ฉลองวันแม่ ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ วันที่ 12 สิงหาคม 2563 โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมสร้างความทรงจำแสนพิเศษ อิ่มอร่อยท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเองในครอบครัว พร้อมเฉลิมฉลองวันพิเศษให้คุณแม่ด้วยอาหารชั้นเลิศจากหลากหลายห้องอาหารของโรงแรมฯ ในวันที่ 7-12 สิงหาคม ศกนี้ มอคค่า แอนด์ มัฟฟินส์ วันที่ 7 – 12 สิงหาคม 2562 เวลา 7.00 – 19.00 น. เติมความหวานต้อนรับเทศกาลวันแม่ด้วยช็อกโกแลตโฮมเมด ขนมมาการอง เค้กช็อกโกแลต ชีสเค้กสุดพิเศษ และอีกมากมายให้ได้เลือกสรรเพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับคุณแม่ ราคาเริ่มที่ 135 บาท+ ขึ้นไป เดอะ ล็อบบี้ วันที่ 7 – 12 สิงหาคม 2562 เวลา 14.00 – 18.00 น. เพลิดเพลินกับการจิบชามาคิยาจ แฟรส์ และเซ็ตอาฟเตอร์นูนทีกับหลากเมนูของว่างคาวหวาน เคล้าเสียงเปียโนบรรเลงในล็อบบี้เลาจน์ที่งดงามเลอค่า ราคา 850 บาท++ ต่อเซ็ต พิเศษ! คุณแม่ทุกท่านรับ sparkling rosé ฟรี 1 แก้ว บุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน วันพุธที่ 12 สิงหาคม 2562 เวลา 12.00 – 14.30 น. เฉลิมฉลองวันแม่ 12 สิงหาคมนี้ ด้วยเซ็ตเมนูอาหารอิตาเลียน ที่ห้องอาหารบิสก็อตติ หรืออาหารยุโรป 3 คอร์สเมดิสัน เสต็กเฮ้าส์ มื้อกลางวัน ราคา 1,200บาท++ ต่อท่าน พิเศษ! คุณแม่รับสิทธิทานฟรี เมื่อมา 4 ท่านขึ้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ (BTS ราชดำริ) โทร. 0 2126 8866 หรืออีเมล [email protected] เว็บไซต์ www.siam-bangkok.anantara.com Kin Promo Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ…
Author: athiwat tripipitsiriwat
เป็นอย่างไรกันบ้างครับทุกท่าน คิดถึงการจัดเต็มกับเหล่าอาหารคุณภาพกันแล้วใช่ไหมครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นผมขอแนะนำ The Seafood Night ที่โรงแรม Shangrila Bangkok ! ท่านจะได้อิ่มหนำ สำราญไปกับอาหารคุณภาพสูงมาตรฐาน Next 2 cafe ไม่ว่จะเป็น Lobster ตัวโตๆสดๆทั้งส่วนหัวที่ทั้งมันทั้งไข่ เนื้อแน่นๆเด้งๆหวานๆ ก้ามดึ๋งๆ จะกินแบบนึ่งหรือปิ้งย่างให้เชฟทำได้หมด สารพัดหอยนางรมจากทั่วโลกหลากหลายสายพันธุ์ ฟัวกราส์ อาหารอินเดียที่อร่อยที่สุดในย่านริมน้ำที่แม้แต่คนไม่กินอาหารอินเดียยังต้องเติมเอาเติมเอา ซูชิซาซิมิ สารพัดอาหารจีน ไทย ตะวันตก ขนมหวานละลานตา และทั้งหมดไม่อั้น ! ซึ่งมาพร้อมกับวิวริมเจ้าพระยาอันแสนงดงาม จะนั่งชมแม่น้ำแบบเกาะติดกลางแจ้ง หรือชมแม่น้ำแบบสวยๆเย็นๆในห้องปรับอากาศภายในก็ดี ที่สำคัญคือมาตรการกินอย่างปลอดภัยที่มีพนักงานคอยตักให้ แต่ยังเดินชมเลือกอาหารผ่านฉากกั้นกันการแพร่เชื้อได้ เรียกได้ว่าครบอารมณ์การกินบุฟเฟ่ต์และยังปลอดภัย!The next best thing @ Next 2 Café: The Seafood Night At a glance 🦞บุฟเฟต์ ล็อบสเตอร์ตัวโตเต็มตัว ไม่อั้น ไม่จำกัดจำนวน พร้อมอาหารนานาชาติ ของหวานและเครื่องดื่ม ในห้องอาหารหลักของ Shangrila📅คืนวันศุกร์ และ วันเสาร์ 18.30 – 22.00 น.😍ราคา 1,980 บาท ต่อ คน รวมเครื่องดื่มแล้ว (เด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี รับประทานฟรี)📱รายละเอียดเพิ่มเติม 02-236-7777 หรือ 02-236-9952💡Tips: อย่าลืมเผื่อท้องสำหรับอาหารอินเดีย ของเค้าเด็ดจริงKINLAKESTARS บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลระดับพรีเมียมที่ทุกคนโหยหาได้กลับมาแล้ว ที่ Next 2 Café ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มจัดบุฟเฟ่ต์พิเศษทุกคืนวันศุกร์ และ เสาร์ ที่มาพร้อมอาหารทะเลตัวโต, การจัดบุฟเฟ่ต์วิถีใหม่ มาตรฐานแบบ New Normal และราคาสุดพิเศษ ซึ่งจะมีอะไรบ้างวันนี้เราจะพาไปดูกันครับ Next 2 Café Next 2 Café เป็นห้องอาหาร…
ในครั้งนี้ Kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปพบกับการกินอาหารชั้นเลิศ พร้อมกับบริการที่ดีเยี่ยม บนเรือไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในท้องน้ำเจ้าพระยา ที่จะพ่ทุกท่านล่องลำน้ำเจ้าพระยา ชมความสวยงามให้หวนนึกถึงวิถีชีวิตของชาวบางกอก สุดแสนจะโรแมนติก หรือแม้จะเป็นบรรยากาศสังสรรค์ของกลุ่มเพื่อนจัดปาร์ตี้เช่าเหมาลำก็ทำได้ เรามาดูกันเลยดีกว่าครับว่าเกือบรึที่เราจะพาทุกท่านมาชมในครั้งนี้มีความพิเศษอย่างไร หากจะกล่าวและให้นึกถึงความเป็นกรุงเทพฯ สิ่งที่ท่านไม่สามารถที่จะไม่กล่าวถึงหรือคำนึงถึงได้นั่นคือ “วิถีชีวิตของผู้คนและสายน้ำ” แม่ในปัจจุบันทุกวันนี้เราจะใช้การคมนาคมส่วนใหญ่บนบก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถประจำทาง รถไฟฟ้า แต่ทว่าว่าจุดเริ่มต้นของวิถีชีวิตชาวบางกอกนับแต่อดีตมาสายน้ำคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิต และเป็นส่วนสำคัญของอารยธรรม ไม่ว่าจะใช้ลำน้ำในการเดินทาง การทำกสิกรรม การเลี้ยงสัตว์ แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์วัฒนธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบทเพลง จิตรกรรม ศิลปะกรรม การละเล่น แหล่งหาวัตถุดิบในการปรุงอาหาร สวนไม้สักนั้นเป็นไม้ที่ชาวสยามนิยมนำมาใช้สร้างเรือน สร้างเฟอร์นิเจอร์ สำหรับเหล่าบรรดาคหบดี เจ้านาย ส่วนถ้าเกิดเป็นประชาชนไพร่ฟ้าทั่วไปมักจะสร้างเป็นเรื่องเครื่องผูกมากกว่าเรือนเครื่องสับ ในตามชนบทเรือนเครื่องสับที่ประชาชนรวมถึงเจ้านายก่อสร้างขึ้นสร้างจากไม้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ตะเคียน ไม้ประดู ไม้พะยูง และไม้ที่นิยมนำมาสร้างมากนั้นก็คือไม้สัก เพราะในเนื้อไม้สักมียางบางชนิดที่แมลงจำพวกปลวกไม่ชอบ คนจึงมักพูดกันปากต่อปากว่าไม้สักปลวกไม่ขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องโดยทีเดียว เพราะถ้าหากจะกล่าวให้ถูกคงต้องพูดได้ว่าไม้สักเป็นไม้ที่ปลวกไม่นิยมกิน แต่ถ้าหากไม่มีไม้ชนิดอื่นให้กินก็เป็นอาหารของปลวกก็กินเช่นกัน ด้วยระดับความแข็งของเนื้อไม้เหมาะสมกับการแกะสลักลวดลายที่สวยงามรวมถึงสีที่เป็นที่นิยมของชาวสยามนั่นก็คือไม้สัก ไม้สักนั้นมีมากมายหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นสัตว์ขี้ควายไม้สักทั่วไปแต่ไม้สักที่คนนิยมและให้ค่ามากเป็นอย่างยิ่งคือไม้สักทอง ดังนั้นการนำไม้สักทองมาทำเรื้อนี้จริงสะท้อนถึงความหรูหราตั้งแต่วัสดุ Pruek Cruise ประสบการณ์แปลกใหม่ที่นำเสนอการตั้งค่าสุดพิเศษและเป็นส่วนตัวสำหรับการเฉลิมฉลองการพบปะสังสรรค์และการพบปะสังสรรค์ที่น่าจดจำทุกประเภท Champagne Bar First FIoor เป็นสถานที่และมุมอันดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่ม ที่หลายคนเมื่อขึ้นมาบน Pruek Cruise ต้องประทับใจ ลักษณะเป็นบาร์หินอ่อนที่สวยงามบนเรือชั้นหนึ่ง ที่นี่ท่านสามารถดื่มด่ำไปกับค๊อกเทลอันเป็นเอกลักษณ์หรือจิบแก้วแชมเปญ PIPER-HEIDSIECK บริเวณเลานจ์ชั้นหนึ่งมุมนี้ ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและเก๋ไก๋ บริเวณจุดนั่งเล่นท้ายเรื่อช่วยให้แขกสามารถเอนกายและผ่อนคลายอย่างมีสไตล์ในขณะจิบเครื่องดื่มชมในพระอาทิตย์ตกดินที่งดงามของเจ้าพระยา เบาะสีขาวนุ่มๆกับหมอนสีแดง มีฉากหลังเป็นทัศนียภาพเมืองที่เรียงตัวอยู่สองข้างแม่น้ำเจ้าพระยา มีทั้งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สถาปัตยกรรมเก่าแก่หลายร้อยปี ผสมผสานกันอย่างลงตัว ดูกลมกล่อมและสะท้อนวิถีชีวิตแห่งสายน้ำออกมาได้อย่างดี ห้องอาหารหลักชั้นสองเองก็มีหลากหลายโซน ทั้งพื้นที่กินดื่มภายนอก ที่สามารถสัมผัสบรรยากาศแม่น้ำได้อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพเปิดโล่ง ไร้กระจักบัง สายลมประทะไปกับผิวกาย เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับการมีบริเวณรับประทานอาหารให้เลือก และมุมกินดื่มภายใน ที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศของเรือ ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ชื่นชอบของแขก ซึ่งท่านยังสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามผ่านกระจกใสบานโตที่สูงจากพื้นจรดเพดาน เหมาะกับสภาพอากาศของบางกอก โซฟา Cocooning ริมหน้าต่างเหมาะสำหรับการสังสรรค์ หรือคู่รักแสนโรแมนติก ระเบียงส่วนตัวชั้นสองในขณะที่มีพื้นที่กลางแจ้งที่หลากหลายบริเวณรับประทานอาหารที่ติดเครื่องปรับอากาศของเรือก็เป็นที่ชื่นชอบของแขกของเรา โซฟา Cocooning ริมหน้าต่างเหมาะสำหรับการสังสรรค์ ต่อไปมาดูในส่วนของอาหารสุดพิเศษของเรือ Pruek กันครับ COCKTAIL Upland hours สีชมพูสดใส หวานชื่นใจกำลังดีเจือรสสัปปะรดแซม Appetizers Appetizers…
Bull and Bear Waldorf Astoria Bangkok, Steak House ที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ มื้ออาหารค่ำสุดพิเศษ ท่ามกลางแสงไฟจากเมืองระยิบระยับอาจจะเป็นภาพในฝันสำหรับหลายๆ คนที่โหยหาร้านอาหารค่ำสุดคลาสสิค ที่ปัจจุบันหาได้ยากเหลือเกิน วันนี้ kinlakestars.com จะขอแนะนำร้านอาหารสุดพิเศษที่จะตอบทุกโจทย์ของคำว่า “มื้อพิเศษ” Bull & Bear Waldorf Astoria Bangkok เป็นร้านอาหารที่ได้ชื่อเดียวกับตัวร้านต้นตำหรับของสาขานิวยอร์ก ซึ่งเป็น Steakhouse เก่าแก่ ที่ให้บริการนักธุรกิจ บุคคลสำคัญในนิวยอร์กมาตั้งแต่ยุค ’50 ตกแต่งด้วยสไตล์รีเจนซี่ ที่ให้ความรู้สึกหรูหราแบบคลาสสิค ด้วยโทนน้ำตาล ดำ เครื่องหนัง บรรยากาศที่มีเอกลักษณ์ เมื่อเดินเข้าไปก็จะได้ยินเสียงเพลงแจ๊ซ เจือเสียงพูดอื้ออึงที่ได้ยินไกล ๆ เสียงจาน และแก้วไวน์ที่ให้ความรู้สึกประหนึ่งเราเป็นตัวเอกในภาพยนต์ฮอลลีวูด ซึ่ง Waldorf Astoria Bangkok ก็ได้จำลองบรรยากาศเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี และยังใส่กิมมิกพิเศษสำหรับประเทศไทยด้วยลวดลายจากผ้าไหมทางเหนือ มาตกแต่งบนเพดาน ไว้อย่างสวยงาม นอกจากนี้วิวกรุงเทพ ฯ ในจุดที่แทบไม่เห็นตึกสูงอื่น ๆ บัง ทำให้กล้าพูดได้เลยว่าเป็นห้องอาหารที่วิวสวยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพเลยครับ ทั้งหมดมาพร้อมกับการบริการมาตรฐาน Waldorf Astoria สเต็กที่ Bull & Bear ทุกชิ้นจะถูกปรุงอย่างพิเศษด้วย เตาที่สั่งทำพิเศษนำเข้า ซึ่งสามารถรมควัน และย่างเนื้อไปพร้อม ๆ (Grill & Smoke) ซึ่งเตานี้ในประเทศไทยมีอยู่ที่ Bull & Bear เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ทำให้เมนูสเต็กของที่นี่มีกลิ่มหอมของควันในทุก ๆ คำที่รับประทาน นอกจากนั้น Chef de cuisine คนล่าสุด Daniel Masters ได้นำเนื้อสุดพิเศษจาก Australia คือ David Blackmore Wagyu มาใช้ ซึ่งเป็นเนื้อวากิวสายพันธุ์แท้ที่นำมาเลี้ยงในพื้นที่ฟาร์มอันอุดมสมบูรณ์ในประเทศออสเตรเลีย ที่กวาดรางวัลมาแล้วทั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยมีร้านอาหารที่ใช้ David Blackmore…
วันนี้ Kinlakestars จะพาทุกท่านไปลองอาหารจีนกวางตุ้งใจกลางเมือง เดินทางสะดวกใกล้ทั้งรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดงและ MRT สีลม หลังจากที่ปิดปรับปรุงไปประมาณ 3 เดือน ชื่อห้องอาหารจีน Xin Tian Di (ซิน เทียน ตี้) ตั้งอยู่ชั้นที่ 22 โรงแรม คราวน์ พลาซ่า (Crowne Plaza) กรุงเทพ ลุมพินี พาร์ค เรามาดูกันเลยว่าหลังจากปิดปรับปรุงไปแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง เดิมห้องอาหารจะตกแต่งเป็นสไตล์จีนคลาสสิคแต่จะใช้โทนสีแดงเป็นหลัก เช่น สีผ้าของเก้าอี้ ม่าน แต่หลังจากปรับปรุงแล้วใช้เป็นโทนสีเหลือง ทอง ให้ความรู้สึกเป็นสไตล์จีนสมัยใหม่ ทันสมัย ดูสะอาดตา แต่ยังคงความหรูหรา อบอุ่น บรรยากาศภายในห้องอาหารจะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่เรียงรายไปด้วยโต๊ะจีนหลากหลายขนาด ทั้งโต๊ะกลม โต๊ะเหลี่ยม ขนาด 4 ที่ จนถึง 10 ที่ รอบๆห้องโถงจะมีห้องส่วนตัวอยู่ 5 ห้อง ห้องส่วนตัวจะมีแบบติดกระจก สามารถมองเห็นวิวสวยใจกลางเมืองกรุงเทพจากมุมสูงได้ ซี่โครงหมูทอดซอสพิเศษเลิศรส (Deep fried pork spare rib with garlic in superior sauce) ขอเริ่มจากจานนี้แล้วกัน ซี่โครงหมูซอสน้ำผึ้งพิเศษ คือ เป็นเนื้อส่วนซี่โครงที่ถูกนำไปเลาะกระดูกออกเรียบร้อยแล้ว แล้วจึงนำมาปรุง จานนี้เป็นอีกจานที่ชอบ คือ หมูมีความนุ่มกำลังดี ไม่ได้เหนียว หรือ รู้สึกนุ่มจนเกินไป ซอสที่เคลือบหมู ก็มีรสชาติเค็มอมหวาน หอมกลิ่นน้ำผึ้ง ใครที่ได้มาลิ้มลอง ต้องบอกว่าว่าไม่ควรพลาดสำหรับจานนี้ ปูนิ่มทอดซอสไข่แดง (Deep fried soft shell crab with salted egg yolk) ไข่เค็มคลุกเคล้ากับอะไรก็อร่อยนั้นก็เป็นวลีอมตะ ยิ่งกับปูนิ่มแล้วนั้นยิ่งอร่อยเด็ด ปูนิ่มชุบแป้งบางๆทอดจนเหลืองกรอบ ไม่อมน้ำมัน ราดด้วยซอสไข่แดงเข้มข้น มัน เค็ม รสชาติเผ็ดนิดๆจากพริกขี้หนู เลยทำให้รู้สึกไม่เลี่ยน…
“อาหารของชาติไหนที่ดีต่อสุขภาพที่สุด ?” ถ้าใครมีคำถามนี้อยู่ในใจ หรือ เคยสืบหาข้อมูลก็จะเจอคำตอบหลากหลายแบบ แต่ทุก ๆ ครั้งที่ค้นหาจะต้องพบ อาหารเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Diet) ขึ้นมาในสารบบของการค้นหาแน่นอน นั่นก็เพราะว่า อาหารเมดิเตอร์เรเนียนนั้น เป็นที่รู้กันดีในวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพว่ามีองค์ประกอบหลายอย่างที่เหมาะแก่การบริโภคเพื่อสุขภาพ และป้องกันโรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหัวใจและหลอดเลือด ข้อสังเกตว่าอาหารเมดิเตอร์เรเนียนนั้นอาจจะดีต่อสุขภาพ เริ่มมีการพูดถึงตั้งแต่ราว ๆ ปี 1960 เมื่อแพทย์ในอเมริกา และยุโรปเริ่มตั้งข้อสังเกตว่า ผู้คนแถบเมดิเตอร์เรเนียนนั้น เมื่ออายุมากก็ยังกระฉับกระเฉง มีอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดต่ำกว่าในอเมริกาและยุโรปเหนือชัดเจน เป็นที่มาของการค้นพบว่า อาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่อุดมไปด้วยธัญพืช ถั่ว ปลา ไขมันไม่อิ่มตัวจากน้ำมันมะกอก นั้นสามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ มีการศึกษายืนยันข้อเท็จจริงนี้มากมาย ทำให้การกินอาหารแบบชาวเมดิเตอร์เรเนียนถูกบรรจุลงในตำราแพทย์ว่า เป็นวิถีการกินแบบหนึ่งที่ดีต่อสุขภาพและอาจจะแนะนำให้ผู้ป่วยให้ลองบริโภคดูได้ ซึ่งวันนี้ kinlakestars.com จะแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับร้านอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่จะสร้างความประทับใจให้ทุกท่านได้ด้วยอาหารที่อร่อย และยังดีต่อสุขภาพที่ ห้องอาหาร ALATi ประจำโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ซึ่งเพิ่งออกเมนูใหม่ที่ทั้งสวยงาม และ แปลกใหม่รอทุกท่านไปลิ้มลอง โดยตัวอาหารเมอดิเตอเรเนียนนั้นนี่นั้นมีความหลากหลายตามภูมิภาค แม้ภูมิภาคนี้จะไม่ได้ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่มากแต่ก็มีความหลากหลายสูง ตั้งแต่ทะเลทรายโมร็อคโค ชายฝั่งตุรกี ท่าเรือตอนใต้ของฝรั่งเศส เกาะแก่งตามอิตาลีตอนใต้ ฯลฯ ซึ่ง ALATi ไม่ได้นำเสนอเฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น แต่ได้รวบรวมอาหารจานเด่นจากทุกๆ ประเทศในแถบนี้มารอให้ทุกท่านไปลิ้มลอง ALATi ห้องอาหาร ALATi แห่งนี้ตั้งอยู่ชั้นล็อบบี้ของโรงแรมสยามเคมปินสกี้ ชื่อว่า ALATi นั้นได้มาจากภาษากรีกที่แปลว่า “เกลือ” เมื่อทุกท่านเดินเข้ามาก็จะพบกับบรรยากาศร้านที่ตกแต่งใหม่ ด้วยโทนฟ้าน้ำทะเล เย็นสบาย คุมธีมไปจนถึงเครื่องถ้วยจานชามกระเบื้อง ชวนให้คิดถึงบรรยากาศการกินอาหารริมทะเลซานโตรินี แต่ยังคงแฝงความเข้มหรูหราสไตล์เคมปินสกี้ ความแตกต่างแรกเริ่มตั้งแต่ ก่อนอาหารจานแรกจะเสิร์ฟ ที่นี่จะเสิร์ฟขนมปังหลากหลายชนิด โดยมีความพิเศษ คือการให้กินคู่ไปกับน้ำมันมะกอกและเกลือ แทนที่จะเป็นเนยนั่นเองครับ The Menu: Appetiser อาหารของ ALATi นั้นจะรวบรวมสุดยอดเมนูอาหารเมดิเตอร์เรเนียนมาอย่างครบครัน ซึ่งครั้งนี้เชฟได้นำอาหารว่างมาแนะนำก่อนได้แก่ Spinach and Feta Cheese Pide Pide หรือ พีเด เป็นหนึ่งในอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของตุรกี โดยจะเป็น…
อาหารอิตาเลียนเป็นอาหารตะวันตกที่คนไทยน่าจะคุ้นชินกันที่สุด มากกว่าอาหารสเปน เยอรมัน และฝรั่งเศสแน่นอน ด้วยความที่รสชาติและสัมผัสมีความเข้าใจง่าย จึงทำให้มีร้านอาหารอิตาเลียนเปิดขึ้นอย่างมากมายเป็นดอกเห็ด แต่ทว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้อาหารอิตาเลียน ณ La casa nostra แตกต่างจากที่อื่น? ความเงียบสงบ ความอบอุ่น ? วัตถุดิบชั้นเลิศ? ฝีมือการปรุงขั้นเทพ? คำตอบคือทั้งหมดนั้นเลยครับ สำหรับรูปแบบของอาหารและการนำเสนอบรรยากาศร้าน แห่งนี้จะเป็น Rustic Style หรือ Industrial Loft แล้วแต่จะเรียกกัน เป็นแนวที่เน้นความดิบของของวัสดุ ที่นำมาใช้งาน อย่างเช่นงานไม้ ก็จะเป็นไม้ที่โชว์เนื้อไม้ธรรมชาติ การตกแต่งแนวนี้ เป็นที่นิยมกันอย่างมาก ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่ชื่นชอบ ในความไม่ยึดติดกับรูปแบบตายตัว ไม่เน้นแบบแผน ไม่เป็นทางการ ซึ่งก็แสดงออกมาในการตกแต่งของร้าน ส่วนอาหารก็เน้นความสด รสและสัมผัสดึงจากวัตถุดิบ เช่นชีส มะเขือเทศ ผักต่างๆ เนื้อปลา หอย เป็นต้น เน้น Imported product เพื่อสร้างรสชาติอิตาเลียนแท้และดั้งเดิมมีการใช้วัตถุดิบจาก ทุกภูมิภาคของอิตาลี ซึ่งต่างจากร้านอาหารอิตาเลียนตามตลาดที่เน้นการใช้เครื่องปรุง จะพิเศษ และแตกต่างอย่างไร วันนี้ Kinlakestars.com จะขอนำทุกท่านดูไปชมกันเลยครับ The Menu ก่อนจะเริ่มกินอาหารต่างๆ เรามาชิมสิ่งที่ร้านอิตาเลียนมักเสิร์ฟก่อนมื้ออาหาร นั่นก็คือขนมปัง น้ำมันมะกอก และบัลซามิคนั้นเองครับ สำหรับขนมปังที่นี่เสิร์ฟเป็นขนมปังบาแก็ตหั่นเป็นชิ้นๆ แถมพ่วงน้ำมันมะกอกคุณภาพสูงมาด้วย ซึ่งที่นี่จะแนะนำให้นำขนมปังกินคู่แค่กับน้ำมันมะกอกสดๆ จะไม่เอามากินผสมกับบัลซามิก ส่วนบัลซามิคของร้านนี้จะใช้ บัลซามิกแท้ๆ ที่ร้านอื่นๆมักไม่นำมาใช้กันเพราะแพงมาก ถ้าได้ลองดม ก็จะได้กลิ่นที่หอมมาก ความหนืดคล้ายไซรัป และรสติดออกหวานๆ แค่ขวดที่ใส่ก็จะรู้สึกได้ถึงความพิเศษและความหรูหรา Burrata E Pomodorini (580) Burata & Tomatoes จานนี้ ใช้ Fresh burata จากอิตาลี ซึ่งเชฟโฆษณาว่าสดใหม่ ต้องนำเข้าแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์เลยทีเดียวเชียวครับ ซึ่งเมนูนี้ทำจาก Burata ที่ขึ้นชื่อ ที่ถือว่าดีที่สุดแม้แต่ในอิตาลีเอง เป็น Burrata ที่นำมาจาก Puglia…
หลังจากแนะนำการออกแบบเพื่อความยั่งยืนของ Soneva Kiri ซึ่งเป็น Ep.1 ของเรา Soneva kiri กับ Sustainable design ความ Luxury ที่มาพร้อมกับความรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม นิยามแห่งการพักผ่อนโดยสมบูรณ์แบบ <คลิกที่นี่เพื่ออ่านต่อ> และSoneva Ep.2 ที่พาไปลองชมทรีทเมนต์จากเมนูสปาของ Six Senses เพื่อเริ่มต้นการเดินทางทางประสาทสัมผัสโดยไม่ต้องออกจาก Soneva Kiri สปาที่ผุดขึ้นมาจากผืนทะเลและรายล้อมด้วยป่าชายทะเล <คลิกที่นี่เพื่ออ่านต่อ> ในครั้งนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับการเดินทางสู่รีสอร์ตแห่งนี้ที่ไม่เหมือนใคร ! Private Jet ที่จะนำทุกท่านสู่ Soneva kiri หนึ่งในสิ่งที่โรงแรมได้จัดไว้ให้คือ การเดินทางโดย Private plane ท่านสามารถเลือกการเดินทางไปยังรีสอร์ตได้อย่างสะดวกสบายโดยใช้ Private plane ขึ้นจาก สนามบินสุวรรณภูมิ มาที่โรงแรมด้วยความรวดเร็วและสะดวกสบาย ใช่แล้วครับ “เครื่องบินส่วนตัว” หนึ่งในประสบการณ์ที่นาลองดูสักครั้ง พร้อมกับ “สนามบินส่วนตัว” ของรีสอร์ต ไม่ต้องรอเบียด ยัดเยียดแออัดกับใคร ซึ่งหาไม่ได้ในที่รีสอร์ตอื่นของประเทศสยาม สำหรับจุดเริ่มต้น เครื่องจะให้บริการจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และบินตรงสู่เกะไม้ซี้ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆที่ทางรีสอร์ท Soneva kiri เช่าไว้และทำเป็นสนามบินส่วนตัว แม้การเดินทางสู่รีสอร์ตแห่งนี้จะมีวิธีอื่นเช่น การนั่งรถและเรือ แต่เราขอแนะนำวิธีการใช้เครื่องบินและบินตรงเพื่อประสการณ์ที่เหนือระดับของการพักผ่อน เมื่อถึง counter check-in D24 ซึ่งจัดไว้เป็นพิเศษสำหรับ Soneva Kiri โดยเฉพาะ จะมีเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ตจัดการกระเป๋าให้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพาเดินนำทางพาท่านไปพักผ่อนที่ Business Lounge ของ Bangkok Airways ท่านสามารถเพลิดเพลินกับของกินและเครื่องดื่มภายในห้องรับรอง รวมถึงบริการอื่นๆท่จัดเตรียมไว้อย่างพร้อมเพียง หลังจากพักผ่อน กินข้าวกันเป็นที่เรียบร้อยพอสมควรแล้วพนักงานจะพาไปขึ้นเครื่องบิน Private plane โดยความพิเศษอีกอย่างคือการไม่ต้องต่อแถวรอเหมือนการขึ้นเครื่องที่โดยสารโดยสายการบินพาณิชย์ทั่วไป เจ้าหน้าที่จะพาเดินขึ้นรถและรถจะขับพาทุกท่านส่งตรงถึงหน้าบันไดขึ้นเครื่อง หลังจากขึ้นเครื่องเป็นที่เรียบร้อย ท่านจะได้พบกับเบาะที่นั่งที่ให้ความรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย และอบอุ่นเหมือนห้องนั่งเล่นที่บ้าน เบาะมีลักษณะต่างไปจ่ากที่นั่งบนเครื่องบนสายการบินพาณิชย์ทั่วไป นั้นคือมีลักษณะเหมือนโซฟาหนังที่ใช้บนภาคพื้น ความหนาและความนุ่มนั่งสบายๆ สามารถปรับหมุนได้รอบ 360 องศาในกรณีที่มาเป็นหมู่คณะและต้องการสังสรรค์ คนขับเครื่องบินและผู้ช่วยจะกล่าวแนะนำตัวกับแขกอย่างสุภาพและเป็นกันเอง หลังจากเครื่องค่อยๆทะยายขึ้นฟ้าท่านก็จะได้สัมผัสกับ “So over the top” ของ…
ตามธรรมเนียมหน้าร้อนแบบนี้ อาหารไทยที่ถูกพูดถึงและเหมาะที่จะนำมารับประทานเพื่อคลายร้อนได้ดีที่สุดก็คงจะต้องยกให้ ‘ข้าวแช่’ อาหารไทยโบราณที่มีส่วนผสมวัตถุดิบต่างๆ ซึ่งต้องใช้แต่ของที่มีคุณภาพนำมาผ่านกรรมวิธีการทำอันซับซ้อนและปราณีต ออกมาเป็น ‘ข้าวแช่’Dr. Athiwat T. วันนี้ KinlakeStars.com จะพาทุกท่านไปชิมข้าวแช่จากโรงแรม 5 ดาวในราคาแสนพิเศษเพียงชุดละ 250 – ส่งตรงถึงบ้าน เมนูอาหารที่ชาวไทยในสมัยก่อนนิยมรับประทานเพื่อคลายร้อนได้ดีที่สุด คงหนีไม่พ้นเมนูข้าวแช่ ซึ่ง Banyan tree bangkok ได้เตรียมมาไว้ให้คุณได้ลิ้มลองตลอดเดือนเมษายนนี้ ท่านจะได้พบกับเมนู “ข้าวแช่ในน้ำมะลิอบควันเทียน” โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ขอเชิญคุณมาดับร้อนด้วยข้าวแช่ตำรับชาววัง ที่เชฟพิถีพิถันจัดเตรียมนำข้าวมาแช่ในน้ำอบเทียนลอยดอกมะลิหอม รับประทานพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ลูกกะปิ พริกหยวกสอดไส้ เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน เครื่องผัดหวานต่างๆ และผักสดที่จัดเตรียมไว้อย่างสวยงาม ความกลมกล่อมลงตัวของข้าวแช่เย็นๆ รวมกับเครื่องเคียงแต่ละชนิดที่ออกรสหวาน ส่งให้ได้รสชาติที่ หวาน หอม เย็นชุ่มชื่นใจ รับประทานแล้วจะช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี พร้อมเสิร์ฟถึงบ้านคุณเพียงชุดละ 250 ระหว่างวันนี้ถึง 30 เมษายน พศ 2563 มาถึงเครื่องเคียงกันบ้างครับ ปีนี้ทางห้องอาหารมีเครื่องเคียงมาให้ 6 อย่าง แต่จะเสิร์ฟมาในพอชั่นที่กำลังพออิ่ม หมือนปีที่แล้ว ทางห้องอาหารมองว่าอยากให้ลูกค้ามีเนื้อที่ในท้องเอาไว้ชิมอาหารสุดอร่อยอย่างอื่นอีกครับ แม้ราคาจะเบาสบายกระเป๋า แต่เครื่องเคียงเขาก็ครบเครื่องนะครับ เครื่องเคียงก็มีดังนี้ครับ ไชโป้วกรอบผัดหวาน ไช้โป้วผัดจนกรุบ กรึบ หนึบ หวาน ผัดจนสีใส เข็ม พริกหยวกยัดไส้กุ้งห่อไข่ เลือกนำเอาพริกหยวกเม็ดขนาดกำลังดี ยัดไส้ด้วยหมูสับกับกุ้ง ปรุงด้วยสามเกลอ ได้แก่พริกไทย รากผักชี และเกลือ นำพริกหยวกไปนึ่งจนสุกแล้วห่อคุลมด้วยแพไข่ ปลายี่สกผัด นำปลายี่สนแห้งมาย่างไฟอ่อน แล้วนำไปโขลกจนได้เนื้อปุย ก่อนนำไปผัดกับหัวกะทิ และปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว หอมแดงยัดไส้ คว้านหอมแดงให้เป็นรู ยัดไส้ด้วยหมูหวาน ปรุงด้วยสามเกลอ ได้แก่พริกไทย รากผักชี และเกลือ นำไปชุบไข่และแป้งสาลี นำไปทอดจนได้สีเหลืองทอง รสชาติหวานเค็มกำลังดี ลูกกะปิผัดกระชายเครื่องเทศ ใช้กะปิอย่างดีจากระยอง นำไปผสมรวมกับเครื่องเทศ อาทิ กระชาย ตะไคร้ หอมแดง หัวกะทิ พริกแห้ง ปลาป่น นำไปผัดในกระทะทองเหลือง…
ข้าวแช่ อาหารที่มาคู่กับฤดูร้อน อันเป็นที่ได้รับความนิยมยิ่ง ให้ทั้งความดับร้อน สดชื่น และเป็นของเฉพาะฤดู แน่นอนว่าทั้งรส ทั้งกลิ่นที่หอมสดชื่น และขั้นตอนการทำที่ยากและสลับซับซ้อน อีกทั้งการเตรียมเครื่องที่วุ่นวายอยู่พอควรจึงทำให้เป็นอาหารที่ไม่ได้มีขายในทุกที่และในครั้งนี้ Kinlakestars จึงขอแนะนำข้าวแช่เด็ดจากทั่วกรุงฯ เดิมทีนั้นจากเรื่องที่เล่าต่อๆกันมา กษัตริย์มอญผู้ซึ่งยังไม่มีบุตรเพื่อสืบบัลลังก์เสียที จนกระทั่งได้ทำการบนบานกับศาลเทวดาแห่งหนึ่งอันศักดิ์สิทธิ์จนสมหวัง จึงได้ทำเครื่องเซ่นไหว้มาถวาย เครื่องเซ่นเหล่านั้นก็ได้แก่ หมูเส้น ลูกกะปิ หอมยัดไส้ และไชโป๊วหวาน อันเป็นของที่เก็บได้นาน ทำแล้วเก็บใส่ไหดินเผาไว้ ทำให้เก็บได้นานไม่บูดเน่าเสีย ต่อมา ชาวมอญถือเอาข้าวแช่เป็นอาหารสำคัญในประเพณีวันสงกรานต์ ทำให้ข้าวแช่เป็นอาหารที่ชาวมอญ นิยมทำสังเวยเทวดาในตรุษสงกรานต์ และค่อยๆเผยแพร่เข้ามาในไทย ซึ่งก็เข้ามานานอยู่นานพอควร จะเห็นได้จากกลอนของกวีอย่าง สุนทรภู่ที่กล่าวถึงข้าวแช่ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ว่า ฤดูร้อน ก่อนเก่า ทำข้าวแช่ น่าชมแต่ เครื่องกับ สำรับฉัน ช่างทำเป็น ดอกจอก และดอกจันทร์ งามจนชั้น กระชายทำ เหมือนจำปา มะม่วงดิบ หยิบดู จึ่งรู้จัก ช่างน่ารัก ทำเป็น เช่นมัจฉา (ความจาก “รำพันพิลาป” ของสุนทรภู่ รัตนกวีสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์) ต่อมา ชาววังรับไปปรับปรุงเรียกว่า “ข้าวแช่เสวย” หรือ “ข้าวแช่ชาววัง” เมื่อสิ้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในปี 2453 แล้ว ข้าวแช่ได้รับการเผยแพร่ไปนอกวังและเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง แม้ปีนี้ 2563 จะเกิดวิกฤติโรคระบาด แต่ทุกท่านยังสามารถสั่งข้าวแช่มาลิ้มรส มาชมชิมกันให้ชื่นใจได้อยู่ด้วยบริการส่งตรงถึงบ้าน ข้าวแช่ในแต่ละที่ก็ได้ถูกปรับสูตรให้แปลก แตกต่างกันออกไปตามรสที่ถูกปาก ความสวยงาม ของที่หาได้ และในปีนี้มีที่ไหนที่ทาง Kinlakestars แนะนำกันบ้าง มาดูกันเลย ข้าแช่ชาววังโรงแรมห้าดาวราคาเบาสบายสุดๆเพียง 250- จาก Banyan Tree Bangkok โดยเชฟเรณู คลิงที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียดและภาพเต็ม > > > รีวิว ชุดข้าวแช่โรงแรมห้าดาวราคาเบาๆ ลิ้มรส “ข้าวแช่” อาหารดับร้อนของคนโบราณ ส่งตรงถึงมือคุณจาก Banyan tree Bangkok ในราคาเพียง…