Author: Kittin Assavavichai

\ตั้งแต่วันที่ 17 – 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 นี้ เพียงสำรองห้องพักกับเรา คุณและคนที่คุณรักจะได้เพลิดเพลินไปกับการใช้เวลาพักผ่อนแสนสบายภายในห้องพักหรูพร้อมสัมผัส เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯหรือดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาพักผ่อนของครอบครัวในเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งล้านนา ณ โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ไปกับ แพ็กเกจห้องพักหรูสุดพิเศษ “One For Two” เข้าพัก 1 คืน พักฟรีอีก 1 คืน ชำระค่าเข้าพัก 1 คืนสำหรับห้องพักแบบดีลักซ์ในราคาพียง 3,500 บาทถ้วน*ต่อห้องต่อคืน พักฟรีอีก 1 คืน ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ หรือ โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ สิทธิ์ประโชน์เพิ่มเติม: อิ่มอร่อยไปกับอาหารเช้าเลิศรสในราคาพิเศษท่านละ 590 ถ้วนแขกห้องพักท่านที่ 3 (อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป) สามารถร่วมเข้าพักในห้องเดียวกันได้ โดยต้องชำระค่าห้องพักเพิ่มเติม 500 บาทถ้วนต่อห้องต่อคืนเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าพักฟรีได้สูงสุด 2 ท่านต่อห้องต่อคืน *เงื่อนไขและข้อกำหนด สำหรับการเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 นี้เป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ระบุไว้ในบัตรกำนัลห้องพักของโรงแรมฯบัตรกำนัลห้องพักฟรี 1 คืนนี้ไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้กับผู้อื่นได้ข้อเสนอนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับโปรโมชั่นอื่นๆ หรือไม่สามารถใช้ร่วมกับการสำรองห้องพักแบบกลุ่มได้กรุณาสำรองห้องพักล่วงหน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องพักที่ว่าง และเป็นไปตามข้อเงื่อนไขและข้อกำหนดตามที่โรงแรมฯ กำหนดราคานี้ไม่สามารถสะสมคะแนนโกลเด้นเซอร์เคิลได้ราคานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าบริการ17.7 เปอร์เซ็นต์แล้ว สำรองห้องพักที่ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ กรุณาติดต่อที่โทร. 0 2236 7777 หรือ อีเมล์ [email protected] สำรองห้องพักที่ โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ กรุณาติดต่อที่โทร. (053) 253 888 หรือ อีเมล์ [email protected] เกี่ยวกับโรงแรมแชงกรี-ลา โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท กลุ่มเครือโรงแรมแชงกรี-ลา โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท แบรนด์แฟลกชิบอันโดดเด่นของกลุ่มเครือแชงกรี-ลา ปัจจุบันดำเนินธุรกิจบริหารโรงแรมและรีสอร์ทหรูมากกว่า 80 แห่ง ด้วยห้องพักกว่า 35,000 ห้อง มีชื่อเสียงในด้านการให้ บริการในแบบฉบับเอเชียอันเป็นเอกลักษณ์ โรงแรมแชงกรี-ลา ตั้งอยู่ในประเทศ ออสเตรเลีย, แคนาดา, จีนแผ่นดินใหญ่, ฟิจิ, ฝรั่งเศส, ฮ่องกง, อินเดีย, อินโดนิเซีย, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, มัลดีฟส์, มอริเชียส, มองโกเลีย, พม่า, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ศรีลังกา, โอมาน, ไต้หวัน, ไทย, ตุรกี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ สหราชอาณาจักร สามารถใช้บริการรอยัลตี้โปรแกรมโกลเด้นท์ เซอร์เคิล อันมีชื่อเสียงของกลุ่มเครือแชงกรี-ลา เมื่อเข้าพักและใช้บริการในกลุ่มเครือ โรงแรมแชงกรี-ลา โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ททั่วโลก ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ www.shangri-la.com # # # Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ…

Read More

ไม่ว่าคุณกำลังมองหาที่พักในการมาทำธุระที่กรุงเทพฯ หรืออยากผ่อนคลายเปลี่ยนบรรยากาศในวันหยุดสุดสัปดาห์ให้เป็นวันที่พิเศษยิ่งขึ้น โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ ด้วยแพ็คเกจห้องพัก City Staycation สุดคุ้ม  เพียง 2,450 บาท รวมอาหารเช้า (สำหรับ 2 ท่าน) ต่อห้อง ต่อคืน พร้อมด้วยเครดิตแทนเงินสดมูลค่า 1000 บาท สำหรับใช้จ่ายที่ห้องอาหาร และสปา ในโรงแรม ระหว่างที่เข้าพัก โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา สะดวกสบาย ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ติดกับรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีห้วยขวาง ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญเช่น บริษัท องค์กรต่างๆ สถานทูต โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของกรุงเทพฯ บริการห้องพักพื้นที่กว้างขวาง เริ่มต้นที่ 40 ตารางเมตร กับวิวสวยๆ ของกรุงเทพฯ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และสปา อีกทั้ง ห้องอาหารชื่อดัง อาทิ ห้องอาหารญี่ปุ่นทาคุมิ ห้องอาหารจีนหล่งฟ่ง และคาเฟ่เดลี่ สวิส ที่ปรับโฉมใหม่ สำหรับไลฟ์สไตล์ และอินเทรนด์   เงื่อนไขสำหรับแพ็คเกจ City Staycation สำหรับการจองตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 กรกฎาคม 2563 และเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2563สำหรับคนไทยหรือชาวต่างประเทศที่พำนักหรือทำงานในประเทศไทยเท่านั้นไม่สามารถออกใบเสร็จในนามบริษัทสมาชิกบัตร Accor Plus ได้รับส่วนลด 10%ต้องจองเข้าพักล่วงหน้าอย่างน้อย 48 ชั่วโมงเมื่อจองแล้วไม่สามารถคืนเงินหรือเปลี่ยนแปลงวันที่เข้าพักทุกกรณี สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพักได้ที่ โทร. 02-694-2222 หรืออีเมล [email protected] K promo Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว…

Read More

การกินนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์โลกเราทุกคนต้องพึงกระทำ ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์แต่ยังรวมถึงสัตว์ต่างๆ มนุษย์เราตายจากการไม่มีกินและอดอาหารมากมายหากได้อ่านประวิติศาสตร์ ซึ่งเกิดจากการขาดแคลนอาหารเพราะสงคราม ภัยพิบัติจากธรรมชาติ หรือเพราะความเหลื่อมล้ำทางโครงสร้างสังคมและสภาพภูมิประเทศ ทว่าการกินมากเกินไปย่อมไม่ดีเช่นกัน แต่ก็มีผู้มีอันจะกินบางกลุ่มที่กินมากไปจนจุกตาย อาหารไม่ย่อย หายใจไม่ทัน หรือแม้แต่อาหารเป็นพิษโดยที่สิ่งที่กินเข้าไปก็เป็นอาหารชั้นเลิศไม่ใช่ยาพิษหรือของเสียแต่อย่างใด ในครั้งนี้ kinlakestars.com จะพาทุกท่านไปพบกับเหล่ากษัตริย์ที่ไม่ห้ามใจห้ามปาก ยัดอาหารสวาปามกินเอากินเอาแบบไม่ได้มีใครบังคับจนตายกัน จะมีใครกันบ้างและกินอะไรตาย ไปดูไปชมกันเลยครับ พระเจ้าฟารูกที่ 1 เจ้าอ้วนขี้ขโมยกับการกินอาหารฝรั่งเศสจนตุ้ยนุ้ยตายคาร้าน พระเจ้าฟารูกที่ 1 แห่งอียิปต์ แต่เริ่มเดิมทีราชาแห่งแดนพีรมิตผู้นี้เคยเป็นราชาผู้ฮอตฮิตในช่วงแรกด้วยครั้นเริ่มครองราชแต่วัยหนุ่ม หน้าพิมพ์นิยมตามแบบฉบับยุคและภูมิภาคแถมหุ่นสุดฟิต แต่ใครจะรู้ว่าต่อมาเขาผู้นี้จะกลายร่างกลายเป็นกษัตริย์นิสัยพิลึก ทำให้ประเทศอับอาย หนักหลายร้อยโลและสวาปามจนสิ้นชีพคาร้านอาหารฝรั่งเศส พระองค์มีวิถีชีวิตที่สิ้นเปลืองฟุ่มเฟือยฟู่ฟ่า พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ในดินแดนที่ยิ่งใหญ่ พระราชวัง 12 แห่ง รถยนต์พระที่นั่งกว่า 100 คัน และพระองค์ยังโปรดเสด็จประพาสดินแดนยุโรปอย่างเกษมสำราญอยู่บ่อย ๆ จึงสร้างความไม่พอใจในหมู่ไพร่ฟ้าประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมาก แต่นอกจากรสนิยมและการใช้เงิน สิ่งที่น่าฮือฮาคือนิสัยขี้ขโมยและเห็นแก่กินเพราะครั้งหนึ่งในงานเลี้ยงรับรองระดับประเทศพระเจ้าฟารูกได้ก่อวีรกรรมโดยการขโมยของจากกระเป๋ากางเกงนายกอังกฤษจนกลางเป็นเรื่องวุ่นวายในงานเลี้ยง และเพราะการกินไม่ยั้งพระองค์ที่ทำให้พระองค์ถึงจุดจบของชีวิต ภายหลังการปฎิวัติและขับไล่ให้พ้นจากประเทศอียิปต์ พระองค์ได้เข้ามาพำนักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยพระองค์ได้รับเป็นพลเมืองของโมนาโก พระองค์มีปัญหาเกี่ยวกับการเสวยอาหาร จนทำให้มีพระวรกายใหญ่ และมีพระน้ำหนักเกือบ 300 ปอนด์ (136 กิโลกรัม) ในที่สุดพระองค์ก็เสด็จสวรรคตในภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสแห่งหนึ่งในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 1965 ขณะที่พระองค์กำลังเสวยพระกระยาหารมื้อใหญ่ โดยที่พระองค์ได้ทรุดพระองค์ และสวรรคต พระเจ้าเฮนรีที่ 1 ผู้พิชิตนอร์ม็องดี กับการยัดปลาแลมป์เพรย์เข้าปากจนขี้แตกตาย แม้พระเจ้าเฮนรีที่ 1 ปกครองอังกฤษด้วยความเข้มแข็งเด็ดขาด แต่พระองค์ก็มีจุดอ่อนอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือ ‘ปลาแลมป์เพรย์’ ซึ่งเป็นตัวดูดเลือดที่มีรูปร่างคล้ายปลาไหล แม้แพทย์ของพระองค์จะห้ามไม่ให้พระองค์ เสวยปลาชนิดนี้ก็ตาม แต่พระองค์ไม่สนใจ เพราะพระองค์ก็หลงใหลในรสชาติของพวกมันมาก การตายสุดเพี้ยนเกิดขึ้น เนื่องจากพระองค์เสวยปลาแลมป์เพรย์มากเกินไปจนอาหารเป็นพิษ และสิ้นพระชนม์ในปี 1135  “ปลาแลมเพรย์ (ที่ทรงโปรดปรานมาก) ถ้ากินในปริมณปกติคงไม่เป็นอะไร แต่พระองค์นั้นกินในปริมาณมากเกินไป” ที่แซ็งต์-เดอนีส์-ซ็อง-ลียงส์ (ปัจจุบันคือลียงส์-ลา-ฟอเรต์) ในนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสถานที่ที่ท่านได้พิชิตนั้นเอง พระเจ้าอดอล์ฟ เฟรเดอริก กับการสวาปามขนมหวาน 14 ชิ้นจนจุกอกตาย พระเจ้าอดอล์ฟ เฟรเดอริกแห่งสวีเดน ครองราชย์ในระหว่างปี 1751 – 1771 และจำเป็นต้องแบ่งอำนาจ ส่วนใหญ่ให้รัฐสภาสวีเดน ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 1771 พระเจ้าอดอล์ฟ…

Read More

โซเนวา คีรี เกาะกูด ขอมอบแพ็คเกจ Back to Nature ในราคาพิเศษสุด ๆ สำหรับชาวไทยและผู้พำนักอยู่ในประเทศไทย 3 วัน 2 คืน จากห้องพัก 1 หรือ 2 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นที่ 55,600 บาทถ้วนรวมเรือสปีดโบ้ทรับ-ส่งจากท่าเรือตราด หรือ 68,000 บาทถ้วน รวมเครื่องบินส่วนตัวของโซเนวา รับ-ส่งจากสนามบินสุวรรณภูมิ Tree-pod dining อันเลืองชื่อ นอกจากนั้นยังรวมอาหารเช้า และเย็นสำหรับ 2 ท่าน จองได้ตั้งแต่วันนี้ เข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 26 มีนาคม 2564 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองห้องพักได้ที่ [email protected], skype: soneva.reservation, โทลฟรี +91 124 4511000หรือคลิก https://soneva.com/offer/soneva-kiri-back-to-nature-offer หากท่านยังสงสัยว่าทำไมควรไปซํกครั้งเชิญชมบทความ 10 เหตุผลที่ครั้งหนึ่งในชีวิตคุณควรมา Soneva Kiri / “10 Reasons” Once in a lifetime experience at Soneva Kiri อ่านต่อที่นี่(คลิก) Ep.1 Soneva kiri กับ Sustainable design ความ Luxury ที่มาพร้อมกับความรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม นิยามแห่งการพักผ่อนโดยสมบูรณ์แบบ อ่านต่อ<คลิกที่นี่> Ep.2 Six Senses Spa @ Soneva Kiriสปาหรูบนผืนทะเลและป่าเขตร้อนชายฝั่ง สวยสงบปรุดุจหยุดเวลาไม่เหมือนใคร อ่านต่อ<คลิกที่นี่> Ep.3 Private Plane & Private Airport เครื่องบินส่วนตัว สู่เกาะสวรรค์ รีสอร์ตสุดหรู Soneva Kiri…

Read More

เปอร์เซ็นต์อาราบิก้าเปิดร้าน สาขาแรกในประเทศไทยที่ ICONSIAM ชื่นชมความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครทั้งเครื่องดื่มและการตกแต่งร้าน เพื่อสัมผัสประสบการณ์กาแฟชั้นเลิศที่โด่งดังไปทั่วโลก ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก สถานที่แห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจสำหรับทั้งภูมิภาค ในปีที่ผ่านมา กาแฟในประเทศไทยได้ขยายตัวไปทั่วประเทศและกลายเป็นความผูกพันในวิถีชีวิตประจำวัน “Kenneth Shoji กล่าวถึงความยอดเยี่ยมของอาราบิก้า” เราตื่นเต้นที่จะแนะนำฝีมือการทำกาแฟคุณภาพสูงบริการพิเศษและความงามแบบญี่ปุ่น ตัวร้านโดดเด่นในเรื่องของความสะอาดการตกแต่งภายในที่เรียบง่ายและพื้นสว่างซึ่งทำงานร่วมกับบรรยากาศ แบบ Glamorous ของ ICON SIAM การเปิดตัวใหม่นี้จะช่วยเพิ่มความใส่ใจในรายละเอียดของแบรนด์อย่างไม่หยุดยั้ง การออกแบบที่เรียบง่ายและมีจุดมุ่งหมายแสดงให้เห็นถึงมรดกของญี่ปุ่น ผู้นำในการเคลื่อนไหว จุดเด่นคือ เครื่องคั่วกาแฟ Tonado King สองเครื่องซึ่งเป็นเครื่องคั่วกาแฟพิเศษที่ใช้เป็นหลักของร้านค้าทั่วโลกของ% Arabica บาริสต้าที่ผ่านการฝึกอบรมจะแนะนำลูกค้าในการเลือกกาแฟหลากหลายให้เลือกและระดับการคั่วที่ต้องการจากนั้นจะนำทอร์นาโดคิงมาเสิร์ฟ ตัวพื้นที่คั่วกลางล้อมรอบด้วยเคาน์เตอร์ครัวซึ่งลูกค้าสามารถชื่นชมเครื่องชงกาแฟที่สวยงามและงานที่มีชีวิตชีวาของบาริสต้าขณะที่สั่งอาหาร เครื่อง Slayer คือเครื่องชงกาแฟที่ประดับด้วยไม้ ตั้งอยู่เวทีกลางและเสริมด้วยการตกแต่งตามความต้องการดั้งเดิมโดยแสดงโลโก้ %Arabica ด้านบนเป็รห้องเก็บเมล็ดกาแฟ พร้อมแสดงถุงปอกระเจาแบรนด์อาราบิก้า% แสดงต้นกำเนิดกาแฟจากทั่วโลกทฝ พร้อมไฟ และ พื้นกระจกส่องสว่างทั่วร้าน ทุกรายละเอียดได้รับการพิจารณาและนำขึ้นสู่ชีวิตโดยผู้ก่อตั้งและซีอีโอเคนเน็ธ โชจิผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังการขยายตัวในประเทศไทย ลูกค้าจะได้รับเชิญให้นั่ง ใช้เวลาสักครู่ผ่อนคลายจากความเร่งรีบและวุ่นวายของกรุงเทพฯเพื่อดื่มกาแฟสดที่% Arabica เพลิดเพลินไปกับพื้นที่เปิดโล่งที่ทันสมัยในขณะที่ชื่นชมการผสมผสานระหว่างการออกแบบวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อย่างกลมกลืน อาราบิก้านำเสนอเมนูกาแฟสองรูปแบบ คือ Blend หรือ Single Origin เป็นเมนูกาแฟอันหลากหลาย (เอสเพรสโซ่, เอสเพรสโซ่ macchiato, Americano, ลาเต้กาแฟและลาเต้สเปนที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์) และกรองกาแฟด้วยเครื่องจากแบรนด์ Chemex https://arabica.coffee Facebook: Arabica Thailand Instagram: Arabica Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส…

Read More

ห้องอาหารจีน แชงพาเลซ หนึ่งในห้องอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ พร้อมแล้วที่จะกลับมาให้บริการหลากหลายเมนูอาหารจีนรสชาติต้นตำรับสำหรับมื้อกลางวัน ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 นี้เป็นต้นไป ในทุกวันพุธถึง วันอาทิตย์ เวลา 11.30 น. ถึง 14.30 น. อิ่มไม่อั้นไปกับบุฟเฟ่ต์ติ่มซำมื้อกลางวันแสนอร่อย (วันพุธ – วันศุกร์) อิ่มหนำไปกับติ่มซำสไตล์โฮมเมดมื้อกลางวันรสชาติต้นตำรับที่พร้อมให้คุณได้เลือกอร่อยแบบ ไม่จำกัดที่จะกลับมาให้บริการอีกครั้งอย่างสุดพิเศษ พร้อมเสิร์ฟ ณ ห้องอาหารเน็กซ์ทู คาเฟ่ ในบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันร่มรื่นเป็นครั้งแรก สร้างสรรค์โดยทีมพ่อครัวมืออาชีพของห้องอาหารจีน แชงพาเลซที่ใส่ใจในทุกขั้นตอนการปรุง ควบคู่ไปกับมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและสุขภาวะที่ดีของแขกผู้ที่มาใช้บริการทุกท่าน เปิดให้บริการทุกวันพุธถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 11.30 น. ถึง 14.30 น.ราคาเพียงท่านละ 788 บาทถ้วนต่อท่าน พร้อมเสิร์ฟชาจีนแบบเติมได้มากตามที่คุณต้องการ เมนูอาหารจีนแบบอะลาคาร์ทมื้อกลางวันเลิศรส (วันเสาร์ – วันอาทิตย์) สำหรับท่านที่กำลังคิดถึงความอร่อยของเมนูอาหารจีนยอดนิยมรสชาติต้นตำรับอันเลื่องชื่อหลากหลายเมนูแห่งห้องอาหารจีน แชงพาเลซ อาทิ เมนูเป็ดปักกิ่ง คุณสามารถเลือกสั่งและรับประทานมื้อกลางวันพร้อมกับครอบครัวและคนที่คุณรัก พร้อมอิ่มอร่อยภายใต้มาตรการความปกติรูปแบบใหม่ (New Normal) ในทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ณ ห้องอาหารจีน แชงพาเลซ บริการสั่งอาหารกลับบ้านและเดลิเวอรี่ (วันพุธ – วันอาทิตย์) เพลิดเพลินไปกับการสั่งอาหารจีนด้วยตัวคุณเองอย่างสะดวกสบาย ทั้งแบบสั่งกลับไปรับประทาน    ที่บ้าน หรือใช้บริการเดลิเวอรี่ผ่านแอพพลิเคชั่น LINE MAN ด้วยตัวเลือกอาหารจีนคุณภาพที่ได้        คัดสรรมาให้คุณได้รับประทานกันอย่างอบอุ่นกันทั้งครอบครัว เพียงค้นหาชื่อห้องอาหาร            “แชงพาเลซ” หรือ “Shang Palace ให้แก่แฟนๆ ได้อร่อยกันแบบเต็มอิ่ม  พิเศษ รับพายหมูแดงแสนอร่อยสูตรดั้งเดิมทันที 3…

Read More

“แซฟฟรอน” / Saffron หรือชื่อในภาษาไทยว่า “หญ้าฝรั่น”  (ออกเสียงว่า ฝะ-หรั่น) ชื่อสามัญ Saffron, True saffron, Spanish saffron, Crocus นั้น เป็นเครื่องเทศที่ได้มาจากเกสรตัวเมียของดอกแซฟฟรอน โครคัส (saffron crocus) ซึ่งเป็นพืชประเภทหัว มีกลีบดอกสีม่วง พบได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก เช่น สเปน กรีซ อินเดีย อิหร่าน จอร์เจียร์ ฯลฯ แต่ประเทศที่ผลิตแซฟฟรอนได้มากที่สุดในโลกก็คือ อิหร่าน หลายคนอาจจะตกใจถ้าทราบว่าแซฟฟรอนมีราคาซื้อขายโดยเฉลี่ยขายปลีกกันประมาณกิโลกรัมละ 77,700 บาท ขนาดนี้ก็นับว่าแพงมากแล้ว แต่ในบางยุคแซฟฟรอนยังมีราคาสูงกว่าทองคำเสียอีก เหตุที่เป็นเครื่องเทศราคาแพงขนาดนี้ก็เนื่องจากดอกแซฟฟรอน โครคัสแต่ละดอกจะให้เกสรเพียง 3 เส้นเท่านั้น ดังนั้นการที่จะเก็บแซฟฟรอนแห้งให้ได้น้ำหนักเพียง 1 ปอนด์ (0.45 ก.ก.) ก็จะต้องใช้ดอกแซฟฟรอน โครคัส มากถึง 50,000-75,000 ดอก นอกจากนั้นการเก็บเกสรต้องรีบเก็บในวันเดียวก่อนที่ดอกจะโรย และต้องรีบนำมาคั่วให้แห้งทันที และยังต้องใช้แรงงานคนเท่านั้น ใช้เครื่องจักรแทนไม่ได้อีกด้วย เราใช้แซฟฟรอนมาใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร โดยเฉพาะในแถบยุโรป และแถบประเทศอาหรับ รวมถึงประเทศในแถบเอเชียกลาง เช่นตุรกี อินเดีย เป็นต้น แซฟฟรอนเป็นเครื่องเทศที่ให้กลิ่นหอมและกลิ่นติดนาน แม้จะใช้เพียงนิดเดียวเท่านั้น และนิยมใช้ในอาหารที่ทำในโอกาสพิเศษเพื่อการเฉลิมฉลอง ใช้ได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน และในตำรายาไทยก็ยังนำหญ้าฝรั่นมาใช้เป็นตัวยาที่ช่วยในการแก้ลมวิงเวียนใช้ในยาหอมต่างๆ และยังเป็นยาชูกำลัง บำรุงหัวใจ อีกทั้งยังทำให้ผิวเปล่งปลั่ง และอายุยืนอีกด้วย หญ้าฝรั่น ชื่อวิทยาศาสตร์ Crocus sativus L. จัดอยู่ในวงศ์ว่านแม่ยับ (IRIDACEAE) และยังไม่มีชื่อท้องถิ่นหรือชื่อพื้นเมืองอื่น ๆ เนื่องจากเป็นพืชสมุนไพรของต่างประเทศ โดยประเทศที่ปลูกหญ้าฝรั่นเพื่อส่งออกได้แก่ ประเทศสเปน เยอรมัน ฝรั่งเศส อินเดีย และอิหร่าน[1],[3],[4],[8] โดยอิหร่านเป็นประเทศที่สามารถผลิตหญ้าฝรั่นที่มีคุณภาพและมีปริมาณการผลิตมากที่สุดในโลก โดยคิดเป็นร้อยละ 81 ของหญ้าฝรั่นทั่วโลก Saffron คืออะไร ? Saffron หรือหญ้าฝรั่นคือเครื่องเทศสมุนไพรจากต่างประเทศที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลก เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้มาตั้งแต่สมัยกรีกและโรมันโบราณ โดยแหล่งผลิตหญ้าฝรั่นที่มีคุณภาพสูงคือประเทศอิหร่าน ลักษณะของหญ้าฝรั่น ต้นหญ้าฝรั่น จัดเป็นพืชล้มลุก ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-30 เซนติเมตร และมีความสูงเฉลี่ยน้อยกว่า 30 เซนติเมตร…

Read More

ห้องอาหารเดอะ เฮาส์ ออฟ สมูท เคอร์รี่ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ขอนำเสนอ ข้าวแช่ออร์แกนิคแช่ในน้ำเย็นลอยดอกมะลิ เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงถึง 8 อย่าง ตลอดเดือนมีนาคมและเมษายนนี้ สำหรับเมนูชุดข้าวแช่นี้ เชฟเลือกใช้ข้าวออร์แกนิคที่ซื้อและส่งตรงจากเกษตรกรท้องถิ่นของไทย เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงมากกว่าใคร คือมีถึง 8 อย่าง คือลูกกะปิทอด, หอมแดงสอดไส้, พริกหยวกสอดไส้, เนื้อหรือหมูฝอยหวาน, ไชโป๊ผัดไข่, ปลาแห้งผัดหวาน, หมูเปีย และไข่วงเดือนหรือไข่แดงกับหมูสับ นอกจากนั้นในเซตข้าวแช่ ยังเสิร์ฟคุณด้วยของหวานแสนอร่อย มะปรางลอยแก้ว เป็นการปิดท้ายอีกด้วย ชุดข้าวแช่ราคา 850++ บาท/ชุด และราคา 1,100++ บาท/ชุด (สำหรับซื้อกลับบ้าน) มีให้คุณรับประทานตลอดเดือนมีนาคม จนถึง 30 เมษายน 2563 สมาชิกแอทธินี คลับ, สมาชิกคลับ แมริออท และสมาชิก Marriott Bonvoy™ รับสิทธิพิเศษตามเงื่อนไข สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร 02 650 8800 อีเมล [email protected] หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.theatheneehotel.com ห้องอาหารเดอะ เฮาส์ ออฟ สมูท เคอร์รี่ เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวัน   12:00 – 14:30 น. (สั่งอาหารได้ถึงเวลา 14:00 น.) | มื้อค่ำ  18:00 – 22:30 น. (สั่งอาหารได้ถึงเวลา 22:00 น.) Kin Promo…

Read More

ปัจจุบันเวลาเราไปท่องเที่ยว เดินป่า ปีนเขา ล่องลำน้ำ เราเก็บความประทับใจด้วยการถ่ายภาพ ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว แล้วในอดีตหละ หลายคนคงนึกไปถึงแค่การวาดภาพ ทว่า อีกสิ่งที่ชาวจีนและต่อมาถ่ายทอดไปยังญี่ปุ่นและอีกหลายๆประเทศใช้เก็บความประทับใจและรูปทรงของธรรมชาติที่พบเจอนั้นก็คือการทำสวนจำลองจนค่อยๆลดทอนมาเป็นไม้ดัดกระถางในที่สุด และความมหัศจรรย์ของงานศิลป์ประเภทนี้คือมันยังห่ยใจเติบโตอยู่ ในบางชิ้นงานที่จัดแสดงกันนั้นมีอายุมากกว่า 500ปีเสียด้วยซ้ำPol.Capt. Kittin A. ศิลปะการจัดสวนเพื่อตกแต่งพระราชวังในประเทศจีนได้มีมาตั้งแต่เมื่อราวสองพันปีก่อนคริสต์ศักราช ดังบันทึกในสมัยราชวงศ์ฮั่นของจีนในช่วงราว 206 ก่อนคริสต์ศักราช ถึงราว ค.ศ. 220 มีบันทึกของศตวรรษที่สามและสี่ระบุว่าประเทศจีนเริ่มมีการปลูกต้นไม้ในกระถางเรียกว่า Pun-sai ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไม้ดอก เช่น เบญจมาศ ฯ ต่อมามีบันทึกกล่าวถึงการจัดสวนที่ประกอบด้วยหินและต้นไม้ในภาชนะที่เรียกว่า เผินจิ่ง (penjing) ตั้งแต่ช่วงราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618–906) ต่อมาเผินจิ่งได้แพร่หลายออกไปยังประเทศญี่ปุ่นซึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นนี่เองที่ไม้แคระได้ถูกเรียกขานกันในภาษาญี่ปุ่นว่า “บอนไซ” ในประเทศจีนเองศาสตร์ของเผินจิ่งได้หยุดชะงักไปในช่วงยุคการปฏิวัติวัฒนธรรมของประเทศจีน เผินจิ่งกลายเป็นศาสตร์ที่ไร้สาระเป็นเรื่องของทุนนิยม  ผลงานเก่าๆจำนวนมากได้สูญหายไปและผู้ที่มีความรู้ในศาสตร์ของเผินจิ่งจำเป็นต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อการอยู่รอดและเพื่อถ่ายทอดความรู้ศาสตร์ด้านนี้ไปยังอนุชนรุ่นหลัง  ศาสตร์ของเผินจิ่งเพิ่งจะมีการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ในช่วงยี่สิบกว่าปีมานี้เองที่ทางการจีนยินยอมให้มีการฟื้นฟูศาสตร์ของเผินจิ่งขึ้นมาใหม่ บอนไซของจีน บอนไซของจีนหรือที่จีนเรียกว่าเผินจิ่งเป็นศิลปะการสร้างสวนในภาชนะเล็กๆ  คำประกอบด้วยสองส่วน “เผิน” หมายถึงกระถางหรือภาชนะ และจิ่ง หมายถึง ภาพวิวทิวทัศน์ ผู้สร้างอาจใช้ต้นไม้และหินธรรมชาตินำมาสร้างเพื่อจำลองหรือสื่อถึงภูเขา, ลำธารหรือเกาะแก่ง  ผู้สร้างอาจออกแบบอย่างเรียบง่ายโดยการใช้ต้นไม้เพียงต้นเดียวเป็นองค์ประกอบรวมทั้งหมด เผินจิ่งมีรูปแบบของตัวเองซึ่งจะแตกต่างจากบอนไซของประเทศอื่นๆ  ซึ่งเหตุผลก็คือรูปแบบของเผินจิ่งจีนแทบจะไม่เปลี่ยนเลยในช่วงเจ็ดสิบแปดสิบปีมานี้   เผินจิ่งจีนและบอนไซญี่ปุ่นจะเหมือนกันมากเมื่อสมัยก่อน  แต่เมื่อเวลาผ่านไปบอนไซญี่ปุ่นได้มี่การพัฒนาไปอย่างมากขณะที่เผินจิ่งจีนยังคงรูปแบบเดิม  ดังจะเห็นได้จากภาพถ่ายบอนไซญี่ปุ่นที่จัดแสดงครั้งแรกที่กรุงลอนดอนในปี ค.ศ.1902 หากเปรียบเทียบกับบอนไซในยุคปัจจุบันแล้วจะเห็นข้อแตกต่างอย่างมาก   วัฒนธรรมแบบปิดมานานหลายสิบปีและการปฏิวัติวัฒนธรรมของจีนในช่วง ค.ศ.1949 ถึง 1970 แทบจะทำให้ศิลปะการสร้างเผินจิ่งสาบสูญไปจากจีน โชคดีที่ยังคงมีบางคนยังคงรักษาศิลปะของเผินจิ่งนี้ไว้ให้รอดพ้นจากช่วงวิกฤตมาได้ตราบจนทุกวันนี้ มีโรงเรียนสอนศิลปะเผินจิ่งจำนวนมากในประเทศจีน ทุกโรงเรียนจะมีรูปแบบของตนเอง เผินจิ่งทางเหนือจะแตกต่างจากเผินจิ่งของทางภาคใต้ เผินจิ่งทางภาคตะวันตกจะแตกต่างจากเผินจิ่งจากภาคตะวันออก ความแตกต่างจะแตกต่างทั้งรูปแบบของกระถาง, สีและรูปทรง ผู้ปลูกเผินจิ่งทางภาคใต้ของจีนมักนิยมปลูกชาฮกเกี้ยน เอม และ Bird plum cherry (Sageretia), ขณะที่ผู้ปลูกทางภาคเหนือเน้นต้น Podocarpus, และต้นสน โดยทั่วไปเมื่อเปรียบเทียบระหว่างเผินจิ่งจีนและบอนไซญี่ปุ่นแล้ว เผินจิ่งจะมีรายละเอียดน้อยกว่า  แต่เผินจิ่งจะมีรูปแบบอิสระมากกว่าและไม่เน้นเรื่องรายละเอียด  นิยมสร้างรากผิวดินและรูปร่างลำต้นและกิ่งที่บิดงอ  ประกอบกับหินที่สวยงามซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศจีน   อีกสิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจของเผินจิ่งก็คือรูปแบบ  รูปแบบที่เป็นอิสระขององค์ประกอบทำให้เผินจิ่งดูแปลกตาซึ่งสิ่งนี้เป็นหัวใจของศิลปะของการสร้างเผินจิ่ง  ภาพเขียนของจีนเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนโน้มน้าวในการสร้างเผินจิ่งโดยเฉพาะในรูปแบบของไม้ตกกระถางและไม้เอนชาย ผู้ปลูกเลี้ยงเผินจิ่งชาวจีนจะมีความชำนาญเรื่องการใช้หินเข้ามาผสมผสานเพื่อสร้างผลงาน  ศาสตร์ของบอนไซ  ญี่ปุ่นได้ลอกเลียนศาสตร์การใช้หินของจีนได้อย่างยอดเยี่ยมและสามารถประยุกต์ได้เป็นศาสตร์ของตนเอง  เมื่อหินถูกนำเข้ามาเป็นองค์ประกอบร่วมกับต้นไม้  ผลงานที่ออกมาจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากการที่เราได้เห็นเผินจิ่งที่มีแต่ไม้อย่างเดียว  นี่เองที่ทำให้เผินจิ่งแตกต่างจากบอนไซญี่ปุ่นอย่างมาก  บางครั้งเราจะเห็นว่าหินและต้นไม้มีความงดงามที่แทบจะไม่แตกต่างกันเลย  หินที่นำมาเป็นองค์ประกอบบอนไซจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้เป็นหินชิ้นเดียวแต่ประกอบจากหินหลายๆก้อนติดกันด้วยกาวหรือซีเมนต์  เทคนิคนี้ทำให้ได้ผลงานที่สวยงามโดยเฉพาะเมื่อจัดร่วมอยู่ในถาดหินอ่อนที่ใส่น้ำไว้ด้วย ผู้ปลูกเผินจิ่งชาวจีนนิยมที่จะสร้างลำต้นให้มีรูปร่างบิดงอเป็นตะปุ่มตะปั่ม  มีรากที่ผิวดิน  นอกจากนี้ยังนิยมการทำต้นให้กลวงซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ปลูกเผินจิ่งชาวจีนซึ่งจะให้ความรู้สึกถึงอายุที่เก่าแก่ของไม้ รวมถึงซากไม้ด้วยที่ถูกนำมาใช้บ้างเหมือนกันถึงแม้จะไม่นิยมแกะซากอย่างบอนไซของญี่ปุ่น พันธุ์ไม้ที่นำมาใช้สร้างเผินจิ่งของจีนมีอยู่ประมาณ  200 ชนิด แต่จะนิยมใช้ต้นไม้ที่มีใบเล็กมากกว่า การเก็บไม้จากธรรมชาติก็ไม่ใช่สิ่งใหม่สำหรับผู้ปลูกชาวจีนนักแต่ไม่ค่อยนิยมมากเท่าญี่ปุ่น เผินจิ่งและบอนไซมีรูปแบบทางศิลปะที่ใกล้เคียงกันอย่างมาก  เผินจิ่งเป็นรูปแบบเก่าซึ่งบอนไซได้นำมาประยุกต์  หากแปลตรงตัวแล้วคำว่าบอนไซในภาษาญี่ปุ่นจะแปลว่า ต้นไม้ในกระถาง  จะเห็นได้ว่าความหมายของคำว่า”บอนไซ” มีความหมายที่แคบกว่าคำว่า “เผินจิ่ง” ซึ่งหมายถึงภูมิทัศน์ในกระถาง เผินจิ่งสามารถเห็นได้ในหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน  ชาวจีนเองได้แบ่งเผินจิ่งออกเป็นสองรูปแบบดังนี้: shumu penjing เผินจิ่งต้นไม้(shumu penjing) ต้นไม้จะเป็นองค์ประกอบหลัก เผินจิ่งรูปแบบนี้จะใกล้เคียงกับบอนไซญี่ปุ่นมากเผินจิ่งภูมิทัศน์(shanshui penjing) ต้นไม้เป็นเพียงองค์ประกอบๆหนึ่งเท่านั้นไม่โดยเด่น องค์ประกอบอื่นๆ เช่น หิน, มอส, น้ำ ฯ บางคนก็มีการแบ่งเผินจิ่งภูมิทัศน์ย่อยออกไปอีก แต่ภาพรวมก็ยังคงเป็นภูมิทัศน์นั่นเอง จุดมุ่งหมายของเผินจิ่งไม่เพียงการจำลองรูปแบบของธรรมชาติเท่านั้น  แต่จะต้องสร้างจิตวิญญาณให้ผลงานที่ออกมาด้วย   ฉะนั้นการสร้างเผินจิ่งจึงจำเป็นที่จะต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นๆเข้ามาประกอบด้วยไม่เพียงแค่ต้นไม้เท่านั้น  เช่นเดียวกับภาพเขียนทิวทัศน์จีน  เผินจิ่งเป็นศาสตร์ที่คล้ายกับศาสตร์การเขียนภาพทิวทัศน์ของจีน ภาพรวมของงานที่สร้างออกมาให้ดูกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวจะค่อนข้างยาก โดยเฉพาะในงานที่มีองค์ประกอบต่างๆมากมาย เช่นการจัดเผินจิ่งแบบน้ำและแผ่นดิน ซึ่งจะมีองค์ประกอบต่างๆเช่น ถาด, ต้นไม้, หิน, มอส, หญ้าเล็กๆ และน้ำ องค์ประกอบทั้งหมดจะต้องกลมกลืนกันและสามารถสื่อได้ถึงภาพทิวทัศน์ที่ผู้สร้างต้องการได้อย่าง งดงาม การเลือกองค์ประกอบเป็นเรื่องที่ยากมาก  รวมถึงภาชนะที่จะใช้และตำแหน่งขององค์ประกอบต่างๆที่จะจัดวาง  ผู้สร้างต้องคำนึงถึงชนิดของต้นไม้, จำนวนของต้นไม้ที่จะใช้, ขนาด, ความคดงอของลำต้น และความทึบแน่นของกลุ่มใบ  เราต้องเลือกขนาดของหิน, สี, รูปร่าง, รายละเอียดของผิว  แต่สุดท้ายแล้วแต่ละองค์ประกอบที่เราออกแบบมาจะต้องกลมกลืนกันหมด  เมื่อนั้นเราก็จะได้ผลงานที่เป็นหนึ่งเดียว  ศาสตร์ของเผินจิ่งไม่ยึดถือกฎตายตัว  แต่ยึดถือกฎของธรรมชาติคือพยายามสร้างให้เหมือนกับงานนั้นได้ถูกธรรมชาติสร้างขึ้นมาไม่ใช่มนุษย์เป็นผู้สร้าง พูดมากันซะขนาดนี้แล้ว สนใจลองรับบอนไซไว้ดูเล่นกันซํกต้นไหมครับ แล้วคุณจะรับรู้ถึงธรรมชาติที่ใกล้ตัว แต่อย่าลืมเลือกพรรณไม้ที่นำมาทำบอนไซให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในจุดที่ปลูกด้วยนะครับ เพราะอย่างที่บอกไปว่าไม้แต่ละชนิดต้องการแสง ความชื้นที่ต่างกัน Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว…

Read More

โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ขอเชิญคุณมาดับร้อนด้วยข้าวแช่ตำรับชาววัง ที่เชฟพิถีพิถันจัดเตรียมนำข้าวมาแช่ในน้ำอบเทียนลอยดอกมะลิหอม รับประทานพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ลูกกะปิ พริกหยวกสอดไส้ เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน เครื่องผัดหวานต่างๆ และผักสดที่จัดเตรียมไว้อย่างสวยงาม ความกลมกล่อมลงตัวของข้าวแช่เย็นๆ รวมกับเครื่องเคียงแต่ละชนิดที่ออกรสหวาน ส่งให้ได้รสชาติที่ หวาน หอม เย็นชุ่มชื่นใจ รับประทานแล้วจะช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี พร้อมเสิร์ฟถึงบ้านคุณเพียงชุดละ 250 ระหว่างวันนี้ถึง 30 เมษายน พศ 2563 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งได้ที่ 026791200 หรือ Line ดาวโหลดรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dropbox.com/sh/dxtf8znu901t7je/AAAm3iUndF1G7-5xoEIhrmrNa?dl=0 Kin Promo Kinlakestars.com KinlakeStars.com กินแหลกแจกดาว สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง kinlakestars.com – กินแหลกแจกดาว รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง KinlakeStars.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

Read More