ในปี 2024 ที่ผ่านมา ทีม Kin & Leisure ได้ออกเดินทางสำรวจโลกแห่งรสชาติจากเหล่าเชฟมือหนึ่งทั่วโลก เราได้ลิ้มลองและสัมผัสกับ 10 สุดยอด Fine Dining Tasting Menu ที่ไม่เพียงแต่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ทางอาหาร แต่ยังพาเราเดินทางผ่านศิลปะการเล่าเรื่องในจานอาหาร ตั้งแต่รสชาติที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ไปจนถึงเมนูที่ท้าทายทุกความคาดหวัง บทความนี้รวบรวมเมนูที่เราคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ทุกคำที่ได้สัมผัสคือการผสมผสานของวัตถุดิบระดับโลก เทคนิคชั้นสูง และการนำเสนอที่เต็มไปด้วยความหมาย เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางสุดพิเศษผ่าน 10 เมนูที่ตราตรึงใจเราที่สุดในปีนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายอาหารตัวจริงหรือเพิ่งเริ่มสนใจ Fine Dining บทความนี้จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งรสชาติที่เหนือจินตนาการ – มาดูกันว่ามีเมนูไหนที่ควรค่าแก่การลิ้มลองในโอกาสพิเศษครั้งต่อไปของคุณบ้าง! 1. สัมผัสรส รูป กลิ่นอายแห่งฤดูใบไม้ผลิ สวยอร่อยเลิศ ไปกับ Spring Guestronomic Journey @ Elements , Okura Prestige Bangkok นำเสนอสัมผัสอันนุ่มนวลแห่งฤดูใบไม้ผลิ ที่ทางห้องอาหารระดับดาวมิชลิน Elements, inspired by Ciel Bleu ภูมิใจนำเสนองานศิลปะแห่งอาหารอันเลิศรสชุดนี้ กับ “Spring Guestronomic Journey” ที่เปิดให้ทุกท่านได้ยลโฉมและลิ้มลองงานศิลป์ในมื้ออาหารเพิ่มต้อนรับฤดูใบไม้ผลิอันสดชื่นและอุดมสมบูรณ์ อ่านต่อ <คลิกที่นี่> 2. ไฟน์ไดน์ชั้นเลิศแบบสบายๆ ที่ Keller Bangkok จุดบรรจบของรสชาติโลกตะวันตกและตะวันออกมาบรรจบกัน โลเคชั่นใหม่ ถนนจันทน์เก่ากับเชฟ Mirco คนเก่งคนเดิม เมื่อเปิดประตูก้าวเดินเข้ามาในร้าน จะสัมผัสได้กับการต้อนรับด้วยบรรยากาศ การตกแต่งด้วยไม้โทนสีครีมอ่อนละมุนชวนอบอุ่นสบายใจ ตัดกับการใช้หินอ่อนสีเทาแซมเป็นระยะ ประดับด้วย Accessories สีทองแชมเปญเสริมความเรียบหรูอยู่ในที อ่านต่อ <คลิกที่นี่> 3. รสชาติอาหารไทยดั้งเดิมในวันวาน การนำเสนอในรูปแบบใหม่ด้วยวิธีปรุงแบบฝรั่งเศส ใน Theme “Yesteryears” @ Restaurant Int ขอต้อนรับทุกท่านสู่การเดินทางสู่โลกแห่งรสชาติและความคิดสร้างสรรค์อีกครั้ง กับประสบการณ์ Fine Dining อันน่าประทับใจที่ไม่เหมือนใคร คราวนี้เราขอพาทุกท่านสัมผัสกับ Progressive Thai Cuisine ฝีมือเชฟน็อค…
Author: Kittin Assavavichai
รวม 10 สุดยอด 4 Hands Dinner/Guest Chef แห่งปี 2024: เมื่อเชฟระดับประเทศและโลกจับคู่สร้างสรรค์รสชาติใหม่ในกรุงเทพ! ปี 2024 ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของวงการอาหารในกรุงเทพฯ ที่เปรียบเสมือนเวทีระดับโลกสำหรับเหล่าเชฟมากฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นเชฟเจ้าของรางวัลระดับประเทศหรือระดับโลก ต่างพร้อมใจกันบินตรงมาเพื่อร่วมสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ล้ำค่าผ่านคอนเซปต์ 4 Hands Dinner และ Guest Chef Collaboration การพบกันของเชฟทั้งสองคนไม่เพียงแต่เป็นการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญด้านรสชาติ แต่ยังเป็นการผสมผสานวัฒนธรรม เทคนิคการปรุงอาหาร และแนวคิดสุดสร้างสรรค์ที่พาเราออกเดินทางสู่รสชาติที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อน ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบระดับพรีเมียม กระบวนการปรุงอันประณีต และการเล่าเรื่องผ่านทุกจานอาหาร ทำให้ทุกงานคือการเฉลิมฉลองแห่งความเป็นเลิศที่สายอาหารต้องจารึกไว้ในความทรงจำ โดยทีม Kinandleisure คัดเลือกจากกว่า 30 มื้อ 4 hands / guest chef ที่ชิมมาตั้งแต่ธันวาคม 2023 ถึง ธันวาคม 2024 ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 10 รีวิว 4 Hands Dinner และ Guest Chef Collaboration ที่ดีที่สุดแห่งปี 2024 ไม่ว่าจะเป็นรสชาติสุดประทับใจ บรรยากาศอันน่าหลงใหล หรือการเล่าเรื่องเบื้องหลังจานอาหารสุดพิเศษ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะสิ่งที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้คือการเดินทางสู่โลกแห่งรสชาติที่คุณจะไม่มีวันลืม! 1. บุญ-กีรติ x Juan Amador – Restaurant Amador สัมผัสประสบการณ์ล้ำค่า เติมเต็มความทรงจำอันแสนหวาน กับ 4 Hands Flavors of Nostalgia ฝีมือเชฟ Juan Amador เชฟมิชลิน 3 ดาว และเชฟบุญ กีรติ ที่ The Water library @ Central Embassy อ่านต่อ <คลิกที่นี่> 2 Hideaki Nagaya…
สวัสดีท่านผู้หลงใหลในศาสตร์และศิลป์แห่งอาหารทุกท่าน! วันนี้ ทีมงาน Kinandleisure ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่กับโอมากาเสะที่แสนพิเศษ! แต่เดี๋ยวก่อน—นี่ไม่ใช่โอมากาเสะธรรมดา เพราะเราขอนำเสนอ “Homura Wagyu Omakase” ศิลปะแห่งการปรุงเนื้อวากิวระดับตำนานที่ผสมผสานเทคนิคญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเข้ากับความประณีตของเชฟผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าท่านจะเป็นสายเนื้อผู้เชี่ยวชาญ หรือนักชิมมือใหม่ที่กำลังตามหารสชาติใหม่ บอกเลยว่าที่นี่จะทำให้ท่านต้องร้องว้าวตั้งแต่คำแรกยันคำสุดท้าย! บรรยากาศสุดพิเศษที่เปรียบเสมือนมื้ออาหารในบ้านเชฟ เมื่อท่านมาถึง Homura Wagyu Omakase บนถนนเย็นอากาศ บ้านทาวน์โฮมหลังงามที่ตกแต่งด้วยโทนสีหินอ่อนแบบญี่ปุ่นทันสมัย จะทำให้ท่านรู้สึกราวกับได้เดินทางเข้าสู่บ้านส่วนตัวของเชฟ ทุกอย่างที่นี่ออกแบบมาเพื่อมอบความรู้สึกอบอุ่น แต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบหรูและเป็นกันเอง ก้าวแรกที่ท่านเปิดประตูเข้าสู่ร้าน ความเงียบสงบและกลิ่นอายญี่ปุ่นจะต้อนรับท่านอย่างนุ่มนวล โต๊ะรับประทานอาหารแบบเคาน์เตอร์ไม้สีอ่อนเรียบเนียนถูกจัดเรียงไว้อย่างพิถีพิถัน เป็นจุดศูนย์กลางของร้านที่ดึงดูดสายตา ผนังสีเข้มตัดกับแสงไฟอบอุ่น สร้างความรู้สึกเหมือนท่านได้เข้าสู่โลกแห่งความลึกลับและมหัศจรรย์ ดื่มด่ำไปกับศิลปะการปรุงเนื้อวากิวระดับพรีเมียม ไฮไลต์ของร้านนี้อยู่ที่ เตาถ่านบินโจตัน ซึ่งเป็นเคล็ดลับการย่างเนื้อที่ทำให้กลิ่นหอมของวากิวอบอวลไปทั่วทั้งร้าน เชฟจะปรุงทุกจานต่อหน้าท่าน พร้อมเล่าเรื่องราวความเป็นมาของแต่ละวัตถุดิบอย่างตั้งใจ—ทุกคำคือบทสนทนา ทุกกลิ่นคือบทกวีแห่งอาหารที่แต่งแต้มด้วยความหลงใหลของเชฟ เนื้อวากิวเกรด A4 ที่นี่ได้รับการคัดสรรมาอย่างประณีต ย่างจนได้ระดับความสุกที่สมบูรณ์แบบ เนื้อชุ่มฉ่ำที่แทบละลายในปากนั้นมาพร้อมกับกลิ่นหอมไหม้ที่แตะจมูก เสริมด้วยซอสสูตรพิเศษที่ผสมผสานรสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อมจนยากจะลืม ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยความเป็นโอมากาเสะแบบส่วนตัว Homura Wagyu Omakase รับลูกค้าในจำนวนจำกัดเพื่อให้ทุกท่านได้รับความใส่ใจอย่างเต็มที่ ที่นี่จึงเหมาะทั้งสำหรับมื้ออาหารส่วนตัว การหารือธุรกิจ หรือแม้แต่การจัดเลี้ยงรับรองแบบใกล้ชิด ท่ามกลางบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และความสง่างาม หากท่านกำลังมองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เป็นมากกว่ามื้ออาหาร Homura Wagyu Omakase พร้อมพาท่านออกเดินทางสู่โลกแห่งเนื้อวากิวและศิลปะการปรุงอาหารญี่ปุ่นอันล้ำลึก ที่นี่ไม่ใช่เพียงร้านอาหาร แต่เป็นเวทีแห่งความทรงจำที่ท่านจะไม่มีวันลืม ไม่ว่าท่านจะเป็นสายกิน สายเนื้อ หรือสายชิล—Homura Wagyu Omakase จะทำให้ท่านประทับใจจนต้องรีบจองโต๊ะในครั้งต่อไปแน่นอน! อาหารและเมนู หัวใจสำคัญของ Homura Wagyu Omakase คือการนำเข้าเนื้อวากิวเกรด A5 จากเมืองโยเนซาวะ จังหวัดยามากาตะ ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในแหล่งผลิตเนื้อวัวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เนื้อทุกชิ้นผ่านการดูแลอย่างประณีตโดยไม่ผ่านการแช่แข็ง เพื่อรักษาความสดใหม่และรสชาติที่แท้จริง ทางร้านมี 2 คอร์สให้เลือก คือ Standard Course (4,800++ บาท): รวมเมนูประมาณ 10 จาน และ Premium Course (6,800++ บาท): เพิ่มเติมด้วยวัตถุดิบที่หายากและเมนูสุดพิเศษ รวม 14+1 จาน (มีไวน์…
เคาท์ดาวน์เหนือน่านฟ้ากรุงเทพฯ ฉลองปีใหม่ในบรรยากาศเกินจินตนาการที่ โนบุ กรุงเทพ ฯ (Nobu Bangkok) รื่นรมย์ในวาระส่งท้ายปีเก่าแล้วนับถอยหลังสู่วันแรกของปี 2568 จากมุมมองเหนือน่านฟ้ามหานครท่ามกลางแสงไฟวับวาวพราวพรมพื้นไปจรดขอบฟ้า ทิวทัศน์งดงามเหนือจินตนาการเติมชีวิตชีวาให้มื้อเฉลิมฉลองพิเศษบนยอดตึกระฟ้ามีความหมายมากยิ่งขึ้น โนบุ กรุงเทพฯ (Nobu Bangkok) ร้านอาหารญี่ปุ่นร่วมสมัย บนชั้น 57 – 58 และรูฟท็อป ของ EA Rooftop at The Empire จัดเตรียมมื้ออาหารสุดพิเศษที่คัดสรรมาจากเมนูขึ้นชื่อระดับโลกของโนบุ พร้อมเครื่องดื่มสร้างสีสันตลอดช่วงเวลาแห่งการฉลอง ในวันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2567 เวลา 19.30 – 01.00 น. ของปีใหม่ เนื่องจากร้านครอบคลุมพื้นที่ 2 ชั้น รวมถึงชั้นดาดฟ้าของ EA Rooftop at The Empire ทำให้ โนบุ กรุงเทพฯ (Nobu Bangkok) ได้ชื่อว่าเป็นสาขาที่สูงที่สุดในโลกจากกว่า 40 สาขา ในเรื่องรสชาตินั้น เชฟโนบุ มัตสึฮิสะ (Chef Nobu Matsuhisa) ผู้สร้างตำนานผสมผสานตำรับญี่ปุ่นดั้งเดิมเข้ากับรสชาติแบบเปรู ทำให้เกิดอัตลักษณ์ที่ครองใจคนมายาวนาน “New Year’s Eve Set Menu” ในปีนี้ก็ได้จัดเตรียมอาหารรสเลิศไว้ อาทิ Lobster Inaniwa Ceviche ล็อปสเตอร์กับเส้นอินานิวะญี่ปุ่นแต่ปรุงแบบซาบิเซ่ของเปรู King Crab Truffle Crust ขาปูทาราบะนุ่มๆ หอมกลิ่นทรัฟเฟิล Japanese Beef Foie Gras Mustard Miso เนื้อญี่ปุ่น A5 กับฟัวกราส์ กริลล์กับมัสตาร์ด มิโสะ และอีกหลายคอร์สให้อิ่มเอม ในพื้นที่ เอาท์ดอร์ เทอเรซ และบาร์ เลาน์จ ในชั้น 57 กับ…
“เรือล่องแม่น้ำแห่งเดียวในภูมิภาคนี้ที่ให้บริการไคเซกิ โอมากาเสะ มีสวนหินกว่าร้อยตารางเมตรและมีพื้นที่นั่งบนเสื่อทาทามิที่ดาดฟ้าเรือ” Okura Cruise ไม่ใช่แค่การล่องเรือ แต่เป็นการเปิดประสบการณ์ที่รวมศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศและความสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าไว้ด้วยกัน การเดินทางครั้งนี้คือความลงตัวระหว่างความงดงามของธรรมชาติและการนำเสนอความหรูหราที่หาไม่ได้จากที่ไหน สองเส้นทางแห่งความอร่อย Seasonal Kaiseki: ความงามในทุกคำของอาหารตามฤดูกาล Seasonal Kaiseki บน Okura Cruise เป็นการนำเสนออาหารแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นในรูปแบบที่ละเอียดลออและสมบูรณ์แบบที่สุด เชฟผู้มากฝีมือรังสรรค์แต่ละจานอย่างพิถีพิถัน โดยทุกเมนูถูกจัดวางให้เหมือนงานศิลปะชิ้นเอก ที่ไม่เพียงแต่ตื่นตา แต่ยังตื่นใจไปกับรสชาติอันซับซ้อน Zensai (จานเรียกน้ำย่อย): Goma Tofu, Zuwai Kanl Okra, Soy : จานนี้เริ่มต้นด้วย เต้าหู้งาดำ ที่มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่มอย่างไร้ที่ติ ความหอมของงาดำเป็นเอกลักษณ์ชัดเจนในทุกคำ สร้างความประทับใจด้วยกลิ่นที่หอมละมุน เต้าหู้นี้ผ่านกระบวนการทำอย่างพิถีพิถัน โดยเริ่มจากบดงาดำคั่วจนได้เนื้อเนียนละเอียด ผสมกับน้ำนมถั่วเหลืองและเจลาติน ก่อนนำไปทำให้เซ็ตตัวในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อคงความนุ่มละมุนแต่ยังมีความแน่นพอดี เสริมรสชาติด้วย ปูซูไว เนื้อหวานฉ่ำที่ถูกนำมานึ่งเบาๆ เพื่อรักษาความหวานจากธรรมชาติ ก่อนเสิร์ฟเคียงด้วย กระเจี๊ยบเขียว ที่ยังคงความกรอบสด เพิ่มความสดชื่นด้วย ซอสโชยุ รสละมุนที่ผสมผสานกับน้ำซุปดาชิ ให้ความเค็มอ่อนๆ และกลิ่นหอมอูมามิ ช่วยยกระดับรสชาติของวัตถุดิบหลักในจานนี้ได้อย่างลงตัว Ankima Ebi Nanchana, Fig with Margo Miso : ตับปลามังค์ฟิชหรือที่เรียกว่า “ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล” นำมาผ่านกระบวนการเคี่ยวในน้ำดาชิที่ปรุงอย่างประณีต ด้วยอุณหภูมิต่ำและเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนละลายในปาก รสชาติที่ได้มีความมันและหวานธรรมชาติในแบบเฉพาะตัว ท็อปด้วย มะเดื่อสด ที่ถูกนำมาปรุงรสด้วย มิโสะมะม่วง สูตรพิเศษ มิโสะนี้มีกลิ่นหอมหวานจากมะม่วงที่เคี่ยวผสมกับมิโสะขาวคุณภาพดีจนได้เนื้อสัมผัสคล้ายครีมที่อ่อนนุ่ม มะเดื่อให้ความหวานหอมและความสดชื่น เพิ่มมิติให้กับตับปลาได้อย่างลงตัว Pomegranate, Matsumaezuke, Pine Nuts รสสัมผัสของจานนี้ยังคงไม่สิ้นสุด เพิ่มความกรุบกรอบและสีสันด้วย เมล็ดทับทิมสด ที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยตัดความมันของตับปลาอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อม ถั่วสนคั่ว ที่มีกลิ่นหอมมัน เติมเต็มรสชาติให้มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น ปิดท้ายด้วย มัตสึมาเอะซึเกะ (Matsumaezuke) หรือสาหร่ายหมักที่ผ่านการปรุงรสด้วยโชยุและมิริน มีกลิ่นหอมทะเลอ่อนๆ เสริมด้วยความเปรี้ยวอ่อนๆ ของ ขิงดอง ที่ช่วยรีเฟรชปลายสัมผัสของจานอย่างละเมียดละไม จาน Zensai…
โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ ขอเชิญแขกทุกท่านร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขและรับประทานอาหารในสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ของเรา โปรแกรมที่สร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันของเรามอบประสบการณ์การรับประทานอาหารอันหรูหราหลากหลาย ตั้งแต่งานเลี้ยงคริสต์มาสแบบดั้งเดิมไปจนถึงงานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีสุดอลังการ ด้วยความบันเทิงสดอันน่าตื่นตาตื่นใจ อาหารที่แสนอร่อย และส่วนลดพิเศษสำหรับผู้สมัครล่วงหน้า โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ รับรองว่าเทศกาลแห่งความสุขนี้จะเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ การเฉลิมฉลองคริสต์มาส 2024 โคลอนเนด ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขกับเราที่โคลอนเนดด้วยบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำวันคริสต์มาสอีฟและบรันช์วันคริสต์มาสที่พิถีพิถัน พร้อมด้วยดนตรีสดเพื่อเพิ่มบรรยากาศแห่งวันหยุด มีแพ็คเกจเครื่องดื่มให้เลือกเพื่อยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารของคุณ บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำวันคริสต์มาสอีฟ: 24 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 – 22.00 น. ราคา 3,500++ บาท ต่อท่าน (เฉพาะอาหาร)แพ็กเกจเครื่องดื่ม: แพ็กเกจเครื่องดื่มอัดลม ราคา 480++ บาท ต่อท่าน | แพ็กเกจเครื่องดื่มพรีเมียม ราคา 1,650++ บาท ต่อท่านบรันช์วันคริสต์มาส: 25 ธันวาคม 2567 เวลา 12.00 – 15.00 น. ราคา 4,500++ บาท ต่อท่าน (เฉพาะอาหาร)แพ็กเกจเครื่องดื่ม: แพ็กเกจเครื่องดื่มอัดลม ราคา 480++ บาท ต่อท่าน | แพ็กเกจเครื่องดื่มพรีเมียม ราคา 1,650++ บาท ต่อท่านLa Scala ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งอาหารอิตาเลียนที่ La Scala ด้วยบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันแอนติพาสตี้สุดเย้ายวนทั้งในวันคริสต์มาสอีฟและวันคริสต์มาส รวมถึงบุฟเฟ่ต์แอนติพาสตี้และของหวานคริสต์มาสสุดพิเศษในวันคริสต์มาส มื้อกลางวันวันคริสต์มาสอีฟ: บุฟเฟ่ต์อาหารเรียกน้ำย่อย 12.00 – 14.00 น. ราคา 1,250++ บาท ต่อท่าน (เฉพาะอาหาร)มื้อค่ำวันคริสต์มาสอีฟ: 17.00 – 23.00 น. เมนูตามสั่งมื้อกลางวันวันคริสต์มาส: บุฟเฟ่ต์อาหารเรียกน้ำย่อยและของหวานวันคริสต์มาส 12.00 – 14.00 น. ราคา 1,950++ บาท ต่อท่าน (เฉพาะอาหาร)มื้อค่ำวันคริสต์มาส: 17.00 –…
เอกลักษ์เปิดตัวประสบการณ์การรับประทานอาหารเทศกาลที่ผสมผสานความเป็นไทยและศิลปะ ครอบครัวและเพื่อนฝูงได้รับเชิญให้ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุดอย่างมีสไตล์ด้วยงานเฉลิมฉลองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น อาหารค่ำวันคริสต์มาสอีฟ เมนูเซ็ตวันส่งท้ายปีเก่า และบรันช์วันปีใหม่ มาดิไปดี กรุงเทพฯ ออโตกราฟ คอลเลกชั่น โรงแรมบูติกสุดเก๋ที่นำศิลปะแห่งการบอกเล่ามาสู่ชีวิต ขอเชิญแขกผู้มีเกียรติและชาวท้องถิ่นผู้มีวิจารณญาณร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขด้วยประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารไทยที่เอกลักษ์ ซึ่งเป็นร้านอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรม เชฟธีรเทพ ติศภิรมย์ หัวหน้าเชฟ เปิดเผยชุดงานเลี้ยงสุดพิเศษสำหรับครอบครัว เพื่อนๆ และคู่รักเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นี้ โอกาสพิเศษด้านอาหารแต่ละงานจะผสมผสานรสชาติอันเหนือกาลเวลาของเทศกาลกับองค์ประกอบไทยดั้งเดิมเพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับประสาทสัมผัสและกระตุ้นต่อมรับรส อาหารค่ำวันคริสต์มาสอีฟวันที่ 24 ธันวาคม 2024 (18.00 น. ถึง 22.30 น.) เมนูอาหารค่ำวันคริสต์มาสอีฟอันน่าดึงดูดใจของเชฟตอผสมผสานอาหารเทศกาลเข้ากับรสชาติไทยอันโดดเด่นได้อย่างลงตัวในสไตล์การแบ่งปัน แขกสามารถค้นพบความอร่อย เช่น สลัดกะหล่ำปลีบรัสเซลส์ที่ไหม้เกรียมกับน้ำสลัดสไตล์ไทย และซุปดอกกะหล่ำกับโฟมมะพร้าวต้มข่าไก่ ก่อนถึงอาหารจานหลักอันน่าหลงใหลอย่างเนื้อวากิวเวลลิงตันของไทยที่เสิร์ฟพร้อมซอสแกงพะแนง หรือไก่งวงย่างในซอสแกงเขียวหวานไทยที่มีชีวิตชีวา การผจญภัยแห่งการกินดื่มนี้จบลงด้วยโน้ตหวานด้วยพุดดิ้งคริสต์มาสคลาสสิกที่ทำจากผลไม้เขตร้อนแห้ง ราดด้วยซอสชาไทยที่ไม่เหมือนใคร ประสบการณ์ทั้งหมดจะดีขึ้นด้วยไวน์อุ่นหนึ่งแก้วและดนตรีป๊อปเชลโลสดเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งเทศกาล! ราคาอาหารค่ำวันคริสต์มาสอีฟอยู่ที่ 953++ บาทต่อท่าน 1,953++ บาทสำหรับ 2 ท่าน หรือ 3,753++ บาทสำหรับ 4 ท่าน สามารถเลือกแพ็คเกจเครื่องดื่มแบบไม่อั้นซึ่งประกอบด้วยเบียร์ท้องถิ่น ไวน์แดง ไวน์ขาว และสปาร์กลิงได้ในราคา 1,350++ บาทต่อท่าน เมนูเซ็ตวันส่งท้ายปีเก่า 5 คอร์สวันที่ 31 ธันวาคม 2567 (18.00 น. ถึง 22.30 น.) เพื่อเฉลิมฉลองวันสุดท้ายของปี 2567 เชฟตอร์ได้รังสรรค์เมนู 5 คอร์สที่สวยงามและน่าถ่ายรูปลงอินสตาแกรมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน การเดินทางแห่งอาหารครั้งนี้เริ่มต้นด้วยแซลมอนคาร์ปาชโชสไตล์อิตาลีพร้อมคาเวียร์สาหร่ายและน้ำสลัดยูซุ ตามด้วยเมนูที่ได้แรงบันดาลใจจากสลัดคาปรีเซ่ซึ่งเน้นมะเขือเทศลายม้าลายจากเชียงใหม่ และซุปล็อบสเตอร์แคนาดาสุดหรูที่ราดด้วยโฟมเนยขาว เมนูจานหลักให้เลือก ได้แก่ สันในวากิวไทยจากจังหวัดสกลนครกับมันฝรั่งบดกระเทียม มัสตาร์ดดองโฮมเมดกับเกรวี่ทรัฟเฟิลและทรัฟเฟิลสด หรือปลาฮาลิบัตลวกในเนยกับสมุนไพรไทย แตงกวาดองโฮมเมด คาเวียร์ออสซิเอตรา และซอสแกงไทย ค่ำคืนอันน่าประทับใจนี้ปิดท้ายด้วยของหวานแสนฝันอย่างข้าวเหนียวมะพร้าวไทยในสไตล์อารันชินีของอิตาลี ราคา 2,568 บาท++ ต่อท่าน ค่ำคืนอันน่าหลงใหลนี้ได้รับการยกระดับด้วยแชมเปญหนึ่งแก้วและท่วงทำนองแซกโซโฟนแจ๊สอันไพเราะ บรันช์วันปีใหม่สุดอลังการ1 มกราคม 2568 (12.00 น. ถึง 15.00 น.) แขกสามารถมารวมตัวกันและเฉลิมฉลองการเริ่มต้นปี…
เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งความสุขในธีม “Jingle Mingle” ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ที่พร้อมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารชั้นเลิศและส่งมอบความสุขให้แก่ทุกท่าน โอเซชิ – โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เชิญทุกท่านสัมผัสประเพณีอันยาวนานของการเฉลิมฉลองปีใหม่ตามแบบฉบับญี่ปุ่น ช่วงเวลาของการขอบคุณ ขอพรและคาดหวังในสิ่งใหม่ๆ ในวันขึ้นปีใหม่ สัมผัสและลิ้มลองรสชาติอาหารอันน่าหลงใหลและไม่เหมือนใคร เมื่อก้าวเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ของประเทศญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นมักจะทำกล่องจูบาโกะ “โอเซชิ เรียวริ” ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภและศิลปะ ถือเป็นประเพณีอันทรงคุณค่าในประเทศญี่ปุ่น มาสเตอร์เชฟ ชิเงรุ ฮางิวาระ รังสรรค์เพียง 30 กล่องเท่านั้น ลองจินตนาการถึงศิลปะชิ้นเอกที่ไม่ได้เพียงวาดบนผืนผ้าใบ แต่ซ่อนอยู่ในกล่องไม้ที่ทุกส่วนผสมถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถันและจัดวางอย่างประณีต มาสเตอร์เชฟ ฮางิวาระ เอาใจใส่ในทุกรายละเอียดตั้งแต่สีสันและเนื้อสัมผัสอันน่าเย้ายวนให้ทุกท่านได้สัมผัสถึงประเพณีทางอาหารของญี่ปุ่นอันน่ารื่นรมย์ ทุกเมนูในกล่องจูบาโกะ “โอเซชิ เรียวริ” แสดงถึงรสชาติอันกลมกล่อม เป็นการผสมผสานที่ลงตัวของอาหารญี่ปุ่น มาสเตอร์เชฟ ฮางิวาระ ได้รังสรรค์อาหารแต่ละจานอย่างพิถีพิถันเพื่อบอกเล่าเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยรสชาติอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ทุกท่านจะได้ค้นพบการเดินทางผ่านศิลปะทางอาหารที่จะทำให้ประทับใจและอิ่มเอมใจอย่างแท้จริง นอกจากรสชาติอันประณีตแล้วกล่องจูบาโกะ “โอเซชิ เรียวริ” ยังมีความสำคัญทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้งอีกด้วย เมนูอันโอชะที่คัดสรรมาอย่างดีล้วนเป็นตัวแทนของคำอวยพรอันจริงใจสำหรับปีใหม่ ตั้งแต่คำอวยพรด้านสุขภาพไปจนถึงคำอวยพรความเจริญรุ่งเรือง ทุกคำคือการเชิญชวนก้าวสู่การเริ่มต้นสิ่งใหม่กับคนที่คุณรัก กล่องจูบาโกะ “โอเซชิ เรียวริ” พร้อมจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2567 ณ ห้องอาหาร ยามาซาโตะ ราคากล่องละ 9,900 บาท ต่อกล่อง โดยการสั่งซื้อต้องชำระเงินล่วงหน้าและยืนยันการสั่งซื้อก่อนวันที่ 28 ธันวาคม 2567 สามารถรับกล่อง โอเซชิ เรียวริ ได้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 14:00 น. ถึงเวลา 18:00 น. เท่านั้น Festive…
Festive Afternoon Tea ที่ Sindhorn Kempinski – ยกระดับเทศกาลด้วยรสชาติและจินตนาการ 🎄 สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาลเมื่อฤดูกาลแห่งความสุขมาเยือน Sindhorn Kempinski ได้รังสรรค์ Festive Afternoon Tea ที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ ความใส่ใจในรายละเอียด และการออกแบบที่ยั่งยืน มาในรูปแบบชุดน้ำชาที่จัดวางอย่างงดงาม บนฐานทำจากใยมะพร้าวและแกลบข้าว ตอกย้ำแนวคิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพิ่มบรรยากาศดุจฝันด้วยกลุ่มหมอกจากดรายไอซ์ที่ล่องลอยในช่วงเสิร์ฟ 🫖 ราคาและช่วงเวลาแห่งความพิเศษ ชุดน้ำชาสำหรับ 2 ท่าน ราคา 2,300++ เสิร์ฟพร้อมชาพรีเมียมหรือกาแฟสุดคลาสสิก ให้บริการระหว่าง 1 ธันวาคม 2567 – 6 มกราคม 2568 ในวันที่ 24, 25, 31 ธันวาคม 2567 และ 1 มกราคม 2568 ราคา 2,500++ พร้อมบุฟเฟ่ต์ขนมหวานคริสต์มาสสุดอลังการ 🍽 เมนูพิเศษในชุด Festive Afternoon Tea 1. Cranberry Cinnamon Granita เปิดประสบการณ์ด้วยกรานิต้าสีแดงสดใส รังสรรค์จากแครนเบอร์รีที่มีรสเปรี้ยวหวาน เพิ่มกลิ่นหอมอุ่นๆ จากซินนามอนในแบบที่ปลุกความรู้สึกอบอุ่นและสดชื่นพร้อมกัน เนื้อกรานิต้าละเอียดให้สัมผัสเย็นสดชื่นทันทีที่ลิ้นสัมผัส เหมาะสำหรับเริ่มต้นมื้อยามบ่ายในบรรยากาศแห่งฤดูหนาว ตัวถ้วยครึ่งวงกลมที่เป็นลูกบอลชอคโกแลตผ่าครึ่งสามารถกินได้ทั้งหมดทำจากดาร์คช๊อคโกแลต Scones and Condiments Plain Scones: สโคนรสธรรมชาติที่อบมาจนหอมเนย เนื้อแน่นกำลังดี ร่วนแต่ไม่แห้งเกินไป Stollen Flavoured Scones: สโคนที่เติมกลิ่นอายเทศกาลด้วยเครื่องเทศที่ซับซ้อน เช่น กานพลูและอบเชย ผสานกับผลไม้แห้งและถั่วเล็กๆ ที่ให้รสหวานนุ่มนวล เสิร์ฟพร้อมซอส 3 ชนิด: Citrus Curd: ครีมรสมะนาวที่ให้ความเปรี้ยวสดใส Clotted Cream: ครีมเนื้อเนียนนุ่มหอมมัน Berry Preserve: แยมเบอร์รีที่หอมหวานและเติมสัมผัสผลไม้ 🧂 หมวด Savouries (ของคาว)…
Story : Natthanai C.. / Photo : Pol.Capt. Kittin A Ki Izakaya: เสน่ห์แห่งอิซากายะในมุมมองใหม่ที่หรูหราสง่างาม เมื่อพูดถึง Ki Izakaya ความเป็นมากกว่าร้านอิซากายะทั่วไปคือคำจำกัดความที่ลงตัวที่สุด เพราะที่นี่คือการผสมผสานอย่างประณีตระหว่างความเป็นกันเองในแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม กับความหรูหราล้ำสมัยของโรงแรมสินธรเคมปินสกี้ ที่ให้บรรยากาศอันเหนือระดับตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณเดินเข้าไป โทนสีอบอุ่นของการตกแต่งภายใน สอดประสานกับแสงไฟที่ส่องนวล ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย และยังเผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองหลวงที่งดงามจากชั้น 9 ของโรงแรม ที่นี่จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดื่มด่ำกับช่วงเวลาพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามเย็น เมื่อพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศโรแมนติกที่ยากจะลืมเลือน ความพิเศษของเมนูใหม่ที่ไม่ธรรมดาวันนี้เราไม่ได้มาเพียงเพื่อชื่นชมบรรยากาศ แต่ยังจะพาคุณไปลิ้มลองเมนูใหม่ที่ได้รับการยกระดับโดย เชฟซาวาดะ หัวหน้าเชฟคนใหม่ผู้มากประสบการณ์ เชฟชาวญี่ปุ่นที่นำความเชี่ยวชาญและจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด มารังสรรค์เมนูที่ไม่เพียงแต่มอบรสชาติอันโดดเด่น แต่ยังสะท้อนถึงศิลปะแห่งการปรุงอาหารญี่ปุ่นอันลึกซึ้ง เมนูของ Ki Izakaya ได้รับการออกแบบให้เหมาะกับทุกช่วงเวลา ตั้งแต่อาหารกลางวันที่สดใหม่และเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยรสชาติที่สมบูรณ์แบบ ไปจนถึงอาหารค่ำที่จัดเสิร์ฟในรูปแบบเซตเมนูสุดหรูหรา ทุกคำที่สัมผัสลิ้นจะทำให้คุณตื่นเต้น และอยากลิ้มลองจานถัดไป ที่สำคัญ การตั้งราคาเมนูให้เข้าถึงได้ง่าย พร้อมการบริการระดับ 5 ดาว ทำให้การรับประทานอาหารที่นี่กลายเป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อพิเศษกับคนรัก การพบปะสังสรรค์กับเพื่อน หรือแม้แต่การสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญ พร้อมแล้วหรือยัง?เตรียมตัวดื่มด่ำกับบรรยากาศและรสชาติที่เหนือความคาดหมายไปพร้อมกันที่ Ki Izakaya คำถามเดียวที่เหลือคือ คุณจะเริ่มต้นด้วยจานไหน? Salmon Ikura Chirashi: ความเรียบง่ายที่ซ่อนเสน่ห์ของรสชาติระดับพรีเมียม เมนู Salmon Ikura Chirashi ถือเป็นการรวมตัวของวัตถุดิบคุณภาพที่เปล่งประกายด้วยความสดใหม่ และการจัดวางที่งดงามชวนมอง เริ่มต้นด้วยเนื้อปลาแซลมอนชิ้นโต ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เนื้อปลามีความเนียนละเอียด เงางาม และสดใหม่ ตัดกับไข่ปลาอิคุระเม็ดอวบอิ่ม สีส้มสดใสราวกับอัญมณีที่ประดับบนจาน ตัวข้าวซูชิซึ่งเป็นฐานของเมนูนี้ถูกหุงอย่างพิถีพิถันจนได้ความนุ่มและความหนึบที่พอดี โดยเม็ดข้าวเคล้าซอสสูตรพิเศษที่มอบรสชาติกลมกล่อม เปรี้ยวอมหวานเล็กน้อยในสไตล์ซูชิข้าวญี่ปุ่น ซอสนี้ไม่เพียงช่วยยกระดับรสชาติของข้าว แต่ยังเชื่อมโยงความหลากหลายของวัตถุดิบบนหน้าจานให้เป็นหนึ่งเดียว ความพิถีพิถันในทุกองค์ประกอบเสน่ห์ของเมนูนี้ไม่ได้หยุดเพียงแค่ปลาและไข่ปลา แต่ยังเสริมด้วยเครื่องเคียงที่เติมเต็มมื้ออาหารให้สมบูรณ์แบบ โอบะโค ช่วยเพิ่มความสดชื่นด้วยรสชาติอ่อนๆ และกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ในขณะที่มิโซะซุปร้อนๆ ที่เสิร์ฟเคียงข้างมา ให้สัมผัสอบอุ่น กลิ่นหอมอ่อนๆ ของมิโซะและสาหร่ายผสมผสานอย่างกลมกลืน เรียบง่ายแต่ทรงพลังแม้เมนูนี้จะดูเรียบง่าย แต่ความประณีตในทุกกระบวนการและคุณภาพวัตถุดิบระดับพรีเมียมทำให้ Salmon Ikura Chirashi ไม่ใช่แค่จานอาหาร แต่เป็นการถ่ายทอดความเป็นญี่ปุ่นผ่านรสชาติที่สมดุล…