Chef : Arboo Date : 6 2024 Story : Nutthawat J. / Photo : Pol.Capt. Kittin A สวัสดีท่านผู้มีรสนิยมในการรับประทานอาหารทุกท่านอีกเช่นเคยครับ วันนี้ ทาง Kinandleisure มีห้องอาหารคุณภาพมาเสนออย่างภาคภูมิใจอีกเช่นเคย ในครานี้เป็นอาหารอินเดีย สุดยอดอาหารที่เป็นดั่งมนต์เสน่ห์แห่งทวีปเอเชียของเรา ซึ่งอาหารไทยของบ้านเราเองก็มีบางส่วนบางเมนูที่ได้รับอิทธิพล หรือมีการใช้เครื่องเทศแห่งดินแดนแคว้นถิ่นสุดน่าค้นหาแห่งนี้ ซึ่งคราวนี้ไม่ต้องไปที่ไหนไกล เพราะทางห้องอาหาร นิลา (NILA) แห่งโรงแรมอมารี กรุงเทพ พร้อมที่จะนำเสนอประสบการณ์ทางอาหารที่น่าตระการตา ให้ทุกท่านได้สัมผัสอย่างเต็มเปี่ยมและตราตรึงใจครับ Location โรงแรมอมารี กรุงเทพฯ เดิมคือโรงแรมอมารี ประตูน้ำ ตั้งอยู่ในโซนใจกลางกรุง สามารถเดินทางมาได้โดยสะดวก ทั้งจากการโดยสารรถยนต์ (ทางโรงแรมมีที่จอดรถให้อย่างเหลือเฟือ) หรือเดินทางมาจากระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพมหานครก็สะดวกเช่นกัน เพราะทางโรงแรม อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ทำให้การเดินทางไปกลับ หรือการเดินทางเพื่อไปทำธุระที่อื่นต่อสามารถทำได้ง่ายมาก เพราะอยู่ใจกลางเขตเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ โดยห้องอาหาร Nila ตั้งอยู่ไม่ไกลจากห้องอาหารชมสินธุ์ ที่เป็นหนึ่งในห้องอาหารที่น่าประทับใจที่มาพร้อมแนวคิด Sustainable Eating ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่า โรงแรมแห่งนี้ มีร้านอาหารแทบจะทุกแบบทุกสไตล์ให้ท่านได้ลองลิ้มชิมรสกัน ทั้งอาหารอิตาเลียน (Prego) ห้องอาหารไทย (ชมสินธุ์) หรือห้องอาหารอินเดีย หรือก็คือห้องอาหาร Nila แห่งนี้นั่นเองครับ Decoration เมื่อแรกเริ่มเดินเข้ามาในร้าน ท่านจะได้สัมผัสกับศิลปะการตกแต่งที่ทำให้นึกถึงอินเดียในแถบชายฝั่ง ซึ่งคำว่า Nila มีความหมายคือคำว่า Blue ซึ่งเป็นการสื่อถึงบรรยากาศชายทะเล การตกแต่งภายในร้านได้ทั้งกลิ่นอายความเป็นอินเดีย ทั้งบรรยากาศ วัสดุที่ใช้ในการตกแต่ง รวมถึงสัมผัสได้ถึงศิลปะแบบโปรตุเกส เป็นการสื่อถึงประวัติศาสตร์ทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์สากล และประวัติศาสตร์การเดินเรือ ลักษณะการตกแต่งภายในห้องอาหาร ค่อนข้างมีความเป็นกันเอง เรียบหรูแต่อยู่สบาย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านแถบชายฝั่ง พร้อมการตกแต่งที่ทำให้นึกถึงการเดินเรือ และบันทึกการเดินเรือของนักเดินทางผู้ชำนาญ เมื่อลองมองดูด้านนอก ท่านจะได้เห็นบรรยากาศด้านนอกโรงแรมได้อย่างชัดเจน ซึ่งจุดนี้ก็เป็นสิ่งที่ช่วยในการสร้างความแตกต่าง ระหว่างตอนกลางวันและยามกลางคืน ที่ทั้งสองช่วงเวลาในห้องอาหาร จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ห้องอาหารเริ่มสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยโซนที่เป็นบาร์ในด้านนอก และโซนที่เป็นห้องอาหารในด้านใน จะถ่ายรูปก็สวยได้ทุกมุม รวมถึงอาหารทุกจานล้วนแฝงความน่าประทับใจผ่านการนำเสนออัตลักษณ์ของดินแดนแห่งเครื่องเทศให้ทุกท่านได้เฟ้นหา ซึ่ง Welcome Drink ที่ได้ทดลองในรอบนี้ก็น่าแปลกตาแปลกใจ…
Author: Kittin Assavavichai
ด้วยแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของพ่อค้า ห้องอาหารนิลา (NILA) เชิญชวนทุกท่านพบกับประสบการณ์แห่งอาหารที่รุ่มรวยลึกล้ำไปด้วยรสชาติและเรื่องราวแห่งวัฒนธรรมของอาหารอินเดียริมชายฝั่ง “นิลา” ในภาษามาลายาลัมแปลว่าสีน้ำเงิน ที่สื่อถึงสีของน้ำทะเลตามแนวชายฝั่ง ซึ่งจากสภาพภูมิอากาศทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการค้าขาย ในยุคที่รุ่งเรืองไปด้วยการค้า และจากการที่เคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส ทั้งสถาปัตยกรรมและอาหารอินเดียตามแนวชายฝั่งนี้จึงได้รับอิทธิพลและมีกลิ่นอายของโปรตุเกสด้วยเช่นกัน บรรยากาศ นิลา ผสมผสานอิทธิพลของโปรตุเกสด้วยสีสันสดใสซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของเมืองกัวและมนต์เสน่ห์แห่งชายฝั่งมะละบาร์ (Malabar) ของอินเดีย การตกแต่งสไตล์อินเดียคลาสสิกถูกหลอมรวมเข้ากับวัสดุที่เลือกใช้อย่างแนบเนียน สร้างประสบการณ์ที่โดดเด่นเสมือนอยู่ในยุคนั้นจริง ๆ นิลา ได้แนวคิดการออกแบบมาจากเรื่องราวของพ่อค้าผู้รักการผจญภัย ทุกพื้นที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทาง ประดับประดาด้วยของหายาก และของที่ระลึกอันล้ำค่า เชฟ เชฟบารัธ ชรินดาร์ บัต (Bharath S Bhat) หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหารนิลา ผู้อุทิศตนให้กับการรังสรรค์อาหารอินเดียร่วมสมัยมาตลอดชีวิตการทำงาน พร้อมแล้วที่จะพาทุกท่านก้าวออกจากอาหารอินเดียแบบเดิม ๆ บารัธมีประสบการณ์มากมายกว่า 10 ปีในการทำอาหารอินเดีย ทั้งในประเทศอินเดียและต่างประเทศ นอกจากนี้ เชฟบารัธยังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการอบรมทีมเชฟที่ห้องอาหารปันจาบ กริลล์ (Punjab Grill) ในกรุงเทพฯ เขามีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในเมนูที่เขารังสรรค์ขึ้นให้กับนิลา และตั้งเป้าที่จะสร้างให้นิลา เป็นร้านอาหารอินเดียแนวชายฝั่งของอินเดียชั้นนำทั้งในประเทศไทย และทั่วประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยให้ได้ อาหาร นิลา นำเสนอวัฒนธรรมการกินอันหลากหลายตามแถบชายฝั่งทะเลของอินเดียอย่างมีเอกลักษณ์ ครอบคลุมตั้งแต่อินเดียตะวันออกไปจนถึงอินเดียตะวันตก วัตดุดิบสำคัญของร้าน คืออาหารทะเลสด โดยเน้นรสชาติที่แตกต่างของแต่ละรัฐตามแนวชายฝั่ง และมะพร้าว ที่เชฟนำมาใช้รังสรรค์เมนูที่มีลักษณะเฉพาะอันโดดเด่น เติมเต็มด้วยเครื่องเทศรสชาติจัดจ้านและกลิ่นอายจากอิทธิพลของโปรตุเกส เมนูซิกเนเจอร์ของห้องอาหารนิลา ได้แก่ ซาร์ (saar) พริกแดงรมควันย่างถ่าน, ซปกระเทียมและมะเขือเทศสด จับคู่กับสลัดกุ้ง (prawn salad), เมนูจากพื้นที่ชายฝั่งทะเลของรัฐมหาราษฏระ ส่วนหนึ่งของมณฑลโกนกัน, เมนูยอดนิยมจากกัว พิริพิริกุ้งย่างไฟ (Peri Peri Jheenga) เสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศรมควันและชัทนีย์พริกหวาน เมนูจากชายฝั่งมะละบาร์ ได้แก่ Kozhi Chuttathu คือไก่อ่อนหมักด้วยโยเกิร์ตนำมาย่างถ่านและรมควันด้วยเครื่องเทศและพริกแดง, Truffle Madras Curry Chop แกงซี่โครงแกะใส่น้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล, Daab Chingri ประกอบด้วยกุ้งกุลาดำจากเบงกอลปรุงและเสิร์ฟในมะพร้าวสด, ล็อบสเตอร์ย่างและคลุกกับเนยใสรสเผ็ด สำหรับเมนูแกะ ที่นิลา มีให้คุณเลือกสองแบบ: สไตล์โกลกาตาจะเสิร์ฟกับน้ำมันมัสตาร์ด หรือสไตล์ไฮเดอราบัด ที่ปรุงด้วยวิธีเฟลมเบ้ จุดไฟลุกท่วม เสิร์ฟพร้อมเกลือสีชมพู เครื่องดื่ม เพื่อเติมเต็มความมีชีวิตชีวาให้กับอาหาร…
โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯเชิญคุณมาจิบน้ำชายามบ่ายกับ New Verdant Afternoon Tea 2024ท่ามกลางบรรยากาศหรูหราโอ่โถงของล็อบบี้ ที่ได้รับรางวัล Best HotelLobby Interior of Thailand and Best International Hotel LobbyInterior จาก International Property Awards ลิ้มลองรสชาติอันละเมียดของเมนูชุดชายามบ่าย New VerdantAfternoon Tea 2024 ที่เชฟพอล เคลลี่ เอ็กเซ็กคูทีพ พาสทรี้เชฟได้รังสรรค์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ชุด Classis Afternoon Teaสำหรับผู้ที่ชอบความเรียบหรูอร่อยในสไตล์ต้นตำรับ หรือจะเป็นชุดGuilt Free Afternoon Tea สำหรับผู้ที่ห่วงใยสุขภาพทุกชุดเสิร์ฟคู่กับชาระดับพรีเมี่ยมหลากหลายชนิดให้คุณได้เลือกตามความชอบ รวมทั้งชาสมุนไพรออร์แกนิก ชงโดยทีมาสเตอร์หรือพนักงานผู้เชี่ยวชาญด้านชาของโรงแรมฯที่จัดเตรียมมาเสิร์ฟให้คุณได้ผ่อนคลาย เริ่มต้นด้วย Jasmine Coco Granita เมนูเพิ่มความสดชื่นก่อนจิบชาที่รังสรรค์จากกะทิคั้นสดผสมผสานกลิ่นดอกมะลินำไปแช่เย็นและนำมาปั่นเป็นเกล็ดน้ำแข็งสีฟ้าอ่อนละมุ่นเสิร์ฟในดาร์กช็อกโกแลตที่ถูกดีไซน์ให้ดูละม้ายคลายกะลามะพร้าวขนาดกระทัดรัด อิ่มอร่อยกับสโคนสูตรต้นตำรับสุดคลาสสิค และสโคนบีทรูทผสมลูกเกด เสิร์ฟพร้อมโฮมเมดเจลลี่ชาเอิร์ลเกรย์,ซีทรัสเคิร์ด และ คล็อตเต็ดครีม กรุ่นกลิ่นความหอมกับเมนูของว่างยามบ่าย ไม่ว่าจะเป็นแซลม่อนและผักดอง –แซลม่อนทาร์ทาร์เสิร์ฟบนขนมปังโทสพร้อมเจลลี่หอมแดงดองและไข่ปลาคาร์เวียร์, วาฟเฟิ้ลสลัดเนื้อปู – วาฟเฟิ้ลกรอบสอดไส้ด้วยสลัดปูยักษ์เจลลี่ไซเดอร์ และไข่ปลาแซลม่อน, ทาร์ตไก่สูตรพิเศษ –ทาร์ตโฮมเมดสูตรพิเศษหอมกรุ่นสอดไส้ด้วยเนื้อไก่ผสมเครื่องเทศ,ฟัวกราพาร์เฟ่ต์ –ฟัวร์การ์เทอร์รีนสูตรพิเศษเสิร์ฟบนขนมปังชอร์ตเบรดและเจลลี่ส้มปิดท้ายเมนูของคาวด้วย อกเป็ดรมควันและขนมปังบียอช–ขนมปังบียอชสอดไส้ด้วยเนื้ออกเป็ดรมควันและมูสเป็ดโรยด้วยเจลสตรอว์เบอร์รี่ ลิ้มลองเมนูของหวานและเบเกอรี่เพื่อเพิ่มความสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นทาร์โก้ –แผ่นทาโก้ทำจากไวท์ช็อกโกแลตสอดได้ด้วยครีมช็อกโกแลตคาราเมลโรยด้วยซอสซอล์ทคาราเมลและพิต้า คริปปี้ (ข้าวพองเคลือบคาราเมล),บอนตี้ บาร์ –ช็อกโกแลตบาร์สอดไส้ด้วยมะพร้าวผสมผลราสเบอร์รี่สดและเมเปิ้ลไซรัปเคลือบด้วยช็อกโกแลตมันจารีเข้มข้น, ชีสเค้กมะม่วง –ชีสเค้กมะม่วงสอดไส้ด้วยเจลลี่แพชชั่นฟรุ๊ตและครีมวานิลลาสูตรพิเศษ,เค้กโอเปร่า –เค้กโอเปร่าพร้อมบัตเตอร์ครีมและช็อกโกแลตกานาชสูตรพิเศษ เมนูแห่งความอร่อยนี้จะถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับชุดชาที่ได้รับแรงบันดาลใจในการดีไซน์มาจาก Sustainability Concept ของทางโรงแรมฯที่ตระหนักถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติและมุ่งมั่นที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการนำวัสดุเหลือใช้อย่าง ใยมะพร้าวและแกลบข้าวมาสร้างสรรค์เป็นชุดชายามบ่ายดีไซน์เก๋ประดับด้วยต้นไม้ขนาดพอเหมาะที่ได้มาจากรากของต้นสารภีซึ่งถือเป็นไม้มงคลของไทย เพิ่มความตระการตาด้วยดรายไอซ์บริเวณฐานของชุดชา พบกับชุดชายามบ่าย New Verdant Afternoon Tea 2024พร้อมเสิร์ฟคุณทุกวัน ตั้งแต่เวลา 13:00 – 17:00 น. ณ ล็อบบี้ เลานจ์โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ในราคาชุดละ 2,300++ บาทสำหรับ…
เชิญคุณร่วมฉลองครบรอบ 1 ปีห้องอาหาร Bistrot De La Mer (บิสโทร เดอ ลา แมร์) ชั้น 19 โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ สัมผัสกลิ่นอายการตกแต่งสไตล์ French Mediterranean ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ และวิวสวยของกรุงเทพมหานคร จากมุมมองบนชั้น 19 พร้อมลิ้มลองหลากหลายเมนูอาหารฝรั่งเศสสุดคลาสสิค ไม่ว่าจะเป็น ซุปทะเลบูยาเบส (Bouillabaisse) สลัดปูริเวียร่า (Riviera Crab Salad) ซุปหัวหอมสไตล์ฝรั่งเศส ออนท็อปด้วยชีสแบบเข้มข้น (French Onion Soup) หอยทากทะเลอบเนย (Escargot Provencal) และอื่นๆ อีกมากมาย พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ เพื่อร่วมฉลองครบรอบ 1 ปี ของห้องอาหารบิสโทร เดอ ลา แมร์ “Buy a Tower, Get a Bottle” สั่ง Royale Seafood Tower 1 ที่รับฟรีทันที ไวน์ขาว หรือ โรเซ่ หรือ สปาร์คคลิ่งไวน์ 1 ขวด ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายนนี้ ห้องอาหาร Bistrot De La Mer (บิสโทร เดอ ลา แมร์) เปิดบริการทุกวัน มื้อกลางวัน ตั้งแต่เวลา 12.00 – 15.00 น. และมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 17.00 – 22.00 น.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. +66 2 095 9999…
ห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู ภูมิใจนำเสนอมื้อดินเนอร์สุดพิเศษ ซึ่งได้รับเกียรติจากเชฟเอเบล (Abel Ortiz Alvarez) เชฟชาวเปรู เจ้าของร้านอาหาร Chullschick ที่จะบินลัดฟ้ามาเสิร์ฟความอร่อยและมาพาแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่สุดประทับใจสู่ความจัดจ้านหลากหลายของรสชาติอาหารสไตล์เปรู ร้านอาหาร Chullschick เปิดกิจการ ณ ฮ่องกง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ซึ่งชื่อร้านได้ลูกเล่นมาจากการผสมคำว่า “ชุล (Chulls)” ซึ่งเป็นคำแสลงในภาษาเปรูมีความหมายว่า “เพื่อน” เข้ากับคำว่า “ชิค (Chick)” ในภาษาอังกฤษซึ่งแปลว่าไก่ ด้วยจุดประสงค์ที่จะแสดงให้เห็นถึงความอบอุ่นเป็นกันเองผสานกับวัฒนธรรมด้านอาหารตามแบบฉบับเปรู เชฟเอเบล (Abel) พร้อมแล้วที่จะยกระดับมื้อดินเนอร์ของทุกท่านด้วย 6 เมนูเลิศรสที่จะแต่งแต้มสีสันให้กับค่ำคืนของคุณ ทุกเมนูรังสรรค์ด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นจากเปรู ไม่ว่าจะเป็น เซบิเช่ สูตรดั้งเดิม (Classic Peruvian Ceviche) หมึกย่างหอมกรุ่น (Grilled Octopus) ไก่ย่างสไตล์เปรูรสเด็ด (Pollo a la Brasa) โดยแต่ละเมนูต่างสอดแทรกเรื่องราวของเชฟเอเบลไว้ อาทิ เมนูประจำชาติเปรูอย่าง เซบิเช่ ซึ่งเป็นเมนูที่เชฟเอเบลคุ้นเคยมาตั้งแต่เยาว์วัย โดยได้มีการนำเนื้อปลาสดมาหั่นเต๋าก่อนจะหมักเข้ากับน้ำมะนาวและเครื่องปรุงต่างๆเพื่อเพิ่มรสชาติให้จัดจ้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูไก่ย่างสไตล์เปรู (Pollo a la Brasa) ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากเมืองลิมา ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งจานโปรดของเชฟเอเบล โดยจุดเด่นของเมนูนี้คือเนื้อไก่นุ่มๆที่หมักเข้ากับเครื่องเทศ ย่างด้วยอุณหภูมิพอเหมาะ เนื้อไก่จานนี้จึงเต็มไปความชุ่มฉ่ำและรสชาติเข้มข้น เพิ่มอรรถรสให้กับมื้ออาหารด้วยเครื่องดื่มสุดพิเศษที่ทุกท่านสามารถเลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น ไวน์แพริ่ง จับคู่ไวน์ชั้นเลิศกับเมนูอาหารได้อย่างลงตัว หรือดื่มด่ำไปกับปิสโก้ ซาวร์ ค็อกเทลยอดนิยมจากเปรู พร้อมเพลิดเพลินไปกับดนตรีสดและทิวทัศน์ใจกลางเมืองจากห้องอาหารเวอร์ทิโก้ ทู บนชั้น 60 ร่วมเปิดประสบการณ์อาหารสไตล์เปรูรังสรรค์โดยเชฟเอเบลได้ตั้งแต่วันที่ 28 – 29 มิถุนายน 2567 ในราคาเพียงราคา 1,399 บาท ต่อท่าน หรือ 1,699 บาท พร้อมไวน์แพริ่ง ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งได้ที่ 02 679 1200 ดาวน์โหลดรูปภาพได้ที่: Peruvian Cuisine Takeover Kinandleisure.com Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง…
“เฮยยิน” ที่สุดของร้านอาหารจีนต้นตำรับสไตล์กวางตุ้งขนานแท้ บริหารงานโดย อิมแพ็ค เมืองทองธานี ก้าวสู่ปีที่ 3 ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาการบริการและความอร่อย พร้อมเปิดตัว “ชุดเมนูมงคลเฮยยิน” หรือ “HEI YIN Celebration Set Menu” โดยคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน รังสรรค์เป็น 9 เมนูเลิศรส ที่มาพร้อมความหมายมงคล ให้อิ่มเอมความสุขและความอร่อยกับมื้อพิเศษตลอดปี ในราคาชุดละ 28,888++ บาท สำหรับ 10 ท่าน (ราคาไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) ชื่อร้านอาหาร “เฮยยิน” ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานจีนกวางตุ้งโบราณ เพื่อเฉลิมฉลองความอุดมสมบูรณ์และความเป็นเลิศของอาหารกวางตุ้ง ที่กำเนิดมาจากเมืองกวางโจว ซึ่งเป็นเมืองที่มีความเพรียบพร้อมอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและการเกษตร ซึ่งมีส่วนทำให้เมืองกวางโจว เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางอาหาร และอาหารกวางตุ้ง เป็นหนึ่งในประเภทอาหารที่มีความหลากหลายทางด้านรสชาติ ภัตตาคาร เฮยยิน ต้องการที่จะประกอบสร้างความน่าประทับใจของอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งแท้ๆ ร่วมกับการปรับปรุงให้สอดคล้องและพัฒนาให้เข้ากับปัจจุบันมากขึ้น ด้วยฝีมือเชฟฮ่องกงคุณภาพ เชฟ แจ็คกี้ชาน และทีมเชฟที่มีประสบการณ์ด้านอาหารจีนอย่างโชกโชน ที่พร้อมรังสรรเมนูอาหารมากมายหลากหลายสไตล์ อันอุดมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และรสชาติที่ตราตรึงใจ ไว้พร้อมให้บริการมากกว่า 100 เมนู เริ่มต้นกับเมนู “สลัดกุ้งนิ่มผักโอชุน” ที่มีความหมายสื่อถึงการแสดงความยินดี วัตถุดิบหลักเป็นกุ้งนิ่มที่สามารถรับประทานได้ทั้งตัว พันด้วยเส้นหมี่แล้วนำไปทอดกรอบ ราดด้วยน้ำสลัดเทาซันด์ไอแลนด์ เสิร์ฟพร้อมสลัดก้านผักโอชุนแบบเส้นฝอย เพิ่มความเลอค่าด้วยไข่ปลาคาเวียร์สีดำคลับเค็มนิดๆและไข่กุ้ง เมนูนี้เชฟแนะนำให้กินคู่กับสปาร์คกิ้งระดับเซมิดรายจะเข้ากันได้อย่างดี “ซุปกระเพาะปลาเนื้อปูเห็ดชิเมจิ” เมนูนี้ให้ความมงคลโดยมีความหมายถึงความราบรื่นในชีวิต สมความปรารถนา ซุปกระเพาะปลารสชาติกลมกล่อม พร้อมเนื้อปูและเห็ดชิเมจิที่ดีต่อสุขภาพโดยใช้กระเพาะปลาสดชิ้นตัดมาพอดีคำ นุ่มหนึบอร่อย ซุปมีความทะเลมากทั้งจากปู กุ้ง และกระดูกปลา กลิ่นหอมทะเลชัดเจน ต่อด้วยเมนูซิกเนเจอร์ประจำร้าน “เป็ดปักกิ่งย่างไม้ลิ้นจี่” เมนูนี้มีความหมายมงคลมากโดยที่มีความหมายมงคลเปรียบดังชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ เมนูนี้ใช้เป็ดเชอรี่ตัวโต เป็ดเชอรี่หนัก 3 กิโลกรัม มีเนื้อเยอะ นำมาย่างด้วยไม้ลิ้นจี่ทำให้ได้ความหอมเฉพาะตัว ทานพร้อมผักและแป้งที่ใช้ห่อ โดยชุดผักมีความพิเศษคือให้แคนตาลูปมาด้วย ทำให้เมื่อห่อทุกอย่างทานแล้วจะได้ความสดชื่นจากผลไม้เพิ่มขึ้นมา ร่วมกับการลิ้มรสหนังเป็ดและผักที่กรอบและหอมมากๆ ไปพร้อมกัน “เป๋าฮื้อญี่ปุ่นซอสตับห่านไข่ปลาคาร์เวียร์” เป็นเมนูที่มีความเชื่อว่าเมื่อได้รับประทานแล้วจะมีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งเป๋าฮื้อเปรียบดั่งความมั่งคั่งเหลือกินเหลือใช้ ราดด้วยซอสตับห่านและไข่ปลาคาเวียร์ เสิร์ฟคู่กับผักฉ่อยลวกปรุงรส ให้รสชาติอร่อยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประดับด้วยทองคำเปลว กินคู่เคียงไปกับผักบ๊อกฉ่อย และหน่อไม้ฝรั่ง เมนูต่อมา “ซี่โครงเนื้อวัวแองกัสหมักข้าวแดงหมั่นโถว” เมนูนี้มีความหมายมงคลคือ ขอให้มีความสุขในวันพิเศษ ใช้เนื้อแองกัสส่วนซี่โครงนำไปหมักกับข้าวแดงจนนุ่มและมีรสกลิ่นเฉพาะตัวเข้าเนื้อ จากนั้นจึงนำไปตุ๋นจนนุ่มหอมถึงเนื้อในราดด้วยซอสสูตรเฉพาะ กินคู่กับหมั่นโถวที่ทำออกมาอย่างวิจัตรเป็นลายดอกไม้มงคล ก่อนเข้าสู่จานปลามาล้างปากกันด้วย…
อร่อยแบบจัดเต็มตลอด 4 ชั่วโมง ณ ห้องอาหารอูโนมาส ชั้น 54 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ เราขอชวนคุณมาค้นพบหลากหลายเมนูความอร่อยที่ส่งตรงจากสเปน ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียม และหลากหลายเมนูเลิศรส ที่พร้อมให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อยกับบรรดาเมนูสุดพิเศษ รสชาติอาหารสไตล์สเปนแท้ๆ อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น โดย เชฟโรแบร์โต้ กอนซาเลซ อลอนโซ หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหาร คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม นำมาปรุงแต่งเป็นเมนูจานเด่นเลิศรสให้คุณได้จัดหนักจัดเต็มแบบไม่จำกัด เริ่มต้นที่อาหารเรียกน้ำย่อย อาทิ สลัดซีฟู้ด, สลัดปลาหมึกยักษ์, ทูน่าทาร์ทาร์ เป็นต้น ต่อด้วยจัดหนักจัดเต็มกับอาหารจานหลักอย่าง ปลาหมึกย่าง, กุ้งผัดกระเทียมน้ำมันมะกอกกระทะร้อน, หมูหันสไตล์สเปน, เนื้อซี่โครงแกะย่าง และปลากระพงย่าง ปิดท้ายความอร่อยด้วยของหวาน คาตาลันครีม, ชูโรส เป็นต้น ในราคาเพียง 1,490 บาท++ ต่อท่าน (ไม่รวมเครื่องดื่ม) สามารถซื้อแพ็กเกจเครื่องดื่มเริ่มต้นที่ราคา 149 บาท++ (น้ำอัดลม น้ำเปล่า กาแฟ และชา) (ราคานี้ไม่รวมอัตราภาษีและค่าบริการ) บุฟเฟ่ต์อาหารกลางวันทุกวันเสาร์ และวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดให้บริการตั้งแต่ เวลา 12.00 น. ถึง 16.00 น. สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2100-6255 หรือ อีเมล์: [email protected] หรือสำรองที่นั่งผ่านเว็บไซต์ www.unomasbangkok.com ติดตามข่าวสารของห้องอาหารอูโนมาสได้ที่เว็บไซต์:www.unomasbangkok.com เฟสบุ๊ค: UNO MAS อินสตาแกรม: Unomas_Bangkok Kin News Kinandleisure.com Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ…
เกี่ยวกับโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท : เชฟกัสตง เลอโนท (Gaston Lenôtre) ผู้ก่อตั้งสถาบันแห่งความเป็นเลิศ “โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ปารีส ฝรั่งเศส” ถือเป็นผู้บุกเบิกและปฎิวัติวงการอาหารฝรั่งเศส ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่และปราถนาที่จะให้แบรนด์เลอโนทเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของอาหารฝรั่งเศส โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ 2514 (ค.ศ 1971) เพื่อต้อนรับเชฟมืออาชีพ และผู้เรียนทั่วโลกที่ต้องการเรียนรู้เคล็ดลับจากเชฟขนมอบผู้มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย ถือเป็นแห่งแรกนอกประเทศฝรั่งเศส และแห่งเดียวในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอยู่ภายใต้การบริหารของ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรฝึกอบรมการรับรองด้านอาหาร การทำขนม และบูลองเจอรีสำหรับมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการฝึกอบรมเฉพาะบุคคล สิ่งอำนวยความสะดวก โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย เป็นสถาบันที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทันสมัยและครบครัน อาคารเรียนใหม่ดีไซน์ทันสมัย พร้อมเปิดรับแสงธรรมชาติ ด้านในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ปารีเซียง บรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวโดยรอบ อุปกรณ์และเครื่องครัวได้มาตรฐานสากล บนพื้นที่ทั้งหมด 4,000 ตร.ม. ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ อาคารเรียน 3 ชั้น และพื้นที่จอดรถมากกว่า 100 คัน สำหรับอาคารเรียน 3 ชั้น ประกอบด้วย ชั้น 1 ห้องโถงเปิดกว้าง ตกแต่งสไตล์ปารีเซียง เรียบง่าย คลาสสิค เน้นเอิร์ธโทน ห้องสมุดโปร่งรับแสงธรรมชาติในบรรยากาศส่วนตัว พื้นที่ที่รวบรวมตำราการทำอาหารจากทั่วโลกไว้ที่นี่ ห้องสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องอาบน้ำ พร้อมล็อกเกอร์ส่วนตัว ร้านค้าขายอุปกรณ์สำหรับนักเรียน และของที่ระลึกจากเลอโนท ชั้น 2 ห้องเรียน 7 ห้อง โดยแต่ละห้องรองรับผู้เรียนได้สูงสุด 12 ท่านต่อห้อง (1 ท่านต่อเคาน์เตอร์ครัว) พร้อมอุปกรณ์และเครื่องใช้ในครัวตามมาตรฐานสากล ได้แก่ ✓ ห้องเรียนอาหารคาวจำนวน 3 ห้อง: เครื่องแช่เยือกแข็ง เตาอบลมร้อน เครื่องดูดสูญญากาศ เตาอบความร้อนสูง ไมโครเวฟ ตู้แช่แข็ง…
“เฮยยิน” ที่สุดของร้านอาหารจีนต้นตำรับสไตล์กวางตุ้งขนานแท้ บริหารงานโดย อิมแพ็ค เมืองทองธานี ก้าวสู่ปีที่ 3 ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาการบริการและความอร่อย พร้อมเปิดตัว “ชุดเมนูมงคลเฮยยิน” หรือ “HEI YIN Celebration Set Menu” โดยคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน รังสรรค์เป็น 9 เมนูเลิศรสที่มาพร้อมความหมายมงคล ให้อิ่มเอมความสุขและความอร่อยกับมื้อพิเศษตลอดปี ในราคาชุดละ 28,888++ บาท สำหรับ 10 ท่าน (ราคาไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) เริ่มต้นกับเมนู “สลัดกุ้งนิ่มผักโอชุน” ที่มีความหมายสื่อถึงการแสดงความยินดี วัตถุดิบหลักเป็นกุ้งนิ่มที่สามารถรับประทานได้ทั้งตัว พันด้วยเส้นหมี่แล้วนำไปทอดกรอบ ราดด้วยน้ำสลัดเทาซันด์ไอแลนด์ เสิร์ฟพร้อมสลัดก้านผักโอชุนแบบเส้นฝอย เพิ่มความเลอค่าด้วยไข่ปลาคาเวียร์และไข่กุ้ง “ซุปกระเพาะปลาเนื้อปูเห็ดชิเมจิ” มีความหมายถึงความราบรื่นในชีวิต สมความปรารถนา ซุปกระเพาะปลารสชาติกลมกล่อม พร้อมเนื้อปูและเห็ดชิเมจิที่ดีต่อสุขภาพ ต่อด้วยเมนูซิกเนเจอร์ประจำร้าน “เป็ดปักกิ่งย่างไม้ลิ้นจี่” ที่มีความหมายมงคลเปรียบดังชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ เมนูนี้ใช้เป็ดเชอรี่ตัวโต นำมาย่างด้วยไม้ลิ้นจี่ทำให้ได้ความหอมเฉพาะตัว “เป๋าฮื้อญี่ปุ่นซอสตับห่านไข่ปลาคาร์เวียร์” เป็นเมนูที่มีความเชื่อว่าเมื่อได้รับประทานแล้วจะมีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งเป๋าฮื้อเปรียบดั่งความมั่งคั่งเหลือกินเหลือใช้ ราดด้วยซอสตับห่านและไข่ปลาคาเวียร์ เสิร์ฟคู่กับผักฉ่อยลวกปรุงรส ให้รสชาติอร่อยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมนูต่อมา “ซี่โครงเนื้อวัวแองกัสหมักข้าวแดงหมั่นโถว” มีความหมายมงคลคือ ขอให้มีความสุขในวันพิเศษ ใช้เนื้อแองกัสส่วนซี่โครงนำไปตุ๋นจนนุ่มหอมถึงเนื้อใน ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษในงาน Tatler Off Menu 2024 ที่ผ่านมา “เนื้อปลาเก๋าดอกแดงนึ่งกระเทียมดำ” มีความหมายถึงการมีชีวิตที่ยืนยาว โดยใช้ปลาเก๋าดอกแดงจากทะเลน้ำลึก นำมานึ่งพร้อมกระเทียมดำ ได้รสชาติสดหวานและประโยชน์จากกระเทียมดำที่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด “เนื้อเป็ดปักกิ่งทอดเปรี้ยวหวาน” มีความหมายถึงความสะอาดบริสุทธิ์ ใช้เนื้อเป็ดนุ่มๆ จากเป็ดปักกิ่งนำมาทอดแบบเปรี้ยวหวานสไตล์กวางตุ้ง และอีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ “ไก่เหวินชางยัดไส้ข้าวเหนียวทรงเครื่อง” มีความหมายมงคลคือ สมความปรารถนาทุกประการ เชฟได้คัดสรรไก่พันธุ์เหวินชางจากประเทศจีน ที่มีเนื้อนุ่ม มีความหอมของไขมันที่ซึมผ่านเนื้อ และใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูจากเชียงรายนำมาผัดกับเครื่องปรุงต่างๆ ก่อนนำไปยัดไส้ในตัวไก่ แล้วนำไปอบให้ได้ความสุกพอดี จะได้รสชาติที่อร่อย ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน “อัมพันต้นท้อพุทราจีนไข่ลาวา” ที่สื่อถึงความร่มเย็นตลอดปี โดยอัมพันต้นท้อเป็นยางไม้ที่มีประโยชน์ หารับประทานยาก มีสรรพคุณเป็นธาตุหยิน รับประทานแล้วสดชื่น เนื้อสัมผัสคล้ายรังนก เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมลำไยและไข่หวานลวก และรับ 2 สิทธิพิเศษทันทีเมื่อสั่งชุดเมนูมงคลเฮยยิน ได้แก่…
สัมผัสประสบการณ์ความสง่างามและเสน่ห์อันประณีตของแกรนด์ คาเฟ่ แห่งแรกในลอนดอน เดอะ โวลส์ลีย์ ออน พิคคาดิลลี ที่นี่ในกรุงเทพฯ พร้อมน้ำชายามบ่ายอันเป็นเอกลักษณ์ คาเฟ่ โวลส์ลีย์ แห่งใหม่ ณ เดอะ โวลส์ลีย์ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ บริการน้ำชายามบ่ายอันน่ารื่นรมย์ได้รวบรวมแก่นแท้ของร้านกาแฟสไตล์ยุโรป โดยมีแซนด์วิชนิ้วต่างๆ สโคนผลไม้เนยพร้อมแยมโฮมเมดและคล็อตครีม และเค้กชั้นยอด ผู้เข้าพักสามารถเลือกรับประทานอาหารคลาสสิกหรือเมนูมังสวิรัติ หรือเพิ่มความแวววาวด้วยแชมเปญ Laurent Perrier ‘La Cuvée’ Brut NV สักแก้วแซนด์วิชฟิงเกอร์แสนอร่อยมีรสชาติคลาสสิก เช่น แซลมอนรมควัน มายองเนสไข่ ไก่ราชาภิเษก แตงกวาและมิ้นต์ ในขณะที่ลูกค้าที่ชื่นชอบของหวานจะได้เพลิดเพลินกับเค้กนานาชนิด เช่น ช็อกโกแลตมาร์กี ทาร์ตผลไม้ ชูซ์เลมอนเมอแรงค์ และชีสเค้กอบ น้ำชายามบ่ายที่ Iconic Café Wolseley มีให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 14.00 น. ถึง 18.00 น. ที่ล็อบบี้เลานจ์ หรือที่อควา อนันตรา สยาม กรุงเทพฯชุดคลาสสิกราคา 1,950++ บาท สำหรับสองท่าน รวมชาและกาแฟ Mariage Frères; ชุดแชมเปญ ราคา 4,150++ บาท สำหรับสองท่าน รวมเครื่องดื่ม Laurent Perrier ‘La Cuvée’ Brut NV หนึ่งแก้ว ชาและกาแฟ Mariage Frères สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง กรุณาติดต่อ: 0-2126-8866 Kin News Kinandleisure.com Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก…