ยกขบวนความอร่อยระดับตำนาน “𝑻𝒉𝒆 𝑻𝒂𝒔𝒕𝒆 𝒐𝒇 7 𝑪𝒖𝒍𝒊𝒏𝒂𝒓𝒚 𝑾𝒐𝒏𝒅𝒆𝒓𝒔 𝑷𝒓𝒆𝒎𝒊𝒖𝒎 𝑩𝒖𝒇𝒇𝒆𝒕 𝑬𝒙𝒑𝒆𝒓𝒊𝒆𝒏𝒄𝒆” บุฟเฟต์รูปแบบใหม่ ที่เป็นการรวมเมนูหลายสัญชาติทั่วมุมโลก และเป็นการรวมตัวครั้งแรกของ 7 ห้องอาหารชื่อดังและเชฟชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเชฟจะรังสรรค์ความอร่อยและเสิร์ฟอาหารแบบสดใหม่จานต่อจาน และรวมความอร่อยระดับพรีเมียมไว้มากกว่า 100+ เมนู ที่นี่ที่เดียว! ในราคาสุดคุ้มเพียง 1,290++ บาท / ต่อท่าน (รวมเครื่องดื่มไม่อั้น) ✦ พร้อมรับสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก The 1 กับโปรโมชันมา 4 จ่าย 3 อิ่มอร่อยแบบไม่อั้น พิเศษ! เลือกเมนูพรีเมียมได้ท่านละ 1 เมนู ที่รังสรรค์ความอร่อยโดยเชฟชื่อดัง อาทิ ล็อบสเตอร์เทอร์มิดอร์ สเต็กเนื้อโกเบ และปลาหิมะย่างทรัฟเฟิลครีมซอส (โดยเมนูพรีเมียมจะมีการปรับเปลี่ยนในแต่ละช่วง) “อามูส บุช” เมนูพิเศษเรียกน้ำย่อยจากห้องอาหารไทยสวนบัว เสิร์ฟ 1 เซ็ตต่อโต๊ะ อาทิ เมี่ยงคำปลาทับทิมกรอบ หรือ เมี่ยงกุ้งฟูกลีบบัว เมนูไฮไลท์แนะนำ: สเต๊กเนื้อวากิวสไลด์ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว แซลมอน ซาซิมิ เป็ดย่างอบน้ำผึ้ง หมูหันฮ่องกง และอีกมากมายกว่า 100+ เมนู เมนูซุปพิเศษ ประจำสัปดาห์ อาทิ ซุปครีมล็อบสเตอร์ ซุปเสฉวน ซุปทรัฟเฟิลเห็ดพอร์ชินี สไตล์อิตาลีเสิร์ฟกับครัวซองท์ และซุปต้มยำทะเล ✦เสิร์ฟความอร่อยจากหลากหลายสเตชันห้องอาหารชื่อดัง อาทิ ✦ สเตชันอาหารอิตาเลียน ห้องอาหารอิตาเลียน จากห้องอาหารดอนจิโอวานนี: โดยเชฟสเตฟาโนชาวอิตาเลียนแท้ ๆ ✦ สเตชันอาหารจีน จากห้องอาหารไดนาสตี้: เมนูสุดยอดจักรพรรดิจากเชฟแจ๊คกี้ เชฟฮ่องกงมิชลินสตาร์ ✦ สเตชันอาหารญี่ปุ่น จากห้องอาหารฮากิ: ลิ้มรสความเป็นญี่ปุ่นแท้ โดยเชฟเต้ ผู้มากประการณ์ ✦ สเตชันอาหารไทย จากห้องอาหารสวนบัว: นำเสนอเรื่องราว “อาหารเป็นยา” โดยเชฟนิ่มและเชฟแมว ✦ สเตชันอาหารฝรั่งเศสและตะวันตก จากห้องอาหารบลู สกาย: ยกวัฒนธรรมตะวันตกสู่ใจกลางความอร่อยโดยเชฟโย ✦ สเตชันอาหารอินเดีย: จากเชฟอรุณเชฟมืออาชีพมากประสบการณ์ ✦ สเตชันซีฟู้ด: จัดเต็มกับซีฟู้ดออนไอซ์และอาหารทะเลแบบสดใหม่ ✦ สเตชันเบเกอรี่และผลไม้หลากหลายเมนู ขนมไทยแบบทำสดจานต่อจาน สำรองที่นั่งล่วงหน้าผ่าน Line@: @centaraladprao หรือคลิก https://bit.ly/centaraladprao ห้องอาหารคาเฟ่ จตุจักร ชั้น ล็อบบี้ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวัน มื้อค่ำ 18.00 – 22.30 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ มื้อกลางวัน 12.00 – 15.00 น. มื้อค่ำ 18.00 – 22.30 น. ติดต่อสอบถามโทร 02-541-1234 Inbox: https://bit.ly/centaraladprao IG: centara_ladprao TIKTOK: centaraladprao https://www.centarahotelsresorts.com/centaragrand/cglb Kin Promo Kinandleisure.com Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม…
Author: Kittin Assavavichai
รีวิว Nobu: การเดินทางสู่ศิลปะแห่งอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น ในบรรยากาศหรูหราใจกลางกรุง Chef : Nobu : 11 2024 Story : Natthanai C.. / Photo : Pol.Capt. Kittin A เมื่อพูดถึงชื่อ “Nobu” หลายคนอาจนึกถึงร้านอาหารญี่ปุ่นระดับตำนานที่ผสานวัฒนธรรมตะวันออกกับความคิดสร้างสรรค์แบบตะวันตกได้อย่างไร้ที่ติ จากชื่อเสียงที่โด่งดังไปทั่วโลก Nobu ได้ขยับขยายเส้นทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยตั้งอยู่ใน ตึกเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ สาทร บนชั้น 57-58 และดาดฟ้า ซึ่งมาพร้อมวิวเส้นขอบฟ้าอันงดงามตระการตาของกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าหรือยามค่ำคืนที่แสงไฟส่องสว่าง การเดินทางสู่ Nobu ก้าวแรกเข้าสู่ Nobu คือประสบการณ์ที่มาพร้อมความประทับใจ ตั้งแต่โถงทางเข้าที่ตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียม ผนังหินธรรมชาติ และงานศิลปะที่สะท้อนเอกลักษณ์ของร้าน เมื่อลิฟต์เปิดออกสู่ชั้น 57 คุณจะพบกับพื้นที่ที่แบ่งออกเป็นสองโซนอย่างชัดเจน โซนแรกคือ บาร์หรูหรา ที่จัดวางด้วยเคาน์เตอร์ยาวรองรับการจิบเครื่องดื่มในบรรยากาศผ่อนคลาย เหมาะสำหรับนั่งดื่มค็อกเทลฝีมือบาร์เทนเดอร์ชั้นเยี่ยม หรือจะเลือก พื้นที่กลางแจ้ง สำหรับดื่มด่ำวิวเมืองกรุงเทพฯ ก็ให้บรรยากาศที่แตกต่างออกไป หากเดินทางต่อขึ้นสู่ชั้น 58 ความประทับใจจะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว พื้นที่ของร้านถูกออกแบบมาเพื่อเน้นความหรูหราและโมเดิร์นที่กลมกลืนกับธรรมชาติ โต๊ะรับประทานอาหารจัดวางอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นมุมส่วนตัวสำหรับคู่รัก หรือมุมวิวกว้างสำหรับการพบปะกับเพื่อนฝูง ผนังกระจกใสรอบด้านเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ ได้อย่างเต็มอิ่ม การตกแต่งที่บอกเล่าความเป็น Nobu สิ่งที่ทำให้ Nobu โดดเด่นไม่ใช่แค่รสชาติของอาหาร แต่ยังรวมถึงบรรยากาศและการออกแบบที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ วัสดุที่ใช้ล้วนถูกคัดสรรมาอย่างดี ทั้งไม้ธรรมชาติ โทนสีอบอุ่น และการจัดแสงที่ช่วยสร้างความรู้สึกสบาย แต่แฝงไปด้วยความลักซ์ชัวรี การจัดเรียงโต๊ะและโซนต่าง ๆ ถูกคิดมาเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะมาเป็นกลุ่มใหญ่หรือเพียงแค่สองคน Nobu Bangkok: จุดหมายใหม่สำหรับคนรักอาหารและวิว เพียงแค่ก้าวแรก คุณจะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจในทุกรายละเอียดของ Nobu Bangkok ที่ต้องการให้เป็นมากกว่าร้านอาหาร แต่เป็นประสบการณ์ที่เหนือระดับ ตั้งแต่วิวอันน่าทึ่ง การบริการที่ใส่ใจ และอาหารที่รังสรรค์ด้วยความประณีต ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่พลาดไม่ได้สำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่สมบูรณ์แบบ ยังมีอีกหลายแง่มุมที่รอให้คุณค้นพบใน Nobu Bangkok ทั้งเมนูที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์แบบไร้ขีดจำกัดและบรรยากาศที่จะทำให้คุณตกหลุมรัก อ่านต่อเพื่อสัมผัสกับสิ่งที่รออยู่… โซนที่หลากหลาย: มีทั้งโซนห้องอาหารส่วนตัว โซนบาร์ และโซนเอาท์ดอร์…
Bill Bensley สถาปนิก นักออกแบบ และศิลปินชื่อดังจะกลับมาที่ ART Space by MOCA Bangkok ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ด้วยนิทรรศการศิลปะหมุนเวียนสุดพิเศษที่ประกอบด้วยผลงาน 3 คอลเลกชันที่แตกต่างกัน ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ถึง 20 เมษายน 2025 ผลงานคอลเลกชันล่าสุดของ Bill Bensley ซึ่งเต็มไปด้วยผลงานที่มีชีวิตชีวาซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางของเขาใน 11 ประเทศนับตั้งแต่การจัดนิทรรศการครั้งสุดท้ายที่สถานที่จัดงานในปี 2023 อุทิศให้กับการสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและโครงการด้านการศึกษาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความมุ่งมั่นด้านการกุศลของเบนสลีย์ถือเป็นจุดสนใจ โดยนิทรรศการแต่ละครั้งออกแบบมาเพื่อระดมทุนเพื่อโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนในกัมพูชาและลาวผ่านมูลนิธิชินตะมณี นิทรรศการหมุนเวียนจะประกอบด้วยการแสดง 3 รายการที่แตกต่างกัน โดยแต่ละรายการจะเน้นที่ธีมและจุดประสงค์เฉพาะ ผลงานอันทรงพลังสะท้อนถึงความหลงใหลในธรรมชาติและความหลากหลายทางวัฒนธรรมของเบนสลีย์ โดยรายได้จะบริจาคให้กับมูลนิธิชินตะมณีเพื่อสนับสนุนจุดประสงค์ที่เขาเลือก นิทรรศการของเขาแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทที่หยั่งรากลึกของเขาที่มีต่อสาเหตุด้านสิ่งแวดล้อมและมนุษยธรรม ตารางการจัดแสดง ภาพวาดใหม่โดย Bill Bensley ระยะเวลา: 10-30 มกราคม 2025นิทรรศการครั้งแรกของ Bensley ในปี 2025 จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเดินทางของเขาผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ภาพวาดอันมีชีวิตชีวาเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางล่าสุดของเขา และสะท้อนให้เห็นถึงความรักที่เขามีต่อธรรมชาติและลักษณะเฉพาะของวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน รายได้ที่ได้รับ: การศึกษาสำหรับเด็กหูหนวกในหลวงพระบางและเยาวชนด้อยโอกาส 36 คนในเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าเรียนในชั้นเรียนปี 2025 ของโรงเรียนการโรงแรม Shinta Mani ได้ วงแหวนแห่งไฟ ระยะเวลา: 31 มกราคม – 27 กุมภาพันธ์ 2025นิทรรศการนี้สำรวจความหลงใหลของ Bensley ที่มีต่อไฟ ฟ้าแลบ และภูเขาไฟ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากไฟก๊าซธรรมชาติในอุซเบกิสถาน ไปจนถึงภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นในญี่ปุ่น มองโกเลีย เกาหลี และอินโดนีเซีย Bensley ถ่ายทอดความงามอันเข้มข้นของพลังไฟของโลกได้รายได้ที่ได้รับ: นมสำหรับทารก น้ำสะอาด ห้องน้ำ และที่อยู่อาศัยสำหรับครอบครัวที่ด้อยโอกาสในเสียมเรียบ กัมพูชา Call of the Cardamoms ระยะเวลา: 28 กุมภาพันธ์ – 20 เมษายน 2025การแสดงนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองผลงานของศิลปินและช่างฝีมือระดับโลกที่ร่วมมือกับ…
Shinsen.BKK: เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการรับประทานอาหารญี่ปุ่นที่ Top Market Shinsen.BKK ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ครองใจนักชิมมายาวนาน เปิดประตูต้อนรับลูกค้าในทำเลใหม่ Top Market มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารในบรรยากาศที่ทันสมัย สะดวกสบาย พร้อมด้วยมาตรฐานคุณภาพและรสชาติที่ยังคงยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลง คอนเซ็ปต์ใหม่ พื้นที่ใหม่ แต่คุณภาพคงเดิมการย้ายมาที่ Top Market ครั้งนี้ Shinsen.BKK ยังคงใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่วัตถุดิบคุณภาพพรีเมียมที่คัดสรรจากตลาดประมงชื่อดังในญี่ปุ่น เนื้อวากิว A5 และอาหารทะเลสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นซูชิ ซาซิมิ หรือเมนูจานร้อน ที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่หลงรักอาหารญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ความพิเศษที่เหนือระดับในบ้านใหม่ โซนเทปันยากิ: เพิ่มความสนุกและอรรถรสในการรับประทานอาหาร ด้วยการปรุงอาหารสดใหม่ต่อหน้าลูกค้าโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ ห้องส่วนตัวชั้นสอง: เหมาะสำหรับการสังสรรค์ในครอบครัว การประชุมธุรกิจ หรือการจัดเลี้ยงในโอกาสพิเศษ ด้วยบรรยากาศเป็นส่วนตัว ตู้กระจกปูทาราบะสด ๆ: โดดเด่นด้วยตู้กระจกที่มี ปูทาราบะว่ายน้ำสด ๆ พร้อมเสิร์ฟเป็นเมนูสุดพิเศษที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน เมนูไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด ซูชิโอมากาเสะ: ความคิดสร้างสรรค์จากเชฟมืออาชีพ ที่ถ่ายทอดผ่านคำซูชิสุดพิเศษ ข้าวหน้าปลาไหลย่าง: กลมกล่อมด้วยซอสสูตรเฉพาะ พร้อมกลิ่นหอมจากการย่างด้วยถ่าน ปลาดิบพรีเมียม: ความสดใหม่ที่สะท้อนถึงมาตรฐานคุณภาพของ Shinsen.BKK โปรโมชั่นฉลองเปิดบ้านใหม่เพื่อฉลองการย้ายสู่ Top Market Shinsen.BKK มอบ ส่วนลด 10% สำหรับทุกเมนู ตลอดเดือนแรก พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกในการสะสมคะแนนและรับของสมนาคุณ พบกันที่ Shinsen.BKK, Top Marketสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมในบรรยากาศที่เหนือระดับ และบริการที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่: Facebook: Shinsen.BKK Instagram: @Shinsen.BKK Line: @ShinsenBKK ที่ตั้งใหม่: Top Market (ระบุพื้นที่/ชั้นอย่างชัดเจน)เวลาเปิด-ปิด: (ระบุเวลา) Shinsen.BKK: ความสดใหม่ รสชาติดั้งเดิม ที่มอบความประทับใจในทุกมื้ออาหาร
ปี 2024 ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของวงการอาหารที่นำเสนอรูปแบบใหม่ ๆ ในการรับประทานอาหารระดับ High Casual Dining ที่ผสานความประณีตและความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว ทีมงาน Kin & Leisure ได้เดินทางไปสัมผัสประสบการณ์หลากหลายที่ร้านอาหารชื่อดังทั่วกรุงเทพฯ และจังหวัดต่าง ๆ เพื่อค้นหา 10 มื้อที่สร้างความประทับใจไม่รู้ High Casual Dining ไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติ แต่เป็นประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ลงตัวระหว่างการตกแต่งจานอันงดงาม บรรยากาศร้านที่อบอุ่น และความพิถีพิถันของเชฟในการนำเสนอแต่ละเมนู มื้ออาหารเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงมื้อธรรมดา แต่เป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้ดื่มด่ำกับความสุขและแรงบันดาลใจ ในบทความนี้ เราได้รวบรวมมื้ออาหาร High Casual Dining ที่ดีที่สุดจากร้านอาหารยอดนิยมที่มีทั้งอาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารฝรั่งเศส อาหารตะวันตก และอาหารฟิวชั่น มาแบ่งปันให้ทุกคนได้ติดตาม พร้อมรายละเอียดเมนูไฮไลต์ที่ห้ามพลาด พร้อมแล้วหรือยังที่จะเปิดประตูสู่โลกของ High Casual Dining ที่เหนือความคาดหมาย? มาดูกันว่าร้านไหนจะครองใจทีม Kin & Leisure ในปีนี้! 1. ดื่มด่ำความอลังการของอาหารอิตาลีในบรรยากาศปราสาทสุดหรู! New Menu ณ Castello Di Bellagio Pattaya ท่ามกลางเสน่ห์ของพัทยา เมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา Castello Di Bellagio โดดเด่นราวกับปราสาทอิตาลีในฝัน ที่ซ่อนตัวอยู่ในบรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติก ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนแห่งนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบอาหารอิตาลีแท้ ๆ แต่ยัง อ่านต่อ <คลิกที่นี่> 2. ทัศนียภาพสุดตระการตากับ Nobu สาขาที่สูงที่สุดในโลก เต็มอิ่มกับอาหาร ญี่ปุ่นผสมผสานเปรูเวียน สัมผัสประสบการณ์มื้ออาหารเหนือระดับ พร้อมทิวทัศน์สุดตระการตาจากยอดตึกระฟ้า ณ โนบุ กรุงเทพฯ – ร้านอาหารญี่ปุ่นร่วมสมัย บนชั้น 57 – 58 และรูฟท็อปของ EA Rooftop at The Empire เพลิดเพลินกับเมนูซิกเนเจอร์ระดับโลกจากฝีมือเชฟโนบุ มัตสึฮิสะ อ่านต่อ <คลิกที่นี่> 3. วิวหลักล้านในราคาหลักร้อยต่อ set…
ในปี 2024 ที่ผ่านมา ทีม Kin & Leisure ได้ออกเดินทางสำรวจโลกแห่งรสชาติจากเหล่าเชฟมือหนึ่งทั่วโลก เราได้ลิ้มลองและสัมผัสกับ 10 สุดยอด Fine Dining Tasting Menu ที่ไม่เพียงแต่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ทางอาหาร แต่ยังพาเราเดินทางผ่านศิลปะการเล่าเรื่องในจานอาหาร ตั้งแต่รสชาติที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ไปจนถึงเมนูที่ท้าทายทุกความคาดหวัง บทความนี้รวบรวมเมนูที่เราคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ทุกคำที่ได้สัมผัสคือการผสมผสานของวัตถุดิบระดับโลก เทคนิคชั้นสูง และการนำเสนอที่เต็มไปด้วยความหมาย เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางสุดพิเศษผ่าน 10 เมนูที่ตราตรึงใจเราที่สุดในปีนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายอาหารตัวจริงหรือเพิ่งเริ่มสนใจ Fine Dining บทความนี้จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งรสชาติที่เหนือจินตนาการ – มาดูกันว่ามีเมนูไหนที่ควรค่าแก่การลิ้มลองในโอกาสพิเศษครั้งต่อไปของคุณบ้าง! 1. สัมผัสรส รูป กลิ่นอายแห่งฤดูใบไม้ผลิ สวยอร่อยเลิศ ไปกับ Spring Guestronomic Journey @ Elements , Okura Prestige Bangkok นำเสนอสัมผัสอันนุ่มนวลแห่งฤดูใบไม้ผลิ ที่ทางห้องอาหารระดับดาวมิชลิน Elements, inspired by Ciel Bleu ภูมิใจนำเสนองานศิลปะแห่งอาหารอันเลิศรสชุดนี้ กับ “Spring Guestronomic Journey” ที่เปิดให้ทุกท่านได้ยลโฉมและลิ้มลองงานศิลป์ในมื้ออาหารเพิ่มต้อนรับฤดูใบไม้ผลิอันสดชื่นและอุดมสมบูรณ์ อ่านต่อ <คลิกที่นี่> 2. ไฟน์ไดน์ชั้นเลิศแบบสบายๆ ที่ Keller Bangkok จุดบรรจบของรสชาติโลกตะวันตกและตะวันออกมาบรรจบกัน โลเคชั่นใหม่ ถนนจันทน์เก่ากับเชฟ Mirco คนเก่งคนเดิม เมื่อเปิดประตูก้าวเดินเข้ามาในร้าน จะสัมผัสได้กับการต้อนรับด้วยบรรยากาศ การตกแต่งด้วยไม้โทนสีครีมอ่อนละมุนชวนอบอุ่นสบายใจ ตัดกับการใช้หินอ่อนสีเทาแซมเป็นระยะ ประดับด้วย Accessories สีทองแชมเปญเสริมความเรียบหรูอยู่ในที อ่านต่อ <คลิกที่นี่> 3. รสชาติอาหารไทยดั้งเดิมในวันวาน การนำเสนอในรูปแบบใหม่ด้วยวิธีปรุงแบบฝรั่งเศส ใน Theme “Yesteryears” @ Restaurant Int ขอต้อนรับทุกท่านสู่การเดินทางสู่โลกแห่งรสชาติและความคิดสร้างสรรค์อีกครั้ง กับประสบการณ์ Fine Dining อันน่าประทับใจที่ไม่เหมือนใคร คราวนี้เราขอพาทุกท่านสัมผัสกับ Progressive Thai Cuisine ฝีมือเชฟน็อค…
รวม 10 สุดยอด 4 Hands Dinner/Guest Chef แห่งปี 2024: เมื่อเชฟระดับประเทศและโลกจับคู่สร้างสรรค์รสชาติใหม่ในกรุงเทพ! ปี 2024 ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของวงการอาหารในกรุงเทพฯ ที่เปรียบเสมือนเวทีระดับโลกสำหรับเหล่าเชฟมากฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นเชฟเจ้าของรางวัลระดับประเทศหรือระดับโลก ต่างพร้อมใจกันบินตรงมาเพื่อร่วมสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ล้ำค่าผ่านคอนเซปต์ 4 Hands Dinner และ Guest Chef Collaboration การพบกันของเชฟทั้งสองคนไม่เพียงแต่เป็นการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญด้านรสชาติ แต่ยังเป็นการผสมผสานวัฒนธรรม เทคนิคการปรุงอาหาร และแนวคิดสุดสร้างสรรค์ที่พาเราออกเดินทางสู่รสชาติที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อน ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบระดับพรีเมียม กระบวนการปรุงอันประณีต และการเล่าเรื่องผ่านทุกจานอาหาร ทำให้ทุกงานคือการเฉลิมฉลองแห่งความเป็นเลิศที่สายอาหารต้องจารึกไว้ในความทรงจำ โดยทีม Kinandleisure คัดเลือกจากกว่า 30 มื้อ 4 hands / guest chef ที่ชิมมาตั้งแต่ธันวาคม 2023 ถึง ธันวาคม 2024 ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 10 รีวิว 4 Hands Dinner และ Guest Chef Collaboration ที่ดีที่สุดแห่งปี 2024 ไม่ว่าจะเป็นรสชาติสุดประทับใจ บรรยากาศอันน่าหลงใหล หรือการเล่าเรื่องเบื้องหลังจานอาหารสุดพิเศษ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะสิ่งที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้คือการเดินทางสู่โลกแห่งรสชาติที่คุณจะไม่มีวันลืม! 1. บุญ-กีรติ x Juan Amador – Restaurant Amador สัมผัสประสบการณ์ล้ำค่า เติมเต็มความทรงจำอันแสนหวาน กับ 4 Hands Flavors of Nostalgia ฝีมือเชฟ Juan Amador เชฟมิชลิน 3 ดาว และเชฟบุญ กีรติ ที่ The Water library @ Central Embassy อ่านต่อ <คลิกที่นี่> 2 Hideaki Nagaya…
สวัสดีท่านผู้หลงใหลในศาสตร์และศิลป์แห่งอาหารทุกท่าน! วันนี้ ทีมงาน Kinandleisure ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่กับโอมากาเสะที่แสนพิเศษ! แต่เดี๋ยวก่อน—นี่ไม่ใช่โอมากาเสะธรรมดา เพราะเราขอนำเสนอ “Homura Wagyu Omakase” ศิลปะแห่งการปรุงเนื้อวากิวระดับตำนานที่ผสมผสานเทคนิคญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเข้ากับความประณีตของเชฟผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าท่านจะเป็นสายเนื้อผู้เชี่ยวชาญ หรือนักชิมมือใหม่ที่กำลังตามหารสชาติใหม่ บอกเลยว่าที่นี่จะทำให้ท่านต้องร้องว้าวตั้งแต่คำแรกยันคำสุดท้าย! บรรยากาศสุดพิเศษที่เปรียบเสมือนมื้ออาหารในบ้านเชฟ เมื่อท่านมาถึง Homura Wagyu Omakase บนถนนเย็นอากาศ บ้านทาวน์โฮมหลังงามที่ตกแต่งด้วยโทนสีหินอ่อนแบบญี่ปุ่นทันสมัย จะทำให้ท่านรู้สึกราวกับได้เดินทางเข้าสู่บ้านส่วนตัวของเชฟ ทุกอย่างที่นี่ออกแบบมาเพื่อมอบความรู้สึกอบอุ่น แต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบหรูและเป็นกันเอง ก้าวแรกที่ท่านเปิดประตูเข้าสู่ร้าน ความเงียบสงบและกลิ่นอายญี่ปุ่นจะต้อนรับท่านอย่างนุ่มนวล โต๊ะรับประทานอาหารแบบเคาน์เตอร์ไม้สีอ่อนเรียบเนียนถูกจัดเรียงไว้อย่างพิถีพิถัน เป็นจุดศูนย์กลางของร้านที่ดึงดูดสายตา ผนังสีเข้มตัดกับแสงไฟอบอุ่น สร้างความรู้สึกเหมือนท่านได้เข้าสู่โลกแห่งความลึกลับและมหัศจรรย์ ดื่มด่ำไปกับศิลปะการปรุงเนื้อวากิวระดับพรีเมียม ไฮไลต์ของร้านนี้อยู่ที่ เตาถ่านบินโจตัน ซึ่งเป็นเคล็ดลับการย่างเนื้อที่ทำให้กลิ่นหอมของวากิวอบอวลไปทั่วทั้งร้าน เชฟจะปรุงทุกจานต่อหน้าท่าน พร้อมเล่าเรื่องราวความเป็นมาของแต่ละวัตถุดิบอย่างตั้งใจ—ทุกคำคือบทสนทนา ทุกกลิ่นคือบทกวีแห่งอาหารที่แต่งแต้มด้วยความหลงใหลของเชฟ เนื้อวากิวเกรด A4 ที่นี่ได้รับการคัดสรรมาอย่างประณีต ย่างจนได้ระดับความสุกที่สมบูรณ์แบบ เนื้อชุ่มฉ่ำที่แทบละลายในปากนั้นมาพร้อมกับกลิ่นหอมไหม้ที่แตะจมูก เสริมด้วยซอสสูตรพิเศษที่ผสมผสานรสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อมจนยากจะลืม ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยความเป็นโอมากาเสะแบบส่วนตัว Homura Wagyu Omakase รับลูกค้าในจำนวนจำกัดเพื่อให้ทุกท่านได้รับความใส่ใจอย่างเต็มที่ ที่นี่จึงเหมาะทั้งสำหรับมื้ออาหารส่วนตัว การหารือธุรกิจ หรือแม้แต่การจัดเลี้ยงรับรองแบบใกล้ชิด ท่ามกลางบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และความสง่างาม หากท่านกำลังมองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เป็นมากกว่ามื้ออาหาร Homura Wagyu Omakase พร้อมพาท่านออกเดินทางสู่โลกแห่งเนื้อวากิวและศิลปะการปรุงอาหารญี่ปุ่นอันล้ำลึก ที่นี่ไม่ใช่เพียงร้านอาหาร แต่เป็นเวทีแห่งความทรงจำที่ท่านจะไม่มีวันลืม ไม่ว่าท่านจะเป็นสายกิน สายเนื้อ หรือสายชิล—Homura Wagyu Omakase จะทำให้ท่านประทับใจจนต้องรีบจองโต๊ะในครั้งต่อไปแน่นอน! อาหารและเมนู หัวใจสำคัญของ Homura Wagyu Omakase คือการนำเข้าเนื้อวากิวเกรด A5 จากเมืองโยเนซาวะ จังหวัดยามากาตะ ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในแหล่งผลิตเนื้อวัวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เนื้อทุกชิ้นผ่านการดูแลอย่างประณีตโดยไม่ผ่านการแช่แข็ง เพื่อรักษาความสดใหม่และรสชาติที่แท้จริง ทางร้านมี 2 คอร์สให้เลือก คือ Standard Course (4,800++ บาท): รวมเมนูประมาณ 10 จาน และ Premium Course (6,800++ บาท): เพิ่มเติมด้วยวัตถุดิบที่หายากและเมนูสุดพิเศษ รวม 14+1 จาน (มีไวน์…
เคาท์ดาวน์เหนือน่านฟ้ากรุงเทพฯ ฉลองปีใหม่ในบรรยากาศเกินจินตนาการที่ โนบุ กรุงเทพ ฯ (Nobu Bangkok) รื่นรมย์ในวาระส่งท้ายปีเก่าแล้วนับถอยหลังสู่วันแรกของปี 2568 จากมุมมองเหนือน่านฟ้ามหานครท่ามกลางแสงไฟวับวาวพราวพรมพื้นไปจรดขอบฟ้า ทิวทัศน์งดงามเหนือจินตนาการเติมชีวิตชีวาให้มื้อเฉลิมฉลองพิเศษบนยอดตึกระฟ้ามีความหมายมากยิ่งขึ้น โนบุ กรุงเทพฯ (Nobu Bangkok) ร้านอาหารญี่ปุ่นร่วมสมัย บนชั้น 57 – 58 และรูฟท็อป ของ EA Rooftop at The Empire จัดเตรียมมื้ออาหารสุดพิเศษที่คัดสรรมาจากเมนูขึ้นชื่อระดับโลกของโนบุ พร้อมเครื่องดื่มสร้างสีสันตลอดช่วงเวลาแห่งการฉลอง ในวันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2567 เวลา 19.30 – 01.00 น. ของปีใหม่ เนื่องจากร้านครอบคลุมพื้นที่ 2 ชั้น รวมถึงชั้นดาดฟ้าของ EA Rooftop at The Empire ทำให้ โนบุ กรุงเทพฯ (Nobu Bangkok) ได้ชื่อว่าเป็นสาขาที่สูงที่สุดในโลกจากกว่า 40 สาขา ในเรื่องรสชาตินั้น เชฟโนบุ มัตสึฮิสะ (Chef Nobu Matsuhisa) ผู้สร้างตำนานผสมผสานตำรับญี่ปุ่นดั้งเดิมเข้ากับรสชาติแบบเปรู ทำให้เกิดอัตลักษณ์ที่ครองใจคนมายาวนาน “New Year’s Eve Set Menu” ในปีนี้ก็ได้จัดเตรียมอาหารรสเลิศไว้ อาทิ Lobster Inaniwa Ceviche ล็อปสเตอร์กับเส้นอินานิวะญี่ปุ่นแต่ปรุงแบบซาบิเซ่ของเปรู King Crab Truffle Crust ขาปูทาราบะนุ่มๆ หอมกลิ่นทรัฟเฟิล Japanese Beef Foie Gras Mustard Miso เนื้อญี่ปุ่น A5 กับฟัวกราส์ กริลล์กับมัสตาร์ด มิโสะ และอีกหลายคอร์สให้อิ่มเอม ในพื้นที่ เอาท์ดอร์ เทอเรซ และบาร์ เลาน์จ ในชั้น 57 กับ…
“เรือล่องแม่น้ำแห่งเดียวในภูมิภาคนี้ที่ให้บริการไคเซกิ โอมากาเสะ มีสวนหินกว่าร้อยตารางเมตรและมีพื้นที่นั่งบนเสื่อทาทามิที่ดาดฟ้าเรือ” Okura Cruise ไม่ใช่แค่การล่องเรือ แต่เป็นการเปิดประสบการณ์ที่รวมศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศและความสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าไว้ด้วยกัน การเดินทางครั้งนี้คือความลงตัวระหว่างความงดงามของธรรมชาติและการนำเสนอความหรูหราที่หาไม่ได้จากที่ไหน สองเส้นทางแห่งความอร่อย Seasonal Kaiseki: ความงามในทุกคำของอาหารตามฤดูกาล Seasonal Kaiseki บน Okura Cruise เป็นการนำเสนออาหารแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นในรูปแบบที่ละเอียดลออและสมบูรณ์แบบที่สุด เชฟผู้มากฝีมือรังสรรค์แต่ละจานอย่างพิถีพิถัน โดยทุกเมนูถูกจัดวางให้เหมือนงานศิลปะชิ้นเอก ที่ไม่เพียงแต่ตื่นตา แต่ยังตื่นใจไปกับรสชาติอันซับซ้อน Zensai (จานเรียกน้ำย่อย): Goma Tofu, Zuwai Kanl Okra, Soy : จานนี้เริ่มต้นด้วย เต้าหู้งาดำ ที่มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่มอย่างไร้ที่ติ ความหอมของงาดำเป็นเอกลักษณ์ชัดเจนในทุกคำ สร้างความประทับใจด้วยกลิ่นที่หอมละมุน เต้าหู้นี้ผ่านกระบวนการทำอย่างพิถีพิถัน โดยเริ่มจากบดงาดำคั่วจนได้เนื้อเนียนละเอียด ผสมกับน้ำนมถั่วเหลืองและเจลาติน ก่อนนำไปทำให้เซ็ตตัวในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อคงความนุ่มละมุนแต่ยังมีความแน่นพอดี เสริมรสชาติด้วย ปูซูไว เนื้อหวานฉ่ำที่ถูกนำมานึ่งเบาๆ เพื่อรักษาความหวานจากธรรมชาติ ก่อนเสิร์ฟเคียงด้วย กระเจี๊ยบเขียว ที่ยังคงความกรอบสด เพิ่มความสดชื่นด้วย ซอสโชยุ รสละมุนที่ผสมผสานกับน้ำซุปดาชิ ให้ความเค็มอ่อนๆ และกลิ่นหอมอูมามิ ช่วยยกระดับรสชาติของวัตถุดิบหลักในจานนี้ได้อย่างลงตัว Ankima Ebi Nanchana, Fig with Margo Miso : ตับปลามังค์ฟิชหรือที่เรียกว่า “ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล” นำมาผ่านกระบวนการเคี่ยวในน้ำดาชิที่ปรุงอย่างประณีต ด้วยอุณหภูมิต่ำและเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนละลายในปาก รสชาติที่ได้มีความมันและหวานธรรมชาติในแบบเฉพาะตัว ท็อปด้วย มะเดื่อสด ที่ถูกนำมาปรุงรสด้วย มิโสะมะม่วง สูตรพิเศษ มิโสะนี้มีกลิ่นหอมหวานจากมะม่วงที่เคี่ยวผสมกับมิโสะขาวคุณภาพดีจนได้เนื้อสัมผัสคล้ายครีมที่อ่อนนุ่ม มะเดื่อให้ความหวานหอมและความสดชื่น เพิ่มมิติให้กับตับปลาได้อย่างลงตัว Pomegranate, Matsumaezuke, Pine Nuts รสสัมผัสของจานนี้ยังคงไม่สิ้นสุด เพิ่มความกรุบกรอบและสีสันด้วย เมล็ดทับทิมสด ที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยตัดความมันของตับปลาอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อม ถั่วสนคั่ว ที่มีกลิ่นหอมมัน เติมเต็มรสชาติให้มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น ปิดท้ายด้วย มัตสึมาเอะซึเกะ (Matsumaezuke) หรือสาหร่ายหมักที่ผ่านการปรุงรสด้วยโชยุและมิริน มีกลิ่นหอมทะเลอ่อนๆ เสริมด้วยความเปรี้ยวอ่อนๆ ของ ขิงดอง ที่ช่วยรีเฟรชปลายสัมผัสของจานอย่างละเมียดละไม จาน Zensai…