Kinandleisure
    Facebook Twitter Instagram
    Trending
    • [Review] Gala Dinner บนเรือ Saffron Cruise ฉลอง 50 ปี Thailand–Mexico กับบทเพลง Mariachi สุดอลัง
    • [Review] หรูหรา มีเรื่องเล่า และเต็มไปด้วยรสชาติ — The Twelve-Hand Dinner มื้อพิเศษฉลอง 5 ปี Sindhorn Kempinski Bangkok
    • [Review] HEI YIN Cantonese Refined, A Five-Course Tasting — เมื่ออาหารกวางตุ้งกลายเป็นบทกวีแห่งศิลปะบนจาน
    • [News] Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ฉลองครบรอบ 5 ปี จัดดินเนอร์สุดพิเศษ The Twelve -Hand Dinner
    • [Preview] เปิดตัวแลนด์มาร์คไลฟ์สไตล์แห่งใหม่บนถนนสุขุมวิท ใจกลางมหานคร @ KROMO Bangkok, Curio Collection by Hilton
    • [Review] Fillets Bangkok at One Bangkok – คัปโปะโอมากาเสะหรูสไตล์โมเดิร์น ผสานศิลปะญี่ปุ่นร่วมสมัยกลางมหานคร
    • [News] “เฮยยิน” เปิดตัว 5 คอร์สอาหารเมนูใหม่ “HEI YIN Cantonese Refined, A Five-Course Tasting” รังสรรค์ประสบการณ์อาหารกวางตุ้งร่วมสมัยสุดประณีต พร้อมเครื่องดื่มชั้นเลิศ
    • [Review] ศิลาดล ห้องอาหารไทยไฟน์ไดนิ่ง โรงแรม The Sukhothai Bangkok – ประสบการณ์รสชาติไทยชั้นสูงกับเชฟจิ๊บ”
    Facebook Twitter Instagram
    Kinandleisure
    • Kin Reviews
      • Top Restaurant
      • French Cuisine
      • European Cuisine
      • German Cuisine
      • Italian Cuisine
      • Japanese Cuisine
      • Thai Cuisine
      • International Cuisine
      • Spanish Cuisine
      • tea lounge/Café & bakery
      • Chinese Cuisine
      • American Cuisine
      • Bar Drinks
      • Steak House
      • Vietnamese Cuisine
      • Korean Cuisine
      • Indian Cuisine
      • latin American
      • Steak House
    • K healthy
      • Kin Healthy
      • Healthy Living
    • Kin Articles
      • Kin General
      • Kin Cooking
      • Kin Seasonal
    • Kin Channel
    • Promo & Event
      • Kin Promo
      • Kin News
      • LifeStyle Promo & Event
    • K Travel&LifeStyle
      • Trip Review
      • Hotel Review
      • Spa & beauty
      • K Fashion
      • K Fit
      • Our Team เบื้องหลัง โฉมหน้าผู้สร้างเนื้อหา กิน ดื่ม เที่ยว โดยทีมงานคุณภาพ
    • K Living & Design
    Kinandleisure
    Home»Dining Type»Fine Dining»[Review] Gala Dinner บนเรือ Saffron Cruise ฉลอง 50 ปี Thailand–Mexico กับบทเพลง Mariachi สุดอลัง
    Fine Dining

    [Review] Gala Dinner บนเรือ Saffron Cruise ฉลอง 50 ปี Thailand–Mexico กับบทเพลง Mariachi สุดอลัง

    Kittin AssavavichaiBy Kittin AssavavichaiOctober 9, 2025Updated:October 9, 2025No Comments6 Mins Read

    ค่ำคืนแห่งเสียงดนตรี วัฒนธรรม และมิตรภาพที่ล่องเรือไปกลางเจ้าพระยา


    ค่ำคืนวันที่ 23 กันยายน 2025 — สายน้ำเจ้าพระยากระทบแสงไฟระยิบระยับจากสะพานพระรามแปด ขณะที่เรือลำหรู “Saffron Cruise” ของโรงแรม Banyan Tree ล่องออกจากท่า River City อย่างสง่างาม เสียงไวโอลินและทรัมเป็ตเริ่มขับขานขึ้นจากดาดฟ้าเรือ บทเพลงจังหวะสนุกแบบเม็กซิกันที่ใครได้ยินก็อดขยับไม่ได้ ทำให้ทุกคนรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่งานกาล่าดินเนอร์ธรรมดา — หากคือค่ำคืนเฉลิมฉลอง “50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและเม็กซิโก” ที่เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม และมิตรภาพระหว่างสองโลกที่อยู่คนละซีกฟ้า


    เมื่อเสียงกีตาร์และไวโอลินบรรจบกับสายน้ำเจ้าพระยา

    บนเวทีเล็ก ๆ กลางเรือ ปรากฏภาพของกลุ่มศิลปินหญิงในชุดแดงสด ปักดิ้นทองระยับสว่างใต้แสงไฟ พวกเธอคือ “Mariachi Bonitas de Dinorah” — วงมาเรียชิหญิงล้วนที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติจากเม็กซิโก ซิตี้ กลุ่มนักดนตรีหญิงผู้บุกเบิกการนำเสนอศิลปะแบบ Mariachi ด้วยพลัง เสน่ห์ และความสง่างาม

    เสียงร้องทรงพลังสลับเสียงทรัมเป็ตแผดกังวาน ปนด้วยเสียงไวโอลินที่ขยับจังหวะอย่างร่าเริง เพลง “El Son de la Negra” ดังขึ้นเป็นเพลงเปิด พร้อมเสียงปรบมือจากแขกเหรื่อชาวไทยและชาวต่างชาติที่นั่งอยู่รอบโต๊ะอาหารในบรรยากาศแสงดาวเหนือสายน้ำ มันคือช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองที่งดงามและอบอุ่นที่สุดช่วงหนึ่งของปี


    50 ปีแห่งสายสัมพันธ์ทางการทูต: จากวัฒนธรรมสู่มิตรภาพ

    การจัดงานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก สถานเอกอัครราชทูตเม็กซิโกประจำประเทศไทย (Embajada de México en Tailandia) ร่วมกับ Banyan Tree Bangkok และ Saffron Cruise ซึ่งตั้งใจเนรมิตค่ำคืนนี้ให้เป็นมากกว่า “งานเลี้ยง” — แต่เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศที่ต่างมีความร่ำรวยทางวัฒนธรรม

    ประเทศไทยและเม็กซิโกเริ่มสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1975 และตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านวัฒนธรรม ศิลปะ การศึกษา และอาหารอย่างต่อเนื่อง — เม็กซิโกส่งศิลปิน ดนตรี และภาพยนตร์เข้ามาเผยแพร่ในไทย ในขณะที่อาหารไทยก็ได้รับความนิยมสูงในเม็กซิโกจนมีร้านอาหารไทยเปิดอยู่ทั่วประเทศ

    การที่ทั้งสองชาติเลือก “อาหารและดนตรี” เป็นหัวใจของการเฉลิมฉลองในครั้งนี้ จึงถือเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงพลังที่สุดของการสื่อสารแบบไร้พรมแดน


    Mariachi Bonitas de Dinorah: เสียงดนตรีจากหัวใจของละติน

    วง Mariachi ถือกำเนิดในรัฐฮาลิสโก (Jalisco) ประเทศเม็กซิโก เป็นดนตรีพื้นบ้านที่ผสมผสานระหว่างเครื่องสายและเครื่องทองเหลือง ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิต ความรัก และความภาคภูมิใจของชาวเม็กซิกัน

    แต่สิ่งที่ทำให้ “Mariachi Bonitas de Dinorah” โดดเด่นเหนือวงอื่น คือความเป็นวงหญิงล้วนที่สร้างชื่อเสียงในระดับโลก โดยมีนักร้องนำและผู้ก่อตั้งคือ Dinorah Zamora ผู้ได้รับฉายาว่า “Queen of Mariachi” เธอและวง Bonitas เคยแสดงในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงเทศกาลระดับนานาชาติที่ลอสแอนเจลิสและนิวยอร์ก

    ค่ำคืนนี้ พลังเสียงของพวกเธอสั่นสะเทือนกลางสายน้ำเจ้าพระยา บางช่วงเสียงทรัมเป็ตชวนโยก บางช่วงไวโอลินลากยาวจนน้ำตาซึม เป็นบทบรรเลงที่พาแขกทุกคนออกเดินทางไกลข้ามซีกโลกไปถึงดินแดนแห่งเตกีลาและแดนซ์ซัลซ่าโดยไม่ต้องลุกจากเก้าอี้


    ความงามของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่าน “การรับประทานอาหารร่วมกัน”

    แม้ค่ำคืนนี้จะเป็นคอนเสิร์ตที่โดดเด่นด้วยพลังของดนตรี แต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศสมบูรณ์แบบคือ “อาหาร” — ภาษาสากลที่ไม่ต้องการล่ามแปล เราอาจพูดภาษาต่างกัน แต่รสชาติสามารถเชื่อมโยงความรู้สึกได้อย่างน่าอัศจรรย์

    ยอดเยี่ยมครับ


    บทที่ 2 : รสชาติแห่งมิตรภาพ

    Mexican Delicacy – Guacamole, Totopos, Chile Crujiente

    Avocado Dip, Corn Chips Tortilla, Crispy Jinda Chili


    ก่อนเสียงทรัมเป็ตของวง Mariachi Bonitas de Dinorah จะเริ่มบรรเลงในค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 50 ปี ไทย–เม็กซิโก บนเรือ Saffron Cruise ที่ล่องกลางเจ้าพระยา แขกทุกท่านได้รับการต้อนรับด้วย “คำแรก” ที่งดงามและเต็มไปด้วยความหมาย — จานเรียกน้ำย่อยที่เปรียบเสมือนการทักทายจากวัฒนธรรมละตินอเมริกันแท้ ๆ

    บนถาดไม้เรียวยาวสีน้ำตาลเข้มวางเรียงด้วยถ้วยเซรามิกสามใบ — แต่ละใบคือโลกแห่งรสชาติที่สะท้อนเอกลักษณ์ของเม็กซิโกอย่างชัดเจน


    Guacamole – หัวใจสีเขียวของเม็กซิโก

    ตรงกลางคือ Guacamole — ดิปอะโวคาโดเนื้อแน่นที่ถูกบดจนเนียนละเอียด ผสมเข้ากับมะเขือเทศหั่นเต๋า หอมแดง และผักชีสด กลิ่นหอมของมะนาวสดและพริกจาลาเปโญแตะปลายจมูกอย่างเย้ายวน รสสัมผัสนุ่มละมุนแต่สดชื่นในเวลาเดียวกัน

    สำหรับคนเม็กซิกัน guacamole ไม่ใช่เพียงดิป แต่เป็นเสมือน “จิตวิญญาณของครัว” ที่อยู่คู่ประเทศมานานนับศตวรรษ อะโวคาโดถือเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ในวัฒนธรรมแอซเท็กและมายา—เชื่อกันว่าเป็นผลไม้แห่งชีวิต และการได้เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยรสสัมผัสนี้ จึงเปรียบเสมือนการเปิดฉากแห่งความอุดมสมบูรณ์และมิตรภาพ


    Totopos – เมื่อข้าวโพดกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสุข

    ถ้วยด้านขวาเต็มไปด้วยแผ่น Totopos หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “Corn Chips Tortilla” — ข้าวโพดอบกรอบสีทองเข้มที่หอมกลิ่นข้าวโพดและควันอ่อน ๆ เมื่อกัดจะได้เสียงกรุบกรอบและรสสัมผัสบางเบาอย่างลงตัว

    ข้าวโพดคือหัวใจของวัฒนธรรมเม็กซิกัน เป็นพืชที่ผูกพันกับชีวิตประจำวันของชาวพื้นเมืองมานานกว่าพันปี Totopos จึงไม่ได้เป็นเพียงของกินเล่น แต่เป็นสัญลักษณ์ของ “การร่วมวง” เพราะทุกคนสามารถแบ่งปันชิปกรอบ ๆ จุ่มในซอสเดียวกันได้อย่างสนุกสนานและไม่ต้องมีพิธีรีตอง — นั่นแหละคือเสน่ห์ของมื้ออาหารแบบละติน


    Chile Crujiente – เมื่อพริกกลายเป็นศิลปะ

    ถ้วยสุดท้ายคือ Chile Crujiente — พริกจินดาไทยที่ผ่านการทอดจนกรอบและคลุกเครื่องเทศแบบเม็กซิกัน เป็นการผสมผสานที่แสดงให้เห็นถึง “การพบกันของสองวัฒนธรรม” อย่างแยบคาย

    ความเผ็ดของพริกจินดาให้เอกลักษณ์แบบไทย ขณะที่เครื่องเทศเม็กซิกันอย่างผงชิพอทเล (Chipotle) หรือปาปริก้าควัน ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมลึกซึ้งแบบละติน เสมือนบทสนทนาที่อบอุ่นระหว่างสองชาติบนจานเดียว — ทั้งกล้า หอม และกลมกล่อม


    เมื่ออาหารกลายเป็นสัญญะแห่งมิตรภาพ

    สามองค์ประกอบนี้ — สีเขียวของอะโวคาโด สีทองของข้าวโพด และสีแดงของพริก — ไม่ได้เป็นเพียงจานเรียกน้ำย่อย แต่แทบจะสื่อถึง “สามสีแห่งธงชาติเม็กซิโก” อย่างงดงามโดยบังเอิญ และหากมองให้ลึกลงไป มันยังเป็นบทกวีแห่งมิตรภาพระหว่างไทยกับเม็กซิโก ที่มีทั้งความสดชื่น ความอบอุ่น และความเผ็ดร้อนอย่างลงตัว

    ทุกคำของ Guacamole และ Totopos ที่จุ่มเข้าปากพร้อมพริกกรอบรสเข้ม คือการเตือนเราว่า “อาหารคือภาษาสากล” — ภาษาที่ไม่ต้องมีล่าม แต่ทุกคนเข้าใจได้ด้วยรอยยิ้ม


    A Prelude to the Feast

    ในค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองบนเรือ Saffron Cruise จานเรียกน้ำย่อยนี้ทำหน้าที่เป็น “บทนำแห่งรสชาติ” ได้อย่างงดงาม มันไม่เพียงปลุกประสาทสัมผัสให้พร้อมสำหรับอาหารคอร์สถัดไป แต่ยังทำให้หัวใจของแขกทุกคนเปิดรับวัฒนธรรมเม็กซิกันด้วยความเคารพและความยินดี

    นี่คือ “คำแรก” ที่ทำให้ค่ำคืนนี้เริ่มต้นด้วยความทรงจำที่งดงามที่สุด — ทั้งในแง่ของรสชาติและมิตรภาพ



    บทที่ 3 : ละเมียดละไมในคำเดียว

    Amuse Bouche – Tiritas de Camarón

    Fresh Tiger Prawn with Jalapeño, Pickled Red Onion, Cilantro and Avocado, Crispy Corn Tostada


    ในค่ำคืนที่ลมเย็นพัดจากเจ้าพระยา เสียงคลื่นเบา ๆ กระทบตัวเรือ Saffron Cruise เป็นจังหวะคล้ายบทกวี เสิร์ฟต่อมาหลังจากจานเรียกน้ำย่อยคือ “Amuse Bouche” — คำเล็ก ๆ ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อ “ปลุกประสาทสัมผัส” ให้พร้อมสำหรับการเดินทางแห่งรสชาติ และในค่ำคืนนี้ เชฟได้เลือกใช้แรงบันดาลใจจากชายฝั่งแปซิฟิกของเม็กซิโก — เมืองที่กลิ่นทะเลผสมกลิ่นมะนาวสด — ถ่ายทอดออกมาเป็นเมนูที่ชื่อว่า Tiritas de Camarón


    Tiritas de Camarón – บทสนทนาระหว่างทะเลและสวนครัว

    ชามเซรามิกสีบรอนซ์ควันไฟดูสงบนิ่ง แต่ซ่อนสีสันสดใสของเครื่องเคียงอย่างมีชีวิตชีวา — เนื้อกุ้งลายเสือสดหั่นบางพอดีคำ คลุกในน้ำมะนาวและเกลือทะเลจนเนื้อแน่นและใสระยับ ราดด้วยซัลซาเบา ๆ ที่ผสมความหอมของผักชีและความเปรี้ยวซ่านของหัวหอมดองสีม่วง แผ่นแรดิชบางเฉียบสีชมพูอ่อนและพริกจาลาเปโญเขียวสดแต่งแต้มอยู่ด้านบนอย่างตั้งใจ ราวกับพู่กันแตะลงบนผืนผ้าใบแห่งรสชาติ

    ทุกอย่างตั้งอยู่บนฐานของ Crispy Corn Tostada ที่ทอดจนกรอบทอง — เมื่อกัดลงไป เสียงกรุบเบา ๆ ดังขึ้นก่อนที่กลิ่นมะนาวสดและความหวานของกุ้งจะกระจายทั่วปาก


    รสชาติที่ตื่น…ในคำเดียว

    Amuse Bouche จานนี้เปรียบเสมือนบทกวีสั้น ๆ ที่เปิดเรื่องได้อย่างทรงพลัง — ความเปรี้ยวสดของมะนาว ความหอมของผักชี ความเผ็ดปลายลิ้นจากจาลาเปโญ และความมันนุ่มของอะโวคาโด ล้วนถูกจัดวางอย่างแม่นยำ มันคือสมดุลของ “สด” และ “เข้ม” — ทั้งในรสชาติและอารมณ์ เหมือนการเต้นระหว่างแสงอาทิตย์ของเม็กซิโกและลมเย็นจากแม่น้ำเจ้าพระยาในคืนเดียวกัน


    ศิลปะแห่งการเชื่อมโยงสองโลก

    สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือวิธีที่เชฟผสมผสานวัตถุดิบท้องถิ่นไทยเข้ากับสูตรเม็กซิกันแบบดั้งเดิมได้อย่างกลมกลืน — ความกรอบของข้าวโพดไทย ความสดของกุ้งลายเสือจากทะเลอ่าวไทย และความเปรี้ยวที่ได้แรงบันดาลใจจาก Ceviche เม็กซิกัน ล้วนหลอมรวมเป็นรสชาติที่ทั้งคุ้นและแปลกใหม่ในเวลาเดียวกัน

    นี่ไม่ใช่เพียง Amuse Bouche หากแต่เป็น “สะพานแห่งวัฒนธรรม” — คำเล็ก ๆ ที่เล่าเรื่องราวของการเดินทางยาวนานระหว่างสองประเทศที่มีรากวัฒนธรรมต่างกัน แต่มีหัวใจของความเคารพและความสร้างสรรค์ร่วมกันอย่างชัดเจน


    เมื่อรสชาติกลายเป็นบทกวี

    ในคำเดียวของ Tiritas de Camarón คุณจะได้ยินทั้งเสียงคลื่น เสียงหัวเราะ และเสียงเครื่องสายของวง Mariachi ที่บรรเลงอยู่บนดาดฟ้าเรือ — มันคือการผสมผสานของเสียงและรสที่ทำให้ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา


    เยี่ยมมากครับ ภาพนี้สวยและคมชัดมาก เหมาะจะใช้ประกอบบทที่ 4 ของรีวิวในโทน พรีเมียมแบบนิตยสาร fine dining ต่อจาก Amuse Bouche เลยครับ — ผมจะเขียนในโทน “สง่างามแต่มีชีวิต” ผสมอารมณ์ของรสชาติและศิลปะการจัดจาน โดยมีพาดหัวที่ดีต่อ SEO ด้วย เช่น “Tetela de Pato: รสสัมผัสแห่งเม็กซิโกที่กลั่นจากเป็ดและข้าวโพดฟ้า”


    บทที่ 4 : รสชาติแห่งข้าวโพดและบทเพลงของเป็ด

    Appetizer – Tetela de Pato

    Blue Corn Tetela Stuffed with Black Bean and Duck Confit, Sour Cream, Avocado and Pipian Sauce
    Paired with NV Cape Discovery Sparkling Brut, Stellenbosch, South Africa


    เมื่อค่ำคืนเริ่มมีจังหวะ — แสงไฟสะท้อนกับผิวน้ำกลายเป็นประกายระยิบที่ไหวอยู่รอบตัว เสียงกีตาร์ของวง Mariachi Bonitas de Dinorah ละมุนไปกับเสียงไวน์ที่เปิดใหม่ แก้วแชมเปญใสประกายเริ่มซับเสียงฟองละเอียด… และจานถัดมาที่วางลงเบื้องหน้า คือสิ่งที่สื่อสารถึง “หัวใจของเม็กซิโก” ได้อย่างสง่างามที่สุด

    Tetela de Pato – จานเรียกน้ำย่อยที่งดงามทั้งในรสชาติและประวัติศาสตร์


    Tetela: มรดกจาก Oaxaca สู่โต๊ะหรูริมเจ้าพระยา

    Tetela คืออาหารพื้นเมืองจากรัฐ Oaxaca — เมืองที่ถือเป็นหัวใจของวัฒนธรรมเม็กซิกันดั้งเดิม
    มันคือแผ่นแป้งข้าวโพดโบราณที่พับเป็นรูปสามเหลี่ยม คล้ายจดหมายรักจากชาวนาแห่งทุ่งข้าวโพด ส่งต่อมาถึงยุคสมัยใหม่ที่ความประณีตกลายเป็นศิลปะ

    ในจานนี้ เชฟเลือกใช้ ข้าวโพดพันธุ์ฟ้าหรือ Blue Corn ซึ่งมีรสเข้มและกลิ่นหอมเฉพาะตัว นวดจนเนียนแล้วห่อไส้ ถั่วดำบดละเอียดและเนื้อเป็ดคองฟีต์ (Duck Confit) ที่ผ่านการตุ๋นจนเปื่อยนุ่มหอมกลิ่นไขมันธรรมชาติ

    ทุกคำที่กัดลงไปเต็มไปด้วยความเข้มลุ่มลึกของถั่วดำ และความกลมกล่อมของเนื้อเป็ดที่ค่อย ๆ คลี่รสออกเหมือนเครื่องดนตรีที่บรรเลงช้า ๆ ในอากาศยามค่ำ


    ซอส Pipian: เสียงสะท้อนของสวนสมุนไพร

    เคียงข้าง Tetela บนจานคือ ซอส Pipian สีเขียวมรกต — ซอสโบราณของเม็กซิโกที่ทำจากเมล็ดฟักทองบด ผสมพริกเขียว ผักชี และเครื่องเทศ จนได้รสเข้มข้น หอมกรุ่น และนุ่มลึก เชฟตีซอสจนเนียนละเอียด ราดบาง ๆ เป็นแผ่นราวกับลมหายใจของผืนดินสีเขียว ที่เข้ามากลบความมันของเป็ดได้อย่างงดงามพอดี ส่วนด้านบนแต่งด้วยแผ่นหัวไชเท้าสีชมพูอ่อน ผักสลัดสด และเมล็ดทับทิมแดงระเรื่อ — เพิ่มมิติของสีและสัมผัสที่สดใสอย่างมีชีวิต เมื่อซอสสัมผัสกับเนื้อเป็ดและข้าวโพด กลิ่นสมุนไพรจะปลุกให้รสชาติทั้งหมดกลายเป็นบทกวี — หนักแน่นแต่ไม่ข่ม เบาแต่ไม่จาง


    จาก Stellenbosch – ความสัมพันธ์ข้ามทวีป

    เครื่องดื่มที่จับคู่กับจานนี้คือ NV Cape Discovery Sparkling Brut จาก Stellenbosch ประเทศแอฟริกาใต้
    ไวน์ขาวประกายทองที่มีฟองละเอียดละเมียดและกลิ่นหอมผลไม้สุกนิด ๆ ทำหน้าที่เหมือนเครื่องสายที่ประคองบทเพลง Tetela ให้ลื่นไหล ความสดของฟองและกรดอ่อนจากไวน์ช่วยล้างรสไขมันจากเป็ด ขับให้กลิ่นข้าวโพดและพริกเขียวในซอส Pipian เด่นขึ้นมาในทุกคำ — สมบูรณ์แบบในสไตล์ fine dining ที่มีการออกแบบรสอย่างรู้จังหวะ


    บทเพลงแห่งความร่วมมือ

    ในแง่สัญลักษณ์ Tetela de Pato จานนี้คือ “บทสนทนาแห่งวัฒนธรรม” ระหว่างไทย–เม็กซิโก
    เพราะข้าวโพดเปรียบเหมือนหัวใจของชาวเม็กซิกัน ขณะที่เป็ดตุ๋นหอมมันเป็นวัตถุดิบที่ชาวไทยคุ้นเคย — การผสมผสานทั้งสองเข้าด้วยกันคือการสร้างสะพานแห่งมิตรภาพผ่านรสชาติ เมื่อมองจากมุมนี้ จานอาหารไม่ได้เป็นเพียงสิ่งรับประทาน หากคือการบรรเลงบทเพลงที่พูดภาษาสากลของความเคารพ ความเข้าใจ และความงดงามในความแตกต่าง


    Sorbet
    Guayaba, Toronja, Tajín Clásico / Pink Guava Sorbet with Pomelo and Mexico Chili Powder


    บทที่ 5 : เสียงคลื่นแห่งแปซิฟิก และความหอมของเปลือกส้ม

    First Course – Pescado Zarandeado

    Sea Bass Marinated Ixtapa-Style, Citrus Salsa Cruda, Cilantro Aioli, Carrot Soubise and Crispy Fish Popcorn with Amaranth
    Wine Pairing: 2021 Pouilly-Fuissé Domaine Gry-Sablon, France

    ในยามที่ลมค่ำพัดผ่านริมฝั่งเจ้าพระยา เสียงคลื่นจากแม่น้ำดูราวกับสะท้อนเรื่องราวของอีกฟากโลก — ประเทศเม็กซิโก ที่ซึ่งกลิ่นไอทะเลและเครื่องเทศเป็นหัวใจของอาหารชายฝั่งแปซิฟิก

    จานนี้คือ “Pescado Zarandeado” — เมนคอร์สแรกที่เชฟหยิบแรงบันดาลใจจากเมือง Ixtapa ทางชายฝั่งตะวันตกของเม็กซิโก ที่โด่งดังด้วยวิธีการย่างปลาด้วยซอสพริกและสมุนไพรจนได้เนื้อปลาที่หอมละมุน รสเข้มแต่ไม่จัดจ้าน เป็นอาหารที่มีจิตวิญญาณของทะเลอย่างแท้จริง


    หอมทะเลและไฟย่าง — รสชาติแห่ง Ixtapa

    เนื้อปลากะพง (Sea Bass) ถูกหมักด้วยเครื่องเทศแบบท้องถิ่นที่มีกลิ่นหอมของพริกแห้ง พริกป่น และสมุนไพร ก่อนจะนำไปย่างจนเกิดผิวนอกสีน้ำตาลทองอมแดง ละมุนด้วยรอยไหม้ที่ให้กลิ่นควันอ่อน ๆ ความพิเศษอยู่ที่ซอส Carrot Soubise — พูเรแครอทละเอียดที่เชฟปรับจากสูตรฝรั่งเศสให้มีรสอ่อนนุ่มและหวานธรรมชาติ ราดเป็นลายพาดบนจานเหมือนแถบแสงพระอาทิตย์ตกริมทะเล

    ทุกองค์ประกอบบนจานประสานกันอย่างมีชั้นเชิง ทั้งความเปรี้ยวสดจาก Citrus Salsa Cruda ที่ทำจากเกรปฟรุต ส้ม และมะนาวหลากชนิด, ความมันหอมของ Cilantro Aioli, และเนื้อสัมผัสกรุบของ Fish Popcorn with Amaranth — เมล็ดธัญพืชโบราณที่ชาวแอซเท็กเคยใช้บูชาเทพเจ้า ซึ่งเพิ่มมิติกรุบกรอบให้กับทุกคำ


    ไวน์ขาวแห่งฝรั่งเศสที่ก้องเสียงทะเล

    สำหรับการแพริ่ง เชฟเลือก Pouilly-Fuissé Domaine Gry-Sablon 2021 จากแคว้นบูร์กอญ ประเทศฝรั่งเศส
    ไวน์ขาว Chardonnay ที่มีโครงสร้างสมดุล กลิ่นแร่หินและแอปเปิลเขียวบางเบาเข้ากันได้ลงตัวกับรสเปรี้ยวสดของ Citrus Salsa และกลิ่นย่างของปลา ในยามที่ไวน์แตะปลายลิ้น รสเค็มอ่อน ๆ จากปลาทะเลกับความมันของ aioli จะถูกยกให้มีมิติสูงขึ้น ราวกับคลื่นที่ซัดแล้วถอยกลับอย่างนุ่มนวล — เป็นแพริ่งที่ทั้งสง่างามและชาญฉลาด


    สีสันและอารมณ์ – ความมีชีวิตบนจาน

    เมื่อแสงเทียนจากโต๊ะใกล้ ๆ สะท้อนผ่านผิวซอสสีแครอทสด ภาพตรงหน้ากลายเป็นเหมือนผลงานศิลปะร่วมสมัย
    สีส้มของซอสตัดกับสีเขียวอ่อนจาก Cilantro Aioli และจุดทองของเมล็ด Amaranth อย่างพอดี สื่อถึงพลังของธรรมชาติและความอบอุ่นในวัฒนธรรมเม็กซิกัน รสชาติของจานนี้เปรียบเหมือนบทกวีแห่งฤดูร้อน — สดชื่น มีชีวิตชีวา และอบอุ่นในคราวเดียวกัน เป็นการตีความรสเม็กซิกันในภาษาของ fine dining ที่สมบูรณ์แบบ


    Second Course Filete de Res Enegrecido Charcoal-Dusted Beef Tenderloin, Dry Chili Rub, Huitlacoche Blue Cheese Demi-Glace, Snow Pea, Thai Tomnato Pickled and Thousand Layer Potatoes 2018 Fattoria Villa Saletta, DOCG Chianti Superiore, Italy

    จานนี้คือ Filete de Res Enegrecido หรือเนื้อเทนเดอร์ลอยน์เคลือกถ่าน เสิร์ฟเป็นเมนหลักก่อนของหวาน — ดูหรูหราและมีเท็กซ์เจอร์ที่ชัดมากครับ


    เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ชิ้นหนาเคลือบผงถ่าน (charcoal-dusted) ย่างจนผิวด้านนอกมีกลิ่นรมควันอ่อน ๆ ตัดกับเนื้อด้านในที่สุกระดับ medium rare สีชมพูสดฉ่ำ
    รสซอส demi-glace เข้มข้นหอมชีสบลูและฮุทลากอเช่ (Huitlacoche) ให้ความครีมมี่เปรี้ยวเล็ก ๆ คล้ายทรัฟเฟิล
    มีเส้นข้าวโพดอ่อนทอดกรอบและมะเขือเทศดองรสเปรี้ยวหวานเคียง
    พร้อมมันฝรั่งพันชั้น (Thousand Layer Potatoes) ที่อบจนกรอบนอกนุ่มใน เหมือน gratin สไตล์ฝรั่งเศส

    🍷 ไวน์แพริ่ง:
    2018 Fattoria Villa Saletta, DOCG Chianti Superiore, Italy
    เป็น Chianti Superiore ที่ให้กลิ่นเชอร์รี่ดำ, เครื่องเทศ, และแทนนินเนียนละเอียด เข้าคู่กับซอส demi-glace และเนื้อรมถ่านได้ดีมาก — ทำให้กลิ่นไหม้อ่อน ๆ ของผงถ่านโดดเด่นขึ้นอย่างมีมิติ

    Dessert : Cacao Y Caramelo de Arroz Inflado

    Guajillo Peppers Chanthaburi Chocolate Mousse, Creamy Peanut Pralino, Tamarind Jelly, Caramel Pop Rice and Kaffir Lime Gel

    จานของหวานในค่ำคืนนี้ถูกจัดวางอย่างมีศิลปะ — สีสันแดง–เขียว–ขาวของแผ่นช็อกโกแลตทรงปลีที่แต่งแต้มไล่เฉดราวผืนธงชาติเม็กซิโก แลดูโดดเด่นบนจานหินสีขาวสะอาดตา ตัวเลข “50” ที่เพ้นท์ด้วยโทนน้ำเงินและแดงนั้นไม่ใช่เพียงเครื่องตกแต่ง หากแต่คือการสื่อถึงวาระสำคัญ “50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย–เม็กซิโก” ซึ่งเป็นธีมหลักของค่ำคืนบนเรือ Saffron Cruise ลำนี้

    เมื่อช้อนสัมผัสปลีช็อกโกแลตและตัดผ่านชั้นมูส ก็เผยให้เห็นเนื้อในสีทองของ Creamy Peanut Pralino ที่ซ่อนความหอมมันละมุนอยู่ภายใน รสชาติของช็อกโกแลตจันทบุรีเข้มข้นแต่ไม่ขมเกิน มีความนวลแบบโกโก้ไทยผสานกลิ่นอายละมุนของถั่ว ทำให้แต่ละคำมีมิติของความอบอุ่นและความหรูหราในเวลาเดียวกัน

    รสเปรี้ยวอ่อนของ Tamarind Jelly ช่วยตัดเลี่ยนได้อย่างมีชั้นเชิง ขณะเดียวกัน Caramel Pop Rice เพิ่มสัมผัสกรุบเบา ๆ เป็นจังหวะให้รสหวานเข้มมีชีวิตชีวามากขึ้น ก่อนปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของ Kaffir Lime Gel ที่ทิ้งความสดชื่นบางเบาไว้บนปลายลิ้น เป็นการส่งแขกสู่บทสรุปแห่งค่ำคืนได้อย่างงดงาม

    ของหวานจานนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนความละเอียดอ่อนของเชฟที่เข้าใจ “ความต่างของวัฒนธรรม” หากแต่ยังถ่ายทอดแนวคิดแห่ง “การผสาน” ระหว่างวัตถุดิบไทยและเม็กซิโก — ช็อกโกแลตจากจันทบุรีพบกับพริก Guajillo และน้ำมะขามที่ให้กลิ่นอายลาตินอย่างกลมกลืน เป็นการตีความความสัมพันธ์ของสองประเทศในรูปแบบที่กินได้จริง



    อาหารทุกจานที่เสิร์ฟบนเรือ Saffron Cruise คืนนี้ไม่ได้เพียงแต่รังสรรค์จากฝีมือเชฟระดับโรงแรม แต่ยังแฝงกลิ่นอายของสองวัฒนธรรม — เม็กซิกันที่เต็มไปด้วยสีสันและเครื่องเทศ กับไทยที่ละเอียดอ่อนและงดงาม


    เจ้าพระยาในคืนแห่งดนตรีและมิตรภาพ

    ลมอ่อนพัดมาปะทะใบหน้าในขณะที่เรือแล่นผ่านพระบรมมหาราชวัง แสงไฟสะท้อนยอดพระธาตุเป็นประกายทอง กลายเป็นฉากหลังที่งดงามที่สุดของคอนเสิร์ตนี้ แขกบางคนลุกขึ้นเต้นจังหวะเบา ๆ ตามเสียงมาเรียชิ บางคนยกแก้วไวน์ขึ้นชนกันด้วยรอยยิ้ม — ภาพทั้งหมดนี้คือการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ของสองชาติที่ไกลกันกว่าครึ่งโลก แต่หัวใจกลับใกล้กันเพียงแค่เสียงดนตรีหนึ่งโน้ต


    50 ปี ที่สะท้อนผ่านศิลปะ เสียงเพลง และรอยยิ้ม

    ค่ำคืนบน Saffron Cruise ครั้งนี้พิสูจน์ว่า “การทูต” ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องประชุมเสมอไป บางครั้งมันเกิดขึ้นได้บนเรือท่ามกลางเสียงดนตรีและอาหารรสเลิศ เสียงหัวเราะของแขกชาวไทยและชาวเม็กซิกันคือภาษาสากลที่เข้าใจได้โดยไม่ต้องแปล

    นี่คือบทพิสูจน์ว่า วัฒนธรรม ดนตรี และอาหาร คือสะพานแห่งมิตรภาพที่ยั่งยืนเหนือกาลเวลา — และค่ำคืนแห่ง “Gala Dinner with Concert by Mariachi Bonitas de Dinorah” จะถูกจารึกไว้ในความทรงจำของทุกคนที่ได้ล่องไปกับสายน้ำแห่งมิตรภาพนี้


    Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์ สื่ออาหารและการท่องเที่ยว ที่นำเสนอเกี่ยวกับ อาหาร และ การกินดื่ม รวมถึงการท่องเที่ยวและที่พัก ทั้งในส่วนของ รีวิว อาหาร สถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว พัก ผ่อนคลาย ในทุกประเภทหมวดหมู่ โปรโมชั่น ส่วนลด เมนูใหม่ กิจกรรมพิเศษ ที่เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม บทความที่เกี่ยวกับการ กินดื่ม ไม่ว่าจะเป็น บทความกินดื่มทั่วๆไป อาทิ วิธีการ กินชีส และการดื่มไวน์ บทความการกินเพื่อสุขภาพ บทความการกินตามเทศกาล บทความสาธิตและสอนทำอาหาร สูตรทำอาหาร ข่าวสารในแวดวง การกิน ดื่ม คลิปและวีดิโอ เกี่ยวกับการ กิน ดื่ม ท่านสามารถค้นหาร้านอาหารผ่านแถบค้นหาด้านบนสุดของเวปได้เพียงพิมพ์ชื่อร้าน หรือประเภทอาหาร และย่าน คิดถึงเรื่อง กิน ดื่ม คิดถึง Kinandleisure.com กินแอนเลเชอร์

    รูปและเนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทาง Kinandleisure.com ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากทางผู้บริหาร หากฝ่าฝืนผู้บริหารพร้อมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

    Saffron Cruise Bangkok Thailand Mexico 50 Years Dinner 50 Years Thai Mexican Diplomatic Relations Banyan Tree Bangkok Fine Dinin Mexican Thai Fusion Dinner Fine Dining Bangkok Riverside

    Share this:

    • Click to share on Facebook (Opens in new window) Facebook
    • Click to share on X (Opens in new window) X
    • Click to share on Threads (Opens in new window) Threads
    Previous Article[Review] หรูหรา มีเรื่องเล่า และเต็มไปด้วยรสชาติ — The Twelve-Hand Dinner มื้อพิเศษฉลอง 5 ปี Sindhorn Kempinski Bangkok

    Related Posts

    [Review] หรูหรา มีเรื่องเล่า และเต็มไปด้วยรสชาติ — The Twelve-Hand Dinner มื้อพิเศษฉลอง 5 ปี Sindhorn Kempinski Bangkok

    October 9, 2025

    [Review] HEI YIN Cantonese Refined, A Five-Course Tasting — เมื่ออาหารกวางตุ้งกลายเป็นบทกวีแห่งศิลปะบนจาน

    October 7, 2025

    [Review] Fillets Bangkok at One Bangkok – คัปโปะโอมากาเสะหรูสไตล์โมเดิร์น ผสานศิลปะญี่ปุ่นร่วมสมัยกลางมหานคร

    September 23, 2025

    Comments are closed.

    • Recent Posts
    • POPULAR

    [Review] Gala Dinner บนเรือ Saffron Cruise ฉลอง 50 ปี Thailand–Mexico กับบทเพลง Mariachi สุดอลัง

    October 9, 2025

    [Review] หรูหรา มีเรื่องเล่า และเต็มไปด้วยรสชาติ — The Twelve-Hand Dinner มื้อพิเศษฉลอง 5 ปี Sindhorn Kempinski Bangkok

    October 9, 2025

    [Review] HEI YIN Cantonese Refined, A Five-Course Tasting — เมื่ออาหารกวางตุ้งกลายเป็นบทกวีแห่งศิลปะบนจาน

    October 7, 2025

    [News] Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ฉลองครบรอบ 5 ปี จัดดินเนอร์สุดพิเศษ The Twelve -Hand Dinner

    September 27, 2025

    [Preview] เปิดตัวแลนด์มาร์คไลฟ์สไตล์แห่งใหม่บนถนนสุขุมวิท ใจกลางมหานคร @ KROMO Bangkok, Curio Collection by Hilton

    September 25, 2025

    [Review] Gala Dinner บนเรือ Saffron Cruise ฉลอง 50 ปี Thailand–Mexico กับบทเพลง Mariachi สุดอลัง

    October 9, 2025

    [Review] หรูหรา มีเรื่องเล่า และเต็มไปด้วยรสชาติ — The Twelve-Hand Dinner มื้อพิเศษฉลอง 5 ปี Sindhorn Kempinski Bangkok

    October 9, 2025

    [Review] HEI YIN Cantonese Refined, A Five-Course Tasting — เมื่ออาหารกวางตุ้งกลายเป็นบทกวีแห่งศิลปะบนจาน

    October 7, 2025

    [News] Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ฉลองครบรอบ 5 ปี จัดดินเนอร์สุดพิเศษ The Twelve -Hand Dinner

    September 27, 2025

    [Preview] เปิดตัวแลนด์มาร์คไลฟ์สไตล์แห่งใหม่บนถนนสุขุมวิท ใจกลางมหานคร @ KROMO Bangkok, Curio Collection by Hilton

    September 25, 2025
    POPULAR

    “ฟัวกราส์” ถูกแบนแล้วในแดนแซมบ้า ห้ามซื้อห้ามขายห้ามกิน

    June 29, 2015

    เมล็ดมันแกวแก่ กินไม่ดีถึงตายไปหลายรายแล้ว!!!!

    June 30, 2015

    ภาชนะที่ทำจากโฟมใส่ของกินของต้องห้ามในนิวยอร์กตั้งแต่วันนี้!

    July 2, 2015
    @KinlakeStars
    KINLAKESTARS.COM

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

     

    Loading Comments...