Kinandleisure
    Facebook Twitter Instagram
    Trending
    • [Review] Surf & Turf Dinner Buffet ศิลปะแห่งรสชาติจากผืนทะเลและแผ่นดิน ณ ห้องอาหาร Flavors, Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel 
    • [News] “เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” เปิดตัวสาขาใหม่ โครงการคิงสแควร์ (พระราม 3 พร้อมนิทรรศการศิลปะ Abstract
    • [News] สัมผัสเสน่ห์อาหารใต้มื้อค่ำสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Four-Hand Dinner: Flourish x Thai Library  ณ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้  กรุงเทพฯ Sindhorn Kempinski Bangkok
    • [News] ดื่มด่ำรสชาติแห่งท้องทะเลและเนื้อเกรดพรีเมียม ในบุฟเฟต์นานาชาติมื้อค่ำ Surf & Turf ณ ห้องอาหารเฟลเวอร์ส (Flavors) โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพ ราชประสงค์
    • [News] “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน | American Beef Feast 2025” ร่วมเฉลิมฉลองปลายปี 2025 ด้วยรสชาติแห่งความเป็นเลิศของเนื้อวัวอเมริกันพรีเมี่ยม
    • [Review] NewTasting menu of แก่นกรุง: แก่นแท้แห่งอีสาน ที่สลักเกลาเพื่อเมืองกรุง
    • [News] EMBASSY ROOM LA MARINA  ยกระดับเอกลักษณ์อาหารอิตาเลียนชายฝั่งกับเชฟคนใหม่ อเลสซิโอ บันเคโร Chef Alessio Banchero
    • [ToKnow] “แกงหอง” เมนูทรงโปรดในสมเด็จพระพันปีหลวง – ตำรับชาววังโบราณ กับสูตรทำง่ายแต่รสละเมียดแบบวังแท้
    Facebook Twitter Instagram
    Kinandleisure
    • Kin Reviews
      • Top Restaurant
      • French Cuisine
      • European Cuisine
      • German Cuisine
      • Italian Cuisine
      • Japanese Cuisine
      • Thai Cuisine
      • International Cuisine
      • Spanish Cuisine
      • tea lounge/Café & bakery
      • Chinese Cuisine
      • American Cuisine
      • Bar Drinks
      • Steak House
      • Vietnamese Cuisine
      • Korean Cuisine
      • Indian Cuisine
      • latin American
      • Steak House
    • K healthy
      • Kin Healthy
      • Healthy Living
    • Kin Articles
      • Kin General
      • Kin Cooking
      • Kin Seasonal
    • Kin Channel
    • Promo & Event
      • Kin Promo
      • Kin News
      • LifeStyle Promo & Event
    • K Travel&LifeStyle
      • Trip Review
      • Hotel Review
      • Spa & beauty
      • K Fashion
      • K Fit
      • Our Team เบื้องหลัง โฉมหน้าผู้สร้างเนื้อหา กิน ดื่ม เที่ยว โดยทีมงานคุณภาพ
    • K Living & Design
    Kinandleisure
    Home»Dining Type»Casual Dining»[Review] Surf & Turf Dinner Buffet ศิลปะแห่งรสชาติจากผืนทะเลและแผ่นดิน ณ ห้องอาหาร Flavors, Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel 
    Casual Dining

    [Review] Surf & Turf Dinner Buffet ศิลปะแห่งรสชาติจากผืนทะเลและแผ่นดิน ณ ห้องอาหาร Flavors, Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel 

    athiwat tripipitsiriwatBy athiwat tripipitsiriwatNovember 15, 2025Updated:November 15, 2025No Comments5 Mins Read

    Surf & Turf Dinner Buffet ศิลปะแห่งรสชาติจากผืนทะเลและแผ่นดิน ณ ห้องอาหาร Flavors โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel 

    Story : Dr.Athiwat T. / Photo : Pol.Capt. Kittin A

    ในโลกของศิลปะการกิน “Surf & Turf” ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสมดุล การจับคู่ระหว่างอาหารทะเล (surf) ที่เปี่ยมด้วยความสดฉ่ำและกลิ่นไอโอดีนจากมหาสมุทร กับเนื้อสัตว์จากผืนแผ่นดิน (turf) ที่หนักแน่นและเข้มข้นทางรสชาติ แนวคิดนี้ถือกำเนิดขึ้นในอเมริกาเหนือช่วงกลางศตวรรษที่ 20 แต่ต่อมาได้ถูกตีความใหม่ทั่วโลกตามภูมิปัญญาและวัฒนธรรมการปรุงในแต่ละภูมิภาค


    Surf & Turf Dinner Buffet ราคาเริ่มต้นเพียง 1,599++ บาทต่อท่าน เด็กอายุ 6–12 ปี รับส่วนลด 50% และเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี รับประทานฟรี

    ที่ ห้องอาหาร Flavors ของโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ แนวคิดดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดอย่างลุ่มลึกในรูปแบบ Surf & Turf Dinner Buffet ที่ผสมผสานความอลังการของวัตถุดิบระดับพรีเมียมเข้ากับเทคนิคปรุงที่ละเอียดลึกซึ้งในแบบครัวนานาชาติ ตั้งแต่ความสดเย็นฉ่ำของซีฟู้ด ไปจนถึงกลิ่นรมควันของเนื้ออบและรสอูมามิจากครัวจีนต้นตำรับ


    Seafood on Ice: ศาสตร์แห่งความสดและอุณหภูมิ

    เริ่มต้นค่ำคืนด้วยหัวใจของคำว่า surf มุม Seafood on Ice ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแห่งท้องทะเล วัตถุดิบทุกชิ้นถูกจัดเรียงบนแท่นน้ำแข็งใสที่รักษาอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส เพื่อคงความกรอบแน่นของเนื้อสัตว์ทะเลโดยไม่ทำลายโปรตีนธรรมชาติ

    ปูอลาสก้าคิงแครบ (Alaskan King Crab) คือพระเอกของมุมนี้ เนื้อสีขาวนวลหนาแน่นราวเส้นใยไหม อุดมด้วยไกลโคเจนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในปูจากทะเลน้ำเย็น เชฟแนะนำให้แกะแล้วบีบเลมอนเพียงเล็กน้อยเพื่อเปิดกลิ่นหวานของเนื้อปูโดยไม่กลบรสเค็มบางจากไอโอดีน

    ต่อด้วย กุ้งแม่น้ำ ที่ผ่านการเตรียมอย่างระมัดระวัง ล็อบสเตอร์ถูกแช่ในน้ำเกลือเข้มข้นอุณหภูมิต่ำก่อนเสิร์ฟ เพื่อรักษาโครงสร้างของกล้ามเนื้อให้แน่นไม่ยุ่ย ขณะที่กุ้งแม่น้ำใช้วิธีลวกในน้ำเดือดระยะสั้นเพียงไม่กี่วินาที แล้วนำลงน้ำเย็นจัดทันที เทคนิคที่เรียกว่า shock chilling เพื่อหยุดการสุกและคงสีเปลือกส้มทองไว้สวยงาม

    และอย่าพลาด กั้งทะเล ที่ต้องใช้การลวกแบบ rolling boil ให้เปลือกแยกตัวเองจากเนื้อโดยไม่ต้องผ่ากลาง เป็นเทคนิคที่ต้องใช้ความแม่นยำสูงเพื่อรักษาเนื้อกั้งให้เด้งแน่นไม่ยุ่ย


    Oyster Bar: บทกวีแห่งท้องทะเลในสามสำเนียง

    อีกหนึ่งมุมที่เรียกเสียงชื่นชมจากนักชิมคือ Oyster Bar ซึ่งรวมหอยนางรมสดจากสามแหล่งน้ำที่มีบุคลิกเฉพาะ — การเลือกหอยในบุฟเฟ่ต์ระดับนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของขนาดหรือราคา แต่คือการออกแบบ “บทกวีแห่งรสเค็ม” ที่มีโน้ตแตกต่างกันในแต่ละคำ

    Fine de Claire (ฝรั่งเศส) คือหอยนางรมที่เติบโตในบ่อเกลือธรรมชาติบริเวณชายฝั่งตะวันตกของฝรั่งเศส หลังจากเก็บจากทะเล จะถูกย้ายไปพักในบ่อบ่มน้ำเค็มจาง (claire ponds) เป็นเวลาหลายสัปดาห์เพื่อให้เนื้อแน่นขึ้นและรสเค็มลดลง เหลือเพียงความละมุนปลายลิ้น

    Normandy Oyster (ฝรั่งเศส) มีถิ่นเกิดในแคว้นนอร์มังดีที่อุดมด้วยแพลงก์ตอน รสชาติจึงเข้มข้นกว่าเล็กน้อย มีโน้ตของไอโอดีนและกลิ่นหอมของสาหร่ายบาง ๆ เมื่อเสิร์ฟเย็นจัดพร้อมเลมอนฝาน จะให้สัมผัสครีมมี่และเค็มแบบกลมกล่อม

    Korean Oyster (เกาหลีใต้) จากชายฝั่งทะเลตะวันออกให้กลิ่นรสที่ดิบกว่า มีความเข้มข้นและกลิ่นไอทะเลแรงขึ้น เหมาะกับผู้ที่ชอบรสชาติแบบ “ocean-forward” เชฟแนะนำให้ลองกับซอสพอนสึและหัวไชเท้าขูดสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มมิติของกรดและความสด

    การจัดเสิร์ฟหอยนางรมทั้งสามสายพันธุ์นี้ทำให้เห็นความหลากหลายของ “เทอรัวร์แห่งท้องทะเล” อย่างชัดเจน จากอ่าวฝรั่งเศสสู่ทะเลเกาหลี ที่ Flavors คุณสามารถลิ้มรสแผนที่ทะเลโลกผ่านจานเย็นเดียว

    สลัดบาร์, ชีส, และโคลด์คัท ณ Flavors

    🧀 มุมชีสและโคลด์คัท

    มุมนี้จัดวางอย่างเรียบหรูบนเคาน์เตอร์หินอ่อนลายสีแดงเข้ม ให้ความรู้สึกพรีเมียม โดยมีพนักงานประจำมุมที่พร้อมให้บริการเครื่องสไลด์เนื้อ

    • 🧀 กลุ่มชีส: มีการนำเสนอชีสหลายชนิดที่หลากหลายและน่าสนใจ โดยมีการติดป้ายชื่อชัดเจน (ภาพ 30.jpg) เช่น:
      • Emmental Cheese: ชีสเนื้อแข็งที่มีรูพรุนเป็นเอกลักษณ์
      • Cheddar Cheese: ชีสสีส้มเข้มยอดนิยม
      • Gouda Cheese: ชีสเนื้อเนียน รสชาติกลมกล่อม
      • Gorgonzola: ชีสสีฟ้า (Blue Cheese) ที่มีกลิ่นและรสชาติเข้มข้นโดดเด่น
    • 🍖 กลุ่มโคลด์คัท: มีการจัดวางเนื้อสัตว์แปรรูปสำหรับทานคู่กับชีสและขนมปังอย่างดีบนแผ่นหินชนวนสีดำ เช่น แฮม หรือเนื้อสไลด์บาง (ภาพ 31.jpg)
    • 🍞 เครื่องเคียงและของดอง: มีของทานเล่นและเครื่องเคียงหลากหลายจัดในโถแก้วใส เช่น ขนมปังกรอบแท่งยาว (Grissini) ถั่วต่างๆ และผักดองหลากหลายชนิด รวมถึงมะกอก ซึ่งช่วยเสริมรสชาติของชีสและโคลด์คัทได้อย่างลงตัว
    • 🐟 อาหารทะเล: มีแซลมอนรมควัน (Smoked Salmon) สไลด์จัดวางบนจานหินชนวน ดูสดใหม่ น่ารับประทาน

    🥗 มุมสลัดบาร์

    มุมสลัดบาร์ถูกจัดวางบนแท่นน้ำแข็งเพื่อคงความสดใหม่ของผักและเครื่องปรุง ดูสะอาดตาและน่าตื่นตาตื่นใจในความหลากหลาย

    • 🥬 ผักและสลัดหลัก: มีผักสลัดสดๆ หลายประเภทใส่ในภาชนะสแตนเลสทรงตะแกรงขนาดใหญ่ (Colanders) เพื่อคงความกรอบและสะเด็ดน้ำ เช่น ผักกาดคอส (Romaine Lettuce) สำหรับซีซาร์สลัด และผักรวม
    • 🥕 เครื่องปรุง: มีผักหั่นเตรียมไว้สำหรับเป็น Topping ที่หลากหลายมากๆ เช่น หอมแดงหั่นสไลด์, พริกหวานสีต่างๆ, มะกอก, แครอท รวมถึงเครื่องปรุงสำหรับซีซาร์สลัด เช่น ขนมปังกรอบ (Croutons) และเนื้อไก่หั่นเต๋า
    • 🥣 น้ำสลัด: มีน้ำสลัดให้เลือกหลายประเภท จัดใส่ในถ้วยขนาดเล็ก ดูน่าลองทุกแบบ อาทิ ซีซาร์เดรสซิ่ง (Caesar Dressing) และน้ำสลัดสีครีม สีชมพู และสีน้ำตาลอื่นๆ ที่น่าจะเป็นน้ำสลัดอิตาเลียน หรือเทาซันไอส์แลนด์
    • 🦪 อาหารทะเลเพิ่มเติม: ที่น่าสนใจคือมีการจัดวางหอยนางรม (Normandy Oyster) สดๆ พร้อมน้ำจิ้มและเครื่องเคียงข้างสลัดบาร์ แสดงถึงความใส่ใจในคุณภาพและความหลากหลายของวัตถุดิบ

    Japanese Station: ศิลปะแห่งความละเมียดในดุลยภาพ

    อาหารญี่ปุ่นในบุฟเฟ่ต์นี้ไม่ได้เป็นเพียงมุมเสริม แต่เป็นการแสดงความเคารพต่อศาสตร์ของความสมดุล (wa no bi ความงามแห่งความกลมกลืน)

    ซาชิมิปลาสด ได้แก่ แซลมอน, ทูน่า, และฮามาจิ ทุกชิ้นถูกแล่ด้วยมีดที่ลับคมอย่างสมบูรณ์แบบ มีดญี่ปุ่นแบบ yanagiba ที่ยาวและคมบางเฉียบช่วยให้การตัดเนื้อปลานุ่มไม่ฉีก เส้นใยยังคงอยู่ครบ ทำให้ผิวหน้าเรียบเป็นเงา ซึ่งไม่ใช่เพียงเรื่องความงามแต่เป็นปัจจัยของรสสัมผัสด้วย

    วากิว นิกิริ (Wagyu Nigiri) คือจานพิเศษที่ควรค่าแก่การหยุดชิม เชฟใช้วากิวส่วน sirloin ที่มีไขมันแทรกละเอียดระดับ A4 หรือสูงกว่า นำมาเบิร์นผิว (aburi) ด้วยไฟอ่อนให้ไขมันละลายบางส่วน เกิดกลิ่นหอมคล้ายถั่วอบบนข้าวซูชิที่ผสมน้ำส้มสายชูหมักจากข้าวญี่ปุ่น (su-shari) อย่างพอดี ความเย็นของปลากับความอุ่นจากข้าวสร้างสมดุลอุณหภูมิในคำเดียว

    แม้จะเป็นบุฟเฟ่ต์ แต่การรักษาคุณภาพของซูชิและซาชิมิที่นี่อยู่ในระดับเทียบเท่าร้านญี่ปุ่น ซึ่งสะท้อนมาตรฐานของทีมครัวที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดมากกว่าปริมาณ


    Carving & Grill Station: เมื่อไฟกลายเป็นเครื่องมือทางศิลป์

    โซน Carving Station เป็นเหมือนห้องทดลองของไฟและอุณหภูมิ ที่ซึ่งเนื้อทุกชิ้นผ่านการอบและรมควันอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เกิด “ปฏิกิริยา Maillard” ซึ่งเป็นหัวใจของกลิ่นหอมในอาหารย่าง

    เนื้อไพร์มริบออสเตรเลีย (Australian Prime Rib) ถูกอบในเตาแบบ slow roast นานกว่า 4 ชั่วโมงที่อุณหภูมิราว 140°C เพื่อให้ไขมันในเนื้อค่อย ๆ แทรกซึมทั่วชั้นกล้ามเนื้อโดยไม่ไหลออก ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่ชุ่มฉ่ำแต่ไม่มันเลี่ยน เมื่อแล่บาง ๆ จะเห็นชั้นสีชมพูระเรื่อใจกลางและสีน้ำตาลทองด้านนอก สัญญาณของความสมบูรณ์แบบในโลกของการอบเนื้อ

    ถัดมาคือ วากิวบริสเก็ตรมควันสไตล์เท็กซัส (Texas-style Smoked Wagyu Brisket) ที่ใช้เทคนิค low & slow รมควันอุณหภูมิต่ำกว่า 120°C นานเกิน 8 ชั่วโมง ด้วยไม้เนื้อแข็งเช่น oak หรือ hickory กลิ่นควันจึงแทรกในเนื้ออย่างลุ่มลึกโดยไม่เผ็ดควัน เมื่อหั่นออกจะเห็นวงแหวนสีชมพูที่เรียกว่า smoke ring ผลลัพธ์ของการทำงานระหว่างไนโตรเจนออกไซด์ในควันกับไมโอโกลบินในเนื้อ

    ขาแกะอบ (Roasted Lamb Leg) ผ่านการหมักกับโรสแมรี กระเทียม และไวน์แดงนาน 24 ชั่วโมง ก่อนนำเข้าเตาอบอุณหภูมิต่ำ ทำให้เนื้อแกะนุ่มโดยไม่มีกลิ่นสาบ ราดด้วยเกรวี่รสเข้มกลิ่นสมุนไพรตะวันตก

    ส่วน แซลมอนนอร์เวย์ย่าง และ หอยเชลล์อเมริกาย่าง ใช้ไฟแรงช่วงสั้นแบบ searing ให้เกิดเปลือกคาราเมลบาง ๆ ด้านนอกโดยที่เนื้อในยังคงฉ่ำ เทคนิคนี้ต้องจับเวลาไม่เกิน 60 วินาทีต่อด้าน จึงจะได้รสหวานธรรมชาติของปลาและหอยเชลล์เต็มที่

    แซลมอนอบกระดาษ (Salmon en Papillote): ศาสตร์แห่งการอบในไอร้อนธรรมชาติ

    หนึ่งในเมนูที่มักซ่อนตัวอยู่ในมุมครัวร้อนของ Flavors แต่กลับเผยเสน่ห์อันละเอียดลึกคือ แซลมอนอบกระดาษ (Salmon en Papillote) เมนูที่มีรากมาจากครัวฝรั่งเศสช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งเน้นการอบวัตถุดิบในกระดาษไขหรือกระดาษพาร์ชเมนต์ เพื่อให้ความร้อนและไอน้ำที่เกิดขึ้นภายในห่อกระดาษทำหน้าที่ปรุงอาหารอย่างอ่อนโยน

    เนื้อปลาแซลมอนขนาดเต็มฟิเลต์ถูกปรุงด้วยสมุนไพรอย่างโรสแมรี มะนาว และหอมแดง ก่อนจะอบในอุณหภูมิราว 180 องศาเซลเซียสให้กระดาษพองตัวขึ้นเล็กน้อย — สัญญาณว่าไอน้ำกำลังทำงานอย่างพอดี ภายในห่อคือโลกของกลิ่นหอมที่หมุนเวียนอยู่เองโดยไม่สูญเสียความชื้นออกไป

    เนื้อปลาจึงนุ่มฉ่ำแต่ไม่เละ รสหวานธรรมชาติของไขมันปลาแซลมอนถูกรักษาไว้ครบถ้วน สีเนื้อยังคงสดส้มอมชมพู เมื่อเปิดกระดาษออก กลิ่นหอมของน้ำมันปลาและสมุนไพรจะฟุ้งขึ้นอย่างนุ่มนวล เป็นวิธีปรุงที่แสดงถึงความเข้าใจใน “อุณหภูมิและความชื้น” อย่างแท้จริง


    BBQ Live Station: การสนทนาระหว่างถ่าน ควัน และเวลา

    สำหรับผู้ที่หลงใหลในกลิ่นควันเบา ๆ และความสนุกของการย่างสด โซน BBQ Live Station คือมุมที่รวมความสุขเรียบง่ายแต่จริงจังไว้ครบถ้วน

    เชฟเตรียมวัตถุดิบให้เลือกมากมาย ทั้ง กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ หมึกสด เนื้อวัว และซี่โครงแกะ ซึ่งทุกชิ้นถูกหมักล่วงหน้าในเครื่องปรุงสูตรเฉพาะ เช่น ซอสถั่วเหลืองเข้มข้น น้ำมันงา และพริกไทยดำบดสด เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมโดยไม่กลบรสเนื้อ

    การย่างใช้ถ่านไม้คุณภาพสูงที่ให้ความร้อนคงที่และควันสะอาด ควันบาง ๆ จากถ่านไม้เนื้อแข็งจะเคลือบผิววัตถุดิบให้เกิดกลิ่น “smoky sweet” เบา ๆ กลิ่นควันแบบนี้เรียกว่า clean smoke ซึ่งเป็นระดับที่เชฟบาร์บีคิวมืออาชีพทั่วโลกพยายามควบคุมให้ได้


    Hot Dishes: การตีความใหม่ของรสชาติข้ามวัฒนธรรม

    ในโซนอาหารร้อน (Hot Dishes) คือพื้นที่ที่วัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกมาบรรจบกัน Flavors ได้เชิญเชฟจากห้องอาหารจีนระดับภัตตาคารของโรงแรม “Fei Ya” มาร่วมสร้างเมนูพิเศษให้บุฟเฟ่ต์นี้โดยเฉพาะ

    ซุปกระเพาะปลาแบบจีนจากห้องอาหาร Fei Ya

    แทนที่ซุปล็อบสเตอร์บิสก์แบบตะวันตก ทีมครัวเลือกนำเสนอ “ซุปกระเพาะปลาแบบจีน” ซึ่งเป็นอาหารที่สะท้อนรากวัฒนธรรมจีนกวางตุ้งแท้ ใช้ กระเพาะปลาทอดแห้ง (fish maw) ที่ผ่านการทอดจนพองก่อนนำมาแช่น้ำคืนรูปให้นุ่ม แล้วตุ๋นในน้ำซุปไก่และแฮมยูนนาน เคี่ยวช้า ๆ นานหลายชั่วโมงจนได้รสอูมามิกลมกล่อมโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรุงรสเคมี

    กระเพาะปลาที่ดีจะมีความนุ่มแต่คงตัว ไม่เละเมื่อเคี้ยว และดูดซับรสซุปไว้เต็มที่ จานนี้คือการเชื่อมโยงครัวจีนภัตตาคารเข้าสู่บุฟเฟ่ต์สากลอย่างลงตัว

    หอยเชลล์อเมริกันย่างซอสพิวเรพริกหวาน (Grilled U.S. Scallops with Bell Pepper Purée)

    เมนูนี้อาจดูเรียบง่ายในสายตา แต่สำหรับผู้ที่เข้าใจเทคนิคการกริลล์แล้ว จะรู้ว่าการทำให้หอยเชลล์สุกพอดีโดยที่ยังคงเนื้อสัมผัสหวานฉ่ำคือศิลปะชั้นสูง

    หอยเชลล์จากชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ถูกกริลล์ด้วยไฟแรงในเวลาสั้นไม่เกิน 45 วินาทีต่อด้าน เพื่อให้เกิดรอยไหม้สีน้ำตาลทองจากปฏิกิริยา Maillard ขณะที่เนื้อในยังคงสีขาวนวลและคงความเด้ง เมื่อเคี้ยวจะรู้สึกถึงความตึงแน่นบาง ๆ ก่อนที่เนื้อจะละลายบนลิ้นอย่างนุ่ม

    เชฟเลือกเสิร์ฟกับ ซอสพิวเรพริกหวาน (Bell Pepper Purée) สีเหลืองทอง ที่ผ่านการคั่วพริกหวานก่อนบดละเอียดจนได้รสหวานธรรมชาติและกลิ่นหอมรมควันอ่อน ๆ เพิ่มมิติให้กับรสของหอยเชลล์ที่ออกเค็มบางตามธรรมชาติ เสริมด้วยมะเขือเทศเชอร์รี่รมแสงเล็กน้อย (semi-dried cherry tomato) เพื่อเพิ่มกรดและรสผลไม้สด และฟักทอง

    จานนี้คือตัวอย่างของความสมดุลระหว่างเท็กซ์เจอร์และอุณหภูมิ ไฟแรงที่ให้ผิวนอกกรอบนิด ๆ กับความเย็นของซอสพิวเรที่ตัดรสอย่างลงตัว

    หอยนางรมร็อคกีเฟลเลอร์ (Oysters Rockefeller)

    ต้นตำรับจากนิวออร์ลีนส์ที่ถือกำเนิดในศตวรรษที่ 19 หอยนางรมอบซอสเนย ผักโขม และชีสพาร์มีซาน โรยเกล็ดขนมปังแล้วอบจนผิวกรอบหอม ในการทำซอสต้องเคี่ยวผักโขมกับหอมใหญ่จนแห้งก่อนผสมเนยละลายและชีส เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสแน่นไม่แฉะ เป็นเมนูที่รวมเทคนิคการอบแบบฝรั่งเศสเข้ากับจิตวิญญาณอเมริกันแท้

    ปูผัดซอสพริกสไตล์สิงคโปร์ (Singapore Chili Crab)

    ใช้ปูสดผัดกับซอสพริกตำโบราณและไข่แดงให้รสหวานเผ็ดกลมกล่อม เนื้อปูถูกลวกครึ่งสุกก่อนผัดในกระทะเหล็กเพื่อไม่ให้ยุ่ย ซอสมีส่วนผสมของซอสมะเขือเทศ น้ำตาลทรายแดง และน้ำปลาเล็กน้อยเพื่อสร้างความซับซ้อนของรสชาติ

    มัสมั่นแก้มวัว (Beef Cheek Massaman Curry)

    เมนูที่ผสมผสานเครื่องเทศไทยกับเทคนิคตุ๋นแบบยุโรป ใช้แก้มวัวตุ๋นในน้ำซุปสมุนไพรและเครื่องแกงมัสมั่นนานกว่า 3 ชั่วโมงจนเนื้อนุ่มละลาย เครื่องแกงที่ดีต้องมีกลิ่นอบเชย ยี่หร่า ลูกกระวาน และถั่วลิสงคั่วเป็นโทนหลัก

    ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิวรสเข้มข้น

    ซุปกระดูกเคี่ยวข้ามคืนให้ข้นจนเป็นคอลลอเจน ก่อนเสิร์ฟพร้อมเนื้อวากิวสไลซ์บางในน้ำร้อน เพื่อให้ไขมันละลายบาง ๆ บนผิวซุป เส้นก๋วยเตี๋ยวสดลวกแบบ al dente ให้มีแรงดีดเบา ๆ และตัดกับความนุ่มของเนื้อ

    สตูว์ทะเลซอสมะเขือเทศรสเข้ม (Seafood Stew in Tomato Reduction)

    ในบรรดาเมนูร้อนทั้งหมด จานนี้ถือเป็น “เสียงเข้ม” ของมื้อค่ำ Seafood Stew in Tomato Reduction ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เช่น cioppino ของอิตาลี หรือ bouillabaisse ของฝรั่งเศสตอนใต้

    ซอสพื้นฐานทำจากมะเขือเทศบดเคี่ยวจนเข้มข้น เติมไวน์ขาวเล็กน้อยเพื่อดึงกลิ่นหอมออกจากกระเทียมและหอมใหญ่ ก่อนเติมหอยแมลงภู่ ปลาหมึก กุ้งทะเล และเนื้อปลาแซลมอนลงไปเคี่ยวเพียงสั้น ๆ เพื่อไม่ให้วัตถุดิบสูญเสียรสหวานธรรมชาติ

    ความลึกของซอสเกิดจากการเคี่ยวอย่างช้า ๆ จนกรดมะเขือเทศลดลง เหลือไว้แต่รสหวานเข้มที่กลมกลืนกับกลิ่นทะเล เชฟตกแต่งด้วยใบโหระพาทอดกรอบ (crispy basil) ซึ่งช่วยเพิ่มกลิ่นสมุนไพรและความมันเล็กน้อยจากน้ำมันพืชที่ใช้ทอด

    เมื่อชิมคำแรก จะได้กลิ่นหอมของสมุนไพรและไวน์คละเคล้ากับความเค็มละมุนของทะเล เป็นจานที่ทั้งอบอุ่นและซับซ้อน เหมาะกับการเป็นช่วงกลางของมื้อค่ำที่ต้องการความเข้มข้นทางอารมณ์

    Indian Corner: เสน่ห์แห่งเครื่องเทศและจังหวะไฟในครัวเอเชียใต้

    ในบุฟเฟ่ต์ระดับนานาชาติของห้องอาหาร Flavors หนึ่งในโซนที่มักสร้างความประทับใจให้ทั้งนักชิมชาวไทยและแขกต่างชาติ คือมุมอาหารอินเดีย ที่ไม่เพียงนำเสนอรสชาติแบบต้นตำรับ แต่ยังสะท้อนปรัชญาแห่ง “การคุมไฟและการเล่นเครื่องเทศ” ซึ่งเป็นหัวใจของครัวอินเดียแท้

    แกงปลา (Fish Curry)

    แกงปลาของที่นี่ไม่ได้เป็นแบบเผ็ดจัดอย่างทางใต้ของอินเดีย แต่ใช้แนวทางของ Goan-style curry ที่กลมกล่อมกว่า เชฟเลือกใช้ปลาชิ้นหนาไขมันปานกลางเพื่อให้คงเนื้อแน่นแม้ผ่านการเคี่ยวในซอส เครื่องแกงทำจากหอมใหญ่ กระเทียม และมะเขือเทศผัดจนแห้ง ก่อนเติมกะทิและผงเครื่องเทศรวม (garam masala) ที่ประกอบด้วยยี่หร่า ลูกกระวาน อบเชย และพริกแห้งบดละเอียด

    กลิ่นหอมของเครื่องเทศจะค่อย ๆ ลอยขึ้นเมื่อซอสเริ่มเคลือบเนื้อปลา — รสเปรี้ยวเล็กน้อยจากมะขามให้มิติที่สดขึ้น ตัดกับความมันของกะทิ เป็นจานที่แสดงถึงสมดุลในแบบฉบับอินเดียตะวันตกได้อย่างงดงาม

    ไก่ติ้กก้า (Chicken Tikka)

    จานไก่ย่างสไตล์อินเดียที่ได้รับความนิยมทั่วโลก — เชฟหมักเนื้อไก่ด้วยโยเกิร์ตรสเปรี้ยวอ่อน ผสมเครื่องเทศจำพวกขมิ้น ยี่หร่า ผงพริก และกระเทียม ก่อนนำเข้าเตาอบแบบ ตั้นดูร์ (Tandoor) ซึ่งเป็นเตาดินเผาร้อนจัด อุณหภูมิสูงกว่า 400°C

    การย่างด้วยเตาตั้นดูร์ทำให้ไก่สุกเร็วแต่ยังคงความฉ่ำ กลิ่นหอมของควันถ่านและไขมันที่หยดลงไปบนถ่านร้อนจะกลับมาคลุ้งเคลือบเนื้อไก่ เป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่มีทางเลียนแบบได้ด้วยเตาไฟฟ้าทั่วไป เสิร์ฟพร้อมหัวหอมแดงหั่นบาง มะนาวฝาน และซอสโยเกิร์ตมินต์ที่ช่วยตัดรสและให้ความเย็น

    แกงมาซาล่า (Vegetable Masala / Chicken Masala)

    “มาซาล่า” คือคำเรียกรวมเครื่องเทศที่ผสมอย่างซับซ้อน ในที่นี้เชฟเลือกใช้ทั้งแบบเนื้อสัตว์และแบบมังสวิรัติ เครื่องแกงถูกปรุงในแนว North Indian curry base ที่มีความเข้มข้นจากครีมสดและโยเกิร์ต เมื่อเคี่ยวไปจนข้นจะได้ซอสเนียนละเอียดสีทองอมแดง

    จานนี้โดดเด่นด้วยกลิ่นของเมล็ดเมธี (Fenugreek) และกานพลูบด ที่ให้โทนหอมหวานติดขมเล็กน้อยตามแบบภาคเหนือของอินเดีย เป็นเมนูที่ทำหน้าที่เชื่อมรสชาติระหว่างแกงเผ็ดและแกงมันได้อย่างลงตัว

    แป้งนาน (Naan) และแป้งกรอบ (Papadam)

    มื้ออาหารอินเดียจะไม่สมบูรณ์หากขาดแป้งอบและแผ่นกรอบที่เป็นทั้งพาหะของรสและพื้นผิวสัมผัสในมื้อเดียว

    แป้งนาน (Naan Bread) ของ Flavors ถูกอบสดใหม่ในเตาตั้นดูร์ทุกครึ่งชั่วโมง แป้งนวดด้วยโยเกิร์ตและนมสดทำให้ได้เนื้อขนมปังที่ยืดนุ่มและหอมไหม้บาง ๆ จากการสัมผัสผนังเตาดินเผาร้อนจัด ขอบขนมปังบางส่วนกรอบ ขณะที่เนื้อในยังนุ่มฟู เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้ซับซอสแกงที่เข้มข้น

    ส่วน Papadam (ปาปาดัม) หรือแผ่นถั่วกรอบบาง ๆ ที่ทอดจนพอง เป็นของกินเล่นและแนมเคียงที่ช่วยเพิ่มความกรุบให้กับมื้อ ช่วยตัดความมันของแกงและสร้างจังหวะระหว่างคำ

    คอนดิเมนต์และเครื่องเคียง (Condiments)

    โต๊ะเครื่องเคียงของมุมอินเดียเต็มไปด้วยสีสัน มีทั้ง มินต์ชัทนีย์ (Mint Chutney) กลิ่นหอมเย็นจากใบสะระแหน่บดกับโยเกิร์ต, มะม่วงดิบดอง (Pickled Mango) รสเปรี้ยวเค็มช่วยกระตุ้นต่อมรับรส และ หอมแดงหมักน้ำส้ม ที่ให้ความกรอบสดชื่นตัดเลี่ยน

    ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่ส่วนเสริม แต่เป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ในวัฒนธรรมการกินของอินเดีย ซึ่งเน้น “การเล่นรสและอุณหภูมิในจานเดียว” ความเปรี้ยว เย็น เผ็ด มัน และกรอบ ถูกจัดวางให้เกิดสมดุลทางประสาทสัมผัส


    Dessert Station: ความละเมียดแห่งการปิดฉาก

    เมื่อรสชาติจากทะเลและแผ่นดินจบลง การเดินเข้าสู่โซนของหวานที่ Flavors ก็เหมือนเข้าสู่ “บทส่งท้ายของซิมโฟนีแห่งรส”

    บานาน่าฟอสเตอร์เฟลมเบ้ (Flambé Banana Foster) เป็นจานไลฟ์โชว์ที่ทั้งอร่อยและสวยงาม กล้วยหอมไทยผัดในกระทะทองกับเนย น้ำตาลทรายแดง และรัม เมื่อไฟลุกขึ้นเผาแอลกอฮอล์ให้ระเหย เหลือไว้เพียงกลิ่นคาราเมลฉ่ำรสลึก

    ช็อกโกแลตสูตรเข้มข้นหลากรส ทั้งมูส ทาร์ต และบราวนี่ ใช้โกโก้จากเบลเยียมเปอร์เซ็นต์สูงกว่า 70% เนื้อเนียนแน่นและควบคุมความหวานอย่างพอดี ส่วน ชีสเค้ก ใช้ครีมชีสญี่ปุ่นที่ให้ความนุ่มละมุนคล้ายคัสตาร์ด

    ไอศกรีมเจลาโต้โฮมเมด ผลิตสดในโรงแรมจากนมสดแท้โดยไม่ใส่สารเพิ่มเนื้อสัมผัส ให้ความเนียนนุ่มตามธรรมชาติของไขมันนม

    และสุดท้าย ข้าวเหนียวมะม่วง ที่ใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูมูนกับหัวกะทิสด เติมความเค็มบางเพื่อชูรสหวานของมะม่วงน้ำดอกไม้สุก เป็นการจบมื้อด้วยความเรียบง่ายที่สมบูรณ์แบบ


    บทส่งท้าย: ศิลปะแห่งความสมดุล

    “Surf & Turf” ที่ Flavors ไม่ได้เป็นเพียงบุฟเฟ่ต์อีกมื้อหนึ่ง แต่คือบทสนทนาระหว่างวัฒนธรรมอาหารจากทั่วโลก — จากทะเลเหนือถึงอ่าวไทย จากครัวฝรั่งเศสถึงครัวจีน ทุกจานบอกเล่าเรื่องราวผ่านเทคนิคและการเลือกวัตถุดิบที่มีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง

    ความน่าสนใจที่สุดคือการที่โรงแรมเลือกนำเมนูจีนภัตตาคารอย่าง “ซุปกระเพาะปลา” เข้ามาอยู่ในบุฟเฟ่ต์สากล ซึ่งเป็นการเคารพรากวัฒน

    ให้บริการตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2568 ทุกวันพฤหัสบดี – อาทิตย์ เวลา 18.00 – 22.30 น. ณ ห้องอาหารเฟลเวอร์ส (Flavors) ชั้นเอ็ม โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ สำรองที่นั่งหรือดูเมนูเพิ่มเติม กรุณาคลิก https://sevn.ly/xOsoF8r0 หรือโทร. 02.125.5000

    Surf & Turf Dinner Buffet, Surf & Turf Dinner Buffet, Surf & Turf Dinner Buffet, Surf & Turf Dinner Buffet, Surf & Turf Dinner Buffet, Surf & Turf Dinner Buffet

    Kin Review

    Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์

    รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง Kinandleisure.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

    Share this:

    • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
    • Click to share on X (Opens in new window) X
    • Click to share on Threads (Opens in new window) Threads
    Previous Article[News] “เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” เปิดตัวสาขาใหม่ โครงการคิงสแควร์ (พระราม 3 พร้อมนิทรรศการศิลปะ Abstract

    Related Posts

    [Review] ชุดชาแสนวิจิตรสุดอร่อย โดยเชฟมากรางวัล Nicolas Lambert Afternoon Tea at The Lounge – Four Seasons Hotel Bangkok

    October 23, 2025

    [Review] “Espresso Intermezzo” Afternoon Tea ใหม่สุดหรูจาก Ms.Jigger, Kimpton Maalai Bangkok สัมผัสรสชาติอิตาเลียนยามบ่ายในบรรยากาศสุดชิค

    October 22, 2025

    [Review] หรูหรา มีเรื่องเล่า และเต็มไปด้วยรสชาติ — The Twelve-Hand Dinner มื้อพิเศษฉลอง 5 ปี Sindhorn Kempinski Bangkok

    October 9, 2025

    Comments are closed.

    • Recent Posts
    • POPULAR

    [Review] Surf & Turf Dinner Buffet ศิลปะแห่งรสชาติจากผืนทะเลและแผ่นดิน ณ ห้องอาหาร Flavors, Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel 

    November 15, 2025

    [News] “เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” เปิดตัวสาขาใหม่ โครงการคิงสแควร์ (พระราม 3 พร้อมนิทรรศการศิลปะ Abstract

    November 15, 2025

    [News] สัมผัสเสน่ห์อาหารใต้มื้อค่ำสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Four-Hand Dinner: Flourish x Thai Library  ณ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้  กรุงเทพฯ Sindhorn Kempinski Bangkok

    November 10, 2025

    [News] ดื่มด่ำรสชาติแห่งท้องทะเลและเนื้อเกรดพรีเมียม ในบุฟเฟต์นานาชาติมื้อค่ำ Surf & Turf ณ ห้องอาหารเฟลเวอร์ส (Flavors) โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพ ราชประสงค์

    November 8, 2025

    [News] “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน | American Beef Feast 2025” ร่วมเฉลิมฉลองปลายปี 2025 ด้วยรสชาติแห่งความเป็นเลิศของเนื้อวัวอเมริกันพรีเมี่ยม

    November 5, 2025

    [Review] Surf & Turf Dinner Buffet ศิลปะแห่งรสชาติจากผืนทะเลและแผ่นดิน ณ ห้องอาหาร Flavors, Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel 

    November 15, 2025

    [News] “เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” เปิดตัวสาขาใหม่ โครงการคิงสแควร์ (พระราม 3 พร้อมนิทรรศการศิลปะ Abstract

    November 15, 2025

    [News] สัมผัสเสน่ห์อาหารใต้มื้อค่ำสุดเอ็กซ์คลูซีฟ Four-Hand Dinner: Flourish x Thai Library  ณ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้  กรุงเทพฯ Sindhorn Kempinski Bangkok

    November 10, 2025

    [News] ดื่มด่ำรสชาติแห่งท้องทะเลและเนื้อเกรดพรีเมียม ในบุฟเฟต์นานาชาติมื้อค่ำ Surf & Turf ณ ห้องอาหารเฟลเวอร์ส (Flavors) โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพ ราชประสงค์

    November 8, 2025

    [News] “เทศกาลเนื้อวัวอเมริกัน | American Beef Feast 2025” ร่วมเฉลิมฉลองปลายปี 2025 ด้วยรสชาติแห่งความเป็นเลิศของเนื้อวัวอเมริกันพรีเมี่ยม

    November 5, 2025
    POPULAR

    “ฟัวกราส์” ถูกแบนแล้วในแดนแซมบ้า ห้ามซื้อห้ามขายห้ามกิน

    June 29, 2015

    เมล็ดมันแกวแก่ กินไม่ดีถึงตายไปหลายรายแล้ว!!!!

    June 30, 2015

    ภาชนะที่ทำจากโฟมใส่ของกินของต้องห้ามในนิวยอร์กตั้งแต่วันนี้!

    July 2, 2015
    @KinlakeStars
    KINLAKESTARS.COM

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

     

    Loading Comments...