เคทีซีร่วมกับมาสเตอร์การ์ด (ประเทศไทย) เปิดตัวไกด์บุ๊ค KTC Culinary Collective เล่มที่ 4 ภายใต้แนวคิด “The Dishcovery of Delectable Taste” เรื่องราวของ “การค้นหาจานเด่นที่เป็นเอกลักษณ์” หรือเมนูซิกเนเจอร์ของร้านอาหารระดับไฟน์ไดน์นิ่ง และแคชชวลไฟน์ไดน์นิ่ง (Fine Dining & Casual Fine Dining) หวังขยายฐานสมาชิกกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมกระตุ้นยอดใช้จ่ายในหมวดร้านอาหารพรีเมียม ด้วยสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี มาสเตอร์การ์ด ณ ร้านอาหารที่ร่วมรายการกว่า 120 ร้าน ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 – วันที่ 30 เมษายน 2567 นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการจัดแคมเปญกับร้านอาหารระดับไฟน์ไดน์นิ่ง และแคชชวลไฟน์ไดน์นิ่ง (Fine Dining & Casual Fine Dining) ช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ประกอบกับการมอบสิทธิพิเศษร่วมกับมาสเตอร์การ์ด ส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในหมวดร้านอาหารดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้น ในปีนี้ เคทีซียังคงเน้นกลยุทธ์ด้านการขยายฐานสมาชิกไปยังกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อสูง และมีไลฟ์สไตล์นิยมรับประทานอาหารที่ร้านระดับไฟน์ไดน์นิ่ง และแคชชวลไฟน์ไดน์นิ่ง (Fine Dining & Casual Fine Dining) ด้วยการนำเสนอร้านอาหารที่มีความน่าสนใจแตกต่างกันไป ทั้งแรงบันดาลใจของเชฟ ประสบการณ์ของเจ้าของร้าน ที่มาของวัตถุดิบ รวมถึงศิลปะในการจัดวางอาหารผ่านไกด์บุ๊ค KTC Culinary Collective เล่มที่ 4 ภายใต้แนวคิด “The Dishcovery of Delectable Taste” เรื่องราวของ “การค้นหาจานเด่นที่เป็นเอกลักษณ์” อาทิ ร้าน กา / บ้านเทพา / ครอส / นุสรา จังหวัดกรุงเทพมหานคร / ร้านหมก จังหวัดอุบลราชธานี และร้านแก่น จังหวัดขอนแก่น สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี มาสเตอร์การ์ด รับสิทธิพิเศษจากกว่า 120 ร้านอาหารที่ร่วมรายการ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 – วันที่ 30 เมษายน…
Author: Kittin Assavavichai
THE WATER LIBRARY นำเสนอ “4 HANDS Flavors of Nostalgia” โดยเชฟ จวน อมาดอร์ (Juan Amador) เชฟ 3 ดาวมิชลิน และเชฟ บุญ กีรติ เชฟเดอคุซีนที่ The Water Library, Central Embassy อาหารกลางวันและอาหารเย็น 6 คอร์ส 9,900++ บาท พร้อมกับไวน์แพร่งเริ่มต้นที่ 2,900++ บาท วันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2566 กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 20 พฤศจิกายน 2566 – A. THE WATER LIBRARY ขอนำเสนอประสบการณ์รสชาติชั้นเลิศที่หลากหลายกับงาน “4 HANDS Flavors of Nostalgia” ที่มีเชฟระดับเทพผู้ครองตำแหน่งหัวหน้าเชฟร้าน 3 ดาวมิชลินจาก Amador Restaurant ในเวียนนา และเชฟ บุญ กีรติ เชฟเดอคุซีนที่ The Water Library, Central Embassy ในงานนี้ผู้ร่วมงานจะได้สัมผัสประสบการณ์อาหารที่หรูหรา 6 คอร์ส ในราคา 9,900++ บาท พร้อมไวน์แพร่งที่เริ่มต้นที่ 2,900++ บาท รายละเอียดงาน: วันที่: 28-29 พฤศจิกายน 2566เวลา: อาหารกลางวันและอาหารเย็นสถานที่: The Water Library, Central Embassyติดต่อจองที่นั่ง: โทร. 065-254-9645 เมนูที่โดดเด่น: Menu Highlights: Amuse-BoucheBeef tartare à la chinoise…
โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีอย่างภาคภูมิใจด้วยการเฉลิมฉลอง “25 ปีแห่งการขอบคุณ” สุดพิเศษ ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับโรงแรมเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกย่องชุมชนที่มีชีวิตชีวาซึ่งได้เสริมสร้างมรดกสืบทอดตลอดหลายปีที่ผ่านมา สัมผัสประสบการณ์ที่กรุงธนบุรี: ทัวร์ 25 สถานที่น่าสนใจซ่อนตัวอยู่ในฝั่งธนบุรี (ทุกวันพุธ) ทัวร์พร้อมไกด์นี้จะพาแขกไปสัมผัสการเดินทางอันน่าดื่มด่ำผ่านขุมทรัพย์ลับของกรุงธนบุรี เผยให้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในย่านนี้ เช่น อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สวนสมเด็จย่า), วัดทองนพคุณ, ศาลเจ้ากวนอู คลองสาน, มัสยิดตึกแดง และ ล้ง 1919 เป็นต้น ประสบการณ์ชิมอาหารและขนมหวาน 25 รายการ: เจาะลึกโลกแห่งขนมหวานแบบดั้งเดิมของฝั่งธนบุรีที่ หลากหลายและน่าเอร็ดอร่อย ร่วมชมสาธิตการทำอาหารและรับฟังข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสำคัญทางวัฒนธรรมของขนมเหล่านี้ อาทิ อาหารสยาม โปรตุเกส บ้านสกุลทอง, ขนมหวานตลาดพลู, ขนมเบื้องวัดอรุณ, ขนมไหว้พระจันทร์กอกใจ, ขนมฝรั่งกุฎีจีน, โบ๊กเกี้ย ท่าดินแดง, กล้วยไข่เชื่อม, ขนมข้าวเม่า, กุหลาบจามุน และอีกมากมาย พร้อมเพลิดเพลินกับทัวร์ชิมอาหารคาวหวานของฝั่งธนบุรี ราคาท่านละ 2,000 บาท แพ็คเกจห้องพัก รับประทานอาหาร และสปา: โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ ขอเชิญมาสัมผัสประสบการณ์การเข้าพักสุดหรู กับแพ็คเกจ “25th Anniversary Stay Package” จองห้องพักหรือห้องสูท ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 20 ธันวาคม 2566 พร้อมรับสิทธิประโยชน์พิเศษมากมาย: อัปเกรดห้องพักฟรี เพื่อยกระดับประสบการณ์การเข้าพักของคุณรับประทานอาหารเช้านานาชาติแสนอร่อยที่ River Café & Terrace ทุกวันสำหรับสองท่าน รับเครดิต 2,500 บาทต่อวันสำหรับการเข้าพักในห้องพักทุกประเภท (ไม่รวมที่พัก Grand Terrace Suite และ Duplex Suite) หรือเครดิต 25,000 บาทต่อวันสำหรับการเข้าพักในห้อง Grand Terrace Suite หรือ Duplex Suiteเลื่อนเวลาการเช็คอินและเช็คเอาท์…
Chef : Chef Jose Martin Ruiz Borja : 10 2023 Story : Nuthawut J / Photo : Pol.Capt. Kittin A อาหารสเปน เป็นหนึ่งในประเภทอาหารที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง ผ่านการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบ เครื่องเทศ และเทคนิคเฉพาะตัว ล้วนรังสรรค์และปรุงแต่งออกมาได้อย่างยากที่จะเลียนแบบ ทำให้การหาทางอาหารสเปนแท้ ๆ ในบ้านเรานั้นค่อนข้างยากพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาความกลุ้มใจที่หาร้านอาหารสเปนดั้งเดิมได้ยากนั้นจะหมดไป หากท่านรู้ถึงตำแหน่งแห่งที่ ด้วยเหตุนี้ พวกเราทีมงาน Kinandleisure จึงพร้อมใจนำเสนอ ภัตตาคาร Sooooo Goood Gourmet ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของท่านผู้อ่าน ที่กำลังมองหาร้านอาหารสเปนแบบแท้ ๆ ที่คงเอกลักษณ์ความเป็นอาหารสเปนไว้ได้อย่างครบถ้วน ในขณะที่มีการปรุงแต่งรสชาติให้เข้ากับลิ้นของคนไทยได้ มีความใส่ใจในทุกรายละเอียดที่จะสร้างประสบการณ์ทางอาหารอันน่าประทับใจให้กับท่านผู้อ่านได้เป็นอย่างดี ภัตตาคาร Sooooo Goood Gourmet ตั้งอยู่ในซอยราชวินิตบางแก้ว อยู่ใกล้กับโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว และเมกะบางนา สามารถขับรถทะลุออกทางด้านหลังแล้วเข้าสู่ถนนราชวินิตบางแก้วได้เลย หรือสามารถเดินทางมาทางถนนเส้นบางนาตราดได้เช่นกัน ตัวภัตตาคารตั้งอยู่ประมาณกลางซอย สามารถเดินทางมาด้วยรถยนต์ได้อย่างสะดวก สามารถจอดรถได้ในบริเวณร้าน การตกแต่ง ภัตตาคาร Sooooo Goood Gourmet มีการตกแต่งผนังและอาคารด้วยสีเขียวไข่กา มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย มีทั้งโซนนั่งหน้าร้าน และโซนที่นั่งภายในร้านอาหาร ด้วยความที่การตกแต่งและการประดับกระจกบริเวณประตูทางเข้าร้าน ทำให้มีแสงแดดส่องอย่างทั่วถึง ให้บรรยากาศการทานอาหารยามเที่ยงในวันที่อากาศดี รวมถึงบรรยากาศโดยรวมภายในร้าน ให้ความรู้สึกที่เป็นกันเอง ด้วยความที่มีสเตชั่นทำอาครัวที่เห็นได้ชัดเจน ทำให้เราสามารถเห็นขั้นตอนการปรุงอาหารและตกแต่งจานของเชฟได้อย่างถนัดตา ด้วยบรรยากาศโดยรวม ทำให้ภัตตาคารแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งในจุดนัดพบ นัดทานข้าว ที่น่าสนใจเช่นกัน อาหาร ด้วยความที่ภัตตาคาร Sooooo Goood Gourmet มีการนำเสนอในรูปแบบ Spanish-Mediterranean Casual Fine Dining ทำให้ผู้รับประทานอาหารสามารถสัมผัสได้กับข้อดีของสไตล์การทานอาหารทั้งสองแบบ คือ ได้รับความสบายใจ ผ่อนคลาย เป็นกันเอง จากบรรยากาศของร้าน ในขณะที่ยังสามารถลิ้มรส…
Chef : Ho kingyip : 11 2023 Story / Photo : Pol.Capt. Kittin A เชฟวิคเตอร์ได้สั่งสมประสบการณ์มากว่าสามทศวรรษ เขาได้นำความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมอันมากมาย จากประสบการณ์งานครัวที่มีชื่อเสียงมากมายทั่วเอเชีย เช่น “Lung King Heen Kitchen” ระดับมิชลิน 3 ดาว (ในขณะที่เชฟร่วมงาน) ประเทศฮ่องกง และ Shang Palace ที่ไทเป ประเทศไต้หวัน มาสู่การสร้างสรรค์อาหารจีนตำรับกวางตุ้งเมนูใหม่ ยกระดับศิลปะอาหารจีนและสร้างประสบการณ์การทานอาหารที่พิเศษ ที่ห้องอาหารเหม่ยเจียง (Mei Jiang) ในฐานะหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ชาวจีน ความทุ่มเทของเขาในการรักษามาตรฐานอันไร้ที่ติและแนวทางการสร้างสรรค์อาหารจีน ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับในวงการ อาหารจีนกวางตุ้งเมนูใหม่ ที่เหม่ยเจียง เป็นการนำวัตถุดิบเกรดพรีเมียมจากในท้องถิ่นและนำเข้าจากนานาชาติ มารังสรรค์อาหารจีนกวางตุ้ง เสิร์ฟในรูปแบบตะวันตก หรือสไตล์แบ่งปันกับครอบครัว อาทิ กุ้งลายเสือและหมั่นโถวทอดซอสเอ็กซ์โอ ปูจ๋าสไตล์จีน ซุปหอยสังข์ตุ๋นกระเพาะปลาน้ำใส กุ้งมังกรภูเก็ตนึ่งไข่ขาวเหล้าจีน ซี่โครงเนื้อผัดพริกสไตล์เสฉวน และ ข้าวผัดเป๋าฮื้อห่อใบบัว ฯลฯ “ผมรู้สึกตื่นเต้นและยินดีมากที่ได้ร่วมงานกับทีมพ่อครัวและที่มีความสามารถของห้องอาหารเหม่ยเจียง โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ แห่งนี้ ผมมีความมุ่งมั่นในการทำอาหารเพื่อความสมบูรณ์แบบมาโดยตลอด และจะได้นำความหลงใหลในอาหารจีนและอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ใหม่ๆ ของผมมาสู่ห้องอาหารแห่งนี้” เชฟวิคเตอร์กล่าว ความเชี่ยวชาญของเชฟวิคเตอร์ครอบคลุมทักษะการทำอาหารที่หลากหลาย ตั้งแต่การประดิษฐ์อาหารที่ประณีตไปจนถึงบริหารทีมพ่อครัวชั้นนำ ในการสร้างประสบการณ์ยกระดับการรับประทานอาหารด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่น่าจดจำให้กับแขกโรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ Ho King Yip และครั้งนี้เราจะพาทุกท่านไปเปิดตัวเมนูชิมสุดพิเศษ ค้นพบความเป็นเลิศด้านอาหารกวางตุ้งกับเชฟใหญ่คนใหม่ วิคเตอร์ โฮ แห่งห้องอาหารเหมยเจียง โรงแรมเพนนินซูล่ากรุงเทพฯ X.O.醬海蝦球炸饅頭 : FRIED TIGER PRAWNS CRISPY MANTOU, X.O. SAUCE กุ้งตายเสีอนละหมั่นโสวทอดซอสเอ็กชโอ ดื่มด่ำกับกุ้งลายเสือทอดกับหมั่นโถวกรอบและ X.O. ซอสไม่ได้เป็นเพียงการเปิดเผยการทำอาหาร ตั้งแต่คำแรกจนถึงคำสุดท้าย จานนี้ถ่ายทอดรสชาติและเนื้อสัมผัสที่สอดประสานกันจนทำให้ต่อมรับรสเริ่มต้นการทำงานได้เป็นอย่างดี เหมาะอย่างยิ่งกับการเริ่มมื้ออาหาร…
1. โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ต้อนรับเชฟชาวญี่ปุ่นมากประสบการณ์เสิร์ฟมื้อค่ำสุดพิเศษ 20 – 22 ตุลาคม นี้เท่านั้น Banyan tree Bangkok ร่วมเดินทางสัมผัสประสบการณ์ดินเนอร์สุดประทับใจ ณ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ดื่มด่ำกับเมนูสุดพิเศษที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างอาหารญี่ปุ่นที่มีกลิ่นอายของอาหารฝรั่งเศส โดยเปิดให้บริการเพียง 3 วันเท่านั้น ระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม 2566 เชิญชวนคุณมาเพลิดเพลินกับ ‘Taste of Hakuba: A Gastronomic Journey to Japan’ ที่รังสรรค์โดยเชฟฮิเดอะกิ นากายะ (Hideki Nagaya) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Executive Chef ) จากคานอลลี่ รีสอร์ท (Kanolly Resort) ประเทศญี่ปุ่น เชฟมากประสบการณ์ที่เคยผ่านงานในห้องอาหารชั้นนำระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่ Narisawa ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังระดับมิชลิน 2 ดาว และ L’Effervescence ร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรูมิชลิน 3 ดาว เชฟฮิเดอะกิได้นำเอาทักษะที่ฝึกฝนมาอย่างประณีต ร้อยเรียงเรื่องราวผ่าน… อ่านต่อ คลิกที่นี่ >>> https://www.kinandleisure.com/promo-taste-of-hakuba-hideki-nagaya-banyan-tree-bangkok/ 2. โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ร่วมฉลองครบรอบ 180 ปี มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ ผู้ก่อตั้งโรงแรมเคมปินสกี้ กับขนมต้นตำรับรสเลิศหากินยาก ในโอกาสครบรอบ 180 ปี มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ขอเชิญคุณร่วมเฉลิมฉลองด้วยเมนูเบเกอรี่สุดพิเศษจากเชฟรับเชิญ เชฟสตีเฟ่น โฮลเล่ (Chef Steffen Holle) หัวหน้าพาสทรี้เชฟ (Head pâtissier) จาก จาก Hotel Adlon Kempinski Berlin ประเทศเยอรมนี ที่จะมารังสรรค์ความอร่อยสไตล์เยอรมันสูตรต้นตำรับที่ Berthold Delicatessen ชั้นล็อบบี้…
โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ร่วมฉลองครบรอบ 180 ปี มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ (Mr.Berthold Kempinski) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Kempinski มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1843 ในครอบครัวเคมปินสกี้ โดยเริ่มต้นจากการเป็นพ่อค้าไวน์จากเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในโปแลนด์ จากนั้นในปี 1872 ได้ย้ายไปที่กรุงเบอร์ลินและเปิดร้านไวน์เล็กๆ พร้อมให้บริการอาหารในราคาที่เป็นกันเอง มร.แบร์โธลด์เป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนออาหารในปริมาณที่พอเหมาะคู่กับไวน์ที่เสิร์ฟขายเป็นแก้ว โดยในมื้อนั้นลูกค้าสามารถเลือกเมนูอาหารหลายเมนูคู่กับไวน์ได้ (wine pairing) หรือหากมีงบน้อยกว่า ลูกค้าก็สามารถที่เลือกไวน์ครึ่งแก้วและไวน์หนึ่งแก้วในราคาที่สามารถจับต้องได้ จากนั้นมร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ ได้ขยายกิจการสู่ร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงโรงแรมสุดหรูในปัจจุบัน ในโอกาสครบรอบ 180 ปี มร. แบร์โธลด์ เคมปินสกี้ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ขอเชิญคุณร่วมเฉลิมฉลองด้วยเมนูเบเกอรี่สุดพิเศษจากเชฟรับเชิญ เชฟสตีเฟ่น โฮลเล่ (Chef Steffen Holle) หัวหน้าพาสทรี้เชฟ (Head pâtissier) จาก จาก Hotel Adlon Kempinski Berlin ประเทศเยอรมนี ที่จะมารังสรรค์ความอร่อยสไตล์เยอรมันสูตรต้นตำรับที่ Berthold Delicatessen ชั้นล็อบบี้ โรงแรมสินธนเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ – 18 ตุลาคม 2566 สำหรับเมนูเบเกอรี่สุดพิเศษจะมีให้ทุกท่านลิ้มลองตั้งแต่ วันนี้ – 31 ตุลาคมนี้ ไม่ว่าจะเป็นOld German Apple Pie พายแอปเปิ้ลเยอรมันเก่า Classic Adlon Cake เค้ก Adlon สุดคลาสสิก, เค้ก Baumkuchen, เค้ก Frankfuter Kranz และอีกมากมาย เชฟสตีเฟ่น …
ร่วมเดินทางสัมผัสประสบการณ์ดินเนอร์สุดประทับใจ ณ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ดื่มด่ำกับเมนูสุดพิเศษที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างอาหารญี่ปุ่นที่มีกลิ่นอายของอาหารฝรั่งเศส โดยเปิดให้บริการเพียง 3 วันเท่านั้น ระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม 2566 เชิญชวนคุณมาเพลิดเพลินกับ ‘Taste of Hakuba: A Gastronomic Journey to Japan’ ที่รังสรรค์โดยเชฟฮิเดอะกิ นากายะ (Hideki Nagaya) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Executive Chef ) จากคานอลลี่ รีสอร์ท (Kanolly Resort) ประเทศญี่ปุ่น เชฟมากประสบการณ์ที่เคยผ่านงานในห้องอาหารชั้นนำระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่ Narisawa ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังระดับมิชลิน 2 ดาว และ L’Effervescence ร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรูมิชลิน 3 ดาว เชฟฮิเดอะกิได้นำเอาทักษะที่ฝึกฝนมาอย่างประณีต ร้อยเรียงเรื่องราวผ่านจิตนาการ จนสร้างสรรค์สไตล์การทำอาหารในแบบฉบับของตัวเอง ลิ้มลองรสชาติที่ชวนหลงใหลของมื้ออาหาร 7 คอร์ส โดยทุกคอร์สนั้นมีการนำเสนอที่แตกต่างกันออกไปและแสดงให้เห็นถึงปรัญชาในการทำอาหารที่เน้นความเรียบง่าย เลือกใช้วัตถุดิบอย่างพิถีพิถันและรสชาติแบบญี่ปุ่น ประยุกต์เข้ากับเทคนิคการทำอาหารแบบฝรั่งเศส โดยเมนูไฮไลท์ คือ สเต๊กเนื้อมิยางิวากิว ซึ่งเอาใจคนรักเนื้อด้วยการคัดสรรเนื้อวัวชั้นเลิศจากประเทศญี่ปุ่น นำมาย่างอย่างพิถีพิถันสุกนุ่มกำลังดี กลิ่นหอมรมควันช่วยเพิ่มรสสัมผัสให้เข้มข้นกลมกล่อม ค่ำคืนพิเศษที่ทุกท่านไม่ควรพลาด กับประสบการณ์อาหารมื้อค่ำสุดครีเอทีฟ ‘Taste of Hakuba: A Gastronomic Journey to Japan’ 7 คอร์ส ราคา 4,990++ บาท ต่อท่าน หรือยกระดับอรรถรสอาหารไปอีกขั้นด้วยเครื่องดื่ม พรีเมี่ยมที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ เพิ่มในราคาเพียง 1,599 ++ บาท ต่อท่าน ณ ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ชั้นที่ 60 โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 19.30-21.30 น. ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. +66 (0)…
จากกระแสการตอบรับและความสำเร็จในการจัดงานJapanese Fair เมื่อปี 2565 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมงาน Japanese Fairที่จะจัดขึ้นอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Sense of Japan” โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 ถึงวันที่ 29ตุลาคม 2566ซึ่งภายในงานทุกท่านจะได้ร่วมสัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งกับศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นผ่านเวิร์กชอปทุกท่านจะได้เรียนรู้และลงมือทำด้วยตัวเอง รวมไปถึงประสบการณ์การรับประทานอาหารอย่างเหนือระดับ“ประเทศญี่ปุ่นมีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่และวัฒนธรรมที่สวยงามยาวนานนอกจากนี้ประเทศญี่ปุ่นยังมีชื่อเสียงในด้านการต้อนรับและการเอาใจใส่ในการบริการ หรือที่เรียกว่า “โอโมเตนาชิ”(Omotenashi) คือการให้บริการที่เหนือความคาดหวัง เพื่อสร้างประการณ์ที่ดีและความประทับใจนอกจากนี้ยังเป็นปรัชญาการให้บริการของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯและผมรู้สึกยินดีและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่เราจะได้จัดงานอันยอดเยี่ยมนี้อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้” มร. นิกซ์ แฮมเมอร์ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ กล่าวไฮไลท์เมนูของห้องอาหารสำหรับงาน Japanese Fair – Sense of Japan 2023 ได้แก่:วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2566ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ – สำหรับผู้ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะและใช้เวลาหลังเลิกงานกับเพื่อนฝูงและคนรัก ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ เปิดให้บริการบุฟเฟต์อิซากายะพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดงานประจำปี Japanese Fair – Senseof Japan เพลิดเพลินกับค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานด้วยบุฟเฟต์อิซากายะและยะไตที่มีให้เลือกหลากหลายชนิดดื่มด่ำไปกับค่ำคืนอันแสนสนุกด้วยสุราจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมดนตรีสดเพื่อความบันเทิงตลอดค่ำคืนให้บริการตั้งแต่เวลา 18:00 น. ถึง 22:00 น.แพ็กเกจบุฟเฟต์อิซากายะพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากประเทศญี่ปุ่นไม่อั้น 4 ชั่วโมง ราคา 3,300++ บาท ต่อท่านแพ็กเกจบุฟเฟต์อิซากายะรวมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ราคา 2,300++ บาท ต่อท่านแพ็กเกจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากประเทศญี่ปุ่นไม่อั้น 4 ชั่วโมง ราคา 1,500++ บาท ต่อท่าน Park Ventures Ecoplex, 57 Wireless Road, Bangkok 10330 ThailandT. +66 (0) 2687 9000 F.…
โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท เฉลิมฉลองการกลับมาของล็อบบี้ด้วยพิธีเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อให้ทุกท่านได้ชมความหรูหรา ความสง่างาม และการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างความอ่อนช้อย งดงาม ปราณีตของประเทศไทย และการออกแบบที่หรูหรา มาพร้อมเรื่องราวที่น่าประทับใจของฝรั่งเศส ภายในงานประกอบไปด้วยพิธีตัดริบบิ้น ซึ่งนำโดยโมด บายย์ลี่ย์, ประธานบริหารกลุ่มโรงแรมโซฟิเทล ร่วมกับเรเน่ นิฮอฟ กรรมการผู้บริหารบริษัทเดลมอนสยาม, มาร์คัส เคลเลอร์ ผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการกลุ่มโรงแรมโซฟิเทล, โอลิเวอร์ ชนัทส์ ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท และผู้จัดการภูมิภาคประเทศไทย และโทมัส เมเยอร์ รองประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการสูงสุดกลุ่มโรงแรมโซฟิเทล โดยงานนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของโรงแรมฯ ที่จะยกระดับการบริการ และเพิ่มประสบการณ์การณ์ของทุกท่านให้เต็มไปด้วยความหรูหราที่น่าประทับใจอย่างไม่รู้ลืม และงานนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญสำหรับโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท ที่ได้เฉลิมฉลองก้าวใหม่ที่เต็มไปด้วยความมั่นคงและต้อนรับยุคใหม่แห่งความหรูหรา และสง่างาม ในภาพ จากซ้าย: มาร์คัส เคลเลอร์ ผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการกลุ่มโรงแรมโซฟิเทล, เรเน่ นิฮอฟ กรรมการผู้บริหารบริษัทเดลมอนสยาม, โมด บายย์ลี่ย์, ประธานบริหารกลุ่มโรงแรมโซฟิเทล, โอลิเวอร์ ชนัทส์ ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท และผู้จัดการภูมิภาคประเทศไทย และ โทมัส เมเยอร์ รองประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการสูงสุดกลุ่มโรงแรมโซฟิเทล อีกหนึ่งความน่าสนใจในค่ำคืนนี้ก็คือ “เมซง มิซูกิ” บาร์เปิดใหม่ของโรงแรมฯ ที่พร้อมให้คุณได้เข้าไปอยู่ในโลกของวิสกี้ ค็อกเทล และซูชิโดยแขกจะได้รับความสุขจากการรับประทานอาหาร ลิ้มลองเมนูเลิศรสที่ผสมผสานวัฒนธรรมและรสชาติเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นจุดเด่นของความเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารของโซฟิเทล ในส่วนของล็อบบี้ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ณ ตอนนี้ ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของความสุขและการเฉลิมฉลอง โดยได้รับการออกแบบใหม่ที่ผสมผสานสุนทรียศาสตร์ทางฝรั่งเศสเข้ากับการออกแบบของไทยร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ซึ่งได้แฝงวัฒนธรรมและประเพณีไทยอย่าง “เทศกาลสงกรานต์” และกลีบดอกไม้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนช้อย งดงามไว้ในโคมไฟระย้า ถือเป็นฉากหลังที่น่าหลงใหลสำหรับการเฉลิมฉลองเป็นอย่างยิ่ง “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งของโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท ความผูกพันระหว่างประเทศไทยและฝรั่งเศสนั้นเหนียวแน่น และไม่มีที่ไหนที่จะเชื่อมโยงสิ่งนี้ได้ชัดเจนไปกว่าโรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ สุขุมวิท ที่ได้ผสมผสานทั้งสองวัฒนธรรมไว้ได้อย่างงดงาม เป็นเวลาเกือบหกทศวรรษแล้วที่แบรนด์ของเราเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราแบบฝรั่งเศส และ ณ ใจกลางกรุงเทพฯ เราได้ผสมผสานมันเข้ากับความอบอุ่นและความอ่อนน้อมในการต้อนรับแบบไทยได้อย่างลงตัว ล็อบบี้ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่นี้เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะโคมไฟระย้าที่โดดเด่น ซึ่งเปรียบเสมือนการเฉลิมฉลองอันมีชีวิตชีวาของเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งสะท้อนถึงท่าทางการไหว้แบบไทย พร้อมใช้สุนทรียภาพแบบฝรั่งเศสทำให้โคมไฟระย้าชิ้นนี้ได้ชื่อว่า “การไหว้ และ สายน้ำ”…