งเดิมในถังไม้ มีกลิ่นหอมและสัมผัสที่นุ่มละมุนลิ้นอย่างที่รู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้สร้างกลิ่นหอมและรสสัมผัสที่จะหลงเหลืออยู่ในปากแม้จะทานไปแล้ว และเป็นกลิ่นหอมธรรมชาติที่ไม่ได้ทำให้เกิดความเลี่ยน ทำให้สามารถรับประทานขนมต่อไปได้เรื่อย ๆ เป็นจุดเด่นที่หาไม่ได้จากเนยยี่ห้ออื่นและในร้านอื่น ท่านสามารถไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งเนย Echire นี่ได้ที่ร้าน Bijoux de Beurre Echire ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2 สาขา โดยสาขาแรกตั้งอยู่ในโครงการ Earth Ekkamai ซอยสุขุมวิท 63 ป้ายร้านสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากป้ายหน้าโครงการ มีที่จอดรถแบบมีค่าบริการ แต่สามารถแสตมป์ได้ที่ร้าน หรือท่านที่สะดวกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีเอกมัยแล้วเดินต่ออีกนิดเดียวก็จะถึงที่หมาย โดยอีกสาขาหนึ่งจะอยู่ที่ Emsphere ชั้น G ใกล้กับ Gourmet Market ซึ่งสามารถเดินทางไปได้สะดวกเช่นกันครับ อิ่มอร่อยกับขนมสุดสร้างสรรค์ที่เปี่ยมด้วยไอเดียและความใส่ใจ Savoury สุดมหัศจรรย์…

Read More

Story : Nuttawat J.. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีครับท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารทุกท่าน วันนี้ทีมงาน Kinandleisure แม้มิได้มีร้านอาหารสุดตระการตามาแนะนำกัน แต่ก็มีประสบการณ์สุดอบอุ่นหัวใจและเป็นการเปิดโลกทัศน์ทางศิลปะทางอาหารที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟังต่อท่านผู้อ่านกันครับ เนื่องด้วยทางทีมงาน Kinandleisure ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน Mucho Gusto Peruvian Fest ที่ทางสถานทูตเปรูประจำประเทศไทยได้จัดขึ้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารเปรู ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารที่ขึ้นชื่อถึงความอร่อยและการพลิกแพลงโดยการผสมผสานระหว่างศิลปะการประกอบอาหารแบบต่าง ๆ ทั่วโลก และกับวัตถุดิบท้องถิ่นของเปรูเข้าด้วยกัน จึงเป็นเหตุให้อาหารเปรูเป็นที่ชื่นชอบและน่าหลงใหล เห็นเด่นชัดจากการที่ทางสถานทูตได้เชิญเชฟยอดฝีมือจากเปรูจากที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก มาร่วมกันปรุงอาหารให้กับผู้เข้าร่วมได้ทดลองเปิดประสบการณ์ทางอาหารกัน โดยจะเป็นอย่างไรนั้น เรามาชมกันเลยดีกว่าครับ เวทย์มนต์แดนละติน ภูมิหลังแห่งความหลากหลาย อาหารเปรู (Peruvian Cuisine) เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรมด้านอาหารที่มีการสะท้อนประวัติศาสตร์ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่มีการปรับตัวผ่านการผสมผสานวัตถุดิบท้องถิ่นกับวัฒนธรรมที่หลากหลายจากชนเผ่าพื้นเมือง อินคา ไปจนถึงอิทธิพลจากสเปน ญี่ปุ่น จีน และแอฟริกา ซึ่งทำให้รสชาติและเทคนิคการทำอาหารมีความโดดเด่นและแตกต่างจากที่อื่น ๆ มีการพลิกแพลง ในขณะที่ยังคงมีเสน่ห์อยู่ในตัวเอง มักผสานรสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม และหวานอย่างลงตัว และวิวัฒนาการมาสูอาหารเปรูร่วมสมัย (Modern Peruvian Cuisine) ที่นำเทคนิคการปรุงระดับโลกจากที่ต่างๆ มาใช้ โดยที่ไม่ลืมรากเหง้าวัฒนธรรม วัตถุดิบและรสชาติแบบดั้งเดิม ที่เคยได้เชฟชื่อดังหลายท่าน อาทิ เชฟ Gastón Acurio ที่ได้นำอาหารเปรูเข้าสู่สายตาชาวโลกมาแล้ว โดยภูมิประเทศของเปรูนั้น มีทั้งชายฝั่งทะเลเทือกเขาแอนดีส ป่าฝนอเมซอน ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพ ทำให้วัตถุดิบในอาหารเปรูมีมากมายหลากหลายชนิด ตั้งแต่ข้าวโพดชนิดต่าง ๆ ไปจนถึงปลาและอาหารทะเลสด แม้กระทั่งพืชผลต่างๆ ที่สามารถใช้ประกอบอาหารและเครื่องดื่มได้หลายอย่าง ซึ่งแม้แต่วัตถุดิบสำหรับเตกีลาอย่าง อะกาเว เอง ก็ขึ้นในบริเวณฝั่งละตินอเมริกาเช่นกัน สมบัติแห่งอเมริกาใต้ สัมผัสกับวัตถุดิบที่นำมาประกอบเวทมนต์บนโต๊ะอาหาร เมื่อพูดถึงอาหารเปรูแล้ว จะหลีกเลี่ยงการพูดถึงวัตถุไปก็คงจะไม่ได้ เพราะสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารเปรู คือวัตถุดิบที่มีความเฉพาะตัว รวมถึงกรรมวิธีที่ประกอบอาหารแบบดั้งเดิมซึ่งเป็นเสน่ห์ที่หาที่ใดอื่นมิได้ โดยจะขอนำเสนอวัตถุดิบหลัก ๆ ดังนี้ครับ Chicha de Jora เครื่องดื่มหมัก (เบียร์) แบบดั้งเดิมจากข้าวโพดเหลือง มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นดิน…

Read More

Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีครับเหล่าผู้มีรสนิยมการรับประทานอาหารที่เลิศล้ำทุกท่าน! ใกล้จะถึงวันสิ้นปีแล้ว ใครกำลังมองหาสถานที่สุดพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองการนับถอยหลังสู่ปีใหม่ หรืออยากลิ้มรสอาหารสุดอร่อยพร้อมเพลิดเพลินกับวิวเมืองกรุงเทพฯ สุดตระการตา ไม่ต้องไปไหนไกลเลยครับ! Fallabella River Front ที่ ICONSIAM พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นมื้ออาหารที่หลากหลาย เต็มไปด้วยความอร่อยระดับพรีเมียม หรือบรรยากาศหรูหราริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ทั้งโรแมนติกและมีสไตล์ รับรองว่าทั้งสายชิล สายชิม หรือสายชิค จะต้องประทับใจกันทุกคนแน่นอน อยากรู้ไหมครับว่าที่นี่มีอะไรให้ฟินกันบ้าง? บอกได้คำเดียวว่า “จองด่วน อย่ารอช้า!” ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมรายละเอียดกันเลยครับ! 🎉🍴✨ การเดินทาง การเดินทางมายัง ICONSIAM สะดวกสบาย เข้าถึงง่าย และมาได้หลายทิศทาง ทั้ง – รถไฟฟ้า BTS สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ลงที่ สถานีเจริญนคร (Charoen Nakhon) แล้วเดินเชื่อมเข้าสู่ศูนย์การค้า ICONSIAM ได้โดยตรง หรือหากมาทาง BTS สายสีเขียว ก็สามารถลงที่ สถานีสะพานตากสิน (Saphan Taksin) แล้วต่อเรือ Shuttle Boat จากท่าเรือสาทรมายัง ICONSIAM – เรือโดยสาร ICONSIAM มีบริการเรือ Shuttle Boat ที่จากท่าเรือสาทร ซึ่งให้บริการตั้งแต่ 09:00 – 23:00 น. ซึ่งรับลมชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มที่ – รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่ สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถยนต์ ICONSIAM มีที่จอดรถรองรับอย่างเหลือเฟือ รวมถึงสามารถหารถแท็กซี่ได้ง่ายเช่นกัน บรรยากาศ เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ Fallabella River Front ตรงบริเวณ Terrace ชั้น 6 สิ่งแรกที่จะดึงดูดความสนใจคือ วิวสุดอลังการของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมของร้าน…

Read More

Chef : Chef Fernando Corona / Chef Franco Aldana Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีครับ ท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารทุกท่าน ในค่ำคืนสุดพิเศษนี้ ทางทีมงาน Kinandleisure ขออนุญาตมาบอกเล่าประสบการณ์ทางอาหารเพื่อเรียกน้ำย่อยของทุกท่าน และเป็นการนำเสนอว่าอาหารไม่ได้เป็นแค่สิ่งบริโภค แต่คือศิลปะที่บรรจงรังสรรค์มาอย่างงดงาม ซึ่งในคราวนี้ เราได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมแห่งดินแดนละติน ผ่านงาน “4 Hands Dinner Mexico Meets Peru” ที่ได้นำพาเรามาสู่การค้นพบรสชาติที่สร้างความประทับใจ ตั้งแต่คำแรกจนถึงคำสุดท้าย รังสรรค์จากฝีมือเชฟเฟอร์นันโด ผู้มากประสบการณ์การปรุงอาหารเม็กซิกันแห่งโรงแรมบันยันทรี โคจรมาพบกับเชฟฟรังโก เชฟผู้เชี่ยวชาญจากเปรู โดยเชฟจากสองชาติได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์เมนูที่ผสานความเป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองชาติ เพราะวาดลวดลายให้เข้มข้นขึ้นจาก Inspirador ที่นำเสนอเครื่องดื่มสุดร้อนแรงจาก อะกาเว (Agave) ที่ให้พวกเราได้มาสัมผัสกันครับ ประสบการณ์ใหม่ ในที่แห่งเดิมสุดประทับใจ กับ Vertigo TOO ห้องอาหาร Vertigo TOO ตั้งอยู่ที่ชั้น 59 ของโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ และมีชั้นดาดฟ้าเป็น Vertigo ซึ่งด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองของโรงแรมบันยันทรี ทำให้วิวดาดฟ้าของที่นี่มีมูลค่าดั่งทอง คือท่านจะได้สัมผัสและรับลมยามค่ำคืน ชื่นชมทัศนียภาพยามสนธยาถึงในคืนที่มีหมู่ดาวเป็นฟ้า ซึ่งทั้งสองส่วนเป็นหนึ่งในตัวชูโรงของโรงแรมที่อยากให้ทุกท่านได้มาสัมผัส Welcome Drink และเมนูเรียกน้ำย่อย เริ่มต้นด้วย “Tiradito Nikkei” ซึ่งเป็นจานที่สะท้อนถึงการผสมผสานของอาหารญี่ปุ่นและเปรู ด้วยการใส่เนื้อปลาฮามาจิหั่นบางๆ จัดวางอย่างประณีตและราดด้วยซอสเปรี้ยวอมหวานที่มีกลิ่นหอมของเลมอนและพริกอาฮี (aji Amarillo) ซึ่งเป็นพริกเหลืองจากอเมริกาใต้ ให้สีเหลืองส้มสวยงาม รสชาติสดชื่น เข้มข้น แต่ละมุนไม่เผ็ดในคำเดียว ทานคู่กับข้าวเกรียบ และ Pairing กับ AQARÁ Destilado de Agave ที่ทำจากพืชตระกูลอะกาเว (Agave) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตเครื่องดื่มประเภทเตกีลาหรือเมซคาลที่มีชื่อเสียงในเม็กซิโก โดย AQARÁ เป็นแบรนด์เฉพาะที่มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่เน้นความประณีตและความพรีเมียม ช่วยเติมเต็มมิติของจานนี้ได้เป็นอย่างดีจากความเผ็ดร้อนด้วย 38%…

Read More

Chef : Massimiliano Scotti Story : Nuttawat J.. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีครับท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารทุกท่าน วันนี้ทางพวกเรา Kinandleisure มีประสบการณ์ทางอาหารอันน่ามหัศจรรย์จะมาเล่าสู่กันฟัง คือ ก่อนที่ได้รับประสบการณ์นี้ ใครจะไปเชื่อว่าเจลลาโต ที่เราเข้าใจว่าเป็นไอศกรีมของหวาน จะถูกนำมาตีความใหม่และใส่ความคิดสร้างสรรค์จนกลายมาเป็นอาหารจานหลักได้ ตอนแรกผมก็ยังแปลกใจ ว่าเอ๊ะยังไง ใครจะเชื่อ และทำได้อย่างไร แต่ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ มันได้เกิดขึ้นแล้ว แล้วเป็นประสบการณ์ทางอาหารที่น่ามหัศจรรย์ครั้งหนึ่งในชีวิตเลย ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ทางพวกเรา Kinandleisure จะขอบอกเล่าความเป็นมาอย่างละเอียดดังนี้เลยครับ พ่อมดแห่งเจลลาโต้ เชฟมาสซิมิเลียโน สก็อตติ (Massimiliano Scotti) เชฟ Massimiliano Scotti ได้นำเสนอประสบการณ์การทางอาหารจากเจลาโตระดับโลกในงานพิเศษที่ห้องอาหาร Vertigo TOO โรงแรม Banyan Tree Bangkok ซึ่งเชฟมาสซิมิเลียโนฯ ได้รับการจัดอันดับเป็นเชฟเจลาโตอันดับ 4 ของโลกจาก Gelato Festival World Ranking 2024 โดยงานนี้ต้องขอขอบพระคุณทางสถานทูตอิตาลีประจำประเทศไทย ที่ได้กรุณาจัดงานนี้ขึ้น และเชิญเชฟมากฝีมือท่านนี้มาวาดฝีไม้ลายมือ ณ แดนสยามเมืองยิ้มแห่งนี้ ซึ่งงานนี้เต็มไปด้วยเมนูเจลาโตที่หลากหลายและสร้างสรรค์ และสัมผัสความลงตัวของรสชาติที่เชฟออกแบบคิดค้นมาอย่างดี เพื่อมาให้เข้ากับเครื่องดื่มค็อกเทลต่างๆ ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างประสบการณ์การทานอาหารที่น่าจดจำและแสนวิเศษ เข้าสู่มื้ออาหารอันน่าประทับใจ เริ่มต้นด้วยการต้อนรับด้วยแก้วสปาร์คกลิ้งไวน์ จากแบรนด์ “Bottega”ที่มีความหอมหวานและความซ่าเพิ่มความสดชื่นก่อนเข้าสู่คอร์สเมนูพิเศษ ซึ่งแบรนด์จากอิตาลีนี้ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตไวน์และเหล้าในระดับพรีเมียม รวมถึงไวน์สปาร์คกลิ้งชื่อดังที่มีเอกลักษณ์คือขวดที่หรูหราสะดุดตา มีการรับรองมาตรฐานการผลิตในระดับ ISO 9001 Fishermen’s Bread Crumble ครัมเบิลของขนมปังกรุบกรอบ มีความเข้ากันได้ดีกับไอศกรีมมะเขือเทศที่มีทั้งความหวาน เปรี้ยว และรสชื่น รวมถึงกุ้งตัวมหึมา และใส่มอสซาเรลล่ารสชาตินุ่มนวล ซึ่งรสชาติของไอศกรีมมะเขือเทศทำออกมาได้เป็นธรรมชาติมาก เพิ่มความสดชื่นและเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี โดยจานนี้จับคู่กับค็อกเทล “Garden in Paradise” ที่มีส่วนผสมของรัม พีชทีคอร์เดียล มะเขือเทศเชอร์รี่ โหระพา มะนาว และโทนิกที่เพิ่มความเป็นสมดุลได้อย่างลงตัว มีความหวานสดชื่น ดื่มได้อย่างคล่องคอ Fried Pizza…

Read More

Chef : L : 11 2024 Story : Nuttawat J.. / Photo : Pol.Capt. Kittin A ราตรีสุดวิจิตร ธาราสุดตระการตา ล่องเรือสุดหรูพร้อมชมบรรยากาศความงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน กับ เรืออัปสรา (Apsara Cruise) สวัสดีท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารอีกครั้งครับ วันนี้ ทางทีมงาน Kinandleisure ขอมานำเสนอประสบการณ์ดินเนอร์ยามค่ำคืน พร้อมล่องเรือสุดหรู ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งมหานครยามค่ำคืน ซึ่งสำหรับท่านที่กำลังมองหาประสบการณ์อันแสนวิเศษนี้ ทางเครือโรงแรมบันยันทรีพร้อมภูมิใจเสนอ เรืออัปสรา (Apsara) ที่ปรับปรุงมาในโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม และพร้อมอย่างยิ่งที่จะทำให้ค่ำคืนอันธรรมดา กลายเป็นค่ำคืนอันแสนวิเศษ ด้วยองค์ประกอบทุกอย่างอันวิจิตรตระการตา ตั้งแต่ยามนั่งบนเรือ ยามชมวิว และยามรับประทานอาหารชั้นเลิศจากฝีมือเชฟยอดฝีมือ ที่พร้อมจะสร้างความประทับใจให้ท่านและผู้มาเยือนต่าง ๆ แน่นอน จะเป็นอย่างไรเรามารับชมไปพร้อมกันครับ ว่าด้วยเรืออัปสรา ยานนาวาอันเป็นงานศิลป์แห่งราตรี เรืออัปสรา เป็นเรือไม้สักแบบไทยที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้บริการอาหารชั้นเลิศ ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์อันแสนวิเศษ ในบรรยากาศแห่งความหรูหราและสงบงดงาม เรือมีการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามทั้งภายนอกและภายใน โดยมีคอนเซปที่น่าสนใจ คือ “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” ซึ่งนอกจากการล่องเรือไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เรียกได้ว่าเป็นมหาธาราแห่งกรุงรัตนโกสินทร์แล้ว เรืออัปสรา ยังพร้อมนำเสนอมรดกทางวัฒนธรรมไทยแบบโมเดิร์นด้วย ซึ่งประวัติของเรือ แรกเริ่มเดิมทีเป็นเรือบรรทุกข้าวสาร โดยได้นำเรือมาบูรณะใหม่ได้กลายมาเป็นสถานที่รับประทานอาหารที่หรูหราและสวยงาม ท่ามกลางวิวของแม่น้ำที่ไหลผ่านสถานที่สำคัญเช่น วัดอรุณฯ พระบรมมหาราชวัง ทำให้ทุกคนที่มารับประทานอาหารบนเรือสามารถสัมผัสประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ได้อย่างลึกซึ้งไปพร้อมกับมื้ออาหารชั้นเลิศ เส้นทางเรือ จะมุ่งหน้าจากท่าเรือ River City ซึ่งท่านผู้โดยสารสามารถเอารถมาจอดที่ห้าง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นเรือ โดยเรือจะแล่นไปจนถึงสะพานพระราม 8 ซึ่งระหว่างการเดินทาง ผู้โดยสารจะได้สัมผัสทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมกับชมสถานที่สำคัญและแลนด์มาร์คที่สำคัญต่างๆ ของกรุงเทพฯ ทั้ง ICONSIAM ท่ามหาราช ใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โบสถ์ Santa Cruz วัดอรุณราชวรารามที่มีพระปรางค์ที่งดงามและเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ และยังผ่านวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว โดยการเดินทางจะจบที่ สะพานพระราม 8 ที่เป็นสะพานขึงรูปทรงทันสมัยที่สวยงาม ที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมโยงฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี ซึ่งการล่องเรือผ่านเส้นทางนี้ไม่เพียงแต่ให้ผู้โดยสารได้ชมความงดงามของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่สวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาและความมีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืนอีกด้วย การตกแต่งภายใน สำหรับการตกแต่งภายในเรือนั้น เรียกได้ว่ามีความใส่ใจในทุกรายละเอียด ซึ่งภายในห้องอาหารจะตกแต่งด้วยวัสดุไม้…

Read More

สวัสดีท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารเลิศรสอีกครั้งครับ ในเดือนตุลาคม ทางทีมงาน Kinandleisure ขอนำเสนอการเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีนของร้านขนมฝรั่งเศสชื่อดังอย่าง Bijoux de Beurre Echire ที่มีอยู่สองสาขา ทั้งที่ Earth Ekamai และ The Emsphere ที่ได้จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อต้อนรับเทศกาลฮาโลวีนในปีนี้ ซึ่งก็ไม่ได้มาเล่น ๆ แต่มาพร้อมการนำเสนอขนมใหม่ในธีมฮาโลวีน ซึ่งผ่านการประดิษฐ์คิดค้นเมนูด้วยความคิดสร้างสรรค์โดยเชฟขนมผู้มากฝีมือ พร้อมการสร้างสรรค์เมนูขนมหวานด้วยเนย Echire สุดยอดเนยมาตรฐาน AOP จากฝรั่งเศสที่ผลิตจากนมวัวสดใหม่ทุกเช้าของวันที่ผลิต และใช้เฉพาะนมจากวัวที่เลี้ยงปล่อยในธรรมชาติ ปั่นเนยในถังไม้แบบดั้งเดิมทำให้หอมกลิ่นไม้โอ๊กและได้รสชาติและกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งขนมเหล่านี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาสวยงามชวนให้ลิ้มลอง แต่ยังเต็มไปด้วยรสชาติที่น่าตื่นเต้นและน่าประทับใจ Special Menu เริ่มต้นด้วย Spooky Croissant ครัวซองต์ที่ได้รับการปรับโฉมให้เข้ากับบรรยากาศเทศกาลฮาโลวีน โดยครัวซองต์ตัวนี้ทำจากช็อกโกแลตชั้นดีที่ให้ความเข้มข้นในทุกคำที่สัมผัส ด้านในมีไส้ช็อกโกแลตครีมและ Raspberry Compote ที่ทำให้เกิดรสชาติหวานมันจากตัวแป้งครัวซองต์และเนย รวมถึงได้ความเปรี้ยวเล็กน้อยที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งความพิเศษของครัวซองต์นี้ คือกลิ่นหอมของเนย Echire ที่ทำให้ Spooky Croissant เป็นขนมที่ไม่ได้มีเพียงแต่รสชาติที่น่าประทับใจ แต่ยังประกอบด้วยความหอมจนยากจะลืม ต่อมาเป็น Mango Passion Jack เป็นขนมที่มีหน้าตาโดดเด่นด้วยการตกแต่งเป็นฟักทองฮาโลวีน ภายในเค้กชิ้นนี้เต็มไปด้วยไส้มูสผลไม้มะม่วงเสาวรสที่สดชื่น เข้ากับเนื้อเค้กที่นุ่มละมุนได้อย่างดี กลิ่นและรสของมะม่วงและเสาวรสที่เปรี้ยวหอม รวมถึงการแต่งกลิ่นด้วยยูซุแบบเบาๆ แต่สัมผัสได้ ทำให้ Mango Passion Jack เป็นขนมที่ให้ความรู้สึกสดชื่นในทุกคำ ที่สำคัญที่สวยงามมากจนถ่ายรูปเก็บไว้แบบรัว ๆ เพลิดเพลินกับของหวานระดับคุณภาพอื่น ๆ จากผลิตภัณฑ์เนย Echire นอกจากของหวานประจำเทศกาลที่สร้างความตราตรึงใจและรูปที่ออกมาสวยงามจนต้องถ่ายเซฟเก็บไว้ในโทรศัพท์รัว ๆ แล้ว ทางร้าน ยังมีขนมหวานเปี่ยมคุณภาพต่าง ๆ อีกหลายเมนูที่พร้อมจะสร้างความประทับใจให้กับทุกท่าน อาทิ Pandan Coco Delight เมนูขนมหวานที่นำเสนอความเป็นไทยผสมผสานกับความร่วมสมัยอย่างลงตัว Pandan Coco Delight เป็นการผสมผสานของกลิ่นและรสชาติที่อบอวลจากวัตถุดิบหลักของไทยอย่างใบเตยและน้ำนมมะพร้าว โดยใบเตยนั้นเป็นตัวชูโรง ให้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งสีเขียวที่สวยงามสะท้อนถึงธรรมชาติในทุกคำที่ลิ้มลอง เนื้อสัมผัสของขนม นั้นนุ่มละมุน จากน้ำนมมะพร้าวที่มีความเข้มข้นและหอมมัน กลิ่นมะพร้าวที่แทรกซึมไปในทุกชั้นของขนมทำให้ได้ความรู้สึกสดชื่น และเมื่อผสานกับใบเตยที่ให้ความหอมหวานอันละเอียดอ่อน ยิ่งทำให้เมนูนี้เป็นขนมที่สามารถนำเสนอรสชาติที่กลมกล่อมได้อย่างลงตัว สิ่งที่เพิ่มความพิเศษให้กับ Pandan Coco Delight…

Read More